บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เรื่องเล่าหลังน้ำลดการกลับมาของแรงงานข้ามชาติ


นาย โก โก แรงงานข้ามชาติวัย 18 ปี จากรัฐมอญประเทศพม่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกับพี่สาววัย 23 ปี เมื่อหลายปีที่ก่อน เพื่อทำงานหาเงินส่งไปเลี้ยงครอบครัวที่ยังอาศัยอยู่ในประเทศพม่า เขาเล่าว่าที่ประเทศพม่าไม่มีงานมากนักให้เขาทำเขาจึงต้องเข้ามาใช้แรงงานในประเทศไทย

ปัจจุบัน ทั้งคู่รับจ้างขายผักอยู่ที่ ตลาดไท ย่านรังสิต จังหวัดปทุมธานี (จังหวัดหนึ่งในเขตปริมณฑล) ตั้งแต่ 10 โมงเช้า จนถึง 2 ทุ่มทุกวันและไม่เคยได้รับอนุญาตให้หยุดงานแม้ในช่วงเทศกาล โดยได้รับค่าจ้างคนละ 350 บาท (ประมาณ 12 ดอลล่าร์) ต่อวัน พี่สาวของ นาย โก โก ได้ขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติและขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะที่นายจ้างกลับไม่สามารถช่วยพา นาย โก โก ให้เข้าสู่กระบวนการตามระบบเช่นเดียวกับพี่สาวของเขา และเมื่อน้ำเข้าท่วมจังหวัดปทุมธานีในเดือนตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา

ตลาดไทเป็นอีกแห่งที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทันทีที่พ่อแม่ของ นาย โก โก ทราบข่าว จึงสั่งให้เขาและพี่สาวเดินทางกลับประเทศพม่าทันทีจนกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมจะดีขึ้น นาย โก โก ผู้ซึ่งเป็นแรงงานไร้เอกสารพิสูจน์ตนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาลไทย ย่อมมีปัญหาในการเดินทางอย่างแน่นอน ส่วนพี่สาวของเขามีเพียงเอกสารชิ้นเดียวติดตัว คือ ใบเสร็จรับเงินที่ยืนยันว่าได้ขึ้นทะเบียนแรงงานแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะสามารถเดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุม (พื้นที่การจ้างงาน) ได้ แต่ไม่นานนักทั้งสองก็ได้ทราบข่าวจากเพื่อนแรงงานด้วยกันว่ามีนายหน้ามาเปิดธุรกิจสามารถพาแรงงานข้ามชาติทั้งที่ขึ้นทะเบียน และไม่ได้ขึ้นทะเบียนเดินทางกลับประเทศพม่าได้ โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละ 3,600 บาท (ประมาณ 120 ดอลล่าร์) โดยการเดินทางจะเริ่มต้นที่ถนนพระราม 2 (บริเวณกรุงเทพฯ รอบนอก)

นาย โก โก และ พี่สาว จึงเดินทางไปยังพระราม 2 เพื่อติดต่อกับนายหน้าให้จัดการเรื่องการเดินทางทั้งหมดไปยังชายแดนไทยพม่า ในช่วงดึกของคืนที่ต้องเดินทางพวกเขานั่งรถสองแถวซึ่งปกติใช้บรรทุกแรงงานข้ามชาติไปทำงานแค่ระยะทางสั้นๆ รถสองแถวปกติสามารถบรรทุกคนได้เพียง 20-30 คน แต่การเดินทางในครั้งนี้กลับมีแรงงานต่างข้ามชาติกว่า 80 คน แออัดกันอยู่บนรถคันเดียว และแน่นอนที่สุดว่าทุกคนแทบจะหายใจไม่ออกในสถานที่คับแคบบวกกับจำนวนผู้โดยสารที่มากขนาดนี้ และแล้วรถคันนี้ก็นำแรงงานข้ามชาติชาวพม่ามาถึงชายแดนในเขตอำเภอแม่สอดตอนเช้ามืดโดยไม่



โดยการตรวจเช็คใดๆ จากด่านตรวจตลอดทาง เมื่อมาถึงด่านตรวจสุดท้ายตรงชายแดน แรงงานทุกคนที่มาพร้อมกับรถสองแถวคันดังกล่าวต้องลงมาพิมพ์ลายนิ้วมือและถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานโดยเจ้าหน้าที่ที่ด่านเอง หลัง

จากนั้นรถสองแถวคันนี้ก็สามารถมุ่งหน้าผ่านด่านแม่สอด-เมียวดีไปได้ เพื่อไปขึ้นเรืออีกลำที่รออยู่ ข้ามแม่น้ำ และเดินทางเข้าประเทศพม่าผ่านทางประตูเมียวดี (ประตู 999) ซึ่งมีกองกำลังทหารพม่ากำกับดูแลอยู่ ได้ในที่สุด 

ในขั้นตอนนี้พี่สาวของนาย โก โก ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในขณะที่นาย โก โก กลับต้องเสียเพิ่มอีก 2,000 บาท สาเหตุก็เพราะเขาไม่มีเอกสารแสดงตนใดๆ เลย

เมื่อนาย โก โก และ พี่สาวข้ามาถึงเมียวดีแล้ว พวกเขาเดินทางกลับบ้านเกิดทันทีโดยสารประจำทางซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในราคา 15,000 จ๊าด (ประมาณ 20 ดอลล่าร์) ทั้งคู่อาศัยอยู่ที่บ้าน ณ ประเทศพม่าเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน และแม้ว่าพ่อแม่ของพวกเขาจะไม่อยากให้ทั้งคู่กลับมาทำงานที่ประเทศไทยอีก แต่พวกเขาคิดว่าทางเดียวที่จะสามารถหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวได้ดีที่สุด ก็คือการกลับมาทำงานในประเทศไทย

ดังนั้นทันทีที่รู้ว่าน้ำที่จังหวัดปทุมธานีเริ่มลดระดับลงทั้งสองจึงได้ทำการติดต่อนายหน้าในหมู่บ้านเพื่อจัดแจงการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งมีค่าจ้างสูงถึง 14,500 บาท (ประมาณ 500 ดอลล่าร์) ต่อคน
พวกเขาไม่มีเงินมากขนาดนั้นที่จะจ่ายให้แก่นายหน้า จึงได้ติดต่อนายจ้างเดิมที่จังหวัดปทุมธานีเพื่อช่วยจ่ายเงินส่วนนี้ให้พวกเขาก่อน นายจ้างของทั้งคู่ตกลงแต่มีเงื่อนไขว่าทันทีที่กลับมาถึง นาย โก โก และ พี่สาว
จะต้องใช้เงินคืนให้เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ และแน่นอนนายจ้างต้องการให้พวกเขากลับมาทำงานให้เร็วที่สุดเช่นกัน

การเดินทางจากบ้านเพื่อมาชายแดนและกลับมายังกรุงเทพฯ เป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่ง พวกเขาจ่าย 500 จ๊าด (น้อยกว่า 1 ดอลล่าร์) นั่งเรือข้ามแม่น้ำจากเมียวดีสู่แม่สอด จากนั้นนั่งรถตู้พร้อมกับแรงงานคนอื่นๆ มากกว่า 30 คน (ปกติรถตู้สามารถนั่งได้แค่ 11 ที่) มาถึงกรุงเทพฯ โดยไม่เจอกับการสกัดกั้นหรือการตรวจค้นแต่อย่างใด

ทันทีที่ทั้งสองคนเดินทางมาถึงตลาดไทนายจ้างทำการจ่ายเงินค่าเดินทางทั้งหมดให้แก่นายหน้า นาย โก โก และ พี่สาวต้องเริ่มงานทันทีและต้องจ่ายเงิน 200 บาท (ประมาณ 7 ดอลล่าร์) คืนให้แก่นายจ้างทุกวันจนกว่าจะครบจำนวน 14,500 บาท ที่ได้ยืมมาก่อนหน้านี้


voicelabour.org
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง