หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง …“แฟ้มลับ” รายชื่อนักการเมืองอย่างน้อย 30 คน ในซีกรัฐบาลซึ่งใช้วิธีโพยก๊วนไซฟ่อนเงินไปเปิดบัญชีเงินฝากในฮ่องกงบัดนี้ ได้ตกมาอยู่ในมือของกลุ่มนักเคลื่อนไหวภาคประชาชนที่ต่อต้านทุจริต คอร์รัปชั่นแล้ว หลังจากที่“เฉลิม” เคยย่ามใจว่า กุมความลับในแฟ้มนี้ไว้ได้แต่เพียงผู้เดียว
ฝ่าย “ข่าวกรองทหาร” เล่าว่า แฟ้มบัญชีรายชื่อเหล่านี้มีจริง ชื่อเจ๊ ดอ นำโด่งและเงินที่หอบไปฝากในบัญชีนั้น “ปล้น” มาจาก“งบน้ำท่วม”โดยมีจำนวนมากถึง 2 ใน 3 จากงบทั้งหมด แฟ้มพวกนี้ทหารก็มีเก็บไว้ คาดว่าเอาไว้ถือบังแดดตอนไปให้ปากคำเรื่องชายชุดดำ
ว่ากันว่า “ท่านกลาโหม” ยุคนี้ลุแก่อำนาจบาตรใหญ่ เปิดประตูปูพรมเชื้อเชิญให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาล้วงลูกยุ่มย่ามขี่คอทหารทุก เหล่าทัพ เป็นผลให้ทุกหน่วยงานในกองทัพจำต้องมี “แฟ้มลับ” ถือติดมือไว้เป็นเกราะคุ้มกันภัย และหน่วยงานที่พุ่งตรงไปคุ้ยหนีไม่พ้นที่ “ป.ป.ท.” ปรากฏว่า โป๊ะเชะ !!!
เวลานี้แฟ้มลับโกงชาติได้ถูกร่อนไปถึง “สมาชิกวุฒิสภา” หลายคน และภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นหลายกลุ่มแล้ว ทั้งเรื่องโกงงบน้ำท่วม-เรียกรับเงินใต้โต๊ะ 40% ทุกกระทรวง-แผนการขายแผ่นดินให้เขมรแลกผลประโยชน์พลังงานอ่าวไทยแบ่งกับ อเมริกา-ถมทะเลสร้างเมืองใหม่ และโครงการรับจำนำข้าวที่โกงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย รวมถึงใต้โต๊ะจากหวยออนไลน์ กับกาสิโนแห่งแรกที่พัทยา ซึ่งมีเค้าว่า รัฐจะเริ่มโครงการนำร่องในโรงแรมหรูที่นายหญิงซื้อต่อมาจากอดีตเศรษฐีใหญ่ เมื่อปีมะโว้…งานนี้หัวคะแนน ชาวบ้าน ถูกมอมเมาจนมึนงง อ่อนแอ สนตะพายง่ายเลย
ฝ่ายข่าวทหารกระซิบว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมมีคำสั่ง “ลับ” ให้กองทัพบกจัดหาสถานที่ทำโกดังเก็บข้าวที่รับจำนำมาทุกเมล็ด แต่ท่านผบ.ทบ.บิ๊กตู่กลับทำหน้าซื่อตาใสออกมาเล่าให้สื่อฟังหมดจดไม่ปิดบัง เป็นผลให้รัฐมนตรีกลาโหมโกรธจัดจนเกือบโดดไป “ตบบ้องหู” ถ้าไม่เกรงใจกัน เรื่องของเรื่องคือ บิ๊กตู่ ต้องการกันเอากองทัพบกออกมาจากโครงการรับจำนำข้าวที่เต็มไปด้วยการโกง งานนี้แว่วว่ามีการแจก “ของลับ” กันลั่นสนั่นกลาโหมชนิดไม่มีใครกลัวใครแล้ว
ตอนนี้ได้มีการสำรวจ “สนามบิน” ต่างจังหวัดที่เคยถูกสร้างขึ้นมาด้วยตัณหาของนักการเมืองขี้โอ่ กะเกณฑ์กันว่า จะนำสนามบินเล็ก รก ร้าง เหล่านั้นมาดัดแปลงเป็นโกดังเก็บข้าวที่มาจากการรับจำนำ ที่บัดนี้ล้นแล้วล้นอีก ล้นจนเห็นความล้นของขี้เลื่อยจากสมองนายกรัฐมนตรีหญิงที่โง่ได้โง่อีก …โง่จนได้ถ้วยทองครองแชมป์ทุกสมัย
อย่าว่าแต่เรื่องขายข้าว 8 ล้านตัน ที่ตอบไม่ได้ไปไม่ถูกเลย นายกรัฐมนตรีหญิงไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องการบริหารชาติบ้านเมือง ได้เลยแม้แต่ประเด็นเดียว ในสมองของเธอเวิ้งว้างว่างเปล่า จับต้นชนปลายอันใดไม่ได้ ยิ่งอยู่นานเท่าไรยิ่งลักษณ์ก็ยิ่งพาพวกเรายิ่งเละไปเท่านั้น เรื่องนี้นักการเมืองบางคนจากเพื่อไทยที่ไปฮ่องกงบอกว่าทักษิณรู้ พจมานบ่น แต่ต้องทน เพราะเพรียวพันธ์ยังไม่พร้อม และบุญคลีไม่เอาด้วย
นายกรัฐมนตรีหญิงเป็นที่น่าสมเพชเวทนา และถูกหัวเราะเยาะในสายตาสื่อมวลชนต่างประเทศมากขึ้นเวลานี้สื่อเมืองนอก ขนานนามเธอว่า “แม่ตุ๊กตาบาร์บี้”แต่คนไทยเรียกเธอว่า “ตุ๊กตาเสียกบาล”และเริ่มมีตลกฝรั่งเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีหญิงของไทยออกมา บ้างแล้ว โดยเนื้อหาคล้ายๆ กับตลกที่ฝรั่งแต่งขึ้นมาดูแคลนความบ้องตื้นของแม่สาวผมบลอนด์-นมโต แต่ไม่มีสมอง …ลองอ่านดู…
From : UN, New York
Ambassador: How is the economy?
The Prime Minister OfThailand:
I don’t know I fly first class.
Ambassador : @_@ “
แต่ความโง่เง่าเต่าตุ่นเฟอะฟะของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ก็พอถูไถได้ในเรื่องแฟชั่นความงาม สมกับที่อดีตเพื่อนร่วมรุ่นของเธอหลายคนจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เล่าให้ฟัง ว่า “ยิ่งลักษณ์พูดเสมอๆ ว่า ที่มาเรียนวิชารัฐศาสตร์เพราะพ่อแม่และครอบครัวกำหนด แต่ถ้าเลือกทางเดินชีวิตตัวเองได้ เธออยากเข้าสู่วงการบันเทิง อยากเป็นดารา”
อย่าไปหวังอะไรกับผู้หญิงคนนี้ แค่เพียงระวังไม่ให้หล่อนไปทำเรื่องฉาวโฉ่อย่างที่เกิดในโฟร์ซีซั่นส์อีกก็ แล้วกันเพราะได้ยินมาว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเริ่มอ่อนอกอ่อนใจเนื่องจากนายใหญ่แสนสิริ คู่กรณีไม่ให้ความร่วมมือ แถมเอกสารที่นายกฯหญิงส่งไปให้ก็พิราบพิไรรำพันมาแค่กระดาษแผ่นเดียว แถมครึ่งหน้าด้วยซ้ำ
แต่ที่บ้าบอคอแตกยิ่งกว่าต้องยกให้ข่าวนักการเมืองข้าราชการ นักธุรกิจ บินไปกราบตีนทักษิณ เลียไข่กันถึงฮ่องกง ไม่ต้องพูดกันแล้วว่า เขาคือนักโทษหนีคดีหรือใครมีหน้าที่ต้องจับแล้วไม่จับเพราะสังคมวันนี้กราบ ไหว้วันทาทักษิณเหมือนเทพเจ้า เทวดา พระราชา คนที่ไปมาเล่าให้ฟังว่าบรรดาลูกไพร่ ลูกอำมาตย์เดินชนกันสนั่นเกาะ โรงแรมชั้นดี ร้านอาหารชั้นนำมีแต่คนพวกนี้พล่านไปหมดจนกระทั่งร้าน Sweet Dynasty แถบโอเชี่ยนเทอร์มินัล ใกล้ๆ กับโรงแรมมาร์โคโปโล มีสภาพเหมือนโรงอาหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจใหญ่มากมายนั่งกินปากมันเต็มพรึ่ด หนึ่งในนั้นคือ บิ๊กแจ๊ดและหวานใจวัยดึก ที่เดินตามทักษิณเหมือนขี้ติดตูด
งานเลี้ยงเลิกราแล้วที่ฮ่องกง บางคนได้ บางคนเสียแต่อารมณ์ “นายหญิง” เสียยิ่งกว่า เพราะลูกชายตัวดีดันไปเล่นไลน์กับเพื่อนสาวจอมแฉ แล้วเผลอเล่าว่านายแม่ควันออกหูหลังเห็น ภาพทักษิณนัวเนียกับสาวคราวลูกในปาร์ตี้ริมสระที่ฮ่องกงกับลุงเหลิม ถึงกับต่อสายโทร.ด่าเช็ดในเช้ารุ่งขึ้น ก่อนทักษิณโกยแน่บกลับลอนดอน
ที่นั่นทักษิณมีนัดอยู่ก่อนแล้วกับ “มือกฎหมาย”ใหญ่ ที่ “สมชาย แสวงการ” เล่าว่า กำลังดำเนินการปูทางทำเรื่องให้ทักษิณรอดคุกโดยเอาตัวมากักบริเวณในบ้าน แล้วติดกำไลฝังชิพที่ข้อเท้า จากนั้นก็ทำเรื่องปรองดอง และนิรโทษกรรมต่อไป
ฝ่ายทักษิณเรียกเกมนี้ว่า “ออง ซาน ซู จี โมเดล”แต่ฝ่ายเรามองเห็น “โฮเต็ล ระวันดา” อยากรู้รายละเอียดว่า เป็นไงต้องรอถาม “อุกฤษ มงคลนาวิน”
อัญชะลี ไพรีรัก
ที่มาของบทความ
apac news