บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

“ประชานิยมแม้ว” รอบใหม่ป่วน เปิดศึกดะไม่เว้น ทุนเสื้อแดง!!


ผ่าประเด็นร้อน
       
      
       ไม่ น่าเชื่อว่ายังไม่ทันเริ่มงานบริหารบ้านเมืองอย่างเป็น เรื่องเป็นราว แต่กลับกลายเป็นว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย จนทำให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีแนวโน้มจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กำลังจะพบกับแรงต่อต้านอย่างขนานใหญ่จากนโยบายประชานิยมที่ก่อนหน้านี้เคย ถูกอกถูกใจของชาวบ้านรากหญ้าทั่วบ้านทั่วเมืองมาแล้ว
      
       ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงได้พลิกกลับตาลปัตรแบบนี้!!
      
       แม้ว่าล่าสุดทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะยังไม่รับรองผลการเลือกตั้งของเธอรวมไปถึงคนอื่นก็ตาม แต่เชื่อว่าในที่สุดแล้วคงจะต้องให้ผ่านไปก่อน ในวันพิจารณารอบสองวันที่ 19 กรกฎาคมนี้อย่างแน่นอน
      
       อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องแยกมาพิจารณาก็คือ ทำไมนโยบายประชานิยมเที่ยวนี้ จึงทำท่ามีปัญหา มีปรากฏการณ์ที่ส่อให้เห็นว่าจะแรงต่อต้านและเกิดผลกระทบในวงกว้างได้ขนาดนี้ ก็ ต้องบอกว่าเที่ยวนี้เป็นนโยบายประชานิยมที่ไปกระทบกับภาคเอกชนเป็นหลัก ซึ่งผิดไปจากคราวที่แล้วที่เกือบทั้งหมดเกี่ยวข้องกับภาครัฐ และการใช้งบประมาณจากนโยบายภาครัฐเท่านั้น และเกี่ยวข้องกับชาวบ้านระดับล่างโดยตรง
      
       ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คือ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการพักหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน หวยบนดิน หรือต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลนอมินี สมัคร-สมชาย ที่นำร่องในเรื่องโครงการรถไฟ-รถเมล์-ค่าน้ำ-ค่าไฟฟรี ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ สถาบันการเงินของรัฐ การใช้งบประมาณของรัฐ ทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องสร้างความพอใจให้กับชาวบ้านคนยากจนที่ด้อยโอกาส แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วผลประโยชน์หรือเม็ดเงินในท้ายที่สุดจะตกอยู่กับ ธุรกิจในเครือของครอบครัวชินวัตร และกลุ่มทุนในพรรคไทยรักไทยในอดีตก็ตาม แต่ก็ถือว่าคนพวกนี้ชื่นมื่น มีความสุขกันทั่วหน้า
      
       อีกทั้งหากพิจารณาในทางเศรษฐศาสตร์ในช่วงนั้นถือว่าเป็นยุคที่ผ่าน พ้นวิกฤตเศรษฐกิจ “ต้มยำกุ้ง” กำลังอยู่ในช่วงวงจร “ขาขึ้น” และยิ่งมาเจอกับมาตรการ “กระตุ้น” ด้วยนโยบายประชานิยมดังกล่าวก็เหมือนสองแรงบวก พุ่งกระฉูด ทักษิณ ชินวัตร ในยุคนั้นก็ต้องเป็น “ฮีโร่” ปฏิเสธความจริงข้อนี้ไม่ได้ และกลายเป็นยี่ห้อประกันความสุขของรากหญ้ามาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าในข้อเท็จจริงแล้วภาพมันช่างตัดกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาทำธุรกิจผูกขาด หากินกับสัมปทานของรัฐที่ผ่านการวิ่งเต้นการฝ่ายการเมืองมาตลอด ที่สำคัญต้นตอแห่งความผูกขาดดังกล่าวล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากการวิ่งเข้า หากลุ่มเผด็จการทหารทั้งสิ้น แต่กลายเป็นว่าเขากลับถูกสร้างภาพให้เป็นนักประชาธิปไตยหน้าตาเฉย
      
       วกกลับมาที่นโยบายประชานิยมรอบใหม่ ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มแล้วเชื่อว่าจะไม่ราบรื่นเหมือนคราวที่แล้ว เนื่องจากคราวนี้มีผลกระทบต่อภาคเอกชนโดยตรง โดยเฉพาะกลุ่มทุนทุกระดับ
       
      
       หากแยกออกมาพิจารณาเฉพาะ “บางรายการ” ก่อนต้องยอมรับว่า นโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันเท่ากันทั่วประเทศ ปรับเงินเดือนให้กับผู้จบปริญญาตรีสตาร์ทเริ่มต้น 15,000 บาท และ “ทำทันที” ก็ต้องยอมรับว่าโดนใจคนไทยส่วนใหญ่เป็นแน่ เพราะนี่คือรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาถึง 20-40 เปอร์เซ็นต์ ฝันหวานว่า ต่อไปไม่จำเป็นต้องดั้นด้นเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯก็ได้ อยู่เชียงราย หนองคาย นราธิวาส ก็มีรายได้เท่ากัน เป็นใครก็ต้องแฮปปี้
      
       นั่นเป็นมุมของคนจนหาเช้ากินค่ำ และนักศึกษาทั้งจบใหม่และกำลังจะจบการศึกษาไม่ว่าถามใครก็ต้องชื่นชอบอยู่ แล้ว เห็นเป็นรูปธรรม จึงต้องเทใจให้เต็มร้อย
      
       แต่ถ้าไปพิจารณาในมุมของภาคธุรกิจอุตสาหกรรม กลุ่มทุนต่าง ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็กนับแสนราย ที่จะต้องจ่ายค่าแรงวันละ 300 บาท รับรองว่าจะต้องเกิดแรงกระเพื่อมขนานใหญ่แน่ ซึ่งล่าสุดสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ก็ออกโรงคัดค้านอย่างชัดเจนเป็นกลุ่มแรก โดยให้เหตุผลว่า “รับไม่ได้” เพราะทำให้ภาคธุรกิจเจ๊งกันระนาว การลงทุนจากต่างประเทศจะต้องเบนเข็มไปประเทศอื่นแน่นอน
      
       มองในภาพรวมที่กลุ่มทุนเหล่านี้จะต้องได้รับผลกระทบ ซึ่งในที่สุดแล้วผลร้ายก็จะตกกลับมาสู่ชาวบ้าน กรรมกรหาเช้ากินค่ำนั่นแหละ เพราะถูกเลิกจ้าง หรือธุรกิจเจ๊ง
      
       อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องพิจารณาลงไปให้ลึกลงไปกว่านั้นก็คือ ไม่ว่านโยบายปรับเพิ่มค่าแรง 300 บาทจะแปรเปลี่ยนเป็นการปรับให้เฉพาะกรุงเทพฯรวมถึงภูเก็ตก็ตาม แต่ก็ถือว่าสร้างผลกระทบตามมาในวงกว้างอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแห่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ คนต่างด้าวทะลักเข้ามา ค่าครองชีพ เงินเฟ้อที่สูงขึ้น ฯลฯ
      
       ขณะเดียวกัน ในบรรดากลุ่มทุน นักธุรกิจ ผู้ประกอบการต่าง ที่ต้องได้รับผกระทบโดยตรง แม้ว่านาทีนี้ยังไม่มีรายละเอียดออกมาจากรัฐบาลใหม่ ทั้งในเรื่องมาตรการเยียวยาออกมา โดยอ้างว่ายังไม่มีการรับรองอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่ก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้อย่างแน่นอนว่า ในเบื้องต้นพวกเขาคัดค้านอย่างหัวชนฝา
      
       ที่ น่าสนใจก็คือ ในบรรดากลุ่มเหล่านี้ย่อมต้องมีกลุ่ม “ทุนเสื้อแดง” ที่ให้การสนับสนุนรัฐบาล ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยมาตลอด รวมไปถึงการชุมนุมที่ผ่านมาอีกด้วย แต่ในเมื่องานนี้มีผลกระทบต่อความอยู่รอดและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่าง รวดเร็ว แม้ว่าที่ผ่านมาอาจจะหลงไหลเคลิบเคลื้มไปอย่างสุดลิ่ม แต่เมื่อตั้งสติได้รู้ว่าความเดือดร้อนกำลังมาเยือน มันก็ต้องออกโรงกันเต็มกำลัง และถึงได้บอกว่าประชานิยมรอบใหม่ส่อเค้าป่วน เพราะจะเดินหน้าก็ต้องสร้างศัตรูกับทุนทุกกลุ่ม แต่หากจะถอยหลังก็ต้องถูกด่าจากมวลชน คำว่า “ดีแต่พูด” ดีแต่โม้ จะย้อนเข้าตัว
      
       ดังนั้น นี่คือศึกหนักที่รอรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ข้างหน้า เพราะเที่ยวนี้เป็นการเปิดศึกกับภาคธุรกิจทั้งประเทศ!!

พลิกปูม สมคิด บาลไธสง ที่คนจะเลือกต้อง คิดใหม่

หลัง กกต. มีมติใบเหลืองให้ สมคิด บาลไธสง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 หนองคาย จะด้วย กกต.ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอีสาน หรือจะด้วยหลักฐานใด ๆ ก็ตามแต่ ธงเลือกตั้งประมาณไว้ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2554

นายสมคิด บาลไธสง (ภาพจากเอเอสทีวีผู้จัดการ)
ฟัง คำโอ้อวดผู้สมัครคนนี้จากหลายสื่อ ประเด็นคะแนนกว่า 5 หมื่น ซึ่งทิ้งห่างอันดับ 2 หลายขุม แม้กระทั่ง ออกมาท้าทายว่า ถ้าเลือกตั้งใหม่(ใบเหลืองเลือกใหม่) ตนจะไม่ออกหาเสียง จะนอนอยู่กับบ้าน จะดูว่าคะแนนจะนอนมาเหมือนเดิมหรือไม่
ถ้าจะรักษาคำพูด ข่าว "ปูแดง" จะไปช่วยหาเสียง วันนั้น คุณสมคิด ช่วย "หลับใน" อยู่ในบ้านให้ดูหน่อยนะครับ ถ้าเสียงสวรรค์มีจริง "ปูแดง" ไม่ต้อง "เสียแรง" ไปหาเสียงช่วยทำไม???
เข้าเรื่องที่จ่าหัวไว้ซะที...
คุณ จำได้ไหม ใครที่ที่ร่ำสุรา ก๊งจนได้ที่แล้วเข้าไปประชุมในสภา แล้วพาลหาเรื่องชาวบ้าน ถึงขึ้นพูดจาหยาบคายในสถานที่อันทรงเกียรตินั้น
ครับ เขาคนนั้น คือ สมคิด พาล เอ้ย... บาลไธสง คนนี้เอง
อ่านข่าวนี้ดูสิครับ
ปชป.โวย “สมคิด” เมาแอ๋ป่วนสภาฯ ยันไม่มีการใช้กำลังกลางสภาฯ
เอ้า.... เมื่อ กกต. ให้โอกาส คราวนี้คนหนองคาย เขต 2 ลองคิดใหม่อีกที นะครับ.....
*************************************************************
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต / ข่าวประกอบจาก เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์

 by ถ้วยกาแฟ

อายัด'เครื่องบิน'ที่มิวนิค! ไทยยื่นขอถอนอายัดแล้ว













อายัด'เครื่องบิน'ที่มิวนิค! ไทยยื่นขอถอนอายัดแล้ว ข้องใจที่ไต่สวนฝ่ายเดียว ย้ำไม่ควรมีเรื่องแบบนี้อีก

"มา ร์ค" แจง "ไทย" ยื่นขอถอนอายัดเครื่องบินส่วนพระองค์แล้ว รอฟังคำตัดสินวันนี้ ชี้เยอรมันไม่สิทธิแทรกแซง ข้องใจทำไมไต่สวนฝ่ายเดียว แต่เชื่อทุกอย่างน่าจะคลี่คลาย ลั่นไม่ควรมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ส่งอัยการสูงสุดไปเคลียร์เอง

วันที่ 15 ก.ค. 2554 ที่ซอยสุขุมวิท 31 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการนายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางการเยอรมันอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 ซึ่งเป็นเครื่องบินส่วนพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฎราชกุมาร ว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางอัยการสูงสุดได้เดินทางไปยังเยอรมันเพื่อนำข้อเท็จจริงไปให้ศาลเยอรมัน ได้พิจารณาว่าเครื่องบินลำดังกล่าว เป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ ซึ่งศาลได้รับฟังข้อเท็จจริงแล้วโดยเวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นเยอรมันซึ่งตรงกับเวลา 16.00 น.ตาม เวลาประเทศไทยจะมีการตัดสินว่าจะมีการถอนอายัดเครื่องบินหรือไม่ โดยทางฝ่ายไทยหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำตัดสิน และคงชัดเจนเพราะที่ผ่านมาศาลเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเครื่องบินลำนี้เป็นของ รัฐบาล ซึ่งความจริงไม่ใช่ ทั้งนี้รัฐบาลไทยได้ประสานงานทุกช่องทางเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด ขณะที่รัฐบาลเยอรมันได้อำนวยความสะดวกทางด้านกฎหมายให้กับฝ่ายไทย และถือว่าเป็นเรื่องของเอกชนที่ไปฟ้องศาลซึ่งฝ่ายบริหารจะเข้าไปแทรกแซงศาล ไม่ได้ คิดว่าทุกอย่างน่าจะคลี่คลายได้ ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดแล้วว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระบรมฯ และทรัพย์สินของพระองค์ท่านไม่ควรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

นาย อภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนคดีหลักเรื่องการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทยนั้น กำลังยื่นอุทธรณ์ที่ศาลนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเราไม่ทราบว่าจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหนแต่ที่ผ่านมาคดีจะใช้เวลามากพอ สมควร ขณะนี้ทางอัยการสูงสุดมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในชั้นอุทธรณ์

เมื่อ ถามว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาที่จะอาจจะถูกอายัดทรัพย์สินของรัฐบาลอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ควรจะมีเรื่องนี้เกิดขึ้น และทางอัยการสูงสุดกำลังดำเนินการแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้เพราะเป็นช่วง รอยต่อของคดีที่ไทยเตรียมยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 29 ก.ค.นี้ ตามข้อเท็จจริงแล้วไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องมาอายัดทรัพย์สินอะไร เพราะเมื่อชั้นสุดท้ายศาลตัดสินอย่างไรหรือให้ประเทศไทยชำระหนี้เราต้อง ปฏิบัติตามอยู่แล้ว รัฐบาลไม่มีทางหนีไปไหนทรัพย์สินของรัฐบาลมีอยู่มากมาย และเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ปฏิบัติตาม ดังนั้นไม่มีความจำเป็นใดๆที่ทางการเยอรมันจะต้องมาดำเนินการอะไร

เมื่อ ถามว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการการไต่สวนของเยอรมัน ทำไมไต่สวนฝ่ายเดียว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากไปวิจารณ์กระบวนการยุติธรรม แต่เราข้องใจว่าทำไมถึงไต่สวนฝ่ายเดียว เข้าใจว่าฝ่ายผู้ร้องคงจะอ้างว่าเป็นเรื่องฉุกเฉิน และเป็นมาตรการชั่วคราวที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน อย่างไรตาม ขณะนี้ภารกิจสำคัญคือให้มีการถอนอายัดเครื่องบินของพระองค์ท่านเสียก่อน และต่อไปไม่ควรมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นซึ่งเป็นเรื่องของเอกชน

เมื่อ ถามว่า ที่นายกฯระบุว่าเป็นเรื่องเอกชน และอัยการสูงสุดดำเนินการอยู่ มาตรการเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางอัยการสูงสุดเตรียมการไว้แล้วในชั้นนี้ไม่อยากให้เอามาปะปนทำให้เกิดความ สับสนเพราะภารกิจเร่งด่วนคือการถอนอายัด

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นรัฐบาลจะชี้แจงกับประชาชนเพราะส่งผลกระทบความรู้สึกประชาชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ประชาชนทราบว่ารัฐบาลให้ความสำคัญดำเนินการเรื่องนี้เต็มที่ ตลอดระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมาดำเนินการเต็มที่ไม่ว่านายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เอกอัครราชไทยประจำเยอรมัน อัยการสูงสุด และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คิดว่าภายในวันที่ 15 ก.ค.นี้เรื่องทุกอย่างจะจบลงได้ นอกจากนั้นขอให้เข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลเยอรมัน แต่เป็นเรื่องเอกชนรายหนึ่งที่ไปฟ้องศาลและใช้อำนาจศาล ซึ่งรัฐบาลเยอรมันไม่มีอำนาจไปแทรกแซงแต่ได้อำนวยความสะดวกอย่างดีให้เราใช้ สิทธิ์ทางกฎหมาย ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เอกชนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ควัน หลง..คำสัญญาหน้าหนา..ของปูแดง และ คำตะแบงหน้ามึนของ..พี่ป๊อดปอด

ควัน หลง..คำสัญญาหน้าหนา..ของปูแดง และ คำตะแบงหน้ามึนของ..พี่ป๊อดปอด ในหนังไพร่สุดฉาวเรื่องราวของ..กกต.หัวหด ..ชีวิตไม่สดใส เพราะเห็ด..ไม่สดสี !!!..

  by vincentoldbook ,




.. ขอบคุณภาพจาก เนชั่น มติชน facebook และ อื่นๆในอินเตอร์เน็ต ..


..............................................


ควัน หลง..คำสัญญาหน้าหนา..ของปูแดง และ คำตะแบงหน้ามึนของ..พี่ป๊อดปอด ในหนังไพร่สุดฉาวเรื่องราวของ..กกต.หัวหด ..ชีวิตไม่สดใส เพราะเห็ด..ไม่สดสี !!!..















ห่างหาย..
จากการเขียนบทความไปหลายวันครับ..
ผมไปทำธุระส่วนตัวที่ดงแดงแจ๋แถวๆขอนแก่นมาอีกรอบ ..
รอบนี้เก็บข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมมาได้จากในพื้นที่ หลังจากที่มีการหย่อนบัตรเลือกตั้งกันไปแล้วมีควันหลงของอารมณ์ฝันของชาวบ้านมาฝากกันพอหอมปากหอมคอครับ..
๓ กรกฎาคม ที่ผ่านมา ชาวบ้านเขาบอกว่า..
พวกเขานั้น..ไปเอาเงินหมา มากาเบอร์ ๑ !!!..
หมา ??...ในที่นี่ผมก็ไม่รู้ว่ามี..พรรคใดบ้าง ??..ทว่า นี่เป็นอีกเรื่องเฮฮาขำกลิ้งในเวลานี้ ที่ชาวบ้านแดงเถือกทั้งหลาย ภูมิอกภูมิใจในผลงานบาป และ ความเบาปัญญาของตนชนิดที่ยากเหลือล้นที่คนเหล่านี้จะหลุดพ้นจากความเป็นทาสในเรือนเบี้ยของตระกูลชินวัตรได้..
คำ ลอยลมปากต่อปาก คำโฆษณาเป่าหู แบบบิดเบือนความจริง เรื่องว่า ถ้าพ่อใหญ่ทักษิณได้กลับมาพ่อใหญ่ทักษิณจะเอาเงินมาให้ชาวบ้านใช้กันวันละ ๓๐๐ บาท คนแก่จะได้คนละ ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน ..
นี่มันไม่ใช่แค่เรื่อง อาการเบาปัญญาธรรมดาๆ แถมมีเรื่องเงินปันผลครัวเรือนละแสนสองแสนสำหรับค่าตอบแทนในการออกไปช่วย เดินเกมขอนิรโทษกรรมและคืนเงินที่โดนศาลสั่งยึดทรัพย์ให้กับทักษิณอีก ยิ่งไปกันใหญ่ ชาวบ้านหลายรายไปไกลเกินกู่กลับจริงๆ !!..
เรื่องนี้มันไม่ได้เกิดจากการวางยาธรรมดาๆของพวกแดงซ้ายสายคอมฯเท่านั้น ทว่า มันเกิดจากยุทธวิธี ของเหล่ามวลชนจัดตั้งไพร่แดงสายคอมฯที่ผ่านการอบรมสั่งสอนกันมาเป็นอย่างดี มีรูปแบบการทำสงครามมวลชนที่เป็นรูปธรรม ที่มีแกนนำไพร่แดงในท้องถิ่นที่ เป็นเหล่าผู้นำชุมชนที่เป็นที่น่าเชื่อถือเข้าไปทำงานในเรื่องของการมอมเมา ความเชื่อกันแบบปากต่อปากถึงหูกันทุกครัวเรือน บิดเบือนมันในทุกๆเรื่อง ..
ผมได้ฟังแก๊งค์ไพร่แดงสนทนากัน..ในหลายๆเรื่องแล้วบอกตรงๆว่า ..
คำว่า ..โง่ นั้นคงยังไม่พอจริงๆ !!..



รัฐ ปูแดง..ในตอนนี้ถือได้ว่าเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ที่มีข้อครหา ข้อกังขา และ ข้อชวนพาเคลือบแคลงสงสัยมากที่สุด..ในเรื่องของความไม่น่าไว้วางใจ ไม่ว่าจะในเรื่องของนโยบายที่เน้นเรื่องของการโกหกคำโต เน้นการโม้อวดอ้างสรรพคุณทักษิณเพื่อนำมาหากินในเกมต้มตุ๋นเอากับความเชื่อ ความชอบของชาวบ้าน..
ไม่ว่าจะในเรื่องของประสบการณ์ในการทำงานที่หาก เราไล่เรียงเช็คหัวกบาลรายตัวของ โผ ครม. ของ รัฐบาลปูแดงแล้ว ต้องบอกตรงๆว่า มันส่อไปในทาง..หยะแหยง มากกว่า ยี้ !!!..
คุณสมบัติ ของตัวบุคลากรที่จะเข้ามาทำงานในนามของ..คณะรัฐมนตรีปูแดง มันไม่ได้ถูกตั้งอยู่บนพื้นฐานของการคัดเลือกว่า ..คนๆนั้นมีประสบการณ์ในชีวิต หน้าที่การงานมามากน้อยเพียงใด ? ..
ทว่า ร้อยละ ๙๙.๙๙ ของคณะรัฐมนตรีฮ่องกง คณะรัฐมนตรีบรูไน คณะรัฐมนตรีดูไบ ที่ต้องผ่านการเจียรไนคัดเลือกโดย.. มนุษย์หน้าเหลี่ยมขายชาติ  มันเน้นพื้นฐานของการเป็นคนของใครมากกว่าเรื่องอื่น !!..
ดังนั้น มันจึงมีกระแสของพวกรัฐมนตรีเด็กขอ พวกรัฐมนตรีเด็กขู่ ออกมาโดยตลอดในช่วงที่มีการฟอร์มทีมรัฐบาล และ จัดโผ ครม.รัฐบาลปูนึ่ง ชุดที่ ๑ ..
มันจึงมีเรื่องของการออกมาเรียกร้องต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีจากแก๊งค์ก๊วนต่างๆในพรรคเผาไทยเพื่อแม้วอยู่ตลอดเวลา ปากหลายๆคนอาจจะบอกว่า ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่มีปัญหา ..
ทว่า แท้จริงแล้ว...มันมีปัญหาทุกแก๊งค์ทุกก๊วนทุกคนนั่นแหละ ..
หากแก๊งค์มันไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรี..
มาครอบครอง !!..
..........................................


ตอนนี้..
ต้องบอกว่าบ้านเมืองของเรานั้น..
อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงอย่างมาก..มากจนไม่อาจจะนิ่งนอนใจได้สักเรื่อง..
โดยเฉพาะจากนโยบาย หลอกลวงอันหลากหลายของรัฐบาลปูแดง ที่เน้นแผนการตลาดชั้นต่ำเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้งท่วมท้นถล่ม ทลายทั้งๆที่มันมีแต่เรื่องที่จะทำไม่ได้สักเรื่อง ..
ที่ผ่าน มาช่วงหาเสียงสมาชิกพรรคเผาไทยเพื่อแม้ว กลุ่มแนวร่วมไพร่แดงเผาเมือง และ กลุ่มแดงแท้ฝ่ายซ้ายคอมมิวนิสต์ที่ขึ้นมากุมบังเหียนนำความคิดกลุ่ม นปช. ออกไปปฏิบัติการโพนทะนาเน้นสัญญาว่าจะให้กับชาวบ้านในลักษณะที่ต่างฝ่ายต่าง โม้หลอกลวงชาวบ้านกันไปอย่างเมามันอุตลุด..
พวกผู้สมัคร ส.ส. พวกพรรคเผาไทย ..ทัพใหญ่ ทัพแม่ ก็เห่กล่อมชาวบ้านผ่านสื่อมวลชนรับจ้าง ผ่านโพลล์รับจ้างสำนักต่างๆ โดยปกปิดเรื่องความเป็นไปได้เป็นไปไม่ได้ของนโยบายประชานิยมต่างๆผ่านการหลบ หลีกเวทีถกเถียง หรือ เวทีดีเบตในระดับผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี..
นักวิชาการ ผู้รู้ นักเศรษฐศาสตร์จากสำนักต่างๆ จากสถาบัน การศึกษาต่างๆ ถูกปิดปาก ไม่มีใครออกมาต่อต้าน หรือ คัดค้านนโยบายลวงโลกของพรรคเผาไทยเพื่อแม้วเลย แม้จะมีปากเสียงออกมาบ้างแต่ก็เงียบหายไปเพราะสื่อมวลชนเมืองไทย ..พร้อมใจกันไม่ให้ความสนใจ !!!..




นี่ คือมูลเหตุหลักที่ทำให้นโยบายลวงโลกของพรรคเผาไทยเพื่อแม้ว เป็นที่ถูกอกถูกใจคนชั้นล่าง ชาวรากหญ้า ภาคเหนือ ภาคอีสาน และ คนกรุงเทพฯบางส่วนที่มีความอยากจะได้ในนโยบายมั่วนิ่มที่สัญญาว่าจะให้แบบลด แลกแจกแถมสารพัด ตั้งแต่เด็ก ป. ๑ ไปถึงคนชราใกล้วางวายอายุ ๙๐ อัพ..
พูด ง่ายๆว่านโยบายลวงโลกของพรรคแม้วคิดเนี่ย หลอกได้หมดจดตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดงไปจนถึงพวกหัวหงอกหนังเหี่ยวหนังยานตาดำๆ ให้อยู่กับฝันลมๆแล้งๆได้ชนิดยกตระกูลรากหญ้ารากเน่ากันทั้งประเทศได้เลย..
เรา จะเห็นว่าเป็นเพราะสื่อมวลชนบ้านเราไม่มีความเป็นกลาง เป็นเพราะสำนักโพลล์บ้านเราไม่ทำงานตามหลักวิชาการที่ควรจะทำ แต่ดันไปทำงานทางด้านปั่นกระแสสร้างภาพให้พรรคหมกเม็ดนโยบายอย่างพรรคเผาไทย ให้ได้เข้ามามีอำนาจ ..
สื่อมวลชนกระแสหลักของบ้านเราวันนี้พวกเขา เป็นแนวร่วมทำลายชาติ ทำลายระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พวกเขาแสดงตนเป็นทาส เป็นขี้ข้านักธุรกิจการเมืองอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสื่อทีวี สื่อหนังสือพิมพ์ สำนักโพลล์ ต่างมีบาปกรรมติดตัวกันถ้วนหน้าในการเข้ามามีส่วนนำพาประเทศชาติมาพบจุดอับ ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย..
หากสื่อมวลชนบ้านเรามีความเป็น กลาง นำเสนอนโยบายของแต่ละพรรคในลักษณะรอบด้าน วิเคราะห์เจาะลึกความเป็นไปได้ของนโยบายของแต่ละพรรค วันนี้เราจะไม่ต้องมานั่งฟังคำตะแบงแถไถของพรรคเผาไทยเลยด้วยซ้ำไป ..
หาก สื่อไม่เอียงกระเท่เร่เทข้างปูแดงมาตั้งแต่ต้น คนไทยก็คงจะใส่ใจในเนื้อหาสาระของนโยบายของพรรคการเมืองในแต่ละพรรคได้อย่าง ละเอียดถี่ถ้วนถ่องแท้  ไม่ใช่พวกมากลากพากันไปกาเบอร์ ๑ ห่อเบอร์ ๑ มาเหมือนพวกมนุษย์ตายอดตายอยาก มีแต่ความอยากจะได้อยากจะมีโดยไม่ใส่ใจความน่าจะเป็นในแต่ละนโยบายเลยว่า พรรคเผาไทยมีปัญญาทำได้ไหม ? ศักยภาพประเทศไทย เงินงบประมาณ เงินคงคลังของประเทศนั้น..
มันมีเพียงพอต่อการนำไปล้างผลาญตามนโยบายร้อยล้านปีแสง..
ที่ไม่ยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและความเป็นไปได้..
ตามสโลแกนทักษิณคิด เพื่อไทยทำ..หรือไม่ ?? ..

...............................................


หลายวันมานี้..
มิสเตอร์ปอด รองหัวหน้าพรรคเผาไทย..
ยังคงเดินหน้าตะแบงแก้ตัวน้ำขุ่นๆเกี่ยวกับนโยบายที่เพื่อไทยทำไม่ได้แน่ๆ..
ค่า แรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ๓๐๐ บาท ให้ลืมไปได้เลยไม่มีทางทำได้ ตอนนี้หนักข้อเข้าพวกสื่อไพร่แดงตามเว็บไซต์มอมเมาต่างๆกำลังจะโยนบาปไปให้ ฝ่ายตรงข้ามว่าเข้ามาขัดขวางไม่ให้พรรคเผาไทยได้ทำตามนโยบายนี้ ..เล่นเอาฮาตรึม !!!..
อ่านข่าวแล้วก็ขำ ..มีใครไม่อยากจะได้เงินเดือนขึ้นกันบ้างไม่มีหรอก ใครๆเขาก็อยากได้กันทั้งนั้น ทว่า ปลอดประสพ พูดเองว่าพรรคเพื่อไทยนั้นไม่มีปัญญาทำได้ทันทีตามที่โม้เอาไว้จะไปโทษใคร เขาได้อีก พวกตัวเองออกมาแถลงข่าวเองว่าทำไม่ได้ดันจะไปโทษชาวบ้านเขาอีกว่า เขามากลั่นแกล้งมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายตุ๋นมนุษย์ให้เสียๆหายๆ ..
อีก อย่างเหตุที่พวกเพื่อไทยไม่มีปัญญาทำได้ทันทีนั้น ความจริงมันก็มีมูลเหตุสำคัญของเรื่องตรงที่ว่าตอนที่ทักษิณคิดนโยบายนี้ ขึ้นมาแรกๆนั้น หากใครจำกันได้วันนั้นพรรคเผาไทยกำลังประสบกับปัญหาความขัดแย้งกันภายในพรรค อย่างรุนแรง ทักษิณคิดขึ้นมาเพื่อดึงดูดกระแสความสนใจของคนในพรรค และ เช็คเรตติ้งฐานเสียงของตน เป็นการเช็คเรตติ้งกระแสประชานิยมของเขาโดยไม่ได้ไปทำการศึกษามาก่อนว่าทำ ได้ไม่ได้ !!
..

ใน พรรคเผาไทยเพื่อแม้วตอนนั้นหากใครจำกันได้ มีข่าวออกมาไม่เว้นแต่ละวันว่าคนในพรรคนั้นแตกแยกเป็นกลุ่มนั้นกลุ่มนี้มั่ว ไปหมด กลุ่มเจ๊มิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากพวก บ้าน ๑๑๑ ก็มี กลุ่มคนรักทักษิณที่ เหลิม บางบอน มาช่วยเดินเรื่องให้ก็มี กลุ่มเด็กบิ๊กจิ๋วก็ยังมี พรรคเผาไทยเพื่อแม้วไม่ได้มีความปรองดองในเรื่องผลประโยชน์ร่วมกันด้วยซ้ำ..
ทักษิณ เริ่มเป็นที่เคลือบแคลงใจของคนในพรรค แต่ดีหน่อยที่ทักษิณเป็นนักการตลาดเลยฉลาดที่จะโน้มน้าวใจพวกทาสบริวารให้ กลับมาอยู่กับร่องกับรอยของการเป็นบ่าวรับใช้ทักษิณอย่างที่เคยๆเป็นมา ทักษิณโชว์วิสัยทัศน์เรื่องนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ ๓๐๐ บาท และ ค่าจ้างปริญญาตรีเริ่มแรก ๑๕,๐๐๐ บาท ว่าจะเป็นนโยบายเด็ดเอาไว้หาเสียง ตั้งแต่ ๒ เดือน ก่อนที่รัฐบาลอภิสิทธิ์จะกำหนดวันยุบสภาเสียด้วยซ้ำไป ..
พวก ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยในภาคอีสานในหลายๆพื้นที่ เอาป้ายหาเสียงนี้ลงปูพรมถามความชอบไม่ชอบของชาวบ้านกันก่อนพรรคอื่นๆด้วย ซ้ำ และ พอกระแสตอบรับดี คนพวกนี้ก็เอามาสนับสนุนแนวคิดแนวทางของทักษิณ ..ทั้งๆที่พวกมันเองก็ไม่รู้ว่า ที่นายใหญ่มันคิดออกมาน่ะ เป็นจริงได้หรือไม่ได้ ? ..พวกมันรู้แค่เพียงว่า..นโยบายลวงโลกพวกนี้นั้น ..รากหญ้ารากเน่าเขาชอบ !!!..
ดังนั้น พอทุกอย่างมันมาหงายกลับสู่โลกของความเป็นจริงในวันนี้ วันที่สื่อมวลชนไทยไม่สามารถไปปิดบังหรือแหกตาอะไรชาวบ้านชาวเมืองเขาได้อีก ต่อไปแล้ว ..
เราจึงพบว่ามันมีกระแสต่อต้านจากทุกภาคส่วนของสังคมไทยเลยก็ว่าได้ ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายขึ้นค่าแรงแบบเบาปัญญานี้ของ ทักษิณ ชินวัตร และ พรรคเพื่อไทย ..

ในขณะเดียวกันนโยบายถมทะเล ที่เป็นเมกะโปรเจ็กต์ที่จะเรียกเอาเงินจากต่างประเทศมาทำโดยไม่กู้สักบาทนั้น ตอนนี้ ปลอดประสพ ก็สบโอกาสตะแบงหนีเหมือนกันบอกว่าเป็นแค่นโยบายป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯเท่านั้น จากที่ เคยชูเป็นนโยบายเด่นในการแก้ไขน้ำท่วมกรุงเทพฯในอนาคต ที่เป็นลางหายนะที่ใครต่อใครต่างก็ทำนายทายทักกันมากต่อมากจนคนกรุงเทพฯ ที่เป็นพวกวิตกจริตต่างขวัญผวาว่าเมืองหลวงของไทยเรานั้นจะกลายเป็นเมือง บาดาลในอนาคตอันใกล้..
พอทักษิณคิด เพื่อไทยทำ โผล่นโยบายกระทำชำเราปัญญาคนกรุงเทพฯด้วยข้อเสนอถมทะเลเพื่อสร้างเมืองใหม่ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขึ้นมาแค่นั้นแหละ ..คนกรุงเทพฯดันบ้าเชื่อไปตามเกมโฆษณาชวนเชื่อกันไปครึ่งค่อนเมือง สุดท้ายก็ได้แต่ลมลวงกลับมาให้ปวดใจเล่น ..
สุดท้ายก็กลายเป็นนโยบาย หลอกแหลกอีกนโยบายหนึ่ง ซึ่งหากเรากลับไปไล่เรียงนโยบายที่ทางฝ่ายพรรคเพื่อไทยออกมาปฏิเสธว่าทำไม่ ได้ทันที หรือ ออกมาปฏิเสธขอพับโครงการไปก่อน หรือ ออกมาบอกปัดในทำนอง..จะทำแบบค่อยเป็นค่อยไปค่อยศึกษาแล้วเราจะพบความเอวังใน ทุกๆนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย..
ไม่มีนโยบายใดเลย..ที่พรรคเพื่อ ไทยสัญญาไว้แล้วในตอนหาเสียง เมื่อมาถึงวันนี้วันที่พวกเขากำลังจะได้เป็นรัฐบาล วันที่ปูแดงกำลังจะก้าวย่างเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศอย่าง เป็นทางการ ..จะกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า..พวกเขาทำได้จริงตามที่โม้มา !!..
ทั้งนโยบายเพื่อสังคม เรื่องปากท้อง การแก้ไขปัญหาข้าวของแพง ไม่มีความเป็นรูปธรรมสักเรื่อง หนักไปทางพูดไปคนละทางสองทาง อย่าว่าแต่พวกลูกพรรคระดับกระจอกๆเลย แม้แต่คนที่เป็นว่าที่ผู้นำประเทศในวันนี้ ..พูดอะไรดีๆออกมาโดยคิดผ่านสมองของตัวเองยังไม่เป็นเลย แล้วคนไทยจะไปหวังอะไรกับนโยบายขายฝัน ..
ที่พวกคนในพรรคเพื่อไทยออกมาตะแบงกันไม่เว้นแต่ละวันว่า ..
มันเป็นเพียงเทคนิคในการหาเสียงเท่านั้น !!..
.......................................

อันที่จริงแล้ว..
การดีไซน์นโยบายขายฝัน..
เพื่อเอามาปั่นกระแสหลอกลวงผู้คนในสังคมให้หลงเชื่อ..
การใช้เทคนิคในการหาเสียงด้วยการสัญญาว่าจะให้แบบโฆษณาชวนฝันในเรื่องที่ทำไม่ได้พวกนี้นั้น มันเข้าข่ายผิดกฎหมายการเลือกตั้งเต็มๆ ..
ทว่า ที่ผ่านมาทาง กกต.ยังคงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ วันๆไม่คิดจะทำอะไร คิดแต่จะแก้ไขสถานการณ์เพื่อจะได้ดันทุรังรับรองสถานะ ส.ส. ให้ผ่านๆไปเพื่อให้เปิดประชุมสภาฯได้เท่านั้น..
นี่คือ..ข้อเคลือบ แคลงสงสัยหนึ่ง ในหลากหลายข้อครหาที่ กกต. ชุดนี้ กำลังโดนผู้คนในสังคมประเคนคำถามและคำด่าใส่อย่างหนัก ถึงขนาดทำนายทายทักกันไปล่วงหน้าว่า ..
ชะตากรรมชีวิตของ กกต.ชุดนี้ คงจบไม่สวย..
คงถึงคราซวย..เดินหน้าไปเข้าอีหรอบเดียวกับ กกต. ชุดสามหนาแน่ๆ !!..


กรณี ปูแดงโดนแขวนเพราะไปใช้พวกบ้านผีสิง ๑๑๑ มาช่วยแห่แหนหาเสียงเหมือนกัน มันผิดชัดเจน กกต.จะตะแบงไปเป็นอื่นก็เหมือนกับว่า กกต.จะจงใจฆ่าตัวตายทางอ้อม และ หาก กกต.เกิดความกดดันเพราะโดนพวกแกนนำไพร่แดงออกมาข่มขู่เรื่องที่จะปลุกมวลชน ไพร่แดงออกมาป่วนเมืองประท้วงนั้นก็เหมือนกัน ..มันไม่ใช่เหตุผลเพียงพอต่อการนำมาเป็นข้ออ้าง..ปล่อยปูแดงเข้าสภา !!..
หาก ปูแดงผิดก็ต้องว่าไปตามผิด กกต.ห้ามอิดออดบิดเบือนตะแบงหนีทั้งนั้น อันที่จริงเคส กรณีพวกสมาชิกบ้านผีสิง ๑๑๑ ออกมาช่วยปูแดงหาเสียงนั้น มันไม่ใช่มีเคสเดียว แต่มีหลายครั้งหลายกรณีด้วยกัน มันทำให้เราเห็นความจงใจที่จะละเมิดกฎอันเป็นนิสัยสันดานเดิมของพรรคการ เมืองของระบอบทักษิณที่มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ..
หากคนพวกนี้จริงใจต่อ การรักษาระบอบประชาธิปไตย จริงใจต่อการรักษากฎหมายของชาติบ้านเมือง จริงใจต่อการไม่สร้างเรื่องปัญหาความขัดแย้งให้เกิดขึ้นภายในชาติบ้านเมือง ..
วันนี้คนพวกนี้ไม่มีเรื่องเหล่านี้มาให้ฝ่ายอื่นเขานำมาเป็นเรื่องร้องเรียน..
จนเป็นที่ปวดสมองปวดหัวกบาลของ กกต. หรอก !!!...
........................................
สุดท้ายนี้ ..
ก็อยากจะฝากทิ้งท้ายบทความเอาไว้ว่า..
อนาคตข้างหน้าของชาติไทยตอนนี้นั้นฝากไว้กับการตัดสินใจของคนเพียงไม่กี่คนจริงๆ..
การ เลือกตั้งที่ผ่านมานั้นมันมากมายข้อครหาเหลือหลาย หลายๆเรื่องมันเกิดขึ้นมาเพราะความบกพร่องในการทำงานของ กกต.ล้วนๆ จะไปโทษใครเขาก็ไม่ได้เพราะพฤติกรรม กกต.ชุดนี้ มันสะท้อนภาพความไม่น่าไว้วางใจออกมามากมายจนใครๆเขาไม่ให้ความเชื่อถือกัน แล้ว..
ดังนั้น ในวันนี้มันจึงมีเรื่องที่คนบางส่วนของสังคมออกไปร้องเรียนให้เอาผิด กกต. ในขณะที่บางส่วนก็ออกไปเดินหน้าให้มีการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะ และ มีอีกหลายภาคส่วนที่ออกมาร้องเรียนในเรื่องราวปัญหาของการทุจริตการเลือก ตั้ง ..
การดันทุรังเดินหน้าปล่อยคนผิดเข้าสภาฯ เพื่อจะไปตามสอยเอาทีหลัง ที่กำลังจะเป็นการตัดสินใจอันผิดพลาดอย่างมหันต์ในการทำงานของ กกต.นั้น บั้นปลายของผลกรรมนั้นคงไม่ทำให้ กกต.ชุดนี้พบกับความสุขสมหวังในชีวิตหน้าที่การงานของตนอย่างแน่นอน ..
บ้าน เมืองของเราจะอยู่ได้ก็ด้วยการรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด มีกระบวนการยุติธรรมที่เข้มแข็งไม่เอนเอียง ที่สำคัญจะต้องไม่ปล่อยให้กระบวนการนอกกฎหมาย พวกอันธพาลกฎหมู่ พวกแก๊งต์ก๊วนไพร่แดงที่มีชนักปักหลังเป็นดคีความเผาบ้านเผาเมือง และ คดีก่อการร้ายมากมาย มามีอิทธิพลอยู่เหนือการตัดสินใจของฝ่ายกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเด็ดขาด..
ขั้น ตอนแผนการต่อไปของพวกนักการเมืองไพร่แดงนั้น เราก็รู้อยู่ว่ามันไม่อยู่ที่เป้าหมายของการเข้ามาทำงานเพื่อความอยู่ดีกิน ดีของประชาชนคนไทย แต่มันเป็นการเข้ามาทำงานเฉพาะกิจในระยะเวลาจำกัด เพือเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างให้กลับไปตอบสนองผลประโยชน์ของกลุ่มพวกตนเท่านั้น ..


เรา จะพบว่าในตอนนี้อุดมการณ์ไพร่แดงนั้น มันแตกละเอียดกันจนหมดจนแทบจะไม่เหลือซากเศษความเหนียวแน่นเป็นปึกแผ่นกัน อีกต่อไปแล้ว ทั้งพวก ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งพวกแกนนำไพร่แดง ทั้งพวกแกนนำแดงสายคอมมิวนิสต์ ตอนนี้คิดกันไปคนละทิศละทาง หาก ครม.ชุดทักษิณคิด ได้ผลออกมาแบบผิดหัวผิดหาง เข้าทางทักษิณฝ่ายเดียว ฝ่ายอื่นไม่เข้าด้วย รับประกันซ่อมฟรี..ในอนาคตข้างหน้านั้นย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของ ..แก๊งค์งูเห่า ภาค ๓ ภาค ๔ ภาค ๕ อย่างแน่นอน..
ตอนนี้ทักษิณ ชินวัตร จะประคับประคองให้คนในพรรครักใคร่กลมเกลียวกันยังลำบาก นับประสาอะไรกับพวกหุ่นเชิด พวกโคลนนิ่งที่ไร้อำนาจอันแท้จริงอย่าง ยามีละห์หน้าเหี่ยว ทรามวัยปูแดง ที่ถูกสื่อมวลชนเมืองไทยช่วยกันตะแบงสร้างกระแสมา จะมีปัญญาความสามารถมานำทางคนไทยไปพบกับการปรองดองสมานฉันท์กันได้ ..
นโยบาย ขายฝันต่างๆนั้น มันจะทำได้อย่างไรในเมื่อคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย นั้น ไม่ได้มีส่วนคิดนโยบายต่างๆขึ้นมา ไม่ได้มีส่วนร่วมรู้เห็นและตัดสินใจในการจัดเก้าอี้รัฐมนตรี ในรัฐบาลของตัวเอง ..
ผมมองว่ารัฐบาลปูแดงเป็นรัฐบาลที่ไร้สาระที่สุด เท่าที่เคยมีการจัดตั้ง ครม.กันมา คนมีอำนาจจัดสรรดันอยู่เมืองนอก ในขณะคนที่นั่งหน้าพอกคอยยิ้มแป้นให้กล้องของผู้สื่อข่าวนั้น ดันเป็นเพียงร่างทรงที่ตอบตกลงอะไรก็ไม่ได้เลยสักเรื่องในเรื่องที่เกี่ยว ข้องกับการแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง..
ปูแดงยังไม่ได้แสดงบทบาทของ ผู้นำที่ฉลาดออกมาให้เราเห็นเลยสักเรื่อง แต่เธอหนักไปทางเรื่องของความเบาปัญญา เบาวิสัยทัศน์ของความเป็นผู้นำมากกว่า ..
มิหนำซ้ำ..การที่เธอปล่อย ให้ลิ่วล้อข้างกายคอยปล่อยข่าวเรื่องของการปลุกระดมพวกไพร่แดงออกมาป่วน เมืองกดดันการทำงานของฝ่ายนั้นฝ่ายนี้อยู่ทุกวี่ทุกวันนั้น มันไม่ได้ทำให้แก๊งค์แม้วเผาเมืองดูน่าเกรงขาม หรือ ดูน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ..
มันมีแต่จะนำมาซึ่ง ความเอือมระอา ความอิดหนาระอาใจ ต่อพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบสิทธิและเสรีภาพของผู้คนในสังคม ที่พวกพลพรรคไพร่แดงพยายามจะทำตัวกร่างอยู่เนื่องกฎหมายของชาติบ้านเมือง มากกว่า ..



ปู แดงต้องระมัดระวังและต้องหัดควบคุมพวกไพร่แดงให้อยู่กับร่องกับรอยอยู่กับ เงื่อนไขกติกาอย่าหลุดไปทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายบ้านเมือง และ ผิดเงื่อนไขกติกามารยาท ..
เหตุเพราะหากปูแดงไม่มีความสามารถในการควบ คุมพวกไพร่แดง ไม่มีความสามารถในการเข้าไปลดความกร่างของพวกไพร่แดงในวันนี้ได้ ในวันหนึ่งข้างหน้ามันก็ไม่มีใครจะมารับประกันได้ว่าพวกไพร่แดงจะไม่พัฒนา ความอหังการ์ของพวกมันขึ้นมา..
จนพวกมันสามารถทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาข้ามหัวของนายกฯหญิงของเราได้
ซึ่งมันก็คงจะนำมาซึ่งความฉิบหาย และ ความน่าอับอายขายขี้หน้า ..
มาสู่ประเทศชาติบ้านเมืองของเรา..
อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้นแน่ๆ !!!..

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง