วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554
ไหน?ใครว่าไม่มีหมายจับไง? แล้วนี่มันอะไรสัญญาซื้อขายที่ดินกรมตำรวจหรือไง?
หมายจับ
ของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑ ระหว่าง อัยการสูงสุด โจทย์ กับ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ที่๑ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ ๒
หมายถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ด้วย พันตำรวจโททักษิณ ชินวัฒร จำเลยที่ ๑ ในคดีเรื่องนี้ต้องคำพิพากษาของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า การกระทำผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๐๐(๑) วรรคสาม และมาตรา ๑๒๒ วรรคหนึ่ง ให้ลงโทษจำคุกมีกำหนด ๒ ปี แล้วหลบหนีไม่ได้รับโทษ
เพราะฉะนั้นให้ท่านจับตัว พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ ๑ เชื้อชาต ไทย สัญชาติ ไทย อาชีพ นักธุรกิจ อยู่บ้านเลขที่ ๔๗๒ หมู่ที่ ๑ ถนน ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรอก/ซอย จรัญสนิทวงศ์ ๖๙ ใกล้เคียง – ตำบล/แขว บางพลัด อำเภอ/เขต บางพลัด จังหวัด กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ – มาส่งที่ศาลนี้ภายในกำหนดอายุความ ๑๐ ปี นับตั้งแต่ วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ลงชื่อ นาย.......................ผู้พิพากษา
เจรจาลับ เรื่องทรัพยากรทางทะเล
โดยดร.ไก่ Tanond เมื่อ 2 กันยายน 2011 เวลา 13:07 น.
ผมเชื่อว่าเมื่อข่าวนี้ออกมา ผู้คนที่ได้ยินคงมีความคิดเห็นกันไปแบบหลากหลาย ตั้งแต่ไม่เชื่อ ไม่เข้าใจ เห็นเป็นการเอาคืนจากรัฐบาลชุดนี้ กระทั่งอาจเห็นเป็นการเปิดโปงฝ่ายพรรคปชป.ในทางการเมือง
ทว่าสำหรับคนที่ไม่อิงการเมือง ไม่สนใจใคร่ดีกับพวกนักการเมืองเช่นผม ที่ไม่ได้พิจารณาแต่ที่ปลายเหตุ หรือ มองจากเพียงคำพูดของฮุนเซน ผมจึงมีความคิดเห็นเช่นนี้ครับ -
1.สิ่งแรกที่เขามาในสมอง ก็คือ ลิเกจัดฉากพร้อมจะโหมโรงกันอีกแล้ว - ทำไม? หากได้ย้อนกลับไปดูเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล ที่ได้ถูกกล่าวขานว่า เป็นการขายชาติ เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนปี2542 จากยุคสมัย "โชติช่วงชัชวาลย์" มาจนถึงวันนี้ เราจะพบว่าประเด็นปัญหานี้เริ่มมาจากปชป.ก่อน ด้วยการออก MOU43 ด้วยเหตุผลปริศนา ในช่วงเวลาที่พลังงานเริ่มมีการบุกเบิกมาอย่างต่อเนื่อง และปชป.เองก็คือพรรคที่กุมอำนาจทางการเมือง มาอย่างต่อเนื่องในยุคสมัยนั้น ทว่าเมื่ออำนาจต้องสะดุดหยุดลงด้วยขั้วอำนาจใหม่ รัฐบาลพรรคไทยรักไทย แม้ในช่วงที่ตั้งไข่ ในปี2544 ก็ยังจับประเด็นนี้มาต่อยอดด้วยการออก MOU44 สานต่อเป้าหมายของตนกับเขมรมาอย่างต่อเนื่อง จนอำนาจต้องมาสะดุดหยุดลง เมื่อปี49 ทว่าความพยายามที่จะปิดงาน ก็มิได้ห่างหายไปแม้นายใหญ่จะไม่ได้อยู่ทำเอง งานต่างๆก็ยังถูกสานต่อด้วยนายกนอมินีคนอื่น ..แต่ด้วยสภาพการเมืองที่อ่อนไหวอย่างหนัก ขั้วอำนาจฝ่ายทักษิณจึงจำต้องอำลาอำนาจไปอีกครั้ง มีปชป.กลับมามีอำนาจอีก
2ปีกว่า3ปีที่ผ่านมานี้ จึงเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ของกรณีที่อาจเรียกได้ว่า "การร่วมกันแย่งชิงทรัพยากรทางทะเล" ที่ถูกเปิดโปงอย่างแพร่หลาย จากการชุนนุมของพันธมิตร จากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นที่ได้ทำให้เราพอเห็นภาพกันได้ คำถามจึงมีอยู่ว่า.. ก็ในเมื่อตัวแทนจากขั้วอำนาจทาง 2 ฝ่าย ต่างฝ่ายก็ต่างเข้าไปเจรจาลับกับคนๆเดียวกันทั้งสิ้น นั่นก็คือกับฮุนเซน เช่นนี้แล้ว ฮุนเซนจึงเป็นคนๆเดียวที่กุมความลับของทุกฝ่ายไว้ และมูลเหตุของการเจรจาลับเหล่านั้น ..เป็นการเจรจาเพื่อให้ฮุนเซน "เลือกข้าง" หรือ เป็นการเจรจาเพื่อ"สานต่อผลประโยชน์ร่วมกัน"?
ถ้าในข้อ1. ที่ผมเห็นว่าเป็นลิเกจัดฉาก แน่นอนครับ ความคิดเห็นของผม ต้องมาจากการให้น้ำหนักในการสานต่อผลประโยชน์ระหว่างกันมากกว่า ด้วยเหตุผลง่ายๆ ..ก็ในเมื่อมูลค่าของผลประโยชน์มันมหาศาลเสียขนาดนั้น ทำไมจะต้องไปแย่งชิงกัน? ร่วมกันทำร่วมกันเดิน น่าจะยิ่งทำให้เป้าหมายเป็นจริงขึ้นมาได้ง่ายกว่า และสมประโยชน์กันทุกฝ่าย น่าจะชัวร์กว่าแย่งชิงกันเอง ด้วยบริบทของอำนาจหน้าที่ที่ก็ผลัดกันแวะเวียนไปมา ..
2.แต่หากว่าข้อ1 ไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด การเปิดประเด็นเรื่องการเจรจาลับของสุเทพนั้น คงไม่สามารถจะชี้ไปทางอื่นใดได้ นอกจากด้วยเหตุผลของการที่ฮุนเซนต้องการ "เลือกข้าง" ที่แฝงไว้ด้วยการหักหลังขั้วปชป.
มองกันยังไงๆก็หนีไม่พ้นตัวแปรนำ 2 ตัวนี้หรอกครับ 1.ถ้าไม่เล่นละครตบตา ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติหน่อย เพื่อสานต่อเรื่องต่างๆให้จบเพื่อปิดงาน หรือไม่ก็ 2.ฮุนเซนเลือกข้าง หรือ ต้องการเตะทิ้งขั้วปชป.ออกไป มันก็มีอยู่เท่านี้แหละครับ ผมว่า? ต่างกับพวกเราประชาชนที่ ฝ่ายการเมืองปกปิด โกหกหลอกลวงมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีหลายฝ่าย ที่ไม่ใคร่จะใส่ใจในเรื่องสำคัญนี้ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของพวกเราโดยตรงทั้งสิ้น ผมเชื่อว่าความจริงมันกำลังจะถูกงัดถูกแซะออกมา ในที่แจ้งในอนาคตอันใกล้นี้ครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน