เจาะ DNA ว่าที่ 500 นักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554 พบสัมพันธ์ในลักษณะ พ่อแม่ลูก ผัวเมีย(ใน-นอกสมรส) พี่น้อง พ่อตาลูกเขย ตลอดจนวงศ์วานว่านเครือ 42 ตระกูล 89 คน “เทียนทอง”แห่ง จ.สระแก้วประกาศศักดา 5 คน ตามด้วย “เทือกสุบรรณ” และ เรา 3 คนแห่ง “รัตนเศรษฐ”
ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 3กรกฎาคม 2554 มีส.ส.ในระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 375 คน และระบบบัญชีรายชื่อ 125 คน รวม 500 คน ปรากฏว่าพรรคที่ได้รับเลือกตั้ง 11 พรรค ประกอบด้วย
1.พรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกตั้ง รวม 265 คน แบ่งเป็น ระบบเขต 204 คน บัญชีรายชื่อ 61 คน
2.พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้งรวม 159 คน แบ่งเป็นระบบเขต 115 คน บัญชีรายชื่อ 44 คน
3.พรรคภูมิใจไทย ได้รับเลือกตั้งรวม 34 คน แบ่งเป็นระบบเขต 29 คน บัญชีรายชื่อ 5 คน
4.พรรคชาติไทยพัฒนาได้รับเลือกตั้งรวม 19 คน แบ่งเป็นระบบเขต 15 คน บัญชีรายชื่อ 4 คน
5.พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้รับเลือกตั้งรวม 7 คน แบ่งเป็นระบบเขต 5 คน บัญชีรายชื่อ 2 คน
6.พรรคพลังชล ได้รับเลือกตั้งรวม 7 คน แบ่งเป็นระบบเขต 6 คน บัญชีรายชื่อ 1 คน
7.พรรครักประเทศไทย ได้รับเลือกตั้งรวม 4 คน จากระบบบัญชีรายชื่อทั้ง 4 คน
8.พรรคมาตุภูมิ ได้รับเลือกตั้งรวม 2 คน แบ่งเป็นระบบเขต 1 คน บัญชีรายชื่อ 1 คน
9.พรรครักษ์สันติ ได้รับเลือกตั้งรวม 1 คน จากระบบบัญชีรายชื่อ
10.พรรคมหาชน ได้รับเลือกตั้งรวม 1 คน จากระบบบัญชีรายชื่อ
11.พรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้รับเลือกตั้งรวม 1 คน จากระบบบัญชีรายชื่อ
ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (TCIJ)ตรวจสอบพบว่า ในจำนวนผู้ได้รับเลือกตั้ง 500 ที่นั่ง มีว่าที่ ส.ส. ที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ พี่น้อง พ่อแม่ลูก สามีภรรยา จำนวน 42 ตระกูลรวม 89 คน
ตระกูลที่ได้รับเลือกตั้งมากสุดคือตระกูล ‘เทียนทอง’สังกัดพรรคเพื่อไทย จำนวน 5 คนประกอบด้วย นายเสนาะ เทียนทอง ระบบบัญชีรายชื่อ อันดับ 4 ,นายฐานิสร์ เทียนทอง(หลานชายนายเสนาะ) สระแก้ว เขต 1 ,นางสาวตรีนุช เทียนทอง (หลานสาวนายเสนาะ) สระแก้ว เขต 2 ,นายสรวงศ์ เทียนทอง(ลูกชายนายเสนาะ) สระแก้ว เขต 3 และนายสุรชาติ เทียนทอง (ลูกชายนายเสนาะ) กทม. เขต 11 (ดูตารางประกอบ)
ตระกูลที่ได้รับเลือกตั้งจำนวน 3 คน 2 ตระกูล ได้แก่
ตระกูลรัตนเศรษฐ สังกัดพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นางทัศนียา รัตนเศรษฐนครราชสีมา เขต 4,นายอธิรัช รัตนเศรษฐ (ลูกชายคนโตนางทัศนียา-นายวิรัช) นครราชสีมา เขต 7, นายวิรัช รัตนเศรษฐ บัญชีรายชื่ออันดับ 32
ตระกูลเทือกสุบรรณ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายธานี เทือกสุบรรณ สุราษฎร์ธานี เขต 1, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ (พี่ชายนายธานีและนายเชน) สุราษฎร์ธานี เขต 2, นายเชน เทือกสุบรรณ (พี่ชายนายธานี) สุราษฎร์ธานี เขต 4 (หากรวมนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ลูกเลี้ยงนายสุเทพด้วยเป็น 4 คน)
อีก 39 ตระกูลได้รับเลือกตั้งตระกูลละ 2 คน แยกตามพรรคดังนี้
พรรคเพื่อไทย 15 ตระกูล
1.ชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์ ได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บัญชีรายชื่ออันดับ 1 น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร,น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ (บุตรสาวนายสมชาย-นางเยาวภา-หลานสาว น.ส.ยิ่งลักษณ์) เชียงใหม่ เขต 3
2.พร้อมพัฒน์-นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ เพชรบูรณ์ เขต 4, นายสันติ พร้อมพัฒน์ (อดีตสามีนางวันเพ็ญ-เคยจดทะเบียนสมรสแล้วจดทะเบียนหย่า) บัญชีรายชื่อลำดับ 15
3.จันทรสุรินทร์ - นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ ลำปาง เขต 3, นายอิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ (พี่ชายนายจรัสฤทธิ์) ลำปาง เขต 4
4.สะสมทรัพย์ - นายอนุชา สะสมทรัพย์ นครปฐม เขต 4, นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ (พี่ชายนายอนุชา) นครปฐม เขต 5
5.วงษ์ประยูร-นายอรรถพล วงษ์ประยูร สระบุรี เขต 2, นายองอาจ วงษ์ประยูร สระบุรี เขต 4
6.ศรีธเรศ-นางบุญรื่น ศรีธเรศ กาฬสินธุ์ เขต 1, นายนิพนธ์ ศรีธเรศ กาฬสินธุ์ เขต 5
7.อรรณนพพร-นางดวงแข อรรณนพพร ขอนแก่น เขต 8, นายพงศกร อรรณนพพร (สามีนางดวงแข) บัญชีรายชื่ออันดับ 40
8.เร่งสมบูรณ์สุข-นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เลย เขต 1, นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข (ภรรยานายปรีชา) เลย เขต 3
9.ทิมสุวรรณ-นางนันทนา ทิมสุวรรณ เลย เขต 2, นายธนเทพ ทิมสุวรรณ (สามีนางนันทนา) บัญชีรายชื่ออันดับ 43
10.ขาวขำ- นายเทียบจุฑา ขาวขำ อุดรธานี เขต 9, นายวิเชียร ขาวขำ บัญชีรายชื่ออันดับ 60
11.กัลป์ตินันต์-นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ อุบลราชธานี เขต 1, นายกานต์ กัลป์ตินันท์ บัญชีรายชื่อ อันดับ 51
13.กุลดิลก-พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก บัญชีรายชื่อ อันดับ 11 , นางสาวจารุพรรณ กุลดิลก บัญชีรายชื่อ อันดับ 56
14.พรหมนอก- พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก บัญชีรายชื่อลำดับ 5 ,นายศราวุธเพชรพนมพร (ลูกเขย) อุดรฯเขต 1
15.อมรวิวัฒน์-เตชะธีราวัฒน์ ได้แก่ นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ (ภรรยานายจุลพันธ์) เชียงราย เขต 3,นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เชียงใหม่ เขต 6
ประชาธิปัตย์
1.เวชชาชีวะ-นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ,นายพงศ์เวช เวชชาชีวะจันทบุรี เขต 3
2.บรรทัดฐาน-นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน (ลูกชายนายบัญญติ) กทม. เขต 15, นายบัญญัติ บรรทัดฐานบัญชีรายชื่อ อันดับ 3
3.ม่วงศิริ-พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ กทม. เขต 28 (พี่นายสากล) , นายสากล ม่วงศิริ กทม. เขต 27
4.แก้วทอง-นายนราพัฒน์ แก้วทอง (ลูกชายนายไพฑูรย์) พิจิตร เขต 2, นายไพฑูรย์ แก้วทอง บัญชีรายชื่ออันดับ 11
5.พลบุตร-นายอรรถพร พลบุตร เพชรบุรี เขต 1, นายอลงกรณ์ พลบุตร (พี่ชายนายอรรถพร) บัญชีรายชื่ออันดับ 14
6.สุภาแพ่ง- นายกัมพล สุภาแพ่ง เพชรบุรี เขต 2, นายอภิชาติ สุภาแพ่ง (น้องชายนายกัมพล) เพชรบุรี เขต 3
7.ปิตุเดชะ-นายสาธิต ปิตุเดชะ ระยอง เขต 1, นายธารา ปิตุเดชะ (ลูกพี่ลูกน้อง) ระยอง เขต 3
8.เงินหมื่น-นายอภิวัฒน์ เงินหมื่น (บุตรชายนายสุทัศน์) อำนาจเจริญ เขต 2, นายสุทัศน์ เงินหมื่น บัญชีรายชื่อ อันดับ 17
9.นามบุตร-นายวุฒิพงษ์ นามบุตร (บุตรชายนายวิฑูรย์) อุบลราชธานี เขต 3, นายวิฑูรย์ นามบุตร บัญชีรายชื่อ อันดับ 20
10.เอ่งฉ้วน-นายสุชีน เอ่งฉ้วน (บุตรชายนายอาคม) กระบี่ เขต 2, นายอาคม เอ่งฉ้วน บัญชีรายชื่อ อันดับ 15
11.ศักดิเศรษฐ์-นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ นครศรีธรรมราช เขต 1, นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ (พี่ชายนายอภิชาต) บัญชีรายชื่อ อันดับ 10
12. จันทร์พิทักษ์-นายสุรัตน์ จันทร์พิทักษ์ กรุงเทพฯเขต 24 ,นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์(พี่ชายนายสุรันต์) กรุงเทพฯ เขต 31
13.สมชัย-นายอิสสระ สมชัย บัญชีรายชื่ออันดับ 12 ,นางสาวบุณย์ธิดา สมชัย (บุตรสาวนายอิสสระ) อุบลราชธานี เขต 8
14.โพธิพิพิธ- นายประชา โพธิพิพิธ กาญจนบุรี เขต 4, นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ (บุตรชายนายประชา ) บัญชีรายชื่ออันดับ 34
15.ไชยนันท์ -นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ บัญชีรายชื่ออันดับ 4 นายธนิตพล ไชยนันท์ (บุตรชายนายเทอดพงษ์) ตาก เขต 3
ชาติไทยพัฒนา
1.ขจรประศาสน์-นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ (บุตรชาย พล.ต.สนั่น) พิจิตร เขต 3, พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ บัญชีรายชื่ออันดับ 2
2.ปริศนานันทกุล-นายภราดร ปริศนานันทกุล อ่างทอง เขต 1, นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล (น้องชายนายภราดร) อ่างทอง เขต 2
ภูมิใจไทย
1.ซารัมย์-นายโสภณ ซารัมย์ บุรีรัมย์ เขต 3, นางอารีญาภรณ์ ซารัมย์ (ภรรยานายโสภณ) บุรีรัมย์ เขต 4
2.ทองศรี-นายรุ่งโรจน์ ทองศรี บุรีรัมย์ เขต 8, นายจักรกฤษณ์ ทองศรี (ลูกชายนายเพิ่มพูน ทองศรี) บุรีรัมย์ เขต 9 (หลานนายทรงศักดิ์ ทองศรี อดีต ส.ส.บุรีรัมย์)
พลังชล
1.งามพิเชษฐ์-นายสันต์ศักดิ์ งามพิเชษฐ์ บัญชีรายชื่ออันดับ 1 ,นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ (บุตรชายนายสันต์ศักดิ์) ชลบุรี เขต 7
ต่างพรรค
1.ไกรฤกษ์-นายจุติ ไกรฤกษ์ พิษณุโลก เขต 3พรรคประชาธิปัตย์, นายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ บัญชีรายชื่ออันดับ 2พรรค รักประเทศไทย (รปท. )
2.จินตะเวช-นายปัญญา จินตะเวช อุบลราชธานี เขต 9 พรรคเพื่อไทย, นายตุ่น จินตะเวช (พี่ชายนายปัญญา) อุบลราชธานี เขต 11พรรคชาติไทยพัฒนา
3.ใจสมุทร-นายธานินทร์ ใจสมุทร สตูล เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา , นายศุภชัย ใจสมุทร บัญชีรายชื่ออันดับ 5ภูมิใจไทย
4.มุ่งเจริญพร-นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร สุรินทร์ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย , นางปิยะดา มุ่งเจริญพร สุรินทร์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีว่าที่ ส.ส. มีสถานะสามีภรรยาทั้งจดทะเบียนสมรสและเคยจดทะเบียนสมรส รวม 5 คู่ ,“พ่อตาลูกเขย” 1 คู่
ประชาธิปัตย์มี พ่อลูก 8 คู่ “พ่อเลี้ยงลูกเลี้ยง” 1 คู่
ภูมิใจไทยมีสามีภรรยาอยู่ร่วมพรรคเดียวกัน 1 คู่
ชาติไทยพัฒนาและพลังชล “พ่อลูก”อยู่พรรคเดียวกันพรรคละ 1 คู่
ทั้งหมดคือการเมืองระบบครอบครัวแบบไทยๆ ?
http://www.tcijthai.com/investigative-story/580
วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
สุดอัศจรรย์...16 คำทำนายของพระพุทธเจ้า ชี้ชะตามนุษย์โลก
16 คำทำนายของพระพุทธเจ้า ชี้ชะตามนุษย์โลก
สุดอัศจรรย์...16 คำทำนายของพระพุทธเจ้า ชี้ชะตามนุษย์โลก
ใน ยุคโลกาภิวัตน์ ที่ความเจริญทางด้านวัตถุ ก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นที่น่าฉงนว่า ทำไมคนในโลกกลับมีความสุขน้อยลง และดูเหมือนว่าปัญหาในการดำรงชีวิต กลับมีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัญหาทางด้านศีลธรรม จริยธรรมอันเป็นความเจริญทางด้านจิตใจ ดูจะเป็นสมการผกผัน กับความเจริญทางด้านวัตถุอย่างน่าเป็นห่วง ทุกวันนี้ หากเราฟังข่าวคราวไม่ว่าในประเทศไทย หรือประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ล้วนแล้วแต่มีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และภัยอันเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ด้วยกันเอง
หลายๆ สิ่งเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ก็สามารถนำมาใช้คาดการณ์ล่วงหน้าและรับมือได้ทัน แต่ก็มีไม่น้อย ที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังไปไม่ถึง แต่หากจะบอกว่าสภาพการณ์หลายๆ อย่างที่อุบัติขึ้นในสมัยปัจจุบัน เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้า ได้ทำนายล่วงหน้ามาแล้วกว่า 2500 ปี
หลายๆ คนอาจจะยังไม่เชื่อ หรือไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ดังนั้น กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอนำเรื่อง “พุทธทำนาย” อันปรากฏอยู่ในอรรถกถาพระไตรปิฎก มหาสุบินนิมิตชาดก เอกนิบาตชาดก ขุททกนิกาย ซึ่งเป็นเรื่องเล่าถึงสมัยที่พระพุทธเจ้า ได้ทรงทำนายพระสุบิน (ความฝัน) ให้พระเจ้าปเสนทิโกศล จำนวน 16 ข้อ ว่ามีความหมายอย่างไร ดังนี้
วัน หนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้ครองกรุงสาวัตถี ได้เสด็จเข้าสู่นิทรารมย์ในราตรีกาล ครั้นล่วงปัจฉิมยามใกล้รุ่ง ได้ทอดพระเนตรเห็น พระสุบินนิมิตอันใหญ่หลวง ถึง 16 ประการ อันเป็นพระสุบินที่แปลกประหลาด จึงทรงตกพระทัยตื่นบรรทม และครั้นรุ่งเช้า ก็ได้ให้พวกพราหมณ์ปุโรหิตประจำราชสำนักทำนาย พวกพราหมณ์ปุโรหิต ก็พากันทำนายว่าเป็นพระสุบินที่ร้าย และว่าพระองค์จะต้องประสบภัยอันตราย 3 ประการ ไม่เสียราชทรัพย์ ก็จะมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน หรือไม่ก็ต้องสวรรคต อย่างใดอย่างหนึ่ง และแนะให้พระองค์ทำพิธีบูชายัญสัตว์ เพื่อสะเดาะเคราะห์ เมื่อพระนางมัลลิกา พระมเหสีทราบเรื่องเข้า จึงทูลให้ไปขอคำแนะนำจากพระพุทธเจ้า
ซึ่งพระพุทธองค์ก็ได้ทรง ทำนายว่า เหตุร้ายนั้นจะมีแน่นอน เพียงแต่มิใช่เกิดแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล หรือแว่นแคว้นของพระองค์ แต่เหตุร้ายเหล่านี้จะเกิดแก่สัตว์โลกทั่วๆ ไป และแก่พระศาสนาของพระพุทธองค์ในภายภาคหน้า เมื่อล่วงเลยพุทธกาลไปแล้ว 2500 ปี เมื่อศาสนาเสื่อมลง (กล่าวกันว่า อายุพระพุทธศาสนาของพระสมณโคดม ยืนยาวเพียง 5,000 ปี หลังจากนั้น ต้องรอยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย์ พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเสด็จมาโปรดสัตว์)
ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล และคำทำนายของพระพุทธเจ้าทั้ง 16 ประการ ประกอบด้วย
1. ทรงฝันว่า “มีโค 4 ตัว วิ่งมาจากทิศทั้ง 4 ตรงดิ่งเข้าหากัน มีอาการเกรี้ยวกราด คำรนคำรามประหนึ่งว่าจะชนกัน ผู้คนแตกตื่นพากันมามุงดูด้วยหมายใจว่า จะได้ชมโคชนกัน แต่แล้วโคทั้ง 4 ตัวนั้นหาได้ชนกันไม่ ต่างก็ผละหนีถอยห่างออกจากกันไป”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาลเบื้องหน้า ในชั่วศาสนาของพระองค์ เมื่อโลกหมุนไปถึงจุดที่เสื่อมลง ผู้ปกครองประเทศ ผู้บริหารบ้านเมือง และประชาชนทั่วไปไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ต่างพากันล่วงละเมิดหลักศีลธรรม ทำให้สังคมโดยรวมมีแต่ความวิปริตเสื่อมทราม มีแต่ความเห็นแก่ตัว คอยชิงดีชิงเด่น มือใครยาวสาวได้สาวเอาไม่มีที่สิ้นสุด อาศัยเหตุนี้ฝนฟ้าจักแล้ง พืชพันธุ์ธัญญาหารต่างๆ จะไม่อุดมสมบูรณ์ จะเกิดทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพง ปวงประชาอาณาราษฎร์ต้องอดอยากยากแค้นกันโดยถ้วนทั่ว ในบางคราวมีเมฆตั้งเค้าขึ้นเป็นเหมือนฝนจะตก แต่ก็หาได้ตกไม่ ตั้งเค้าลอยมาจากทิศทั้ง 4 สายฟ้าฟาดดังกัมปนาทหวั่นไหวไปทั่วพื้นปฐพี แต่แล้วเมฆฝนที่คะนองก้องฟ้า พาให้ชาวประชาดีใจก็ไม่ตก กลับเหือดหายไปเสียจนหมดสิ้น มีอุปมาเหมือนโคดำที่วิ่งเข้าหากัน ทำท่าว่าจะชนกัน แล้วหาได้ชนกันไม่ ฉะนั้น”
2. ทรงฝันว่า “ต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่เพิ่งจะโผล่ขึ้นพ้นจากดินไม่นาน ได้แค่คืบหนึ่งบ้าง และแค่ศอกหนึ่งบ้างเท่านั้น ก็ผลิดอกออกผลไปตามๆ กัน เหมือนไม้ใหญ่ ฉะนั้น”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ต่อไปเมื่อโลกเสื่อม มนุษย์แม้จะมีอายุเยาว์ มีวัยยังไม่สมบูรณ์ก็จะมีราคะกล้า และสมสู่กันตั้งแต่อายุยังน้อย และจะมีลูกแต่เด็กๆ เหมือนต้นไม้เล็กๆ แต่ก็มีผลแล้ว”
3. ทรงฝันว่า “ทรงเห็นแม่โคใหญ่ กลับอ้อนวอนขอดื่มนมของลูกโคที่เพิ่งเกิด”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ต่อไปในอนาคต การเคารพนบนอบผู้ใหญ่ เช่น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์จะเสื่อมถอย คนเฒ่าคนแก่พ่อแม่เมื่อหมดที่พึ่ง หาเลี้ยงตนไม่ได้ ก็ต้องง้อ ต้องประจบลูกๆ ดังที่แม่โคที่ต้องกินนมลูกโค ฉะนั้น”
4. ทรงฝันว่า “ผู้คนไม่ใช้วัวตัวใหญ่ ที่สมบูรณ์แข็งแรงเทียมแอกลากเกวียน กลับไปใช้โครุ่นๆ ที่ยังปราศจากกำลังมาลาก เมื่อมันลากเกวียนให้แล่นไม่ได้ มันก็สลัดแอกนั้นเสีย”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในภายหน้าเมื่อผู้มีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม จะได้คนอันธพาลสันดานหยาบ หรือมอบหมายให้พวกที่ไร้มนุษยธรรมปกครองบ้านเมือง แทนที่จะยกย่องและมอบหมายหน้าที่ ให้กับผู้มีสติปัญญาความรู้ กลับไปมอบยศศักดิ์ให้กับคนหนุ่มที่อ่อนหัด ด้อยประสบการณ์ ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ดี กิจการต่างๆ ก็ไม่สำเร็จ ทำให้ประชาอาณาราษฎร์เดือดร้อนทุกหัวระแหง ขาดความเป็นธรรม เบียดเบียนประชาชน ฉ้อราษฎร์บังหลวง ทุจริตคอรัปชั่น บริหารบ้านเมืองโดยวู่วาม ขาดคุณธรรม ไม่รู้สึกสำนึกรับผิดชอบในหน้าที่ รับแต่สินบาทคาดสินบน จนผู้คนทั่วทั้งแผ่นดินลำบากใจ ก็เหมือนใช้โครุ่นมาเทียมแอก เกวียนก็แล่นไม่ได้ฉันใด ก็ฉันนั้น”
5. ทรงฝันว่า “เห็นม้าตัวหนึ่ง มีปากสองปาก มองเห็นหญ้าที่คนเลี้ยงนำมาให้ ถึงกับปากอ้าน้ำตาไหลเพราะความหิวโหย คนเลี้ยงม้าสองคนยืนยื่นหญ้าส่งป้อนให้พร้อมๆ กันแทบไม่ทัน กินไม่รู้จักอิ่มจนน่าอ่อนใจ”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาลเบื้องหน้า ผู้รับผิดชอบตัดสินคดีความของราษฎร ที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการในศาลต่างๆ จะคิดคบร่วมกันเบียดเบียนประชาชนทั้งสองฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย โดยกินสินบนทั้งสองฝ่าย แม้นได้สินบนฝ่ายใดมาก ก็จะตัดสินให้ฝ่ายนั้นเป็นผู้ชนะความ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง หรือไม่จำเป็นต้องสืบค้นหาความถูกต้องเลย แม้จะรู้โดยแน่ชัดว่าใครผิด แต่ก็แสร้งปรับเปลี่ยนสำนวนคำฟ้องให้เป็นผู้บริสุทธิ์ได้ ทำให้คนที่ไม่ได้ทำความผิด ต้องถูกลงโทษจองจำอย่างไร้มนุษยธรรม และในระหว่างการดำเนินคดีก็แสร้งถ่วงเวลาให้ยาวออกไป พร้อมกับเรียกร้องเอาสินบนจากทั้งสองฝ่าย ดังม้าที่กินหญ้าทั้งสองปาก ฉะนั้น”
6. ทรงฝันว่า “ฝูงชนเอาถาดทองคำราคาแพง ไปให้หมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง พร้อมเชื้อเชิญให้หมาจิ้งจอกตัวนั้น ถ่ายปัสสาวะใส่ถาดทองนั้น”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ต่อไปคนดีมีสกุลทั้งหลายจะสิ้นอำนาจวาสนา คนตระกูลต่ำ หรือคนพาลจะได้เป็นใหญ่เป็นโต และคนมีตระกูล ก็จะต้องยกลูกสาว ให้แก่ผู้ไร้ตระกูลเหล่านั้น เหมือนเอาถาดทองไปรองเยี่ยวหมาจิ้งจอก ฉะนั้น”
7.ทรง ฝันว่า “มีบุรุษหนึ่งนั่งฟั่นเชือกหนัง นั่งอยู่บนตั่ง ปลายเชือกที่ฟั่นแล้วข้างหนึ่งห้อยย้อยหย่อนไปในที่ใกล้เท้า แม่หมาจิ้งจอกโซตัวหนึ่ง นอนอยู่ใต้ตั่งที่บุรุษนั้นนั่งอยู่ แล้วก็กัดกินเชือกนั้น โดยที่เขาไม่รู้ตัว ฟั่นได้ยาวเท่าไรก็กัดกินสิ้น ยิ่งฟั่นยิ่งสั้น ไม่มีโอกาสหย่อนยานพาดถึงพื้นดินได้เลย”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในกาลข้างหน้า ผู้หญิงจะเหลาะแหละ โลเล ลุ่มหลงในสุรา เอาแต่แต่งตัว เที่ยวเตร่ ประพฤติทุศีล แล้วก็จะเอาทรัพย์ที่สามีหาได้ด้วยความลำบากไปใช้ หรือให้ชายชู้ เหมือนนางหมาจิ้งจอกโซที่นอนใต้ตั่ง คอยกัดกินเชือกที่เขาฟั่น และหย่อนลงไว้ใกล้เท้า ฉะนั้น”
8. ทรงฝันว่า “มีตุ่มน้ำใบใหญ่มีน้ำเต็มใบหนึ่งตั้งอยู่ที่ประตูเมือง และมีตุ่มใบเล็กๆ จำนวนมากตั้งเรียงรายอยู่รอบๆ ตุ่มใบใหญ่นั้น ประชาชนทุกหมู่เหล่าตักน้ำมาจากทิศทางต่างๆ แล้ว เทใส่ตุ่มใบใหญ่ที่มีน้ำเต็มอยู่นั้น จนน้ำไหลล้นแล้วล้นอีก เจิ่งนองไปทั่วบริเวณนั้น หามีใครสักคนที่จะสนใจตุ่มน้ำใบเล็กที่ว่างเปล่าใบอื่นๆ เลย”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาลเบื้องหน้า คนเป็นใหญ่หรือมีอำนาจ จะเบียดเบียนหรือเอาเปรียบผู้ด้อยกว่า คนที่รวยอยู่แล้วก็จะมีคนจนหารายได้ไปส่งเสริมให้รวยยิ่งขึ้น ดังฝูงชนที่ต้องตักน้ำใส่ตุ่มใหญ่ที่เต็มอยู่แล้วจนล้น ส่วนตุ่มที่ว่างอยู่กลับไม่ไปใส่น้ำ”
9. ทรงฝันว่า “เห็นสระแห่งหนึ่ง มีบัวนานาชนิดขึ้นอยู่เต็ม และมีท่าขึ้นลงโดยรอบ สัตว์ต่างๆ ก็พากันดื่มน้ำในสระ แต่แทนที่น้ำบริเวณที่สัตว์เหยียบย่ำจะขุ่น กลับใสสะอาด ส่วนน้ำที่อยู่ตรงกลางสระที่สัตว์ไม่ไปดื่มหรือเหยียบย่ำ แทนที่จะใส กลับขุ่นมัว”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาลเบื้องหน้า เมื่อคนมีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม ขาดเมตตา คอยใช้อำนาจรีดนาทาเร้นหรือกินสินบน ชาวบ้านชาวเมืองก็จะหนีเข้าป่า ไปอาศัยอยู่อย่างอิสระไม่ขึ้นกับทางการ รวมกลุ่มกันอยู่อย่างปกติสุข เหมือนน้ำรอบๆ สระที่ใส ส่วนเมืองหลวงกลับว่างเปล่า เหมือนน้ำกลางสระที่ขุ่น ฉะนั้น”
10. ทรงฝันว่า “ทรงเห็นข้าวที่คนหุงในหม้อใบเดียวกัน สุกไม่เท่ากัน โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ข้าวแฉะ ข้าวดิบ และข้าวสุกดี”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาลภายภาคหน้า ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามที่เคยปฏิบัติกันมาแต่โบราณ จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ผู้คนจะคลายความศรัทธา หมดความเชื่อถือ ยกเลิกไปทีละอย่างสองอย่าง จนไม่หลงเหลือประเพณีเดิมเอาไว้ การไหว้เจ้าบวงสรวงเทพาอารักษ์จะไม่เหลืออยู่ ผู้คนจะมีจิตใจแข็งกระด้างหยาบคาย ขาดศีลธรรม ขาดความจริงใจต่อกัน ไม่มีมิตรภาพต่อกัน เพียงเสแสร้งพูดจากันเพราะความจำเป็น สวมหน้ากากเข้าหากันไปวันๆ เท่านั้น ลับหลังก็คอยหาโอกาสฆ่าฟันกัน ผู้คนจะเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บที่แปลกๆ ซึ่งหมอไม่สามารถหายารักษาได้ ฤดูกาลก็จะเปลี่ยนแปลง จากที่เคยมีฝนตกต้องตามฤดูกาล ก็จักขาดหายไปกลายเป็นหน้าแล้ง ฤดูหนาวก็จะกลายเป็นหน้าร้อน ทำให้การเพาะปลูกบางแห่งได้ผล บางแห่งก็ไม่ได้ผล เช่นเดียวกับข้าวที่มีสุกบ้าง ดิบบ้าง และแฉะบ้าง”
11. ทรงฝันว่า “คนนำแก่นจันทน์ที่มีราคาแพง ไปแลกกับเปรียงเน่า (อ่านว่า เปฺรียง มี 3 ความหมาย คือ 1. นมส้มผสมน้ำแล้วเจียวให้แตกมัน 2.น้ำมันจากไขข้อวัว และ 3.เถาวัลย์เปรียง แต่ในที่นี้น่าจะหมายถึงเถาวัลย์เปรียง เทียบกับแก่นจันทน์ที่เป็นไม้เหมือนกันมากกว่า 2 ความหมายแรก)”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาล ภายภาคหน้า พระสงฆ์ทั้งสิ้น จักนำเอาพระธรรมหลักคำสอนไปเร่ขายแลกกับเงินทองมาเพื่อประทังชีวิต โดยไม่รู้สึกอดสู ละอายต่อบาปแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังประพฤติตนนอกลู่นอกทางผิดหลักธรรมวินัย คล้ายกับสอนเขาอย่างหนึ่ง และประพฤติตนอีกอย่างหนึ่ง ทำตัวให้แปดเปื้อนมลทิน”
บาง ตำราว่า “พระภิกษุอลัชชีเห็นแก่ได้ทั้งหลาย แทนที่จะนำธรรมะที่พระพุทธองค์สอน ไปสอนสั่งให้คนหลุดพ้นจากความทุกข์ และละความโลภ กลับใช้เป็นเครื่องมือเพื่อหากิน หาปัจจัยบริจาคเข้าตัวเอง เหมือนเอาแก่นจันทน์ (ธรรมะคำสอนที่ดี) ไปแลกเอาเถาวัลย์เน่า (ลาภอามิสที่ได้รับมา ซึ่งไม่จีรังและไม่ช่วยให้พ้นทุกข์จริงๆ ได้)”
12. ทรงฝันว่า “ทรงเห็นน้ำเต้าแห้งแต่กลับจมน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นไปได้ยาก แปลกประหลาดและไม่เคยมีปรากฏ แต่กลับเกิดมีปรากฏเป็นไปได้ ประจักษ์แก่สายตาในพระสุบินของพระองค์”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาลภายหน้า คนและสัตว์จะพบกับความหายนะ ถึงความวิบัติ เพราะเภทภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น ผู้รู้นักปราชญ์ราชบัณฑิตจักตกอับ หมดอำนาจ ขาดที่พึ่ง สูญเสียอิสรภาพ คนกักขฬะ นิสัยพาลสันดานหยาบ อันธพาลเกเร จะได้โอกาสปกครองบ้านเมือง มีอำนาจบารมีข่มขี่คนดีมีศีลธรรมคุณธรรมภายในจิตใจ ทำให้เจ้าขุนมูลนายเชื้อเจ้าพระวงศ์จะถึงความอัปยศอดสู ไร้ที่อยู่ถิ่นฐาน ส่วนชนพาลจะสำราญรื่นเริงบันเทิงทั่วหน้า เจรจานอกลู่นอกทางผิดหลักศีลธรรม คนซื่อเอาตัวไม่รอดจักลำบากขัดสน คนตลบตะแลงปลิ้นปล้อนหลอกลวงไปวันๆ สามารถอยู่ในสังคมได้เป็นปกติสุข คำพูดของคนที่ไม่ควรจะได้รับความเชื่อถือ กลับจะได้รับความเชื่อถือ โดยเปรียบถ้อยคำของคนที่ไม่น่าเชื่อว่ามีน้ำหนักเบาเหมือนกับผลน้ำเต้า ซึ่งปกติจะลอยน้ำ แต่เมื่อคนเชื่อว่าคำพูดเหล่านั้นมีน้ำหนักหรือหนักแน่น จึงเปรียบคำพูดนั้นว่ามีน้ำหนัก ราวกับน้ำเต้าที่จมน้ำได้ ฉะนั้น”
13. ทรงฝันว่า “ทรงเห็นศิลาแท่งทึบขนาดเท่าเรือน ซึ่งหนักแสนหนัก แต่กลับลอยน้ำได้เหมือนเรือ ดูประหลาดยิ่งนัก”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาลภายภาคหน้า คนอันธพาลสันดานหยาบ จะได้รับการยกย่องอุปถัมภ์ค้ำชู ยกย่องให้มีอำนาจวาสนาสูงส่ง มีบารมี เป็นผู้ทรงอิทธิพล คอยเหยียบย่ำเบียดเบียนคนดีมีศีลธรรมให้ได้รับความอัปยศอดสู พวกชนพาลกลับได้ใจทำอะไรตามใจตัวเอง ผู้ที่มีคุณธรรม แม้ในฝ่ายศาสนา พระสงฆ์ที่ทรงศีล ประพฤติดีปฏิบัติชอบ จักไม่ได้รับการยอมรับ ถ้อยคำของคนที่ควรได้รับการเชื่อถือ ซึ่งหนักแน่น มีน้ำหนักเปรียบประดุจแท่งศิลา กลับไม่ได้รับความเชื่อถือ หรือกลายเป็นถ้อยคำที่ไม่มีน้ำหนักเหมือนเรือที่ลอยได้ ข้อนี้ตรงกันข้ามกับข้อที่แล้ว คือ คนหันไปเชื่อคำพูดคนที่ไม่ควรเชื่อ เหมือนสิ่งที่ควรลอยกลับจม สิ่งที่ควรจมกลับลอย เปรียบเสมือนหินใหญ่ที่ลอยน้ำได้ ฉะนั้น”
14. ทรงฝันว่า “ทรงเห็นฝูงเขียดตัวเล็กๆ วิ่งไล่กวดงูเห่าตัวใหญ่ เมื่อทันก็ขบกัดให้ขาดเป็นท่อนๆ เหมือนคนเด็ดก้านบัว แล้วก็กลืนกินอวัยวะต่างๆ ของงูนั้นเสียจนหมดสิ้น”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาล มนุษย์ทั้งหลายจักมีราคะกล้า เผลอไผลปล่อยใจไปตามอำนาจกิเลสตัณหา สามีตกอยู่ในอำนาจแห่งภรรยาสาว สมบัติทุกอย่างตกอยู่ในอำนาจภรรยาฝ่ายเดียว หญิงพาลจักฮึกเหิมกำเริบเสิบสานระรานทำความรำคาญใจให้สามี จะข่มขี่ห่มเหง วางอำนาจให้สามีเกรงกลัว จะใช้สามีทำงานหนักเยี่ยงทาสกรรมกร สามีถนอมน้ำใจไม่แสดงความก้าวร้าวดุดันให้ปรากฏกลับยิ่งได้ใจกดขี่ทวีคูณ และภรรยาจะจัดการทุกอย่างตามอำเภอใจ ตะคอกคุกคามสามีด้วยคำพูดหยาบคายต่างๆ ทำกับสามีเหมือนทำกับทาสรับใช้ อุปมาเหมือนฝูงกบเขียดกัดกินงูเห่า ฉะนั้น”
15. ทรงฝันว่า “พญาหงส์ทอง ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์ชั้นสูง แต่กลับยอมมอบตนเข้าเป็นพวก เคารพนบนอบให้เหล่ากาเป็นนาย เพื่อจะได้พรรคพวกเป็นกา น่าสงสาร”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาล พระราชาหรือผู้ปกครองที่อ่อนแอ ขาดความรู้ความสามารถ ไม่รู้จักเลือกคนดีมีตระกูลมาปกครองบ้านเมือง จักเลือกเอาแต่คนเขลาชาติพาลสันดานหยาบ ไม่มีธรรมะ ไร้ความสามารถด้วยประการทั้งปวง แต่อยู่ใกล้ชิดรับใช้ใกล้เท้า ให้ทำงานบริหารชาติบ้านเมืองแทน ทำให้เหล่าคนดีต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของคนชั่ว พวกตระกูลใหญ่ๆ จะมีอิทธิพลสบคบกับพวกคนพาลสันดานหยาบช้า คอยราวีข่มเหงผู้รู้นักปราชญ์ราชบัณฑิตและมีคุณธรรมจนลำบาก คนเลวจะได้ดีมีอำนาจขาดยางอายไร้ศีลธรรม ทำให้นักปราชญ์พลอยเกรงกลัว จึงเข้าร่วมเป็นพวก เหมือนหงส์แวดล้อมเป็นบริวารของกา ฉะนั้น”
16. ทรงฝันว่า “ฝูงแกะพากันไล่กวดฝูงเสือเหลือง และกัดกิน ทำให้เสืออื่นๆ สะดุ้งกลัว จนต้องหนีไปแอบซ่อนตัวจากฝูงแกะ”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ต่อไปภายหน้า คนชั่ว หรือคนที่ไม่ดีจะเรืองอำนาจ และใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ทำให้คนดีถูกทำร้าย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องหลบหนี ซ่อนตัวจากภัยร้ายเหล่านี้ เหมือนเสือซ่อนตัวจากแกะ”
บางตำราว่า ทรงฝันว่า “เนื้อสมันวิ่งไล่ล่าเสือโคร่ง โดยวิ่งไล่ตามมาติดๆ เมื่อไล่ทันแล้วก็รุมกัดกินเสือตัวนั้นทันที ทำให้สัตว์ร้ายอื่นๆ หวาดกลัว พากันวิ่งหนีหลบเข้าป่าไป เพื่อให้รอดจากฝูงสมันร้าย ดูน่าฉงนยิ่งนัก”
- : พระพุทธองค์ได้ทรงทำนายว่า “ในอนาคตกาล บรรดาสานุศิษย์ได้รับการศึกษาเล่าเรียน ประสิทธิ์ประสาทความรู้จากครูบาอาจารย์จนเชี่ยวชาญ แล้วเกิดความคิดอัปมงคล คิดเนรคุณลบล้างครูอาจารย์ ขาดความเคารพนับถือผู้หลักผู้ใหญ่ ใช้ทั้งคำพูดและการกระทำย่ำยีน้ำใจผู้ใหญ่ให้เจ็บช้ำ อวดอ้างความเก่งกล้าสามารถ ยกตนข่มท่าน วางสันดานหยาบคายยิ่งนัก”
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thammakittakon&group=3
"ภาคีต้านทุจริต" ร้องยุบ"เพื่อไทย" ชี้ทำผิด กม.เลือกตั้ง
Thu, 2011-07-07 04:02
ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ร้อง กกต. คัดค้านผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตของพรรคเพื่อไทย อาทิ 17 คน อาทิ ยิ่งลักษณ์-ชินณิชา-จตุพร-ณัฐวุฒิ ชี้ผิดกฎหมายเลือกตั้งและขาดคุณสมบัติการลงสมัคร บี้ยุบพรรคไปด้วยกรณีออกแคมเปญ "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 54 ที่ผ่านมาเนชั่นทันข่าวรายงาน ว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) เข้ายื่นหนังสือที่ลงนามโดยนายชาติชาย แสงสุข อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 2550 ร้องถึงกกต.เพื่อคัดค้านผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตของพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการเลือกตั้ง ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและขาดคุณสมบัติการลงสมัคร ดังนี้ 1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ฐานที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แห่ทั่วจ.เชียงใหม่ในวันสมัครวันแรก เป็นการกระทำให้สำคัญผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองอื่นหลาย กรณีช่วยออกหาเสียงและเดินแจกเอกสารและให้สัมภาษณ์สนับสนุน 2.น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่ส.ส.เชียงใหม่ ที่ให้นายสมชาย นางเยาวภาช่วยหาเสียง 3.น.ส.สมหญิง บัวบุตร ว่าที่ส.ส.อำนาจเจริญ ถ่ายรูปคู่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองโดยมีข้อความฝากให้ประชาชนเลือกระหว่างมีพ.ร.ฎ. เลือกตั้ง กรณีนี้กกต.เคยให้ใบแดงผู้สมัครส.ส.กรณีแจกซีดีทักษิณแล้ว
4.นายจตุพร พรหมพันธุ์ 5.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 6.นพ.เหวง โตจิราการ 7.พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย 8.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท 9.นายพายัพ ปั้นเกษ 10.นายก่อแก้ว พิกุลทอง 11.นายวิเชียร ขาวขำ 12.นายการุณ โหสกุล 13.จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ 14.นายวรชัย เหมะ 15.นายสถาพร มณีรัตน์ เพราะขาดจากความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เนื่องจากข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 10 (5) สมาชิกภาพของสมาชิกพรรคสิ้นสุดลงเมื่อถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำ สั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยแกนนำนปช.ที่เป็นสมาชิกพรรคเมื่อถูกคุมขังจะต้องขาดจากสมาชิกพรรคทันทีใน กรณีมีหมายขังของศาล แม้ภายหลังจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 16.นายพิชิต ชื่นบาน พ้นโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีในคดีละเมิดอำนาจศาลให้เงินใส่กล่องขนม 2 ล้านบาทจึงขาดคุณสมบัติผู้สมัครส.ส. และ17.นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ว่าที่ส.ส.นครปฐม อาจจะขาดคุณสมบัติการลงสมัครส.ส.เพราะเป็นบุคคลล้มละลาย
นายมงคลกิตต์กล่าวว่า ทั้งนี้ยังขอให้กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย จากกรณีกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ที่นำพ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองมารณรงค์ขึ้นป้ายหาเสียง "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ติดป้ายหาเสียงทั่วประเทศและสื่อมวลชนแขนงต่างๆนำไปโฆษณาประชาสัมพันธ์กรณี นี้ทำให้สำคัญผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองอื่น จึงร้องคัดค้านผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ดังนั้นจึงยังประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งของ พรรคเพื่อไทยที่ยังถูกร้องคัดค้านยังไม่ได้จนกว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จ
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 54 ที่ผ่านมาเนชั่นทันข่าวรายงาน ว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) เข้ายื่นหนังสือที่ลงนามโดยนายชาติชาย แสงสุข อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 2550 ร้องถึงกกต.เพื่อคัดค้านผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตของพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการเลือกตั้ง ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและขาดคุณสมบัติการลงสมัคร ดังนี้ 1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ฐานที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แห่ทั่วจ.เชียงใหม่ในวันสมัครวันแรก เป็นการกระทำให้สำคัญผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองอื่นหลาย กรณีช่วยออกหาเสียงและเดินแจกเอกสารและให้สัมภาษณ์สนับสนุน 2.น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่ส.ส.เชียงใหม่ ที่ให้นายสมชาย นางเยาวภาช่วยหาเสียง 3.น.ส.สมหญิง บัวบุตร ว่าที่ส.ส.อำนาจเจริญ ถ่ายรูปคู่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองโดยมีข้อความฝากให้ประชาชนเลือกระหว่างมีพ.ร.ฎ. เลือกตั้ง กรณีนี้กกต.เคยให้ใบแดงผู้สมัครส.ส.กรณีแจกซีดีทักษิณแล้ว
4.นายจตุพร พรหมพันธุ์ 5.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 6.นพ.เหวง โตจิราการ 7.พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย 8.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท 9.นายพายัพ ปั้นเกษ 10.นายก่อแก้ว พิกุลทอง 11.นายวิเชียร ขาวขำ 12.นายการุณ โหสกุล 13.จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ 14.นายวรชัย เหมะ 15.นายสถาพร มณีรัตน์ เพราะขาดจากความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เนื่องจากข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 10 (5) สมาชิกภาพของสมาชิกพรรคสิ้นสุดลงเมื่อถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำ สั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยแกนนำนปช.ที่เป็นสมาชิกพรรคเมื่อถูกคุมขังจะต้องขาดจากสมาชิกพรรคทันทีใน กรณีมีหมายขังของศาล แม้ภายหลังจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 16.นายพิชิต ชื่นบาน พ้นโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีในคดีละเมิดอำนาจศาลให้เงินใส่กล่องขนม 2 ล้านบาทจึงขาดคุณสมบัติผู้สมัครส.ส. และ17.นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ว่าที่ส.ส.นครปฐม อาจจะขาดคุณสมบัติการลงสมัครส.ส.เพราะเป็นบุคคลล้มละลาย
นายมงคลกิตต์กล่าวว่า ทั้งนี้ยังขอให้กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย จากกรณีกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ที่นำพ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองมารณรงค์ขึ้นป้ายหาเสียง "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ติดป้ายหาเสียงทั่วประเทศและสื่อมวลชนแขนงต่างๆนำไปโฆษณาประชาสัมพันธ์กรณี นี้ทำให้สำคัญผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองอื่น จึงร้องคัดค้านผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ดังนั้นจึงยังประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งของ พรรคเพื่อไทยที่ยังถูกร้องคัดค้านยังไม่ได้จนกว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน