บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เปิดสูตรรัฐบาล 'ยิ่งลักษณ์1'

เปิดสูตรรัฐบาล 'ยิ่งลักษณ์1' เพื่อไทย+ชาติไทยพัฒนา+พลังชล ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการออกมา ในการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.มีผู้มาใช้สิทธิ 30,987,801 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 65.99 ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ แม้จะต่ำกว่า ’เป้าหมาย" ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งวางไว้คือ ร้อยละ 70 ก็ตาม
   
ต้องถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนออกมาใช้สิทธิในปริมาณที่น่าพอใจ
   
ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า พรรคเพื่อไทยที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นผู้สมัครอันดับ 1 ได้รับคะแนนเสียงทั้ง 2 ระบบมาเป็นอันดับ 1 อย่างไม่เป็นทางการด้วยคะแนนเสียง 255 เสียง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์มาเป็นอันดับ 2 ด้วยคะแนนเสียง 164 เสียง ทั้งพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 คะแนนห่างกันเกือบ 100 คะแนน ขณะที่พรรคอันดับที่เหลือมีคะแนนน้อยมาก ไม่เพียงพอที่จะ "จับขั้ว" ทางการเมือง
   
ทำให้พรรคเพื่อไทยได้เป็น ’แกนนำ" ในการจัดตั้งรัฐบาลและสามารถที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้เพราะมีเสียงเกิน กึ่งหนึ่งคือเกิน 250 เสียง แต่ไม่เสถียรภาพทางการเมืองจึงต้องเป็นรัฐบาลและดึงพรรคการเมืองขนาดเล็กมา เข้าร่วม
   
แน่นอนว่ามี 2 พรรคการเมืองที่พรรคเพื่อไทยไม่จับขั้วแน่คือ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย
   
ในที่นี้พรรคเพื่อไทย ประกาศชวน พรรคชาติไทยพัฒนา ของ นายบรรหาร ศิลปอาชา และ พรรคพลังชล ของ นายสนธยา คุณปลื้ม ซึ่งจะทำให้เป็น ’รัฐบาลผสม 3 พรรค" ที่มีจำนวน283 เสียง
   
นี่คือสูตรของรัฐบาล ’ยิ่งลักษณ์ 1"
   
แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชาย ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย จะให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อผลทางการเมืองออกมาเช่นนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะต้องดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้จะเคยให้สัมภาษณ์ว่า นายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สมัครลำดับที่ 1
   
จะเป็นได้หรือที่ ’หวย" จะออกไปที่พรรคชาติไทยพัฒนาที่มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตรองนายกฯประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา
   
กรณีนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ และคงไม่เป็นไปตามคำทำนายของ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะชัยชนะส่วนหนึ่งของพรรคเพื่อไทยมาจากการความเป็นผู้หญิงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์
   
อีกคำทำนายคือ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้การเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ จำเป็นจะต้องแสดงความรับผิดชอบ  "ลาออก" จากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดียวกับที่ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนก่อนเคยสร้าง  ’บรรทัดฐาน" เอาไว้
   
หลังรู้ผลอย่างไม่เป็นทางการ นายอภิสิทธิ์ได้แถลงขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนและยอมรับความพ่ายแพ้ ช่วงหนึ่งนายอภิสิทธิ์ ระบุว่า จะรอผลอย่างเป็นทางการแต่คำตอบทางการเมืองอยู่ในใจแล้ว ขณะที่อีกประเด็นหนึ่งที่น่าจะเป็น ’ปัญหา" ในระยะเวลาอันใกล้คือ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า การที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้เสียงสนับสนุนในระบบบัญชีรายชื่อเกินกึ่งหนึ่งจึง ถือว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ฉันทามติให้มาทำเรื่องอย่างหนึ่งอย่างใดทาง การเมือง
   
นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันเหมือนที่เคยหาเสียงไว้ก่อนหน้านี้ว่า ’ไม่เห็นด้วย" และ ’ต่อต้าน" หากมีการนิรโทษกรรม ’ล้างผิด" ให้คนใดคนหนึ่งเป็นการเฉพาะ
   
ได้สูตรรัฐบาล ฟอร์มคณะรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภาและเริ่มบริหาร เหมือนทุกอย่างจะกลับมาสดใสอีกครั้งสำหรับพรรคเพื่อไทย น่าสนใจตรงที่ว่าพรรคเพื่อไทยจะเริ่มแตะ ’เผือกร้อน" ที่เป็นปัญหาอยู่ในตอนนี้เลยหรือไม่ เพราะคะแนนนิยมที่ได้มาน่าจะทำให้พรรคเพื่อไทย คิดจะ  ’ตีเหล็กตอนร้อน"
      
บทเรียนจากสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ครั้งเป็นพรรคพลังประชาชนเป็น ’บทเรียน" สำคัญที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องคิดให้หนัก ว่าอะไรควรจะมาก่อนและอะไรควรที่จะมาทีหลัง
     
ต้องตามดู บอกอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก พรรคเพื่อไทยวันนี้ ’ทางสะดวก" และอย่ารีบ ’สะดุด" ขาตัวเองเป็นอันขาด.
 


ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ Dailynews

มือปราบ



ข่าว​การ​เมือง หนังสือพิมพ์​แนวหน้า -- จันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2554 01:48:52 น.
ถืออยู่​ในมือท่านฉบับนี้คือ หนังสือพิมพ์​แนวหน้า ทุกบรรทัดตรง​ไปตรงมา..
..ผ่านพ้น​ไป​แล้วสำหรับ​การหย่อนบัตร​เลือกตั้งสมาชิกสภา​ผู้​แทนราษฎร(สส.)..
.."มือปราบ"ขอขอบพระคุณทุกๆ ​เสียงของพล​เมือง​ไทย​ผู้มีสิทธิ​เลือกตั้งที่มาลงคะ​แนน​ในหนนี้..
.. ​เช้านี้ ​ก็คงจะ​เห็นรางๆ ​แล้วว่า ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรค​เพื่อ​ไทย จ่อขึ้นนั่งนายกรัฐมนตรีคน​ใหม่ ของ​ไทย..

​แต่กว่าจะ​ถึงขั้นตอนนั้น ​ก็​เป็นหน้าที่ของคณะกรรม​การ​การ​เลือกตั้ง(กกต.)ที่จะรับรองผล​การ​เลือก ตั้ง​ใน 7 วัน (สำหรับ​เขตที่​ไม่มี​การคัดค้าน​หรือร้อง​เรียน)..
..ส่วน​เขตที่จะ​แจก​ใบ​แดง -​ใบ​เหลือง​หรือ​แขวน​ไว้ ​หรือปล่อย​เข้าสภา​ไปก่อน ​แล้วค่อยตามสอยทีหลัง ​ก็​เป็นสิทธิ์ของกกต.​ซึ่งนำ​โดย อภิชาต สุขัคคานนท์ จะพิจารณา..
..​แต่ที่หมดสิทธิ​เข้าสภาคือ จตุพร พรหมพันธุ์ จากพรรค​เพื่อ​ไทย จำ​เลยคดีก่อ​การร้าย​เผาบ้าน​เผา​เมือง ที่ตอนนี้นอนอยู​ใน​เรือนจำ..
..จตุพร​ผู้นี้​ไม่​ได้​ไปลงคะ​แนน​เมื่อวานนี้ถือว่าขาดคุณสมบัติ​ผู้สมัครสส...
..ที่สำคัญจตุพร ขาดจาก​ความ​เป็นสมาชิกพรรค​เพื่อ​ไทยตั้ง​แต่วัน​เดิน​เข้า​เรือนจำ ​ใครจะช่วยอุ้มหาม​ให้​เข้าสภามัน​ก็คงยากยิ่งกว่า​เข็นครก​ไป​โลกพระ จันทร์..
.."มือปราบ"​เชื่อว่าสังคมสวน​ใหญ่สบาย​ใจที่​ได้​เห็นตุ๊ดตู่​ผู้นี้อยู่​ในคุก ​ไม่ต้องออกมากำ​เริบ​เสิบสาน​เขย่าขวัญคนกรุง..
..​เพื่อนร่วมรุ่น​เผาบ้าน​เผา​เมือง​ไม่ว่าจะ​เป็นณัฐวุฒิ ​ใสย​เกื้อ,ก่อ​แก้ว พิกุลทอง,ขวัญชัย ​ไพรพนา ฯลฯ ถูกขังคนละ​เกือบปีก่อน​ได้รับ​การประกันตัว ..
..จตุพร ​เพิ่ง​ได้ลิ้มรสคุก​แค่​เดือน​เดียว ​ก็ควรจะ​ใช้​เวลาอยู่​ในห้องขัง​เหมือนๆ กับคนอื่น จะ​ได้​ไม่ถูกกล่าวหาว่า 2 มาตราฐาน..
..​หรือถ้าจะ​ทำสถิติอยู่​ในห้องขัง​ให้มากกว่านั้น ​ก็จะ​เป็นประ​โยชน์ต่อบ้าน​เมือง​เป็นอย่างมาก..
..รัฐธรรมนูญ​แห่งราชอาณาจักร​ไทย พ.ศ.2550 มาตรา 172 ระบุบุว่า ​ให้สภา​ผู้​แทนราษฎร พิจารณา​ให้​ความ​เห็นชอบบุคคล​ซึ่งสมควร ​ได้รับ​แต่งตั้ง​เป็นนายกรัฐมนตรี ​ให้​แล้ว​เสร็จภาย​ในสามสิบวันนับ​แต่มี​การ​เรียกประชุมรัฐสภา​เป็นครั้ง​ แรก..
..​การ​เสนอชื่อบุคคล​ซึ่งสมควร ​ได้รับ​แต่งตั้ง​เป็นนายกรัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง ต้องมีสมาชิกสภา​ผู้​แทนราษฎร​ไม่น้อยกว่าหนึ่ง​ในห้าของจำนวนสมาชิก​ทั้ง หมด ​เท่าที่มีอยู่ของสภา​ผู้​แทนราษฎรรับรอง..
..มติของสภา​ผู้​แทนราษฎรที่​เห็นชอบ​ใน​การ​แต่งตั้งบุคคล​ใด​ให้​เป็น นายกรัฐมนตรี ต้องมีคะ​แนน​เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก​ทั้งหมด​เท่าที่มีอยู่ ของสภา​ผู้​แทนราษฎร ​การลงมติ​ในกรณี​เช่นว่านี้​ให้กระ​ทำ​โดย​การลงคะ​แนน​โดย​เปิด​เผย..
...​ในสภา​ผู้​แทนราษฎรกฎหมายกำหนด​ให้มี สส.​ทั้งระบบ​เขต ระบบสัดส่วน จำนวน 500 คน ถ้า พรรค​ใดพรรคหนึ่ง​ได้​เกิน 250 ​เสียง ย่อมหมาย​ความว่าจัดตั้งรัฐบาล​ได้​เลย..
..​แต่ถ้า​ได้​เสียงต่ำกว่า 250 ​เสียง ​แม้จะ​เป็นจำนวน​เสียงที่มากกว่าพรรคอื่นทุกพรรค ​ก็​ไม่จำ​เป็นต้อง​เป็น​แกนนำจัดตั้งรัฐบาล..
..​แต่ขึ้นอยู่กับว่า​ใครสามารถรวบรวม​เสียง สส.​ในสภา ​ได้มากกว่ากัน..
..​แต่ส่วน​ใหญ่​แล้ว​เขาจะ​ให้พรรคที่​ได้คะ​แนน​เสียงมากที่สุดฟอร์ม รัฐบาลก่อน ​และถ้า​ทำ​ไม่​ได้ จัดงาน​เลี้ยง​แล้ว ​ไม่มี​ใคร​ไปร่วมงาน ​เพราะขยะ​แขยง ​ก็ต้อง​ให้พรรคอื่นฟอร์มรัฐบาลต่อ​ไป..
..​ซึ่ง​ไม่จำ​เป็นว่าพรรคที่​ได้​เสียงข้างมาก​แต่ชนะ​ไม่ขาดจะ​ได้จัด ตั้งรัฐบล กระนั้น​ก็ตาม​เรื่องนี้ต้องค่อยๆ ติดตาม ​เพราะราตรีนี้ยังอีกยาว​ไกล ปู-ยิ่งลักษณ์ อาจจะกลาย​เป็นนารีตกม้าขาว​ก็​ได้..
..บรรทัดนี้บรรดา​ผู้สมัคร หัวคะ​แนน ​ไม่ว่าจะ​เป็นพรรค​เล็ก พรรค​ใหญ่ ที่​ไปจ้าง​ทำป้าย จ้างรถ​แห่หา​เสียง จ้างหน้าม้าคอยติดตาม ค่า​แม่ครัว ​เด็กวิ่งซื้อ​โอ​เลี้ยง ​หรือจ้างวัยรุ่น​ให้​ไปพังป้ายฝ่ายตรงข้าม ต้องจ่าย​เงิน​ให้ครบนะครับ ประ​เดี๋ยวจะมี​การประจานกันภายหลัง..
..​เพราะก่อนหน้านี้​เคย​เห็น​เป็นตัวอย่างคือ ​เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2552 นายอดิศราช ธรรมพิทักษ์ ผอ.ศูนย์​การ​เลือกตั้งพรรค​เพื่อ​ไทย ​เขต 1 สุราษฎร์ธานี มาติดตาม​เงินค่า​ทำป้ายค่า​ใช้จ่าย​การ​เลือกตั้งที่หน้าพรรค​เพื่อ​ไทย ที่กรุง​เทพฯ ..
..​แต่​แทนที่อดิศราช จะ​ได้​เงินคืน กลับถูก ​เมธี อมรวุฒิกุล ​แกนนำ​เสื้อ​แดงที่อยู่​ในพรรค​เพื่อ​ไทย​แทง​เข้า ประ​เคนหมัด อัป​เปอร์คัต จน หน้าตาปูดบวม..
..ผศ.ลีนา ลิ่มอภิชาต รองอธิ​การบดีมหาวิทยาลัยรามคำ​แหง(มร.)ฝากประชาสัมพันธ์ ​เชิญชวน​เจ้าของหอพัก ​ทั้งที่ ราม1(บางกะบิ),ราม2(บางนา)ร่วม​โครง​การ"หอพักติดตาว"สมัคร​ได้​ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม รายละ​เอียด www.ru.ac.th ​หรือ​โทร 0-2310-8045-7 สวัสดีครับ
มือปราบ

เรื่องจริงของการเลือกตั้งไทย **เงิน** ซื้อได้เสมอ



แม้ผลการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 จะออกมาเกือบ 100% และ เห็นได้ชัดว่า พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลแน่นอน หลังจากที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมายอมรับความพ่ายแพ้(เลือกตั้ง) และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมรับไม้ต่อเพื่อ “เดินหน้าประเทศไทย” ส่วนจะเดินไปแบบไหนอีกเรื่องหนึ่ง

สงครามบนสนามเลือกตั้งจบลงหลังปิดหีบ แต่สงครามสื่อกลับเปิดฉากอย่างเร่าร้อน!!(ปานนั้นเลย)
แต่ ละช่อง แต่ละสถานี รายงานคะแนนและวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งอย่างเมามัน ชิงความไวในการรายงาน อวดอ้างเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้พันธมิตรร่วมภารกิจระดับบิ๊กในวงการสื่อสารและสื่อ เจาะสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องที่จะทำเรทติ้งให้สถานี ถึงขั้นบุคคลนั้นมีตำแหน่งเป็น “นักโทษ” ก็มิวายเว้น เพราะในใจท่องได้อย่างเดียว “เพื่อเรทติ้ง” ถูกต้อง ผิดถูกชั่วดี เว้นวรรคไว้ก่อน
แน่ นอน นับจากนี้ไป สื่อจะโฟกัสไปที่ ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย พรรคเพื่อไทย การฟอร์มรัฐบาล ใครจะนั่งตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงไหน ยาวไปจนถึงการประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. และการประชุมรัฐสภา
และ หลงระเริงกับประเด็นใหม่ ๆ ทางการเมืองตามแต่พรรคการเมือง และนักการเมืองจะชักพาไปให้สื่อได้เล่นตาม เพียงหวังชิงเรทติ้ง รวดเร็วทันใจ ได้ตามกระแสข่าวเข้าไว้
หาก จะหยุดสักนิด ก่อนจะมองไปข้างหน้า ลองหันมามองข้างหลังบ้างว่า สื่อและสังคมไทยพบและเห็นอะไรที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาร่วม 40 กว่าวัน ที่ผ่านมา 
เรา พบว่า มีพรรคการเมือง ที่ใช้เงินมหาศาลในการระดมมวลชนเพื่อมาฟังปราศรัยให้มาก เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่ากระแสนิยมดี โพลบางสำนักโอ่ว่าทำโพลด้วยงบประมาณทุนไม่ต่ำกว่า 10-20 ล้าน สื่อทีวี หนังสือพิมพ์ ที่รายงานข่าวเสมือนว่าเสนอรอบด้านหลายพรรคเพื่อความเป็นธรรมและไม่ผิด กฎหมาย ในความเป็นจริงยังเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ ทั้งทิศทางข่าว ขนาดรูปที่ขึ้นหน้าหนึ่ง น้ำหนักการสัมภาษณ์ และการชี้นำสารพัด ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันเกิดขึ้นตามราคาแห่งอามิสทั้งนั้น
กฎ มีไว้ฝ่าฝืน หาใช่มีไว้เพื่อถือปฏิบัติไม่
กกต. ออกกฎมากมาย เพียงหวังให้เกิดความเป็นธรรม เสมอภาค ให้เกิดการแข่งขันอย่างชอบธรรม สุดท้าย เป็นได้เพียง “กติกา” ที่มีไว้ให้ “ฝ่าฝืน” งบหาเสียงหัวละ 1.5 ล้านบาทนั้น ใช้จริงบางพรรคเขาใช้ไปเท่าไหร่
จำนวน ป้าย จำนวนสิ่งพิมพ์ จำนวนรถแห่ และยังรวมการซื้อเสียง ครั้นพอส่งบัญชีค่าใช้จ่ายกลับอยู่ในวงเงินที่จำกัดทั้งสิ้น เพราะบัญชีเลือกตั้ง บอกได้เลยว่า “แต่ง” เอาทั้งนั้น มีแต่ กกต. เท่านั้นแหละที่ “เชื่อ”
แล้วมัน “สุจริต โปร่งใส และ เที่ยงธรรม” ตามสโลแกนที่ กกต.บอกไว้ตรงไหน???? เป็นได้แค่ “เสือกระดาษ” นั่นแหละว้า....
หลังผลการเลือกตั้งออกมา ก็หวังว่าสื่อจะหันมาติดตามเรื่องนี้บ้าง กกต. จะสอยได้กี่คน การทุจริต ทำผิด “กติกา” เพื่อให้ได้มาแห่งการชนะแบบถล่มทลายซึ่งไม่เชื่อเลยว่าจะได้มาด้วย “ศรัทธา” อย่างเดียว
เพราะวันนี้ “ประเทศไทย” เงินยังซื้อได้ เสมอ...

ปูดข้อตกลงลับ3ฝ่าย พลังพิเศษยอมเพื่อไทยตั้งรัฐบาล แลกนิรโทษกรรมมาร์ค+ฆาตกร91ศพ-หยุดหมิ่น


3 ฝ่ายได้หารือกันถึงเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระชุดใหม่ ซึ่งจะให้ข้อเสนอแนะในเรื่องการปรองดอง รวมถึงการนิรโทษกรรมแก่ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมเมื่อปีที่แล้ว และกองทัพ โดยข้อเสนอแนะดังกล่าวจะถูกเสนอให้มีการลงประชามติ ทั้งนี้ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลทักษิณ ได้ตอบรับที่จะเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้แล้ว




Shawn W Crispin เขียนรายงานข่าวเรื่อง"เบื้องหลังข้อตกลงการเลือกตั้งในไทย"ลงใน เวบไซต์Asiatimesเมื่อ วันที่ 30 มิถุนายน อ้างแหล่งข่าวว่ามีการเปิดเจรจากันระหว่างนายวัฒนา เมืองสุขคนของทักษิณ กับท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณรัฐมนตรีกลาโหมที่บรูไนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

และได้หารือกันอีกหลายครั้ง รวมทั้งที่นครดูไบ ซึ่งทักษิณลี้ภัยอยู่ โดยกองทัพตกลงที่จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง แลกกับคำมั่นสัญญาของทักษิณที่จะไม่แก้แค้นทางการเมือง หรือ ดำเนินคดีกับบรรดาผู้นำทหารที่อยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจเมื่อปี 2549 และเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปีที่แล้ว และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการของกองทัพ เช่น การแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นคนสนิทของราชสำนักจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีก 3 ปี รวมทั้งฝ่ายทักษิณจะต้องห้ามปรามพวกที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ด้วย โดยเฉพาะบรรดาคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศไทย

นอกจากนี้ทั้ง 3 ฝ่ายได้หารือกันถึงเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระชุดใหม่ ซึ่งจะให้ข้อเสนอแนะในเรื่องการปรองดอง รวมถึงการนิรโทษกรรมแก่ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมเมื่อปีที่แล้ว และกองทัพ โดยข้อเสนอแนะดังกล่าวจะถูกเสนอให้มีการลงประชามติ ทั้งนี้ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลทักษิณ ได้ตอบรับที่จะเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้แล้ว

จากข่าวดังกล่าว มีความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

ยิ่งลักษณ์อ้างเป็นเพียงข่าวลือ-สุรเกียรติ์บอกไม่รู้เรื่อง

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวให้สัมภาษณ์วันนี้ว่า เป็นเพียงข่าวลือ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเมืองแล้ว

นายสุรเกียรติ์ ให้สัมภาษณ์TPBS กล่าวปฏิเสธข่าวเรื่องที่ว่า เขารับตำแหน่งเป็นประธานการปรองดองชุดใหม่ เพราะคอป.ชุดศ.คณิต ณ นคร ก็ดำเนินการได้ดีอยู่แล้ว ก็ควรให้ดำเนินการต่อไป
ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ key personของการเจรจาต่อรองครั้งนี้

ต่อมาหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ฉบับ วันที่ 29 มิถุนายน นำเสนอรายงานข่าวอ้างอิงจากข่าวดังกล่าวในหัวข้อเรื่อง ปูดปฏิญญาบรูไน ‘ทักษิณ-กองทัพ’ตกลงซูเอี๋ยพท.ตั้งรัฐบาล-เลิกโจมตีเจ้า

ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คของเขาให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว ดังต่อไปนี้

บทความล่าสุดของ Shawn Crispin เรื่อง "การตกลงลับ" ระหว่าง ทักษิณ-กองทัพ และ yyyyy ผมขอแนะนำ ให้หาฉบับจริงอ่านดีกว่า เพราะละเอียดกว่า ตั้งแต่ว่า ใครบ้างที่เข้าเจรจา (ไทยโพสต์ เสนอในลักษณะ "เจรจา 2 ฝ่าย" จริงๆ Crispin เขียนว่า 3 ฝ่าย แต่ ไทยโพสต์ เซ็นเซอร์ตัวเอง)

Crispin บอกว่าการประชุม เจรจาลับที่ว่านี้ เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาฯ ปีนี้ ที่บรูไน หลังกุมภาฯ มีกรณ๊สำคัญคือ การชุมนุมครบรอบ 10 เมษา (ที่จตุพร และ นปช.ถูกตั้งข้อหา "หมิ่น") และเกิดการ "ตบเท้า" ของทหารติดกันถึง 3 สัปดาห์

Crispin เองเขียนไว้ยาวเหมือนกันในบทความวันนี้ว่า การเจรจาตกลงในลักษณะนี้ ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่ล้มเหลวภายหลัง จากการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึง หรือทั้งสองไม่ทำตามข้อตกลง และที่ผ่านมาในอดีตการเจรจาลักษณะนี้ก็ "ล้มเหลว" ภายหลังบ่อย (Crispin ใช้คำว่า meltdown)

โดยส่วนตัว ผมสงสัยว่า ถ้ามีการเจรจาที่ว่าจริงๆ เหตุการณ์ช่วงเมษา ที่ผ่านมา น่าจะทำให้ meltdown ไปแล้ว แต่ Crispin ก็อ้างว่า การที่ นปช. ไม่รณรงค์ประเด็นจตุพรติดคุกอยู่นี้ หรือที่ ธิดา ออกมายืนยันเรื่อง constitutional monarchy (ผมไม่แน่ใจเขาหมายถึงครั้งไหน ที่ว่า อ.ธิดา พูดเรื่องนี้) เป็นการ "ส่งซิก" ว่า ฝ่ายทักษิณ ยังคงยึดมั่นกับข้อตกลงของการเจรจาอยู่

........

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน Crispin เขียนบทความเรื่องหนึ่งทำนอง "ปูด" เรื่องการเจรจาลับ ระหว่างฝ่ายทักษิณกับฝ่าย "establishment" เหมือนกัน มีข้อมูลรูปธรรมบางอันคลาดเคลื่อน เช่น การพูดถึง บ.ก.ลายจุด ... แต่เรื่องเนื้อหาของการเจรจา (แลกเปลี่ยนระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว แกนนำ นปช.ในคุก กับ การไม่ยกระดับการเคลื่อนไหว ของ นปช. เพื่อเข้าสู่ "โหมดเลือกตั้ง") ก็มีส่วน "เข้าเค้า" อยู่ และผมก็ได้ยินมาทำนองเดียวกัน (แต่บางเรื่องสำคัญ อย่างการอนุญาติให้ทักษิณเคลื่อนย้ายเงินจำนวนหนึงที่ถูกอายัดไว้ในบัญชี ธนาคารออกไป ผมไม่สามารถทราบได้)

ที่ผมอยากเสนอคือ บทความ "ปูด" ในลักษณะนี้ ก็มีส่วนคล้ายพวก "ข่าวกรอง" ที่มีอยู่ใน โทรเลขวิกิลีกส์ คือ มักจะมีด้านที่ตรงความจริงบางส่วน แต่ไม่ทั้งหมด

เฉพาะเรื่องล่าสุดนี้ อย่างที่ผมเขียนข้างต้นว่า ผมออกจะรู้สึกว่า ถ้ามีการเจรจาอะไรกันจริง เหตุการณ์ช่วง เมษายน ก็น่าจะทำให้ deal off ไปแล้วมากกว่า (แต่ในส่วนของประเด็นที่ ทำไม นปช.ไม่เคลื่อนไหวกรณีจตุพร จะถือเป็นการ "ส่งซิ้ก" ว่า ยังคงยึดข้อตกลงของฝ่ายทักษิณ ตามที่ Crispin อ้างหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบ)
จบ.
******
ข่าวไทยโพสต์เสนอ ในหัวข้อข่าวเรื่อง ปูดปฏิญญาบรูไน ‘ทักษิณ-กองทัพ’ตกลงซูเอี๋ยพท.ตั้งรัฐบาล-เลิกโจมตีเจ้า

"ฌอน คริสพิน" ปูดแผนเกี้ยเซี้ย อ้าง "วัฒนา" ตัวแทน "ทักษิณ" ดอดเจรจาลับกับ "ปิ๊กป้อม" ที่บรูไนเปิดทางเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล แลกไม่ดำเนินคดีผู้นำกองทัพ ให้ทักษิณปรามพวกต่อต้านสถาบัน ระบุ "สุรเกียรติ์" รับนั่งประธานปรองดอง

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เอเชียไทมส์ ได้เผยแพร่รายงานข่าวเจาะ โดยฌอน คริสพิน ผู้สื่อข่าวชาวต่างชาติที่คร่ำหวอดกับสถานการณ์ของประเทศไทยมานานนับทศวรรษ ภายใต้ชื่อเรื่อง "ข้อตกลงเบื้องหลังการเลือกตั้งของไทย" ระบุว่า กองทัพ และอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ได้เปิดการเจรจาลับกันมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าทหารจะไม่เข้ายึดอำนาจ แต่จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล โดยแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย

รายงานได้อ้างแหล่งข่าววงในระบุว่า นายวัฒนา เมืองสุข ในฐานะตัวแทนของทักษิณ และรัฐมนตรีกลาโหม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เจรจาต่อรองกันที่ประเทศบรูไนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และได้หารือกันอีกหลายครั้ง รวมทั้งที่นครดูไบ โดยกองทัพตกลงที่จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง แลกกับคำมั่นสัญญาของทักษิณที่จะไม่แก้แค้นทางการเมือง หรือ ดำเนินคดีกับบรรดาผู้นำทหารที่อยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจเมื่อปี 2549 และเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปีที่แล้ว

และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการของกองทัพ เช่น การแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นคนสนิทของราชสำนักจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีก 3 ปี รวมทั้งฝ่ายทักษิณจะต้องห้ามปรามพวกที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ด้วย โดยเฉพาะบรรดาคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศไทย

นอกจากนี้ทั้ง 3 ฝ่ายได้หารือกันถึงเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระชุดใหม่ ซึ่งจะให้ข้อเสนอแนะในเรื่องการปรองดอง รวมถึงการนิรโทษกรรมแก่ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมเมื่อปีที่แล้ว และกองทัพ โดยข้อเสนอแนะดังกล่าวจะถูกเสนอให้มีการลงประชามติ ทั้งนี้ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลทักษิณ ได้ตอบรับที่จะเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้แล้ว

อย่างไรก็ดี รายงานข่าวชิ้นนี้ระบุว่า ยังไม่แน่ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามทักษิณมีความเป็นเอกภาพหรือไม่ในการทำข้อตกลงกับ ทักษิณเสนอให้นิรโทษกรรมแก่ทักษิณในคดีคอรัปชั่น และเปิดทางให้เขาเดินทางกลับประเทศ

มีรายงานว่า รายงานข่าวชิ้นดังกล่าวสะพัดมา 2 สัปดาห์แล้ว เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่าเพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

******
จากข่าวดังกล่าว มีความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

ยิ่งลักษณ์อ้างเป็นเพียงข่าวลือ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวให้สัมภาษณ์วันนี้ว่า เป็นเพียงข่าวลือ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเมืองแล้ว

นายสุรเกียรติ์ กล่าวปฏิเสธข่าวเรื่องที่ว่าเขารับตำแหน่งเป็นประธานการปรองดองชุดใหม่ เพราะคอป.ชุดศ.คณิต ณ นคร ก็ดำเนินการได้ดีอยู่แล้ว ควรให้เดินหน้าต่อไป

กกต.เผยบัตรเสียอื้อเกือบ 4 ล้าน-"โหวตโน"ทะลุ 2 ล้านคะแนน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กรกฎาคม 2554 00:09 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

กกต.นับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการทั่วประเทศกว่าร้อยละ 90% เพื่อไทยคว้า ส.ส.รวม 262 ที่นั่ง ปชป.ได้ 161 ที่นั่ง ยอดผู้มาใช้สิทธิกว่าร้อยละ 72 ขณะบัตรเสียอื้อเกือบ 4 ล้านใบ ด้านคะแนนโหวตโนทั้งสองระบบรวมกว่า 2 ล้าน ภูเก็ตสูงสุดเกือบร้อยละ 9
      
       ศูนย์ประสานการรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.อย่าง ไม่เป็นทางการ ได้รายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งทั่วไปที่มีการนับคะแนนทั่วประเทศจากทั้ง หมด 94,221 หน่วย ณ เวลา 21.00 น.โดยปรากฎว่า ในแบบแบ่งเขตนับไปแล้วร้อยละ 96.14 แบบบัญชีรายชื่อนับไปแล้วร้อยละ 93.8 โดยมีพรรคการเมือง11 พรรคการเมืองที่คาดว่าจะได้ ส.ส.ดังนี้ พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ส.ส.262 คน จากแบ่งเขต 203 คน บัญชีรายชื่อ 59 คน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ ส.ส. 161 คน จากแบ่งเขต 116 คน บัญชีรายชื่อ 45 คน พรรคภูมิใจไทย (ภท.)ได้ส.ส.34 คนจากแบ่งเขต 29 คน บัญชีรายชื่อ 5 คน
      
       พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้ ส.ส.19 คนจากแบ่งเขต 15 คน บัญชีรายชื่อ 4 คน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) ได้ ส.ส. 7 คนจากแบ่งเขต 5 คน บัญชีรายชื่อ 2 พรรคพลังชล (พช.)ได้ ส.ส.7 คนจากแบ่งเขต 6 คน บัญชีรายชื่อ 1 คน รวม 7คน พรรครักประเทศไทย (ร.ป.ท.) ได้ส.ส. 4 คนจากบัญชีรายชื่อ 4 คน พรรคมาตุภูมิ (มภ) ได้ส.ส.2คนจากแบ่งเขต 1 คน บัญชีรายชื่อ 1 คน พรรคมหาชน (พมช.)ได้ส.ส. 1 คนจากบัญชีรายชื่อ 1 คน พรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.) ได้ส.ส.1 คนจากบัญชีรายชื่อ 1 คน พรรครักษ์สันติ (รส.)ได้ส.ส.1 คนจากบัญชีรายชื่อ 1 คน
      
       ส่วนภาพรวมผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศอย่างไม่เป็นทางการมีจำนวน 47,004,923 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 34,111,318 คน คิดเป็นร้อยละ 72.57 มีบัตรเสียแบ่งเป็นแบ่งเขต 1,962,077 บัตรคิดเป็นร้อยละ 5.75 บัญชีรายชื่อ 1,627,901 บัตรคิดเป็นร้อยละ 4.77 และจำนวนบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน แบบแบ่งเขต มี 1,376,672 บัตร หรือคิดเป็นร้อยละ 4.04 แบบบัญชีรายชื่อ 931,336 บัตร หรือคิดเป็นร้อยละ 2.73
      
       สำหรับจังหวัดที่ผู้มาใช้สิทธิมากที่สุด 5จังหวัดแรก 1.ลำพูน 276,260คนหรือร้อยละ 86.64 ,2.ตรัง 360,333 คนหรือร้อยละ 81.97 ,3.เชียงใหม่ 981,155 คน หรือร้อยละ 81.27 ,4.สตูล 165,232 หรือร้อยละ 80.74 และ 5.ราชบุรี 506,809 คนหรือร้อยละ 80.73
      
       ส่วนจังหวัดที่มีบัตรเสียมากที่สุด 5 จังหวัดแรก 1.แม่ฮ่องสอน 12,705 คน หรือร้อยละ 10.9 , 2.ตาก 26,544 คน 10.52 , 3.ยะลา 25,027 คน หรือร้อยละ 10.24 , 4.พัทลุง 29,714 คน หรือร้อยละ 9.84 และ 5.ปัตตานี 29,568 คนหรือร้อยละ 9.12 และ
      
       บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนมากที่สุด 5 จังหวัดแรก 1.ภูเก็ต 15,996 คน หรือร้อยละ 8.66 , 2.ระนอง 6,854 คนหรือร้อยละ 7.78 ,3.ชุมพร 19,000 คน หรือร้อยละ 6.82 ,4.นครปฐม 34,443 คน หรือร้อยละ 6.82 และ 5.เพชรบุรี 24,144 คนหรือร้อยละ 6.62
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง