บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สื่อเกาหลีใต้ฉลาดกว่าเสื้อแดง

สื่เกาหลีใต้ยกทักษิณเป็นกรณีศึกษา "ระวังประชานิยม!!"

ในบทบรรณาธิการขหนังสืพิมพ์โชซุนิลโบ เรื่“ระวังประชานิยม” เกริ่นถึงสถานการณ์การเมืงในไทย ว่า กลุ่มผู้ประท้วงเกิดปะทะกับทหารเมื่วันเสาร์ (10) จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 ราย และบาดเจ็บ 870 คน หลังจากรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน

บทบรรณธิการนี้ ย้นความว่า ความรุนแรงระหว่างการชุมนุมขงคนเสื้แดงครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก โดยเมื่เดืนเมษายนปีก่น ผู้ประท้วงฝ่ายต่ต้านรัฐบาลได้บุกเข้าไปยังสถานที่จัดประชุมาซียนซัมมิต +3 เป็นเหตุให้ต้งยกเลิกการประชุม และผู้นำประเทศ 16 ชาติ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงประธานาธิบดี ลีเมียงบัค ต้งขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่หลบหนีกมาโดยเฮลิคปเตร์

บรรณาธิการขงโชซุนิลโบ ชี้ว่า ศูนย์กลางขงผู้ประท้วงฝ่ายต่ต้านรัฐบาล คืดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งในปี 2001 และได้รับเลืกให้กลับมาีกครั้งในปี 2005 แต่ในเดืนมกราคม 2006 เขาและครบครัวขายหุ้นขงบริษัทเทเลคมแห่งหนึ่งมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านดลลาร์สหรัฐฯ ไปให้แก่บริษัทเพื่การลงทุนแห่งรัฐขงสิงคโปร์โดยปราศจากการจ่ายภาษี!!

แต่ที่ปรากฏตามกมา นั่นคืมันยังแสดงให้เห็นว่าเขาใช้ตำแหน่งหน้าที่สร้างความมั่งคั่งแก่ธุรกิจขงตนเง หลีกเลี่ยงภาษี รับสินบน และฉ้ฉลการประมูล โดยในเดืนกุมภาพันธ์ ศาลฎีกาขงไทย พิพากษายึดทรัพย์ที่ผิดกฎหมายขงเขาเป็นเงินกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท

ทักษิณ พเนจรไปทั่วโลก นับตั้งแต่ถูกรัฐประหารโค่นล้มำนาจในปี 2006 ขณะที่ผู้ชุมนุมฝ่ายต่ต้านรัฐบาลเคลื่นขบวนไปทั่วเมืงหลวง เพียงเพราะต้งการเห็นเขากลับมา จนทำให้ประเทศกำลังกลายเป็นรัฐแห่งสงครามกลางเมืง ทั้งนี้ ทักษิณ เป็นผู้นำกลุ่มสนับสนุนเขาซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวนาคนยากจนทางภาคเหนืและตะวันกเฉียงเหนืงประเทศผ่านทางทีวีดาวเทียม และข้ความโทรศัพท์มืถื

โชซุนิลโบ ระบุว่า เหตุผลที่ผู้สนับสนุนทักษิณ ต้งการเห็นเขากลับมา แม้ดีตนายกรัฐมตนตรีรายนี้คร์รัปชันย่างมโหฬาร เพราะพวกเขาถูกล่ด้วยนโยบายประชานิยม โดยหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่ง ทักษิณ พักชำระหนี้เกษตร 3 ปี มบสิทธิรักษาในสถานพยาบาลขงรัฐในราคา 30 บาท มบเงินทุน 1 ล้านบาทให้แก่แต่ละหมู่บ้านภายใต้ข้้างขยับช่งว่างรายได้ระหว่างผู้ยู่าศัยในเมืงและชาวนา

ย่างไรก็ตาม นโยบายที่ดูแสนจะกรุณานั้นจบลงที่เงินทุนในคลังขงรัฐเหืดหายลงไป สุดท้ายแล้ว ทักษิณ ก็ถูกขับกจากตำแหน่งหลังต้งเผชิญความไม่พใจย่างรุนแรงจากคนชั้นกลาง ผู้ที่รู้สึกเหนื่ยหน่ายต่คุณภาพการรักษาที่เสื่มทรามลงไปทั้งที่ต้งจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น

ทว่าีกด้านหนึ่งคนไทยที่มีรายได้น้ยได้เสพติดสิ่งที่ได้มาเปล่าๆ เสียแล้ว และไม่มีวิธีเยียวยาประชาชนจากการเสพติดนโยบายประชานิยม ทั้งนี้ ไทยไม่ใช่ประเทศเดียวที่เจกับปัญหานี้

าร์เจนตินาที่เคยเป็นรัฐเจริญที่สุดชาติหนึ่งในบรรดาประเทศละตินเมริกาในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 สุดท้ายก็จบลงด้วยการกลับสู่สถานะโลกที่ 3 หลังจากพยายามทำตามความต้งการขงประชาชนที่เคยชินนโยบายประชานิยมย่างไม่สามารถถนตัวได้

บรรณาธิการขงโชซุนิลโบ ปิดท้ายว่า ในเกาหลีใต้ พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน กำลังแข่งขันกันย่างดุเดืดด้วยนโยบายที่หวังชนะใจประชาชนก่นหน้าศึกเลืกตั้งท้งถิ่นในวันที่ 2 มกราคม โดยพรรคเดโมแครตปาร์ตี เสนใช้เงินภาษีจำนวน 1.5 ล้านล้านวน มบสิทธิ์เรียนฟรีแก่นักเรียน 5.48 ล้านคน ขณะที่พรรคแกรนด์ เนชันแนล ปาร์ตีกนโยบาย 9 ข้มีเป้าหมายนำเงินรัฐกว่า 1.22 ล้านวนมาช่วยคนยากจน ซึ่งทั้งสงพรรคการเมืงควรดูเหตุประท้วงในไทยเป็นกรณีศึกษา เพราะนโยบายประชานิยมเป็นเสมืนแหวนแห่งลางร้าย
.
.

--------------------------------


ต้นฉบับภาษาังกฤษ
The chosun Ilbo news (click!!)โชซุลิลโบ
Beware of Populism

Protesters clashed with soldiers in Bangkok on Saturday in a standoff that killed 21 people and injured around 870 after the Thai government had announced a state of emergency. In April last year, anti-government protesters stormed into the conference venue of the ASEAN+3 Summit causing the high-profile meeting to be cancelled, and 16 heads of state, including Korean President Lee Myung-bak, had to be airlifted to safety from the rooftop. In December, 2008, an ASEAN foreign ministers' meeting in Thailand had to be canceled due to protests.

At the center of anti-government protests is former Thai Prime Minister Thaksin Shinawatra. He became prime minister in 2001 and was re-elected in 2005. But in January of 2006, his family was sold US$1.9 billion worth of shares in a telecom company to Singapore's state investment company without paying any taxes. More revelations followed showing that he funneled lucrative business contracts to his own businesses, avoided taxes, took bribes and rigged bids. In February, the Thai Supreme Court ordered the confiscation of Thaksin's illegal fortune worth 46 billion baht (W1.61 trillion).

Thaksin has been roaming the world since being stripped of power at the end of 2006, and the anti-government protesters who have swept through the Thai capital want to see him return. At present, Thailand is in a virtual state of civil war as the red shirted anti-government protesters face off against citizens clad in yellow shirts supporting the incumbent government. Thaksin is leading his supporters, mostly poor farmers from northern and northeastern Thailand, via appearances on satellite broadcasts and through phone messages.

The reason why Thaksin's supporters long for his return despite his massive corruption scandals is that they have become hooked on his populist policies. After taking office, Thaksin rolled over farmers' debts for three years, provided state medical insurance to all Thais for a basic fee of just 30 baht (W1,050) and handed out 1 million baht (W35 million) to each village under the pretext of narrowing the income gap between city dwellers and farmers. The generous policies ended up emptying Thailand's state coffers. Thaksin was finally driven out of office as he faced mounting discontent among the middle class, who grew tired of the deteriorating quality of medical services despite rising taxes.

But low-income Thais had already become addicted to free handouts. There is no cure for a public that has become addicted to populist policies. Thailand is not the only country to experience such a problem. Argentina, which had almost reached advanced-country status in the late 1990s as well as other Latin American countries ended up falling back to Third World status after trying to meet the demands of citizens who had grown accustomed to populism.

In Korea, ruling and opposition parties are racing to come out with policies to win the hearts and minds of voters ahead of the June 2 regional elections. The Democratic Party has proposed using W1.5 trillion in taxpayer's money to provide free lunches to 5.48 million students, while the Grand National Party has produced nine policy goals aimed at helping the poor at a cost of W1.22 trillion in state spending. To those watching the red- and yellow-shirted protesters in Thailand, those pledges have an ominous ring.

englishnews@cho
sun.
.
.

แฉปูกินข้าว'บิ๊กมติชน' หลังปลดคู่กัดที่ตามจิก รุกนพดลปูดชื่อ'ตัวการ' รับสินบนบ.เหล้ามะกัน

ปชป.แฉ “ยิ่งลักษณ์” กินข้าวกับผู้บริหารสื่อ หลังปลด “ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์” จี้องค์กรสื่อตรวจสอบหวั่นการเมืองแทรก พร้อมบี้ “นพดล” ปูดชื่ออดีตผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง “สมัยทักษิณ” รับสินบนบริษัทเหล้าของสหรัฐที่มีสาขาในไทย อ้างหวั่นกระทบความน่าเชื่อรัฐบาลใหม่

วันที่ 30 ก.ค. 2554 เวลา 11.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เลิกจ้างนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ นักข่าวอาวุโส ที่เคยมีผลงานค้นคว้าข้อมูลเชิงลึก ตรวจสอบรัฐบาลทุกสมัยว่า หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเกิดจากการแทรกแซงทางการเมืองหรือไม่ เพราะนายประสงค์ เป็นผู้เสาะหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำให้การของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ที่เคยให้การต่อศาลในคดีซุกหุ้นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนำข้อมูลมาเสนอว่าเป็นจริงหรือเท็จอย่างไร ทั้งนี้หลังจากที่มีการเลิกจ้างนายประสงค์ ในวันรุ่งขึ้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ได้รับประทานอาหารร่วมกับผู้บริหารสำนักข่าวดังกล่าว และมีการปิดประตูคุยกันโดยไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมด้วย จึงถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ

“พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียกร้องให้องค์กรที่ดูแลการปฎิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนให้เป็นกลาง ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะประชาธิปไตยจะเดินหน้าได้ต้องมีการคุ้มครองสื่อมวลชนไม่ให้มีการแทรกแซงการทำงานของสื่อ”นพ.บุรณัชย์กล่าว

บี้ “นพดล” ปูดชื่ออดีตผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง “สมัยทักษิณ” รับสินบนบริษัทเหล้า ชี้กระทบความน่าเชื่อรัฐบาลใหม่

นพ.บุรณัชย์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมามีข่าวคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยข้อมูลเรื่องการทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยเมื่อปี 2548 โดยระบุว่ามีบุคคลคนหนึ่งรับเงินสินบนจากบริษัทสุรา ที่มีสาขาอยู่ในเมืองไทย คือบริษัท DP โดยสำนวนกล่าวหาได้ระบุชัดว่า รับเงินรวม 40 กว่างวด เป็นจำนวน 6 แสนเหรียญสหรัฐฯ หรือ 18.9 ล้านบาท ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องสำคัญต่อความน่าเชื่อถือทั้งของประเทศ และของรัฐบาลที่จะกลับเข้าสู่อำนาจ เพราะว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกันจากในอดีต

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ตนอยากถามไปยังนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอดีตรมว.ต่างประเทศ ที่ให้ข่าวสัมภาษณ์ในวันเดียวกันนี้ โดยยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะให้ความร่วมมือและปฏิเสธว่าบุคคลดังกล่าว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันกับผู้บริหารที่เป็นผู้สืบทอดอำนาจจากพ.ต.ท.ทักษิณ ตามที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐที่ได้ระบุว่าเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ และครม.ชุดนั้น ตนเห็นว่าจากการสัมภาษณ์ของนายนพดล แสดงว่านายนพดล ทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร ตนขอให้เปิดเผยชื่อออกมา  เพื่อสังคมจะได้นำเสนอข้อเท็จจริง และดูแลภาพพจน์ของประเทศในเรื่องนี้




Thaiinsider

"ประยุทธ์" ฟิวส์ขาดซัด นักวิชาการ-สื่อ-ทีวีทุกสี เรียงหน้ากระดาน



พล.อ.ประยุทธ์ันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า
ได้เพิ่มเงินชดเชยให้ผู้เสียชีวิตากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก3ลำที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระาน
ากปกติะได้ 4แสนบาท เป็น1.5 ล้านบาท กองทัพะดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมด
ให้อยู่บ้านพักไปก่อน และะบรรุลูกหรือภรรยาเข้ามาเป็นทหาร
รวมทั้งการดูแลลูกเรียนให้บถึงปริญญาตรี เท่าที่ะทำตามระเบียบราชการได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า หากคิดว่ามูลค่ายุทโธปกรณ์มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
ก็ไม่เท่ากับการสูญเสียชีวิตอยากเรียนให้สังคมทราบว่า
ที่ผ่านมากองทัพบกสั่งการให้กองทัพภาคที่ 1 ค้นหาตามหลักการ
เพราะกองพลทหารราบที่ 9 อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1
ใช้เครื่องมือที่มีอยู่ปัุบันที่ถือว่าทันสมัยที่สุด
และในประเทศอาเซียนก็ใช้อากาศยานเช่นนี้ ทั้งแบล็กฮอว์ก ฮิวอี้ และเบลล์ 212
สิ่งที่เราห้ามไม่ได้ คือ อุบัติเหตุ เรื่องลมฟ้าอากาศ
เราห้ามคนได้ ห้ามไม่ให้เครื่องบินขึ้นได้
ึงเป็นบทเรียนว่าวันข้างหน้าะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ต้องให้คณะกรรมการเข้าไปทดสอบดู เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้
เกิดากการทุริตในการัดซื้อัด้างถือเป็นคนละประเด็น
อย่าวิารณ์อย่างนั้น เพราะถ้าวิารณ์ต้องวิารณ์ทุกระบบของกองทัพบก
แม้แต่ในระบบของประเทศไทยก็ต้องผิดทั้งหมด ยืนยันว่าถ้าเป็นอย่างนั้นก็ผิดทั้งหมด

“นักวิชาการหลายคนรู้ทุกเรื่อง รู้เรื่องรบ เรื่องชายแดน เรื่องทหารก็รู้ นี่ ฮ.ตกยังรู้อีก
ซึ่งคนเดิมออกมาพูด แล้วผมถามกลับไปว่ารับผิดชอบอะไรหรือเปล่า
ถ้าไม่ใช่ ใคระรับผิดชอบ กองทัพบกเสียหาย
ประชาชนและสังคมเข้าใผิด กำลังพลกองทัพบกเสียขวัญ ใคระรับผิดชอบ
ผมถามว่าไอ้คนที่ออกมาพูดรับผิดชอบหรือไม่
หนังสือพิมพ์บางฉบับ ทีวีบางช่อง นักวิชาการบางคน
ผมไม่อยากพูด แต่ทำให้ผมกดดัน แล้วเราและประเทศชาติะอยู่อย่างไร
ถ้าท่านไม่มีเหตุผลเลย อยากพูดอะไรก็พูด ทำอะไรก็ทำ
เว็บไซต์เฟซบุ๊กวาสนา นาน่วม เขียนเสียหายมาก หนังสือพิมพ์ผู้ัดการ
และหนังสือพิมพ์บางฉบับอีกหลายเรื่อง ทีวีเอเอสทีวี ทีวีแดง บ้านเมืองเสียหาย
ำเป็นต้องออกมาพูด ถ้าประเทศไทย หรือคนไทยไม่เรียนรู้ว่า
ะอยู่ร่วมกันอย่างไรก็อย่าอยู่กันเลย เสียเวลาเปล่า
ดังนั้นต้องมีกติกา กฎหมายช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้ไปในวันข้างหน้าให้ได้
กองทัพบกต้องอยู่ ผมะอยู่หรือไม่ ผมไม่สนใ
แต่กองทัพบกต้องอยู่ด้วยชื่อเสียง เกียรติยศ กองทัพบกมีพันธะกิ4 ประการ
แต่ขอวิพากษ์วิารณ์ให้ถูกต้องมีหลักเกณฑ์ ทำอย่างไรที่ทำให้ผู้เสียชีวิตไม่เสียเปล่า คือ
การรักษาแผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลาน สิ่งที่กองทัพบกคิดเสมอคือ
การรักษาทรัพยากรให้ลูกหลาน หากในอนาคต ถ้าไม่ทำวันนี้ วันหน้าอยู่ไม่ได้”ผบ.ทบ.กล่าว

ตำนานคุณยิ่งลักษณ์ (The Yingluck Legacy) ต้องนับแต่วันแรก




วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ 
http://www.facebook.com/verapat.pariyawong

ภาพจาก REUTERS (Surapan Boonthanom)

ก่อนที่ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี หรือผู้นำประเทศคนใดจะก้าวลงจากตำแหน่ง เขาหรือเธอเหล่านั้นย่อมคิดในใจว่า ผลงาน หรือ  “Legacy” ของตนจะ “ตกทอด” ประหนึ่งมรดกทางการเมืองอันล้ำค่า หรือ “ตกค้าง” ดั่งพิษร้ายที่บ่อนทำลายประเทศ 

หากเรามอง “Legacy” ในแง่ดีเสมือน “ตำนาน” ที่เล่าขาน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่าง จอร์จ ดับเบิลยู. บุช คงถูกจำในฐานะผู้นำที่ส่งทหารไปต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายอย่างเข้มแข็ง เด็ดขาดและอาจหาญ ในขณะที่วันหนึ่งประธานาธิบดีโอบามาอาจถูกจดจำในฐานะผู้ถอนทหารกลับบ้านจากสงครามอย่างสำเร็จและปลอดภัย

อดีต ปธน. บุช ย่อมไม่อยากให้ใครกล่าวถึงเขาในฐานะผู้สั่งทรมานมนุษย์เพื่อล้วงข้อมูลการ ก่อการร้ายมาช่วยชีวิตทหารและคนของตนที่ตายไปมาก และ ปธน. โอบามา ย่อมแสลงใจหากใครจะนึกถึงเขาในฐานะผู้ใช้เครื่องบินรบไร้นักบิน (UAV หรือ drone – ควบคุมโดยมนุษย์จากระยะไกล) หากเครื่องจักรเหล่านี้ทำให้ประชาชนในบริเวณที่ถูกโจมตีเสียชีวิตไปมากกว่า การทำสงครามโดยทหารมนุษย์

คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะอาจ ถูกจดจำในฐานะผู้นำที่พาชาติผ่านวิกฤติเศรษฐกิจโลก จัดเก็บรายได้เข้าคลังจนประเทศมีเงินสำรองเป็นประวัติกาล และกล้ายุบสภาเพื่อต่อสู้ตามกติกา แต่คุณอภิสิทธิ์ก็ไม่อยากถูกหลอกหลอนโดยวิญญาณของ 91, 92 หรือ 93 ศพ หรืออีกหลายศพของทหารไทยที่ชายแดนกัมพูชา

ภาพจาก AFP

สำหรับคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วันหนึ่งอาจถูกจดจำในฐานะผู้ที่นำแห่งยุคปรองดองภายใต้ความจริงและกฎหมาย สลายอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ และเทิดทูนประชาธิปไตย หรือ คุณยิ่งลักษณ์อาจเป็นเพียงเผด็จการหน้าสวย ที่อวยประโยชน์ให้พวกพ้อง โดยท่องคาถาปรองดองที่ตนกุมไว้เด็ดขาด พร้อมสมยอมต่ออำมาตย์นอกระบบ 

เมื่อ คนที่บอกว่าตนรู้อนาคตคือคนโกหก และเมื่อความหวังของชาติขึ้นอยู่กับจิตใจของคนในชาติ ผู้เขียนจึงต้องฝากความหวังและกำลังใจไว้กับคุณยิ่งลักษณ์ดังนี้


1. นับแต่วันแรก คุณยิ่งลักษณ์ต้องเป็นผู้นำการปรองดองอย่างจริงใจ 

เมื่อ ประชาชนเลือกคุณยิ่งลักษณ์เป็นผู้นำ คุณยิ่งลักษณ์ต้องชัดเจนนับตั้งแต่การทำงานวันแรกว่าความปรองดองไม่ใช่ภาระ ของคณะกรรมการหรือหน่วยงานใดแต่ผู้เดียว (ซึ่งอาจต้องใช้เวลาทำงานเป็นปี)  แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน และต้องเริ่มต้นจากความจริงใจของตัวคุณยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยเองที่ได้ รับเสียงข้างมากจากประชาชน

การเปิดประชุมสภาวันแรกเป็นโอกาส อันดีที่คุณยิ่งลักษณ์จะส่งสัญญาณปรองดองอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่าคำพูด นโยบาย  หากคุณยิ่งลักษณ์เชื่อในการเมืองที่ปรองดอง บนพื้นฐานของความโปร่งใส ร่วมมือและรับฟังซึ่งกันและกัน

อย่าง น้อยที่สุด เรื่องตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น คุณยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยก็อาจขอให้พรรคฝ่ายค้านเสนอชื่อรองประธานสภา หนึ่งคนโดยพรรครัฐบาลลงมติสนับสนุน เป็นต้น  

(รัฐธรรมนูญ มาตรา 124 เปิดช่องให้สภามีมติแต่งตั้งประธานหนึ่งคนและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกสอง คน กฎหมายมิได้บังคับให้ผู้นำในสภาทั้งสามคนต้องมาจากพรรคฝ่ายรัฐบาลแต่อย่าง ใด)  

หลักการเดียวกันนี้สามารถนำ ไปใช้ในอีกหลายบริบท ไม่ว่าจะในระดับคณะกรรมาธิการของสภาก็ดี หรือแม้แต่การแต่งตั้งนักกฎหมายมหาชนและผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้าไปสนับสนุนการ ทำงานของคณะกรรมการอิสระชุดใดก็ดี หรือเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการตรวจสอบรัฐบาล เช่น การคงตำแหน่งของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไว้ก็ดี ฯลฯ


2. นับแต่วันแรก คุณยิ่งลักษณ์ต้องสนับสนุนคณะกรรมการอิสระฯ อย่างจริงจัง  

คุณ ยิ่งลักษณ์ให้คำมั่นสัญญาว่าการปรองดองจะอาศัยกลไกสำคัญคือ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ซึ่งศาสตราจารย์ ดร. คณิต ณ นคร เป็นประธาน และคุณยิ่งลักษณ์สัญญาว่าจะ “เพิ่มอำนาจ” ให้

แต่ผู้เขียนย้ำว่าการสนับสนุนโดยตัวคุณยิ่ง ลักษณ์หรือรัฐบาลเอง เช่น การประกาศนโยบายต่อสภาเป็นการทั่วไป หรือใช้อำนาจฝ่ายบริหารที่สุดท้ายยุบได้โดยฝ่ายบริหาร (เช่น โดยระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี) นั้นไม่เพียงพอต่อคำมั่นสัญญา

ใน การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก หากคุณยิ่งลักษณ์ต้องการแสดงความจริงใจอย่างเป็นรูปธรรมว่าคณะกรรมการฯจะได้ รับความร่วมมือจากข้าราชการทุกภาคส่วน ก็เป็นโอกาสอันดีที่คุณยิ่งลักษณ์จะได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีมีมติคณะรัฐมนตรี ที่มีผลผูกพันหน่วยงานราชการ เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงข้อมูลหรือเชิญเจ้าหน้าที่มาให้ปากคำ ตลอดจนเรื่องงบประมาณหรือช่องทางที่จะนำผลการดำเนินงานมารายงานต่อสังคม

นอก จากนี้ เมื่อคณะกรรมการฯ มิได้มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน คุณยิ่งลักษณ์ต้องช่วยนำแรงสนับสนุนจากผู้แทนของปวงชนมาสู่คณะกรรมการฯ เช่น ประสานกับสภาเพื่อตราพระราชบัญญัติกำหนดอำนาจหน้าที่และกระบวนการสนับสนุน การปรองดอง หรืออย่างน้อยในขั้นแรกก็คือการประสานให้มี “มติสนับสนุนของสภา” ที่ผู้แทนทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภาต่างลงมติเป็นการทั่วไปอย่างน้อยก็เพื่อเป็นสัญลักษณ์สนับสนุน ความชอบธรรมของกระบวนการปรองดองอย่างชัดแจ้ง

(รัฐธรรมนูญ มาตรา 127 วรรคสี่อนุญาตให้รัฐสภาสามารถ “มีมติพิจารณาเรื่องอื่นใด” ได้)

ยิ่ง ไปกว่านั้น ในวันแรกที่คุณยิ่งลักษณ์แถลงนโยบาย คุณยิ่งลักษณ์ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชนที่กล้าเรียกร้องให้ผู้แทนทั้ง สองสภาแสดงความจริงใจในการปรองดอง โดยทำงานอย่างขันแข็ง เข้าประชุมพร้อมเพรียงและไม่พิงเก้าอี้นุ่มในห้องแอร์เพียงสัปดาห์ละไม่กี่ วัน แต่หมั่นลงพื้นที่และร่วมเวทีเพื่อรับฟังแนวคิดการปรองดองจากประชาชน เพื่อให้พระราชบัญญัติหรือมติของสภา หรือแม้แต่ข้อมูลจากประชาชนที่สนับสนุนงานของคณะกรรมการฯ ได้รับการพิจารณาและปรากฏผลอย่างเร่งด่วน


3. นับแต่วันแรก คุณยิ่งลักษณ์ต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

คุณยิ่งลักษณ์ต้องยึดมั่นใน “หลักนิติธรรม” หรือ “Rule of Law” ที่พร่ำสัญญาไว้

“หลัก นิติธรรม” ต้องเป็นมากกว่าคำสวยหรูที่หยิบมาอ้างจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 และต้องเป็นหลักการสูงสุดในการปรองดองและบริหารประเทศ เพื่อมิให้การปรองดองเป็นเพียงการปลอกและดองกติกาไว้ขณะผู้มีอำนาจจัดสรร ประโยชน์ระหว่างกัน

ในฐานะนักกฎหมาย ผู้เขียนย้ำว่า หลักนิติธรรมนั้น มิได้แปลว่าสิ่งใดหากมีกฎหมายบอกไว้อย่างเสมอภาคสิ่งนั้นจะถูกต้องเป็นธรรมเสมอไป กล่าวคือ นิติธรรมไม่ใช่ นิติทำ ไม่ใช่ว่ามีกฎหมายเท่าเทียมกันแล้วจะทำอะไรก็ได้

หาก จะแปล “หลักนิติธรรม” หรือ “Rule of Law” ตามรัฐธรรมนูญไทยให้ชัด อย่างน้อยต้องแปลความรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ให้ครบถ้วนทั้งมาตรา กล่าวคือ “หลักนิติธรรม” ต้องควบคู่กับ “หลักอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน” และ “หลักการแบ่งใช้อำนาจ”

หลักการเหล่านี้อาจเรียกว่า “หลักนิติธิปไตย” ซึ่งหมายถึง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ปวงชนเป็นใหญ่ ย่อมต้องปกครองด้วยกฎหมายที่เคารพเจตจำนงและสิทธิเสรีภาพของปวงชน มีการแบ่งแยกการใช้อำนาจของปวงชนตามกฎหมายอย่างสมดุล อีกทั้งสอดคล้องกับหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรและ ประเพณีการปกครอง

และต้องมิใช่กฎหมายที่สร้างขึ้นโดยผูกขาด ไม่ว่าจะโดยอำนาจบริหารที่ขาดการตรวจสอบ อำนาจเผด็จการทางรัฐสภา หรืออำนาจตุลาการที่ตีความกฎหมายอย่างไร้มาตรฐาน และต้องมิใช่การอาศัยเสียงข้างมากกดขี่สิทธิพื้นฐานของเสียงข้างน้อย (กล่าวคือต้องเคารพทั้ง majority rules และ minority rights)

(อนึ่ง “หลักนิติธิปไตย” ดังกล่าวย่อมมีสาระใกล้เคียงกับ “หลักนิติธรรม” ตามแนวคิดแบบอังกฤษหรือ “หลักนิติรัฐ” ตามแนวคิดภาคพื้นยุโรป ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมคำอธิบายเรื่องไว้ที่ https://sites.google.com/site/verapat/rule-of-law)

ยก ตัวอย่างให้ชัด สมมติวันหนึ่งมีการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดบางกลุ่มอย่างเสมอ ภาคถ้วนหน้า ก็มิได้แปลว่าการนิรโทษกรรมนั้นจะชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ทันที

แต่ ต้องพิจารณาถึงหลักนิติธิปไตยให้ถ่องแท้ อาทิ กฎหมายดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดความแตกแยกหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยซึ่งตรง กันข้ามกับเจตจำนงของประชาชนในการปรองดองหรือไม่ และเป็นการบั่นทอนอำนาจฝ่ายบริหารในการบังคับใช้กฎหมายหรืออำนาจตุลาการใน การพิจารณาคดีจนทำให้การแบ่งใช้อำนาจเสียสมดุลหรือไม่ ทั้งนี้ร่างหรือกฎหมายนิรโทษกรรมดังกล่าวย่อมสามารถถูกตรวจสอบได้โดยศาลรัฐ ธรรมนูญซึ่งมีอำนาจตีความให้ร่างหรือกฎหมายดังกล่าวตกไปได้

ใน ทางตรงกันข้าม หากกระบวนการปรองดองหมายถึงการอาศัยประชามติเพื่อเยียวยาแก้ไขการลงโทษอย่า งอยุติธรรมที่สืบผลมาจากความไม่ชอบธรรมของอำนาจนอกระบบอันไม่ได้มาจากเจต จำนงของประชาชน อันเป็นการกดขี่คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด อีกทั้งลุแก่หลักสมดุลแห่งการใช้อำนาจ ซึ่งล้วนไม่ชอบด้วยหลักนิติธิปไตยมาแต่ต้น ย่อมถือเป็นกรณีการปรองดองที่ต่างจากตัวอย่างการนิรโทษกรรมที่กล่าวมาอย่าง สิ้นเชิง

นอกจากนี้ คุณยิ่งลักษณ์จะพูดถึงหลัก “นิติธรรม” เพียงเฉพาะเรื่องปรองดองหรือนิรโทษกรรมไม่ได้ แต่คุณยิ่งลักษณ์ต้องยึดหลักการดังกล่าวอย่างเสมอต้นแสมอปลายในทุกเรื่อง ทุกที่ และทุกเวลา

ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจในการปรับคณะ รัฐมนตรีเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของฝ่ายบริหาร ดั่งที่เคยมีนายกรัฐมนตรีตั้ง “กฎเหล็ก 9 ข้อ” ไว้ หรือการเร่งรัดสนับสนุนมาตรการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ อาทิ เรื่องภาษีที่ดิน ที่เคยมีรัฐมนตรีกระทรวงการคลังผลักดันเข้าสภาได้สำเร็จ หรือการใช้กฎหมายสนับสนุนประสิทธิภาพของศาล ดังที่อดีตประธานศาลฎีกาท่านหนึ่งเคยให้ผู้พิพากษาเพิ่มเวลาทำงานเพื่อช่วย กันพิจารณาคดีที่มีค้างในศาลเป็นจำนวนมาก หรือแม้แต่การบังคับใช้กฎหมายเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของผู้หญิงไทยในสายตาชาว ต่างชาติ โดยปราบปรามแหล่งมั่วสุมที่กลาดเกลื่อนทั่วประเทศและโจษจันจนขายหน้าไปทั่ว โลก ฯลฯ

ที่สำคัญ หากคุณยิ่งลักษณ์เชื่อในหลักการเหล่านี้จริง นับแต่วันแรกที่แถลงนโยบายต่อสภา คุณยิ่งลักษณ์ต้องแสดงความกล้าหาญในฐานะผู้นำในระบอบประชาธิปไตยที่ปฏิเสธ ลัทธิรัฐประหารอย่างสิ้นเชิง และไม่ปล่อยให้ใครกล้าตบเท้าทับรัฐธรรมนูญและตบหน้าประชาชนได้

ใน วันเลือกตั้ง 3 ก.ค. ยังมีสมาชิกวุฒิสภาท่านหนึ่งให้สัมภาษณ์ทำนองว่า “การปฏิวัติ” (รัฐประหารยึดอำนาจ) ยังเป็นทางเลือกในสังคมไทย อีกทั้งกล่าวเชิงข่มขู่ว่า “แม้ทหารทุกคนไม่มีใครอยากจะปฏิวัติแต่ถ้ามีปัจจัย…ทหารก็จะต้องมาทบทวน บทบาทกันอีกครั้ง”

เมื่อมีผู้ดูถูกเหยียบหยามการตัดสินใจของ ปวงชนและรัฐธรรมนูญเช่นนี้ อย่างน้อยที่สุดคุณยิ่งลักษณ์และผู้แทนปวงชนในสภาต้องออกมาร่วมกันประณาม บุคคลดังกล่าว และไม่ปล่อยให้การปรามาสสติปัญญาทางประชาธิปไตยของปวงชนเป็นเรื่องปกติอีก ต่อไปในสังคมไทย

แม้วันนี้คุณยิ่งลักษณ์จะยังไม่ได้ เป็นนายกรัฐมนตรี และอาจกำลังสาละวนอยู่กับเก้าอี้ดนตรีและร่างนโยบายที่จะแถลงต่อสภา แต่ขอฝากให้คุณยิ่งลักษณ์คิดให้หนักแน่นว่า สิ่งต่างๆที่คุณยิ่งลักษณ์ลงมือทำนับแต่วันแรกจะเป็นเครื่องวัดว่าในวันสุด ท้าย ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะ ถูกขานเป็นตำนานจากชั้นตำราประถมไปถึงบทกวีในพิพิธภัณฑ์ หรือจะเหลือเพียงชื่ออันเจ็บปวดที่ประชาชนคนไทยลืมไม่ลงแม้ไม่อยากจะนึกถึง ก็ตาม

ภาพจาก REUTERS

หมายเหตุ
บทความนี้เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2554

ข้อมูลเกี่ยวกับเกี่ยวกับ “นิติรัฐ-นิติธรรม” รวบรวมไว้ที่
https://sites.google.com/site/verapat/rule-of-law

คนเดียวที่ถูกหย่อนออกไปจากเครื่องบิน ทำให้คน 63 ล้านคนมีความสุข

  by เคียงดิน ,



ขอบคุณภาพจาก http://fightorwaittogetkill.files.wordpress.com/2010/05/face.jpg?w=350&h=347


บนเครื่องบินลำหนึ่ง มีทักษิน และพวกพ้อง คือ จตุพอน เหวง และนัฐวุฒิ ได้เดินทางไปสถานที่แห่งหนึ่ง
 และระหว่างกำลังบินผ่านเมืองใหญ​่แห่งหนึ่งทางภาคอีสาน
เหวงเกิดนึกสนุกขึ้นมา ก็เลยเอาธนบัตรใบละหนึ่งพันในกร​ะเป๋าจำนวน 1 ใบหย่อนออกจากเครื่องบิน
โดยหลังจากหย่อนเสร็จแล้ว ก็ หันกลับไปบอกลูกพี่ว่า เห็นไหมธนบัตรใบละพันบาทที่หย่อ​นลงไป 1 ใบ คงจะทำให้คนที่เก็บได้มีความสุข​ 1 คน
ลูกพี่ก็ตอบกลับมาว่า เอ่อ ทำดีแล้ว
นัฐวุฒิเห็นเหวงเสนอหน้าต่อลูกพี่ ก็เกรงว่าผลงานจะน้อยหน้า ก็เลยหยิบธนบัตรใบละ ร้อยบาทในกระเป๋าจำนวน 10 ใบออกมา
แล้วหย่อนธนบัตรใบละ ร้อยบาททั้ง 10 ใบออกจากเครื่องบิน โดยหลังจากหย่อนเสร็จแล้วก็หันกลับไปบอกลูกพี่ว่า
 เห็นไหมธนบัตรที่หย่อนลงไป 10 ใบ คงจะทำให้คน 10 คนที่เก็บได้มีความสุข
ลูกพี่ก็ตอบกลับมาว่า เอ่อ ทำดีแล้ว
จตุพอน เห็นเหวงและนัฐวุฒิหย่อนธนบัตรแ​ล้วได้รับคำชมจากลูกพี่
ก็เกรงกว่าผลงานจะน้อยหน้า ก็จึงหยิบธนบัตรใบละ 20 บาท จำนวน 50 ใบในกระเป๋ามาหย่อนออกจากเครื่อ​งบิน
โดยหลังจากหย่อนเสร็จแล้ว ก็ หันกลับไปบอกลูกพี่ว่า เห็นไหมธนบัตรที่หย่อนลงไป 50 ใบ คงจะทำให้คน 50 คนที่เก็บได้มีความสุข
ลูกพี่ก็ตอบกลับมาว่า เอ่อ ทำดีแล้ว
สักพักหนึ่งพนักงานขับเครื่องบิ​น ได้ยินลูกน้องทั้งสามคนทำอย่างไ​รนี้ แล้วได้รับคำชม
จึงลุกออกจากที่นั่งคนขับ โดยปล่อยให้เครื่องบินบินในระบบ​อัตโนมัติ แล้วเดินมาที่บริเวณทักษินนั่ง
หลังจากนั้นก็ถีบทักษินกระเด็นอ​อกนอกเครื่องบิน
แล้วหันกลับไปถามลูกน้องสามคนที่่ยังอยู่ในเครื่องบินว่า
เห็นไหม คนเดียวที่ถูกหย่อนออกไปจากเครื่องบิน ทำให้คน 63 ล้านคนมีความสุข
 จตุพอน เหวง และนัฐวุฒิ !!!!
................
จบข่าว เพื่อนเอามาเล่าในเฟสบุ๊ค จึงเอามาเล่าต่อ ขอให้เป็นจริง ฮ่าๆ
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง