บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ความสัมพันธ์ของ สมศักดิ์ และ ธิดาแกนนำ นปช.


MusicPlaylistView Profile
Create a playlist at MixPod.com


กดที่ video เพื่อขยายจอ 

(นำมาเผยแพร่เพื่อต้องการปกป้องสถาบันกษัตริย์อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย)

เสนาะ ทักษิณ กับความจริงที่ว่า เพื่อผลประโยชน์แล้วไม่มีอะไรที่นักการเมืองทำไม่ได้

ประชาชนอย่างเราจะหวังอะไรกับนักการเมืองสมัยนี้ได้ โหวตโนเถอะครับ ทางออกเดียวของเรา                                              


                                                                                                                                                                           

ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา “ถ้าไม่มีคนดีก็ไม่ต้องเลือก พรรคการเมืองอย่าดูถูกประชาชน”

ขณะ นี้พรรคการเมืองทุกพรรคต่างวิ่งเข้าสู่สงครามการเลือกตั้งกันอย่างเอาเป็น เอาตาย ต่างฝ่ายต่างโหมนโยบายขายฝันเพื่อหวังชิงที่นั่งในสภาในการเลือกตั้งครั้ง หน้าที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 3 ก.ค.นี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ลงสมัครแต่ละพรรคก็ยังคงเป็นนักการเมืองหน้าเดิม มีแนวคิดแบบเดิมๆ โดยหวังเพียงให้การหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งเป็นเพียงทางผ่านที่จะนำพาพวก เขาเข้าไปนั่งในสภา เพื่อจะมีโอกาสใช้อำนาจหน้าที่แสวงประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง
     
       อย่างไรก็ดี ขณะนี้ได้มีหน่วยงานหนึ่งที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อจับตานักการเมืองเหล่านี้โดย เฉพาะ นั่นคือ 'เครือข่ายข้อมูลการเมืองไทย' ซึ่งจัดทำเว็บไซต์เครือข่ายข้อมูลการเมืองไทย หรือ www.tpd.in.th ที่มี 'ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา' อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ทางการเมือง
     
       'ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์' จึงได้สัมภาษณ์พูดคุยกัย ศ.ดร.จรัส ถึงที่มาที่ไป และจุดมุ่งหมายในการจัดทำเว็บไซต์ดังกล่าว
     
       **อยากทราบถึงความเป็นมาของว็บไซต์เครือข่ายข้อมูลการเมืองไทย
     
       เว็บไซต์นี้เกิดจากการรวมตัวของนักวิชการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ นอกจากนั้นยังมีอาสาสมัครที่อาสามาช่วยงานด้วย ก็มาช่วยกันรวบรวม วิเคราะห์ และสร้างฐานข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองซึ่งหน่วยงานใดจะนำข้อมูลตรงนี้ไปใช้ก็ ได้ คือจากที่ในบ้านเราเนี่ยมีองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับการติดตามเรื่องการเมือง การคอร์รัปชั่น เรื่องธรรมภิบาล ความโปร่งใสของนักการเมืองและหน่วยงานราชการต่างๆอยู่หลายองค์กร เมื่อ 2 ปีที่แล้วก็เลยมานั่งคุยกันว่าเอาข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกันไหม เราเลยจัดตั้งเป็นศูนย์เครือข่ายข้อมูลการเมืองไทย มีหน้าที่จัดทำข้อมูลเพื่อให้บริการกับองค์กรในเครือข่ายโดยไม่คิดค่าใช้ จ่าย หน่วยงานไหนมีข้อมูลก็ส่งมาที่เรา เราจะช่วยประมวล วิเคราะห์ และเชื่อมโยงกับข้อมูลที่มีอยู่ เกิดเป็นฐานข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเรามีทั้งข้อมูลเกี่ยวกับ ส.ส. นักการเมือง พรรคการเมือง ข้อมูลธุรนกิจที่เชื่อมโยงกับการเมือง บริษัที่รับสัมปทานจากรัฐ ข้อมูลที่เกี่ยวกับหน่วยราชการต่างๆ
     
       ต่อมาเมื่อ 5-6 เดือนที่ผ่านมาเครือข่ายนักวิชาการได้คุยกันว่าน่าจะนำข้อมูลมาเผยแพร่ต่อ สาธารณะ ประกอบกับเป็นช่วงที่ใกล้จะมีการเลือกตั้ง ก็คิดว่าน่าจะให้ความรู้กับประชาชนเพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจทางการ เมือง ก็เลยจัดตั้งเป็นเว็บไซต์เครือข่ายข้อมูลการเมืองไทย หรือ www.tpd.in.th ซึ่งในช่วงแรกเนี่ยเราจะเน้นข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ ส.ส.เป็นหลัก เพื่อที่ชาวบ้านจะได้รู้ทันการเมือง รู้ทัน ส.ส.
     
       **ในเว็บไซต์ฯมีข้อมูลอะไรบ้างที่ประชาชนสามารถนำมาพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนที่จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้
     
       ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับการทำหน้าที่ในสภาของ ส.ส.แต่ละคนที่อยู่ในรัฐบาลชุดนี้ ส.ส.คนนี้เข้าประชุมสภากี่ครั้ง ส.ส.คนไหน.บ้างที่ทำสภาล่ม มีการเสนอกฎหมายอะไรให้สภาพิจารณาบ้าง และในการพิจารณากฎหมายแต่ละเรื่องเนี่ย ส.ส.คนไหนเข้าประชุมบ้าง ส.ส.คนไหนโหวตให้กฎหมายฉบับนี้ผ่าน ใครโหวตไม่รับ ใครงดออกเสียง ซึ่งชาวบ้านจะรู้เลยว่ากฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน หรือกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อบางกลุ่มเนี่ย ส.ส.คนไหนบ้างที่ผลักดันกฎหมายเหล่านี้ออกมา
     
       มีข้อมูลเกี่ยวกับ ส.ส.ประเภทที่สืบทอดตำแหน่งทางการเมืองจากพ่อแม่ ประเภทพูดอย่างทำอย่าง เช่น บอกจะปฏิรูปที่ดิน จะกระจายที่ดินทำกินให้ประชาชน แต่ตัวเขาเองมีที่ดินเป็นพันไร่ เพราะฉะนั้นกฎหมายกระจายการถือครองที่ดินออกมาเมื่อไร พวกนี้ก็ไม่เอาเข้าสภาหรอก นอกจากนั้นหลังจากสิ้นสุดการเลือกตั้ง คือหลังเดือน ก.ค 2554 เราก็จะนำข้อมูลด้านอื่นๆมาใส่ในเว็บไซต์ด้วย เช่น ทุนกับการเมือง ธุรกิจกับการเมือง ข้าราชการกับธุรกิจ
     
       **เว็บไซต์พูดถึงการหาเสียงของ ส.ส.ด้วยหรือเปล่า
     
       พูดครับ เรามีหัวข้อเรื่องถอดรหัสนักการเมือง เป็นการอธิบายถึงแบบแผนในการหาเสียงของ ส.ส. และบอกว่าภาคไหนหาเสียงแบบไหน นักการเมืองที่มีภูมิหลังแบบไหนมีวิธธีหาเสียงแบบไหน เช่น นักการเมืองที่เริ่มจากเป้นคนหิ้วกระเป๋าให้นักการเมือง จะหาเสียงด้วยวิธีซื้อเสียงมากกว่าเพื่อน
     
       นอกจากนั้นยังมีข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น จากสถิติพบว่า ส.ส.ที่มีพฤติกรรมการหาเสียงแบบ ส.ส.ซุปเปอร์มาร์เก็ต คือแจกของ แจกเงิน มีถึง 57.38% พบมากที่สุดในภาคอีสาน คือมีถึง 80% , ส.ส.พึ่งหัวคะแนน มี 86% มากที่สุดคือภาคอีสาน รองลงมาเป็นภาคตะวนตก , ส.ส.ที่ทุจริตเชิงนโยบาย 44% มากที่สุดคืออีสาน 58% รองลงมาคือภาคเหนือ 52% , ส.ส.ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งในวงราชการ มี 22% พบมากในอีสานมากที่สุด 38% ที่น่าแปลกใจคือ กทม.มาเป็นอันดับ 2 แล้ว กทม.เนี่ยคุณคิดว่าจะเป็นพรรคไหน (ยิ้ม)
     
       **มีการวิเคราะห์ถึงนโยบายของแต่ละพรรคหรือไม่
     
       มีครับ ซึ่งการวิจัยก็พบว่านโยบายของแต่ละพรรคก็ไม่ได้ตรงกับปัญหาของชาวบ้าน เพราะมันเหมือนกับยาชุดที่กินกันทั้งประเทศ ใครไม่สบายก็กินยาชุดนี้ แต่ว่าแต่ละจังหวัดก็มีปัญหากันคนละแบบ บางจังหวัดอาจจะมีปัญหาบางอย่างที่รุนแรง เราวิจัยให้ดูว่านโยบายของแต่ละพรรคสอดคล้องกับปัญหาของแต่ละจังหวัดหรือไม่ ซึ่งพบว่าเกือบทั้งประเทศเนี่ยมันไม่สอดคล้องกันเลย อาจจะได้แค่ 30% หรือ 50%
     
       **เห็นว่ามีข้อมูลบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ได้
     
       ใช่ครับ เพราะถ้าเอามาลงเราอาจถูกฟ้องได้ อย่างเช่น ข้อมูลของ ส.ส.ที่มีพฤติกรรมสีเทา เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หวยใต้ดิน การค้าของเถื่อน น้ำมันเถื่อน เราบอกชื่อเป็นรายบุคคลได้เลย แต่ไม่สามารถเอาขึ้นเว็บฯได้ คือพวกนี้ไม่มีหลักฐาน ไม่มีใบเสร็จ
     
       **จากข้อมูลเนี่ย ส.ส.ที่มีพฤติกรรมสีเทามีเยอะไหม
     
       มีประมาณ 15% จากที่เก็บข้อมูลใน 18 จังหวัด จาก ส.ส.ระบบเขตที่ยังอยู่ในสภาชุดนี้ประมาณ 180 คน พบว่ามีนักการเมืองสีเทาประมาณ 35 คน ซึ่งดีกรีแตกต่างกันไป มีทั้งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบ่อนการพนัน ซึ่งมีมาก ทั้ง ส.ส.ที่อยู่ในฝ่ายค้านและรัฐบาล อย่าไปมองว่าพรรคไหนดีกว่าพรรคไหนเลย ทุกพรรคมีคนแบบนี้อยู่อาจจะมากน้อยต่างกัน แล้วก็ ส.ส.ที่บุกรุกที่สาธารณะ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ประเภทนี้เยอะมาก มี ส.ส.ที่เกี่ยวพันกับการคอร์รัปชั่น ส.ส.ที่ปลอมวุมิการศึกษา
     
       **สภาชุดนี้ มี ส.ส.ที่ถึงขั้นมีซุ้มมือปืนในสังกัดไหม
     
       ก็มี พวกนี้มีอยู่ประมาณ 5-6 ราย มีทั้งคนที่มีซุ้มมือปืนเอง และคนที่เคยเป็นมือปืนมาก่อนเป็น ส.ส.ด้วย อยู่ในสภาเราเนี่ยแหล่ะ
     
       **คนที่เป็นรัฐมนตรีแล้วมีพฤติกรรมลักษณะนี้มีไหม
     
       มี รัฐมนตรีก็มีพฤติกรรมแบบนี้เยอะ มีทั้งเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน และเกี่ยวข้องกับสถานเริงรมย์ที่ผิดกฎหมาย อันนี้มีเยอะ ยาเสพติด ค้ายา มีหมด นักการเมืองบางคนมีพฤติกรรมสีเทาหลายๆอย่างพร้อมกัน มีทั้งซุ้มมือปืน ค้ายาเสพติด เปิดสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ขนาดบางคนไม่น่าเป็น ส.ส.เลย แต่มันก็อยู่ของมันได้
     
       **การที่ ส.ส.พวกนี้สามารถเข้าไปอยู่ในสภาได้เนี่ย อาจารย์มองว่ามันสะท้อนถึงอะไร
     
       มันสะท้อนถึงความไม่แยแสของประชาชน คือประชาชนในพื้นที่เขาก็รู้ว่านักการเมืองคนไหนเป็นยังไง แต่ก็ยังเลือกกันอยู่อย่างเนี้ย ผมมองเห็นปัญหา 2-3 ประการที่คนไทยต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ประการที่ 1 คือ ประชาชนให้ความสำคัญกับคุณภาพของ ส.ส. น้อยมาก คือ ส.ส.ในจังหวัดเขาจะดีจะเลวเขาไม่สนใจ ส.ส.จังหวัดเขาทำความชั่ว โดดประชุมสภา สภาล่ม เขาไม่สนใจ
     
       ประการที่ 2 คือ แม้จะรู้ว่าผู้สมัครคนนี้ไม่ดี แต่ก็เลือกเพราะมองว่าผู้สมัครคนนี้ให้ความช่วยเหลือเป็นการส่วนตัว เช่น มาช่วยงานบวช งานศพ งานแต่ง ลูกเข้าโรงเรียน ส.ส.ก็ฝากให้ ลูกจะเข้าทำงาน ส.ส.ก็ฝากให้ ลูกถูกตำรวจจับเพราะติดยา ส.ส.ก็ไปประกันให้ คือมอง ส.ส.แบบระบบอุปภัมภ์ เพราะฉะนั้น ส.ส.ก็จะไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาในระดับพื้นที่
     
       ประการที่ 3 คือ ชาวบ้านต้องกบฎกับหัวคะแนน เพื่อไม่ให้คะแนนจัดตั้งพา ส.ส.ไม่ดีเข้ามาในสภาได้
     
       **จากข้อมูลของทางเครือข่ายฯ ช่วงใกล้เลือกตั้งนี่พบพฤติกรรมที่ผิดปกติของนักการเมืองบ้างหรือเปล่า
     
       ก็มีข้อมูลจากทีดีอาร์ไอ (สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย) ที่ระบุว่ามีการขายหุ้นเพื่อนำเงินไปลงในการเมือง อาจารย์เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ จากทีดีอาร์ไอ ซึ่งจับตาเรื่องตลาดหุ้นอยู่ ก็บอกว่าให้ระวังเพราะตอนนี้เริ่มมีบางบริษัทเริ่มเทขายหุ้น หุ้นของบางธุรกิจ เช่น หุ้นเทเลคอมมูนิเคชั่น เราก็รูว่ายี่ห้อไหนสนับสนุนพรรคตไหน จริงๆก็ทุกพรรคแหล่ะ
     
       **อาจารย์คาดหวังว่าการให้ความรู้แก่ประชาชนในลักษณะนี้จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน
     
       คือผมหวังว่าถ้าประชาชนรู้ว่า ส.ส.คนไหนไม่ดี จะได้ไม่เลือกเข้ามาอีก และสามารถเลือก ส.ส.ที่ดีเข้าสภาได้ อยากให้ชาวบ้านดูว่าจังหวัดเขามีปัญหาอะไรบ้าง และปัญหาของเขามีนักการเมืองคนไหนหยิบมาแก้ไขบ้างไหม ถ้าไม่เคยทำเลย ก็อย่ามาพูดว่าเป็นตัวแทนของประชาชน ขณะที่พรรคการเมืองเองก็ต้องเปลี่ยนวิธีการคัดเลือกผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ประเภทยี้เนี่ยพรรคต้องรับผิดชอบ คนที่ชาวบ้านยี้เนี่ยพรรคต้องไม่เอา
     
       **แล้วถ้าในพื้นที่ของเราไม่มีผู้สมัครที่ดีเลยล่ะ
     
       ก็ไม่ต้องเลือกเลย โนโหวต อย่างที่บางกลุ่มกำลังรณรงค์อยู่ตอนนี้เรื่องโหวตโนเนี่ย ผมเห็นด้วยนะ ถ้าไม่มีคนดีก็ไม่ต้องเลือก พรรคการเมืองอย่าดูถูกประชาชนด้วยการเอาพวกที่ประวัติไม่ดีมาเป็น ส.ส. ก็มีคนถามผมเหมือนกันว่าอาจารย์ถ้าผู้สมัครที่แต่ละพรรคส่งลงมันยี้หมดเลยจะ ทำยังไงดี ผมก็บอกว่าก็แล้วแต่คุณ... คุณจะไม่เลือกใครสักคนก็เป็นการดี แต่ปัญหาอย่างหนึ่งของบ้านเราคือกฎหมายเลือกตั้งที่ยังไม่เอื้อให้เราจัดการ คนพวกนี้ ในบางประเทศเนี่ยถ้าโนโหวตเกิน 50% เขาจะให้เลือกตั้งใหม่ และคนที่ลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งนั้นเขาจะไม่ให้ลงสมัครใหม่เพราะการที่ มีโนโหวตเกิน 50% แสดงว่าประชาชนเขาไม่เอาคุณ เพราะฉะนั้นคุณอย่าลงสมัครเลย และจริงๆแล้วถึงกฎหมายจะไม่ได้ห้ามลงสมัครใหม่แต่ถึงลงสมัครไปชาวบ้านเขาก็ ไม่เลือก
     
       ขณะที่คนดีๆที่คิดจะทำงานการเมืองก็กล้าที่จะเสนอตัวเพราะรู้ว่าชาว บ้านต้องการคนดี ซึ่งในประเทศเหล่านี้เขาเปิดโอกาสให้สมัคร ส.ส.ได้โดยไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง ซึ่งจะเป็นช่องทางให้คนดีแต่ไม่มีทุนและไม่มีพรรคไหนส่งลงสมัครเพราะไม่ใช่ พวกเขา บางคนก็เป็นคนที่ชาวบ้านส่งลงสมัครเอง พวกนี้ก็จะมีโอกาสเป็น ส.ส. พรรคกรีนในประเทศต่างๆก็เกิดจากวิธีการแบบนี้ คือมาจากคนที่มีอุดมการณ์แต่พรรคการเมืองไม่เอา ขณะที่ชาวบ้านชอบ พรรคกรีนในหลายๆประเทศเนี่ยได้ ส.ส.เขตไม่เยอะ แต่ได้ ส.ส.สัดส่วนเยอะเพราะประชาชนลงคะแนนให้พรรคกรีนกันเยอะ
     
       **บางคนมองว่าเสียงโหวตโนมันเปล่าประโยชน์ กาโนโหวตไปก็ไม่ได้อะไร
     
       ถ้ามองแค่ว่าการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นระบบตัวแทนก็อาจจะไม่ได้ประโยชน์เพราะเขาจะไม่ได้ ส.ส. แต่ได้ประโยชน์ในแง่ของการแสดงสัญลักษณ์ว่าประชาชนเขายี้นักการเมืองกลุ่ม นี้ นักการเมืองกลุ่มนี้คนเขายี้ตั้ง 50% แน่ะ ถ้าเขาได้เป็น ส.ส.จะเป็นยังไง ? ชาวบ้านก็บอกว่า...ไอ้เนี่ยเหรอ มันเป็น ส.ส.ด้วยคะแนนเสียง 5% เอง ผมคิดว่าน่าอายฉิบเป๋งเลย พรรคการเมืองพรรคนี้ส่ง ส.ส.ที่ชนะมาด้วยคะแนน 5% เอง
     
       ซึ่งตรงนี้ทางเครือข่ายข้อมูลทางการเมืองไทยตั้งใจไว้แล้วว่าการ เลือกตั้งครั้งนี้เขตไหนที่มีโนโหวตเยอะเราจะโชว์ให้ดูในเว็บไซต์ แล้วบอกด้วยว่า ส.ส.คนไหนบ้างที่มาจากเขตที่มีโนโหวตเยอะ การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว จังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นจังหวัดที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ลงสมัครเนี่ย โนโหวตสูงมาก
     
       **แสดงว่าคนสุราษฎร์ฯมองว่าผู้สมัครที่ลงเลือกตั้งเนี่ยไม่มีใครดีเลย
     
       ประมาณนั้น (หัวเราะ) ยกเว้นคุณสุเทพที่ได้คะแนนเยอะ แล้วสุราษฎร์ฯคือประชาธิปัตย์ คราวนี้เราออกแคมเปญในพื้นที่ภาคใต้ว่า...อย่าเลือกเพราะว่าเคยชินกับพรรคใด พรรคหนึ่ง อย่าเลือกเพราะว่าศรัทธาในตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ให้เลือกโดยดูจากคุณภาพของผู้สมัคร ส.ส.จริงๆ ตอนนี้พรรคการเมืองก็เชื่อไม่ได้ ต้องพิจารณาที่ตัวคนเป็นหลัก
     
       **หัวหน้าพรรคดีคนเดียวก็ไม่ได้หมายความว่าลูกพรรคจะดีด้วย
     
       ใช่ เรารู้ว่าบางคนก็ดีนะ อย่างนายกฯอภิสิทธิ์เนี่ยเป็นคนที่เราเชื่อว่าแกดี เราก็เห็นอยู่แล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์มีนายกฯอภิสิทธิ์ดีอยู่คนหนึ่ง คนอื่นจะดีไม่ดีไม่รู้ พูดตรงๆว่าจากข้อมูลที่เรามีอยู่เนี่ย..ประเภทถึงคอ ว่างั้นเถอะนะ (หัวเราะ) คนอยู่ข้างนายกฯก็ไม่ไหว รับไม่ได้ ผมเองก็คนใต้นะ ผมเชียร์พรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่สายเลือดเลย แต่ถ้ารักกันจริงก็ต้องบอกว่าพรรคก็ต้องคัดคนที่ดีมาลงสมัครด้วย แต่ที่คัดมามันห่วยแตกน่ะ..พูดง่ายๆ คือไม่ใช่ว่าทำชั่วยังไง คุณภาพแย่ยังไงเราก็เลือก
     
       **อย่าดูถูกประชาชนให้มากนัก
     
       ใช่ ดูถูกเรามาก แหม..เอาอะไรมาลงให้ประชาชนเลือกเนี่ย ! เราต้องให้ชาวบ้านสั่งสอนนักการเมืองเสียบ้างว่าคุณอย่ามักง่าย พรรคไหนก็แล้วแต่ ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย มันก็มีแบบนี้ ต้องให้ชาวบ้านสั่งสอนว่าอย่าส่งคนพวกนี้มา
     
       **ตอนนี้ก็มีบางพรรคที่พยายามบอกว่าถ้าไม่เลือกพรรคเราซึ่งถึงจะเลวก็เลวน้อยกว่า เดี๋ยวพรรคที่เลวมากกว่าจะเข้ามาบริหารบ้านเมืองนะ
     
       แต่ผมคิดว่าเราอย่ามองแค่พรรค มองที่ตัวคนดีกว่า เราไม่ได้รณรงค์เรื่องพรรคนะ ข้อมูลของเว็บไซต์เราเน้นที่ตัวบุคคลเพราะถ้า ส.ส.ดีเนี่ย อย่างน้อยเมื่อเข้าไปทำงานในสภาเขาก็น่าจะมีความรับผิดชอบ สถาบันทางการเมืองก็น่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลง
     
       **มีบางประเทศที่เกิดการเปลี่ยนทางการเมืองโดยภาคประชาชน
     
       ครับ อย่างที่ประเทศเกาหลีองค์กรภาคประชาชนเขาจัดให้ชาวบ้านหย่อนบัตรลงคะแนนว่า นักการเมืองคนไหนยี้ที่สุดในพื้นที่ของเขา ส.ส.ยอดยี้ในเขตนี้มีใครบ้าง ลงคะแนนกันทุกจังหวัดเลย สื่อก็ช่วยเผยแพร่ข่าวออกไป บางจังหวัดก็จัดกิจกรรมหย่อนบัตร เอา ส.ส.ยอดยี้ขึ้นป้าย มีการนับคะแนนยี้ 1 คะแนน ยี้ 2 คะแนน พอได้ ส.ส.ที่ยี้สุดๆ เช่น คนเกิน 30% บอกว่ายี้นะ เขาจะขึ้นแบล็คลิสต์ แล้วส่งชื่อ ส.ส.เหล่านี้ไปให้พรรคการเมือง บอกเลยว่า ส.ส.ยี้ที่มีอยู่ประมาณ 60 คนเนี่ย คุณอย่าส่งลงสมัครนะ ถ้าส่งมาเราจะรณรงค์ไม่ให้เลือกคนพวกนี้ แล้วก็ไม่เลือกพรรคคุณด้วย คือการเลือกตั้งของเกาหลีก็มีทั้งเลือกพรรคและเลือกคน
     
       ตอนแรกพรรคการเมืองของเกาหลีก็ไม่กลัวเพราะคิดว่าภาคประชาชนไม่เอา จริง เขาก็ส่งพวกยี้ลงสมัคร โดยส่งประมาณ 10 กว่าคน ชาวบ้านพอรู้สึกว่านักการเมืองดูถูกเขาก็เอาจริงเลย เดินถือป้ายรณรงค์กันทุกจังหวัด หัวหน้าโครงการนี้ก็ถูกฟ้อง เพราะ ส.ส.เกาหลีบอกว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งทำให้เสียชื่อเสียง ก็เหมือนบ้านเราน่ะแหล่ะ ฟ้องกันทุกพื้นที่เลย พื้นที่ไหนรับเจ้งความแกก็ไปรายงานตัว แต่ขอประกันตัวออกมาก่อนนะ แล้วก็ไปรณรงค์ในพื้นที่อื่นต่อ จนกระทั่งว่า ส.ส.ยี้ผ่านเข้าไปในสภาได้แค่ 2-3 คน องค์กรภาคประชาชนก็เดินหน้าต่อ ปะกาศว่าถ้าพรรคการเมืองส่ง 2-3 คนนี้เข้าไปทำงานไม่ว่าจะรับตำแหน่งไหนก็จะตามดูทุกวินาทีเลยว่าแต่ละคนไปทำ อะไรบ้างและจะรายงานต่อประชาชน ปรากฎว่าพรรคไม่แต่งตั้งให้เป็นอะไรเลย เป็นแค่ ส.ส.ธรรมดา และสักพักก็ค่อยๆเปลี่ยนพฤติกรรม ส่วน ส.ส.ที่ได้คะแนนยี้แต่ไม่มาก แค่ 15% พวกนี้เป็นนักการเมืองเลวเหมือนกัน แต่หลังจากเจอแบบนี้เขาก็เปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนดีขึ้น
     
       วิธีการนี้คนเกาหลีเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2541 ถึงตอนนี้การเมืองเกาหลีเข้าที่เข้าทาง เขารณรงค์ทีเดียวนะแต่ประชาชนเขาตื่นตัวมาก พอการเลือกตั้งครั้งต่อมาในปี 2546 หรือ 2547 นี่แหล่ะ เขาแทบไม่ต้องรณรงค์อะไรเลย ชาวบ้านรู้กันเองว่าใครดีไม่ดี ขณะที่ ส.ส.ก็ทำตัวดีขึ้น ไม่รู้จะเอาอะไรมาตำหนิ ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่มีทั้งการคอร์รัปชั่น บริษัทใหญ่ๆอย่างแดวูก็เป็นธุรกิจที่อาศัยอำนาจทางการเมืองผูกขาดทั้งนั้น หนีภาษี ใช้อภิสิทธิ์ในการรับสิทธิพิเศษในการลงทุน เหมือนบ้านเราทุกอย่าง แย่กว่าเราอีกเพราะคนเกาหลีก็ต้องพึ่งพาบริษัทเพวกนี้เป็นนายจ้าง การที่จะให้คนแสดงท่าทีต่อต้านพฤติกรรมของกลุ่มทุนเหล่านี้ก็เป็นเรื่องยาก มาก แต่สุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ ขณะที่การเข้ามากุมอำนาจทางการเมืองของกลุ่มทุนในบ้านเรายังเป็นแบบหลวมๆ
     
       ดังนั้นบ้านเราเนี่ยถ้าเราให้ข้อมูลอย่างเข้มข้นกับประชาชนและให้เขา มีส่วนร่วมจริงๆ เขาอาจจะตื่นตัวมากกว่าที่เราคิด แล้วนักการเมืองเนี่ยท้ายที่สุดเขาก็กลัวประชาชนนะ
     
       **ถ้าภาคประชาชนตื่นตัว การเมืองไทยก็น่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลง
     
       ก็เป็นสิ่งที่เราหวังอยู่ แต่เราก็คงต้องเผชิญกับคลื่นอีกหลายลูก อย่างครั้งนี้ผมคิดว่าเครือข่ายของเรากับพรรคการเมืองก็รณรงค์กันไปคนละทาง พรรคการเมืองอาจจะรณรงค์แบบสร้างกระแสกดดันว่าต้องเลือกพรคผมนะ พรรคนั้นมันไม่ดีนะ แต่เราบอกว่าต้องเลือกคนที่มันไม่ยี้นะ ถ้าพรรคไหนที่ส่งผู้สมัครแบบยี้มาคุณอย่าเลือกนะ พรรคไหนจะได้ ส.ส.กี่คนเราไม่สนใจหรอกเพราะถ้าพรรคไม่รับผิดชอบตั้งแต่เริ่มส่งคนเข้ามาก็ แสดงว่าเป็นพรรคที่ไม่ดี บอกว่าพรรคดีแต่ส่งเจ้าพ่อมาลง ส.ส. อย่างงี้เป็นพรรคที่ดีเหรอ.... พรรคดีแต่ส่งนักการพนัน เจ้าของบ่อน พ่อค้ายยาเสพติด ค้าของเถื่อน มาลงสมัคร พรรคอย่างงี้ดีเหรอ...
     
       ใครมาก็ไม่สำคัญสำหรับพวกเรา คนอย่างคุณทักษิณจะกลับมาหรือไม่กลับมาผมไม่สนใจนะ เป็นเรื่องของสาธารณะที่ต้องช่วยกันดู แต่ผมมองว่าถ้านักการเมืองยังไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรม ยังเล่นเกมกันแบบนี้ ต้องใช้อำนาจที่สามคืออำนาจของประชาชนมาช่วยกันคัดง้าง
     
       **หลังจากการเลือกครั้งนี้ เว็บไซต์เครือข่ายข้อมูลการเมืองไทยจะขับเคลื่อนอย่างไรต่อไป
     
       เราจะติดตามพฤติกรรม ส.ส.ที่ได้รับเลือกตั้งตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าสภาเลย แล้วก็จะมีการจัดเรตติ้ง ส.ส.ยอดเยี่ยม กับ ส.ส. ยอดแย่ คือชาวบ้านต้องมีความเป็นเจ้าของ ส.ส. ไม่ใช่เลือกมาแล้วเขาจะไปทำอะไรก็ช่าง และเมื่อ ส.ส.รู้ว่ามีคนติดตามพฤติกรรมของเขา เขาก็ต้องระมัดระวัง และถึงแม้ว่าเลือกตั้งคราวนี้เราจะเอา ส.ส.ไม่ดีออกไปไม่ได้ทั้งหมด แต่เชื่อว่าก็ต้องหลุดออกไปได้บ้าง จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประชาชน และเราจะสร้างกระแสว่าเลือกตั้งคราวนี้จะสร้างความแตกต่างทางการเมืองได้ไหม เปลี่ยนการเมืองไทยได้ไหม
     
       **อยากให้อาจารย์วิเคราะห์การเลือกตั้งในครั้งนี้
     
       ผมว่าคงแข่งกันดุ ประการแรกคือ การเลือกตั้งครั้งนี้เดิมพันสูงมาก ฝั่งคุณทักษิณก็พยายามที่จะชนะการเลือกตั้ง ให้เป็นเสียงข้างมากให้ได้ เพราะเป็นเรื่องของการกลับมาหรือไม่ได้กลับมา ซึ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคการเมืองที่เหลือต้องลงเดิมพันสูงตามไป ด้วย ประการที่ 2 เนื่องจากการเลือกตั้งคราวนี้เป็นแบบเขตเดียวเบอร์เดียว ซอยเป็นเขตเล็ก ตามสถิติเนี่ยใครที่มีคะแนนจัดตั้งเกิน 35% ชนะเลย เขาก็ใช้ระบบหัวคะแนน และมีการซื้อเสียงอย่ามโหฬาร ทางฝ่าย กกต.ในแต่ละพื้นที่ ก็มีปัญหานะ เพราะพรรคการเมืองก็ส่งคนของตัวเองมาเป็น กกต. ดังนั้นเครือข่ายเรานอกจากจะจับตาผู้สมัครแต่ละพรรคแล้ว ก็ต้องจับตา กกต.ด้วย
     
       **ตอนนี้ผลสำรวจของโพลหลายสำนักก็ออกมาตรงกันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยน่าจะมีคะแนนนำพรรคอื่นๆ
     
       ก็ยังแน่ใจอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าแต่ละโพลมีที่มาที่ไปอย่างไร ชาวบ้านก็อาจถูกทำให้เชื่อว่าเพื่อไทยจะมา คือมันเป็นโพลแบบชี้นำ ทำโพลแล้วก็รีบออกมาพูด เราก็ไม่รู้ว่าเขาสำรวจในเขตไหนบ้าง อย่างในพื้นที่ภาคอีสานเนี่ย จากการวิจัยของเครือข่ายเราก็เห็นว่าพื้นที่อีสานเหนือเป็นฐานของเพื่อไทย ภูมิใจไทยจะชนะเพื่อไทยได้สักเท่าไรก็ยังอยู่ในเขตอีสาน คือเขตชนบทนี่ชัดเจนว่าเพื่อไทยกับภูมิใจไทยแข่งกัน แต่ถ้าเป็นเขตเมืองก็ไม่แน่ ประชาธิปัตย์ก็เคยครองพื้นทิ่อยู่ ถ้าเชตเลือกตั้งเล็กลง และกินเขตเมืองเข้าไปเกิน 35% ประชาธิปัตย์ก็อาจจะแทรกเข้ามได้บ้าง
     
       **คิดว่าหลังเลือกตั้งการเมืองไทยจะเปลี่ยนไปจากเดิมไหม
     
       ผมว่าจะลงเอยคล้ายกับปี 2550 คือผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยอาจมีคะแนนนำทุกพรรค แต่จะตั้งรัฐบาลได้ก็ต้องไปจีบพรรคการเมืองอื่นๆมาร่วมรัฐบาล ก็อยู่ที่ว่าเขาจะตอบรับหรือเปล่า เขาอาจจะกลัวบางเรื่อง ก็ต้องมาคุยกัน เรื่องคุณทักษิณจะว่าอย่างไร ถ้ารับได้พรรคเพื่อไทยก็อ่าจจะได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้ารับไม่ได้เพื่อไทยก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพื่อไทยก็ออกมาโวยวายว่าตั้งไม่ได้เพราะมีอำนาจแฝงเข้ามาบงการ มีทหารหนุน เพื่อให้เกิดกระแสขึ้นมา แต่พรรคอื่นก็อาจจะรับถ้าเพื่อไทยให้ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงดีๆ ก็เป็นไปได้เพราะนักการเมืองไม่ได้เห็นแก่ประเทศชาติอยู่แล้ว ขณะเดียวกันถ้าเพื่อไทยตั้งรัฐบาลไม่ได้ ประชาธิปัตย์ซึ่งอาจจะมีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 ก็จะจับมือกับพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าพรรคอื่นก็ต้องต่อรองสูง ยิ่งต่อรองมากก็จะได้รัฐบาลที่ไม่ได้ความ เหมือนกับการจัดตั้งรัฐบาลครั้งเนี้ย พรรคที่มาร่วมก็เอากระทรวงหลักๆอย่าง มหาดไทย พาณิชย์ อุตสาหกรรม คมนาคม ไปหมด ประชาธิปัตย์ก็ไปดูแลเรื่องขี้หมา เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็จะทำงานไม่ได้ ก็ต้องรอดู
     
       ถ้าการเมืองยังเป็นแบบเดิม ไม่ว่าขั้วไหนมาก็ไม่มีเสถียรภาพ ผมเป็นกลางนะ ยิ่งทำวิจัยได้เห็นข้อมูลนักการเมืองแบบที่ผมว่าแล้วยิ่งเป็นกลางใหญ่ คือมันแย่เหมือนกันหมด ถ้าถามว่า ส.ส.คนไหนไม่จริงใจต่อประชาชน ก็ ส.ส.ทุกพรรคน่ะแหล่ะ พูดอย่างทำอย่างทั้งนั้น แหกตาชาวบ้านทั้งนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยรายชื่อ มือปืน

มือปืน
1 กิจ หรือ แอ๊ว เหมือนวงศ์ธรรม2 โกศล แสงศรี3 จง ดวงมาลา4 จารึก เพชรสุวรรณ
5 ชาญชัย บริสุทธิ์6 เชิง นุ่มเนตร7 ณรงค์ หรือรงค์ เรืองสม8 ณรงค์ (ภาพ นาป่า) ธงชัย
9 แดง เล็กเคลือบ10 ถนอม จอมขวัญ11 ถนิต หรือไสว ล่องชุม12 นันทพงศ์ หรือเอ เสริมทรัพย์
13 นายดุษฏี ปองทรัพย์ (แดง)14 นุกูล แซ่เฮง15 บุญเตียง หรือเจ็ค พันธุ์ข้าว16 บุญธรรม บัวศรี
17 บุณย์ตรี มุสะกะ18 ประดิษฐ มุสิกะสง19 ประไพ หรือยิ้ม หงษ์ทอง20 ประเสริฐ บุญธิการ
21 ปัญญา ศรีเหรา22 ปิยะวัฒน์หรือโอ๋หรือโอ๋บ้า บุญเสริม23 พยุงศักดิ์หรือเป็ด บุตรแก้ว24 พรทิพย์ หรือทิพย์ อ่วมอุ่น
25 พุฒิพงศ์ หรือตี๋ หรือ กวนอู ไวติดต่อ26 ภักดี หรือฉิม เลิศบุรุษ27 รินทร์ ฉันทจิตร28 วสุ หรือตึ๋ง วจีกนก
29 วิริโย หรือโย จวนอ่อน30 ศักดิ์ชัย ชื่อแฝง ชัย แดงสกุล31 สมชาย บุนนาค32 สมบัติ หรือแด๊ก เพิ่มปัญญา
33 สมพิศหรือป๊อกวัง แสงหิรัญ34 สำเริง เฉื่อยฉ่ำ35 สินชัย หรือเขียว คงหอม36 สุชัยรงค์ หรือรงค์ รณศิริ
37 สุนทร เปรื่องวิชา38 สุรศักดิ์ ชูเขียว39 สุวิทย์ รักทิม40 สุวิทย์ หรือทวี หรือเหมียะ ชัยสิทธิ์
41 แสวงหรือเจี้ยบ บุญเลิศ42 อดุลย์ หรือศักดิ์ แดงประดับ43 อนุพงศ์ ช่วยเพชร44 อุดมศักดิ์ ผักคิ่น
บุคคลเป้าหมาย
1 กอหลาด ยาแลหลา2 การูซามัน เจ๊ะดอเล๊าะ3 กิตติหรือโม ไม่ทราบนามสกุล4 โกสินทร์ หรือแท่น สีดา
5 ไกรลาศ เพ็ชรนาดี6 ขวัญชัย ลอยเมฆ7 เขียว นะนวล8 จรูญ ด้วงมาก
9 จเร เทพบรรจง10 จักรกฤช คงประโยชน์11 จักรพงษ์ คงนคร12 จักรพันธ์ หรือตู่ ตั้งมณี
13 จักรี หรือหมี อรพิน14 จำนงค์ หรือ ไก่ รองเลื่อน15 จิตร กรอรมุต16 จิตรกร หรือเต้ ชูสังข์
17 จิระ พลเสนา18 จิระศักดิ์ หรือปุ้ย แพบรรยง19 จิรายุทธ เกื้อแก้ว20 จีระศักดิ์หรือแคง บุญพรหม
21 เจต เจษฎางกูล22 ชยา อาบู23 ชาญชัย บริสุทธิ์24 ชาตรี หรือไก่บ้า แซ่ตั้ง
25 ชูชัย หรือแสบ โสภาวัฒน์26 เชวง หรือต้า บัวทอง27 ซราฮัน ฮามะ28 ซอฟวัน สะหมะ
29 ซาการียา โตะตาหยง30 ซูรี มะอารง31 ไซมิง ยูโซะ32 ณรงค์ หนูบุญมี
33 ณรงค์ หรือโอ ทรัพย์กองกุล34 ณรงค์ศักดิ์หรือฮาริฟ บุญมาเลิศ35 ณรงค์หรือภาพ ธงชัย36 ณัฐพล ภูมิสาร
37 ณัฐวุฒิ หรือเฮง คุรุประดิษฐ์38 ดวงดี ชื่อ ชื่อแฝง นามสกุล พุทธิมา39 ธนพล หรือจักรพันธ์ พรศิริวงศ์40 ธนากรหรือต้น เพ็งระวะ
41 ธีรเดชหรือดุล ปะดูกา42 ธีระพงษ์ หรือบอย ประสงค์43 ธีระวุฒิ เภาเส็น44 นพพร คงเค็ด
45 นัซรุดดิน แวบือราเฮง46 นายซอบรี บือแน47 นายมงคล (เขียว) จันทร์รักษ์48 นายมะกอเซ็ง เจ๊ะมะ
49 นายมะแอ อภิบาลแบ50 นายยูไนดี อามิ51 นายอับดุลฮาเล็ม เจ๊ะตู52 นายฮูไบดีละห์ รอมือลี
53 นิวัฒน์ หรืออี๊ด มุขติ้ง54 นิวัติ ทองไทย55 นิอาเร๊ะ อารี56 นูรฮีซัม วานิ
57 นูรุดดิน กาจะลากี58 บอย ไม่ทราบนามสกุล59 บุญนา ดาธูป60 บุญรัตน์ หรือ ดนเหล๊าะ อินหมัน
61 บุญเลิศ หรือ เสือแดง เพ็งเกลี้ยง62 ปณวัตร หมานหีม63 ปรมี หรือปอ เทพมณี64 ประคอง หรือปาน ทองหยอด
65 ประพันธ์ มาศศรี66 ประสพ ดำหนูอินทร์67 ประสาน เอี่ยมขำ68 ประเสริฐ บุญธิการ
69 ปิยศักดิ์ เมืองที่รัก70 พล พันธ์ช่วง71 พิชิตชัย หรือหมู สุขจินดาทอง72 พิเชฐ ทองขวัญ
73 พีระพงศ์ สูยะนันทน์74 ภานุพงษ์ หรือบี้ จิ๋วทองคำ75 ภูริพัฒน์ กุลพาณิชย์76 มนตรี หรืออุ๊ด แสนคำ
77 มะซอเร มูดอ78 มะดารี วาหลง79 มะดารี อารง80 มะปอรี่ มะสีละ
81 มะรอโซ จันทรวดี82 มะรีเป็ง มะหะ83 มะรูดิง สามะ84 มัซลาน มะลี
85 มาหามะ แมเร๊าะ86 มูหามะพาเร็ดหรือ โสะ ดาโอะ87 มูฮามะซำสือลี ปูเต๊ะ88 มูฮำมัด ซีตีเลาะ
89 เมธา หรือโต้งลูกหยี พริ้งสกุล90 ยาการียา บาโง91 ยุทธศักดิ์ พรหมวิจิตร92 รอกิ ดอเลาะ
93 รอแปะอิง อุเซ็ง94 รอยะ กลามอ95 เรวัต ฤากิจ96 ลั่น แสงแก้ว
97 ลิขิตหรือแม็ค หนูบุญ98 ลุกมาน ปูลาประเปะ99 ลุกมาน ปูลาประเปะ100 ลุกมารณ์ อุเซ็ง
101 ลุกมารณ์ อุเซ็ง102 วรพล พันธุ์แดง103 วรพล สุระกำแหง104 วรวุฒิ มุ่งสันติ
105 วรวุฒิ ลายสกุล106 วรากร งามเชิด อายุ 31 ปี107 วัชระ อับดุลลากาซิม108 วัชราณัฎฐ์ หรือเบส แป้นชุม
109 วันชัย หรือบาส โพธิ์ศรี110 วิชัย บัวแก้ว111 วิรัตชัย รังรองษีกุล112 วิรัตน์ ดำมี
113 วิโรจน์ ดำดี114 วิวัฒน์ หรือซี เทพสุภา115 วุฒิชัย เพ็งเกลี้ยง116 วุฒิชัย หรือเอ็ม ขวัญแก้ว
117 แวซู กูตงราเซะ118 ศักดา วังศวิพุธ119 ศิริวัชน์ หรือเก๋ จำนงเล็ก120 ศุภพลหรือแดง กิ่งคำ
121 สกล พันธุ์หงษ์122 สการียา หะยีสาเมาะ123 สมคิด หรือตุ๊ ประสมทรัพย์124 สมจิตร ปรึกษา
125 สมชาย สุวรรณมูสิโก126 สมชาย คงชู127 สมชาย เทพชุม128 สมนึก หนูฤทธิ์
129 สมบัติ ขันธิคุณ130 สมบัติหรือแด๊ก เพิ่มปัญญา131 สมบัติหรือตี๋๋หรือโอ๋ ดวงดารา132 สมพงษ์หรือนาจ พุกมาลี
133 สมพร เบ็ญสะอาด134 สมพล บุญคง135 สมภพ เนียมตั้ง136 สมมาตร หนูวงศ์
137 สมฤทธิ์ หรือติ่ง สุราตะโก138 สมศักดิ์ หรือ แต๊ก สนิท139 สมาน วรรณจิตร140 สราวุธ หรือ เพชร อยู่คำ
141 สว่าง หรือหว่าง สุกะรา142 สหัสชัย ภักศิลป์143 สะอูดี สตาปอ144 สันติ เมตตา
145 สัมพันธ์ หรือ แอ๊ด นิรันรัตน์146 สาหูดิน โต๊ะเจ๊ะมะ147 สิทธิพร หรือโอ รอดเพชร148 สุกรียา เดมะ
149 สุชาติ สุขขี150 สุทธินันท์ เอี่ยมละออ151 สุเทพ ม่วงอ่อน152 สุธี หรือเหลี้ยม มีรุ่งเรือง
153 สุเพียน หะยียูโซะ154 สุฟยัน เจะและ155 สุฟยัน เจะและ156 สุเมธ จันทเขต
157 สุรชัย ผ่องฉวี158 สุรศักดิ์หรือฮาก สังยาหยา159 สุรินทร์หรือน้อง ยิ้มเส้ง160 สุวิชาหรือสุวิชชา พินสอน
161 สุวิทย์ ชูฟอง162 สุไฮดี ตาเห163 หมาด องศารา164 เหนียม อรทัด
165 อณัติ หรือเลี๊ยบ ผลโพธิ์166 อดินัน มะสาอิ167 อดุลย์หรือดุล เดชอรัญ168 อนุชิตหรือมามะหน้าลิง ปะลาวัน
169 อภินันท์ ฤทธิ์รัตน์170 อภิรศักดิ์ แสงพินิจ171 อลงกต หรือตั้ม ปกครอง172 ออฟ ไม่ทราบนามสกุล
173 อับดุลรอฮิง ดาอีซอ174 อับดุลเราะห์มาน เจ๊ะเต๊ะ175 อับดุลเล๊าะ ปูลา176 อับดุลเลาะห์ โต๊ะมะ
177 อับดุลเล๊าะฮ์ มะมิง178 อับดุลฮากิม ปูตะ179 อาฟันดี กาพา180 อายุ ดอเลาะ
181 อาลียาสะ สาเมาะ182 อาสมาล เจะบา183 อาหามะ จาจ้า184 อาหามะ จาจ้า
185 อิบรอเฮง หะยีมามะ186 อุดมสิน สายแขก187 อูเซ็น โสะ188 เอก หรือใหม่ กลิ่นแก้ว
189 เอกพันธ์ หรือดอน แซ่อุ่ย190 ฮาซัน กาโม๊ะ191 ฮามดี สะอะ192 ฮามะสอลาหูดิง ฮัจยีดาโอะ
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง