บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ซีเรียชนวนระเบิด!! เตือนสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นได้ใน 30 วินาที

ซีเรียชนวนระเบิด!! เตือนสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นได้ใน 30 วินาที 

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ต.ค. 2558 13:10



(เครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียถล่มเป้าหมายไอซิส)

นักวิเคราะห์สายทหารต่างชาติ เตือนสงครามโลกครั้งที่ 3 อุบัติขึ้นได้ใน 30 วินาที โดยมีสงครามกลางเมืองในซีเรียเป็นชนวนระเบิด ชี้หากมีบินรบของชาติใดตก อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเป็นตัวจุดชนวนสงคราม เพราะตอนนี้ สหรัฐฯ และรัสเซีย มีชาติพันธมิตรแสดงตนเป็นพวกชัดเจน แถมจีนก็ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินมาแล้ว

เดอะ มิร์เรอร์ ออนไลน์ สื่อในอังกฤษรายงานความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์สายทหารต่างชาติ ซึ่งคร่ำหวอดเชี่ยวชาญเรื่องราวของสงครามมานาน เตือนว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 สามารถอุบัติขึ้นได้ภายในเวลาแค่ 30 วินาที โดยมีชนวนจากสถานการณ์สงครามกลางเมืองในประเทศซีเรีย ซึ่งตอนนี้ หลายประเทศได้เข้ามายุ่งเกี่ยวและแยกออกเป็นสองฝ่ายชัดเจน นั่นคือ ฝ่ายสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร 11 ชาติ ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย กับฝ่ายรัสเซีย และพันธมิตร ที่สนับสนุนประธานาธิบดีอัล อัสซาด ตอนนี้มีอยู่ 4 ชาติ คือ อิหร่าน จีน เลบานอน และอิรัก 

นักวิเคราะห์สายทหารมากประสบการณ์คนหนึ่ง แสดงความเห็นว่า จากการที่มีเครื่องบินรบของสหรัฐฯ และพันธมิตรหลายลำบินเข้ามาโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส ในประเทศซีเรีย ทำให้เกิดความกังวลว่าหากมีเครื่องบินลำใดลำหนึ่งประสบเหตุตก จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่า เป็นฝีมือของชาติฝ่ายตรงข้าม และเป็นชนวนให้เกิดการสู้รบระหว่างสองฝ่าย

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย เดินทางไปเยือนคาซัคสถาน เมื่อ 15 ต.ค.
ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย(ขวา) หารือกับนายอลาดิน โบรอเจอร์ดี คณะกรรมการนโยบายการต่างประเทศของรัฐสภาอิหร่าน เดินทางมายังกรุงดามัสกัส เมื่อ 15 ต.ค.

พล.ท.ชาร์ลส์ บราวน์ ผู้บัญชาการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองกำลังสหรัฐฯ ในซีเรียกล่าวว่า ได้เกิดเหตุระทึก เครื่องบินรบสหรัฐฯและรัสเซียหวุดหวิดจะชนกันกลางอากาศขณะปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอซิส เพราะอยู่ห่างกันแค่ 20 ไมล์เท่านั้น ซึ่งความเร็วของเครื่องบินรบทั้งสองลำ สามารถทำให้เกิดหายนะ เครื่องบินรบของสองฝ่ายอาจชนกันได้ภายในเวลา 30 วินาที

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน Liononing ของจีนได้เดินทางมาประจำการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียยน นอกชายฝั่งของประเทศซีเรียแล้ว ซึ่งพร้อมจะส่งเครื่องบินรบ J-15 เข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย

นายอลาดิน โบรอเจอร์ดี คณะกรรมการนโยบายการต่างประเทศของรัฐสภาอิหร่านมาเยือนซีเรีย 

ขณะที่ กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์เครื่องบินรบรัสเซียโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มไอซิสในซีเรียอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มเปิดฉากโจมตีครั้งแรกเมื่อ 30 ก.ย. โดยล่าสุด กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้แพร่ภาพการโจมตี ยานลำเลียงหุ้มเกราะของกลุ่มไอซิส และคลังเก็บน้ำมันในจังหวัดอิดหลิบ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. พร้อมระบุ เครื่องบินรบรัสเซียถล่มเป้าหมายไอซิสถึง 32 แห่งในช่วง 24 ชั่วโมง

นายอาเดล อัล จูเบียร์ รมว.ต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย (ซ้าย) แถลงข่าวร่วมรมว.ต่างประเทศตุรกี ที่กรุงอังการา เมื่อ 15 ต.ค. 
ทหารซีเรียยิงปืนใหญ่โจมตีฝ่ายกบฏในจังหวัดลาตาเกีย

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทั้ง สหรัฐฯ และรัสเซีย รวมถึงชาติพันธมิตร ได้มีการเคลื่อนไหวทางการทูตอย่างชัดเจน โดย มีการพบปะเจรจากับชาติพันธมิตรเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามกลางเมืองในซีเรีย อาทิ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เดินทางไปเยือนคาซัคสถาน เมื่อ 15 ต.ค.เพื่อหารือกับประธานาธิบดีนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและสงครามในซีเรีย

ส่วน นายอาเดล อัล จูเบียร์ รมว.ต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังกรุงอังการา เมืองหลวงตุรกี เมื่อ 15 ต.ค.และได้มีการเจรจากับ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งรมว.ต่างประเทศทั้งสองยังคงย้ำจุดยืนไม่ต้องการให้ประธานาธิบดีอัล อัสซาดมีบทบาทในอนาคตของซีเรี

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แฉ..ช็อคโลกจ้าวลัทธิประชาธิปไตยสารภาพยอมรับต่อที่ประชุมใหญ่ UN ว่าประเทศตนเองร่วมระเบิดตึกเวิลด์เทรดเหตุ 9/11 และสนับสนุนการปฏิวัติ


วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แฉ..ช็อคโลกจ้าวลัทธิประชาธิปไตยสารภาพยอมรับต่อที่ประชุมใหญ่ UN ว่าประเทศตนเองร่วมระเบิดตึกเวิลด์เทรดเหตุ 9/11 และสนับสนุนการปฏิวัติ

  

เหตุก่อการร้ายถล่มเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ของอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 หรือเรียกกันสั้นๆ ติดปากในเวลาต่อมาว่า 9/11 เป็นเหตุการณ์สะเทือนโลกมีผู้คนล้มตายจำนวนมากที่สุดกว่า 3,000 คน และบาดเจ็บจำนวนมากจารึกในประวัติศาสตร์ของอเมริกา และอเมริกาประกาศทำสงครามกับการก่อการร้ายทันที


สร้างตัวมาสค็อตกลุ่มอัลกออิดะห์ว่าเป็นกลุ่มที่ลงมือโหด และเป็นกลุ่มที่อันตรายร้ายแรงสุดขั้วจากนั้นทุ่มงบประมาณด้านการทหารมหาศาล พาลทำสงครามกับประเทศอื่นคือ อัฟกานิสสถาน อิรัก โดยกล่าวหาว่าเป็นที่พักพิงของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ เรียกได้ว่ากว่า 12 ปีที่ผ่านมาอเมริกาบอกประชาชนตัวเองและชาวโลกว่า อเมริกาโดยลัทธิประชาธิปไตยทำสงครามกับกลุ่มอัลกออิดะห์  


แต่แล้วเมื่อราว 3-4 ปีที่ผ่านมาขยะเน่าๆ นี้เริ่มอืดและส่งกลิ่นเหม็น เมื่อโลกประจักษ์ความจริงว่าความสลับซับซ้อนของขบวนการก่อการร้ายในโลกที่ก่อเหตุรุนแรงแต่ละครั้งสร้างความเสียหายรุนแรง และสร้างความตื่นตระหนก มากขึ้นเรื่อยๆ 

ในราว ปีที่ผ่านมา สื่อยิวไซออนิสต์ล้างสมองชาวโลก สร้างภาพว่าอเมริกา ต้องการโค่นล้มประธานาธิบดีอัสซาดในซีเรีย ด้วยข้อกล่าวหาว่า “ได้รับการเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่จากประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย “ ทั้งๆ ที่อเมริกาสั่งให้กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ปิดกั้นบล็อคเส้นทางแนวพรมแดนเพื่อ “ห้ามประชาชนไม่ให้ไปเลือกตั้ง” 

แต่ประชาชนก็ยังฝ่าอันตรายจากดงปืนและสงครามไปเข้าคูหากาบัตรเลือกประธานาธิบดีอัสซาด เป็นผู้นำซีเรียต่อด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่เกิน 88 % อเมริกา และนาโต้ ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงประกาศดื้อๆ ว่า “การเลือกตั้งไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยเสมอไป”..อ้าว เอาไงกันแน่ฟะ

อเมริกา กับซาอุฯ จ้างปากีสถานเป็นแหล่งฝึกกลุ่มอัลกออิดะห์เสียเองมาตั้งแต่แรก เพื่อเป็นสงครามตัวแทนให้ไปรบ ไปตาย ไปเจ็บแทนทหาร  อเมริกาจึงเป็นตัวตั้งตัวตี “สนับสนุนการปฏิวัติด้วยปืน “ โค่นล่มรัฐบาลเลือกตั้งซีเรีย  โดยหนุนทางการเงินและอาวุธ เพื่อหวังหลอกใช้  ให้พวกนักรบทุยแดงต่างๆ โค่นล้ม อัสซาด แห่งซีเรีย 


แถมอเมริกา ได้ข่มขู่ประธานาธิบดีอัสซาด แห่งซีเรียว่า “ห้ามแทรกแซงแผนการปฏิวัติ “ ของอเมริกาในซีเรียเด็ดขาด เพราะอเมริการู้ดีว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศ และศูนย์บัญชาการควบคุมของซีเรียนั้นตั้งอยู่ที่ใดบ้าง  โอบามา ออกมาประกาศสนับสนุนการปฎิวัติด้วยปืน เมด อิน ยูเอสเอ” ต่อฝ่ายกบฏในซีเรีย 

เพื่อใช้ในการทำสงครามกลางเมือง โค่นล้มรัฐบาลซีเรียที่สหประชาชาติรับรอง  อเมริกาได้สร้างมาสค็อตกลุ่มสภาสูงสุดทางทหาร (SMC หรือ FSA )  เรียกเลี่ยนแบบคอมมิวนิสต์ว่า “กองทัพปลดแอกซีเรีย”  โดยอเมริกาตั้งเป้าให้เป็นแกนนำหลักในกลุ่มกบฏซีเรีย โดยจ้างนักรบต่างชาติทหารรับจ้างร้อยพ่อพันแม่ที่เป็นอาชญากรเหลือขอราว 7,000 คน
เพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏ FSA และมีราว 5,000 คนที่ Import เดินทางมาจากยุโรปในชาตินาโต้  ที่เหลือเป็นทุยแดงรับจ้างชาวต่างชาติมากกว่า 80 ประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และแถบแอฟริกา เช่น ไนจีเรีย เยเมน ฯลฯ  โดยอเมริกา ได้ลงทุนสร้างค่ายฝึกซ้อม และมอบอาวุธให้แก่กบฏซีเรีย FSA ด้วย

เพื่อให้กลุ่มนี้สามารถดูแลดินแดนส่วนที่อเมริกาต้องการยึดครอง และมีกองกำลังแนวหน้าเข้าไปเคลียร์พื้นที่ให้แล้วในการควบคุมแหล่งน้ำมันที่อุดมสมบูรณ์ ในดินแดนของซีเรีย และอิรัก  ต่อมาในเดือนเมษายน 2555 อเมริกา ซาอุฯ และอิสราเอล  ได้สั่งให้กลุ่มก่อการร้ายในสังกัดของตนกลุ่มต่างๆ เช่น อัลกอิดะห์ อัลนุสราฟร้อน FSA ฯลฯ


มารวมตัวกันแบบลวมๆ เพียงไม่กี่ร้อยคนเพื่อสร้างแบรนด์ใหม่จัดตั้งขบวนการเล็กๆ ขึ้น ชื่อว่า กลุ่มก่อการร้าย ISIL (ต่อมาเปลี่ยนเป็น ISIS และ IS ในที่สุด ) มีการเคลื่อนไหวอย่างกระจัดกระจาย อยู่ทั้งในภาคเหนือของอิรัก และภาคตะวันออกของซีเรีย เพื่อก่อกวนการบริหารงานของรัฐบาลซีเรียแบบ “ดาวกระจาย”

ต่อมาซาอุฯ ได้ว่าจ้างปากีสถาน ทำการฝึกกลุ่มก่อการร้ายของตนเองขึ้นมาราวล็อตละ 5,000 - 10,000 คน โดยแลกเปลี่ยนกับเงินและเทคโนโลยีที่ปากีสถานนำไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์มากมายเพื่อแข่งกับอินเดีย และเป็นรัฐกันชนกับจีน และรัสเซีย เพราะซาอุฯ ต้องการควบคุมกบฏซีเรีย FSA อีกที 

และต้องการให้เกิดการรบที่แตกหักกับรัฐบาลซีเรีย เพราะทางอิสราเอล ที่เป็นพันธมิตรกับซาอุฯ ที่ยึดดินแดนที่ราบสูงโกลันของซีเรียไว้  ดันค้นพบแหล่งน้ำมันใหม่ที่จุดนั้น และจะปล้นเอาดินแดนซีเรียดื้อๆไม่ยอมคืน  ต่อมาในเดือน พฤศจิกายน 2556 หลังการหลบซ่อนผลิตสินค้าก่อการร้ายมานาน ซาอุฯ ประเปิดตัวสินค้า

“เครื่องจักรสงคราม” กลุ่มอิสลามิกฟรอนต์ แห่งซีเรีย ขึ้นอย่างเป็นทางการประโคมข่าวในสื่อยิวไซออนิสต์ใหญ่โต โดยกลุ่มนี้ถือเป็นลิขสิทธิ์สินค้าจากรัฐบาลซาอุฯ โดยมีผู้นำกลุ่มที่มีบิดาเป็นนักการศาสนาในซาอุฯ มีเงินค่าจ้างหนามาก ชีคโอซามะ อัล-ไรฟา แห่งมูลนิธิซันไรซ์ ซีเรีย เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของอิสลามิก ฟรอนต์ 


สามารถกวาดระดมทุนในรัฐฟลอริดา รัฐอิลลินอยส์ รัฐอินเดียนา รัฐเทกซัส รัฐมิชิแกน รัฐนิวเจอร์ซีย์ และรัฐแคลิฟอร์เนีย ของอเมริกา ได้ไม่ต่ำกว่า 115 ล้านบาท  ทำให้บรรดานักรบทุยแดงหน้าเงินต่างพากันมาสังกัดด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ มีนักรบในสังกัดราว 45,000 คน ในขณะที่กลุ่มอัลกออิดะห์ในซีเรีย เหลือสมาชิกเพียงแค่ 15,000 คน  

เมื่อสร้างภาพให้บินลาเดนตายเพราะแบนด์สินค้าตกรุ่นแล้ว อเมริกา และนาโต้ ก็สร้างแบรนด์สินค้าก่อการร้ายขึ้นมาใหม่หลายแบรนด์ทดสอบกระแสตลาด เข้าซื้อกิจการเทคโอเวอร์กลุ่มอัลกออิดะห์ แล้วให้การสนับสนุนทางการเงิน อาวุธ การฝึกฝนยุทธวิธี การก่อการร้าย ให้แม้แต่นาฬิกา รถยนต์ หรือชุดพรางทหารอเมริกาเอง


ตั้งชื่อเครื่องจักรสงครามสร้างแบรนด์ใหม่ว่า กลุ่ม IS CIA และอเมริกาได้ลงทุนขยายกิจการอุตสาหกรรมก่อการร้าย ทุ่มเงินซื้อตัวดาราดังกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ไปเข้ามุ้งในสังกัด ทำให้สามารถขยายอำนาจและอิทธิพลของตนได้อย่างกว้างขวางในเวลาที่รวดเร็ว  สามารถสร้างรายได้หลายสิบล้านต่อเดือน

เช่น ขายน้ำมันที่ขโมยมาจากบ่อน้ำมันต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมทั้งในซีเรียและอิรัก กลุ่ม IS CIA มีกำลังผลิตน้ำมันรวมกันอยู่ที่ราวๆ 50,000 บาร์เรลต่อวัน แค่การขายน้ำมันจากโรงกลั่นต่างๆ ที่บุกยึดเพียงอย่างเดียว ก็สามารถโกยรายได้กับอเมริการาววันละ 33 ล้านบาท ต้นทุนน้ำมันในราคาถูกแค่ราว 25 – 30 US ต่อบาร์เรล

โดยขายผ่านพ่อค้าคนกลางชาวตุรกี แล้วนำน้ำมันเหล่านี้ไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง จะเรียกได้ว่า อเมริกาได้สร้างดินแดน “ตลาดมืดศูนย์กลางของการซื้อขายน้ำมันเถื่อน” ในตะวันออกกลางก็ไม่ผิดนัก และนำมันเหล่านี้ก็ถูกส่งไปขายให้กับอิสราเอลถูกๆ ถึงกว่า 70% ของการใช้น้ำมันในประเทศ  

รัฐบาลอเมริกา จึงอ้างต่อประชาชนของตัวเองว่า “ต้องทำสงครามไม่มีวันจบ” เพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มอิลลูมานาติ บรรดานักเลือกตั้งร่ำรวย  ลัทธิเผด็จการประชาธิปไตย ยังสร้างกลุ่มก่อการร้ายท้องถิ่นออกมาอีกหลายแบรด์ เช่น กลุ่มตาลีบัน (รีโนเวทสินค้าใหม่) ,  กล่มอัลซาบับ , กลุ่มโบโก ฮาราม 

กลุ่มอาชอฟในยูเครน , กลุ่มเจไอ อินโดนีเซีย , กลุ่มวาดะห์ BRN แดง นปช. , กลุ่มก่อการร้ายแดง นปช. , กลุ่มติดอาวุธแดง อพปช. (หลังทหารไทยยึดอำนาจได้สลายตัวไป) ฯลฯ  แต่ทุกกลุ่มอเมริกาจะเข้าไปถือหุ้นเครื่องจักรสงครามทุกแบรนด์ ขึ้นอยู่กับว่าสัดส่วนหุ้นจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ 

ต่อมาอเมริกาได้ลงทุนทุ่มงบประมาณใช้กลยุทธ์ทางการตลาดสร้างแบรนด์กลุ่ม IS ให้ติดกระแสความนิยม  โดยส่งระดับวุฒิสมาชิกจอนท์ แมคเคลน อิลลูมินาติสายคลั่งสงคราม และหน่วย CIA เข้าไปเป็นผู้บัญชาการกลุ่มIS ในดินแดนซีเรีย และอิรัก เอาดื้อๆ เครื่องจักรสงคราม IS CIA นี้ จ้างโรงงานผลิตสินค้าจากในจอร์แดน และตุรกี โดยอ้างแถสีข้างถลอกว่าผลิตสินค้า ชื่อ กบฏสายกลาง 

แต่แล้วความลับก็ไม่มีในโลก ในการประชุมใหญ่สหประชาชาติ (UN) ที่อเมริกา เมื่อปลายเดือนกันยายน 2558 ที่ผ่านมามีการแถลงการณ์หนุ่งของชาติมหาอำนาจ ชาติ ที่ทำเอาช็อคกันไปทั้งโลก เพราะไม่เคยมีหลักฐานใดจะมีความชัดเจนเท่านี้มาก่อน แบบที่เรียกได้ว่าโชว์ใบเสร็จกันในสำนักงานใหญ่ UN กันเลยที่เดียว

โดยฝ่ายเทพ ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซีย (เล่าปี่) กล่าวในที่ประชุมว่า “ อเมริกาส่งออกการปฏิวัติประชาธิปไตย จนทำให้เกิดความหายนะต่อประเทศต่างๆ ทั่วโลก การแทรกแซงระหว่างประเทศเป็นการทำลายสถาบันของประเทศเหล่านั้น พวกที่เป็นต้นเหตุของสถานการณ์เช่นนี้ พวกคุณสำนึกในสิ่งที่ทำลงไปกันบ้างไหม?? “


และคำกล่าวของพญาหญามีขาวปูติน ที่ทำให้จ้าวลัทธิประชาธิปไตย ถึงกับเหงื่อกาฬแตกและบรรยากาศห้องประชุมเย็นเฉียบปานขั้วโลกเหนือขึ้นมาอย่างฉับพลัน คือ “ อเมริการู้ทุกอย่างเกี่ยวกับดาวอังคาร แต่ไม่รู้ฐานที่ตั้งกลุ่มก่อการร้าย IS ศัตรูของมนุษยชาติ “..มันแสบบบ ยิ่งกว่าขี้กลากโดนยาซีม่าเสียอีก

ฝ่ายมารจ้าวลัทธิประชาธิปไตย พญานกกระจอก รัฐมนตรีกลาโหม และรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ก็เผลอรับสารภาพจนทำให้ตกตะลึงกันไปทั้งโลก คือ“อเมริกา ประณามรัสเซีย และเรียกร้องให้หยุดใช้อาวุธโจมตี..กองกำลังฝ่ายกบฏ...ที่อเมริกาเป็นผู้ฝึกให้ และได้สนับสนุนลงทุนลงแรงไว้เป็นอันมาก”...อ้าววว

จ้าวลัทธิประชาธิปไตย ยังได้หลุดปากรับสารภาพต่อหน้าที่ประชุมใหญ่ UN ออกมาอีกว่า “อเมริกา ให้การร่วมมือสนับสนุน...กลุ่มอัลกออิดะห์...และได้ส่งเจ้าหน้าที่ ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กลุ่มอัลกออิดะห์ด้วย "...อ้าวว เฮ้ย นี่รับสารภาพกันกลาง UN ว่าอเมริกาหนุนกลุ่มที่ถล่มตึกเวิลด์เทรดจากเหตุการณ์ 9/11..??


กลุ่มก่อการร้ายสากล อัลกออิดะห์ ที่ถล่มเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ของอเมริกา ตายกันเป็นเบือมาแล้วเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 มีผู้คนล้มตายจำนวนมากที่สุดกว่า 3,000 คน  รัฐมนตรีกลาโหม และรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา แถลงหน้าตาเฉยว่ารัฐบาลหนุนให้กลุ่มก่อการร้ายนี้ฆ่าประชาชนตนเอง ???

แต่สื่อยิวส์ไซออนิสต์ใหญ่ๆ ของโลก เช่น CNN , BBC ฯลฯ ที่รู้ตั้งแต่วันแรกของเหตุการณ์ ต่างพากันหุบปากกันเงียบสนิท ไม่ยอมเผยแพร่คำแถลงการณ์นี้ในเวที UN ให้ชาวโลกทราบทั่วถึง  เพราะอาจเกิดการจลาจล และปฏิวัติในอเมริกาขึ้นได้ แม้แต่คนอเมริกันที่อาศัยอยู่รอบตึก UN ยังแทบไม่มีใครรู้คำแถลงสารภาพนี้ของรัฐบาลตนเอง

และที่ตอกย้ำว่าความลับปิดกันไม่มิดคือ ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของกลุ่ม EU แถลงล่าสุดว่า " การสู้รบในต่างประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม เช่น อิรัค และซีเรีย  สหภาพยุโรป เป็นประเทศผู้ส่งออกขบวนการก่อการร้ายเครื่องจักรทางสงคราม โดยพลเมืองของ EU ราว 5,000 คน ออกไปหารายได้จากการรับจ้างฆ่าคนในซีเรีย และที่อื่นๆ"..อ้าววว เฮ้ย !!


ล่าสุดหนอนร้ายเครื่องจักรทางสงครามพวกนี้แตกทัพหนีตายจากการถล่มของรัสเซีย เข้าไปในตุรกี ก็เกิดเรื่อง เมื่อเกิดเหตุระเบิด ครั้งใกล้สถานีรถไฟหลักในกรุงอังการา ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี ขณะกำลังมีการเดินขบวนเพื่อสันติภาพและประชาธิปไตย ที่จัดโดยกลุ่มการเมืองฝ่ายค้านนำโดยพรรคประชาธิปไตยประชาชน ซึ่งสนับสนุนชาวเคิร์ด 


 ผู้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย คน ที่แฝงตัวเข้าปะปนกับกลุ่มผู้ประท้วง  แล้วดึงชนวนระเบิดสายคาดที่ซ่อนใต้เสื้อผ้าโจมตี เกิดระเบิด ครั้งเกิดขึ้นในเวลาห่างกันเพียงไม่กี่วินาที ท่ามกลางกลุ่มผู้ประท้วงคนหนุ่มสาวจำนวนมาก คล้องแขนกันต่อแถวยาว เต้นรำแบบพื้นเมืองและร้องเพลง


แรงระเบิดเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 62 ศพ และได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 24 ราย ตายแล้วอย่างน้อย 86 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 186 คน ที่น่าแปลกใจคือ การเดินขบวนประท้วงครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกร้องให้ยุติความขัดแย้ง การสู้รบระหว่างกองกำลังความมั่นคงของตุรกี กับกลุ่มชาวเคิร์ด  


หลังเกิดเหตุนายกรัฐมนตรีตุรกีรักษาการ เรียกประชุมฉุกเฉินหน่วยงานด้านความมั่นคง สรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการด่วนดื้อๆ ทันทีว่าเป็น "การก่อการร้าย" อีกทั้งกระทรวงมหาดไทยตุรกีออกแถลงการณ์ ประณามการก่อความรุนแรงนี้ระบุว่า “เป็นการโจมตีประชาธิปไตย”...น้านน


ตุรกีกำลังจะมีการเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน 550 ที่นั่ง ในวันที่ พ.ย.58 นี้..งานนี้คงต้องไปถามขบวนการปกป้องลัทธิประชาธิปไตย นางวรรณา ทุยแดงที่มีสามีชาวตุรกี กับนายอ็อด การ์ดแดง นปช. แก๊งค์วางระเบิดแยกราชประสงค์ กทม. ว่าให้ที่พักพิง และจัดหาอาวุธให้ผู้ก่อเหตุคราวนี้หรือไม่ ?? 

ต้องเช็คเส้นทางการเงินว่ามีการโอนเงินค่าจ้างก่อเหตุมาจาก “ดูไบ” หรือไม่ ?? มีโอ๊คไอ๊ซ เผลอตั้งรางวัลนำจับ ล้านบาทหรือไม่ ?? และถ้าจับผู้ร่วมขบวนการได้จะมีทนายแดง นปช.มาว่าความให้ฟรีๆ แบบไม่ต้องร้องขอหรือไม่ ?? และองค์กรสิทธิเงียบเป้นเป่าสากหรือไม่ ?? 

และให้สังเกตทูตจ้าวลัทธิประชาธิปไตย ว่าจะแจ้นเข้าพบรัฐบาลหรือไม่ แล้วข่มขู่ว่า “ถ้าไม่เร่งคืนประชาธิปไตยเอาคนของเราที่ควบคุมได้กลับมาแบบเท่ๆ หวั่นว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก ".. !!

เสธ น้ำเงิน2
** แจ้งข่าวหนังสือรวมเล่ม แฉ ความลับ เล่ม 3 ตอน เปิดผนึกบันทึกสยาม ออกแล้วเหมาะเป็นของฝากสำหรับนักรบน้ำหมาก หรือของสะสม และ ebooks คลิ๊กง่ายๆ ไปที่ https://t.co/KxhM77h8oO และที่ร้าน B2S ทุกสาขา
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง