บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ปรากฏการณ์ย้อนกลับของขบวนการพันธมิตรฯ (สารส้ม)

สาระสำคัญในหนังสือแจ้งมติของกรรมการบริหารสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ สัมพันธ์ (สรส.) กรณีให้แกนนำ สรส.ถอนตัวออกจากกิจกรรมชุมนุมของแกนนำพันธมิตรฯ สื่อนัย และความหมายทางการเมืองที่น่าสนใจอย่างยิ่ง 1) สรส.แจ้งเหตุผลที่ต้องให้นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่ปรึกษา สรส. และนายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการ สรส. ถอนตัวออกจากการเข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ในปัจจุบัน ประเด็นสำคัญระบุว่า


"...เมื่อการชุมนุมผ่านมาได้ระยะหนึ่ง มีการนำเสนอของแกนนำและผู้ปราศรัยบนเวที เป็นไปในลักษณะที่ไม่รักษาจุดยืนเดิม และมีการกล่าวโจมตีต่อบุคคลต่างๆ ที่เคยร่วมต่อสู้อย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ ในลักษณะที่รุนแรงฝ่ายเดียว โดยที่ผู้ที่ถูกกล่าวหาไม่มีโอกาสได้ชี้แจง รวมทั้งการนำเสนอโดยแกนนำบนเวทีที่สุ่มเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการ เมืองที่เป็นไปในลักษณะที่ไม่ได้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราช อาณาจักรไทย และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งขัดต่อจุดยืน อุดมการณ์ และธรรมนูญของ สรส.
...ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แกนนำ สรส.ถอยออกมา เพื่อทบทวนท่าทีการเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ โดยเฉพาะการขึ้นเวที โดยไม่ให้กรรมการบริหาร สรส.ขึ้นเวทีปราศรัย หรือทำกิจกรรมอื่นบนเวทีการชุมนุมพันธมิตรฯ และให้นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่ปรึกษา สรส. ถอนตัวจากแกนนำรุ่นที่ 1 และนายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการ สรส. ถอนตัวจากแกนนำรุ่นที่ 2 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2554 เป็นต้นไป"
เหตุผลที่ สรส.นำมาพิจารณานั้น เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏโดยทั่วไปในการชุมนุมของ "กลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ" ครั้งนี้ หวังว่าหากเวทีพันธมิตรฯ จะชี้แจงหรือตอบโต้ ควรจะใช้เหตุผลและข้อเท็จจริง บนพื้นฐานที่ความเคารพในดุลยพินิจและการตัดสินใจขององค์กรอื่นที่อาจจะมี ความเห็นแตกต่างจากตนเองได้
ข้อเท็จจริงจากกรณีนี้ และผลที่ปรากฏตามมา คือ การที่ สรส. ได้ถอนตัวออกมาจากการร่วมชุมนุมของกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ขณะนี้ อย่างเป็นทางการ
2) กรณีนี้ ทำให้เห็นภาพปรากฏการณ์ทางการเมืองชัดเจนยิ่งขึ้นว่า การชุมนุมภายใต้การนำของกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ บางคน ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ มีองค์ประกอบ เหตุปัจจัย และแนวร่วมสนับสนุนที่ "แตกต่างจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" อันเป็นปรากฏการณ์ประวัติศาสตร์ในอดีต
3) คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ เคยเขียนบทความเรื่อง "รู้จักพันธมิตรฯ" อยู่ในหนังสือ "รู้ทันทักษิณ 5 สงครามการเมือง" แจกแจงให้เห็นการก่อเกิดและองค์ประกอบของความเป็น "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ใจความสำคัญบางตอนว่า
"...พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก่อตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2549 ภายหลังจากการชุมนุมใหญ่ที่นำเดี่ยวครั้งแรกและครั้งเดียวโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549 มีองค์ประกอบที่มาจากคนในอาชีพที่หลากหลาย เช่น สื่อมวลชน ภาคแรงงาน รัฐวิสาหกิจ องค์กรครู ชนชั้นกลาง องค์กรภาคประชาชน เกษตรกร ศิลปิน ฯลฯ เป็นการรวมตัวกันของภาคประชาชน เพื่อมาตรวจสอบและต่อต้านนักการเมืองในระบอบทักษิณที่ทุจริตคอร์รัปชั่น หนีภาษี แทรกแซงสื่อมวลชน รวบอำนาจทางการเมือง แทรกแซงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อมา ได้สลายตัวไปชั่วคราวหลังจากได้บรรลุวัตถุประสงค์การชุมนุม เมื่อรัฐบาลทักษิณได้ถูกรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 และชุมนุมกดดันขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในปี 2551 โดยมีสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ถ่ายทอดสดตลอดการชุมนุม..."
ในข้อเขียนดังกล่าวได้ระบุถึงองค์ประกอบของแกนนำพันธมิตรฯ 5 คน ประกอบไปด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายพิภพ ธงไชย โดยให้รายละเอียดที่มาของแต่ละคนเอาไว้ด้วย เช่น
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข "เป็นผู้นำสหภาพแรงงานและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ทำงานภาคแรงงานมาเกือบทั้งชีวิต เป็นที่ยอมรับในวงการสหภาพแรงงานในต่างประเทศ เข้ามาร่วมกับมาเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในฐานะเป็นตัวแทน ของสมาพันธ์ประชาธิปไตยที่คัดเลือกมา มีบทบาทสำคัญในการนำสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เข้ามาร่วมงานกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีส่วนสำคัญในด้านการใช้มาตรการอารยขัดขืน และงานรักษาความปลอดภัย ตลอดระยะเวลาการชุมนุม"
4) ถึงวันนี้... เมื่อนายสมศักดิ์ และ สรส.ถอยออกจากการชุมนุมของกลุ่มแกนนำพันธมิตรบางคนไปเสียแล้ว หลังจากที่แนวร่วมสำคัญหลายต่อหลายคนของพันธมิตรในอดีตได้แยกสาย แยกทาง และหลายคนแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวการเมืองของกลุ่มแกนนำบางคน ในขณะนี้ไปก่อนหน้าแล้วนั้น จึงทำให้เห็นภาพปรากฏการณ์ย้อนกลับของขบวนการพันธมิตรฯ
จากการชุมนุมของ "สนธิและพวก" ในอดีต พัฒนามาสู่การเข้าร่วมของภาคประชาสังคมหลากหลาย ไหลเนื่องมาบรรจบ กลายเป็นสารธารมหาชน เป็นสิ่งที่เรียกว่า "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
มาบัดนี้ จากที่เคยเป็น "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" เมื่อได้สูญเสียแนวร่วมและพลังศรัทธาของมหาชนไปไม่น้อย (ซึ่งล่าสุด สรส.ก็แยกออกไปแล้ว) ใกล้จะกลับไปเหลือแต่เพียง "สนธิและพวก"
อย่างไรก็ตาม... นี่ไม่ใช่ "ความเสื่อมของพันธมิตรฯ" เพราะความเป็นพันธมิตรฯ ที่แท้จริงนั้น ยังไม่หายไปไหน เพียงแต่รอเวลา รอเงื่อนไข รอเหตุผลที่ถูกต้อง ครบถ้วน สอดคล้องกับจุดยืนของการต่อสู้ดั้งเดิมอย่างแท้จริง และหากถึงเวลานั้น เชื่อว่า "พันธมิตรฯ" ก็จะออกมาร่วมกันไม่น้อยไปกว่าเดิม
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง