ตาร้อนทหารคือ'พระเอก' ไม่ไว้ใจกลัวโกยคะแนน! 'มะ'ชี้อำมาตย์ยังจ้องปว. ต้องระวัง-ตีกันไม่ให้เกิด
"มะ"
เพื่อนแม้ว ไม่ไว้ใจทหารโกยคะแนนนิยมช่วยน้ำท่วม
ดักคออย่าใช้เป็นข้ออ้างทำปฏิวัติ จับตามหาอำมาตย์ยังจ้องสั่งการ
เชื่อยังไม่ละความพยายาม ลั่นรัฐบาลต้องคุมทหารให้ได้
การันตีคนเพื่อไทย-ซากศพ111 ไม่ชิ่งหนี"น้องปู" แก้ปัญหาเหลว เผย "แม้ว"
ออกหน้าช่วงนี้เรื่องปกติ ไม่ได้ฉีกหน้าน้องสาว
วันที่ 7 พ.ย.2554 พล.ท.มะ โพธิ์งาม ผู้ช่วยรมว.คมนาคม และนายทหารตท.10 เพื่อนร่วมรุ่นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธกับ "ไทยอินไซเดอร์"
ว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริงกรณีมีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)
โดยส่วนตัวเห็นว่า ยังเร็วเกินไปที่จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้
เนื่องจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง
และขณะนี้รัฐบาลยุ่งอยู่แต่กับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
"เรายุ่งอยู่แต่
น้ำท่วม มันมีหลายหน่วยงาน รัฐมนตรีหลายท่านก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง
มันเกี่ยวพันกับส่วนราชการคือกทม.ส่วนใหญ่
มันก็เลยทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่แลดูเป็นปัญหาการเมือง
เพราะรัฐมนตรีบางท่านไม่มีโอกาสเข้ามาดูแลในหน้าที่ของตัวเอง"พล.ท.มะกล่าว
เมื่อถามว่า การทำงานที่ผิดพลาดในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากตัวรัฐมนตรีหรือหน่วยราชการ พล.ท.มะ กล่าวว่า "ผม
ว่าสถานการณ์มันมากกว่า มันไม่เกี่ยวกับตัวรัฐมนตรี
คือสถานการณ์น้ำมันท่วมขนาดนี้มันก็ผิดพลาดกันไปหมด ตัวปัญหาก็คือน้ำ
มันไม่เกี่ยวกับตัวรัฐมนตรีหรือตัวข้าราชการหรอก เนื่องจากเราไม่เคยเจอ
แล้วมาเจออย่างนี้ มันก็ทำอะไรก็ยากหน่อย การแก้ไขปัญหาอาจจะล่าช้า
ยุทโธปกรณ์ไม่มี มันก็ทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันไปอีก"
เมื่อ
ถามถึงกระแสข่าวที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ไม่พอใจการทำงานนายกรัฐมนตรี
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.ท.มะ กล่าวว่า มันไม่มีอะไรมากมาย
เพราะว่าการทำงานทุกคนก็รู้ว่า ปัญหามันเกิดจากภัยธรรมชาติ
รัฐบาลเข้ามาใหม่ก็ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือเท่าที่ควร เราไม่ได้เตรียม
เพราะเราไม่เคยเจอปัญหาอย่างนี้มา มันก็เป็นธรรมดา
พอไปหามามันอาจจะไม่ทันการ เลยทำให้เกิดเป็นเรื่องมันมีปัญหา
เมื่อ
ถามย้ำว่า ส่วนตัวยังพอใจการทำงานของนายกฯคนนี้อยู่หรือไม่ พล.ท.มะ
กล่าวว่า "ผมยังพอใจท่าน ผมดูจากการทำงานท่านเสียสละทุกอย่าง
ท่านแก้ปัญหาทุกอย่าง แต่ว่ามันเป็นภัยธรรมชาติ ญี่ปุ่นยังแก้ยากเลย"
เมื่อถามว่า คนในพรรคเพื่อไทยยังไม่กระโดดหนีใช่หรือไม่ พล.ท.มะ กล่าวว่า "ไม่
มีครับ ทุกคนสู้ เพราะว่าสู้เพื่อประชาชน
สู้เพื่อสิ่งที่เขาเลือกมา...เขาไว้ใจ
แต่ว่ามันเจอสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่ไม่ได้คาดคิดกันมาก่อน"
เมื่อถามว่า บ้านเลขที่111 มีบทบาทในพรรคเพื่อไทยมากน้อยเพียงใด สามารถชี้นำการทำงานได้หรือไม่ พล.ท.มะ กล่าวว่า "ผมยอมรับว่า 111 ก็มีคนเก่งเยอะ เอามาทำงานมันไม่ได้เป็นการชี้นำ คือเอามาทำงานร่วมกันในพรรค มันไม่ได้มีความขัดแย้งมากมาย"
เมื่อถามย้ำว่า 111 ไม่ได้กระโดดหนี พล.ท.มะ กล่าวว่า
"ครับ...ไม่ได้โดดหนี ผมเชื่ออย่างนั้น เพราะทุกคนต้องทำงานเพื่อพรรค
ทุกคน 111 ยังมีความมั่นคงในพรรคนะ
เมื่อพรรคมีแนวทางเดินอย่างไรก็ต้องช่วยกันทุกคน
แต่ในส่วนที่ยังเล่นการเมืองกันมันยังทำใจกันไม่ได้
พูดง่ายคือยังเห็นแก่พรรค หรือเห็นแก่การเมืองก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้นบ้าง
แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต"
เมื่อถามว่า ในฐานะนายทหารเก่าคิดเห็นอย่างไรกับสถานการณ์ตอนนี้ ที่มีการยกย่องทหารว่า เป็นพระเอก พล.ท.มะ กล่าวว่า
"มันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าทหารมีกำลังเป็นกลุ่มก้อน
แต่ว่าทหาร...อย่าถือโอกาสว่าใช้ส่วนนี้...ประชาชนชื่นชอบ
แล้วก็ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องในระบอบประชาธิปไตย
คือพอเห็นประชาชนก็จะเกิด...คิดว่าตัวเองมีพลัง ประชาชนหนุน
ก็อาจจะทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แต่ว่าอันนั้นผมว่า
เป็นสิ่งที่เราต้องระวังแล้วก็ป้องกันไม่ให้เกิด"
เมื่อถามย้ำว่า ยังมีข่าวว่าทหารจะใช้สถานการณ์นี้ปฏิวัติอยู่หรือ พล.ท.มะ กล่าวว่า
"ผมแน่ใจว่า พวกอำมาตย์ยังไม่คิดจะปล่อยมือ เมื่อมันไม่คิดปล่อยมือ
ก็มีความคิดของคนกลุ่มที่เป็นอำมาตย์ ที่เป็นผู้ใหญ่
เพราะฉะนั้นส่วนนี้ผมยังเชื่อว่า
มีความตั้งใจที่จะดำเนินการในส่วนที่ไม่เป็นประชาธิปไตย"
เมื่อถามว่า การที่ทหารออกมาแบบนี้ยิ่งทำให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลน้อยลงหรือไม่ พล.ท.มะ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะทหารเป็นเครื่องมือของประชาชน มันไม่ทำให้ขาดความเชื่อมั่น เพราะรัฐบาลต้องคุมทหารให้ได้
เมื่อถามว่า เสถียรภาพรัฐบาลขณะนี้ได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด พล.ท.มะ กล่าวว่า "ทุก
คนเข้าใจว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น
ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เกิดจากการบริหารที่ผิดพลาด
แต่ถ้าจะผิดพลาด...ถ้าเกิดในปีต่อไป
ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้...ผมถือว่าเป็นความผิดพลาดของรัฐบาล
เพราะฉะนั้นปัจจุบันทุกคนไม่สามารถไปโทษได้เลย
ทุกคนเห็นใจว่าภัยธรรมชาติซึ่งไม่เคยเกิดมาแบบนี้
ไม่มีใครจะแก้ปัญหาได้นอกจากการเยียวยา"
เมื่อถามว่า
การทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ได้ประสิทธิผลไม่เต็มที่เพราะขัดแย้งกับกทม.ใช่หรือไม่ พล.ท.มะ กล่าวว่า
"ผมว่าอย่าไปว่า...ทางการเมืองย่อมมี ถ้าบริหารได้ดีเขาก็ชมรัฐบาล
กทม.มันก็แย่ คือทุกคน...คนไทยส่วนใหญ่ ผู้นำที่มีอยู่ในทุกระดับ
จะมองปัญหาการเมืองเป็นหลัก
เพราะฉะนั้นถ้าเอาปัญหาการเมืองมาเป็นหลักการแก้ปัญหาจะล่าช้า
ถ้าพรรคผมทำดีประชาชนก็จะมาเลือกพรรคผม
ต้องยอมรับว่ามีปัญหาขัดแย้งบ้างแต่ว่าไม่ถึงกับมากมาย"
เมื่อถามว่า
ในฐานะเพื่อนคุณทักษิณ
มีความคิดเห็นอย่างไรกับการที่คุณทักษิณออกมาแสดงความคิดเห็นในช่วงนี้
ซึ่งมีนักวิชาการบางคนบอกว่าเป็นแย่งซีนน้องสาวตัวเอง
ทำให้ความความน่าเชื่อถือในเก้าอี้นายกฯของคุณยิ่งลักษณ์ลดน้อยลง พล.ท.มะ
กล่าวว่า "ผมไม่คิดอย่างนั้น ผมคิดว่าทุกคนช่วยกันทำงาน
คือคนที่มีประสบการณ์ก็ต้องเอาประสบการร์มาใช้แก้ปัญหากัน มันเรื่องธรรมดา
ผมเชื่อว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น
แต่ว่าคนที่คิดอย่างนั้นผมก็ไม่...ไปเบนความคิดเขาไม่ได้"
ล่าสุดน.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร จากนสพ.บางกอกโพสต์
ได้เขียนทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ค พร้อมรูปประกอบ
โดยมีข้อความระบุว่า...หนังสือพิมพ์แทบบลอยด์ของทบ."ข่าวทหารบก"
เล่มล่าสุด...พิมพ์ 4 สี ทั้งเล่มกระดาษอาร์ต โปรโมทผลงานทบ.ช่วยประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ ดุจพระเอก ใกล้ชิดประชาชน"
Thaiinsider
วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
โกง บ้า เดา เราเลือกกันเอง
ยายปูแดงใช้งบ80ล้าน จัดถุง(ไม่พอ)ยังชีพ 100000ถุง ตกถุงละ800บาท มรึงบ้าระยำทำกันอีกแระ ไอ้เวรพวกนี้..
ขอบคุณคุณ Wit Hin ที่คำนวณมูลค่าถุงของศปภ.มาให้. .
ท่าน ดร.ไก่ครับ ผมได้เช็คราคาสินค้าในถุงยังชีพ ของ ศปภ.ซึ่งคิดตามราคาขายปลีก และตีราคาให้แพงแล้ว เพื่อให้ทุกๆท่านได้ทราบพอประมา ณว่า มูลค่าในถุงยังชีพเท่าไหร่ ที่บอกว่าถุงละ 800 บาทนั้น แท้ที่จริงประชาชนได้รับประมาณเ ท่าไหร่ ทำออกมา 100,000 ถุง และไปเข้าถุงทอง ของตัวเองเท่าไหร่ ดังนี้
<><> ราคาของแจกที่บรรจุในถุงยังชีพ จำนวน 12 รายการ <>>
1. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จำนวน 6 ซองๆละ 7 บาท รวม = 42 บ.
2. ทิชชู่ จำนวน 1 ม้วนๆละ 10 บาท รวม = 10 บ.
3. ผ้าอนามัย จำนวน 1 แพ็คๆละ 40 บาท รวม = 40 บ.
4. ไฟแช็ค จำนวน 2 อันๆละ 10 บาท รวม = 20 บ.
5. เทียนเหลือง จำนวน 6เล่ม(1แพ็ค) 60 บาท รวม = 60 บ.
6. ยาพารา จำนวน 2 แผงๆละ 15 บาท รวม = 30 บ.
7. ขนมกินเล่น จำนวน 6 ซองๆละ 10 บาท รวม = 60 บ.
8. ข้าวขาว แพ็ค 2กิโล จำนวน 1 ถุงๆละ 90 บาท รวม = 90 บ.
9. น้ำปลาแบบซอง จำนวน 2 ซองๆละ 5 บาท รวม = 10 บ.
10.สบู่ จำนวน 1 ก้อนๆละ 10 บาท รวม = 10 บ.
11.ปลากระป๋อง จำนวน 1 กระป๋องๆละ 15บาท รวม= 30 บ.
12.ผักกาดกระป๋อง จำนวน 1 กระป๋องๆละ 15บาทรวม= 30 บ.
<><> รวม - มูลค่า ของในถุงยังชีพ = 432 บาท
- งบประมาณ ต่อถุง = 800 บาท
ดังนั้น - ยังมีเงินเหลือ / ถุง = 368 บาท
<><> ถ้า 100,000 ถุง - เงินเข้ากระเป๋า = 36,000,000 บาท
และเป็นที่น่าสังเกตุว่า ของที่สามารถรับประทานได้ง่ายเพ ื่อยังชีพ เช่น ปลากระป๋อง มีเพียงกระป๋องเดียว ซึ่งหากไม่มีข้าวก็สามารถรับประ ทาน เปล่าๆได้ หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูป ให้เพียงแค่ 6 ซอง ในขณะที่ แต่ละครอบครัว มีไม่ต่ำกว่า 2 คน อย่างมากกินแค่ 2 วันก็หมด ควรจะมีพอประมาณ หรือหากคิดตามมูลค่าของงบประมาณ ถุงยังชีพต่อถุง ถุงละ 800 บาท สามรถใส่ของที่เป็นอาหารได้มากก ว่านี้ ทำแบบนี้ อาจก่อให้เกิดการปล้นสะดม และโจรเกิดขึ้นทุกวัน เพราะทุกคนต้องหาอาหารใส่ท้องแล ะเมื่อมองถึงภัยที่เกิดขึ้นครั้ งนี้ ไม่ใช่เป็นภัย ปกติธรรมดา เป็นภัยที่ใหญ่หลวงนัก และเป็นเวลานาน
นี่คือสิ่งต่างๆตามรายการที่ได้ แสดงไว้ในถุงยังชีพพระราชทาน
ถุงยังชีพพระราชทาน(มูลค่าเดียว กับ )
เสื้อ6ตัว
ขันตักน้ำ
สบู่
ยาสระผม
แปรงสีฟัน
ยาสีฟัน
น้ำปลา1แพก
เกลือ
น้ำตาล
ข้าวขาว5กิโล
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป6ซอง
น้ำพริก4กระปุก
ผักดองกระป๋อง4กระป๋อง
ปลากระป๋อง4กระป๋อง
หอยลายอบแห้ง4กระป๋อง
จานกระดาษ
ผงซักฟอก
ผ้าอนามัย
ถุงดำ3แพค
ผ้าถุง
ผ้าขาวม้า
ผ้าขนหนูเช็ดตัว
ผ้าเช็ดเท้า
ไฟฉาย
ถุงผ้า
ยาสามัญประจำบ้าน1กล่อง .
ยังไม่พอส้วมกระดาษก็เอา วันหลังน่าจะแถมขี้ไปให้มันด้วยเลย
ข้อความของผู้สื่อข่าวASTV ที่มาจาก https://twitter.com/#!/9kant/status/132985732770971648
แล้วดูนี่
V
V
V
และนี่
V
V
V
แถมรอชุดใหญ่อีกเร็วๆนี้
“สาทิตย์” รับฝ่ายค้านหนักใจงบกลางฟื้นฟูน้ำท่วม 1.2 แสนล้าน ไม่มีรายละเอียดชัด หวั่นไม่โปร่งใส กระจายตามอิทธิพลทางการเมือง จี้แจงให้ชัด ห่วงโกงกินมโหฬาร รับไม่แน่ใจจะประชุมสภาอภิปรายงบกันได้หรือไม่ ด้านประธานวิปค้าน เผย มี ส.ส.จ่อซัก 70 ราย แนะดึงงบประชานิยมอัดฟื้นฟูอุทกภัยเพิ่ม พร้อมตั้งฉายา “งบประชานิยมท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
วันนี้ (6 พ.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายร่างงบประมาณประจำปี 2555 ว่า ฝ่ายค้านหนักใจเรื่องงบฟื้นฟูน้ำท่วม ที่มีตั้งงบกลางจำนวน 1.2 แสนล้านบาท เพราะไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนว่าเอาไปทำอะไร มีแต่เขียนวัตถุประสงค์ไว้กว้างๆ ว่า เป็นการชดเชย เยียวยา ฟื้นฟู ซ่อมแซมสาธารณูปโภค ซึ่งปัญหาคือ การใช้งบกลางเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว แม้หากเกิน 100 ล้านบาท ต้องมีการรายงานต่อครม.ก็ตาม แต่ระบบการตรวจสอบจะทำได้ยากมาก เพราะในชั้นกรรมาธิการวิสามัญจะไม่รู้เลยว่างบก้อนนี้เอาไปทำอะไร ดังนั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ มีการกระจายงบประมาณจะมีความเป็นธรรม และโปร่งใสมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในเอกสารร่างงบประมาณพยายามชี้แจงว่า เนื่องจากตอนจัดทำปริมาณน้ำยังไม่ลด ทำให้ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ จึงต้องเอาไปใส่ไว้ในงบกลาง แต่ในความเป็นจริงช่วงที่มีการทำงบประมาณ นั้น เรามีบางส่วนที่พ้นจากภาวะอุทกภัยแล้วในหลายพื้นที่ และดูจากเอกสารการประชุม ครม.ที่ทางกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวงชนบท และหน่วยงานอื่นๆ ได้รายงานความเสียหายไว้ชัดเจน ก็ควรแยกความเสียหายออกไปจัดอยู่ในกระทรวงต่างๆ และลงรายละเอียด เพื่อให้สภาสามารถตรวจสอบได้ เหมือนสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดทำงบกลางปีโดยแจกแจงในรายละเอียด ชัดเจน ดังนั้นอยากเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ลงรายละเอียดของงบประมาณต่างๆ ให้ชัดเจนเช่นกัน
นายสาทิตย์ กล่าวว่า งบน้ำท่วมเป็นงบที่จะเปิดช่องให้มีการทุจริตกันมากและง่ายที่สุด ดังนั้นฝ่ายค้านจะอภิปรายในส่วนนี้หลายคน รวมถึงงบยุทธศาสตร์ป้องกันอุทกภัยที่ตั้งไว้ 4.5 หมื่นกว่าล้านบาทจะต้องไปดูในรายละเอียดว่าที่รัฐบาลพูดเรื่องแผนบูรณาการ น้ำ 25 ลุ่มแม่น้ำ เรื่องการทำระบบป้องกันระยะยาวมีอะไรบ้าง คิดว่า 2 เรื่องนี้จะมีการอภิปรายกันมาก เพราะรวมงบประมาณแล้วเกือบ 1.5 หมื่นล้านบาท เข้าใจว่า ส่วนหนึ่งที่ต้องใส่ไว้ในของงบกลางเพราะต้องการอาศัยความคล่องตัวกรณีฉุก เฉิน แต่ก็มีการตั้งงบฉุกเฉินไว้ต่างหากอีก 6.6 หมื่นล้านบาท รวมกับงบกลางอีก 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งรวมแล้วเกือบ 2 แสนล้านบาท
“สิ่งที่เราเป็นห่วงมากสุด คือ ปัญหาการโกงกินงบประมาณ แต่จะมีการจับตาดูอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่ครม.มีมติให้ทุกกระทรวงส่งมาตรการเยียวยาไปที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติเพื่อทำการรวบรวมให้นายกฯ แต่ที่เราอยากเห็นมากกว่านั้นคือแผนการฟื้นฟูทั้งระบบว่าจะมีการทำอะไรบ้าง และใช้แหล่งเงินจากไหน จะมีการกู้จำนวนเท่าไหร่ เพราะขณะนี้มีความสับสนว่าจะใช้จากงบประจำปี 55 จำนวนเท่าไหร่ และจากงบปี 54 ที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายการเท่าไหร่ ดังนั้น ในขั้นตอนในสภาจะต้องมีการเสนอว่าจะมีการตรวจสอบความโปร่งใสในงบแต่ละ ตัวอย่างไร เพราะสิ่งที่ประชาชนกังวล คือ การกระจายไม่เป็นธรรม ไปตามกำลังของอำนาจอิทธิพลทางการเมือง และยิ่งมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างกทม. กับรัฐบาล ขณะที่กทม. เป็นการบริหารของผู้ว่าฯ กทม.ที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ลำพังงบจากกทม.เพียงอย่างเดียวมาเยียวยาปัญหาคงไม่ไหว ดังนั้น ความเป็นธรรมและความโปร่งใสจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ยังไม่ได้ยินมาตรการ หรือแนวทางที่ชัดเจนจากรัฐบาลคงต้องรอดูการตอบคำถามในสภาก่อน” นายสาทิตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงหรือไม่ว่ารัฐบาลจะอาศัยที่สมาชิกสภาไม่มีความพร้อมผลักดันร่างงบประมาณ ปี 55 ผ่านสภาโดยสะดวก นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่า ที่สุดแล้วสภาจะสามารถประชุมได้หรือไม่ เพราะสถานการณ์น้ำท่วมยังคงวิกฤตอยู่ อาจจะมี ส.ส.ถึงขั้นต้องพายเรือมาประชุมก็ได้ แต่สภามีกำหนดเวลา ในการพิจารณางบประมาณ 105 วัน ขณะนี้เวลาเลยเพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งความจริงยังสามารถรอให้สถานการณ์น้ำท่วมลดลงก่อน เพื่อประมวลความเสียหายที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน แต่ขั้นตอนที่ต้องใช้เวลามาก คือ ขั้นกรรมาธิการวิสามัญซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ เราจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อป้องกันไม่ให้มีการโกงกิน
ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการเตรียมพร้อมอภิปรายร่างงบประมาณปี 2555 ว่า มี ส.ส.พรรคผู้ประสงค์อภิปราย 70 คน โดยจะแบ่งประเด็นออกเป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการเมืองความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม โดยจะมีการอภิปรายที่เกี่ยวพันกับปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมสอดแทรกอยู่ใน ทุกกลุ่ม ทั้งนี้เห็นว่าการจัดสรรงบประมาณในส่วนงบกลางสำหรับฟื้นฟูและป้องกันอุทกภัย ที่รัฐบาลจัดไว้ 1.2 แสนล้านบาท น้อยเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 8 หมื่น ถึง 1 แสนล้านบาท ฉะนั้น เงินที่เหลือ 2 หมื่นล้านคงไม่พอยาไส้
“การจัดสรรงบประมาณในภาวะวิกฤตควรจัดให้เหมาะสมไม่ใช่จัดงบเหมือน ภาวะปกติ โดยเฉพาะยังเห็นว่ามีการคงงบประมาณสำหรับโครงการประชานิยมอยู่จำนวนมาก จึงควรปรับลดงบประมาณดังกล่าวเพื่อนำเงินมาใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมมากกว่าไปกู้ เงินมาใช้สำหรับฟื้นฟูประเทศ หากไม่พอแล้วค่อยพิจารณาที่จะไปกู้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นแบกภาระและการกู้เงินนอกงบประมาณจะทำให้ตรวจสอบยาก ซึ่งงบประมาณปี 55 นี้ ตนขอตั้งฉายาว่าเป็น “งบประชานิยมท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
ส่วนเรื่องญัตติด้วยน้ำท่วมนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่า รัฐบาลจะเปิดให้สมาชิกได้อภิปรายหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีการเลื่อนการพิจารณามาแล้วถึง 2 ครั้งแล้ว เสมือนกับรัฐบาลกลัวว่าจะถูกฝ่ายค้านรุมอภิปรายอย่างหนัก
พวกนักการเมืองเราที่เข้ามาบริหารประเทศมีแต่พวกโกงไม่พอ ดันมีคน สติไม่ดี มาบริหารด้วย ปวดใจสุดๆ
ที่ควรแจกไม่แจก ไปแจกที่ๆไม่จำเป็น
หรือว่า รู้ล่วงหน้าว่าเดี๋ยวจะท่วมเลยแจกก่อน
เพราะเดี๋ยวน้ำท่วมจะแจกไม่ได้ ก็ไม่แน่ ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้้
เพราะ รัฐบาลมีนอสตราดามูสเมืองไทย
อ่านและดูกันจนถึงนี่ ก็คงไม่แปลกใจกับสิ่งที่ท่านเห็นในคลิปนี้
มันจะไำม่เป็นแบบนี้ได้ไง มีแต่ โกง มีแต่ บ้า มีแต่ เดา ที่เข้ามามีหน้าที่ตรงนี้
จะโทษใครได้ ทุกอย่างอันน่าสมเพชนี้ เกิดจากปากกาที่เรากาเลือกตอนเข้าคูหาด้วยมือพวกเราเอง
หวังว่า คนส่วนใหญ่ จะจำเหตุการณ์ที่ประสบพบเจอนี้ ให้แม่น จนถึงตอนใช้สิทธิ์ของทุกคนในครั้งหน้าละกันครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน