วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554
เพื่อไทยอู้ฟู่ เจ้าพ่อคอมมาร์ทเทบริจาค 4 ล้าน-ลูกชายเทพเทือกคัมแบ็คขาใหญ่ ปชป.
พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับเงินบริจาคมากที่สุดประจำเดือนกันยายน 2554 โดย นายมินทร์ อิงค์ธเนศ เป็นผู้บริจาคมากสุด
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้เปิดเผยยอดเงินบริจาคพรรคการเมืองประจำเดือนกันยายน 2554 พรรคการเมืองแจ้งว่าได้รับบริจาค 6 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย ได้รับบริจาคมากสุด รองลงมา ประชาธิปัตย์ มาตุภูมิ รักประเทศไทย การเมืองใหม่ และ กิจสังคม
พรรคเพื่อไทย 10,000,000 บาท
บริษัท โมบายลิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด 2,000,000 บาท (ขายเครื่องมืออิเล็คทรอนิคส์ คอมพิวเตอร์นายทศพล ตะริโยถือหุ้นใหญ่)
บริษัท เอคอท กรุ๊พ(ไทยแลนด์) จำกัด 2,000,000 บาท (ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ นายปรีชา เอมโอชถือหุ้นใหญ่)
บริษัท กลุ่มแอดวานซ์ รีเสิร์ช จำกัด 2,000,000 บาท (นายมินทร์ อิงค์ธเนศ ถือหุ้นใหญ่)
บริษัท คอร์แอนด์พีค จำกัด 2,000,000 บาท (บริษัท กลุ่มแอดวานซ์ รีเสิร์ช จำกัด ถือหุ้นใหญ่)
นายกฤช กุลทรัพย์ไพศาล 1,000,000 บาท
นายไพรัตน์ ดำริพัฒนสกุล 1,000,000 บาท
พรรคประชาธิปัตย์ 9,466,900 บาท ผู้บริจาครายใหญ่
นายสาโรจน์ สามารถ 1,500,000 บาท
นายรังสรรค์ กีย์ปัจจ์ 1,500,000 บาท
นายแทน เทือกสุบรรณ 1,000,000 บาท
นายอวยชัย วรดิลก 1,000,000 บาท
นางสาวสภาวดี สิวะถาวร 1,000,000 บาท
นายพงศ์ตะวัน แสงสว่าง 1,000,000 บาท
นางสาวเสาวลักษณ์รักษ์ภาณุสิทธิ์ 500,000 บาท
นายฐิติพล ไชยกวิน 500,000 บาท
นายปริวัตร สุทธิโภชน์ 500,000 บาท
บริษัท รักลูกกรุ๊ป จำกัด 500,000 บาท
นายกัณณ์มงคล กมลรัตนพิบูล 200,000 บาท
นายอัศวิน วิภูศิริ 200,000บาท
พรรคมาตุภูมิ 300,000 บาท (บริษัทไอไทม์ โกลบอล คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย))
พรรครักประเทศไทย 242,000 บาท (บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด )
พรรคการเมืองใหม่ 10,000 บาท
นายมินทร์ (แจ็ค มินทร์) ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อคอมมาร์ท ปัจจุบันมีธุรกิจในเครือ 29 บริษัท อาทิ บริษัท คอร์แอนด์พีค จำกัดบริษัท ไอทีไอที เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด บริษัท ดีทู ซิสเต็มส์ จำกัด บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยอะมาซอน ออนไลน์ จำกัด เป็นต้น
ที่มา :: TCIJ
'พท.'ปูดแผน9ขั้นล้มรัฐบาล'ปู'
“เพื่อไทย” ปูด แผนบันได 9 ขั้น เตรียมล้มรัฐบาล“ยิ่งลักษณ์”ก่อนปี 55 อ้างเหตุกลัวบ้านเลขที่ 111 คืนชีพ พร้อมตีกั้นใครคิดทำลายรบ.ถือว่าเป็นคนชั่วร้าย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงว่า มีกลุ่มการเมืองร่วมมือกลุ่มผู้สูญเสียอำนาจ จ้องจะล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยวางแผน 9 ข้อ 1.ให้สื่อฝ่ายตรงข้ามโจมตีพรรคเพื่อไทยทุกประเด็นทั้งในเรื่องนโยบายและตัวบุคคล 2. กลุ่มผู้มีอำนาจ ผู้สูญเสียอำนาจที่เคย ดูแลกระทรวงไหนมาก่อน สั่งให้ลูกน้องตัวเองเกียร์ว่าง ไม่ให้ความร่วมมือกับผู้บริหารชุดปัจจุบัน 3.ยุยงข้าราชการที่ถูกย้ายให้ออกมาร้องทุกข์กล่าวโทษว่าถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม เพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้รัฐบาล
4.ยุยงให้ชาวบ้าน กลุ่มคนมาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารในรัฐบาลเพื่อไทย 5.ให้กลุ่มที่อาศัยคราบเอ็นจีโอบางกลุ่ม ออกมาทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล โดยการล่ารายชื่อ หรือกลุ่มโจมตีรัฐบาลทุกประเด็น 6.ใช้เครือข่ายสื่อที่ตัวเองที่มี รวมทั้งทางโซเชียลเน็ตเวิร์กให้โยงเป็นคอนเซปต์เดียวว่า ยิ่งลักษณ์ช่วยทักษิณ เพื่อให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าเป็นรัฐบาลที่จะช่วยเหลือคนๆเดียว
7.โจมตีสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนในรัฐบาล ในเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน โดยเน้นความไม่จงรักภักดี 8.ดำเนินการทำร้ายแกนนำคนเสื้อแดง สมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมถึงบุคคลสำคัญๆในรัฐบาล 9.เมื่อข้อ1-8ประสบผลสำเร็จ ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลบริหารงานแล้วส่งผลเสีย ก็ให้เร่งประเด็นยุบพรรคเพื่อไทย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า อยากสอบถามว่าแผนทั้ง 9 ข้อ ที่กลุ่มการเมืองและผู้เสียอำนาจบางกลุ่มมุ่งหวังจะล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีจริงหรือไม่ และที่ระบุต้องล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ได้ก่อน พ.ค. 55 หรือก่อนที่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111คน จะพ้นจากการถูกเพิกถอนสิทธิ์การเมืองเป็นจริงหรือไม่ หากเป็นจริงต้องถือว่าชั่วร้ายมาก ที่มีการกลุ่มจ้องทำลายประชาธิปไตย มองแต่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าประโยชน์ประเทศชาติ ทำลายประชาธิปไตย ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ กติกา ไม่ฟังเสียงประชาชน ขอประณามเรื่องเหล่านี้ โดยตนจะนำเรื่องนี้แจ้งต่อพรรคในการประชุมพรรควันอังคารนี้ และจะยื่นให้หน่วยงานต่างๆในรัฐบาลตรวจสอบป้องกันและป้องปราม ไม่ให้เกิดขึ้นด้วย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า การมุ่งทำร้ายคนในพรรค คนในรัฐบาล สมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อให้เกิดความหวาดระแวง ระหว่างคนทั้ง 3 ส่วน กับกองทัพ โดยกลุ่มที่เสียประโยชน์ต้องการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ทำให้รัฐบาลบริหารงานไม่ได้ก่อนที่จะเชื่อมโยงมาสู่การยุบพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเหมือนกับเหตุการณ์ปี 2551 ในการยุบพรรคพลังประชาชน เรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งอัปลักษณ์ ของกลุ่มอยากมีอำนาจ กระสันอำนาจที่ไม่ต้องลงเลือกตั้ง ซึ่งจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม เพื่อให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไปเพราะอาจจะนำไปสู่กลียุคได้
แล้วผมก็ไปเจอความเห็นน่าสนใจจากเว็บๆหนึ่ง
ความคิดเห็นจากหนึ่งในเว็บเสื้อแดง
freedom
ใครคิดล้มล้างรัฐบาล ถือเป็นพวกเผด็จการ พวกทรราช และคนชั่ว เราคนไทยรัก
ประชาชน รักประเทศชาติ เป็นผู้มีสิทธิมีเสียง และมีเสรีภาพ เป็นเจ้าของประเทศ
อย่างเท่าเทียม กันเราอย่าให้คนกลุ่มน้อยพวกนี้ มาสร้างความร้าวฉาน และอาศัย
แผ่นดินไทยของเราอีกต่อไป
แผนบันได 9 ขั้น มีดังนี้
1. ให้สื่อฝ่ายตรงข้ามโจมตีพรรคเพื่อไทย ทุกประเด็น ทั้งในเรื่องนโยบาย
และตัวบุคคล
2. สั่งให้ลูกน้องตัวเองเกียร์ว่าง ไม่ให้ความร่วมมือกับผู้บริหารชุดปัจจุบัน(เราสังเกตุ
มานานแล้วว่า รตม. สื่อ แกเกียร์นานแล้ว)
3. ยุยงข้าราชการที่ถูกย้ายให้ออกมาร้องทุกข์กล่าวโทษว่าถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม
เพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้รัฐบาล
4. ยุยงให้ชาวบ้าน กลุ่มคนมาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารในรัฐบาลเพื่อไทย
5. ให้กลุ่มที่อาศัยคราบเอ็นจีโอบางกลุ่ม ออกมาทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาลโดย
การล่ารายชื่อ หรือกลุ่มโจมตีรัฐบาลทุกประเด็น
6. ใช้เครือข่ายสื่อที่ตัวเองที่มีรวมทั้งทางโซเชียลเน็ตเวิร์กให้โยงเป็นคอนเซปต์เดียว
ว่า ยิ่งลักษณ์ช่วยทักษิณ เพื่อให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าเป็นรัฐบาลที่จะช่วยเหลือ
คนๆเดียว
7. โจมตีสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนในรัฐบาล ในเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน โดยเน้นความ
ไม่จงรักภักดี
8. ดำเนินการทำร้ายแกนนำคนเสื้อแดง สมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมถึงบุคคลสำคัญๆ
ในรัฐบาล
9. เมื่อข้อ 1-8 ประสบผลสำเร็จ ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลบริหารงานแล้วส่งผลเสีย ก็
ให้เร่งประเด็นยุบพรรคเพื่อไทย
โมเดลทำลายล้างแบบเดิมๆ ทุกยุคทุกสมัยใช่ได้ดี ..
เที่ยวนี้ มามาดูกัน มุกนี้ .. จะเวิร์คหรือแป๊ก !!
ผมอยากถามว่า
ไอ้คำว่า อย่าให้คนกลุ่มน้อย มาสร้างความร้าวฉาน และอาศัยบนผืนแผ่นดินไทยของเราอีกต่อไป หมายความว่ายังไง????? หรือว่า คนกลุ่มน้อยที่ว่าไม่ใช่คนไทย แล้วประโยคนี้ สร้างความร้าวฉานหรือไม่?
ประชาธิปไตยคือการไม่สนใจเสียงคนส่วนน้อยเลยเหรอ?
ฝ่า!ลักษณะพิเศษ'นวนคร'เหตุใดผู้บริหารถึงกล้าชนศปภ
จากกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 19 ต.ค.
ฝ่า!ลักษณะพิเศษ'นวนคร'เหตุใดผู้บริหารถึงกล้าชนศปภ. และเหตุใดนายกฯต้องยอมเปิดประตูระบายน้ำ 5 แห่งหรือคำตอบเพราะสีเขียวและเครือข่ายตรง'ทักษิณ
สองวันก่อน กองทัพน้ำจะเข้าโจมตีนิคมอุตสาหกรรมนวนคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ปรากฏกายที่สำนักงานผู้บริหารนิคมฯนวนคร
ถัดจากวันที่น้ำทะลุลอดกำแพงเข้าท่วมนวนคร พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เล่าให้นักข่าวฟังว่า คืนวิกฤติที่นวนคร ตนก็อยู่ที่นั่นกับนายทหารจาก ร.11 รอ. และ พล.1 รอ. โดยประสานกับ ผบ.ทบ.
ตลอดเวลา
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ยังเปิดเผยว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับปากจะคุยกับ ศปภ.ให้ระบายน้ำผ่านประตูน้ำทั้ง 5 แห่ง ตามข้อเสนอของนวนครก่อนหน้านี้
บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ยังต้องฝ่าน้ำ...เข้านวนคร ร่วมหาทางแก้ไข เมื่อค่ำวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา
หลายคนอาจสงสัยว่า เหตุใดนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ ถึงพิเศษกว่า 4-5แห่งที่จมไปก่อนหน้านี้ อย่างน้อยที่ปรึกษานิคม ถึงกล้าชนกับ ศปภ.โดยตรง และเหตุเหตุใดล่าสุด รัฐบาลจึงยอมที่จะเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 5 ตามข้อเสนอของนวนคร ?
เมื่อเห็นรายชื่อกรรมการ บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) แล้วก็หายสงสัยทันที !
เริ่มจากวัน ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรากฏกายที่สำนักงานผู้บริหารนิคมฯนวนคร พล.อ.ชัยณรงค์ หนุนภักดี ในฐานะ กรรมการและประธานกรรมการบริหาร ให้การต้อนรับ รวมถึง"ผู้การอ๊อฟ" พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.11 รอ.) ที่ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์ดังกล่าว
พล.อ.อัครเดช ศศิประภา ประธานกรรมการ พล.อ.ชัยณรงค์ หนุนภักดี กรรมการและประธานกรรมการบริหาร พล.ต.อ.สมชาย วาณิชเสนี รองประธานกรรมการ พล.อ.อ.นพพร จันทวานิช กรรมการ พล.ท.สีขรินทร์ สิงหพันธุ์ กรรมการอิสระ และคุณหญิงศุภนภา อัตตะนันทน์ (ภริยา พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ อดีต ผบ.ทบ.) กรรมการอิสระ
นี่คือบอร์ดนวนคร ที่คลาคล่ำไปด้วยคนมีสี !
พล.อ.อัครเดช ศศิประภา หรือ "เสธ.แอ๊ว" ที่คนในยุทธจักรต้องนิ่งฟัง และโด่งดังมาก่อนจะได้ตำแหน่ง รอง ผบ.สส. ยุคทักษิณเรืองอำนาจ
"เสธ.แอ๊ว" เป็นน้องชายของ "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ผู้คุ้นเคยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มายาวนาน
"บิ๊กอ๊อด" มีภริยาชื่อ คุณหญิงอรพรรณ ศศิประภา ซึ่งเป็นพี่สาวของคุณหญิงศุภนภา อัตตะนันทน์ ภริยา "บิ๊กเกาะ" พล.อ.สมทัต
ทั้งคุณหญิงอรพรรณและคุณหญิงศุภนภา ต่างก็เป็นธิดาของ จอมพลประภาส จารุเสถียร
ว่ากันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำธุรกิจกับเครือข่ายตระกูล "จารุเสถียร-กิตติขจร" มาตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่ถนนการเมือง
ฤดูกาลโยกย้ายนายทหาร 2545 พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเลือก "บิ๊กเกาะ" พล.อ.สมทัต เป็น ผบ.ทบ. คั่นเวลา 1 ปี รอเวลาญาติ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ในปีถัดไป
จะว่าไปแล้ว นิคมฯนวนคร ก็เป็นมรดกของรัฐบาลทหารสายตระกูล "จารุเสถียร-กิตติขจร" ซึ่งมีการวางรากฐานไว้ตั้งแต่ยุคปลายสงครามเวียดนาม
สำหรับ "บิ๊กหนุน" พล.อ.ชัยณรงค์ หนุนภักดี จปร.11 (รุ่นน้อง พล.อ.อัครเดช จปร.10) หลังจากพ้นพงหนามพฤษภาทมิฬ ขึ้นเป็น รอง ผบ.สส.จนเกษียณอายุราชการ
"บิ๊กหนุน" เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี และ "ผู้การอ๊อฟ" ที่นำกำลังพลมาช่วยกู้นวนคร ก็เป็นลูกชายสุดที่รักของบิ๊กตุ๋ย
นอกจาก จปร.คอนเนกชั่น บอร์ดนวนครชุดนี้ยังเป็น "เซนต์คาเบรียลคอนเนกชั่น" เพราะ พล.อ.อัครเดช เป็นประธานสมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่าคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย โดยมี พล.อ.ชัยณรงค์ หนุนภักดี และ พล.ต.อ.สมชาย วาณิชเสนี เป็นกรรมการ
ไม่แปลกที่ พล.อ.วิชา ศิริธรรม อดีต ส.ว.จันทบุรี ในฐานะมือทำงานของ "เสธ.แอ๊ว" จึงเป็นกระบอกเสียงของนวนคร อันมีท่าทีที่แข็งกร้าว เปิดหน้าชนกับ ศปภ.
มิหนำซ้ำยังสำแดงพลังต่อสายข้ามดอนเมือง ตรงไปทำเนียบรัฐบาล เพราะผู้บริหารนวนคร ไม่ใช่ผู้บริหาร 4-5 นิคมอุตสาหกรรม ที่จมน้ำมาก่อนหน้านี้ !
ด้วยความปรารถนาดี,
บ้านตุลาไทย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน