บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

ตรรกะเพี้ยนๆของนิติราษฎร์


1. นิติราษฎร์ เสนอให้พระมหากษัตริย์ต้องสาบานพระองค์ก่อนขึ้นครองราชย์

นี่คือความคิดที่เอาไปเปรียบเทียบกับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐแหงๆ


โถๆ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกศักดิ์สิทธิยิ่งกว่าคำสาบานธรรมดาๆแบบที่สติปัญญาน้อยๆของพวกนิติราษฎร์จะคิดได้


เรื่องนี้ฟังสว.คำนูณ ชี้แจงดีกว่าชัดเจนจริงๆ ว่าในหลวงได้ทรงสาบานตนต่อประชาชนแล้ว ไปอ่านได้ที่
http://astv.mobi/AR1tQAv

แล้วตำแหน่งประธานาธิบดี ไม่อาจมาเปรียบเทียบกับพระมหากษัตริย์ได้เลย การคิดมาเปรียบเทียบเท่ากับหมิ่นพระเกียรติแท้ๆ


แนะนำอ่าน
ตำแหน่งประธานาธิบดีฐานันดรเทียบเท่านายกรัฐมนตรีเท่านั้น





2.
ปิยบุตร แสงกนกกุล เสนอแนวคิด ห้ามพระมหากษัตริย์มีพระราชดำรัส(สด)ต่อสาธารณะชน

ตรรกะนี้เพี้ยนสุดๆ มนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธิพูดในที่สาธารณะได้


แต่อยู่ๆ
ปิยบุตร นิติราษฎร์ กลับมาลดสิทธิอันชอบธรรมของพระมหากษัตริย์ให้เหลือน้อยกว่าคนธรรมดา?

ถ้าปิยบุตรไม่ใช่คนโง่และเลว คิดไม่ได้นะนี่ตรรกะเลวๆเพี้ยนๆแบบนี้





แนะนำอ่าน
ปิยบุตร ก๋งเมิงเตี่ยเมิงเป็นใคร?



3.
นิติราษฎร์ชอบอ้างว่ามาตรา112 ถูกใช้ในการใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง

โถๆ ใครถูกใส่ร้ายป้ายสีก็สู้คดีด้วยหลักฐานพยานกันไปสิ กระบวนการยุติธรรมมีอยู่ ถ้าคิดว่ากฏหมายมีไว้เพื่อใส่ร้ายป้ายสี แล้วจะมาคิดล้มกฏหมายทิ้ง


ต่อไปใครถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตาย ก็คงต้องยุบกฏหมายหมวดฆาตกรรมทิ้งด้วยเหรอ?
คิดสิคิด

ใครใส่ร้ายผู้อื่น กฏหมายก็ให้ฟ้องกลับเอาผิดได้ แจ้งความเท็จก็ผิดกฏหมายอยู่แล้ว มาตรา112 ไม่ได้จำกัดการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมสักหน่อย พวกนิติราษฎร์แถได้เลวแท้



4.
นิติราษฎร์ อ้างเหลือเกินเรื่องสิทธิเสรีภาพแสดงความคิดเห็น

เพราะนิติราษฎร์มันไม่ยอมรับการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ พวกมันพยายามจะลดสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ลงมาเป็นเพียงบุคคลธรรมดาเท่านั้น


เพราะถ้าเป็นสถาบันหลักของชาติ พวกมันย่อมลบหลู่ดูหมิ่นไม่ได้ แต่เพราะพวกมันอยากลบหลู่ดูหมิ่น มันเลยอยากแก้มาตรา112 แล้วอ้างสิทธิเสรีภาพบังหน้า





5.
นายวรเจตน์ วรนุส พูดไว้ว่า

"เพราะ ผมเป็นนักเรียนทุนอานันทมหิดลนี่แหละครับ ผมจึงต้องออกมาเคลื่อนไหว สิ่งที่ผมทำอยู่คือการตอบแทน กตัญญูต่อผู้ที่ให้ทุนอานันทมหิดลแก่ผม ที่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมไม่รู้ว่านักเรียนคนอื่น ๆ ที่ได้ทุนนี้มีจินตนาการเรื่องนี้อย่างไร แต่สำหรับผมแล้ว สิ่งที่ผมทำก็เพื่อความดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์สืบไป ผมชัดเจนเสมอว่าผมต้องการรัฐธรรมนูญในประเทศที่เป็นราชอาณาจักร"


โถๆ โกหกอย่างหน้าด้านๆเลยนะ วรเจตน์ วรนุส เพราะความจริงสถาบันกษัตริย์จะคงอยู่ได้อย่างมั่นคงเพราะมีมาตรา112 เหมือนเดิมนี่แหล่ะ มีแต่พวกอยากล้มเจ้าเท่านั้นที่อยากแก้มาตรานี้


สิ่งที่วรเจตน์ วรนุสพูดน่ะ เอาไว้หลอกควายแดงเถอะนะ วรเจตน์ วรนุส







‘นิติราษฎร์’ เสนอโรดแมปร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งคณะกรรมการร่าง 25 คน ใช้เวลา 9-10 เดือน



ที่หอประชุมศรีบูรพา (หอประชุมเล็ก) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ตัวแทนนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ เสนอโมเดลการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมีเนื้อหา 2 ประเด็น คือ หนึ่ง วิธีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และสอง คือ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรจะมีหน้าตาอย่างไร
นิติราษฎร์

วิธีการจัดทำรัฐธรรมนูญ

คณะกรรมการจัดทำรัฐธรรมนูญ
แก้ไขรัฐธรรมนูญปัจจุบันเพื่อเปิดทางให้มีการตั้งองค์กรที่จัดทำรัฐ ธรรมนูญ เรียกว่า “คณะจัดทำรัฐธรรมนูญนิติรัฐและประชาธิปไตย” มีสถานะเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
“คณะจัดทำรัฐธรรมนูญนิติรัฐและประชาธิปไตย” ประกอบด้วยกรรมการ 25 คน
คุณสมบัติของกรรมการคือต้องไม่เป็น ส.ส. หรือ ส.ว. หรือข้าราชการการเมือง
วิธีการเลือกรรมการ ให้สภาผู้แทนเลือก 20 คน วุฒิสภาเลือก 5 คน
  • สภาผู้แทนราษฎร เลือกกรรมการ  20 คน โดยแบ่งตามอัตราส่วนของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละพรรคการเมืองและ กลุ่มพรรคการเมืองที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร
  • วุฒิสภา เลือกกรรมการ 5 คน โดย 3 คนมาจากการเลือกของสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้ง และ 2 คนมาจากสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการสรรหา
  • การแบ่งให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเลือกกรรมการตามสัดส่วนจำนวนดัง กล่าว คำนวณจากฐานจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน และสมาชิกวุฒิสภา 150 คน โดยให้ความสำคัญกับสภาผู้แทนราษฎรมากกว่าวุฒิสภา และให้ความสำคัญสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งมากกว่าสมาชิกวุฒิสภาที่ มาจากการสรรหา
หลังจากออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ ให้คณะจัดทำรัฐธรรมนูญนิติรัฐและประชาธิปไตยพ้นจากตำแหน่ง
คณะจัดทำรัฐธรรมนูญนิติรัฐและประชาธิปไตย
ปิยบุตร แสงกนกกุล หนึ่งในคณะนิติราษฎร์ให้ข้อมูลว่า รูปแบบที่นิติราษฎร์เสนออาจจะไม่ถูกใจคนที่คาดหวังเรื่องการมีส่วนร่วมขนาด ใหญ่ หรือรูปแบบสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ปี 2540 แต่รูปแบบที่นิติราษฎร์เสนอนั้น เป็นการศึกษาจากการร่างฯ ทั่วโลกซึ่งยอมรับว่า คณะกรรมการขนาดใหญ่ไม่สามารถดำเนินการร่างฯ รัฐธรรมนูญได้สัมฤทธิ์ผล ถึงที่สุดก็ต้องมีการจัดทำโดยคณะทำงานที่เป็นกลุ่มย่อยลงไปอีก
“ไอเดียสภาร่างฯ แบบไทยเกิดขึ้นเพราะรังเกียจนักการเมือง เป็นมายาคติที่เกลียดนักการเมือง บอกว่าเดี๋ยวเขียนเองก็เข้าข้างนักการเมือง และอีกประการหนึ่งคือ ต้องการถ่วงเวลา”  ปิยบุตรกล่าวและว่าเขาเห็นว่าโมเดลแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญนั้นมีจุดอ่อนคือ ความล่าช้า ถูกเตะถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ
กระบวนการยกร่างและจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
การยกร่างและจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้คณะจัดทำรัฐธรรมนูญนิติรัฐและประชาธิปไตยดำเนินการตามกระบวนการและขั้น ตอนภายในระยะเวลา ดังต่อไปนี้
  • กำหนดกรอบการยกร่างรัฐธรรมนูญ – 30 วัน
  • รับฟังความคิดเห็น – 60 วัน
  • ยกร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา – 60 วัน
  • นำร่างรัฐธรรมนูญเข้าสู่รัฐสภาเพื่อรับฟังความเห็นและอภิปรายรายมาตรา แต่ไม่อาจแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญได้ ในกรณีที่มีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ให้วุฒิสภาทำหน้าที่เป็นรัฐสภา – 60 วัน
  • นำความเห็นของรัฐสภากลับไปพิจารณาแก้ไข – 30 วัน
  • นำร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนศึกษาและรณรงค์ก่อนออกเสียงประชามติ – 30 วัน
  • ประชาชนออกเสียงประชามติ ในฐานะประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ผลการออกเสียงประชามติให้ถือเป็นเด็ดขาด
  • พระมหากษัตริย์ทรงประกาศใช้รัฐธรรมนูญ โดยมีประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
  • รวมระยะเวลาทั้งสิ้นประมาณ 9-10 เดือน

กรอบเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับนิติราษฎร์

กรอบเนื้อหาโดยสังเขปของรัฐธรรมนูญตามความคิดของคณะนิติราษฎร์ มีดังต่อไปนี้
รัฐธรรมนูญและเอกสารทางการเมืองที่ใช้เป็นพื้นฐานของการจัดทำรัฐธรรมนูญ
  • พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475, รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475, รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489 และอาจนำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 254๐ ในส่วนของการประกันสิทธิและเสรีภาพ ตลอดจนโครงสร้างสถาบันการเมืองและองค์กรทางรัฐธรรมนูญเท่าที่สอดคล้องกับ พัฒนาการในยุคร่วมสมัย
  • ประกาศคณะราษฎร
  • ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declarati0n 0f Human Rights) ลงวันที่ 1๐ ธันวาคม 1948 ของสหประชาชาติ
คำปรารภของรัฐธรรมนูญ
  • การอภิวัฒน์ 24 มิถุนายน 2475
  • ความเลวร้ายของรัฐประหารอันก่อให้เกิดวงจรอุบาทว์ในการเมืองไทย
  • การหวนกลับไปหาเจตนารมณ์ของคณะราษฎร และอุดมการณ์ประชาธิปไตยแบบคณะราษฎร
  • ประกาศหลักการพื้นฐานของราชอาณาจักรไทย
ประเด็นเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญฉบับนิติราษฎร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิรูป “สถาบันกษัตริย์ – ศาล – กองทัพ –สถาบันการเมือง” ให้สอดคล้องกับประชาธิปไตยและนิติรัฐ ดังนี้
1. หลักราชอาณาจักร
  • ประมุขของรัฐ คือ พระมหากษัตริย์
  • ปฏิรูปกฎเกณฑ์เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
  • จัดวางโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประมุขของรัฐกับองค์กรผู้ใช้อำนาจอื่นๆ
2. หลักประชาธิปไตย
  • อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของประชาชน
  • อำนาจสูงสุดของประชาชนเป็นฐานแห่งอำนาจของระบบการปกครองประเทศและองค์กรผู้ใช้อำนาจทั้งหลาย
  • เจตจำนงของประชาชนแสดงออกโดยการเลือกตั้งอย่างแท้จริงที่กำหนดให้มีขึ้น ตามระยะเวลาที่แน่นอน โดยทั่วไป โดยเสมอภาค โดยเสรี และโดยลับ
  • เคารพเสียงข้างน้อย และเปิดโอกาสให้เสียงข้างน้อยสามารถกลับมาเป็นเสียงข้างมาก
3. หลักนิติรัฐ
  • การปกครองโดยกฎหมายที่ยุติธรรม
  •  กฎหมายที่ใช้ปกครองประเทศต้องมาจากความเห็นชอบของผู้แทนประชาชนหรือประชาชนโดยตรง
  • หลักการแบ่งแยกอำนาจ การประกันสิทธิเสรีภาพ
4. ความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ
  • รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัตินั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้
  • กำหนดให้มีองค์กรควบคุมกฎหมายมิให้ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ
  • หน้าที่ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญของกษัตริย์
  • กำหนดให้ประมุขของรัฐต้องสาบานตนว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและพิทักษ์ไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ ก่อนเข้ารับตำแหน่ง
5. ความเป็นรัฐเดี่ยวแบบกระจายอำนาจ
  • ราชอาณาจักรไทยเป็นรัฐเดี่ยว แบ่งแยกมิได้
  • รัฐต้องเคารพหลักการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น
6. หลักประกันสิทธิและเสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
  • กำหนดให้สิทธิและเสรีภาพที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญนั้นมีผลโดยตรง และผูกพันองค์กรผู้ใช้อำนาจรัฐทั้งปวง
  • รับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาค และสิทธิและเสรีภาพ ตลอดจนสิทธิมนุษยชนที่รับรองไว้ในกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นรัฐ ภาคี
7. การแบ่งแยกอำนาจให้ได้ดุลยภาพระหว่างสถาบันการเมือง
  • แบ่งแยกองค์กรผู้ใช้อำนาจสูงสุดของประชาชนเป็น 3 องค์กร ได้แก่ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ
  • กำหนดให้วิธีการใช้อำนาจเป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
  • ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารเป็นระบบรัฐสภา
8.  โครงสร้างของสถาบันทางการเมืองและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
  • กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาจากการเลือกตั้งโดยตรง โดยใช้ระบบเลือกตั้งที่มีความยุติธรรมและเสมอภาคแก่ประชาชนผู้ออกเสียงเลือก ตั้งทั้งในแง่จำนวนคะแนนเสียงและค่าของคะแนนเสียง
  • กำหนดให้มีการปฏิรูปกฎหมายรัฐสภา
  • กำหนดให้มีพระราชบัญญัติรัฐมนตรี และข้อบังคับการประชุมคณะรัฐมนตรี
  • ยุบเลิกองค์กรตามรัฐธรรมนูญในปัจจุบันที่ไม่มีสถานะเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญในทางเนื้อหา
  • ประกันความเป็นสถาบันขององค์กรอิสระในทางปกครอง
  • กำหนดให้ใช้ระบบสภาเดี่ยว แต่หากต้องการให้ใช้ระบบสองสภา ที่มาของสภาทั้งสองต้องมาจากการเลือกตั้ง
9. ความชอบธรรมทางประชาธิปไตยขององค์กรตุลาการ
  • ผู้พิพากษาศาลสูงและตุลาการศาลสูง ต้องได้รับการเสนอชื่อโดยคณะรัฐมนตรี และได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา
  • กำหนดให้มีผู้พิพากษาสมทบที่ได้รับการเลือกจากประชาชนหรือองค์ที่มีความชอบธรรมในทางประชาธิปไตยในศาลระดับล่าง
  • การแจ้งบัญชีทรัพย์สินของผู้พิพากษาศาลสูงและตุลาการศาลสูง และเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะ
  • คณะกรรมการที่ทำหน้าที่บริหารงานบุคคลของผู้พิพากษาและตุลาการต้องมีความเชื่อมโยงกับประชาชน
  • ปฏิรูปกฎหมายว่าด้วยกระบวนการได้มาซึ่งผู้พิพากษาตุลาการและว่าด้วยหน่วยธุรการของศาล
1๐. การยอมรับความเป็นสังคมพหุนิยม
  • รับรองความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม ประเพณี ความคิด ความเชื่อ
11. การตรวจสอบใช้อำนาจรัฐของทุกองค์กรให้ได้ประสิทธิภาพและดุลยภาพ
  • ปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับการตรวจสอบอำนาจรัฐ
12. หลักประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ
  • เคารพหลักเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมโดยกลไกตลาด
  • ส่งเสริมให้มีการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม และจัดให้มีระบบสวัสดิการอย่างทั่วถึง
13. หลักความสูงสุดของรัฐบาลพลเรือนเหนือทหาร
  • กำหนดให้มีผู้ตรวจการกองทัพที่แต่งตั้งโดยสภาผู้แทนราษฎร
  • รับรองสิทธิและหน้าที่ของทหารในการปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ บังคับบัญชาที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและละเมิดกฎหมายอย่างชัดแจ้งและร้ายแรง
  • การแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งระดับสูงในกองทัพเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี
14. ความชอบธรรมทางประชาธิปไตยในกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่าย
  • การเสนองบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นอำนาจหน้าที่ของฝ่ายบริหารเท่านั้น
  • การพิจารณาและให้ความเห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา
  • องค์กรอื่นใดไม่อาจเสนอหรือแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้
15. การต่อต้านการแย่งชิงอำนาจสูงสุดของประชาชน
  • กำหนดให้มีบทบัญญัติในหมวดว่าด้วย “การลบล้างผลพวงของรัฐประหาร 19 กันยายน 2549” โดยมีเนื้อหาสาระตามข้อเสนอคณะนิติราษฎร์เรื่องการลบล้างผลพวงของรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
  • กำหนดให้ปวงชนชาวไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการต่อต้านโดยวิธีการใดๆต่อการแย่งชิง (usurpation) อำนาจสูงสุดของประชาชน
  • กำหนดให้การแย่งชิงอำนาจสูงสุดของประชาชนเป็นความผิดอาญา ภายหลังการรื้อฟื้นอำนาจที่ชอบธรรมกลับมาได้แล้ว ก็ให้ดำเนินคดีต่อบุคคลที่แย่งชิงอำนาจสูงสุดของประชาชนดังกล่าว โดยให้อายุความเริ่มนับตั้งแต่มีการรื้อฟื้นอำนาจอันชอบธรรมนั้น
คณะนิติราษฎร์ : นิติศาสตร์เพื่อราษฎร
ท่าพระจันทร์, 22 มกราคม 2555

 

Logo

ไอดอลหายนะตัวจริงเสียงจริงที่ ทักษิณ ชินวัตร เลียนแบบ

นี่ไง.. ผลงานร้ายยำของ โรเบิร์ต มูกาเบ ไอดอลหายนะตัวจริงเสียงจริงที่ ทักษิณ ชินวัตร เลียนแบบมา ..ทั้งเผด็จการ ประชานิยม และ สร้างความขัดแย้ง..จนซิมบับเว..ฉิบหาย เละตุ้มเป๊ะ มาแว้ววว !!! ..
 
by vincentoldbook ,


.. ขอบคุณภาพจาก ไทยพับลิก้า และ อื่นๆในอินเตอร์เน็ต ..
...........................................

นี่ ไง.. ผลงานร้ายยำของ โรเบิร์ต มูกาเบ ไอดอลหายนะตัวจริงเสียงจริงที่ ทักษิณ ชินวัตร เลียนแบบมา ..ทั้งเผด็จการ ประชานิยม และ สร้างความขัดแย้ง..จนซิมบับเว..ฉิบหาย เละตุ้มเป๊ะ มาแว้ววว !!! ..


ไปอ่านเจอข่าวนี้ใน ไทยพับลิก้า ..
เลยเอามาต่อยอดวิเคราะห์วิจารณ์ในบทความนี้ต่อ..
โรเบิร์ต มูกาเบ ที่กำลังมีชื่อติดกระแสข่าวการเมืองเหม็นๆในเมืองไทย..
ไม่ใช่ เผด็จการบ้าอำนาจ และ พวกผู้นำเฮงซวย ห่วยแตกแบบธรรมดาๆเสียแล้วล่ะครับ..
เหตุ เพราะว่า โรเบิร์ต มูกาเบ กับ ทักษิณ ชินวัตร นั้น เหมือนจะถอดแบบการบริหารประเทศ และ การมอมเมาประชาชนไม่แตกต่างกันเลย และ ที่สำคัญ ผลลัพธ์มันก็กำลังจะเดินหน้าไปสู่ภาพบทสรุปที่คล้ายๆกันด้วย
แม้ ว่าวันนี้ ประเทศไทย จะยังไม่เหมือน ซิมบับเว ที่จบเห่ลงเหวไปแล้ว ด้วยการทุบสถิติความฉิบหายทั้งหลายทั้งปวง จากประเทศอู่ข้าวอู่น้ำของแอฟริกา กลายเป็นประเทศที่ผู้คนขาดแคลนอาหาร ว่างงาน และ ติดเชื้อ HIV มากมายเต็มประเทศ
อ่านรายละเอียดได้ตามข่าวนี้ครับ ..
บทเรียนจาก “Mugabe” ..ซิมบับเวเปลี่ยนจากอู่ข้าวอู่น้ำของทวีปแอฟริกามาเป็นระบบเศรษฐกิจที่ล่มสลายโดยสิ้นเชิง
http://thaipublica.org/2012/01/lesson-learned-mugabe/
หาก เราหาอ่านประวัติผลงานอัปยศต่างๆของ โรเบิร์ต ซิมบับเว ผลงานที่ทำให้เขาเป็นที่จดจำต่อคนทั้งโลกนั้นน่าจะมีอยู่ ๒ ด้าน สำคัญๆ  คือ ..
ด้านหนึ่งเขาเป็น วีรบุรุษ ในสงครามเอกราช ที่เขาปลดแอกซิมบับเวจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ จนซิมบับเวได้รับอิสรภาพ..
อีก ด้านหนึ่งเขาเป็นซาตาน เผด็จการชาติชั่ว มัวเมาอำนาจ บริหารประเทศผิดพลาดด้วยนโยบายสร้างพรรคสร้างพวก สร้างความเกลียดชังทางชนชั้น กุมใจคนชั้นล่างผิวดำ เพื่อสร้างความเกลียดชังคนชั้นกลาง และ คนผิวขาว โดยเฉพาะนโยบายปฏิรูปที่ดิน ที่ มูกาเบ เล่นง่ายๆด้วยการ ยึดที่ดินคนผิวขาว มาแจกจ่ายให้คนผิวดำ ที่ทำให้ประเทศล่มจมฉิบหาย คนว่างงานกันหลายล้าน ..
มอง ดู โรเบิร์ต มูกาเบ มองดูความเฮงซวยที่ มูกาเบ ใช้กอบโกยหาผลประโยชน์สร้างอำนาจ และ สืบทอดอำนาจตน ไม่แตกต่างเลยกับที่ ทักษิณ ชินวัตร มหาโจรปล้นชาติ ทำไว้กับคนไทย สืบทอดระบบความคิด จาก ไทยรักไทย มาพลังประชาชน จนกระทั่งถึง พรรคเพื่อไทย จากรัฐบาลทักษิณ มารัฐบาลสมัคร มารัฐบาลสมชาย มาถึง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ในปัจจุบัน ..
นโยบาย วิธีการ และ การบริหารจัดการประเทศ แบบเอาพรรคเอาพวก ช่วยแต่พวกพ้องตนเองก่อน แบ่งประชาชนเป็นฝักฝ่าย ใครสนับสนุนตนก็ให้การช่วยเหลือ ใครไม่สนับสนุนก็ทำลาย กลั่นแกล้งต่างๆนานา และ ไม่ให้การช่วยเหลือ ..
ในสมัย ทักษิณ ชินวัตร มีอำนาจ ทักษิณใช้วิธีเดียวกันนี้กับคนไทย เหมือนๆกับที่ โรเบิร์ต มูกาเบ ใช้กับ คนซิมบับเว จนซิมบับเว หมดสภาพมาจนถึงทุกวันนี้ และ ประธานาธิบดี โรเบิร์ต มูกาเบ กลายเป็นบุคคลที่โลกไม่ต้องการ แต่เป็นคนที่ชาวซิมบับเวชั้นล่างยังต้องการท่วมท้น  ..
ตอนนี้ซิมบับ เว พังทลายทางเศรษฐกิจไปแล้วครับ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศไม่มี ไม่มีใครอยากค้าขายด้วยเพราะขาดเครดิตความน่าเชื่อถือ แต่ว่าประธานาธิบดี โรเบิร์ต มูกาเบ และ ภรรยา กลับยังคงเดินทางมาเจรจาค้าเพชรกับนักธุรกิจไทยได้แบบสบายใจ ..แปลกดีไหม ?
ดัง นั้น การที่ นางนลินี ทวีสิน ไปรู้จักมักจี่กับคนอัปลักษณ์ทางจิตใจและการกระทำพรรค์นี้ และ ก็มาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลอัปลักษณ์ทางความคิดแบบนี้เนี่ย จะให้คนมองว่า นางนลินี ทวีสิน เป็นคนดีก็ลำบากอยู่ ???
ที่สำคัญ จะให้มองว่า โรเบิร์ต มูกาเบ กับ ทักษิณ ชินวัตร ไม่เกี่ยวข้องกันก็จะกระไรอยู่ ??..
อย่า ลืมว่า โรเบิร์ต มูกาเบ เคยเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในสมัยทักษิณเป็นนายกฯ และ นลินี ทวีสิน ก็สารภาพออกมาเองว่า รู้จัก โรเบิร์ต มูกาเบ ตั้งแต่ ปี ๒๕๔๕ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ หลังจากนั้น ก็เจรจาติดต่อกันมาเรื่อยๆ ด้วยข้ออ้างที่ว่า เธอ และ โรเบิร์ต มูกาเบ เป็นเพื่อนกัน..
โรเบิร์ต มูกาเบ วันนี้อายุ ๘๖ ปี ครองอำนาจยาวนานร่วม ๓๐ ปี ผ่านสงครามมาทุกรูปแบบ ผ่านเกมนองเลือด เอาเลือดเนื้อประชาชนปูทางให้ตนมีอำนาจมาแล้วทุกถนนหนทางแห่งเกมช่วงชิง อำนาจ ไม่ต่างอะไรเลยกับพฤติกรรมสันดาน และ ยุทธวิธีของ ทักษิณ ชินวัตร !!! ..
นี่แหละ .. ไอดอล ความร้ายยำ เลวร้าย ตัวจริงเสียงจริง ..
ที่น่ากลัวที่สุดที่ ทักษิณ นำมาใช้ !!!..
มันแตกต่างกันนิดหน่อย ตรงที่ โรเบิร์ต มูกาเบ ทำสำเร็จ ..
แต่ทักษิณ พลาดท่าโดนรัฐประหารไปซะก่อน ..
ไม่งั้นป่านนี้ คนไทยคงเละตุ้มเป๊ะเป็นขี้ ..
เหมือน คนซิมบับเว ไปแล้ว !!!..
คลิปข่าว โรเบิร์ต มูกาเบ ..

'โรเบิร์ต มูกาเบ' ประธานาธิบดีบนกองเลือด ซิมบับเว

ทำความรู้จักประธานาธิบดีแห่งซิมบับเวที่ทนาย พ..ต.ท ทักษิณ อ้างถึงในบทความ 'ความเหมือนที่แตกต่างระหว่างไทยและซิมบับเว'

http://archive.voicetv.co.th/content/17890
........................................
วินเซนต์
ริมโขง  บึงกาฬ
๒๓  มกราคม  ๒๕๕๕
.............................

โพล…ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติแต่จะไม่ต่อต้าน! เสียวว้อย…!!

by Canไทเมือง

วาน นี้ ( 22 ม.ค.) ประชาชนชาวโคราชในนามกลุ่ม “นักรบเมืองย่า” รวมตัวแสดงพลัง คัดค้านแก้ ม.112 พร้อมตัดหัว-เผาหุ่นประจาน “กลุ่มนิติราษฎร์” ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) จ.นครราชสีมา  ( เอ่เอ้ทีวีผู้จัดการ )
00000
เอแบคโพลวันนี้มีภาพน่ากลัวมากมาย

โพลชี้ประชาชนหวั่นแก้ รธน.จุดชนวนขัดแย้งรุนแรง

เอแบคโพลเผยคนส่วนใหญ่หวั่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นชนวนก่อความขัดแย้งรุนแรง ส่วนผลงานแก้ปัญหายา...
ไทยรัฐ
22 มกราคม 2555, 09:35 น.

โพลชี้ประชาชนหวั่นแก้ รธน.จุดชนวนขัดแย้งรุนแรง
เอ แบคโพลเผยคนส่วนใหญ่หวั่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นชนวนก่อความขัดแย้งรุนแรง ส่วนผลงานแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลยังโดดเด่น แต่เรื่องปากท้องค่าครองชีพสอบตก...
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. น.ส.ปุณฑรีก์  อิศรางกูร ณ อยุธยา นักวิจัยประจำสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจในหัวข้อ "สาธารณชนคิดอย่างไรต่อประเด็นร้อนทางการเมืองและการยึดอำนาจ" ว่า ประเด็นก่อความขัดแย้งรุนแรงใน 5 อันดับแรกซึ่งคนส่วนใหญ่ร้อยละ 54.5 ระบุเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รองลงมาคือ ร้อยละ 51.9 การแก้ไขกฎหมายที่กระทบต่อสถาบันสำคัญของชาติ ร้อยละ 49.6 ระบุการช่วยเหลือพวกพ้อง นักการเมือง ญาติพี่น้องของคนในรัฐบาล ร้อยละ 37.7 ระบุเป็นประเด็นเปรียบเทียบค่าเยียวยาระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองกับ ทหาร ตำรวจที่บาดเจ็บเสียชีวิตในภาคใต้ และร้อยละ 34.1 ระบุเป็นการปรับคณะรัฐมนตรีที่นำเอาคนภาพลักษณ์ที่เสียหายมาเป็นรัฐมนตรี
เมื่อ สอบถามถึงผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา โดยร้อยละ 76.3 รับรู้ต่อการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นผลงานรัฐบาล ร้อยละ 80.1 ระบุการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ยังไม่เห็นเป็นผลงานชัดเจนของรัฐบาลชุดนี้ และร้อยละ 75.2 ยังไม่เห็นผลงานรัฐบาลในการแก้ปัญหาขัดแย้ง แตกแยกของคนในชาติ
ส่วน แนวโน้มของคนที่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 5.4 ในเดือนมกราคม 2553 มาอยู่ที่ร้อยละ 18.3 ในขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.7 ยังคงไม่เห็นด้วยต่อการยึดอำนาจจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เกินครึ่งหรือร้อยละ 52.7 จะไม่ออกมาต่อต้านการยึดอำนาจ แต่ร้อยละ 21.1 จะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านและร้อยละ 26.2 ไม่มีความเห็น
000000
สรุปง่ายๆว่า รัฐบาลไม่มีผลงานด้านปากท้อง ค่าครองชีพ น้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ
ส่วน การปฏิวัติรัฐประหาร แม้จะไม่เห็นด้วยจำนวนมาก แต่มาดูในเปอร์เซ็นต์คนไม่ต่อต้าน เข้าทางพวกอยากรัฐประหารทันที คือจะไม่ต่อต้านมีมากเกินครึ่ง คือร้อยละ 52.7 รวมกับพวกไม่ออกความเห็นอีกร้อยละ 26.2 เท่ากับร้อยละ 78.9  ที่เหลือต่อต้านเพียงร้อยละ 21.1
ยิ่งไปดูผลของการเสวนาของกลุ่มนิติ ราษฎร์ ที่มีข้อเสนอให้ นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งผบ.เหล่าทัพ แต่งตั้งศาล ฯลฯ แล้วขำๆ ในใจ ไปเอาความคิดแบบประธนาธิบดีมาจากไหน
พระมหากษัตริย์ก่อนขึ้นครองราชต้องมาให้สัตย์ปฏิญาณต่อสภา ฯลฯ
นี่มันระบอบการปกครองแบบไหน ?
ส่วนการเสนอคณะกรรมการร่างรัฐธรมนูญ 25 คน ให้เลือกตั้งจากสภาผู้แทน 20 คน สว.เลือกตั้ง 3 คน สว.สรรหา  2 คน
วนไปเวียนมากก็เท่ากับยอมรับการเลือกตั้งจากรัฐธรรมนูญ 2550 ( ที่บอกว่าเป็นผลไม้พิษ )
จะว่าไปนอกเหนือจากความต้องการลบล้างความผิดของทักษิณและพวกแล้ว ยังต้องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เล่นกันตรง ๆ
เท่ากับเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองโดยคนเพียง 25 คน
มองเห็นผลน่าจะออกมาทาง "กัมพูชาโมเดล" ของ ฮุนเซน ยังไงยังงั้น
หากต้องการยังงั้นก็ไปลอกรัฐธรรมนูญเขมรมาเลยไม่ดีกว่าหรือ?
ในเมื่อวางโครงร่างทั้งหมดโดยนิติราษฎร์ ก็ไปเขียนเองทั้งหมดไม่ดีกว่าหรือ เสียเวลาร่างกันใหม่โดยสภาร่างฯ ไปทำไม?
แต่ถึงยังไงก็คงไปไม่ถึงฝั่งฝัน แค่นำเสนอมาแบบนี รับรองคนไทยร้องยี้ทั้งประเทศ
จะเป็นเหตุให้พวกปฏิวัติจัดเข้าเป็นเหตุเป็นผลในการจะต้องไล่นักการเมืองขี้เท่อลงหลุมไปเร็วๆ
เพราะนอกจากไม่มีผลงานแล้วยังสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติจากการบริหารงานไม่เอาไหน
ทั้ง น้ำท่วมที่เพิงผ่านไป และที่กำลังเร่งกู้เงินหลายล้านล้านบาทมาทำโครงการ โดยจะขายรัฐวิสาหกิจให้เป็นของมหาชน ท่ามกลางเสียงค้านของประชาชนจำนวนมาก
แต่งตั้งผู้ต้องหาก่อการร้ายไปเป็นรัฐมนตรี แต่งตั้งคนมีตำหนิจากต่างประเทศ
สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนอย่างหนัก ในขณะที่การทุจริตคอรัปชั่นสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ปกติที่มีการรัฐประหารในประเทศไทยก็มีเรื่องอยู่ 2-3 เรื่องที่ฝ่ายทหารอ้างเป็นเหตุผลในการปฏิวัติ
นั่น คือความมั่นคงของสถาบันหลักสั่นคลอน สถาบันพระมหากษัตริย์สั่นสะเทือน แค่อ้างสถิติคดีหมิ่นฯเบื้องสูงที่พุ่งขึ้นเป็นจรวดก็ไม่รู้จะโทษใคร ยิ่งมาป่วนแก้ไขมาตรา 112 ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง แม้โพลก็บอกแล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ประชาชนห่วงใยว่าจะเกิด ความรุนแรงมากที่สุด
การสมนาคุณพวกเผาบ้านเผาเมืองแบบไม่อายฟ้าดิน สร้างความไม่พอใจให้ทุกภาคส่วน
ปปท.ซึ่งดูแลเรื่องการทุจริตในภาครัฐออกมาประกาศว่า การทุจริตคอรัปชั่นยังเป็นปัญหาหนัก
สาว เรื่อง สามรส ประชาชนแตกแยก สถาบันพระมหากษัตริย์สันคลอน ทุจริตคอรัปชั่น เศรษฐกิจเสียหายร้ายแรง ประชาชนทุกข์ยากปากหมอง แค่นี้ก็หวานหมูสำหรับคนเขียนแถลงการยึดอำนาจ
รอแต่เพียงว่าจะสุกงอมเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
ดังนั้น แม้ไม่ใช่โหรก็อดหวั่นๆ ว่า ความรุนแรงจะเกิดขึ้นในปีนี้ค่อนข้างแน่
ขึ้น ต้นปีใหม่ไทย ปีใหม่จีน เราต้องไม่ประมาท สิ่งที่ไม่เห็นด้วย สิ่งที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลาใครที่คิดร้ายกับประเทศก็อย่าลืมเก็บ เสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเตรียมหนีทันทีที่เกิดเหตุนะครับ
เพระทำท่าจะไม่มีรับรองสวัสดิภาพได้ถ้วนทั่วทุกตัวคน โจทก์หมายหัวกันเป็นรายๆ กันแล้ว
ถึงขนาดตัดหัว เผาหุ่น คงไม่คิดถึงต้นทุนกันแล้ว
เท่า ที่มองดูเที่ยวนี้ หากมีการรัฐประหารอาจเล่นกันถึงขุดรากถอนโคน ใครไปเทียวลงชื่ออะไรไว้ เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดี เปิดหน้าชกกันทั้งทีจะให้นอนหลับฝันดีเห็นจะยาก
ฟากทหารน่ะไม่เท่าไหร่เพราะคงไม่อยากใช้ความรุนแรงกับประชาชนทั่วไป แถมยังจะมีคดีติดตัวอีกยาวนาน
แต่พวกแอบแฝงผสมรอยตั้งใจสอยเป็นรายๆ อาจมีให้เห็นเป็นบุญตา
ประกาศกันถึงขนาดว่า จะยึดอำนาจรัฐโดยประชาชนกันแล้ว...ไม่แคล้วมีนองเลือด
แคน ไทเมือง
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง