สะสม "เงื่อนปมใหม่" สู่ไทยซ้ำสอง
เปลว สีเงิน
ผมก็แค่ "เด็กเดินตั๋ว" คอยฉายไฟให้ท่านคลำทางไปนั่งเก้าอี้
หน้าจอเท่านั้น แล้วเป็นไงครับ ภาพยนตร์เรื่อง "พี่จ๋า...เราชนะแล้ว"
พอเปิดฉาก แทนที่จะเห็นค่าแรงขั้นต่ำ ๓๐ บาท/วัน ทั้งประเทศ
ปริญญาตรี-ข้าราชการ สตาร์ท ๑๕,๐๐๐ บาท ลดน้ำมันเบนซิน ๗ บาท
ตามสัญญาตอนหาเสียง กลายเป็นว่า นางเอกปู-พระเอกปึ้ง ประเดิมด้วยบท
"ตอแหลโดยสุจริต" ซะนี่!
ตอแหลยังไง นายสุรพงษ์ โต-ปฏิเสธตลอดว่า ไม่ได้ขอให้ญี่ปุ่นอนุมัติวีซ่าให้ทักษิณเข้าเมือง และสดๆ ร้อนๆ วานนี้ (๑๕ ส.ค.๕๔) น.ส.ยิ่งลักษณ์สัมภาษณ์เสียงแจ๋วๆ ออกโทรทัศน์ "ไม่ทราบเรื่องญี่ปุ่นอนุมัติวีซ่าให้พี่ชาย และรัฐบาลไม่มีนโยบายเรื่องนี้"
เอ้า...ไม่ทราบก็ไม่ทราบ งั้นอ่านนี่.....
นายยูกิโอะ เอดาโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น เผยวันนี้ (๑๕ ส.ค.) ว่า ญี่ปุ่นได้อนุมัติวีซ่าเข้าประเทศ
เป็นกรณีพิเศษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
หลังรัฐบาลชุดใหม่ของไทย นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ
พ.ต.ท.ทักษิณ "ยื่นคำร้องขอให้ทางการกรุงโตเกียวเปิดทางให้อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าญี่ปุ่น"
พ.ต.ท.ทักษิณมีกำหนดที่จะเดินทางเยือนญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๘ ส.ค.นี้ โดยจะเดินทางไปยังพื้นที่เกิดภัยพิบัติทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเดินทางที่ ฝ่ายรัฐบาลไทยระบุว่า จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี
"รัฐบาลไทยมีนโยบายที่ไม่ห้ามการเดินทางไปยังประเทศใดๆ ของอดีตนายกรัฐมนตรีรายนี้ และ ขอให้ญี่ปุ่นออกวีซ่าให้ ซึ่งเมื่อนำคำร้องนี้มาพิจารณาร่วมกับเงื่อนไขแวดล้อมอื่นๆ แล้ว ญี่ปุ่นจึงตัดสินใจที่จะออกวีซ่าให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ" นายเอดาโนะระบุ
ทีนี้ทราบเรื่องรึยังจ๊ะ...นายกฯ ต.ล.!?
การที่ญี่ปุ่น "ซื่อตาใส" แถลงเช่นนี้ เหมือนเลิกชายกระโปรงนายกฯ ประจาน ถองกระบาลรัฐมนตรีต่างประเทศอีกโป๊ก ที่เขาเน้นคำว่า "รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ น้องสาวทักษิณ" ร้องขอ "ให้เปิดทางให้ทักษิณเข้าญี่ปุ่น" ถึง ๒ ครั้ง ๒ ครา ในคำแถลงแค่ ๔-๕ บรรทัดนั้น
นอกจากประจานคนโกหก-ตอแหลแล้ว ญี่ปุ่นหวังเซฟตัวเองด้วยการ "เน้น-ย้ำ" ให้คนไทยเห็นว่า...อาโน ฉันไม่ยินดีให้ทักษิณมานะ แต่จนใจ เพราะรัฐบาลของคุณขอมาเองนะ"!
ผมก็ค่อนข้างเชื่อว่า ลึกๆ แล้วญี่ปุ่นไม่ต้องการ "เป็นศัตรู"
กับประชาชนคนไทย แต่ก็นั่นแหละ เมื่อถึงเกมวัดใจ ญี่ปุ่นก็ "ยึดประโยชน์"
ชาติตัวเองเป็นหลัก ทั้งที่ญี่ปุ่นนั้นมีฐานเศรษฐกิจอยู่ในไทย เข้าใจวัฒนธรรม-ประเพณี-การเมืองไทยดีพอๆ กับในบ้านเขา
เข้าใจกระทั่งว่า "การเมืองนั้น-ชั่วคราว ประชาชนสิ-ถาวร" แต่เมื่อเขาตัดสินใจเลือกเดินแบบนี้ ก็ต้องเข้าใจด้วยเหมือนกันว่า เมื่อถึงคราว...คนไทยก็ต้อง "ยึดประโยชน์" ชาติตัวเองเป็นหลักเช่นกัน
ถึงตอนนั้น...แล้วอย่ามาว่ากันนะ!
เอาล่ะ...นายกฯ ถูกเขาวางสคริปต์มาให้พูดว่า "รัฐบาลยังไม่มีนโยบายเรื่องนี้" ไหน...ช่วยขยายความหน่อยซิ "ไม่มีนโยบายเรื่องนี้" น่ะ แล้วในกะโหลกคุณมันมีนโยบายเรื่องไหนอยู่บ้างล่ะ หรือแบบที่โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นเขาฉีกหน้า...
"รัฐบาลยิ่งลักษณ์ น้องสาวทักษิณร้องขอ..."?
เห็นช่วยกันออกมา "เบี่ยงประเด็น" ไปเรื่องตำรวจสากลออกหมายจับ-ไม่ออกหมายจับ มันคนละเรื่องกันครับ ตำรวจสากลก็เรื่องของเขา แต่นี่มันเรื่องของเรา กฎหมายของเรา อินเตอร์โพลเป็นแค่ "ตัวช่วย"
แต่หน้าที่โดยตรงมันเป็นของเรา ของตำรวจ ของอัยการ ของกระทรวงการต่างประเทศ ด้วยกฎหมายอันมีศักดิ์ศรีของเรา นายสุรพงษ์จะเที่ยวไปรับลูกที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ แถลงว่า..."ตำรวจสากลไม่ออกหมายจับให้ เพราะความผิดไม่เข้าเงื่อนไข" นั้น
คุณจะเอามาเคลมเป็นเหตุผลที่กระทรวงการต่างประเทศ "ไม่จับทักษิณ" ไม่ได้ และอ้อ...ขอเตือนไว้ด้วย คุณเป็นรัฐมนตรีรัฐบาลประเทศไทย
ไม่ใช่ประเทศทักษิณ การพูด-การจา ควรพูดให้เป็นบรรทัดฐาน
เคารพความเป็นสากล ให้เกียรติสถาบันชาติ ให้เกียรติประชาชน
และให้เกียรติตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย
ผมฟังคุณแถลงเมื่อวาน คำหนึ่งก็ "ท่านนายกฯ ทักษิณ" สองคำก็ "ท่านนายกฯ ทักษิณ" คุณจะเทิดทูน จะกราบ จะเลียอะไรก็ไปทำกันเป็นการส่วนตัว ไม่มีใครว่า
แต่การพูดบนตำแหน่งรัฐมนตรีผู้มีส่วนจะต้องตามจับกุมตัวทักษิณ กลับเรียกนักโทษหนีคุก ผู้ต้องหาก่อการร้ายที่ตัวเองตามจับว่า "ท่านนายกฯ ทักษิณ...ท่านนายกฯ ทักษิณ...ทุกคำตลอดการแถลง ทั้งที่ในข้อเท็จจริง ทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ไปแล้ว
ฟังแล้ว...อดสู-ต่ำช้า-ขยะแขยง!
เอาล่ะ...นายสุรพงษ์ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาล ด้วยเฉไฉอ้างตำรวจสากลไม่ออกหมายจับ ผมจะยกประโยชน์ให้ในฐานะที่ว่า "ไม่ประสา" เรื่องงานกระทรวงการต่างประเทศ เพียงถูก "ผีจับยัด" ให้มานั่ง
ฉะนั้น ฟังอธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ "นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ" ท่านพูดในประเด็นนี้เมื่อวานให้ดี แล้วค่อยเอาไปปรับสมองเสียใหม่
".......การติดตามตัวเพื่อส่งผู้ร้ายข้ามแดน อัยการต้องรอให้กระทรวงการต่างประเทศ "แจ้งที่อยู่" ที่ชัดเจน ขณะ พ.ต.ท.ทักษิณพักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาให้อัยการก่อน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนปฏิบัติทุกกรณีอยู่แล้ว เพราะหากยังไม่ทราบที่อยู่ชัดเจน อัยการก็ไม่สามารถที่จะระบุรายละเอียดเพื่อทำหนังสือ เพื่อประสานขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ โดยอัยการไม่สามารถที่จะใช้ข้อมูลทั่วไปที่ปรากฏแค่ในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อต่างๆ ได้"
".....การติดตามจำเลยหรือนักโทษคดีต่างๆ อัยการก็ยึดหลักปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้ ที่ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งรายละเอียดที่อยู่ที่ชัดเจนมาให้ โดยปกติหากจะมีการติดตามตัว กระทรวงการต่างประเทศก็จะประสานหารือกับอัยการ
แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานใดๆ ซึ่งข้าราชการประจำก็ต้องทำหน้าที่ของตนตามหลักการที่มีอยู่แล้ว ส่วนรัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง"
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล จะยกเลิกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายศิริศักดิ์ปฏิเสธว่า
"ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ แต่โดยหลักเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลไม่ได้มีอำนาจที่จะออกหรือเพิกถอนหมายจับ ซึ่งหมายจับจะเป็นของประเทศสมาชิกนั้น ที่ออกมาแล้วประสานกับตำรวจสากลให้ช่วยในการติดตามตัว โดยเรื่องนี้น่าจะต้องติดตามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยอีกครั้งว่า มีการประสานเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลอย่างไรหรือไม่ เพราะหากจะมีการยกเลิก เข้าใจว่าอาจเป็นหนังสือแจ้งประสานความร่วมมือ ไม่ใช่หมายจับ"
เอ้า...อัยการเขาเตะลูกมาอย่างนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะเตะทิ้ง หรือเตะทำประตู หรือยืนดูให้ลูกผ่านหน้าไปเฉยๆ เป็นหน้าที่ท่านแล้ว ไม่ทำอะไร ชาวบ้านก็คงไปทำอะไรท่านไม่ได้ในวันนี้
แต่วันหน้า...ผมไม่รู้นะ!?
เฮียผมคนหนึ่ง บอกชื่อคงร้องอ๋อกัน "เฮียโส ธนะวิสุทธิ์" เคยหนีคดีไปอยู่สหรัฐ วันดี-คืนดีตำรวจไทยตามไปล็อกคอถึงห้องพัก เอากลับมารับโทษอยู่หลายปี ผมเคยถามเฮียเขาว่า "ทำไมยอมให้จับง่ายๆ ล่ะ" เฮียตอบว่า
"มันเคาะประตู เฮียนึกว่า...พอเปิด ไอ้หะ...มันตะครุบเลย"!
"ทำไมไม่สู้ล่ะ?"
"สู้อะไรล่ะ ไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ แล้วตัวมันยังกะควาย ตั้งหลายคน"!
ครับ...นั่นไม่เห็นต้องอินเตอร์โปก-อินเตอร์โพลอะไรเลย ถ้าตั้งใจจะจับจริงๆ ตำรวจไทยเรานี่แหละไปขอความร่วมมือตำรวจสหรัฐอย่างที่เขามาขอความร่วมมือเราอยู่บ่อยไป และที่เฮียเขาบอกว่า "ตัวยังกะควาย" นั่นไม่ใช่ตำรวจไทย หากแต่เป็นตำรวจสหรัฐ
เขาจับ แล้วเราก็เอาตัวนั่งเรือบินกลับมาด้วยกันแค่นั้นเอง!
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ บอกวัน "ศาลอนุมัติหมายจับทักษิณ" เมื่อ ๒๕ พ.ค.๕๓ ว่า เป็นหน้าที่ของอัยการฝ่ายต่างประเทศที่จะดำเนินการตามขั้นตอน พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
ตำรวจก็อ้างว่าเป็นหน้าที่อัยการ อัยการก็อ้างว่าเป็นหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศต้องแจ้งที่อยู่มาให้ก่อน รัฐมนตรีต่างประเทศก็อ้างว่าเป็นหน้าที่ตำรวจสากล แต่เขาไม่ออกหมายจับให้ นายกฯ หญิงก็อ้างว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายเรื่องนี้
แล้วจะให้กูทำไงล่ะโว้ย!?.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น