ในบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์โชซุนอิลโบ เรื่อง “ระวังประชานิยม” เกริ่นถึงสถานการณ์การเมืองในไทย ว่า กลุ่มผู้ประท้วงเกิดปะทะกับทหารเมื่อวันเสาร์ (10) จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 ราย และบาดเจ็บ 870 คน หลังจากรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน
บทบรรณธิการนี้ ย้อนความว่า ความรุนแรงระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก โดยเมื่อเดือนเมษายนปีก่อน ผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้บุกเข้าไปยังสถานที่จัดประชุมอาซียนซัมมิต +3 เป็นเหตุให้ต้องยกเลิกการประชุม และผู้นำประเทศ 16 ชาติ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงประธานาธิบดี ลีเมียงบัค ต้องขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อหลบหนีออกมาโดยเฮลิคอปเตอร์
บรรณาธิการของโชซุนอิลโบ ชี้ว่า ศูนย์กลางของผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาล คือ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งในปี 2001 และได้รับเลือกให้กลับมาอีกครั้งในปี 2005 แต่ในเดือนมกราคม 2006 เขาและครอบครัวขายหุ้นของบริษัทเทเลคอมแห่งหนึ่งมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปให้แก่บริษัทเพื่อการลงทุนแห่งรัฐของสิงคโปร์โดยปราศจากการจ่ายภาษี!!
แต่ที่ปรากฏตามออกมา นั่นคือ มันยังแสดงให้เห็นว่าเขาใช้ตำแหน่งหน้าที่สร้างความมั่งคั่งแก่ธุรกิจของตนเอง หลีกเลี่ยงภาษี รับสินบน และฉ้อฉลการประมูล โดยในเดือนกุมภาพันธ์ ศาลฎีกาของไทย พิพากษายึดทรัพย์ที่ผิดกฎหมายของเขาเป็นเงินกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท
ทักษิณ พเนจรไปทั่วโลก นับตั้งแต่ถูกรัฐประหารโค่นล้มอำนาจในปี 2006 ขณะที่ผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเคลื่อนขบวนไปทั่วเมืองหลวง เพียงเพราะต้องการเห็นเขากลับมา จนทำให้ประเทศกำลังกลายเป็นรัฐแห่งสงครามกลางเมือง ทั้งนี้ ทักษิณ เป็นผู้นำกลุ่มสนับสนุนเขาซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวนาคนยากจนทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศผ่านทางทีวีดาวเทียม และข้อความโทรศัพท์มือถือ
โชซุนอิลโบ ระบุว่า เหตุผลที่ผู้สนับสนุนทักษิณ ต้องการเห็นเขากลับมา แม้อดีตนายกรัฐมตนตรีรายนี้คอร์รัปชันอย่างมโหฬาร เพราะพวกเขาถูกล่อด้วยนโยบายประชานิยม โดยหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่ง ทักษิณ พักชำระหนี้เกษตร 3 ปี มอบสิทธิรักษาในสถานพยาบาลของรัฐในราคา 30 บาท มอบเงินทุน 1 ล้านบาทให้แก่แต่ละหมู่บ้านภายใต้ข้ออ้างขยับช่องว่างรายได้ระหว่างผู้อยู่อาศัยในเมืองและชาวนา
อย่างไรก็ตาม นโยบายที่ดูแสนจะกรุณานั้นจบลงที่เงินทุนในคลังของรัฐเหือดหายลงไป สุดท้ายแล้ว ทักษิณ ก็ถูกขับออกจากตำแหน่งหลังต้องเผชิญความไม่พอใจอย่างรุนแรงจากคนชั้นกลาง ผู้ที่รู้สึกเหนื่อยหน่ายต่อคุณภาพการรักษาที่เสื่อมทรามลงไปทั้งที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น
ทว่า อีกด้านหนึ่งคนไทยที่มีรายได้น้อยได้เสพติดสิ่งที่ได้มาเปล่าๆ เสียแล้ว และไม่มีวิธีเยียวยาประชาชนจากการเสพติดนโยบายประชานิยม ทั้งนี้ ไทยไม่ใช่ประเทศเดียวที่เจอกับปัญหานี้
อาร์เจนตินาที่เคยเป็นรัฐเจริญที่สุดชาติหนึ่งในบรรดาประเทศละตินอเมริกาในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 สุดท้ายก็จบลงด้วยการกลับสู่สถานะโลกที่ 3 หลังจากพยายามทำตามความต้องการของประชาชนที่เคยชินนโยบายประชานิยมอย่างไม่สามารถถอนตัวได้
บรรณาธิการของโชซุนอิลโบ ปิดท้ายว่า ในเกาหลีใต้ พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดด้วยนโยบายที่หวังชนะใจประชาชนก่อนหน้าศึกเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 2 มกราคม โดยพรรคเดโมแครตปาร์ตี เสนอใช้เงินภาษีจำนวน 1.5 ล้านล้านวอน มอบสิทธิ์เรียนฟรีแก่นักเรียน 5.48 ล้านคน ขณะที่พรรคแกรนด์ เนชันแนล ปาร์ตี ออกนโยบาย 9 ข้อ มีเป้าหมายนำเงินรัฐกว่า 1.22 ล้านวอนมาช่วยคนยากจน ซึ่งทั้งสองพรรคการเมืองควรดูเหตุประท้วงในไทยเป็นกรณีศึกษา เพราะนโยบายประชานิยมเป็นเสมือนแหวนแห่งลางร้าย
.
.
--------------------------------
ต้นฉบับภาษาอังกฤษ
The chosun Ilbo news (click!!)โชซุลอิลโบ
Beware of Populism
Protesters clashed with soldiers in Bangkok on Saturday in a standoff that killed 21 people and injured around 870 after the Thai government had announced a state of emergency. In April last year, anti-government protesters stormed into the conference venue of the ASEAN+3 Summit causing the high-profile meeting to be cancelled, and 16 heads of state, including Korean President Lee Myung-bak, had to be airlifted to safety from the rooftop. In December, 2008, an ASEAN foreign ministers' meeting in Thailand had to be canceled due to protests.
At the center of anti-government protests is former Thai Prime Minister Thaksin Shinawatra. He became prime minister in 2001 and was re-elected in 2005. But in January of 2006, his family was sold US$1.9 billion worth of shares in a telecom company to Singapore's state investment company without paying any taxes. More revelations followed showing that he funneled lucrative business contracts to his own businesses, avoided taxes, took bribes and rigged bids. In February, the Thai Supreme Court ordered the confiscation of Thaksin's illegal fortune worth 46 billion baht (W1.61 trillion).
Thaksin has been roaming the world since being stripped of power at the end of 2006, and the anti-government protesters who have swept through the Thai capital want to see him return. At present, Thailand is in a virtual state of civil war as the red shirted anti-government protesters face off against citizens clad in yellow shirts supporting the incumbent government. Thaksin is leading his supporters, mostly poor farmers from northern and northeastern Thailand, via appearances on satellite broadcasts and through phone messages.
The reason why Thaksin's supporters long for his return despite his massive corruption scandals is that they have become hooked on his populist policies. After taking office, Thaksin rolled over farmers' debts for three years, provided state medical insurance to all Thais for a basic fee of just 30 baht (W1,050) and handed out 1 million baht (W35 million) to each village under the pretext of narrowing the income gap between city dwellers and farmers. The generous policies ended up emptying Thailand's state coffers. Thaksin was finally driven out of office as he faced mounting discontent among the middle class, who grew tired of the deteriorating quality of medical services despite rising taxes.
But low-income Thais had already become addicted to free handouts. There is no cure for a public that has become addicted to populist policies. Thailand is not the only country to experience such a problem. Argentina, which had almost reached advanced-country status in the late 1990s as well as other Latin American countries ended up falling back to Third World status after trying to meet the demands of citizens who had grown accustomed to populism.
In Korea, ruling and opposition parties are racing to come out with policies to win the hearts and minds of voters ahead of the June 2 regional elections. The Democratic Party has proposed using W1.5 trillion in taxpayer's money to provide free lunches to 5.48 million students, while the Grand National Party has produced nine policy goals aimed at helping the poor at a cost of W1.22 trillion in state spending. To those watching the red- and yellow-shirted protesters in Thailand, those pledges have an ominous ring.
englishnews@chosun.
.
.