บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ความจริงวันนี้ ถ้าข้าราชการทำงานแบบนี้...แล้วประชาชนจะยอมจ่ายภาษีจ้าง 15,000 บาท หรือ


Posted by PeerapatS. ,

ความจริงวันนี้ ถ้าข้าราชการทำงานแบบนี้...แล้วประชาชนจะยอมจ่ายภาษีจ้าง 15,000 บาท หรือ
         กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ (Talk of the town) กรณีที่พรรคเพื่อไทยกำลังผลักดันการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท และให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีได้เงินเดือน 15,000บาท ขึ้นไป ซึ่งรวมถึงข้าราชการและรัฐวิสาหกิจด้วย ตามที่ได้ให้สัญญาไว้นั้น กำลังเป็นที่ถกเถียงกันว่าทำได้หรือไม่ได้
เลขาธิการ พรรคเพื่อไทย สารภาพว่า เงินเดือนข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจ ต.ค. นี้ ส่วนค่าจ้างขั้นต่ำจะเริ่มได้เมื่อได้ทำความเข้าใจกับภาคเอกชน
(เอ๊ะ! ตอนหาเสียงไม่เห็นบอกว่าต้องมีเวลาทำ
.
ความเข้าใจเลยนี่...แล้วถ้าเอกชนไม่เข้าใจจะทำไง
.
ดีครับ)
          วันที่ 6 ก.ค. 2554 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะทีมเศรษฐกิจของพรรคและอดีตปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวชี้แจงนโยบายการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท ของพรรคหลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากภาคเอกชน และนักวิชาการว่า เป็นนโยบายที่มุ่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อทำให้คนจนและระดับล่างของสังคมหรือรากหญ้าสามารถลืมตาอ้าปากได้ ยืนยันจะให้เท่ากันทุกจังหวัด ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของลูกจ้างที่เรียกร้องค่าจ้างขั้นต่ำควรจะอยู่ที่ 441 บาท
         ขณะ ที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ก็ระบุว่าค่าจ้างต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานที่สามารถเลี้ยงดูของแรงงานได้โดยรวม คู่สมรสและบุตร ดังนั้น แนวคิดพรรคจากนี้เมืองไทยจะไม่มีค่าแรงถูกอีกต่อไป โดยจะยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานและยุทธศาสตร์การผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูง ให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศในปี 2020
         นายจารุพงศ์ กล่าว ว่า ยืนยันจะไม่รื้อระบบไตรภาคีค่าจ้างถือว่าเป็นระบบที่ดีอยู่แล้ว เพราะทุกฝ่ายมีส่วนร่วม แต่จะแก้กระบวนการสรรหาที่มาของตัวแทนไตรภาคีที่ยังมีปัญหาตัวแทนฝ่าย ลูกจ้างไม่สามารถส่งตัวแทนที่แท้จริงเข้ามาเป็นคณะกรรมการได้ เพราะติดขัดเรื่องสหภาพแรงงานที่มีจำนวนน้อยมาก เมื่อเทียบกับสัดส่วนแรงงานทั้งประเทศ โดยจะเริ่มจากการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการและรัฐวิสาหกิจให้มีเงินเดือนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท คาดจะเริ่มในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนค่าจ้างขั้นต่ำจะเริ่มได้เมื่อได้ทำความเข้าใจกับภาคเอกชน รวม ถึงหานโยบายสนับสนุนให้เอกชนมีกำลังในการขึ้นค่าจ้าง เช่น การลดภาษีนิติบุคคล ภาษีเครื่องจักร หาตลาดสินค้าส่งออกให้ คาดจะเริ่มได้ในเดือนมกราคม 2555
          ส่วนกรณีหลายฝ่ายกังวลปัญหาค่าจ้าง จะส่งผลให้มีการย้ายฐานผลิตนั้น นายจารุพงศ์ กล่าว ยืนยันว่าอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น หากจำเป็นต้องย้ายฐานการผลิต ภาครัฐจะสนับสนุนให้เอกชนไปตั้งโรงงานในประเทศที่ค่าแรงถูกหรือตามแนวชายแดน แทน
ก.พ. เด้งรับ ระบุปรับเงินเดือน 15,000 บาท ต้องรื้อโครงสร้างบัญชีครั้งใหญ่ พร้อมทั้งแก้กฎหมายข้าราชการพลเรือน
          นายนนทิกร  กา ญจนะจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย มีนโยบายปรับเพิ่มเงินเดือนให้ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีรุ่นใหม่ ที่จะเข้าทำงานในหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจเป็น 15,000 บาทต่อเดือนในเดือนตุลาคมนี้ว่า นโยบายดังกล่าวทำได้ไม่ยากเนื่องจากปัจจุบันโครงสร้างเงินเดือนของระบบข้าราชการแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ บริหาร อำนวยการ วิชาการ และทั่วไป
         ซึ่งอัตราเงินเดือนแต่ละประเภทก็แบ่งเป็นขั้นต่ำถึงขั้นสูงสุด ปัจจุบันเงินเดือนบรรจุข้าราชการใหม่อยู่ที่ 9,100 บาทต่อเดือน และ พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551   กำหนดให้ปรับขึ้นเงินเดือนในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ไม่เกินร้อยละ 10 ถ้าเกินกว่านั้น จะต้องเสนอรัฐบาลแก้ไขกฎหมาย 
         ขณะที่นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะมีการปรับเงินเดือนข้าราชการสูงถึงร้อยละ 50 จะต้องปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนข้าราชการใหม่ทั้งหมด  รวมทั้งแก้ไข พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 หรือออกเป็นพระราชกฤษฎีกามารองรับในเรื่องนี้  อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีข้าราชการพลเรือนสังกัด ก.พ.อยู่ทั้งสิ้น 4 แสนคน และข้าราชการพลเรือนสังกัดหน่วยงานอื่นๆ อีก 1.6 ล้านคน  รวมทั้งสิ้น 2 ล้าน คน ซึ่งการปรับเงินเดือนข้าราชการคงต้องทำให้ครอบคลุมทั้งหมด ไม่ใช่แค่เฉพาะข้าราชการบรรจุใหม่ แต่ข้าราชการที่มีอยู่เดิมก็ต้องได้รับการปรับเงินเดือนบวกประสบการณ์ด้วย เช่นกัน ซึ่ง ก.พ.กำลังสำรวจและวิเคราะห์อัตราเงินเดือนที่ควรปรับใหม่ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป
          นายนนทิกร กล่าวอีกว่า เชื่อว่าการปรับเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่เป็น 15,000 บาท ต่อเดือน จะช่วยจูงใจให้เด็กรุ่นใหม่หันมารับราชการมากขึ้น เพราะมีอัตราเงินเดือนที่สามารถแข่งขันกับเอกชนได้ ทำให้หน่วยงานราชการได้เด็กเก่งๆ เข้ามาช่วยทำงาน แต่ การคัดเลือกเด็กเข้ามาสู่ระบบราชการคงต้องเข้มข้นขึ้น เพื่อให้ได้คนที่มีคุณภาพเข้ามาทำงาน ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพการทำงานของผู้ทำงานเดิมให้ประชาชนรู้สึกคุ้มค่ากับ ภาษีที่จ่ายไป
ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจจะได้ปรับขึ้นเงินเดือนจาก
.
9,100 บาท เป็น 15,000 บาท เพิ่มขึ้น 64% โดย
.
ต้องรื้อโครงสร้างบัญชีเงินเดือนข้าราชการใหม่
.
ทั้งหมด 2 ล้านคน ใช้เงินจำนวนหลายพันล้านบาท
.
แล้วประชาชนผู้เสียภาษีเมื่อไปรับการบริการ ถ้าท่าน
.
เจอะเจอข้าราชการอู้งานแบบนี้ เช้าชามเย็นชาม...
.
ท่านจะยอมจ่ายเงินเดือนจ้าง 15,000 บาท หรือ
.
.
.
.
lส.ส. ผู้ทรงเกียรติ ต้องแก้ไขกฎหมายให้ข้าราชการ
.
.
คลิ๊ก...เลย เขาอู้งานกันแบบนี้
.

==ระดับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ชัยชนะของเพื่อไทย และความพ่ายแพ้ของปชป.==


  by jerasak ,

นึกสงสัยอะไรบางอย่าง ก็เลยนำข้อมูลค่าแรงขั้นต่ำล่าสุดทั่วประเทศมาลง-
แผนที่ประเทศไทย ผลที่ได้ก็อย่างที่เห็นครับ อาจบังเอิญก็ได้ที่ระดับค่าแรง-
ขั้นต่ำสัมพันธ์กับผลการเลือกตั้ง 2554อย่างเห็นได้ชัดแบบนี้

*แต่ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง
ครั้งที่ผ่านมา*
 :idea:

Image

ถ้าเปรียบเทียบนโยบาย "ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 25% ของ ปชป." กับ "ค่าแรงขั้นต่ำ
 300บ.ของ พท." 
จากแผนที่จะเห็นได้ชัดว่า นโยบายของ ปชป.ไม่มีความ
แตกต่างของระดับค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะจะ
ขึ้น 25% จากฐานเดิมเท่ากันทั้งหมด

เทียบกับนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300บ.ของ พท. จังหวัดที่ค่าแรงถูกจะได้รับ
ค่าแรงเพิ่มมากกว่าจังหวัดที่มีค่าแรงสูง
 ซึ่งจากแผนที่จะเห็นได้ว่า จังหวัด-
เกือบทั้งหมดในภาคเหนือและภาคอีสานมีค่าแรงถูกกว่าภาคกลางและภาคใต้
(อุดรและอุบล แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มสีเหลือง แต่ความจริงมีค่าจ้างขั้นต่ำ 171บ.
ต่ำที่สุดในกลุ่มสีเหลือง)

*สรุปได้ว่า นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300บ.ของ พท. น่าจะเป็นนโยบาย
ประชานิยมที่ออกแบบมาให้เกิดผลมากเป็นพิเศษในภาคเหนือและภาคอีสาน
ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของ พท.*


ในขณะที่การออกนโยบายของ ปชป.คำนึงถึงความเป็นไปได้ และความ
สมเหตุสมผล ทำให้ติดข้อจำกัดความสามารถในการขึ้นค่าแรง และข้อเท็จจริง
ที่ฐานค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละจังหวัดสูงไม่เท่ากัน แต่การออกนโยบายของ
พท.กลับให้ผลทางการตลาดที่ดีกว่า ทั้งการรับรู้จดจำที่ไม่ต้องคำนวน
เปอร์เซ็นต์ และจำนวนค่าแรงที่เพิ่มขึ้นมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่
ฐานเสียงของเพื่อไทย ซึ่งจะได้ค่าแรงเพิ่มมากกว่าภาคอื่นๆ


...

แน่นอนว่าลำพัง ค่าแรง 300บ.โดยตัวมันเองไม่น่าเป็นไปได้ แต่เนื่องจาก
ฐานเสียงของ พท.มีความเชื่อถือ พตท.ทักษิณ สูงมาก (ใช้หนี้ IMF,
สร้างสนามบิน,30บาทรักษาทุกโรค ฯลฯ) ทำให้เชื่อมั่นว่า พท.จะสามารถ
ทำให้เป็นจริงได้ โดยไม่เกิดผลกระทบใดๆ หรือถึงมีปัญหาก็เชื่อว่าจะสามารถ
แก้ปัญหาในอนาคตได้ กลายเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ พท.ชนะการเลือกตั้ง
ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานอย่างถล่มทลาย ขณะที่พรรคคู่แข่งเดิมๆ
ในการเลือกตั้ง 2550 แทบจะสูญพันธุ์จากพื้นที่

โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า นโยบายค่าแรง300บ. มีผลให้ พท.ชนะเลือกตั้ง
มากกว่าการชูประเด็นสงสารทักษิณ, ต่อต้านอำมาตย์, ทวงคืนประชาธิปไตย
หรือ ทวงความยุติธรรม91ศพ ฯลฯ ผมไม่ค่อยเชื่อว่าคนทั่วๆไปจะใส่ใจจริงจัง
มากมายกับประเด็นทางการเมือง แต่น่าจะสนใจปัญหาปากท้องของตัวเอง
มากกว่า 

กรณีค่าแรง 300บ. น่าจะเป็นตัวอย่างได้ดี ผมคุยกับใครๆที่เลือก เบอร์ 1
ต่างก็สนับสนุนและเชื่อว่า พท.ทำได้ เพราะทักษิณเก่ง และนโยบายนี้
จะทำให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี
 ^_^!

...

แต่สิ่งที่ ปชช. 11.4 ล้านเสียง ที่เลือกพรรคตรงกันข้ามกับ พท. รู้สึกอึดอัด
คับข้องใจก็คือตลอด 45วัน ของการหาเสียงเืลือกตั้ง จนกระทั่ง พท.ชนะ
การเลือกตั้ง กลับยังไม่มีความแน่นอนชัดเจนของแนวทางการขึ้นค่าแรง
300บ. แกนนำทีมเศรษฐกิจแต่ละคนพูดกันไปคนละทิศคนละทาง ทำให้
รู้สึกได้ว่าความจริง ค่าแรง 300บ.เป็นเพียง "แคมเปญหาเสียง" ที่ พท.
ตั้งขึ้นมาเพื่อเอาชนะพรรคคู่แข่ง โดยยังไม่ได้มีการศึกษาวางแผนจริงจัง
แต่อย่างใดเพียงต้องการเอาชนะได้เป็นรัฐบาลก่อน แล้วไปหาวิธีเอาข้างหน้า!!


ตอนนี้ประเทศเหมือนติดกับดัก เพราะหากเพื่อไทยเดินหน้านโยบายค่าแรง
300บ.จริง ก็จะเกิดผลกระทบ อย่างที่ทุกภาคส่วนต่างออกมาแสดงความกังวล
แต่หากพท.ไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ก็จะกลายเป็น พท.หาเสียงหลอกลวง
ประชาชนให้ลงคะแนนเช่นเดียวกับนโยบายอื่นๆ แทบทุกนโยบายที่มีสภาพ
ไ่ม่ต่างกัน

ข้อเสียของประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งตัวแทนก็คือ พรรคการเมืองใดสามารถ
นำเสนอนโยบายจูงใจให้ประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งได้มากก็จะชนะการ
เลือกตั้ง ในขณะที่ไม่มีหลักประกันใดๆเลยว่าเมื่อพรรคการเมืองนั้นๆได้เป็น
รัฐบาล จะสามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ และที่ร้ายกว่านั้นคือถ้าสามารถ
ทำตามที่หาเสียงก็ไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าจะไม่เกิดผลเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ

ตอนนี้กองเชียร์ พท.ต่างเฝ้ารอผลดีจากนโยบาย ค่าแรง 300บ., เงินเดือน
15000บ., จำนำข้าว 15000-20000บ./ตัน, Tablet PC นักเรียน ฯลฯ ขณะที่
ปชช.ส่วนที่เหลือกำลังเฝ้ามองตาปริบๆ ไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
และประเทศไทยหลังจากนั้นยังไม่นับการนิรโทษกรรม เอาทักษิณกลับประเทศ
และปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา


...

ผมมองข้อดีของเลือกตั้งครั้งนี้ที่ พท.ชนะเลือกตั้งว่า ทำให้พี่น้องคนไทย
15.7ล้านคนรู้สึกเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตยของประเทศมากขึ้น 
ขณะที่นโยบายประชานิยมแบบพาประเทศไปเสี่ยงของ พท.ถ้าทำได้
และเกิดผลดีจริงก็เป็นผลดีกับประเทศชาติแต่ถ้าทำไม่ได้ หรือทำแล้วเกิด
ผลกระทบเสียหาย ก็จะเป็นการพิสูจน์ให้ปชช.ได้เห็นว่าทักษิณไม่ได้เก่งจริง
ตามที่โฆษณาชวนเชื่อ (และผมไม่เคยเชื่อมาโดยตลอด) :D

ตอนนี้ก็มาลุ้นกันครับว่า พท.จะทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้แค่ไหน
ผมเองก็เหมือนอีกหลายท่านที่อยากเห็น พท.ทำตามนโยบายให้ครบทุกข้อ
รวมถึงถมทะเลสร้างเขื่อนอะไรต่างๆนั่นด้วย ถ้าทำไม่ได้จริงเลือกตั้งคราวหน้า
พท.จะลงสนามแบบมีแผลเต็มตัว คงหลอกใครไม่ได้ง่ายๆต่อไปอีก
 

แต่ถ้าสมมุติ พท.ทำได้ดีจริง ก็เป็นหน้าที่พรรคการเมืองอื่นที่ต้องปรับปรุงตัว
ให้สามารถแข่งขันเชิงนโยบายกับ พท.ได้ต่อไป จากกรณีเปรียบเทียบนโยบาย
 "ขึ้นค่าแรง 25%" ของ ปชป. กับ "ค่าแรง 300บ." ของ พท. น่าจะเป็นตัวอย่าง
ที่ดีของการออกนโยบายให้เกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพกับพื้นที่เป้าหมาย
มากกว่าพรรคคู่แข่ง 

หากพรรคการเมืองใดต้องการชนะ พท. อยากฝากให้ศึกษาการวางนโยบาย
ลักษณะนี้ของ พท.ไว้ด้วย แต่มีโจทย์สำคัญคือ หากออกนโยบายที่เป็นไปได้
จริง และไม่สุ่มเสี่ยงเกิดผลกระทบทางลบก็จะดีมาก ประชาชนจะได้ไม่ต้อง
มาลุ้่นระทึกกันแบบตอนนี้ครับ
 :D

ตปท.ชี้ทักษิณควรเสียสละตัวเองไม่กลับปท.เพื่อการปรองดอง กังขาพท.กำชัยแต่โดนเสื้อแดงรุกใส่


ที่มา มติชน



สำนัก ข่าวซินหัวรายงานอ้างทัศนะของรศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ควรจะเสียสละตัวเองไม่กลับประเทศไทยอีก เพื่อว่าคนไทยจะได้เห็นการปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้นในประเทศ โดยหากพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการประนีประนอม เขาก็จะต้องแลกด้วยการทิ้งแผ่นดินเกิดไม่หวนกลับมาเมืองไทยอีก เพราะที่ผ่านมา เขาได้ทิ้งมรดกที่ลึกซึ้งต่อเมืองไทย และเป็นมรดกที่มีทั้งด้านบวกและลบ นอกจากนี้ ในส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ก็ควรจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะหากทำเช่นนั้นก็จะเกิดปฎิกิริยาต่อต้าน

ก่อน หน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยกล่าวว่า ต้องการกลับเมืองไทยเพื่อร่วมงานแต่งงานของน.ส.พิณทองทา ลูกสาว ในเดือนธ.ค.แต่บอกว่า หากกลับแล้วเกิดความขัดแย้งขึ้น เขาก็จะยอมคอย และในช่วงแรก ๆ พรรคเพื่อไทย ยังได้รวมเรื่องการนำพ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศ อยู่ร่วมในนโยบายพรรค แต่หลังจากเกิดกระแสวิจารณ์โจมตีอย่างกว้างขวางพรรคแก้ตัวว่าเป็นเรื่องการ นิรโทษกรรมให้กับกลุ่มการเมืองทุกฝ่าย

รศ.ดร.ฐิตินันท์ กล่าวด้วยว่า เมืองไทยอาจเกิดเข้าสู่การเผชิญหน้าในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า หากไม่สามารถเดินหน้าไปด้วยการประนีประนอมในช่วงเร็ว ๆ นี้ โดยสิ่งสำคัญที่สุดเวลานี้ก็คือ เมืองไทยจะต้องสร้างบรรยากาศที่ดีและเหมาะสม รวมทั้งอุดมการณ์และความตั้งใจที่จะประนีประนอมกัน โดยตระหนักว่าที่ผ่านมาประเทศชาติบอบช้ำมาพอแล้ว และจำเป็นจะต้องเดินหน้า และทุกฝ่ายที่เกี่่ยวข้องกับวิกฤตและถูกมองว่ากระทำผิดในสายตาของผู้คน จะต้องปล่อยวางต่อกันและกัน

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า กรณีการสอบสวนการสังหารประชาชน ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างทหารและคนกลุ่มเสื้อแดง เมื่อปีที่แล้ว ควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อ แนวทางปรองดองแห่งชาติ(คอป.)ทำหน้าที่ โดยการค้นหาข้อเท็จจจริงเป็นสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด เมื่อการประนีประนอมและการสมานฉันท์ยากจะบรรลุได้ จนกว่าจะเกิดกระบวนการค้นหาข้อเท็จจริงเกิดขึ้น

ซินหัว รายงานด้วยว่า ปัญหาอุปสรรคอีกประการที่อาจนำพรรคเพื่อไทยล่มพังหากทำไม่ดีก็คือ การนำคนกลุ่มเสื้อแดงเข้ามาร่วมครม.โดยถึงขณะนี้ ผู้นำกลุ่มพรรครัฐบาลได้ส่งสัญญาณแล้วว่า ไม่ยอมรับที่จะให้กลุ่มเสื้อแดงเข้ามาร่วมรัฐบาล เพราะเกรงว่าภาพลักษณ์ของรัฐบาลจะมัวหมอง อย่างไรก็ตาม กลุ่มเสื้อแดงได้ยืนกรานว่าพวกเขามีสิทธิอย่างชอบธรรมที่จะเรียกร้องตำแหน่ง ดังกล่าว เมื่อคำนึงถึงสิ่งที่พวกเขาได้ทำให้แก่พรรคเพื่อไทย โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในสมาชิกระดับนำของกลุ่มเสื้อแดง อ้างว่า สาเหตุที่พรรคเพื่อไทยรอดอยู่และชนะเลือกตั้งได้อย่างถล่มทลาย ก็เพราะแรงสนับสนุนจากคนเสื้อแดง

นอกจากนี้ ผู้นำกลุ่มเสื้อแดงที่มีภูมิลำเนาทางภาคเหนือ ซึ่งฐานสนับสนุนใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ยังได้เรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรีสิบตำแหน่งด้วย ขณะที่ฐิตินันท์ชี้ว่า กลุ่มเสื้อแดงมองว่า พวกเขาได้รับความไม่เป็นธรรมมาตลอด และถึงขณะนี้ พวกเขาต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน คือ ตำแหน่งรัฐมนตรีในครม.เพื่อเป็นเครื่องป้องกันตัวให้แก่พวกเขา รวมทั้งยังเป็นการให้คำตอบแก่กลุ่มผู้สนับสนุนเสื้อแดงด้วย

ด้าน"กา ร์เดี้ยน"รายงานว่า หัวหน้ากลุ่มนปช.ได้เตือนให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินหน้าสอบสวนคดีสังหารผู้ประท้วงเสื้อแดงเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 90 ราย และบาดเจ็บกว่า 2,000 คน โดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ หัวหน้ากลุ่มนปช.กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องดำเนินการสอบสวนดังกล่าว หากต้องการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเสื้อแดงนปช.

ทั้งนี้ การ์เดี้ยนระบุว่า ในขณะที่กลุ่มเสื้อแดงฝ่ายซ้ายสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ และอีกจำนวนเป็นกลุ่มที่มีศรัทธาต่อเขาอย่างสูง กลุ่มได้ผนึกกำลังต่อต้านการรัฐประหารเมื่อปี 2006 และพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขึ้นสู่อำนาจจากการต่อรองทางการเมือง หลายฝ่ายวิตกว่า การให้นิรโทษกรรมแก่พ.ต.ท.ทักษิณ จะหมายถึงการไม่ดำเนินการจัดกับเหล่าผบ.ทหาร ที่พวกเขาเชื่อว่ารับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของคนกลุ่มเสื้อแดงด้วย

"อนาคต ของคนเสื้่อแดงและพรรคเพื่อไทยขึ้นกับว่าพรรคเพื่อไทยจะบริหาร ประเทศและฟังประชาชนหรือไม่ เราหวังว่าจะไม่มีใครไม่ฉลาดที่ไม่ฟังเสียงประชาชน"นางธิดากล่าว

แฉ!!แผนนารีบ้านนารีเมือง!!


แม้ว "เฮ้ยปู พี่ขอให้ปูเกทับบลัฟแหลกช่วงโค้งสุดท้ายไปเลยนะ"

ปู "แล้วเกทับยังไงล่ะพี่แม้ว"

แม้ว "ก็บอกแบบพี่ไง ว่าเรามีนิ้วกลางวิเศษ ชี้นกเป็นควาย พวกมันก็เชื่อ ชี้หมาเป็นคน พวกมันก็เชื่อ ชี้คางคกเป็นพระเอก พวกมันก็เชื่อ"

ปู "พี่แม้วเห็นชาวบ้านเขาโง่ขนาดนั้นเลยเหรอพี่?"

แม้ว "โธ่ ก็พวกมันโง่จริงๆน่ะสิ ขนาดพี่บอกว่า จะให้โน๊ตบุ็คกับลูกพวกมันทุกคน มันยังเฮ พวกมันยังเชื่อพี่เลย เพราะตอนนี้พวกมันหลงพี่กันจะตาย พวกมันหารู้ไม่ว่า พี่เอาเงินเอางบชาติปรนเปรอฟุ้งเฟ้อให้พวกมันติดใจ เพื่อพี่จะได้โกงชาติโดยสะดวก พวก มันไม่รู้หรอกว่า ถ้าพี่ไม่โดนปฏิวัติ อีกไม่กี่ปีตอนนั้นพี่ก็กะจะโกงให้สิ้น แล้วเตรียมหนีออกนอกอยู่แล้ว ไม่งั้นพี่ไม่เทขายหุ้นหมดหน้าตักหรอก เสียดายพี่โอนเงินออกนอกไม่ทัน เพราะเสือก!!มีพวกฉลาดออกมาขวางทางรวยของพวกเราเสียก่อน"

ปู "แล้วพี่จะให้ปู หลอกพวกมันว่าไง??"

แม้ว "ก็บอกว่าจะให้เงินค่าแรงมันวันละพันสิ หรือไม่ก็หลอกอะไรก็ได้ที่ให้พวกมันไปฟรีๆเยอะๆ มากๆ พวก นี้มันชอบของฟรี!! ยิ่งถ้าเราโกงมากเท่าไหร่ เราก็ต้องเอามาแจกพวกมันให้มากขึ้น เช่นถ้าตระกูลเราโกงแสนล้าน เราก็แบ่งงบชาติมาทำอะไรก็ได้แจกพวกมันทั้งประเทศสักหมื่นล้าน แค่นี้มันก็หลงใหลตระกูลพวกเราจะแย่แล้ว"

ปู "ตกลงค่ะพี่แม้ว หนูจะหลอกมันให้มากๆ ลด แลก แจก แถมให้สะบัดเลยค่ะ"

แม้ว "ดีๆ ดีมากน้องปูของพี่ จำไว้!! ที่เราต้องหลอกพวกมัน เพราะเป้าหมายของเราต้องเอาเงินของพวกเราคืน ขอเพียงเราได้อำนาจกลับมาอีกครั้ง เราก็รีบเอาคืนให้หนักๆ ส่วนที่เราสัญญาว่าจะให้โน่นให้นี่ ก็ทำๆไปเหอะ ส่วนผลกระทบที่ตามมันจะดีจะร้ายยังไงเราไม่ต้องไปสน เพราะเราถือว่าทำตามสัญญาแล้ว และหลังจากนั้นพี่วางทางหนีทีไล่ให้ปูไว้แล้ว "

ปู "ทางหนีทีไล่ยังไงล่ะพี่?"

แม้ว "ก็พี่จะ จ้างให้ทหารมันปฏิวัติปูแล้วปูก็หนีออกนอกประเทศ ช่วงนั้นเศรษฐกิจก็จะล่มอีกครั้ง พวกโง่มันก็จะโทษว่าที่เศรษฐกิจแย่เพราะทหารปฏิวัติ พวกโง่มันไม่รู้หรอกว่า ที่เศรษฐกิจแย่ ที่จริงมันคือผลงานพวกเรา"

ปู "อ๋อ เหมือนตอนปี40ใช่มั้ยพี่ ตอนนั้นพี่แม้วมีส่วนร่วมทำเศรษฐกิจชาติพัง จนต้องไปกู้IMFใช่มั้ย? แต่ไอ้พวกโง่มันดันไปโทษพรรคแมงสาบแทน"

แม้ว "ใช่ๆเลย น้องปูคนสวย ตอนนั้นพี่รวยเพราะรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการประกาศลดค่าเงินบาท แล้วพอพี่มีอำนาจอีกครั้ง พี่ก็แกล้งใช้หนี้ที่ไปกู้มาเร็วๆ แล้วพี่ก็รีบโฆษณาเกทับว่า พี่คือผู้นำที่ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ"

ปู "พวกโง่มันเลยสรรเสริญว่าพี่ปลดหนี้ให้ชาติ แต่พวกโง่มันหารู้ไม่ว่า เขาก็ทยอยจ่ายกันมาเรื่อยๆ ก่อนที่พี่จะมีอำนาจซะอีก  แถมพวกโง่มันไม่รู้ด้วยว่า การที่ใช้หนี้เร็วก่อนกำหนด ต้องโดนโทษปรับหนักกว่าทยอยใช้คืนเสียอีก"

แม้ว "ก็ใช่น่ะสิ ก็พวกมันโง่ไงเล่า ฮ่าๆๆๆ "




"สนธิ" เชื่อเกิดเหตุนองเลือด อาจถึงขั้นแบ่งแยกประเทศ



เวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 8 ก.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โฟนอินเข้าในรายการ "คนเคาะข่าว" ระบุว่า ตนขอเสริมว่าปัญหาชาติบ้านเมืองคือปัญหาจิตวิญญาณ ......
นาย สนธิ กล่าวอีกว่า ปฏิวัติตอนปี 2549  คนที่ทำปฏิวัติคิดว่าปฏิวัติแล้วนายทักษิณไปต่างประเทศ ทุกอย่างจบแล้ว แต่ว่ารากเหง้าเครือข่ายที่เขาสร้างมามันลงลึก จนกระทั่งเราลืมนึกไปว่าที่ปรึกษาของนายทักษิณคืออดีตฝ่ายซ้ายจัด ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในยุทธศาสตร์กิจกรรมสร้างมวลชน ตั้งแต่ปี 2549 มา กระบวนการสร้างมวลชนเกิดขึ้นต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง อย่างหมู่บ้านเสื้อแดงก็เกิดหลังจากที่นายทักษิณไปแล้ว
      
       มวลชนที่สร้างขึ้นมา จะดูทีวีเสื้อแดงที่ใส่ข้อมูลให้เชื่อเพียงด้านเดียว ด้วยสติปัญญาที่ด้อยกว่าคนอื่น เนื่องจากโอกาสน้อยกว่า ความรู้สึกที่ว่าเสื้อแดงถูกรังแกมีเยอะมาก เพราะเขาถูกสื่อเสื้อแดงใส่หัวเขาตลอดเวลา ตรงนี้อันตรายมาก      
       ขณะ นี้ถ้าพวกเรามองนักยุทธศาสตร์ฝ่ายซ้าย เห็นชัดว่าทางอีสานเขาชนะเรื่องมวลชนแล้ว ส่วนมวลชนอีสานจุดไหนที่จะเป็นมวลชนรุนแรง ไม่รุนแรง ไม่สำคัญ แต่สำคัญ ที่เขาวางแกนนำระดับล่างลงไปจนเกือบครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน อำเภอ ตรงนั้นเขาพร้อมแล้ว แต่ถ้ามีความรุนแรงเกิดขึ้นเขาขาดอยู่อย่างเดียวคืออาวุธ      
       "คิด ดูเขาชนะทั้งอีสานเหนืออีสานใต้ แค่ปลุกระดมคนที่ลงคะแนนให้เพื่อไทย เข้ามาในเมือง ยึดเมืองได้หมดนะ เราก็รู้อยู่แล้วตำรวจอีสานเป็นยังไง เห็นแล้วว่ากองทัพภาค 2 เป็นยังไง ถึงบอกว่าแนวโน้มเกิดมิคสัญญีค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับว่าการเดินทางการเมืองจากนี้ไปเขาเดินกันอย่างไร" นายสนธิ กล่าว
      
       นายสนธิ คิดว่า เราคิดนอกกรอบกันมาตลอด แต่กว่าจะได้ผลจากวันนั้นที่ตั้งพันธมิตรฯมาจนถึงตอนนี้ ดูจำนวนคนก็ยังถือว่าน้อย เพราะเรามีแค่เอเอสทีวีที่สถานะง่อนแง่นๆอยู่ ทำให้เดินได้ช้า สร้างอะไรให้เกิดขึ้นมันลำบาก แต่วิทยุเสื้อแดงเต็มไปหมด เพราะมีการทุ่มเงินลงไป มีช่วงหนึ่งใครต้องการวิทยุชุมชนจะลงไปติดตั้งให้เลยแห่งละ 5 แสนบาท นั่นคือการลงทุนทางการเมือง
      
       ถามว่าต้นทุนวิทยุชุมชน 5 แสนบาท พันแห่งต้องใช้ 500 ล้าน ตนคิดว่าตอนนี้อีสานมีวิทยุชุมชน 1-2 พันแห่ง สำหรับการลงทุนทางการเมืองถือเป็นเรื่องเล็ก เล็กสำหรับการยึดครองประเทศไทย แนวคิดลักษณะนี้ไม่ใช่เป็นของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แต่เป็นของที่ปรึกษาฝ่ายซ้าย ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปมากกว่าการล้างสมองคน ให้คิดไปในแนวทางเดียวกัน และไม่ต้องใช้ปัญญา
เรื่องนี้พระองค์ทรงทราบและได้รับสั่งไว้ดังนี้

"""มันเข้ามาในสมองของคนแต่ละคน ทั้งทหารทั้งคนอื่นๆ ได้ ยุคนี้ที่เป็นผี ผีที่เป็นพิษนี้เข้ามาโดยอาศัยจิตใจของทุกคน จิตใจนี้อาจชอบฟังคำเยินยอก็ตาม จิตใจนี้อาจชอบยืนสบายก็ตาม ก็ อาจเป็นช่องดังกล่าวที่เห็นยากและอันตรายที่สุด """"""
 
                 พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ.. พระ ราชทานเป็นการเฉพาะแก่ผู้บังคับบัญชา อาจารย์ และนายทหารนักเรียน โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ ๕๗ ในโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ ศาลาบุหลัน ทักษิณราชนิเวศน์ วันอังคารที่ ๒๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๒๒

'ปู'ฉุนส.ส.บินดูไบพบพี่ชาย กร้าวโผครม.อยู่ที่ตัวเอง


Pic_185028 "ยิ่งลักษณ์" อ้างเชิญหน่วยงานราชการมาพบ อยากรู้ว่าต้องการนโยบายอะไรบ้าง ชี้หากไม่ทราบจัดสรรคุณสมบัติรัฐมนตรีไม่ได้ ฉุน ส.ส.ตั้งก๊วนวิ่งเต้น บินไปดูไบขอเก้าอี้ รมต. กร้าวโผ ครม.อยู่ที่ตัวเอง...

ผู้สื่อข่าว รายงานว่่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่างกรอบนโยบายของพรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่มีหน่วยงานราชการ ที่แวะเวียนเข้ามาที่พรรคเพื่อไทยว่า ช่วงนี้ต้องเชิญหน่วยงานต่างๆ เข้ามารับฟังข้อมูลว่าต้องการนโยบายอะไรบ้าง โดยหลังจากนี้จะต้องใช้เวลาพบปะกับสมาคมและหน่วยงานต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อได้รับรู้ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ในขณะนี้ในร่างนโยบายยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้ทั้งหมด
เมื่อถามว่า ระหว่างการจัดทำนโยบายแถลงต่อรัฐสภา กับการจัดตั้งโผ ครม.ในพรรคเพื่อไทย เรื่องไหนหนักใจกว่ากัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า วันนี้เรื่องนโยบายต้องมาก่อนการจัดตั้ง ครม.อยู่แล้ว ถ้าหากยังไม่ทราบในรายละเอียดของแต่ละนโยบาย ก็จะไม่สามารถจัดสรรผู้ที่มีคุณสมบัติการปฏิบัติหน้าที่ได้
เมื่อถาม ว่ากรณีมีข่าวว่า ว่าที่  ส.ส.พรรคหลายคนบินไปขอเก้าอี้รัฐมนตรีจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า "เก้าอี้นายกรัฐมนตรีอยู่ที่นี่ จะไปขอที่ดูไบทำไม ขอยืนยันว่า การจัดตั้ง ครม.จะต้องผ่านความเห็นชอบจากดิฉัน และกรรมการบริหารพรรคเสียก่อน"

ไทยรัฐ

"เพื่อไทย-เพื่อทักษิณ-เพื่อเขมร?"


 ศิษย์ขอโขกศีรษะคารวะด้วยขอบคุณอาจารย์ครับ คืออาจารย์ "ดวงใจ ภรณวลัย" ผู้แตะไพ่ แล้วรู้ทะลุใจคนนั่งตรงหน้า ผมฝากตัวเป็นศิษย์เรียนมาครึ่งปี ปรากฏว่า "สอบตก" ไปเรียบร้อย วันก่อนท่านคงประมาณว่า เห็นอภิสิทธิ์ไม่ชนะ ผมน่าจะงุ่นง่าน ก็เลยโทร.บอกว่า มาซื้อขนมครกฝรั่งแถวห้างย่านคลองเตย ให้ลงไปเอามาแกล้มกาแฟ ผมก็เพิ่งเคยเห็น-เคยกินขนมครกฝรั่งคราวนี้แหละ ท่าจะมีบุญกะเขาขึ้นมาบ้างละ..ตานี้!
 อาจารย์ดวงใจก็เฉียด ๘๐ แล้ว บ้านที่เป็นสำนักงานถ่ายทอดวิชาให้ลูกศิษย์ และเป็นที่เปิดไพ่ยิปซีมองในสิ่งที่ตามองไม่เห็นให้ผู้มาหา ก็อยู่ถึงโน่น...เชิงสะพานคลองตัน แต่ท่านสัญจรกระฉับ-กระเฉงมาถึงคลองเคย เห็นแล้วแอบอิจฉา
 ผมซะอีก..ยังหนุ่ม-ยังแน่น (ใจน่ะครับ) ก็จริง แต่เวลาเดิน ชักจะไปแบบเหิน คือ งกๆ เงิ่นๆ เผลอๆ หน้าคะมำไปก่อนตัว เลยเลียบๆ เคียงๆ ถามท่านว่า....ยังเปิดไพ่ทายชะตาคนไหวมั้ย?
 ท่านมองหน้า แล้วบอกว่า "เจ้าคุณนรฯ กรอกน้ำมนต์ให้แต่เด็ก ให้ทำหน้าที่นี้ ทำไมจะไม่ไหว"!
 เจ้า คุณนรฯ ที่อาจารย์ดวงใจพูดถึง ก็คือ "พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต" (ธมฺมวิตกฺโก ภิกฺขุ) ที่รู้จักกันดี ณ วัดเทพศิรินทราวาส นั่นเอง ก่อนหน้านี้ท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่า
 สมัยเป็นเด็ก ตกเย็น แม่ต้องพาไปเฝ้าอยู่หน้ากุฏิท่านเจ้าคุณนรฯ รอเวลาท่านเจ้าคุณออกจากกุฏิไปทำวัตรเย็นที่พระอุโบสถ คนมากมายรอกราบและถวายดอกไม้บูชาพระกับท่าน มีอยู่วัน เจ้าคุณนรฯมองๆ อาจารย์ แล้วก็เอาน้ำมนต์ให้กรอกใส่ปาก อาจารย์คุยด้วยความภาคภูมิใจตลอดว่า
 "ชั้นเป็นคนเดียวที่เจ้าคุณนรฯ กรอกน้ำมนต์ให้ตั้งแต่เด็ก ท่านให้พูดอย่างเดียว ก็พูดเป็นอาชีพจนถึงทุกวันนี้ไงล่ะ"
 อืมมม..ก็จริงของอาจารย์!
 การ เปิดไพ่ทำนายทายทักผู้มาหาก็คือการ "พูดอย่างเดียว" แถมพูดเป็นเงิน-เป็นทอง คิดแล้วก็...แปลกดี ผมบอกเบอร์โทร.ไว้ให้เลย ๐-๒๗๑๗-๒๑๘๙ จะได้ไม่ต้องโทร.มาถามกับผมทีหลัง แต่ทราบไว้อย่าง คนไปหาทั้งวัน ฉะนั้น หมั่นโทร.หน่อย ว่างนั่นแหละท่านจึงรับ
 ท่านยังจำบทความที่ผมนำลงช่วง เลือกตั้งได้มั้ย เรื่อง "เชื่อผมซักครั้ง" ฮือฮากันมาก คุณชรินทร์ นุกรณ์นวรัตน์ นักธุรกิจการบิน-การส่งออกทางอากาศ-การท่องเที่ยว โดยเฉพาะกับรัสเซีย เมื่อเลือกตั้งจบแล้ว ผลออกมาแล้ว คุณชรินทร์ก็เขียน "บทส่งท้าย" ผ่านผม ดังนี้
     คน "เสียงข้างน้อย" ขอท่านบ้าง
 ก่อน อื่นผมต้องขอขอบคุณพี่เปลว ที่ลงบทความของผมที่เขียนให้เพื่อนๆ และน้องๆ รวมทั้งพรรคพวกที่รู้จักและนับถือกันก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง ก็ด้วยความห่วงใยบ้านเมืองอย่างจริงจังขึ้นมา ผมได้รับคำชมเชยจากผู้อ่านคอลัมน์ของพี่ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์มาก ดีใจและแปลกใจมีเพื่อนหลายๆ คนตั้งแต่สมัยนักเรียนได้โทร.มาบ้าง ส่งเมล์มาบ้างแสดงความเห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่
 มีเพียงคนไม่รู้จักท่าน หนึ่งที่โต้เถียงกลับมาอย่างแรงมาก ผมก็ได้แค่ตอบแบบสุภาพไปว่าต่างคนต่างเลือกพรรคที่ชอบก็แล้วกัน ใครชนะก็ต้องยอมรับกันไป ตอนนี้ผลก็ออกมาแล้ว ผมก็ต้องขอแสดงความยินดีกับคนพวกเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ รวมทั้งคนที่ใกล้ๆ ตัวผมในบริษัทและเพื่อนรักอีกหลายคนที่คิดตรงข้ามกับผม ผมขอเรียกว่าพวกเสื้อแดงก็แล้วกัน เพราะเขาชอบสีแดงกันหมดเลย แดงทั้งแผ่นดิน มากกว่ากึ่งหนึ่งของประเทศ 
 ในบริษัทผมมีคนประมาณ 200 คน ผมลองนับดู เออ ใช่แฮะ พวกเสื้อแดงมีมากกว่าร้อยคน บางคนติดสติกเกอร์สีแดง-ดำรูปคุณปูด้วย เออ..ผมเป็นคนพวกเสียงส่วนน้อยในสังคมไปเสียแล้ว! ทำไมต้องมีสีครับ สีเป็นสัญลักษ์ สีเป็นเครื่องบ่งบอกลักษณะนิสัย สีเป็นการแยกแยะให้เห็นว่าเป็นพวกไหนในการแข่งขัน ตอนนี้สีแดงชนะแล้วนะครับ ไม่ต้องใช้สีแล้ว ไม่มีการแข่งขัน และต้องเห็นใจผู้แพ้และปรองดองให้บ้านเมืองสงบสุขกันนะครับ
 แกนนำก็รวย แล้วทุกคน เป็น ส.ส.เผลอๆ จะได้เป็นรัฐมนตรี ก็คงไม่ต้องมีม็อบกันต่อไปและสงบกันเสียที แต่อย่าเที่ยวไปเบ่งโต้คารมให้คนเขาหมั่นไส้เปล่าๆ เดี๋ยวจะมีสีอื่นๆ มาสร้างม็อบวุ่นวายกันอีก สีเหลืองก็แฮปปี้แล้ว ได้โหวตโนไปเยอะเหมือนกัน งานก็เลยจบ อย่าหาเรื่องใหม่อีกนะ ขอร้องเถอะ
สีฟ้าแย่หน่อยโดนสอยร่วง ไปเลย ผมอุตส่าห์เชียร์เต็มที่ ตอนนี้ก็ยังเชียร์อยู่ แต่หัวหน้าพรรคลาออกแล้ว ผมก็ขอให้กำลังใจท่านต่อไป ท่านอภิสิทธิ์ยังหนุ่มอยู่มากนะครับ คอยทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา ซึ่งท่านจะทำได้ดีที่สุด และสภาก็จะมีผู้นำฝ่ายค้านเป็นตัวเป็นตนเสียที ถ้าไม่ใช่ท่านก็คงเป็นคนอื่นที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ท่านกลับมาเป็นผู้นำฝ่ายค้านดีกว่านะครับ แล้วค่อยมาสู้กับเขาใหม่อีก 4 ปีข้างหน้า ผมจะคอย X ให้ท่านในครั้งต่อไป
 สำหรับท่านนายกรัฐมนตรีคน ใหม่ของประเทศไทย ผมก็ขอแสดงความยินดีกับท่านและคนไทยทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิงไทย ผมยังอดภูมิใจนิดๆ ผู้หญิงสมัยนี้ไม่แพ้ผู้ชายแล้ว ผมจึงขอให้ท่านตั้งมั่นและตั้งใจให้ดี อนาคตของประเทศไทยขึ้นอยู่กับท่าน
  ขอ ให้ท่านอดทน แข็งแกร่ง เชื่อมั่นในตัวเอง บริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์ ไม่ลำเอียงและบริการประชาชนให้เหมือนและเท่าเทียมกันทุกคน กฎหมายต้องปฏิบัติตามให้เคร่งครัด ขออย่าหลงในอำนาจวาสนา ขออย่าหลงเชื่อในบุคคลใกล้ชิดท่านที่คอยแสวงหาผลประโยชน์และอำนาจ ทั้งคนในพรรคและนอกพรรค โดยเฉพาะพวกที่เข้าได้กับทุกพรรคขอร่วมรัฐบาลลูกเดียว พวกนี้รับรองหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองแน่นอน 
 นโยบายดีๆ ของพรรคฝ่ายค้านมีหลายข้อ เช่น ประกันราคาข้าวและพืชผล ขอให้พิจารณาด้วย ถ้าคิดแล้วเขาดีกว่าก็นำไปใช้ได้ ไม่มีใครหวงหรือไม่มีใครมาทวงบุญคุณทีหลังหรอก ส่วนนโยบายของพรรคที่หาเสียงไว้ก็พยายามทำให้สำเร็จ ผมขอเชียร์เต็มที่ เพราะเป็นนโยบายดีเพื่อประชาชน แต่ถ้าไม่ถึงระดับที่คุยไว้ก็ไม่เป็นไร เพราะผมเข้าใจตามที่เขาพูดกันว่า ให้ระวังเงินคงคลังของประเทศต้องมั่นคงด้วย
สำหรับพี่ชายที่ท่านเคารพ มากที่สุด ท่านทักษิณก็บอกไว้เองว่าท่านไม่รีบกลับ ท่านอยู่สบายๆ ที่ดูไบ ทำธุรกิจหาเงินทองที่ท่านถนัดอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปห่วงท่าน ถ้าท่านหาได้มากก็ช่วยส่งเงินกลับเมืองไทยมาเสียภาษีให้พัฒนาประเทศ และช่วยเหลือคนจนให้รวยกันทุกคนถ้วนหน้าตามที่ท่านได้สัญญาไว้ น่าจะดีที่สุด
 ว่างๆ จากการงานก็วิดีโอลิงค์มาคุยกับพรรคพวกที่รักนับถือกัน เพื่อนเก่าๆ รุ่นเดียวกันเขาคิดถึงมาก เดี๋ยวนี้ระบบโทรคมนาคมพัฒนาดีขึ้น รวดเร็วจนตามซื้อไม่ทันรุ่นกัน ใช้มันเต็มที่เลย ส่วนโทรทัศน์เคเบิลค่ายสีและวิทยุชุมชน ขอให้รัฐบาลใหม่หาทางดูแล อย่าให้เขาสร้างความเกลียดชังและบิดเบือนความจริงกันมากนัก ปิดได้เลยก็ดี ชักชวนให้คนดูช่อง 3-5-7 มีละครดีๆ น่าติดตามและสนุกกว่ากันเยอะเลย บ้านเมืองจะได้แจ่มใสขึ้น
 ผมขอแถมตอนท้ายต่อนายกฯ หญิงคนใหม่ ช่วยแก้ไขจราจรกรุงเทพฯ โดยด่วน หามืออาชีพจริงๆ มาบริการจัดการ ตำรวจไม่มีความสามารถทำได้หรอก 
 อ้อ...สุด ท้าย ก็ขอให้ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระดับประชาชนหน่อย ให้คนไทยมีสิทธิ์และศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับชาติอื่นๆ โดยเฉพาะฝรั่ง เรื่องนี้ยาวขอเก็บไว้ก่อน ผมอยากขอพรรคพวก คนไทยทุกคน ให้มีดังนี้
 -ขอให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัติย์ และคนไทยเพื่อนร่วมชาติกันทุกคน
 -ขอให้ลบออกจากใจ สีแดง สีเหลือง และสีอื่นๆ สามัคคีร่วมกันถวายพ่อหลวง
 -ขอให้มีรัฐบาลที่ดี ซื่อสัตย์ มั่นคง มีนายกฯ ยอดหญิง นำพาเดินหน้าประเทศไทย
 -ขอให้มีผู้นำฝ่ายค้านซักที คอยแนะนำ ช่วยกันดูหนทางออกประชาธิปไตย
 -ขอให้มีสื่อสร้างสรรค์ รายการดี มีประโยชน์ ช่วยคลายกังวล ให้ผองไทย
 -ขอให้มีรัฐมนตรี เห็นแก่ชาติและส่วนรวม ทำความดี ต่อต้านคอรัปชั่น
 -ขอให้รัฐมนตรีชั่ว หลงอำนาจ เป็นมาเฟียจังหวัด สูญสิ้นไปจากแผ่นดิน
 -ขอให้เศรษฐกิจประเทศไทยจงรุ่งเรือง เงินถึงกระเป๋าชาวนา คนรากหญ้า
 -ขอให้กรุงเทพฯ สะอาดสวยงาม ปราศจากม็อบ รถไม่ติด จราจรสะดวก
 -ขอให้คนไทยมีศักดิ์ มีศรี มีสติ มีความสุข ไม่เป็นสองรองใครในเอเชีย
      ชรินทร์ นุกรณ์นวรัตน์
      5 ก.ค. 2554
 ครับ...แล้ว เราก็ผ่าน "สัปดาห์เลือกตั้ง" ไปด้วยดีอีก ๑ สัปดาห์ จะเป็นโชคดีเพื่อไทย โชคร้ายประเทศ หรือจะเป็น โชคดีเพื่อไทย โชคชัยประเทศ ชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้น ที่สำคัญก็คือ เมื่อเพื่อไทยชนะ ก็หมดเงื่อนไข "ไผเป็นไผ" แปรอักษรเป็น "เผาเป็นเผา" ที่บางแดงขู่ไว้
 จบเรื่องนั้น ก็มาเรื่องนี้ จันทร์ที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ลุ้นกันอีกทีนะครับ "ศาลโลก" นัดฟังคำวินิจฉัยว่า จะออกมาตรการชั่วคราวตามที่เขมรร้องให้ไทยปฏิบัติตามเงื่อนไข ๓ ข้อหรือไม่?
 ก็ไม่ต้องไปลุ้นอะไรให้เมื่อยตุ้มหรอกครับ ในโลกที่ "เบื้องหลัง" ฝรั่งชักใย หากตัดสินเอียงถึงขั้นรับไม่ได้ เราก็....
 ถอดเกี๊ยะทับ แทนการเซ็นรับทราบไปเลย!
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง