บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ปมกฎหมายคดีภาษี ​โอ๊ค-​เอม



​แก้วสรร อติ​โพธิ

ถาม ขอคำอธิบายเรื่องคดีภาษีเงินได้จากการขายหุ้นชินคอร์ปให้ทุนสิงค โปร์ ของตระกูลชินวัตร ในคดีที่ คตส.มีมติเสนอให้กรมสรรพากรดำเนินคดีกับลูกคุณทักษิณด้วย

ตอบ ในต้นปี 2549 ตอนที่ชินวัตรขายหุ้นชินคอร์ป 49% ให้เทมาเส็กในราคาเจ็ดหมื่นกว่าล้านบาท โดยไม่มีการเสียภาษีเงินได้เลยนั้น คุณจะพบว่าหุ้นชินคอร์ปชินวัตรก้อนนี้ ถูกแบ่งให้มีชื่อลูกและพี่น้องคุณทักษิณเป็นเจ้าของอยู่ก่อน แล้วถูกนำมาขายในคราวเดียวกัน ราคาเดียวกัน โดยเป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์ ในชื่อบุคคลธรรมดา

ด้วยฐานการได้เงินได้อย่างนี้ แม้เราจะพบว่าเขาได้กำไรมากๆ ก็ตาม แต่เงินได้เหล่านี้ก็ไม่ต้องเสียภาษีเพราะเป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีกฎหมายยกเว้นไว้ให้ไม่ต้องเสียภาษี

คตส.ที่เข้ามาตรวจในปี 2550 จึงต้องขุดคุ้ยลึกลงไปอีกว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ ก็ไปพบกรณีหุ้นชินชินวัตรก้อน 11% ที่ถืออยู่ในนามบริษัทแอมเพิลริชว่า มีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีติดพันอยู่



ถาม ติดพันอยู่อย่างไรครับ

ตอบ คือก่อนขายหุ้นชินชินวัตร 49% ให้เทมาเส็กนั้น หุ้นก้อนอื่นๆ ถูกใช้ชื่อบุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของทั้งสิ้น มีแต่หุ้นก้อน 11% นี้ที่ถืออยู่โดยชื่อบริษัทแอมเพิลริช (ชื่อนี้อาจแปลเป็นไทยได้ว่าบริษัท "รวยเละ") ซึ่งบริษัทนี้คุณทักษิณตั้งขึ้นเมื่อปี 2542 แล้วแบ่งหุ้นชินชินวัตรให้บริษัทซื้อไปในราคาทุนหุ้นละ 1 บาท ครั้นเมื่อคุณทักษิณขึ้นเป็นนายกฯ ในปี 2544 เขาก็อธิบายว่าได้โอนบริษัทนี้ให้ลูกไปแล้ว

พอมาปี 2549 ที่รวมหุ้นชินชินวัตรขายสิงคโปร์หุ้นละ 49.25 บาทนั้น หุ้นชินชินวัตรแอมเพิลริช 11% หรือ 320 ล้านหุ้นนี้ ก็จะขายได้เงินกว่าหนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาท มีกำไรหนึ่งหมื่นสองพันล้านบาท ซึ่งเงินได้ก้อนนี้ถ้าเป็นการขายในนามแอมเพิลริช กฎหมายก็จะไม่ยกเว้นภาษีให้เพราะเป็นการขายโดยนิติบุคคล ตรงนี้ถ้าคุณเป็นพวกชินวัตรและไม่อยากเสียภาษีกว่าสองพันเจ็ดร้อยล้านคุณจะ ทำอย่างไรดี?



ถาม เขาทำอย่างไรครับ

ตอบ เขาทำกันดื้อๆ เลยล่ะคุณ คือ 1 วันก่อนขายหุ้นให้เทมาเส็ก เขาก็ทำเป็นว่าให้แอมเพิลริชขายหุ้น 320 ล้านหุ้นนี้ให้โอ๊คกับเอมก่อน ในราคาทุนหุ้นละ 1 บาท พอเปลี่ยนเจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาแล้ว คนสองคนนี้ก็เอาหุ้นมาขายให้เทมาเส็กอีกทีในราคาหุ้นละ 49.25 บาท ในวันรุ่งขึ้น กำไรหุ้นละ 48.25 บาท แต่กำไรนี้ก็พ้นภาระภาษีไปได้โดยอ้างว่าเป็นการขายโดยบุคคลธรรมดา รัฐก็ขาดภาษีไปเลยกว่าสองพันเจ็ดร้อยล้านบาท



ถาม นี่มันเลี่ยงกฎหมายชัดๆ เลยนะครับนี่ เจ้าของบริษัทให้บริษัทขายสมบัติให้กับตนเองในราคาทุนอย่างนี้ แล้วก็เอาชื่อตัวเองมาขายต่อให้ผู้ซื้อตัวจริงในวันรุ่งขึ้นอย่างนี้

ตอบ ตรงนี้ต้องยกเครดิตให้ทีมงานภาษีของ คตส.ในการนำของอาจารย์วิโรจน์ เลาหะพันธุ์ ที่ใช้กฎหมายรัษฎากรจัดการจนอยู่หมัดว่า การที่นิติบุคคลขายสมบัติให้พนักงานหรือกรรมการของตนในราคาถูก เช่น ขายหุ้นราคาตลาด 49 บาท ให้กรรมการในราคาหุ้นละ 1 บาทนั้น ต้องถือว่าคนของบริษัทนั้นมีเงินได้เกิดขึ้นไม่ต่างไปจากการให้โบนัส

พอ ได้หลักอย่างนี้ คตส.ก็เลยชี้ว่า โอ๊ค-เอมมีเงินได้จากการซื้อของถูกจากบริษัทตัวเอง มีมติเสนอให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากสองคนนี้พร้อมเงินเพิ่มรวมห้าพันสี่ ร้อยล้านบาทถาม ทางกรมไม่เห็นด้วยได้ไหมตอบ ได้ครับ กฎหมาย คตส.ให้เรามีสิทธิแค่เสนอเท่านั้น ปรากฏว่าทางกรมเขารับความเห็นเราไปพิจารณาดำเนินการตามกระบวนการของเขาเอง แล้วก็มีมติตรงกับ คตส.ให้ฟ้องเรียกภาษี พร้อมกับอายัดทรัพย์กว่าพันล้านบาท ที่มีอยู่ในชื่อโอ๊ค-เอมไว้ด้วย คดีก็สู้กันมาในศาลต้นจนศาลพิพากษายกฟ้องกรมสรรพากรไปเมื่อสี่ห้าเดือนมานี้ เอง



ถาม ศาลท่านยกฟ้องตรงไหนครับ

ตอบ คือท่านไม่ได้ตัดสินว่าเป็นเงินได้ที่ไม่ต้องเสียภาษีนะครับ แต่ท่านตัดฟ้องไปเองเลยว่า เนื่องจากระหว่างสู้คดีกันอยู่นี้ได้มีคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาในคดียึดทรัพย์คุณทักษิณว่า หุ้นชินชินวัตรทั้ง 49% แท้จริงยังเป็นของคุณทักษิณและคุณหญิง ลูกและพี่น้องล้วนแต่ถูกใช้ชื่อถือหุ้นแทนทั้งสิ้น

ดังนั้นเมื่อ โอ๊ค-เอมเข้าไปคัดค้านเป็นตัวความอยู่ในคดียึดทรัพย์ด้วย คำพิพากษานี้จึงมีผลผูกพันบุคคลทั้งสองในคดีภาษีนี้ด้วย ศาลท่านก็เลยพิพากษายกฟ้องว่าเงินได้นี้ไม่ใช่ของจำเลย แต่เป็นของคุณทักษิณ ตรงนี้ถ้ากรมสรรพากรไม่เห็นด้วยกับศาลต้น ทางกรมก็ต้องอุทธรณ์ต่อไป



ถาม เป็นอาจารย์ อาจารย์จะอุทธรณ์ไหม?

ตอบ ผมว่าควรจะอุทธรณ์นะครับ เพราะหลักกฎหมายรัษฎากรนั้นใครมีชื่อเป็นเจ้าของเงินได้ก็ต้องฟ้องคนนั้น โอ๊ค-เอมมีชื่อเป็นผู้ซื้อหุ้นจากแอมเพิลริชเราก็ต้องฟ้องเขา เว้นเสียแต่เขาสู้ว่าแท้จริงเขาถูกเชิดถือหุ้นแทนพ่อแม่เท่านั้น เราจึงจะเปลี่ยนไปฟ้องคุณทักษิณได้ ผมว่าคดีภาษีต้องยืนบนหลักนี้ ทางสรรพากรจะเสียเวลาไปสอดส่ายล้วงลึกหาเจ้าของตัวจริงไม่ได้ เพราะเรามุ่งจะเอาภาษีจากเงินได้ก้อนหนึ่งเท่านั้น ใครเป็นเจ้าของแท้จริงไม่ใช่เรื่องของสรรพากร



ถาม แต่ถ้าเจ้าของตัวจริงมีฐานะดีกว่าจำเลยอย่างคดีนี้ ก็น่าเอานะครับ

ตอบ ผมว่าเราต้องดูหลักไม่ใช่ดูกระเป๋านะครับ



ถาม แล้วถ้าสรรพากรโดยความเห็นชอบของกระทรวงคลังเขาตัดสินใจไม่อุทธรณ์ แล้วอย่างนี้ผลทางกฎหมายจะเป็นอย่างไรครับ

ตอบ ตรงนี้ต้องเข้าใจให้ดีๆ นะครับว่า ทางกรมสรรพากรยืนยันเดินหน้ามาตลอดว่า นี่คือเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และศาลก็มิได้ปฏิเสธข้อนี้เลย ศาลกับกรมเพียงแต่เห็นต่างกันเท่านั้นว่า ใครคือเจ้าของเงินได้ก้อนนี้ การที่กรมสรรพากรไม่อุทธรณ์ก็หมายความว่ากรมเห็นด้วยกับศาลต้นว่าคุณทักษิณ เป็นเจ้าของเงินได้ แต่กรมสรรพากรยังมีหน้าที่ต้องฟ้องคุณทักษิณต่อไป จะทำหน้าตาเฉยเลิกคดีไปเลยไม่ได้ เพราะประเด็นเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีหรือไม่นี้ ยุติในขั้นตอนของกรมแล้วว่าต้องเสียภาษี และศาลท่านยังมิได้วินิจฉัยเป็นอื่นเลย



ถาม ถ้าทางกรมสรรพากรทำหน้าตาเฉยยุติคดีไปเลยจะว่าอย่างไร?

ตอบ คดีนี้เลี่ยงภาษีชัดเจนมาก ให้บริษัทตัวเองขายหุ้นให้ตัวเองก่อนขายจริง 1 วัน ก็เลี่ยงภาษีสองพันเจ็ดร้อยล้านไปได้ง่ายๆ กฎหมายประเทศไหนมันหมูอย่างนี้
คดีนี้ถ้ายอมเลิกกันไปดื้อๆ เพราะพวกจำเลยได้กลับมาใหญ่เป็นรัฐบาล อย่างนี้ก็เป็นการเก็บภาษีโดยไม่เสมอหน้า แถมยังเอาไปใช้แจกดะอย่างเหลวไหลอีกด้วย...ถ้าเป็นอย่างนี้ผมว่าเราเลิกเสีย ภาษีกันไม่ดีกว่าหรือ.

กางระเบียบบัวแก้ว หาคำตอบคืน “พาสปอร์ต”ให้ทักษิณได้หรือไม่?


โดย ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์




ยังไม่ทันที่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ 1”จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็มีรายงานข่าวตามสื่อมวลชนว่ากรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ มีคำสั่งภายในให้มีการหยิบยกกรณีการคืนหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต คืนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาพิจารณาถึงความเป็นไปได้และศึกษาช่องทางทางกฎหมายในการดำเนินการดังกล่าวเนื่องจากมีแนวโน้มที่รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่(นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล) จะให้มีการดำเนินการเรื่องนี้
ในข่าวระบุด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้เพิกถอนพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีผลตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2552 โดยเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 การยกเลิกหนังสือเดินทาง ข้อ 23 (7) ซึ่งระบุว่า สามารถยกเลิกและเรียกคืนหนังสือเดินทางได้ โดยมีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศในขณะนั้นเป็นผู้ลงนาม
การยกเลิกพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อ้างเหตุผลที่ว่า รัฐบาลสามารถยกเลิก หรือถอนหนังสือเดินทางสำหรับบุคคลที่ทำความเสียหายให้กับประเทศได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยา จ.ชลบุรี (กลุ่มเสื้อแดงบุกเข้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช จนต้องยกเลิกการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา) เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลตัดสินใจถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ข่าวระบุด้วยว่า  การเพิกถอนพาสปอร์ตในครั้งนั้น ไม่ได้กระทบกับความเป็นสัญชาติไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะทำให้เดินทางไปประเทศที่สามด้วยหนังสือเดินทางไทยไม่ได้ เว้นแต่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้เท่านั้น ด้วยการไปขอให้สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยในประเทศนั้นๆ ออกเอกสารเดินทางชั่วคราวให้( ข่าวกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 11 สิงหาคม 2554)
แน่นอนว่า ถ้าข่าวดังกล่าว เป็นจริง ย่อมไม่เป็นผลดีกับรัฐบาลเพราะสวนทางกับคำแถลงของน.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งว่า จะไม่ทำงานเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
อย่างไรก็ตามเพื่อหาคำตอบว่า การคืนพาสปอร์ตให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณทำได้หรือไม่ ต้องมาดูว่า การยกเลิกพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยช่องทางหรือระเบียบกฎหมายใด
ในการออกหรือเพิกถอนหนังสือเดินทาง กระทรวงการต่างประเทศอาศัยฐานจากระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548โดยอาศัยอำนาจตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2545 เท่านั้น
มิได้เป็นการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติแต่อย่างใด
ทั้งนี้ตามระเบียบดังกล่าว ในฐานะนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณมีสิทธิที่จะได้หนังสือเดินทางทูต(ระเบียบข้อ 6 (5)) และในฐานะประชาชนก็มีสิทธิที่จะได้หนังสือเดินทางของบุคคลทั่วไป(พาสปอร์ตแดง-ระเบียบข้อ 13)
อย่างไรก็ตามระเบียบดังกล่าวให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถยกเลิกและเรียกคืนหนังสือเดินทางได้(ระเบียบข้อ 23) พนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อปรากฏภายหลังว่า
(1) ผู้ถือหนังสือเดินทางเป็นผู้ซึ่งขาดคุณสมบัติที่จะขอหนังสือเดินทางประเภทนั้น
(2) ผู้ถือหนังสือเดินทางเป็นบุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจออกหนังสือเดินทางให้ดังกรณีต่อไปนี้
หนึ่ง เมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรจะออกหนังสือเดินทางให้
สอง เมื่อผู้ร้องเป็นผู้ที่ศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายอื่นสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
สาม เมื่อผู้ร้องกระทำผิดกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติทางราชการ ซึ่งขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือปิดบังความจริงอันเป็นสาระสำคัญ หรือแสดงเอกสารหลักฐาน
(3) มีเหตุอันเชื่อได้ว่า ผู้ถือหนังสือเดินทางได้หนังสือเดินทางนั้นมาโดยมิชอบ
(4) หนังสือเดินทางนั้นได้มีการแจ้งว่าสูญหายต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุแล้ว หรือ
ผู้ถือได้ร้องขอให้ยกเลิกเพื่อขอหนังสือเดินทางชนิดเดียวกันเล่มใหม่
(5) หนังสือเดินทางนั้นอยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้ถือหนังสือเดินทาง
โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(6) ทางราชการได้ทดรองจ่ายเงินช่วยเหลือส่งตัวผู้ถือหนังสือเดินทางกลับประเทศไทยและ
ผู้ถือได้ทำสัญญากับทางราชการว่า จะชดใช้เงินจำนวนที่ทางราชการได้ทดรองจ่ายไปคืนให้ทางราชการ แต่ผู้ถือยังไม่ได้ชดใช้เงินคืนให้แก่ทางราชการจนครบตามเงื่อนไขในสัญญา
(7) พิจารณาเห็นว่า หากให้ผู้ถือหนังสือเดินทางยังคงอยู่ในต่างประเทศต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศได้
จากระเบียบดังกล่าวเห็นได้ว่า  เงื่อนไขในการเพิกถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณมีด้วยกันหลายประการ อาทิ
-เมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้วซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณมีหมายจับในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปีในคดีซื้อที่ดินที่ดินถนนรัชดาภิเษกจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และหมายจับอีกหลายคดี เช่น คดีการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าให้แก่รัฐบาลพม่า 4,000 ล้านบาท
-อยู่ในต่างประเทศต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศได้
แม้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อาจเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มิได้ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีหมายจับในคดีอาญาอีกหลายคดีและเป็นคดีที่ถึงที่สุดแล้ว
ดังนั้น ถ้าจะมีการคืนหนังสือเดินทางให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณจริง จะพตอบคำถามเรื่องนี้แก่สาธารณชนอย่างไร

กลับมาเถิดพี่จ๋า...เป็นของเราแล้ว!


 ท่านมีอะไรอยู่ที่ต่ำๆ บ้างมั้ยครับ ถ้ามี...ก็โปรดยกขึ้นไปเก็บไว้บนที่สูงๆ ไม่ใช่อะไรหรอก ผมเห็นมด เห็นทอยทากชักแถวอพยพ ก็เกรงว่าหลังวันที่ ๒๐ สิงหาเป็นต้นไป อะไรๆ ที่เกี่ยวกับฟ้า-กับฝน ปนไฟใต้แผ่นดิน จะทำให้ทรัพย์สินของท่านเสียหาย ก็เลยอยากเอิ้นตามประสาคนรักๆ ชอบๆ กันเท่านั้นแหละ เผื่อใครเอาทองฝังไว้ จะได้ขุดย้ายเอาไปไว้ในที่ที่ปลอดภัยกว่าได้ทัน
 เอ้อ..นี่ ท่านทราบหรือยัง ญี่ปุ่นเขาให้วีซ่าทักษิณเข้าประเทศได้แล้วนะ เห็นว่าจะไปเป็น The great speaker ที่ไหนซักแห่งผมก็ลืมไปแล้ว เสร็จจากญี่ปุ่น จะบินตรงมาลงสนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินเชียงใหม่ด้วยหรือไม่ ตรงนี้ผมไม่ทราบ และยังไม่ได้ยินข่าว
 ต้อง รอฟังสุรพงษ์ โต-รัฐมนตรีต่างประเทศท่านบอกทีละสเต็ป ถ้ามา "กราบแผ่นดิน" รอบนี้ จะมาด้วยพาสปอร์ตไทย ในฐานะคน ๒ สัญชาติ หรือมาด้วยพาสปอร์ตประชาชนชาวมอนเตเนโกร?
 ไม่มามื้อนี้-มื้อพรุ่ง งานแต่งบุตรสาว "น้องเอม" ปลายปี ในฐานะคุณพ่อ ต้องมาแน่ ถ้าผมเป็นนายกฯ ปู เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศปึ้ง กรณีนี้คงไม่ใจไม้ไส้ระกำ ลูกสาวพี่-หลานสาวเรา จะออกเรือนทั้งที จะไม่ยอมให้คุณพ่อมาพร้อมหน้า
 มันบีบน้ำตา-บีบหัวใจกันไปหน่อยมั้ย...พี่น้อง?
 ผม ว่า ทักษิณจะกลับ หรือไม่กลับ ไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล ไม่ได้อยู่ที่คนไทย ไม่ได้อยู่ที่ใครทั้งนั้น หากแต่อยู่ที่คน ๒ คนเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ
 คนแรกคือ ตัวทักษิณเอง เพราะเราต้องรับความจริงว่า ทักษิณเป็นคนไทย ฉะนั้น มีสิทธิ์จะอยู่ จะไปไหน-มาไหนในประเทศไทยได้ตามใจชอบ ใครก็ห้ามไม่ได้ และในข้อเท็จจริง ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครห้ามทักษิณมิให้กลับมาเมืองไทย
 หากแต่ ทักษิณ "ไม่กล้ากลับ" เข้ามาเอง!
 ไม่ กล้ากลับเพราะ ตอนออกจากประเทศไป ไปแบบ "หนีอาญาแผ่นดิน" จากคำสั่งศาลในตอนแรก และด้วยโทษจำคุก ๒ ปี จากคำตัดสินของศาลในเวลาต่อมา นั่นคือ เวลานี้ทักษิณอยู่ในฐานะ
 "ผู้หลบหนีโทษอาญาแผ่นดิน"!
 ย้ำ อีกที พูดโดยสิทธิ์ ในฐานะคนไทย ด้วยสิทธิ์ของความเป็นคนไทย ทักษิณจะกลับมาวันไหน-เมื่อไหร่ได้ทั้งนั้น แต่เหตุที่ไม่ยอมกลับ เพราะทักษิณต้องการสิทธิ์ "เหนือกฎหมาย-เหนือคนไทยทุกคน"
 คือ กลับมาแบบ "คนไม่เคยมีความผิด-ไม่เคยมีโทษอาญาใดๆ" กลับมาโดย "ไม่ถูกจับเข้าคุก" นั่นแหละ!
 ส่วนคน "ตัดสินใจ" คนที่ ๒ ล่ะ คือใคร?
 คือ "บิ๊กน้อย" พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.นั่นเอง ตอนนี้กำลังถูกข่าวปั้นถามทางว่า จะลาออก ยกเก้าอี้ ผบ.ตร.ให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่เมียทักษิณ หรือพี่ชายของคุณหญิงพจมาน เห็นปฏิเสธไปแล้ว
 ส่วนจะปฏิเสธชอร์ตเทอม หรือลองเทอม ผมก็ไม่ทราบ?
 แต่ ผมว่านะ นาทีนี้ในประเทศไทย ไม่ต้องรอให้เขาออกปากหรอก ระบอบทักษิณต้องการอะไร ก็รีบๆ ยกประเคนให้เขาไปเต๊อะ ขืนรอให้เขาต้องออกปาก หรือเหยียบหัวแม่ตีนไล่ เมื่อต้องไป มันจะไปไม่สบายแบบหลีกทางให้เขาไปน่ะนา...ท่าน!
 เนี่ย...ถ้าทักษิณ เหยียบแผ่นดินไทย จะสนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินไหน โดยปกติ ตม.เห็นปุ๊บ จะจับปั๊บในฐานะอาชญากรแผ่นดิน "นักโทษหลบหนี" แต่กรณีทักษิณ ระดับตำรวจตามด่านตรวจคนเข้าเมืองคงไม่กล้าจับ ตรงกันข้าม
 พร้อมที่จะกราบด้วยซ้ำ!
 นี่แหละเป็นหน้าที่ของนายต้อง "ตัดสินใจ" ว่า จะต้องสั่งเป็นนโยบายออกไปเลยว่า เห็นตัวที่ไหน-จับเลย หรือเห็นตัวที่ไหน-กราบเลย!?
 ตรง นี้แหละ ผบ.ตร.จึงเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้อง "ตัดสินใจ" ในการตัดสินใจของทักษิณว่าจะกลับหรือไม่กลับเข้ามา ทั้งตาม "ทักษิณสัญญา" กับเสื้อแดง ตอนโฟนอินช่วยเพื่อไทยหาเสียง และทั้งกับ "ลูกเอม" ว่า พ่อจะกลับมางานแต่งงานลูก
 นี่...(ป้องปากพูดกันเองระหว่างเราแบบลิเกนะ) ถ้า ผบ.ตร.สั่งตามคำพูดติดปากตำรวจ "ผมทำตามหน้าที่" ท่านก็ต้องชัดเจนในนโยบายที่สั่งออกไปให้ลูกน้องปฏิบัติ "เจอที่ไหน จับที่นั่น ทันที"
 และเมื่อจับแล้ว ก็ประสานกรมราชทัณฑ์มารับตัวไปในฐานะผู้ต้องโทษจำ ๒ ปี ตามคำพิพากษาศาลอันเป็นที่สุดแล้ว!
 มัน เป็นภาวะพะอืด-พะอมน่าดู...จริงมั้ย เป็นเราก็เถอะ ถ้าไม่ทำตามหน้าที่ มีโอกาสเจอ ป. วิ. อาญา มาตรา ๑๕๗ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ถ้าทำตามหน้าที่ก็อาจ "กระเด็น" จากหน้าที่
 เพราะที่จับนี่...มันไม่ใช่แค่พี่นายกฯ
 แต่เป็นถึง "ประธานรัฐบาลแดงทั้งแผ่นดิน"...รู้ไว้ซะ!?
 ฉะนั้น ทักษิณจะกลับน่ะ ผมไม่ว่าอะไร ยินดีด้วยซ้ำ จะได้ให้ท่านพาไปหม่ำอาหารอร่อยๆ อีก แต่ควรออกทางประตู ไม่ควรปีนเข้ามาลักหลับทางหน้าต่าง
 เพื่อการยอมรับได้ของทุกฝ่าย เพื่อให้เกียรติกับกฎหมายบ้านเมือง และเพื่อสร้างทางถาวรในอำนาจบริหารประเทศให้กับพรรคท่าน ให้กับน้องสาวท่านได้เป็นนายกฯ นานๆ และกับคณะศรัทธาท่าน
 มันมี ๓ ทางให้เลือกครับ!
 ทาง แรก กลับเข้ามา ยอมเข้าสู่กระบวนการอาญาบ้านเมือง ติดคุกก็ต้องยอมติด ติดคุกยังมีวันออก แต่....ท่านไม่รู้หรือ ฉะนั้นติดเถอะ เมื่อเข้าสู่กระบวนการระเบียบปฏิบัติแล้ว ทางรัฐบาลสามารถทำเรื่อง "ขอพระราชทานอภัยโทษ" ให้ออกจากคุกได้
 อภัยโทษเฉพาะคดีโทษคุก ๒ ปีนี้นะ คดีอื่นซึ่งยังไม่ถึงที่สุด-ไม่เกี่ยว!
 อภัยโทษ ใช้ในกรณีผู้ทำความผิดถูกตัดสินอันเป็นที่สุดแล้ว และกำลังรับโทษอยู่ แบบนี้แหละอยู่ในข่ายขอยกโทษ หรือลดโทษให้ได้ ซึ่งทักษิณก็มีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว
 เอ้า...ถ้าไม่ยอมติดคุก ก็มีทางที่ ๒
 รัฐบาล นี้เป็นรัฐบาลทักษิณสั่ง (ได้) เสียงข้างมากในสภาก็เป็นเสียงข้างมากทักษิณสั่ง (ได้) ฉะนั้น ก็ใช้เสียงข้างมากในสภาออกกฎหมาย "นิรโทษกรรม" ให้
 ทำได้หรือเปล่าผมไม่รู้นะ?
 ถึง ใช้เสียงข้างมากหักหาญ แต่ผมว่า...ไม่หมูนะ เพราะเท่าที่ฟังกูรูทางกฎหมาย ต่างมีทัศนะไม่ตรงกัน บ้างก็ว่าคดีทุจริตคอรัปชั่นจะนิรโทษได้อย่างไร บ้างก็ว่าไม่เคยรับโทษ แล้วจะมานิรโทษได้อย่างไร บ้างก็ว่าการตรากฎหมายย้อนหลังเป็นคุณทำได้
 สรุปแล้ว แนวทางใช้ "อำนาจบาตรใหญ่" ทางรัฐสภา ออกกฎหมายนิรโทษชนิดเจาะจงตัวทักษิณ ถึงใช้ให้ทำได้ แต่ประชาชนยอมรับได้หรือไม่?
 อุ๊ย...เสียวจัง!
 เอาทางที่ ๓ ดีกว่า...ชัวร์แน่!
 แต่ เป็นชัวร์ที่...เสียวยิ่งกว่าซะอีก คือใช้เสียงข้างมากในรัฐสภา "หักด้ามพร้าด้วยเข่า" ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ไปเอารัฐธรรมนูญปี ๔๐ มาใช้ หรือรัฐธรรมนูญปีไหนก็ได้ ที่ไม่มีความอย่างในมาตรา ๓๐๙ น่ะ
 แต่จะเอากฎหมายไหนมายกเลิกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับล่ะ...
 ปฏิวัติตัวเองเหมือนจอมพลถนอมเรอะ?
 ถ้า ไม่อย่างนั้นก็ต้องทำประชามติ ตั้งคณะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ เป้าหมายต้องสั่งให้คณะร่างฯ ตัดมาตรา ๓๐๙ ที่เป็น "ยันต์ปิดปากหม้อ" ทิ้งไปให้ได้
   "ยันต์ปิดปากหม้อ" มาตรา ๓๐๙ นั่นแหละ ที่มัดทักษิณไม่ให้ดิ้นหลุดจากการ "เลิกคดีความ" ทั้งหลายถึงในขณะนี้ แต่ขั้นตอนตามกรรมวิธีที่ว่ามา มันคงใช้เวลาเป็นปี แล้วเสี่ยจะทนดูแต่ใบ โดยไม่เห็นต้น-เห็นดอกนานขนาดนั้นไหวหรือ?
 อีกอย่าง นั่นก็ใช่ว่ามันจะราบรื่นเป็นคลื่นโต้กระดาน มันต้องเกิดปรากฏการณ์ "เจี๊ยวใหญ่" ด้วยไม่พอใจขึ้นในบ้านเมืองค่อนข้างแน่ ยิ่งกว่าแช่แป้ง
 เอา ชัวร์ ๑๐๐% ดีกว่า มาสร้าง "ทำเนียบทักษิณ" ที่เกาะกงบัญชาการ แค่นี้เอง ฮุบเอากัมพูชามารวมกับประเทศไทย ให้มันรู้ไป ทักษิณใหญ่ หรือฮุน เซนใหญ่ อาขยมไทยจะได้...เฮ!

ประวัติคณะรัฐมนตรี ชุดที่ 60

by krunut


   

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีของไทย คนที่ ๒๘
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๑ พรรคเพื่อไทย)    การศึกษา
   : ปี ๒๕๓๓ ปริญญาโท Master of Public Admin Kentucky State University, U.S.A    
   : ปี ๒๕๓๑ ปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
   ประวัติการทำงาน
   บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประธานกรรมการบริหาร บริษัทดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย มีสินค้าเพื่อขาย อาทิ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงานให้เช่า
   

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๒ พรรคเพื่อไทย)    การศึกษา
   - โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท กรุงเทพมหานคร  
   - รัฐศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร รุ่นที่ ๑๓(๒๕๐๗)  
   - พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) สาขารัฐประศาสนศาสตร์ สถาบัน บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กรุงเทพมหานคร (๒๕๑๓)
   - ปริญญาบัตรหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ ๓๗
   - ประกาศนียบัตรจากวิทยาลัยการปกครอง หลักสูตรโรงเรียนนักปกครองระดับ รุ่นที่ ๑๑
   - ประกาศนียบัตร วิทยาลัยการปกครอง สาขาการปกครองส่วนท้องถิ่น (ญี่ปุ่น)
   - ประกาศนียบัตรการวางแผนและจัดรูปเมือง (สหรัฐอเมริกา)

   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) ชั้นสูงสุด
   - มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม) ชั้นสูงสุด

   ประวัติทางการเมือง
   - หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
   - รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ๒ สมัย
   

ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง
รองนายกรัฐมนตรี
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๓ พรรคเพื่อไทย)    การศึกษา      
   - นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
   - นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
   - นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
   - มหาวชิรมงกุฎ

   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - ส.ส. ปี ๒๕๒๖,๒๕๒๙,๒๕๓๑,๒๕๓๕/๒,๒๕๓๘,๒๕๓๙,๒๕๔๔,๒๕๕๐
   - ปี ๒๕๒๖ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
   - ปี ๒๕๓๑ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
   - ปี ๒๕๓๓ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
   - ปี ๒๕๓๘ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
   - ปี ๒๕๓๙ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
   - ปี ๒๕๕๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
   

พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ
รองนายกรัฐมนตรี    การศึกษา
   - โรงเรียนเทพประสิทธิ์วิทยา โรงเรียนผักไห่สุทธาประมุข โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
   - โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น ๖ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น ๒๒ รับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดนมาตลอด เป็นเวลากว่า ๒๗ ปี เคยปฏิบัติราชการรับใช้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - พ.ศ. ๒๕๔๘ ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - ผบก.ตชด.ภาค ๓ ซึ่งรับผิดชอบภาคเหนือทั้งหมด ยังมีผลงานการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ปะทะต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายร่วม ๕๐ ครั้ง จนสถานการณ์คลี่คลายลง
   - รอง ผกก.๑ บก.กฝ. (ค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี) แล้วขยับเป็น ผกก.๑ บก.กฝ. ในวัยเพียง ๓๒ ปี เป็นผู้กำกับที่หนุ่มที่สุดขณะนั้น
   - รอง ผบก.กฝ. แล้วโยกมาเป็นรอง ผบก.ตชด. ภาค ๓ ก่อนสลับเป็นรอง ผบก.ตชด. ภาค ๑
   - ปี ๒๕๓๗ ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบงานบริหาร ก่อนจะดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้คุมพื้นที่ชายแดนภาคใต้
   - ปี ๒๕๔๗ ได้เลื่อนขึ้นเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
   - ปี ๒๕๕๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
   

นายกิตติรัตน์ ณ.ระนอง
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

การศึกษา
- ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ (ปริมาณวิเคราะห์) จุฬาฯ
- ปริญญาโทบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาฯ    ประสบการณ์การทำงาน
   - อธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร
   - Deputy Director--Academic Affairs, Sasin, Corporate Social Responsibility
   - คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน
   - กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
   - ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ สภาฯ
   - กรรมการคณะกรรมการองค์การรถไฟฟ้ามหานคร
   - กรรมการอิสระ บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล
   

นายชุมพล ศิลปอาชา
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๑ พรรคชาติไทยพัฒนา)  
   การศึกษา
   - ปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
   - ปริญญาโท สาขาบริหารรัฐกิจ Syracuse University สหรัฐอเมริกา
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
   - มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)

   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
   - หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. ๒๕๒๒, ๒๕๒๖, ๒๕๒๙, ๒๕๓๑, ๒๕๓๕/๑, ๒๕๓๕/๒, ๒๕๓๘, ๒๕๓๙
   - สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร
   - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
   - รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ ๑
   - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
   - รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง
   - ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
   - อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง
   - อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
   

นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(ส.ส.ระบบเขต จ.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย)    การศึกษา
   - วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
   - แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
   - อนุมัติบัตรผู้มีความรู้หรือความชำนาญ สาขาจักษุวิทยา แพทยสภา
   - นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
   - ประกาศนียบัตรชั้นสูง สาขาโรคตาชุมชน มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ
   - พัฒนาบริหารศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
   - มหาวชิรมงกุฎ
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชัยภูมิ พ.ศ.๒๕๓๕/๑,๒๕๓๕/๒,๒๕๓๘, ๒๕๓๙,๒๕๔๔,๒๕๔๘,๒๕๕๐
   - รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
   - ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร
   

นางสาว กฤษณา สีหลักษณ์
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๔๔ พรรคเพื่อไทย)    การศึกษา
   - ปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิต (การบัญชี) มหาวิทยาเกษตรศาสตร์
   - รัฐศาสตร์ศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
   ประวัติการทำงาน
                     - นักบริหารดีเด่นได้รับโล่ห์เกียรติคุณรับรองจาก ชมรมนักธุรกิจสร้างสรรค์สังคมไทย ปี ๒๕๓๗
   

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๒๓ พรรคเพื่อไทย)    การศึกษา
   - หลักสูตรจู่โจม ศูนย์การทหารราบ ทบ.สหรัฐอเมริกา ฟอร์ตเบนนิ่ง
   - หลักสูตรพลร่ม ศูนย์การทหารราบ ทบ.สหรัฐอเมริกา ฟอร์ตเบนนิ่ง
   - วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ ๓๓ (วปรอ.๓๓)
   - โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ ๔๘
   - โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จ.ป.ร.)
   - โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
                   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
   - มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
   - เหรียญรัตนาภรณ์ชั้นที่ ๕

   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - ๒๒ มีนาคม ๒๕๓๙ สมาชิกวุฒิสภา
   - ๖ มกราคม ๒๕๔๔ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคไทยรักไทย
   - ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (พ้น ๓ ต.ค.๒๕๔๕)
   - ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีผู้ทรงคุณวุฒิ
   - ๒๙ มีนาคม ๒๕๔๘ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงกลาโหม (พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา)
   - ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๘ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงกลาโหม (พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา)
   - ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๙ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงกลาโหม (พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา)
   - ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๑ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์)
   

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

การศึกษา
- ระดับมัธยมต้นที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
- ระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
- ระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ B.Sc. (Econ.) จาก London School of Economics and Political Science มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ
- สำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรสอบบัญชีชั้นสูง The Fellow of Chartered Accountants สถาบันการสอบบัญชีของประเทศอังกฤษ
- สำเร็จหลักสูตร Senior Managers in Government ที่ John F. Kennedy School มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา    เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.) เมื่อปี ๒๕๔๕
   ตำแหน่งปัจจุบัน
   - เลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. ประธานคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
   - คณะกรรมการ ก.ล.ต. คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
   - ประธานอนุกรรมการบริหารความเสี่ยง บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ประธานกรรมการตรวจสอบ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย และกรรมการในคณะกรรมการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
   - กรรมการในคณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี กระทรวงพาณิชย์
   - กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร กรมสรรพากร
                     - กรรมการตัวแทนกระทรวงการคลังในบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด
   

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(ส.ส.ระบบเขต จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย)    การศึกษา
   - Bachelor of Business Administration สาขาFinance University of Kentucky ประเทศสหรัฐอเมริกา
   - ปริญญาบัตร สาขาวปม.๓ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาวชิรมงกุฎ
   - ประถมาภรณ์ช้างเผือก

   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.๒๕๔๔, ๒๕๔๘, ๒๕๕๐
   - กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย พ.ศ.๒๕๔๗, ๒๕๔๘ สภาผู้แทนราษฎร
   - เลขานุการ รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร พ.ศ.๒๕๔๘
   - ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พ.ศ.๒๕๔๙
   

นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๑๘ พรรคเพื่อไทย)    การศึกษา
   - โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา
   - โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
   - โรงเรียนเซนต์สตีเว่น ฮ่องกง
   - ปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาบริหารงานทั่วไป มหาวิทยาลัย HAWTHONE
   รัฐนิวแฮมเชอร์ สหรัฐอเมริกา
   - ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาการตลาด) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - ปี ๒๕๔๐ กรรมการที่ปรึกษา คณะอนุกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นองค์กรเอกชน
   สภาร่างรัฐธรรมนูญ
   - ปี ๒๕๓๘ คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อการพัฒนาการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนา
   จังหวัดภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ
   - สมาชิกวุฒิสภา (๒๒ มี.ค. ๓๕ - ๒๑ มี.ค.๓๙)
   - ปี ๒๕๓๕ คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา
   - ๑๕ มี.ค.๓๔ - ๒๑ มี.ค.๓๕ สมาชิกสภานิติบัญญัติ
   

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๒๐ พรรคเพื่อไทย)    การศึกษา
   - วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
   - วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ยังส์เทาวน์ สเตท ยูนิเวอร์ซิตี้, โอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา
   - ปริญญาเอก สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ แอครอน, โอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาวชิรมงกุฎ
   - ประถมาภรณ์ช้างเผือก
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - ปี ๒๕๓๙-๒๕๔๓ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่
   - ปี ๒๕๔๓ ประธานกรรมาธิการการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงินสภาผู้แทนราษฎร
   

นายสันติ พร้อมพัฒน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๑๕ พรรคเพื่อไทย)    การศึกษา
   - จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา ๒๕๔๕
   - จบการศึกษาระดับปริญญาโท  คณะศิลปศาสตรมหาบัณฑิต(รัฐศาสตร์) ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา ๒๕๔๗
   - อบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) รุ่นที่ ๑๑ ปี พ.ศ. ๒๕๔๙-๒๕๕๐
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๘ มหาวชิรมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด
   - วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๓ ประถมาภรณ์ ช้างเผือก
   - วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๑ ประถมาภรณ์ มงกุฎไทย
   - วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๐ ทวีติยาภรณ์ ช้างเผือก
   - วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๘ ทวีติยาภรณ์ มงกุฎไทย
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - ปี ๒๕๓๗ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ)
   - ปี ๒๕๓๘-๓๙ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา)
   - ปี ๒๕๔๔-๔๕ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายสุริยะ   จึงรุ่งเรืองกิจ)
   - ปี ๒๕๔๔-๔๖ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  (นายพิเชษฐ์  สถิรชวาล)
   - ปี ๒๕๓๗ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  (พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ)
   - ปี ๒๕๓๘-๓๙ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา)
   - ปี ๒๕๔๔-๔๕ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ)
   - ปี ๒๕๔๔-๔๖ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  (นายพิเชษฐ์  สถิรชวาล)
   

นายธีระ วงศ์สมุทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์    การศึกษา
   - ปี ๒๕๑๓ ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (ชลประทาน), มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
   - ปี ๒๕๓๘ ปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
   - ปี ๒๕๔๒ นักบริหารระดับสูง (นบส.๑)
   - ปี ๒๕๔๓ หลักสูตรวิทยาลัยป้องกัน ราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ ๔๒, วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
   ประวัติการทำงานภาคราชการ
   - ปี ๒๕๑๔ บรรจุเข้ารับราชการตำแหน่งนายช่างตรี, กองก่อสร้าง กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
   - ปี ๒๕๔๑-๒๕๔๔ รองอธิบดี (นักบริหาร ๙), กรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
   - ปี ๒๕๔๔-๒๕๔๙ ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ ๑๐), กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
   - ปี ๒๕๔๙ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ ๑๐), กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
   - ปี ๒๕๔๙-๒๕๕๐ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
   - ปี ๒๕๕๐-๒๕๕๑ อธิบดี (นักบริหาร ๑๐), กรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
   - ปัจจุบัน รมว.เกษตรและสหกรณ์


   

นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๓๓ พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
   - มหาวชิรมงกุฎ
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - รองประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์
   - เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
   - อนุกรรมาธิการงบประมาณ
   - กรรมาธิการยุติธรรม และผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
   

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
   การศึกษา
   - โรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่นที่ ๑๗
   - โรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง รุ่นที่ ๔๕
   - โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ รุ่นที่ ๒๙
   - วิทยาลัยการทัพอากาศ รุ่นที่ ๒๙
   - วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ ๔๖
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - จม.,จ.ช.,ต.ช.,ท.ม.,ท.ช.,ป.ม.,ป.ช.,ม.ว.ม.
   - เหรียญจักรมาลา, เหรียญราชการชายแดน
   - เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๒ ประเภท ๒
   ประวัติการทำงานภาคราชการ
   - เจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ ์
   - ผู้ช่วยเสนาธิการทหารอากาศ ฝ่ายยุทธการ
   - รองเสนาธิการทหารอากาศ
   - เสนาธิการทหารอากาศ
   - ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ
   

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๑๑ พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - รัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต รป.บ (ตร.) โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
   - อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
   

นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

การศึกษา
- เทคโนโลยีการเกษตรบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ วิทยาลัยบัณฑิตสกลนคร
- สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาขบวนการยุติธรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
   - มหาวชิรมงกุฎ
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - ประธานกรรมาธิการคมนาคม
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๑๑ สมัย
   

นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(ส.ส.ระบบเขต จ.เลย พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาโยธา MAPUA INSTITUTE OF TECHNOLOGY ฟิลิปปินส์
   - ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการศึกษาเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
   - มหาวชิรมงกุฎ

   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย
   - ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
   - เลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
   - เลขานุการ รมว.กระทรวงสาธารณสุข
   - เลขานุการ รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
   

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(ส.ส.ระบบเขต จ.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย)

การศึกษา
- ร.ร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตร รุ่นที่ ๗
- ร.ร.เตรียมทหาร รุ่นที่ ๒๓
- ร.ร.นายเรืออากาศ รุ่นที่ ๓๐ สาขาวิศวกรรมอากาศยาน
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - ผู้บังคับฝูงบินขับไล่สกัดกั้นที่ ๑๐๒ (F-๑๖ ADF) ๒๕๔๔-๒๕๔๗
   - อุปนายกสมาคมนักเรียนเก่า ร.ร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรสาสตร์ ๒๕๔๓-๒๕๔๗
   - ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธ์  ปี ๒๕๔๘-๒๕๔๙)
   - รองประธานคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานของสำนักฝนหลวงการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี ๒๕๔๘-๒๕๔๙
   - เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ๒๕๔๘-๒๕๔๙
   

นายพิชัย นริพทะพันธุ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
   การศึกษา
   - ปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์
   - ปริญญาโท ด้านการบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช
   - คณะทำงานทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย
   

นายภูมิ สาระผล
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
(ส.ส.ระบบเขต จ.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - ปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
   - ปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตร์มหาบัณฑิต นิด้า
   - ประกาศนียบัตรชั้นสูงทางรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ. ขอนแก่น  ๕ สมัย
   - รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
   - เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
   - เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาวิทยาลัย
   - เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์
   - เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
   - กรรมาธิการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร
   

นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
(ส.ส.ระบบเขต จ.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา)

การศึกษา
- วิทยาศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยแมรี่วิลล์ รัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาวชิรมงกุฎ
   - ประถมาภรณ์ช้างเผือก
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.๒๕๔๔, ๒๕๔๘
   

นายชูชาติ หาญสวัสดิ์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
(ส.ส.ระบบเขต จ.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย)

การศึกษา
- ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (โยธา) สหรัฐอเมริกา (California State University of Long Beach)
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - อดีต ส.ส. ๖ สมัย
   - กรรมาธิการการคมนาคม
   - กรรมาธิการงบประมาณแผ่นดิน ๒ สมัย
   - กรรมาธิการทบวงมหาวิทยาลัย
   - เลขานุการรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย
   - ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
   - ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
   

นายฐานิสร์ เทียนทอง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
(ส.ส.ระบบเขต จ.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
   - มหาวชิรมงกุฎ
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระแก้ว พ.ศ. ๒๕๓๙, ๒๕๔๔, ๒๕๔๘
   

พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๕ พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
   - ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการปกครอง ม.รามคำแหง
   - ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพัฒนาสังคม ม.เกษตรศาสตร์
   - รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขารัฐประศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
   - ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
   - มหาวชิรมงกุฎ
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - รมว.แรงงานและสวัสดิการสังคม
   - รมช.สาธารณสุข
   - ปี ๒๕๔๐ สมาชิกวุฒิสภา
   - ปี ๒๕๔๔ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
   - ปี ๒๕๕๐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน
   

นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
(ส.ส.ระบบเขต จ.นครปฐม พรรคเพื่อไทย)

การศึกษา
- ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
   - มหาวชิรมงกุฎ
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นครปฐม พ.ศ.๒๕๓๑,๒๕๓๕,๒๕๓๙,๒๕๔๔,๒๕๔๘,๒๕๕๐
   

นางสุกุมล คุณปลื้ม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
(ส.ส.ระบบเขต จ.ชลบุรี พรรคพลังชล)
   การศึกษา
   - ประถมศึกษา โรงเรียนดาราสมุทร
   - มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนเซนปอลคอนแวนต์ ศรีราชา
   - มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย
   - ปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย อัสสัมชัญ
   ประวัติการทำงาน
   - สมาชิกชมรมสตรีแสนสุข
   

นายปลอดประสพ สุรัสวดี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ ๗ พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - ปี ๒๕๑๑ ปริญญาตรี การประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
   - ปี ๒๕๑๓ ปริญญาโท บริหารการประมง Oregon State University สหรัฐอเมริกา
   - ปี ๒๕๑๙ ปริญญาเอก นิเวศวิทยา University of Manitoba แคนาดา
   - ปี ๒๕๓๓ ปริญญา วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
   - ปี ๒๕๓๔ ดุษฎีบัณฑิต เทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยแม่โจ้
   - ปี ๒๕๓๕ ดุษฎีบัณฑิต ประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - ปี ๒๕๓๓ มหาวชิรมงกุฎ
   - ปี ๒๕๓๔ เหรียญรัตนาภรณ์ ชั้น ๓
   - ปี ๒๕๓๖ ทุติยจุลจอเกล้า
   - ปี ๒๕๓๘ มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
   

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(ส.ส.ระบบเขต จ.แพร่ พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - ปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต(รัฐประศาสนศาสตร์) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดแพร่
   - เลขานุการรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย
   - ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
   - เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
   

นางบุญรื่น ศรีธเรศ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(ส.ส.ระบบเขต จ.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - ปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต (คบ.) จากวิทยาลัยครูมหาสารคาม
   - ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา (ป.กศ.) จากวิทยาลัยครูมหาสารคาม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
   - ประกาศนียบัตร ประกาศนียบัตรการเมืองการปกครองของผู้บริหารระดับสูงของ สถาบันพระปกเกล้า
   ประวัติการทำงาน
   - นายกสโมสรไลออนส์ชัยสุนทรกาฬสินธุ์ ปี ๒๕๔๓-๒๕๔๔
   - ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ตลอดชีพ สภากาชาดไทยจังหวัดกาฬสินธุ์
   - ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมสตรีนักธุรกิจกาฬสินธุ์
   - ทำงานด้านการเมืองร่วมกับสามี (ส.ส.สังข์ทอง ศรีธเรศ) ๗ สมัย
                     
   

นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(ส.ส.ระบบเขต จ.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม
   - รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาวชิรมงกุฎ
   - ประถมาภรณ์ช้างเผือก
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี พ.ศ. ๒๕๔๔, ๒๕๔๘, ๒๕๕๐
   

นายวิทยา บุรณศิริ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
(ส.ส.ระบบเขต จ.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย)
   การศึกษา
   - ปริญญาตรี สถาบันราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
   - ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - ป.ม.
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
   - ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
   - อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
   - รองประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ
   - ประธานอนุกรรมาธิการศึกษาเส้นทาง East-West Corridor ในกรรมาธิการต่างประเทศ
   - ที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข.) แลโครงการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)
   

นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
   การศึกษา
   - AA สาขา BA San Diego Golf Academy ประเทศสหรัฐอเมริกา
   - BBA สาขา BA The American College ประเทศสหรัฐอเมริกา
   - MBA สาขา MBA The American College ประเทศอังกฤษ
   - รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาวชิรมงกุฎ
   - ประถมาภรณ์ช้างเผือก

   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - กรรมาธิการการสาธารณสุข
   - กรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ
   - กรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค
   - รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
   

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
(ส.ส.ระบบเขต จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน)
   การศึกษา
   - วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
   - แพทยศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
   - MASTER OF PUBLIC HEALTH UNIVERSITY OF HAWAII
   - วิทยาศาสตรการแพทย์คลีนิค สาขาอายุรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
   - วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญ สาขาอายุรศาสตร์ แพทย์สภา
   - นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
   เครื่องราชอิสริยาภรณ์
   - มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
   - มหาวชิรมงกุฎ
   ประสบการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ
   - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา ๕ สมัย
   - ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข, รมว.แรงงาน
   - รองนายกรัฐมนตรี, รองประธานกรรมาธิการสาธารณสุข, รองประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ
 
   ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

คนไทยห้ามลืม!!เพราะคนไทยขี้ลืม!!

ประกาศไว้ที่เวทีราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อ ๑ ก.ค.๕๔

๑.สร้างเขื่อนกั้นทะเลสมุทรสาคร-สมุทรปราการ
๒.ปรับปรุง ๒๕ ลุ่มน้ำ-ดึงน้ำจากพม่า-ลาว-กัมพูชา
๓.สร้างรถไฟฟ้า ๑๐ สาย ใน กทม.เก็บ ๒๐ บาท
๔.ทำรถไฟรางคู่เชื่อมชานเมือง
๕.ทำแลนด์บริดจ์ภาคใต้
๖.ขจัดยาเสพติดใน ๑๒ เดือน/ขจัดความยากจนใน ๔ ปี
๗.พักหนี้ครัวเรือนที่ต่ำกว่า ๕ แสนบาท อย่างน้อย ๓ ปี
๘.๓๐ บาทรักษาทุกโรคได้จริง (แสดงว่า เมื่อก่อน30บาทไม่ได้รักษาทุกโรคได้จริง q*031)
๙.งบฯ องค์กรท้องถิ่น ๒๕ เปอร์เซ็นต์
๑๐.จำนำข้าวเปลือก ๑๕,๐๐๐ บาท
๑๑.แจกเครดิตการ์ดให้เกษตรกร
๑๒.ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ ๒๐% ในปี ๒๕๕๖
๑๓.ตั้งกองทุนตั้งตัวให้นักศึกษา ๑,๐๐๐ ล้านบาท
๑๔.ตั้งกองทุนร่วมทุนทุกจังหวัด
๑๕.คืนภาษี-เพิ่มค่าลดหย่อนให้ผู้ซื้อบ้านหลังแรก
๑๖.คืนภาษีให้ผู้ซื้อรถคันแรก
๑๗.ยกเลิกกองทุนน้ำมัน
๑๘.แจกแท็บเลต พีซี ให้เด็กนักเรียน
๑๙.ค่าแรงขั้นต่ำ ๓๐๐ บาท ภายใน ๙๐ วัน q*011 (เขาบอกไปปีหน้าแล้ว q*020)
๒๐.จบปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น ๑๕,๐๐๐ บาท
๒๑.ทำสนามบินสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบิน
๒๒.ฟรีอินเทอร์เน็ตในที่สาธารณะ
๒๓.จัดตั้งกองทุนทรัพย์สินของชาติ
๒๔.ชายแดนใต้ ๓ จว.เป็นเขตปกครองพิเศษ
๒๕.จัดศูนย์ฝึกในอาชีวศึกษาทุกแห่ง



กองทุนคนเสื้อแดงจังหวัดละ 100 ล้านบาท


by ตานะ

เอามาเล่าให้ฟังว่า เรื่องนี้มีจริงหรือ งบ 100 ล้านบาท/จังหวัด ถ้าเป็นเรื่องจริง คงยุ่งแน่เลยมวลชนเสื้อแดงคงแข็งแรงมาก

ช่วงต้นเดือนสิงหาคมแฟนผมได้คุยกับแกนนำเสื้อแดงระดับอำเภอคนหนึ่ง

แฟน: พี่..หายหน้าไปใหนมา ไม่ค่อยเห็นมาขายของเลย เห็นแต่พี่ผู้ชาย

เสื้อแดง: โอ๊ยช่วงนี้เขา(แกนนำ)เรียกบ่อยไปหลายที่(คงหมายถึงไปกดดันหลายแห่ง)

แฟน: อ้าวว...แล้วไปทำอะไรมาถึงดูซูบผอมไป

เสื้อแดง: โอ๊ย..ก็ไปหลายที่แล้วก็เครียดด้วย

แฟน: เครียดเรื่องไร....เห็นแฟนพี่กับลูกก็ขายของดี

เสื้อแดง: ไม่ไช่...เครียดเรื่องขายของแต่เครียดเรื่อง กลัวยิ่งลักษณ์ไม่ได้เป็นนายก

แฟน: อ้าวก็ได้เป็นนายกแล้วนี้(ช่วงนั้นกกต.เพิ่งรับรอง)...จะเครียดทำไมอีก

เสื้อแดง: ก็ใช่ซิ..ต้องไปกดดันตั้งหลายครั้ง..กลัวมือที่มองไม่เห็นสั่งลงมาซิ..

แฟน: ตอนนี้ก็หายเครียดแล้วซิ

เสื้อแดง: อือ..ค่อยเบาหน่อย...เออสนใจมาเข้ากลุ่มป่ะ(เริ่มหามวลชน)

แฟน: เออ..หนูไม่ค่อยมีเวลาน่ะพี่(แฟนแถ..คงไม่รู้ว่าอยู่คนละขั้ว)

เสื้อแดง: นี่..ต่อไปเขามีงบเยอะมากน่ะ สนใจป่ะ

แฟน: งบไรพี่...(แกล้งถามต่อ)

เสื้อแดง: อ๋อ..ส่วนกลาง(คงหมายถึงเสื้อแดงส่วนกลาง) เขาจะมีงบให้จังหวัดละ 100 ล้านบาท

แฟน(ตาโต): ฮู๋..งบอะไรเยอะจัง

เสื้อแดง: งบรัฐบาล..แต่ไม่ผ่านระบบราชการ (คงโดนหลอกว่าเป็นงบจังหวัดลับ)

แฟน: อ้าว..ไม่ผ่านระบบราชการแล้วมันจะใช่งบรัฐบาลเหรอ..แล้วยังไม่ได้ตั้งรัฐบาลจัดงบได้งัย(งงเลยถามยาว)

เสื้อแดง: เขาบอกว่างั้น..น่ะ

แฟน: แล้วเขาให้มาทำอะไร เยอะแยะ

เสื้อแดง: เอามาให้กู้...สนใจมาหาพี่ได้น่ะ เดี๋ยวพี่จัดการให้..พี่สนิทกับแกนนำดี

แฟน: กู้ยังงัย..แล้วเอาอะไรค้ำ

เสื้อแดง: ก็เท่าที่รู้ว่า ไม่ต้องใช้อะไรค้ำ แต่ค้ำกันเอง แต่ก็ช่วยงานเขาหน่อย

แฟน: ช่วยยังงัย

เสื้อแดง: ก็เวลาเขาให้ไปเขาร่วมชุมนุมหรือรวมตัวทำกิจกรรมก็ไปกับเขาบ้าง

แฟน: แล้วไปยังงัย

เสื้อแดง: ไม่ต้องห่วงเครือข่ายเราเยอะมีงบจัดรถ ส่วนน้องไปกับพี่ก็ได้ เดี๋ยวพี่แนะนำให้รู้จักแกนนำใหญ่

แฟน: อ๋อ..หนูไม่ค่อยมีเวลาหรอก..ไปก่อนน่ะพี่แล้วเจอกัน

ฤาคมช.ทำรัฐประหารคือแผนทักษิณ!!

 ไปเจอบทความนี้มา จาก เซียนแซวการเมือง น่าคิดไม่ใช่น้อยครับ!

ฤาคมช.ทำรัฐประหารคือแผนทักษิณ!!

เพราะทักษิณโกงภาษีขายหุ้น จึงมีเหลืองออกมาขับไล่ ต่อมาทักษิณยุบสภาหนีการซักถามเรื่องขายหุ้นในสภา

เมื่อยุบสภาแล้ว จัดเลือกตั้งอัปยศก็แล้ว ก็ไม่อาจหยุดยั้งกระแสต่อต้านของประชาชนที่มีเพิ่มมากขึ้นได้

ทักษิณจึงได้ความคิดที่ฉลาดมากซึ่งไม่รู้มันคิดเองหรือทีมงานมันช่วยคิด แต่มีข้อแม้ว่าทักษิณมันต้องยอมทิ้งเมืองไทยไปสักระยะ เพื่อดึงมวลชนกลับมาเป็นฝ่ายตัวเองอีกครั้ง

ไม่มีวิธีใดจะดีไปกว่า ใช้ทหารปฏิวัติรัฐบาลรักษาการณ์ของตัวเอง เพื่อคืนความชอบธรรมให้ตัวเอง ทำให้ตัวเองจากที่เป็นไอ้ขี้โกง กลายเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตยในที่สุด

ทักษิณจึงสมคบกับนายทหารที่ตัวเองตั้งมากับมือ คือกลุ่มคมช. ให้ทำการยึดอำนาจตัวเองซะ ในช่วงที่ทักษิณไปต่างประเทศ

จากคนเคยด่าทักษิณอย่างไอ้ใจรัล อึ๊งฯ หรือหมอเหวง โตแต่ตัวหัวสมองน้อย หรือนายนิติภูมิ โกงป้าเช็ง ที่เคยขึ้นเวทีด่าทักษิณ มาวันนี้ก็กลับแปรเปลี่ยนย้ายข้างไปเชลียทักษิณแผลบๆแทน ด้วยอ้างอุดมการณ์ต่อต้านรัฐประหารของคมช. อ้างเกลียดต่อต้านเผด็จการ ก็มันเกลียดทหารนั่นแหล่ะ แต่อ้างประชาธิปไตยบังหน้า

บุคคลหลายคนที่เคยด่าทักษิณต่างหันกลับไปเป็นพวกทักษิณเพื่อต่อต้านคมช. พวกแดงล้มเจ้ามันเลยได้ช่องเกาะทักษิณหาทางปลุกปั่นคนไทยตามแนวคิดเลวๆของ พวกมัน

นี่คือแผนอันลึกล้ำของทักษิณจริงๆ ต้องยอมรับว่าทักษิณมันคิดเรื่องเลวๆเก่งที่สุดประวัติศาสตร์ชาติไทย

แน่นอนในแผนรัฐประหารตัวเองนี้ ก็มีข้อผิดพลาดอยู่บ้างเพราะมีคนทีคมช.เรียกมาดำเนินคดีทักษิณ ไม่ได้ล่วงรู้แผนซ้อนแผนนี้ของทักษิณ จึงเดินหน้าเอาผิดทักษิณเต็มที่ ทำให้ทักษิณสูญเงินไปไม่น้อย

แต่การรัฐประหาร ช่วยสร้างความชอบธรรมให้ทักษิณมากขึ้น ในฐานะนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยที่น่าสงสารโดนล้มอำนาจโดยทหาร แม้ทักษิณเสียเงินไปเยอะ แต่ทักษิณกลับซื้อใจคนจนๆได้มากขึ้น เพียงเพราะประชาธิปไตยกินได้ที่ทักษิณสรัางภาพลักษณ์นี้ขึ้นมา ทำให้การเลือกตั้งต่อมา พรรคลิ่วล้อทักษิณก็ยังชนะเหมือนเดิม

พวกคณะคมช.หลายคน สุดท้ายก็ยังกลับมารับใช้ทักษิณเหมือนเดิม ทั้งทางตรงทางอ้อม ขอรับ

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง