โดยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2554 ให้ รฟท.ทำหน้าที่บริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรเอง เนื่องจาก ตลอดระยะเวลา 25 ปี ที่รฟท.มีสัญญาให้ กทม.เป็นผู้เช่าพื้นที่จตุจักรนั้น ทางรฟท.ได้รับค่าเช่าเพียง 147 ล้านาท เพราะค่าเช่าในช่วง 20 ปีแรกที่ต่ำมาก โดยปีแรกได้ค่าเช่าเพียง 1.6 ล้านบาท และปรับเพิ่มเป็นปีละ 3.4 ล้านบาทในปีที่ 20 ส่วนช่วง 5 ปีสุดท้ายของสัญญาเช่าแบ่งเป็น 2 ระยะ คือปี 2551-2553 ได้ค่าเช่าปีละ 20.8 ล้านบาท และ 2 ปีสุดท้ายได้ค่าเช่าสูงสุดปีละ 24.2 ล้านบาท ซึ่งหากบวกลบคูณหารกันดีๆ แล้วจะเท่ากับว่า รฟท.ได้ค่าเช่าเฉลี่ยตารางเมตรละประมาณ 220 บาทเท่านั้น
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2555 นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการบอร์ด รฟท. ว่าได้เคาะค่าเช่าแผงตลาดนัดจตุจักรแผงละ 3,175 บาทต่อเดือน และค่าธรรมเนียมอีก 50,000 บาท มีอายุสัญญา 3 ปี และต่อสัญญาได้อีกคราวละ 2 ปี โดยจะเรียกผู้ค้ามาทำความเข้าใจและรับทราบอัตราค่าเช่าใหม่ รวมถึงการทำสัญญาสมุดคู่มือในการเช่า ส่วนผู้ค้าที่มีปัญหาด้านการเงิน รฟท.ก็ยังมีความเป็นธรรมเพราะได้ประสานกับธนาคารออมสินเพื่อปล่อยกู้เงินใน ครั้งนี้ ไม่ได้ปล่อยผู้ค้าลอยแพหรือต้องการเพียงเงินโดยไม่คิดถึงที่ทำมาหากินของผู้ เช่าที่อยู่มานมนาน
เมื่อวัน ที่ 27 ก.พ. 2555 กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้นัดรวมตัวกันประท้วงบริเวณหน้าประตู 3 ทางเข้าตลาดนัดจตุจักร ริมถนนพหลโยธิน ฝั่งขาออก การประท้วงครั้งนี้ นายสงวน ดำรงไทย แกนนำกลุ่มผู้ค้าฯ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะกำกับดูแล รฟท.โดยเรียกร้องทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่ 1. ให้เลือกคณะกรรมการที่มาจากกลุ่มผู้ค้าเข้าร่วมประชุมกับ รฟท. 2. ให้ยกเลิกค่าธรรมเนียม 50,000 บาทต่อสัญญา 5 ปี ยกเลิกค่าเช่ารายเดือน 3,157 บาทต่อ 1 แผงค้า และ 3. กำหนดให้สัญญาเช่ามีอายุ 30 ปีต่อครั้งไม่ใช่ 5 ปีต่อครั้ง
การเจรจาในครั้งนั้น พล.ต.ท.ชัจจ์ ได้ส่ง นายสมบัติ รัตโน เลขานุการเข้ามาพูดคุยและตกลงกับผู้ค้าแทน ซึ่งเบื้องต้นได้ตกลงกันว่า ยินดีที่จะให้ผู้ค้าเข้ามาร่วมพิจารณา ส่วนเรื่องอัตราการเช่าและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามข้อเรียกร้องของทางกลุ่มผู้ชุมนุมในข้อที่ 1 โดยมอบหมายให้นายจรัสพันธ์ วัชโรทัย ผอ.บริหารพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรเป็นคนดูแล โดยเร่งให้มีการสรรหาคณะกรรมการภายใน 2 อาทิตย์ ข้อ 2. ทางรมช.คมนาคม ยินดีที่จะให้มีการระงับหนังสืออัตราการเช่าฉบับดังกล่าวออกไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุปในการประชุมจากทางคณะกรรมการที่จะสรรหา และ 3. ในการต่ออายุสัญญานั้นให้พิจารณาระงับไปก่อน ตามที่ได้ระงับอัตราค่าเช่า ค่าธรรมเนียมและอายุสัญญา หลังจากนั้นทางกลุ่มผู้ชุมนุมพอใจ และต่างทยอยเดินทางกันกลับ
นายยุทธนา ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ค้าบางกลุ่มไม่เห็นด้วยแนวทางการกำหนดค่าเช่า ที่คณะกรรมการ รฟท.มีมติคิดค่าเช่า 3,157 บาทต่อเดือน และต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้าอีก 50,000 บาท และเงินค้ำประกันสัญญาอีก 20,000 บาท แต่หลังจากกระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้ปรับหลักเกณฑ์ใหม่ ล่าสุด รฟท.ปรับเงื่อนไขใหม่ให้ผู้ค้าเสียเพียงค่าเช่า เพียง 3,157 บาทต่อเดือนเท่านั้น โดยไม่จ่ายค่าธรรมเนียมและค่าค้ำประกันสัญญาแต่อย่างใด แต่จะเสียเพิ่มเติมในด้านภาษีโรงเรือนอีก 395 บาท และค่าบัตรชำระเงินกับทางธนาคารอีก 10 บาท นอกจากนี้ สัญญาของผู้ค้าที่มาลงทะเบียนหลังจากนี้จะมีอายุ 2 ปี สาเหตุที่ปรับลดระยะเวลาการเช่าจาก 5 ปีเหลือ 2 ปี นั้นเพื่อให้ระยะเวลานี้ การรถไฟฯจะได้เข้ามาทำการปรับปรุงพื้นที่ ปรับปรุงระบบสาธารณโภคต่างๆ ภายในตลาดให้ดีขึ้นและมีความทันสมัยและความสะดวกยิ่งขึ้น แต่หลังครบ 2 ปีแล้ว กลุ่มผู้ค้ารายเดิมยังมีสิทธิ์ตามเดิม ซึ่ง รฟท.เชื่อว่าการปรับหลักเกณฑ์ดังกล่าวผู้ค้าน่าจะรับเงื่อนไขนี้ได้
ส่วน ผู้ค้าที่ยังไม่เห็นด้วยการกำหนดค่าเช่านี้ คงต้องเดินหน้าเจรจากันต่อไป โดยกำหนดให้ผู้ค้าลงทะเบียนตามทาง รฟท กำหนดมาให้ลงทะเบียนภายในบริเวณ กองอำนวยการภายในวันที่ 3-4 มี.ค.นี้ หรือที่อาคารสำนักงานใหญ่ รฟท. ไปจนถึงวันที่ 13 มี.ค.นี้ หากผู้ค้ารายใดไม่แสดงความจำนงการต่อสัญญาก็จะเสียสิทธิการเป็นผู้ค้าได้
นอกจากจะมีการลงทะเบียนแล้ว ธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสินมาตั้งบูธ เพื่อให้บริการผู้ค้าที่ใช้สิทธิ์ลงทะเบียนสามารถมาทำสัญญาเงินกู้ค้าขายได้ เช่น ธนาคารกรุงไทยให้สินเชื่อขั้นต่ำ 50,000 บาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน หากมีผู้ค้ำประกัน 2 รายก็จะให้สินเชื่อวงเงินสูงสุดถึง 2 แสนบาท
เหมือนทุกอย่างจะจบลง อย่างดี เพราะทาง รฟท.ก็ได้พยายามประนีประนอมอย่างยิ่ง แต่พอเวลา 13.00 น. ทำให้รู้ว่าไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ เพราะมีกลุ่มบุคคลที่อ้างสิทธิว่าเป็นผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรหลายรายไม่พอใจ ราคาค่าเช่า และสัญญา ที่รฟท.ได้สรุปเงื่อนไข ประมาณ 100 คน ได้มาชุมนุมรวมตัวบริเวณหอนาฬิกา ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปยังบริเวณทางเข้าประตู 3 หน้าตลาดนัดจตุจักร หน้ากรมการขนส่งทางบก ถนนพหลโยธิน ขาออกและพยายามที่จะเข้ามาปิดประตู 3 และถนนพหลโยธินเพื่อไม่ให้มีการจราจร โดยบุคคลกลุ่มที่คัดค้านนี้ ได้กล่าวโจมตีถึงเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับ รฟท. ในประเด็น 1. การที่ รฟท. ให้ผู้ค้าในตลาดนัดทำสัญญากับ รฟท. 3 ปี และสามารถต่อสัญญาครั้งละ 2 ปี ขอให้มีการเปลี่ยนแปลงเป็น ผู้ค้าทำสัญญากับ รฟท. ในอายุสัญญา 30 ปี 2. ให้กลุ่มผู้ค้าเข้ามาเป็นผู้บริหารตลาดนัดจตุจักรร่วมกับ รฟท. และ 3. ให้ รฟท.ยกเลิกการจัดเก็บค่าเช่าที่ 3,157 บาทต่อเดือน ให้มาจัดเก็บเพียงไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น หาก รฟท. ไม่ทำตามเงื่อนไขกลุ่มบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรก็จะยังคง ชุมนุมคัดค้านอยู่ต่อไป และหากจะเจรจาเพื่อยุติการชุมนุม กลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างว่าจะขอเจรจากับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เท่านั้น
“ตอนนี้มีเพียงบางกลุ่มที่ยังไม่รับ ราคานี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสหกรณ์ เช่น นายสงวน นายโต้ง เจ๊พร ถ้ายังไม่รับราคา ยังอยากจ่ายค่าเช่า 1,000 บาท จะไปฝากให้อยู่กับตลาดนัดจตุจักร ของกรุงเทพมหานคร ส่วนใครที่อยากเช่า 30 ปี ก็จะหาตลาดนัดใหม่ให้ เพราะอายุสัญญาเช่า 2 ปี เป็นเสียงส่วนใหญ่ เพื่อให้ รฟท.มีโอกาสปรับปรุงตลาดนัดได้ และภายใน 1 ปีนี้ จะปราบมาเฟียในตลาดนัดให้หมดทุกกลุ่ม”
ที่สุดของปัญหาแล้วจะมีจุดจบเช่นไร คงไม่มีใครตอบได้ ณ ขณะนี้ แต่ที่น่าจับตาคือหากผู้ค้าเดือดร้อนเรื่องค่าเช่าที่ใหม่จริงว่าแพงแสนแพง แต่กลับมีผู้ค้าส่วนใหญ่ยอมลงให้กับสัญญาและค่าเช่าที่ดังกล่าว มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ออกมาเรียกร้องใช่หรือไม่.
ไทยรัฐ