บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

ว.5ลาว'ยัน'แผนลอบฆ่า' แม้วตายแผ่นดินเปลี่ยน

ว.5ลาว'ยัน'แผนลอบฆ่า' แม้วตายแผ่นดินเปลี่ยน 'จูบปากป๋า'ตอบรับไมตรี ลงหลังเสือมาปรองดอง!

ทักษิณ-ขวัญชัย
สุด สัปดาห์หยุดยาวช่วงปีใหม่ไทย สถานการณ์บ้านเมืองยังคงคุกรุ่นกับปัญหาความวุ่นวายที่ติดพันในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเมืองที่ว่าด้วยปมร้อนของการสร้างความปรองดอง ที่มองแล้วยังหาจุดบรรจบไม่ลงระหว่างฝ่ายที่มีความคิดต่าง ในขณะเดียวกัน ยังเกิดสถานการณ์ข่าวสารสอดแทรกมาจากเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกับไทย ชนิดที่เรียกว่าบ้านพี่เมืองน้อง โดยมีต้นตอมาจาก "นายใหญ่" (ของคนเสื้อแดงและพลพรรคเพื่อไทย)คนเดิม ที่แสดงอำนาจบารมีในถิ่นลาว ชนิดที่เรียกว่า "หยาม" เกือบ "เหยียบจมูก"ไทย พร้อมกับกระแสข่าวการ "ลอบฆ่า"ที่ถูกปล่อยออกมา

กระทั่งทำให้ทางการลาวต้องลงมารับลูกอย่างเสียไม่ได้ ส่งทีมอารักขาดูแลความปลอดภัยให้แบบ"ไข่ในหิน" พร้อมกับกระแสข่าวความไม่พอใจของคนลาวเจ้าถิ่น ทนเห็นพฤติกรรมของสาวกเสื้อแดงที่แห่แหนยกพวกไปสร้างความเดือดร้อนให้แบบไม่ เกรงใจใคร...

งานนี้จึงต้องคุยกับ "ขวัญชัย ไพรพนา" ประธานชมรมคนรักอุดรฯ ในฐานะแม่งานคนสำคัญ ที่คอยประสานงานจัดการทุกอย่างตามบัญชานายใหญ่

สาวกรายนี้ยกการข่าว "ว.5ลาว" การันตีแผนลอบสังหารว่ามีจริง!!!
...พร้อมกับคำขู่ที่ฝากถึง "คนคิดฆ่าทักษิณ" บ้านเมือง"ลุกเป็นไฟ" "เปลี่ยนฟ้าเปลี่ยนแผ่นดิน" ถ้านายใหญ่ตาย...

ขณะเดียวกันยังหยอดยาหอมใส่ "ป๋าเปรม" โดยเสื้อแดงพร้อมจูบปากปรองดอง หาบันไดลงจากหลังเสือให้ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น โปรดติดตาม...
Q : เหตุผลสำคัญที่ทำให้กำหนดการของพ.ต.ท.ทักษิณเปลี่ยนไป ไม่เป็นไปตามที่ได้มีการประสานไว้คือเรื่องกระแสข่าวการลอบสังหารใช่หรือ ไม่?
A : มันเป็นเรื่องของความปลอดภัย เพราะมีข่าวเรื่องปองร้าย เลยต้องเข้มงวดกวดขันมากขึ้น โปรแกรมที่เคยคิดว่าจะไปพบได้ก็เลยยกเลิก ก็เท่านั้นเอง อย่างอื่นก็ดำเนินการตามปกติ แต่การคุ้มกันเข้มเกิน

Q : ถึงขนาดที่ทางการลาวเองส่งทีมรปภ.มาดูแลรักษาความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่
A : ใช่ครับ

Q : การข่าวการลอบสังหารได้มาจากที่ไหน อย่างไร?

A : คือทางการลาวเขามีข้อมูลของเขาครับ มันเป็นความลับของทางลาวเขา มันเปิดเผยไม่ได้ เพราะเขาบอกเลยว่าไม่พร้อมที่จะให้นายกฯทักษิณมาตามลำพังแล้ว ทางรัฐบาลลาวเลยต้องลงมากำกับดูแลเองหมด ตอนแรกมาในนามสภาหอการค้าเศรษฐกิจลาว แต่พอมีข้อมูลข่าวสารการลอบสังหารทางการลาวเลยต้องลงมาคุมเข้มความปลอดภัย เพราะกลัวเสียชื่อประเทศเขา

Q : การข่าวระบุชัดหรือไม่ว่าเป็นคนกลุ่มไหนที่จะลงมือ?
A : คือบอกได้คำเดียวเป็น "ว.5 ของลาว" ลาวเขามีข้อมูลชัดเจน...แต่เขาพูดได้แค่นี้ เขาบอกเลยเป็นว.5


จนท.ลาวอารักขาแม้วเข้ม
Q : การข่าวบอกว่ามีการส่งมือปืนลงพื้นที่ไว้รอดำเนินการหากสบโอกาส
A : ใช่ครับ...แต่ผมพูดอะไรไม่ได้ มันเป็นว.5 คือผมก็คุยกับคนระดับสูงของลาว ระดับรัฐมนตรีของลาวแล้ว แต่ผมก็พูดอะไรไม่ได้ บอกเพียงแค่นี้ว่าเป็นว.5

"เสื้อ แดงที่เดินทางไปเจอ(ทักษิณ) ที่หน้าวัดท่าหลวง ทุกคนก็แฮปปี้แล้วครับ ไม่เป็นปัญหาอะไร ท่านลงมาคุยกับพี่น้องเรา เขาก็พอใจ ทุกคนก็พอใจแล้ว"

Q : มีข่าวว่าการเดินทางไปลาวของคนเสื้อแดงที่นำคนจำนวนมากร่วมคณะไปด้วย สร้างความเดือดร้อนให้กับคนลาว โดยเฉพาะการแสดงออกถึงการส่งเสียงดัง ทำให้คนลาวเกิดความไม่พอใจ

A : ไม่มี...คนลาวเขารักทักษิณกันทั้งนั้น ทุกคนแฮปปี้กันหมด ความสัมพันธ์ของเสื้อแดงกับคนลาวก็แฮปปี้กันทั้งนั้น ไม่มีหรอกครับ...ไม่มี เรื่องพวกนี้ คนลาวเขาไม่ได้คิดอย่างนั้น ไม่ได้ส่งเสียงดังอะไร เวลาจะส่งเสียงก็บอก เป็นคนพูดผ่านไมค์เอง คนลาว...เขาไม่มี ยิ้มแย้มแจ่มใสทั้งนั้น

"บรรยากาศระหว่างกันยังดี ก็ไปเที่ยวจับจ่ายซื้อของกันตามสบาย การเดินทางไปครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะพี่น้องได้เห็นหน้านายกฯทักษิณ ได้จับมือจับไม้ ก็โอเคแล้วละ"

Q : ผลสืบเนื่องจากการเดินทางมาลาวและเขมรของพ.ต.ท.ทักษิณที่คนเสื้อแดงทำหน้า กากหน้าพ.ต.ท.ทักษิณออกแจกจ่าย ฝ่ายค้านและคนที่ไม่เห็นด้วยออกมาวิจารณ์ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
A : ก็พวกนี้พวกจิตตกอยู่แล้วนี่ ไปคิดอะไรมาก คนมันไม่ชอบอะไรมันก็ไม่ชอบอยู่นั่นแหละ ถ้าไปฟังพวกนี้มากก็ไม่ต้องไปทำมาหากินแล้ว มันเป็นเรื่องผิดกฎหมายมั๊ยละ...ถามหน่อย ทุกคนทำผิดกฎหมายแล้วใครทำอะไรมันได้ เสียงดังกันเหลือเกิน ไอ้พวกฝ่ายตรงข้ามคนกลุ่มน้อย เสียงดัง มีอำนาจ มีเงิน เสียงดังจริงๆ แต่ประชาชนรากหญ้าอย่างพวกผม คนจำนวนมากทำไมไม่ฟังพวกผมบ้าง พวกผมก็รักษากฎกติกากันตลอดเวลาอยู่แล้ว พวกฝ่ายตรงข้ามนั่นแหละที่พยายามทำให้บ้านเมืองวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ กลุ่มคนไม่เท่าไหร่เสียงดังกันเหลือเกิน แต่ประชาชนคนรากหญ้าจำนวนนับล้าน คุณไม่ฟังเสียงกันเลย คุณฟังแต่ไอ้พวกนั้นแหละ

Q : การเดินทางมาประเทศเพื่อนบ้านติดกับไทยขนาดนี้ สะท้อนถึงอะไรได้บ้าง?

A : มันเป็นการแสดงออกให้ชัดเจนว่าไม่ว่าประเทศไหนในโลกนี้ทักษิณก็ไปได้ แม้แต่เขตชายแดนประเทศไทย ทักษิณก็มาได้ อีก 50 กิโลเมตรจะเข้ามาถึงประเทศไทย แต่เข้าไม่ได้ มันแสดงไง...เขามาปุ๊บคนไทยก็แห่เดินทางไป มันแสดงความชัดเจนว่าประเทศไทยใจแคบที่สุด คนในประเทศไม่กี่คนหรอกที่จะใจแคบ ทำให้บ้านเมืองมันเดินหน้าไม่ได้ เพราะคุณอิจฉาทักษิณนั่นแหละ คุณไม่มีอะไรเทียบเคียงทักษิณเลย...คนเหล่านี้ ร้อยความคิดคุณยังไม่เท่าทักษิณ เลยอิจฉาเขา ยอมรับเขาไม่ได้

Q : การที่ทางการลาวลงมาดำเนินการด้วยตัวเองยิ่งเป็นการบ่งบอกถึงความสำคัญของอดีตนายกฯรายนี้

A : มันชัดเจนอยู่แล้ว ทั่วโลกเขาไม่มีใครรังเกียจทักษิณเลย เขายังแปลกใจ...นักข่าวอัลจาซีร่ายังถามเลย แปลกใจว่าทำไมคนทั่วโลกเขายอมรับทักษิณ แต่ประเทศไทยไม่ยอมให้ทักษิณกลับประเทศไทย นี่คือคำถามที่นักข่าวต่างประเทศเขาสงสัย

Q : การที่คุณทักษิณจะกลับบ้านได้ ต้องเคลียร์คดีทั้งหมดให้ได้ก่อนใช่หรือไม่?

A : ไม่ต้องเคลียร์คดีทั้งหมดหรอก เอาแค่คดีที่ดินรัชดา คุณย้ายมาอยู่ 3 ศาลสิ ตัดสินแล้วพิพากษาออกมาอย่างนี้ ประกันตัวแล้วออกมาสู้คดีกัน ให้เป็นไปตามสิทธิ์ แค่นั้นเอง คุณทำให้มันถูกต้องเขาก็เข้ามาอย่างสง่างามแล้ว


แม้ว-ขวัญชัย พร้อมพลพรรคเสื้อแดง
Q : ภายในปีนี้จะดำเนินการได้หรือไม่?
A : มันก็อยู่ที่พวก"คนบ้าอำนาจ" ทั้งหลายนี่แหละ พวก"ดวงตาไม่เห็นธรรม"เหล่านี้ มันจะยอมมั๊ย เพราะมันยังมีอำนาจอยู่ สั่งโน่นได้สั่งนี่ได้กันอยู่

Q : การที่รัฐบาลสามารถกุมเสียงฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารได้ มีศักยภาพเพียงพอที่จะดำเนินการได้หรือไม่?

A : มันไม่ได้หรอก รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลน้องสาวของนายกฯทักษิณ ทำอะไปสื่อก็ตีว่าช่วยพี่ชาย วันนี้ต้องยอมรับว่าสื่อมีอิทธิพลต่อประเทศมากเหลือเกิน สื่อชี้นำอะไรไปคนมันก็คล้อยตามกันไปหมด แล้วยิ่งพรรคประชาธิปัตย์มีคำพูดที่หรูหราสวยงาม คนไทยมันก็แห่ตามกระแสกันหมด

Q : การปรองดองตอนนี้จะเกิดได้จริงหรือไม่?
A : มันจริงหรือไม่จริง อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์กับพวกกลุ่มนักวิชาการ 4-5 กลุ่ม สยามสามัคคี 40สว. กลุ่มพันธมิตรฯ ผมถามว่าไอ้กลุ่มพวกนี้จัดงานจะระดมคนได้เป็นหมื่นคนมั๊ย แค่ชมรมคนรักอุดรฯระดมคนได้หมื่น 2 หมื่นคนแล้ว ทำไมไม่ฟังกันบ้าง คุณไม่มีปัญญากันเอง ใช้แต่เงินกับอำนาจ ต้องยอมฟังเสียงประชาชนบ้างสิ

Q : การอ้างด้วยการยกจำนวนคนเสียงข้างมากขึ้นมาจากการจำนวนเสียงเลือกตั้ง 15 ล้านเสียง  อาจถูกกล่าวหาว่าใช้เสียงข้างมากลากไปได้หรือไม่?

A : มันไม่ลากไป เราก็ทำตามกฎกติกานี่ แล้วเสียงข้างน้อยจะมาทำเรื่องให้มันวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ คุณย้อนกลับไปดูสิว่าปี 2548 มันเกิดอะไรขึ้น ม็อบสนธิ(ลิ้มทองกุล)ออกมาโกหก หลอกลวงใช่มั๊ย ทำไมไม่หาต้นตอปัญหา ทำไมไปมองข้ามสิ่งเหล่านี้ เพราะสนธิมันไม่พอใจทักษิณใช่มั๊ยที่ทักษิณไม่ยอมช่วยมันกู้เงินแบงก์กรุง ไทย 2 พันล้าน มันออกมาด่าทักษิณ แล้วเปิดช่องให้คณะปฏิวัติออกมายึดอำนาจ นั่นคือขบวนการเริ่มต้นของบ้านเมือง 5 ปีนี้ที่แตกแยก ทำไมไม่ไปหาตรงจุดเริ่มต้นละ มองปัญหาปลายเหตุอะไรๆก็ทักษิณ ประชาชนเขารักทักษิณ คุณอิจฉาริษยาเขาไปถึงไหน

Q : คนที่เริ่มต้นขบวนการอย่างคุณสนธิต้องรับผิดชอบกับการกระทำอะไรหรือไม่?
A : ผมว่าไอ้สนธิรับผิดชอบอะไร ศาลตัดสินจำคุก 85 ปี รับสารภาพลดให้กึ่งหนึ่งเหลือ 42 ปี 6 เดือน แล้วทำไมยังเดินอยู่ข้างนอก ทำไมยังมีบทบาทอยู่ ยังอุทธรณ์เรื่องอะไรกัน ในเมื่อคุณรับสารภาพแล้วว่าเซนต์เอกสารเท็จกู้เงินแบงก์ แล้วอย่างนี้คนไทยยังจะให้ราคามันอีกเหรอ ผมถามว่าอย่างนี้ ถามง่ายๆตามประสาคนบ้านนอกอย่างผมเนี่ย ผมไม่ใช่คนบ้านะ แต่ผมมีสติเหมือนกัน ผมถามกระบวนการยุติธรรมันเป็นอย่างนี้แล้วผมจะยอมรับได้อย่างไร ชาวบ้านทิ้งจอบทิ้งเสียมมาก็เพราะความอยุติธรรมของประเทศนี่แหละ เพราะความเอารัดเอาเปรียบของกลุ่มคนพวกนี้ คดีคตส.ยัดเยียดมาให้ติดคุก 2 ปี มันไม่ได้โกงบ้านโกงเมืองเลย คดีซื้อที่ดินรัชดาแค่เอาบัตรประชาชนไปให้เมียจดนิติกรรม กลายเป็นอาชญากรไปเลย มันบ้ากันไปใหญ่แล้วประเทศไทย

Q : ที่ต้องการนอกเหนือจากเรื่องประชาธิปไตย คือความเท่าเทียมเรื่องกระบวนการยุติธรรม
A : แน่นอน วันนี้เขาก้าวข้ามทักษิณไปแล้ว ไม่เป็นไรทักษิณอยู่ต่างประเทศ เราคิดถึงแล้วไปหาอย่างนี้ แต่ความยุติธรรมในประเทศมันมีมั๊ย ผมถามหน่อย คดีของสนธิไปถึงไหนวันนี้ ตัดสินจำคุกรอลงอาญากี่คดีแล้ว ก็ยังเดินลอยหน้าลอยตาอยู่ในประเทศ ขนเงินจากประเทศไทยไปสร้างโรงแรมอยู่ต่างประเทศ ชาวบ้านเขาไม่โง่นะ ไม่ได้กินแกลบกินรำ

Q : คิดเห็นอย่างไรกับคำท้าของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้คุณทักษิณยอมไม่รับการนิรโทษกรรมแลกเปลี่ยนกับการไม่นิรโทษกรรมให้ทั้ง ตัวคุณอภิสิทธิ์เอง และคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ?
A : โอ้ย...ไปฟังมัน มันเป็น "คนที่มีเส้น" เราก็รู้กันอยู่แล้ว คุณไม่พูดผมก็ไม่พูด คุณรู้ก็พูดไม่ได้ พูดก็ติดคุก ผมรู้ก็พูดไม่ได้...ติดคุก มันเป็น"เด็กของใคร" มันทำเพื่อใคร มันได้ดีเพราะอะไร เราก็รู้กันอยู่ทุกวันนี้เราต้องการเอาความจริงมาพูดเหรอ แบบ...สนธิ บุญยรัตกลิน(อดีตประธานคมช.)พูด "ตายก็พูดไม่ได้" อย่างนี้คุณก็รู้แล้วว่าภาษานี้แปลว่าอะไร ทุกคนก็รู้กันหมดในประเทศไทย ชาวบ้านชาวไร่ชาวนาเขาก็รู้ แต่เขาพูดไม่ได้ เพราะไม่มีใครคิดที่จะไป...คิดอะไรขนาดนั้น เราพร้อม เราเป็นคนในประเทศไทย เรามีสถาบันอยู่ในจิตใจอยู่แล้ว อยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว แต่คนเหล่านี้เอามาอ้าง คนเหล่านี้มันทำเพื่ออะไร

Q : ปรองดองควรมีแนวทางอย่างไร?

A : ก็ให้อภิสิทธิ์มาติดคุกก่อนไง เอาอภิสิทธิ์กับสุเทพติดคุกก่อน บ้านเมืองก็จบแล้ววันนี้ หรือไม่ก็รอเลือกตั้งอีกสมัยหนึ่ง...ไม่เป็นไร ก็อยู่กันไปอย่างนี้ไปอีก 3 ปี ครบ 4 ปีเลือกตั้งใหม่คราวนี้มันจะรู้ว่าประชาธิปัตย์จะเหลือถึง 100 คนมั๊ย คนไทยจะสั่งสอนมันคราวนี้อีกทีหนึ่ง

Q : อย่างไรก็ตามจะไม่ยอมรอมชอมคดีระหว่างคนเสื้อแดงกับพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเดินหน้าเอาผิดให้ได้ใช่หรือไม่?

A : ไม่ยอม...คดีต้องเป็นไปตามกฎหมาย กฎหมายอาญาก็ต้องว่ากันไป ไม่ต้องมานิรโทษฯให้ผม คดีผมผู้ก่อการร้ายก็ว่ากันไป สอบสวนแล้วพบว่าผมมีความผิดเรื่องก่อการร้ายก็เอาเข้าคุกไป ก็ติดมา 9 เดือน 3 วันยังติดมาแล้ว เพราะฉะนั้นคุณเป็นคนสั่งฆ่าประชาชน คุณจะมาลอยหน้าลอยตาอย่างนี้มันไม่ได้

Q : ปรองดองกับนิรโทษกรรมทางคดีไปด้วยกันได้หรือไม่?
A : ผมไม่เข้าใจกฎหมายข้อนี้มากนัก แต่ผมถือว่าเรื่องปรองดอง เรื่องยุติการสู้รบ เราก็พร้อมอยู่แล้ว คนเสื้อแดงไม่ใช่คนบ้าอยู่แล้ว คนเสื้อแดงมีวินัย เราทำมาหากินอยู่แล้ว อยากเห็นบ้านเมืองปรองดองเดินไปข้างหน้า รัฐบาลบริหารประเทศโดยไม่สะดุด เราพอใจแล้วแค่นี้ ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ของผมก็ว่ามา สอบมา ไม่ต้องมาช่วยพวกผม คุณว่าไปเลยคดีก่อการร้ายที่รัฐบาลที่แล้วยัดเยียด ถ้าผิดจริงก็ติดคุก ไม่เป็นไร ไม่ต้องมานิรโทษฯให้ผม

Q : เมื่อพูดถึงนิรโทษฯจะถูกมองว่าคือการช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ จะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร?

A : ไม่เกี่ยว ทักษิณถ้าผิดก็มาว่ากันตามผิด คุณเล่นศาลเดียวอย่างนี้มันไม่ยุติธรรม คุณลองให้เป็น 3 ศาลสิ ทักษิณผิดคดีที่ดินรัชดาคุณต้องให้เขาประกันตัวมาสู้คดี ไม่ใช่ตัดสินปั๊บเข้าคุกเลย อย่างนี้มันไม่ใช่ ศาลเดียวในโลกมันไม่มี มันมีแต่ศาลคมช.

Q : เห็นด้วยหรือไม่กับข้อเสนอของคุณจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง ที่ท้ากลับคุณอภิสิทธิ์ให้ตั้งคตส.สอบคุณอภิสิทธิ์และคุณชวน หลีกภัย ในฐานะที่ทั้งคู่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี?

A : มันถูกต้อง ก็คตส.มันเป็นการเอาคนฝ่ายตรงข้ามมาตรวจสอบ คุณเป็นคนไทยเอาใจเขามาใส่ใจเราดูบ้าง ไม่ใช่คนไปยืนอยู่ข้างหนึ่งแล้วตั้งคำถาม คุณต้องวางตัวเป็นกลาง วันนี้ผมถามว่าสุเทพกับอภิสิทธิ์มันมีสิทธิ์อะไรมาชี้หน้าว่าพวกผมจะล้มเจ้า คุณเป็นศาลเหรอ ว่าคนนั้นถูกคนนี้ผิด ไอ้พวกนี้ผลาญเงิน พวกนี้ล้มเจ้า คดีผังล้มเจ้าถูกยกเลิกไม่ส่งฟ้องศาล อัยการเห็นด้วย สุเทพออกมาอีกแล้ว แปลกใจ...แปลกใจทำไม ในเมื่อข้อมูลมันไม่มี พวกมัยนยัดเยียดมาให้เขา ก็มันตะบี้ตะบันกันอย่างนี้ เอาสีข้างเข้าถู แล้วจะอยู่กันได้อย่างไรบ้านเมือง 2 คนนี้เป็นพระเอกหมด แตะต้องมันไม่ได้เลย มันพูดอะไรถูกหมด มันเป็นใคร มันไม่ใช่ศาล

Q : พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ คือคู่ขัดแย้งที่แท้จริงของพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่?

A : นายเขาก็ตอบสื่อไปแล้วว่าเขาไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับพล.อ.เปรม เขาก็พูดชัดเจนแล้ว ในเมื่อวันนี้สังคมพยายามดึงให้เปรมมาเป็นคู่ขัดแย้งกับเรา เมื่อพฤติกรรมของพล.อ.เปรมออกมา เราก็ต้องโจมตีไปที่พล.อ.เปรม แต่เมื่อวันนี้ที่พล.อ.เปรมมีไมตรีให้กับนายกฯยิ่งลักษณ์ ผมก็แสดงความยินดีกับคำว่าปรองดอง ผมเอารูปพล.อ.เปรมมาติดไว้ที่สถานี ทำให้เพื่อนสมาชิกบางคนรับไม่ได้ ผมก็ทำความเข้าใจกับเขาว่าเมื่อพล.อ.เปรมอยากจะลงจากหลังเสือ อยากจะมีการปรองดอง เราก็ต้องหาบันไดให้ท่านลงอย่างสง่างาม นี่คือสิ่งที่ผมทำอยู่

ป๋าเปรม-ปู
Q : พล.อ.เปรมส่งสัญญาณว่าต้องการปรองดองแล้ว

A : เราอ่านว่าอย่างนั้น ในฐานะผมนำมวลชนอยู่ ผมอ่านอย่างนั้น ผมเลยต้อเอารูปพล.อ.เปรมมาขึ้น เพื่อให้คนเสื้อแดงที่มีพฤติกรรมต่อต้านพล.อ.เปรมให้ลดดีกรีลง ผมในฐานะผู้นำมวลชนทำได้ดีที่สุดแล้ว มีคนมาต่อต้านว่าทำไมเอารูปพล.อ.เปรมมาขึ้นบนตึกอาณาจักรคนเสื้อแดง ผมก็บอกว่าภาพนี้มันเป็นภาพที่ควรขยาย ภาพที่นายกฯยิ่งลักษณ์นั่งอยู่กับประธานองคมนตรี มันควรที่จะขยายให้เกิดความปรองดอง เรายินดีกับคำว่าปรองดอง ขึ้นป้ายไว้อย่างนี้

"คือเรามองว่าแดงมีมากไป หลายร้อยหลายพันกลุ่ม แนวความคิดมันมีหลากหลาย แต่แนวความคิดมวลชนคนรักอุดรฯอย่างผม ผมมองเรื่องประเทศชาติเป็นหลัก ผมมองต้องการเห็นความสงบสุขของบ้านเมือง ผมต้องการเห็นประชาชนลืมตาอ้าปากได้ วันนี้ผมต้องทำหน้าที่ของผม"

Q : คิดเห็นอย่างไรกับแนวความคิดที่ว่าถ้ากำจัดคุณทักษิณได้ เสื้อแดงจะสลายหายไปด้วย?

A : มันจะเกิดความวุ่นวายไปทั้งแผ่นดิน ถ้าหากว่าคนกลุ่มนี้ลอบฆ่าทักษิณ ถ้าทักษิณตายจากอุบัติเหตุ ตายอย่างที่มีเงื่อนงำ ผมว่าบ้านเมืองลุกเป็นไฟแน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น ในความเชื่อส่วนตัว ผมเชื่อว่าประชาชนคนรากหญ้าคงไม่ยอมที่จะให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยง่ายดายหรอก บ้านเมืองลุกเป็นไฟทันทีถ้าหากว่าทักษิณถูกลอบฆ่าเมื่อไหร่ โอกาสเปลี่ยนฟ้าเปลี่ยนแผ่นดินทันที

Q : ถึงขนาดจะควบคุมมวลชนไม่ได้

A : ไม่ได้เลย รับรองได้ถ้าทักษิณถูกลอบฆ่าเมื่อไหร่คุมไม่ได้แน่นอน

ไทยอิืนไซเดอร์

เปิดตัว'พ'ท่อน้ำเลี้ยงแดง โยงใย..อดีตผู้นำเศรษฐี สงสัย'เอี่ยว'ค้าทองเถื่อน!

เปิดตัว'พ'ท่อน้ำเลี้ยงแดง โยงใย..อดีตผู้นำเศรษฐี สงสัย'เอี่ยว'ค้าทองเถื่อน! เหยื่อหรือร่วมขบวนการ

“ไทยอินไซเดอร์” เกาะ ติดขบวนการซื้อขายทอง ผ่านกลไกหลอกลวงสารพัดรูปแบบที่แก๊งอาชญากรรมสีเทาเหล่านี้ ใช้สมองส่วนเลวคิดออกมาได้....เนื้อหาที่นำเสนอในสัปดาห์นี้จึงสอดคล้องกับ ตอน “เปิดโปงแก๊งชั่วขายทอง หลอกลวงอ้างอิงเบื้องสูง Internet Café...ภัยมืด! 'เฒ่าหัวงู'ล่อลวงเด็กไทย”  ตัวละครที่สำคัญยังคงเกี่ยวข้องกับ “Gunther Franz Rosinus” ฝรั่งชาวเยอรมันที่ถูกจับกุมได้ในข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ที่อาจทำให้บุคคลหรือประชาชนได้รับความเสียหาย ตามความผิดในพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งจากผลการสอบสวน Gunther Franz Rosinus ให้การรับสารภาพพร้อมเปิดโปงขบวนการ “เครือข่ายอาชญากรรมสีเทาค้าทอง” จนหมดเปลือก ทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับโจรร่วมขบวนการแบบครบถ้วน สมาชิก 500-1,000 ที่ยังลอยนวลอยู่จะมีการเปิดเผยผ่าน “ไทยอินไซเดอร์” เพื่อประจานความชั่ว ตามสืบสวนเค้นข้อมูลจากสมาชิกเหล่านี้ ขณะที่ตัวการหรือหัวโจกสำคัญในขบวนการ 5-10 คน คาดหมายว่าจะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้

เหตุผล หนึ่งที่ต้องการตัวอาชญากรเหล่านี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ ไม่ใช่เพียงเพราะพฤติกรรมการหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนด้วยวิธีการโสมมเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่พฤติกรรมที่น่ารังเกียจในการใช้สถาบันเบื้องสูงของไทยมาหากิน ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไทยในสยามเมืองยิ้มแห่งนี้ยอมรับไม่ได้ ถือเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างไม่หาให้อภัย ประกอบกับข้อมูลที่ได้รับจากปากของอาชญากรระดับVIPเหล่านี้เอง ถือมีความสำคัญเช่นกัน ในแง่ที่สามารถนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลการเตือนภัยให้กับประชาชนให้รู้เท่าทัน เล่ห์เหลี่ยมกลโกงของอาชญากรสีเทาเหล่านี้

ขณะ เดียวกันนั้นจะได้รู้ถึงพฤติกรรมและวิธีคิดของคนเหล่านี้ ผ่าน "มันสมอง" ที่เรียกได้ว่า "ไม่ธรรมดา" เพราะในข้อเท็จจริงมีหลายคนที่เรียกได้ว่าเป็น "อัจฉริยะ" มีมันสมองที่ปราดเปรื่อง มีวิธีคิด วิธีการที่แยบยล ลึกลับซับซ้อน ขณะที่บางคนก็มีพื้นฐานมาจากครอบครัวที่ดี มีฐานะที่ร่ำรวยมาก่อน ความ น่าสนใจจึงอยู่ที่วิธีคิดในสมองอาชญากรเหล่านี้ ว่าเหตุใดจึงตัดสินใจใช้วิธีการหากิน หาความร่ำรวยบนความทุกข์ยากของคนอื่น ใช้รูปแบบการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ทั้งที่โอกาสทางสังคมส่วนตัวถือได้ว่ามีมากกว่าคนอื่นเสียด้วยซ้ำไป แต่เหตุใดจึงเลือกเส้นทางโจรในการดำเนินชีวิต การไขกุญแจสู่แนวคิดของบุคคลเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมิน้อย ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุรพล หอมชื่นชม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรม "ธุรกิจสีดำ"ประเภทนี้ โดยเฉพาะการ แอบอ้างเบื้องสูงหาประโยชน์ใส่ตัว เบียดบังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น จึงสั่งการให้ดำเนินการจับกุม ติดตามล่าตัวบุคคลในขบวนการเหล่านี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ ไม่มีละเว้น ไม่ว่าจะมีผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกี่ร้อยกี่พันคน ต้องดำเนินการเอาผิดให้ได้ทั้งหมด

กลับมาที่ข้อมูลที่ได้จากปาก Gunther Franz Rosinus มีการเชื่อมโยงเครือข่ายในขบวนการถึงหลักฐานชิ้นสำคัญ คือIBOE (International Bill of Exchange) รูปแบบใหม่ที่ถูกทำขึ้น โดยปลอมแปลงใช้ชื่อธนาคารกสิกรไทย มีมูลค่าถึง 560 ล้านบาท ซึ่งIBOE ฉบับนี้ปรากฎอยู่ในฐานข้อมูลที่แก๊ง Gunther Franz Rosinus ได้รับจาก “ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่ริมโปรเจ๊กต์” ที่มีความพยายามต้องการซื้อทองคำในจำนวน 400 กิโลกรัม ผ่านตัวละครที่มีการส่งจดหมายติดต่อซื้อขาย ลงชื่อโดย น.ส.เขมิสรา ปฐวีสินทวี ประธานที่ประชุม ซึ่งจากการสืบสวนสมาชิกในแก๊ง Gunther Franz Rosinus พบว่าเขมิสรามีความพยายามส่งIBOEฉบับนี้ แจกจ่ายไปยังแก๊งต่างๆเพื่อหลอกซื้อทองผ่านโบกเกอร์ของแต่ละแก๊ง โดยใช้มุขออกหนังสือซื้อขายทองคำแท่ง หรือ AU ไป ยังแก๊งต่างๆผ่านฐานข้อมูลที่เขมิสรามีอยู่ เรียกได้ว่า "โจรด้วยกันเองก็หวังหลอกลวงกันเอง" ในขณะที่โจรก็รู้ไส้พุงกันเองด้วย เพราะมีฐานข้อมูลรายชื่อของแต่ละแก๊ง แถมยังรู้ว่าแก๊งใดต้องใช้วิธีการหลอกลวงแบบใด

IBOE ฉบับราคา 560 ล้านบาทนี้ ธนาคารกสิกรไทยมีการแจ้งความดำเนินคดีกับเขมิสรา ข้อหาปลอมแปลงเอกสารไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง แต่ในขณะที่อีกด้านหนึ่งตร.ได้ดำเนินการตามหน้าที่หลังการจับกุม Gunther Franz Rosinus และได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายให้ดำเนินคดีกับแก๊ง Gunther Franz Rosinus ได้เดินทางเข้าติดต่อขอความร่วมมือจากธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ เพื่อขอให้ออกเอกสารยืนยันว่าIBOE 560ล้านบาทนี้เป็นของปลอม แต่ด้วยเหตุผลหรืออะไรมิทราบได้ ปรากฏว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารของกสิกร การเดินทางไปติดต่อกลับได้รับคำตอบเพียงว่าอยู่ระหว่างการดำเนินงานออกหนังสือให้ หลังธนาคารได้รับเรื่องจากตร.แล้ว ในขณะที่การ เดินทางเข้าติดต่อโดยตรงครั้งนี้เพื่อต้องการได้หนังสือด่วนในทันทีเพื่อนำ ไปใช้ในการดำเนินคดีกับ Gunther Franz Rosinus ซึ่งอยู่ในช่วงฝากขัง ตร.มีความจำเป็นที่ต้องเร่งรัดขบวนการในการส่งสำนวนและส่งฟ้องศาลตามกฎหมาย แต่ผลปรากฎว่ากสิกรไทยกับเล่นเกมยื้อเวลาโดยไม่มีเหตุผล

เหตุการณ์ครั้งนี้จึงทำให้เกิดความรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมของกสิกรไทย ความสงสัยในพฤติกรรมจึงตามมา เพราะก่อนหน้านี้หากเป็นเรื่องเร่งด่วนเรื่องอื่นทางธนาคาร โดยผู้บริหารจะออกหน้าเดินเรื่องกับตร.เอง แถมตำหนิการทำงานว่าล่าช้า ไม่ทันใจ ตรงกันข้ามกับครั้งนี้ที่ตร.พยายามเร่งรัดให้โดยมีผู้เสียหายซึ่งเป็นประชาชนคนธรรมดาร้องเรียนมา แต่กสิกรกลับนิ่งเฉย ทำให้เกิดความรู้สึก ตั้งคำถามว่า "การวางเฉย" ไม่ กระตือรือร้นอาจเป็นเพราะกสิกรไทยไม่ได้รับความเสียหายโดยตรง ความเสียหายเกิดขึ้นภายนอกธนาคาร ความรับผิดชอบจึงไม่จำเป็นต้องมีใช่หรือไม่???

คำเตือนจากเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์กับแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงในแวดวงอาชญากรรมสีเทาเหล่านี้ จึงขอฝากไปยังกสิกรไทยว่า แม้ ในปัจจุบันกสิกรไทยยังสามารถป้องกันแก๊งเหล่านี้มิให้เข้าไปดำเนินการสร้าง ความเสียหายให้กับธนาคารได้ แต่ด้วยเทคโนโลยี และสติปัญญาของคนเหล่านี้อย่างที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น ว่าบางคนเป็นอัจฉริยะ สมอง ความคิดของโจรประเภทนี้จึงไม่ธรรมดา การเรียนรู้แก้ไขปัญหาจะเกิดขึ้นตามมา การลองผิดลองถูกจะเกิดขึ้นตลอดเวลา จนในท้ายที่สุดโจรจะสามารถไขระบบป้องกันสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับ กสิกรไทยได้ หากกสิกรไทยยังนิ่งเฉย ไม่ตัดไปแต่ต้นลม ความหายนะจะตามมา อย่างที่สุภาษิตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันสอนไว้ว่า “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา”

อย่างไรก็ตามการนำเสนอข้อมูลในแง่นี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารกสิกรไทยเป็นส่วนใหญ่ที่ผ่าน “ไทยอินไซเดอร์” ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำลายองค์กรของกสิกรไทยแต่ อย่างใด แต่เป็นเพราะข้อมูลหลักฐานส่วนใหญ่ที่สามารถจับกุม ติดตามสืบสวนสอบสวนและยึดมาได้มักเกี่ยวข้องกับกสิกรไทยแทบทั้งสิ้น ซึ่งยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

กรณีการจับกุม Gunther Franz Rosinus หรือ Graham Michael Shandiman ที่จับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้  อาชญากร ทั้งสองรวมถึงสมาชิกในแก๊งก็มักดำเนินการผ่านธุรกรรมการการเงินของกสิกรไทย การปลอมแปลงเอกสารทางการเงินก็มักจะลอกเลียนจากกสิกรไทย รวมถึงการเปิดบัญชี โดยเฉพาะตัว Graham Michael Shandiman  เอง สมาชิกในแก๊งรวมถึงญาติพี่น้องก็ใช้วิธีตระเวนเปิดบัญชีกสิกรไทยไปทั่ว ซึ่งที่ดำเนินการติดตามจับกุมเองก็มิได้ทราบล่วงหน้าว่าแก๊งเหล่านี้มีการดำเนินการธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารใด ฉะนั้นข้อกล่าวหาว่ามีความพยายามกล่าวหากสิกรไทยจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กสิกรไทยเองก็ยังคงปฏิเสธความรับผิดชอบไปไม่ได้ เพราะจากการศึกษาและสืบสวนในทางลับ พบว่าคนที่ทำหน้าที่ปลอมแปลงเอกสารให้กับแก๊งเหล่านี้มักจะรู้จักกับเจ้าหน้าที่ในกสิกรไทย ทั้ง "เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในปัจจุบัน" และ "เจ้าหน้าที่ที่เคยทำงานกับกสิกรไทย" ในกรณีเจ้าหน้าที่ที่ทำงานปัจจุบันแล้วช่วยเหลือก็เกิดจาก "กิเลส" ความอยากได้เงินที่เป็นส่วนแบ่ง พร้อมกับความคิดที่ว่าตัวเองได้ประโยชน์แต่ธนาคารไม่เสียหาย หรือ win-win ทั้งสองฝ่าย ขณะที่คนที่เคยทำงานในกสิกรไทยแต่หันมาร่วมมือกับแก๊งในการก่ออาชญากรรม ส่วนใหญ่มักเกิดจาก "ความเคียดแค้นส่วนตัว" ที่ได้รับจากกสิกร ไม่ว่าจะเป็นการถูกไล่ออก ปลดออกจากตำแหน่งหลังกสิกรไทยสืบทราบว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมแต่ไม่สามารถ เอาผิดตามกฎหมายได้ จึงจำเป็นต้องกดดัน บีบให้ออกจากตำแหน่ง

ในขณะเดียวกันจากเอกสารหลายอย่างที่โจรเหล่านี้นำออกมาใช้หลอกลวงเหยื่อ พบว่ามีหลายส่วนที่ปลอมแปลงได้จากของจริง ซึ่งถ้า ไม่ใช่คนในธนาคารให้ความร่วมมือโจรจะไม่สามารถล่วงรู้ได้ ทั้งลายเซ็นของผู้จัดการสาขา รหัสหมายเลขประจำตัวของพนักงานกสิกรไทยแต่ละคน รวมถึงหมายเลขสมุดเช็คที่ออกมาแต่ละเล่ม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตรงกัน สามารถนำไปใช้งานได้จริง ซึ่งจากกรณีเหล่านี้หากไม่มีคนในธนาคารร่วมรู้เห็นเป็นใจด้วย โจรเหล่านี้ก็ไม่สามารถก่ออาชญากรรมได้ ฉะนั้นกสิกรไทยจะปฏิเสธความรับผิดชอบไปเสียมิได้ ขณะเดียวกันหากยึด "ปณิธาน" การ ทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายให้ดีที่สุด ให้ความร่วมมือที่ดีกับตำรวจ ตำรวจเองก็จะสามารถเร่งรัดคดีให้เป็นไปตามกฎหมายได้ ขณะที่เดียวกันประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อก็จะได้รับความเป็นธรรม แถมตัวกสิกรไทยเองก็ไม่ต้องเสี่ยงว่าจะถูกแก๊งเหล่านี้ขยายเครือข่ายเล่นงาน ในอนาคต
ทั้งนี้ยังมีอีกข้อมูลหนึ่งที่น่าในใจ คือจากการศึกษาพบว่า "แก๊งคอลเซนเตอร์" ที่ออกอาละวาดอยู่ในปัจจุบันนี้ เพื่อปลอกลวงเหยื่อให้เสียเงิน ไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆ ส่วนใหญ่เกือบ 100%ที่ผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนมักเป็นคอลเซนเตอร์ที่อ้างมาจากธนาคารกสิกรไทยเช่นกัน เช่นเดียวกับการปลอมตั๋วแลกเงิน IBOE หรือเช็คก็มักเกิดขึ้นหรืออ้างชื่อกสิกรไทย ซึ่ง คำตอบที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ของกสิกรก็เป็นคำตอบเดิมๆว่าเป็นฝีมือของ "แก๊งไต้หวัน" แถมโยนความรับผิดชอบว่าแก๊งเหล่านี้อยู่ในต่างประเทศ ทั้ง ที่ข้อเท็จจริงจากการสืบสวนพบว่าแก๊งที่กระทำการเอาคอลเซนเตอร์บังหน้าหากิน ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทยและเป็นคนไทยที่ร่วมขบวนการเหล่านี้

อย่างไรก็ตามการดำเนินการหลังจากนี้ไปจะหันไปติดตามสืบสวนสอบสวนแก๊งอื่น ที่พบหลักฐานล่าสุดว่ามีการกระทำการบางอย่างกับ "ธนาคารไทยพาณิชย์"แทน ขณะเดียวกันหากพบหลักฐานหรือมีการร้องเรียนจากเจ้าทุกข์ที่ตกเป็นเหยื่อแล้วพบว่าเกี่ยวข้องกับธนาคารอื่น ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกรุงไทย กรุงเทพ กรุงศรีอยุธยา ทหารไทย เจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนกับธนาคารเหล่านั้นอย่างเท่าเทียม แล้วนำข้อมูลมาตีแผ่เช่นเดียวกัน

ขณะที่พอเกิดเหตุการณ์ที่กสิกรไทยไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกิดการยึกยักตรวจสอบIBOE 560ล้านบาทแล้ว ยังพบฉบับละ 1000ล้านบาท ที่ต้องการซื้อทอง 800 กิโลกรัม รวมถึงฉบับ 1500 ล้านบาท ที่ต้องการซื้อทอง 1.2 ตันอีกด้วย ซึ่ง จะไม่ถามกสิกรไทยแล้วว่าเป็นของจริงหรือของปลอม หากกสิกรไทยเป็นห่วงต้องไปร้องทุกข์เอาเอง  แต่จะเร่งไปดำเนินการกับแก๊งอื่นในธนาคารอื่นแทน ถ้าธนาคารไหนอำนวยสะดวกก็จะเร่งรีบดำเนินการให้ทันที

“พีระเดช สิทธิโกศล”
คืออีกคนที่อยู่ในแก๊ง Gunther Franz Rosinus เป็นทีมงานฝ่ายจัดซื้อทอง จากการติดต่อสอบถามพบว่าพีระเดชพยายามหลีกเลี่ยงที่จะให้ข้อมูลถึงสมาชิกใน แก๊งตัวเอง แต่กลับพาดพิงถึงคนในแก๊งอื่น พร้อมเปิดเผยตัวการสำคัญในแก๊งคู่แข่งที่ชื่อ “สมศักดิ์ หวานใจ” แถมโวยวายกล่าวหาเจ้าหน้าที่ว่ากลั่นแกล้ง ละเว้นการจับกุมแก๊งสมศักดิ์หวานใจ เพราะถูก "เงินปิดปาก" เนื่องจากสมศักดิ์ หวานใจ ถือเป็นโจรระดับหัวแถวที่มีความช่ำชอง มีกลเม็ดเด็ดพลายในกลวิธีหลอกลวงที่เหนือชั้น แถมมีเงินมหาศาลจากที่ได้จากการทำธุรกิจสีเทานี้ การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของพีระเดชนี้จึงเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีการทำงาน

ทั้ง นี้จากการสืบสวนพบว่าสมศักดิ์เคยมีประวัติการซื้อขายทองเช่นเดียวกัน แต่ข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะระบุตัวหรือชี้ชัดว่าเป็นใคร ได้ อีกทั้งชื่อ “สมศักดิ์ หวานใจ” อาจเป็นชื่อปลอมหรือฉายาที่ทางโจร VIP ใช้ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน และเพื่อ พิสูจน์ว่าไม่ได้ลำเอียง เลือกปฏิบัติกับโจร หากมีสมาชิกในแก๊ง Gunther Franz Rosinus หรือสมาชิกในแก๊งสมศักดิ์ รวมถึงเหยื่อที่ถูกสมศักดิ์ หวานใจหลอกลวง สามารถติดต่อร้องเรียนให้ข้อมูลได้ เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อเพื่อพิสูจน์ถึงความเป็นกลางในการ ปฏิบัติงาน

จากการสืบสวนสอบสวนในทางลึก ยังพบรายชื่อคนที่เกี่ยวข้องรายสำคัญรายใหม่ เป็นผู้หญิงที่ชื่อ “พ.” ด้วย โดย "พ." ถือเป็น VIP คนหนึ่งในฟากฝั่งของรัฐบาลและคนเสื้อแดง เนื่องจาก "พ." ถือเป็นแม่งานรายใหญ่ที่ให้เงินบริจาคการชุมนุมของคนเสื้อแดงหลายครั้ง จนกระทั่งในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยมีการระบุว่า "ผู้หญิง" ชื่อ "พ." รายนี้...เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับเวทีเสื้อแดงมาแล้ว ขณะเดียวกัน "พ." ยังคือผู้สนับสนุนรายใหญ่ บริจาคเงินให้กับพรรคเพื่อไทยอีกด้วย

ความเกี่ยวโยงของ "พ." ในชั้นนี้ เชื่อว่าอาจเป็นเพียง "เหยื่อ" ที่ถูกหลอกเข้ามาซื้อทองเหมือนเหยื่อรายอื่น ซึ่งจากหลักฐานที่พบ "พ." มีการออกเอกสารใบมอบอำนาจให้คนที่ชื่อ “พงศ์สรร” เป็นตัวแทนในการนำเงิน 20 ล้านบาทเพื่อซื้อทองคำจากแก๊ง Gunther Franz Rosinus

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ในชั้นนี้ มีการวางตัวให้ "พ." เป็นแค่เหยื่อที่อาจถูกขบวนการต้มตุ๋นขายทองหลอกลวง แต่จากข้อมูลอีกด้านหนึ่งพบว่า "พ." เป็นคนใกล้ชิดคนหนึ่งของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร” จึงเกิดข้อสงสัยตามมาว่า ในฐานะ "มือไม้ทำงาน" ให้นายกรัฐมนตรีระดับเศรษฐี ซึ่งมี เงินมากมายที่สามารถซื้อขายทองได้เป็นพันล้านบาท แต่เหตุใดจึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการต้มตุ๋นซื้อขายทองคำได้ หรือมีการรับมอบอำนาจมาจากผู้ใดให้มาดำเนินการซื้อขาย โดยใช้ชื่อตัวเองปิดบังอำพรางหรือไม่ ซึ่งเป็นคำถามที่ต้องสืบหาความจริงต่อไป ..............................................
ทีมข่าว "ไทยอินไซเดอร์" รายงาน
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง