วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554
เยียวยาเสื้อแดง ศพ10ล. ทั้ง 91 ราย-ทหารด้วย
จตุพร-ณัฐวุฒิ-อภิวันท์ถกนายก ช่วยโดยงบฯก.ยุติธรรม-พม. ส.ส.พท.ยื่นประกันเหยื่อทั่วปท.
′ จตุพร′เผยรัฐบาลปูไฟเขียวให้เงินเยียวยาเหยื่อสลายการชุมนุม ศพละ 10 ล้านบาท ได้หมดทั้งเสื้อแดง ตำรวจ ทหารส่วนผู้บาดเจ็บจะได้ลดหลั่นกันไป ตามความเหมาะสม ′ขวัญชัย ไพรพนา′ เดินหน้าช่วยเหลือคนเสื้อแดงในคุก เตรียมรวบ รวมใบรับรองตำแหน่งและเงินเดือนส.ส. อุดรฯ ยื่นประกันคนเสื้อแดงทั่วประเทศ ประเดิมที่จ.อุดรฯ ก่อน 25 คน ก่อนจะทยอยจนครบทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 13 ส.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยและแกนนำนปช. กล่าวว่า ได้หารือกับรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว ผลสรุปออกมาว่ารัฐบาลจะเร่งเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม เดือน พ.ค. 53 โดยรัฐบาลจะชดเชยให้กับ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ ทั้งข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร รายละ 10 ล้านบาท ส่วนผู้บาดเจ็บอื่นๆ จะได้รับเงินช่วยเหลือลดหลั่นกันไป เพราะว่ารัฐบาลเป็นหนี้วีรชนที่ต้องสูญ เสียจากการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับคดีความ 91 ศพ ทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมและหาคนผิดมาลงโทษให้ได้
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการเจรจากับรัฐบาลเรื่องการเยียวยาเหยื่อสลายการชุมนุมครั้งนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ได้เข้า หารือกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐ มนตรี เป็นที่เรียบร้อย และมีความเห็นตรงกันในเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาเหยื่อสลายการชุมนุมศพละ 10 ล้านบาท ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ตอบรับในกรณีดังกล่าวแล้ว และจะได้มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวง ยุติ ธรรมรับดำเนินการต่อไป
ด้านนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรม คนรักอุดร กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับสัญญาณ ที่ดี ว่าบ้านเมืองจะเข้าสู่การปรองดอง และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เล็งเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานกว่า 1 ปี คนเสื้อแดงควรจะได้รับความยุติธรรมในเบื้องต้น ด้วยการปล่อยตัวชั่วคราว ดังนั้น จึงหารือกัน ได้ข้อสรุปว่า ในวันจันทร์ ที่ 15 ส.ค.นี้ ตนจะนำใบรับรองตำแหน่งและเงินเดือนของส.ส.อุดรธานี ไปประกัน ตัวผู้ต้องขังในเรือนจำกลางอุดรธานีทั้ง 25 คน ส่วนเรื่องของคดี ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ เราคงไม่ใช้เส้นใช้สายอะไร เพียงแต่ต้องการ ขอความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม เท่านั้น เพื่อให้อิสระกับคนที่ถูกขังมาปีกว่า นี่คือความตั้งใจและก็ได้รับสัญญาณที่ดีจากพล.ต.อ.ประชา ซึ่งท่านบอกว่าจะคืนความเป็นธรรมให้กับบรรดาผู้ต้องขังทุกเรือนจำในประเทศ ไทย
ส่วนเรื่องที่ว่าจะโดนต่อต้านจากพรรคฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายขวัญชัยกล่าวว่า ก็ต้องว่ากันด้วยเหตุด้วยผล ทุกวันนี้กรรมการสิทธิมนุษยชน หรือคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อการปรอง ดองแห่งชาติ หรือคอป. ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ ชัดเจนแล้วว่า การยัดเยียดข้อหานี้รุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะฉะนั้น ต้องคืนความชอบธรรมให้กับผู้ต้องขังทั่วประเทศ 132 คน โดยจะเริ่มจากจ.อุดรธานีก่อน 25 คน อุบลฯ 21 คน จนครบทุกจังหวัด
นาย ศิริวัฒน์ จุปะมัดถา ผู้ประสานงานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พะเยา กล่าวว่า ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยส่วนตัวคิดว่าต้องมีการขับเคลื่อนการต่อ สู้ทางการเมืองของภาคประชาชนต่อไปอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการทำงานการเมืองของ พรรคเพื่อไทย โดยตนคาดหวังว่าบทเรียนความสูญเสียของคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ทั้ง 92 ศพ รวมทั้งความไม่เป็นธรรมต่างๆ ที่คนเสื้อ แดงได้รับ พรรคเพื่อไทยจะต้องทำหน้าที่ทวง คืนความเป็นธรรมเหล่านี้ให้แก่ประชาชนและคนเสื้อแดงต่อไป
วันเดียว กัน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ระบุว่าจะไม่มีการให้อภัยโทษกับนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ คนไทยที่ถูก จองจำอยู่ในเรือนจำ ในข้อหาจารกรรมและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ว่า ในวันที่ 17 ส.ค. จะมีการประชุมเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยว ข้องในเรื่องนี้ โดยยืนยันว่ากระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญกับคนไทยทุกคนอยู่แล้ว
เมื่อ ถามว่า ในฐานะเป็นเจ้ากระทรวงยืน ยันได้หรือไม่ว่าจะไม่ทอดทิ้ง 2 คนไทยที่เป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิป ไตย นายสุรพงษ์กล่าวว่า ไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ถ้ากระทรวงการต่างประเทศสามารถช่วยอะไรได้ก็จะช่วยด้วยความยินดี
นาง ธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. กล่าวว่า ช่วงนี้ตนอยู่ระหว่างการเดินสายพบปะกับบรรดาแกนนำ นปช. ตามจังหวัดและภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้แนวทางการทำงานตรงกัน และเป็นเอกภาพมากขึ้น โดยในวันนี้ได้ไปพบกับแกนนำ นปช.ศรีสะเกษ และก็จะเดินสายอย่างนี้ตลอดไปจนกว่าจะครบทุกจังหวัด เพื่อเป็น การสร้างองค์กร นปช.ให้เข้มแข็ง
นางธิดากล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ นัดให้แกนนำที่ถูกดำเนินคคีหมิ่นฯ เดินทางมารายงานตัวที่ดีเอสไอ ในวันที่ 17 ส.ค.นั้น คงต้องหารือกับแกนนำคนอื่นๆ ก่อน ว่าจะเลื่อนนัดหรือเดินทางไปพบ โดยจะมีการประชุมในวันจันทร์นี้ เพราะแกนนำที่ถูกข้อหานี้ก็ได้เป็นส.ส.หลายคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกิจกรรมทาง การเมืองของกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด จะจัดขึ้นในวันที่ 14 ส.ค. เวลา 14.00 น. เป็นกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ โดยนายสมบัติได้เชิญนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของน.ส. กมนเกด มาพูดความรู้สึกที่มีต่อลูกสาวที่จากไป ซึ่งจะเป็นลักษณะทอล์กโชว์เหมือนครั้งที่แล้ว
ส่วนวันอาทิตย์ที่ 21 ส.ค. เวลา 13.00 น. นายสมบัตินัดหมายสมาชิกกลุ่มไปพบกันบริเวณท้องสนามหลวง เพื่อจัดกิจกรรมกินข้าวแดง โดยให้สมาชิกที่มาร่วมงานใส่ชุดไทยโบราณ นุ่งจูงกระเบน จากนั้นก็ร่วมกันถ่ายรูปบริเวณสนามหลวงไว้เป็นที่ระลึก ส่วน กิจกรรมรำลึกให้กับผู้เสียชีวิต 91 ศพ ในวันที่ 19 ส.ค. ทางกลุ่มนางพะเยาว์ อัคฮาด และญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ระหว่างการประชุมหารือแนวทางการเคลื่อน ไหว โดยจะแถลงข่าวในวันที่ 17 ส.ค.ที่ชั้น 5 ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ในเวลา 11.00 น.
รวมความชั่วของทักษิณ
1. แก้ พรบ.สรรพสามิตโทรคมนาคม ให้เสียภาษีน้อยลง ได้ผลประโยชน์ 8,000 ล้าน
2. ลดสัมปทาน itv ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ที่เคยมีอุดมการณ์ เปลี่ยนมาทำลายวัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลีมาฉาย และปิดสื่อความไม่ดี สร้างภาพดีๆให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%)
3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร
4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเองคุมตำรวจ
5. ตั้ง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กกต.
6. ตั้ง พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก
7. ตั้ง พล.อ.อ.คงศักดิ์ วัณทนา เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ...มาคุมทุกเหล่า
8. กล่าวคําพูดท้าทายพวกก่อการร้ายในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอกอย่าไปใส่ใจทํา ให้เกิดความรุนแรงคนตายมากมายและยังหลุดปากด่าทหารว่าสมควรตาย
9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนดแล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย
10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียมทางเหนือก็ตายสิครับ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณดาวเทียม IP Star
11. เจรจาเซ็น FTA กับออสเตเรีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้านOTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณ IP Star
12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุนโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆ ที่เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่รู้ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อีก 16,459 ล้านบาทต่อปี
13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรก เปิดขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไป หลังจากแปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้กองทุนน้ำมันของคนไทยขาดทุนกว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไรแทนที่จะเป็นของรัฐ ก็กลายเป็นกำไรของตระกูลพวกถือหุ้น
14. ซุกหุ้นภาคแรก ให้เมียตัวเองขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค2 ให้ลูกชายตัวเองขึ้นศาลรับผิด ไหนบอกว่ารักครอบครัวไง
15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย0% ไม่กำหนดเวลาชำระคืน แถมได้รับการเว้นภาษีจากบีโอไออีก ทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี
16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณาที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับการเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่น
17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลานเปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง
18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดีกับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ
19. ทักษิณพูดว่า “จังหวัดไหนเลือกไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อน” น้ำท่วมภาคใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณไปช่วยหาเสียง เลือกตั้งซ่อม ไปกินก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไปเดินตลาดหาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็มสภาแล้ว แต่ที่ต้องลงใต้ไปดูน้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจากกลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งให้สามารถโกงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี
o ปั๊มตรายางอีกชุดรอเวลาเปลี่ยนกล่องบัตรได้ทุกเวลา
o หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมีสามารถทำได้)
21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนกทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบต้องตายแล้วยังไปแสดงการกินไก่ไปหัวเราะไปเพื่อ ซีพี.นายทุนพรรคเท่านั้น
22. ทําให้เกิดการฆ่าตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์ กว่า 2000 คนจากการปราบยาบ้าสั่งฆ่าคนได้หน้าตา เฉย โหดร้ายทารุณ
23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อนทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้อง เอาเงินไปฟอกต่างประเทศ เอาเปรียบในการทําธุรกิจผูกขาด ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคนในวงการธุรกิจเขารู้กันหมดค้า กำไรเกินควร จนรํ่ารวย มหาศาลโกง
24. ที่ดินวัดของสนามกอล์ฟอัลไพน์ มีคนโกงที่ดินธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้ว ทักษิณ ไปซื้อต่อทั้ง ๆ ที่รู้ว่าที่ดินนั้นได้มาไม่ถูกต้อง เพราะไม่กลัวบาปกรรม
25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่มแทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก๊อไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ชัดเจนของการปฎิรูปการศึกษาไทย ประชาชนจะถูกหลอกอีก 4 ปีเอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศไทย ที่กฎหมายบอกว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมีใครบ้างที่เรียนฟรี ถามผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย ออกความเห็นแค่นี้นะ ขอตัวไปกู้เงินมาจ่ายค่าเล่าเรียนให้ลูกก่อน
26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษ ๆ รัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลายสิบปี กลับร้อนระอุกลายเป็นแดนมิคสัญญี
27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดินไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า ตนเองน่าจะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดินไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไง ใช้อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็นด้วยคิดไงท่าน นายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมีเปลียนสัญญาได้ ทุกๆๆ 5 ปี เหมือนทำ ธรุกิจเลยอ่าขอเชิญชาวไทย เรียกร้องอฺธิปไตยชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็นไทย ทีมิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือสิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ
ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่ นะคุณนายก
ยุคทักษิณคือ ยุคของเงินเหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแกประชาชน ยุคทหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรงอยู่เหนือเหตุผล
28.ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวง ไปหว่านให้รากหญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้า แบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือ เข้ากระเป๋ามันเอง
29.ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจากนายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง
30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหาภายในสภาสักหน่อย อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมีไม่พอ
31. วันที่ประกาศยุบสภา ประกาศพร้อมกันว่าให้ไปเลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง
32. คุณหญิงพจมาน อยากมีสมเด็จพระสังฆราชประจำตระกูลตัวเอง จึงให้นายวิษณุ เครืองาม ลงนามแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราชพระราชทานรางวัลให้กับเด็กนักเรียน ที่ได้รับทุนของมหามกุฏราชวิทยาลัย ในการประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา
33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริตของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุดตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวนการสรรหาคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) คุณหญิงปิดห้องทำงานแล้วยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะหาหลักฐานทุจริตที่ห้องคุณหญิง ล่าสุดคนดีอย่างคุณหญิงก็ได้กลับมาทำงานเหมือนเดิม
34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณไว้ 35,000ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000ล้าน เครื่องบินเป็นแบบบินระยะไกล เสียค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับ ถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อ ทำไมไม่ให้นักบินเป็นคน เลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความดูแลของ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อนคุณหญิงพจมาน...
35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดินครึ่งวันอยากมากก็วันเดียว ก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้วนี่ไปถึง 4 วันเจรจาขายหุ้น แต่โกหกประชาชนคนไทยว่าจะไปพักผ่อน บอกตรงๆก็ได้
36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้าของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้านบาทต่อเครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาท ซึ่ง “ส่วนต่าง” ราคานี้ถูกนำไปใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่า เป็นอุปกรณ์ที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,432 ล้านบาท กะจะกิน 1,432ล้าน – 294.4ล้าน = ?
37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยวบินการบินไทยที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบินของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้การบินไทยซึ่งเป็นสายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำ หนังสือถึงหน่วยงานราชการว่านอกจากการบินไทยแล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิกค่านั่งเครื่องบิน Low Cost ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มีเที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด(แย่งจากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์ (ขายชาติ)
38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 "ไทยโมบาย" ของ ทีโอที มันให้ ทีโอที ตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอที มีที่ดินอยู่มากมายในต่างจังหวัด มันสั่งให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัด ใช้เสาสัญญาณของ AIS โดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาททีโอที ได้ 1 บาท สุดยอดไหมละครับ
39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้รับสัมปทานดาวเทียมไทยคมโดยการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดยอิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับสนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดีในยุคนี้ คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ เคยได้เป็นรมว.กลาโหม และ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาสรานนท์ เพิ่งได้เป็นผบ.สูงสุด
40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่นพระบรมฯ
o สำนักราชเลขาฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่..แทนลำเก่าที่ชำรุดมากแล้ว .....ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน..จากข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่เชียงใหม่...............
o ทักษิณ ชินวัตรใช้อุโบสถวัดพระแก้วในการทำบุญประเทศ (แต่แต่งกายในชุดสบายๆไม่เป็นทางการ) ทั้งๆที่ประธานในการทำบุญระดับประเทศควรเป็นพระองค์ท่านมากกว่า...ที่สำคัญ อุโบสถวัดพระแก้วเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับประกอบศาสนพิธีของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน..ไม่มีการขอพระบรมราชานุญาต..พอสนธิพูดในรายการ ..รีบขอพระบรมราชานุญาตย้อนหลัง...จนพระองค์ท่านออกมาตรัสในวันที่ 4 ธันวาคมว่า นายกฯจะให้ท่านทำอะไรก็ทำให้หมด แต่ควรพิจารณาด้วยว่า สมควรหรือไม่
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ผีที่ไหนจะจงรักภักดี....คนระดับทักษิณมีการศึกษาสูงพอ ผ่านงานพระราชพิธีมามากมาย..ย่อมควรรู้ดีว่าสมควรพูดเช่นนี้หรือไม่....ถ้า มีปัญญาก็ควรพูดว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ใครเล่าที่จะจงรักภักดี มากกว่าครับ
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้าในหลวงมากระซิบข้างหู...(พูดว่าข้างหู) ว่าออกเถอะ จะกราบพระบาทบังคมลาทันที...คำหลังยังใช้ราชาศัพท์เป็น แต่คำหน้าไหงใช้คำว่า มากระซิบข้างหู...ทักษิณ ไม่ควรทำตัวเสมอพระองค์ท่าน
o แม่ยายของทักษิณ กล่าวจาบจ้วงว่า บางทีตนอาจขอม็อบพระราชทานบ้าง คำว่า สิ่งพระราชทาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มงคล เป็นสิ่งที่ดี แต่คำว่า ม็อบ หมายถึง กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องบางอย่าง พระองค์ท่านจะพระราชทานได้อย่างไร...ไม่สมควรพูด
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯพระราชทานอยู่แล้ว ถ้าได้กลับมาอีกครั้ง พระองค์ท่านต้อง...ใช้คำว่า ต้อง เซ็นต์ให้ตนเป็นนายกฯอยู่วันยังค่ำ
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า โผทหารที่นายกฯเซ็นต์แล้ว ใครจะกล้าเปลี่ยน...หมายถึงใคร เพราะโผทหารหลังจากนายกฯเซ็นต์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำทูลเกล้าฯ ใครที่นายกฯหมายถึง........ การจาบจ้วงด้วยวาจาและการกระทำถึง 7 ครั้ง ไม่เห็นมีใครที่บอกว่า รักในหลวง ออกมาปกป้องพระองค์ท่านสักคน โดยเฉพาะตำรวจและทหาร พอสนธิออกมาปกป้อง..ก็โจมตีกันใหญ่..ไม่เข้าใจคนไทยเลยครับ
41. ใช้หนี้ IMF เกิดจากการออกพันธบัตรให้คนไทยและชาวต่างชาติซื้อ แล้วนำเงินไปใช้หนี้ ความจริงก็คือ *** ้หนี้จากคนไทยและชาวต่างชาติ มาใช้หนี้ IMF สร้างภาพ เพราะเราก็ยังเป็นหนี้อยู่ดี
42. ตัวเลขรายได้เฉลี่ยของคนไทยเพิ่มขึ้น ถ้าไม่นำรายได้ของทักษิณมารวม แล้วหาร 60ล้าน ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นไหม? พ่อแม่พี่น้องคิดดูดีๆ
43. โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ก่อนมีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ผู้ป่วยยากจนไม่ต้องเสียเงินรักษาแม้แต่สตางค์เดียว ส่วนคนพอมีเงินบ้างก็จ่ายตามมีตามเกิด คนรวยไม่ต้องพูดถึง จ่ายเต็มที่อยู่แล้ว ทำให้โรงพยาบาลมีเงินหมุนเวียนจับจ่ายซื้อยาได้เต็มที่ ผู้ป่วยก็ได้รับการรักษาเท่าเทียมกันไม่แบ่งชั้น การฟ้องร้องหมอก็มีน้อย แต่พอนายทักษิณเข้ามา แล้วมีโครงการ 30 บาทตายทุกโรค คนทุกระดับเสีย 30 บาทเท่ากันหมด ทำให้โรงพยาบาลขาดทุนยับเยิน ทำให้ไม่สามารถจับจ่ายซื้อยาดีๆมารักษาผู้ป่วยได้ คนไข้ตายมากขึ้น มีการฟ้องร้องหมอมากขึ้น จนหมอส่วนหนึ่งลาออกไปทำงานโรงพยาบาลเอกชนหรือเลิกอาชีพแพทย์ไปเลย คนมีเงินส่วนใหญ่ไม่อยากไปรักษา รพ รัฐ เพราะกลัวตาย จึงหนีไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน ทักษิณวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอย่างนี้ จึงไปกว้านซื้อ รพ เอกชนดีๆไว้เกือบหมด เพื่อขูดรีดคนพอมีเงิน ส่วนคนชั้นกลางจะหนีโรงพยาบาลรัฐไปหาหมอที่คลินิก อย่าเข้าใจผิดว่าหมอที่เปิดคลินิกเป็นหมอพาณิชย์ หมอที่ทำงาน รพ รัฐ เงินเดือนเริ่มต้นแค่ 8,000 บาท (แปดพันบาท) เพิ่งได้ขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วเป็น 10,000 บาท ตอนเกษียณอายุได้เงินเดือนแค่ 30,000 กว่าบาท แล้วจะให้พอกินพอใช้ได้อย่างไร จึงจำเป็นต้องเปิดคลินิกหลังเลิกงานเพื่อหารายได้เสริมพอเลี่ยงตัวเองและ ครอบครัว ส่วนใหญ่หมอคลินิกมักไม่คิดค่าตรวจ (doctor free) เพราะได้กำไรจากค่ายาค่อนข้างเยอะแล้ว เพราะสามารถซื้อยาจากบริษัทยาได้ในราคาเป็นแกลลอน ซึ่งต่างจากร้านขายยาทั่วไปต้องซื้อเป็นขวดเล็กๆ ราคาจึงต่างกันมาก ยกตัวอย่าง ยาพาราแก้ไข้ ขนาด 60 ซีซี ร้านขายยาขายขวดละ 12-60 บาท แต่คลินิกเอายาจากแกลลอนแบ่งใส่ขวด 60 ซีซี ราคาทุนแค่ขวดละ 3-15 บาทแล้วแต่ยี่ห้อ ดังนั้นหากหมอขายในราคาเท่าร้านขายยาก็ได้กำไรมากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องคิดค่าตรวจ ทำให้ค่ารักษาพยาบาลในคลินิกถูกกว่าในโรงพยาบาลเอกชนมาก และแพงกว่าใน รพ รัฐไม่มาก คนชั้นกลางจึงไปใช้บริการของคลินิกมาก เพราะบริการดีกว่าเร็วกว่า ทักษิณรู้แกวจึงวางแผนกดดันคลินิก โดยบังคับให้คลินิกเลิกจ่ายยาให้ผู้ป่วย แต่ให้ผู้ป่วยจ่ายค่าตรวจเพื่อแลกกับคำวินิจฉัยและใบสั่งยา เพื่อเอาไปซื้อที่ร้านขายยาแทน จากนั้นก็ให้ยายสุดารัตน์ไปเทคโอเวอร์ยี่ปั๊วขายยาที่ขายให้แก่ร้านขายยาราย ย่อยและโรงพยาบาล ตัวอย่างคือ บริษัทฟาสซิโน และอื่นๆ เพื่อเป็นโมโนโปลี่ขายยาแต่ผู้เดียวขูดรีดจากผู้ป่วยได้ตามใจชอบ ทำให้ผู้ป่วยชั้นกลางเลิกมาคลินิก เพราะไม่อยากเสียเวลา 2 ต่อ แถมยังเสียเงินแพงพอๆกับ รพ เอกชนอีกด้วย จึงหันไป รพ เอกชนแทน ทักษิณจึงกว้านซื้อโรงพยาบาลเอกชนดีๆไว้ ทักษิณมันเลวมั๊ย.......
44. บ้านเอื้ออาทร...ช่วยให้เป็นหนี้กองทุนวายุพักตร์ของตัวเอง แต่เอาธนาคารรัฐมาบังหน้าไว้ก่อน ทั้งที่เราก็มี อาคารสงเคราะห์มาตั้งนานแล้ว แถมเอาที่ดินราชพัสดุมาทำอีก ไม่ได้ลงทุนอะไรสักอย่างแต่กำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง...นี่แหละ นายกนักธุรกิจ
45. กองทุนหมู่บ้าน ตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว กองทุนหมู่บ้านนับว่าเป็นนโยบายที่ดีมากๆๆๆ แต่การนำมาใช้กับประเทศไทยนี่นับว่า ไม่ควรครับ เพราะ เป็นการทำให้ ชาวบ้านเอาหนี้นอกระบบ มาเป็นในระบบ และในที่สุด ชาวบ้านก็ชักดาบ ไม่จ่ายเงินให้กับกองทุนหมู่บ้าน เพราะว่า ไม่มีกฏหมายตัวไหนจะเล่นได้เลยครับ จะใช้ กฏหมายแพ่งมาเล่น กับการที่ไม่ยอมใช้หนี้ก็ไม่ได้ เพราะว่า นี่มันขัดกับหลักการของ กองทุน จริงๆจะเล่นก็ได้ครับ แต่ถ้าเล่นแล้วรับรองว่า เป็นข่าว ทางรัฐก็เลยยอมๆเงียบๆไป และตามหลักการแล้ว เงินกองทุนที่เขาให้เอามานั้น เขาให้เอามาลงทุน ครับ ไม่ใช่เอามา ดาวส์รถ ซื้อ มือถือ ครับ นี่นับว่าผิดวัตถุประสงค์กองทุน และไม่ได้ดำเนินตามหลักการเลยแม้แต่นิดครับ ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า คนควบคุมกองทุนในแต่ละหมู่บ้านนั้น ก็คือ คนในหมู่บ้านกันเอง และก็เป็น ผู้ใหญ่บ้านนั่นเองครับ ซึ่งก็ไม่ได้รับการอบรมเรื่องการบริหารเงินเลย และก็ยังมีนอกมีในอีก กองทุนหมู่บ้านจึงล้มเหลวด้วยประการนี้ครับ
46. ถ้าประชาชนเป็นหนี้ ธกส.แล้ว บ้านเอื้ออาทร และกองทุนหมู่บ้านก็แล้ว สิ้นเดือนหาเงินจ่ายดอกไม่ได้ อย่าลืม *** ้ Capital OK ธุรกิจผมนะครับ
47. แปรรูปการท่าเรือ แล้วทำโครงการพัฒนาท่าเรือคลองเตย ต่อด้วยท่าเรือบ้านฉาง แล้วให้เทมาเส็กซื้อหุ้นการท่าเรือของประเทศ โดยมีข้อตกลงให้ขุดคอขอดกระ ดังนั้นจึงมีโครงการ Mega Project ขุดคอขอดกระ ขณะที่เทมาเส็กสิงคโปร์ขายท่าเรือที่ประเทศตัวเองให้กับดูไบ
48. ให้สัมปทานเหมืองทองคำ 19 ปีที่จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์กับออสเตรเลีย โดยไทยได้ค่าสัมปทานประมาณ 250 ล้านบาท ค่าดำเนินการ 30 ล้านบาท ได้ค่าภาษี 700 ล้านบาท ต่างประเทศได้จากการส่งออกทองคำที่ขุดได้กว่า 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันขุดหมดแล้วรวมเวลา 4ปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างขอสัมปทานเหมืองทองคำที่ใหม่ต่อ จาก สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
49. ร่าง พรบ.เศรษฐกิจพิเศษ กำลังพยายามเปลี่ยนกฎหมายให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองที่ดินได้ จะเหมือนเกาะฮ่องกง ที่เคยเป็นของอังกฤษ, ใครทำผิดกฎหมายมาจากจังหวัดอื่น พอเข้ามาในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ กฎหมายนั้นไม่สามารถ ทำอะไรได้, เปิดบ่อนเสรี, ออกพันธบัตรหรือตราสารหนี้ใช้เอง ฯลฯ จะยึดครองประเทศเหรอ? ล่าสุดคุณหญิงอ้อ ได้กว้านซื้อที่ แถวสุวรรณภูมิเตรียมไว้แล้ว
50. โอนหุ้นให้ขี้ข้า คนขับรถ ปกปิดเลี่ยงภาษี / เลี่ยง กม. เลือกตั้ง
51. เสนอเงินซื้อ สส. พรรคอื่น / ซื้อคนโง่ๆเห็นแก่เงินให้เลือกตน
52. พูดจาโกหกตอแหลเป็นอาจิณ ตลอดจนพูดจาเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น ด่าว่าคนอื่นเขาโง่กันหมด
53. เป็นนายกได้ เพราะศาล รธน. มีมติฉิวเฉียด / เงินเข้ามาเกี่ยวอีกครั้ง เพราะข่าวคราวขณะนั้น มีข่าวว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงิน 300 ล้านบาทก่อนมีการตัดสิน
54. พูดภาษาอังกฤษเหมือนเด็ก ป.6
55. ลูกๆ ก็เก่งกันจัง โอ๊ค เรียน ม. แอบเอาข้อสอบ (โพยคำตอบ) เข้าไปลอกในห้องสอบ ปรากฏว่าถูกจับได้ ความจริงต้องถูกลงโทษสถานหนัก ทักษิณต้องไปเจรจาถึง ม. ราม บังเอิญนายกสภา ม. ราม เป็นพวกเดียวกัน (อีดี้) จึงรอดพ้นความผิดได้แบบสองมาตรฐาน ส่วน เอม สอบเอ็นทรานซ์ไม่ได้จึงต้องหาทางซิกแซกโดยการเข้าเรียนโครงการพิเศษคณะ อุตสาหกรรมเกษตร ม. เกษตร ทั้งที่ไม่ได้เรียนสายวิทย์ (ตามระเบียบคนที่มีสิทธิ์สอบจะต้องเรียนชั้นมัธยมปลายสายวิทย์เท่านั้น แต่ทะลึ่งสอบเข้าไปได้อย่างมหัศจรรย์ ผลสุดท้ายเรียนไปไม่รอดต้องย้ายคณะไปอยู่ภาคเรียนปกติ ซึ่งเป็นพวกที่สอบเข้าด้วยวิธีการสอบเอ็นทรานซ์ ซึ่งเป็นเป็นการโกงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแบบสองมาตรฐาน สำหรับอุ้งอิ้ง เป็นที่ทราบกันดีว่าสอบเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ด้วยวิธีใด เพราะปีนั้นมีข่าวคราวข้อสอบรั่ว เป็นข่าวครึกโครม เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบสองมาตรฐานเช่นเดียวกัน สรุปแล้ว โคตรโกง และโกงทั้งโคตร
56 ทักษิณ สั่งเด้ง! ผวจ.-ผบก.ปัตตานีคนที่ถูกปืนลั่น น่าจะเป็นทั่นหน้าเหลี่ยนนะ ทั่นเล่นชี้นำขนาดนั้นหมาตัวไหนมันจะมากล้าขัดล่ะ เดี๋ยวก็ด่าเขาอีก
น่าจะรู้ตัวนะ ว่าตัวเองปาก*** น่ะ...พอทีนี้มาปฎิเสธว่าไม่ได้ชี้นำ...
57. ทักษิณ สั่ง กกต. เด็กผมเอง สั่งอะไร ไม่เคยขัด ผมเพิ่งเซ็นอนุมัติงบให้ทางกกตที่ขอมาไปวันก่อน จะกล้าขัดใจผมได้งัย
58. ทักษิณ ถูกตัดสินติดคุกแต่ไม่ยอมติดคุก จึงมีสถานะเป็นนักโทษหนีคุก ในขณะที่นักโทษคนอื่น ๆ เมื่อศาลสั่งติดคุก็คือติดคุก จึงปฏิบัติตัวเป็นสองมาตรฐานไม่ยอมรับการตัดสินของศาล
59. กรณีสั่งฆ่าพี่น้องชาวมุสลิมที่มัสยิดกรือเซะ โดยฝีมือทหารแก่ (ปัจจุบัน รับจ้างเผาบ้านเผาเมืองด้วยค่าจ้างรองเท้ากอล์ฟหนึ่งคู่) และกรณีเข่นฆ่าประชาชนที่ตากใบ โดยมีทักษิณบินบัญชาการด้วยตัวเอง
60. ผลประโยชน์ทับซ้อน โดยทักษิณ ใช้อำนาจบาตรใหญ่สร้างความร่ำรวยให้กับบริษัทในเครือของตระกูลทักษิณ
0. การปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บภาษีสรรพสามิต โดยบริษัทในเครือชินคอร์ปได้ประโยชน์ (เอไอเอส) แต่รัฐเสียหายมูลค่า 30,667 ล้านบาท
0 การปรับลดส่วนแบ่งรายได้พรีเพดเป็น 20 % โดยบริษัทในเครือชินคอร์ปได้ประโยชน์ (เอไอเอส) แต่รัฐเสียหายมูลค่า 39,588 ล้านบาท
0. การแก้ไขสัญญาโรมมิ่ง โดยบริษัทในเครือชินคอร์ปได้ประโยชน์ (เอไอเอส) แต่รัฐเสียหายมูลค่า 12,595 ล้านบาท
0. การให้สิทธิประโยชน์ BOI ของไอพีสตาร์ โดยบริษัทในเครือชินคอร์ปได้ประโยชน์ (ชินแซทฯ) แต่รัฐเสียหายมูลค่า 12,776 ล้านบาท
0. การสั่งให้เอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ให้พม่า โดยบริษัทในเครือชินคอร์ปได้ประโยชน์ (ชินแซทฯ) แต่รัฐเสียหายมูลค่า 950 ล้านบาท
ใครมีเพิ่มเติม คอมเม้นไว้ด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
2. ลดสัมปทาน itv ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ที่เคยมีอุดมการณ์ เปลี่ยนมาทำลายวัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลีมาฉาย และปิดสื่อความไม่ดี สร้างภาพดีๆให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%)
3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร
4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเองคุมตำรวจ
5. ตั้ง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กกต.
6. ตั้ง พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก
7. ตั้ง พล.อ.อ.คงศักดิ์ วัณทนา เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ...มาคุมทุกเหล่า
8. กล่าวคําพูดท้าทายพวกก่อการร้ายในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอกอย่าไปใส่ใจทํา ให้เกิดความรุนแรงคนตายมากมายและยังหลุดปากด่าทหารว่าสมควรตาย
9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนดแล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย
10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียมทางเหนือก็ตายสิครับ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณดาวเทียม IP Star
11. เจรจาเซ็น FTA กับออสเตเรีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้านOTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณ IP Star
12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุนโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆ ที่เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่รู้ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อีก 16,459 ล้านบาทต่อปี
13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรก เปิดขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไป หลังจากแปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้กองทุนน้ำมันของคนไทยขาดทุนกว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไรแทนที่จะเป็นของรัฐ ก็กลายเป็นกำไรของตระกูลพวกถือหุ้น
14. ซุกหุ้นภาคแรก ให้เมียตัวเองขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค2 ให้ลูกชายตัวเองขึ้นศาลรับผิด ไหนบอกว่ารักครอบครัวไง
15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย0% ไม่กำหนดเวลาชำระคืน แถมได้รับการเว้นภาษีจากบีโอไออีก ทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี
16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณาที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับการเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่น
17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลานเปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง
18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดีกับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ
19. ทักษิณพูดว่า “จังหวัดไหนเลือกไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อน” น้ำท่วมภาคใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณไปช่วยหาเสียง เลือกตั้งซ่อม ไปกินก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไปเดินตลาดหาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็มสภาแล้ว แต่ที่ต้องลงใต้ไปดูน้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจากกลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งให้สามารถโกงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี
o ปั๊มตรายางอีกชุดรอเวลาเปลี่ยนกล่องบัตรได้ทุกเวลา
o หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมีสามารถทำได้)
21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนกทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบต้องตายแล้วยังไปแสดงการกินไก่ไปหัวเราะไปเพื่อ ซีพี.นายทุนพรรคเท่านั้น
22. ทําให้เกิดการฆ่าตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์ กว่า 2000 คนจากการปราบยาบ้าสั่งฆ่าคนได้หน้าตา เฉย โหดร้ายทารุณ
23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อนทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้อง เอาเงินไปฟอกต่างประเทศ เอาเปรียบในการทําธุรกิจผูกขาด ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคนในวงการธุรกิจเขารู้กันหมดค้า กำไรเกินควร จนรํ่ารวย มหาศาลโกง
24. ที่ดินวัดของสนามกอล์ฟอัลไพน์ มีคนโกงที่ดินธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้ว ทักษิณ ไปซื้อต่อทั้ง ๆ ที่รู้ว่าที่ดินนั้นได้มาไม่ถูกต้อง เพราะไม่กลัวบาปกรรม
25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่มแทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก๊อไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ชัดเจนของการปฎิรูปการศึกษาไทย ประชาชนจะถูกหลอกอีก 4 ปีเอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศไทย ที่กฎหมายบอกว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมีใครบ้างที่เรียนฟรี ถามผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย ออกความเห็นแค่นี้นะ ขอตัวไปกู้เงินมาจ่ายค่าเล่าเรียนให้ลูกก่อน
26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษ ๆ รัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลายสิบปี กลับร้อนระอุกลายเป็นแดนมิคสัญญี
27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดินไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า ตนเองน่าจะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดินไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไง ใช้อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็นด้วยคิดไงท่าน นายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมีเปลียนสัญญาได้ ทุกๆๆ 5 ปี เหมือนทำ ธรุกิจเลยอ่าขอเชิญชาวไทย เรียกร้องอฺธิปไตยชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็นไทย ทีมิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือสิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ
ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่ นะคุณนายก
ยุคทักษิณคือ ยุคของเงินเหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแกประชาชน ยุคทหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรงอยู่เหนือเหตุผล
28.ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวง ไปหว่านให้รากหญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้า แบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือ เข้ากระเป๋ามันเอง
29.ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจากนายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง
30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหาภายในสภาสักหน่อย อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมีไม่พอ
31. วันที่ประกาศยุบสภา ประกาศพร้อมกันว่าให้ไปเลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง
32. คุณหญิงพจมาน อยากมีสมเด็จพระสังฆราชประจำตระกูลตัวเอง จึงให้นายวิษณุ เครืองาม ลงนามแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราชพระราชทานรางวัลให้กับเด็กนักเรียน ที่ได้รับทุนของมหามกุฏราชวิทยาลัย ในการประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา
33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริตของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุดตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวนการสรรหาคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) คุณหญิงปิดห้องทำงานแล้วยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะหาหลักฐานทุจริตที่ห้องคุณหญิง ล่าสุดคนดีอย่างคุณหญิงก็ได้กลับมาทำงานเหมือนเดิม
34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณไว้ 35,000ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000ล้าน เครื่องบินเป็นแบบบินระยะไกล เสียค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับ ถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อ ทำไมไม่ให้นักบินเป็นคน เลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความดูแลของ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อนคุณหญิงพจมาน...
35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดินครึ่งวันอยากมากก็วันเดียว ก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้วนี่ไปถึง 4 วันเจรจาขายหุ้น แต่โกหกประชาชนคนไทยว่าจะไปพักผ่อน บอกตรงๆก็ได้
36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้าของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้านบาทต่อเครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาท ซึ่ง “ส่วนต่าง” ราคานี้ถูกนำไปใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่า เป็นอุปกรณ์ที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,432 ล้านบาท กะจะกิน 1,432ล้าน – 294.4ล้าน = ?
37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยวบินการบินไทยที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบินของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้การบินไทยซึ่งเป็นสายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำ หนังสือถึงหน่วยงานราชการว่านอกจากการบินไทยแล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิกค่านั่งเครื่องบิน Low Cost ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มีเที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด(แย่งจากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์ (ขายชาติ)
38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 "ไทยโมบาย" ของ ทีโอที มันให้ ทีโอที ตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอที มีที่ดินอยู่มากมายในต่างจังหวัด มันสั่งให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัด ใช้เสาสัญญาณของ AIS โดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาททีโอที ได้ 1 บาท สุดยอดไหมละครับ
39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้รับสัมปทานดาวเทียมไทยคมโดยการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดยอิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับสนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดีในยุคนี้ คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ เคยได้เป็นรมว.กลาโหม และ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาสรานนท์ เพิ่งได้เป็นผบ.สูงสุด
40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่นพระบรมฯ
o สำนักราชเลขาฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่..แทนลำเก่าที่ชำรุดมากแล้ว .....ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน..จากข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่เชียงใหม่...............
o ทักษิณ ชินวัตรใช้อุโบสถวัดพระแก้วในการทำบุญประเทศ (แต่แต่งกายในชุดสบายๆไม่เป็นทางการ) ทั้งๆที่ประธานในการทำบุญระดับประเทศควรเป็นพระองค์ท่านมากกว่า...ที่สำคัญ อุโบสถวัดพระแก้วเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับประกอบศาสนพิธีของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน..ไม่มีการขอพระบรมราชานุญาต..พอสนธิพูดในรายการ ..รีบขอพระบรมราชานุญาตย้อนหลัง...จนพระองค์ท่านออกมาตรัสในวันที่ 4 ธันวาคมว่า นายกฯจะให้ท่านทำอะไรก็ทำให้หมด แต่ควรพิจารณาด้วยว่า สมควรหรือไม่
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ผีที่ไหนจะจงรักภักดี....คนระดับทักษิณมีการศึกษาสูงพอ ผ่านงานพระราชพิธีมามากมาย..ย่อมควรรู้ดีว่าสมควรพูดเช่นนี้หรือไม่....ถ้า มีปัญญาก็ควรพูดว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ใครเล่าที่จะจงรักภักดี มากกว่าครับ
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้าในหลวงมากระซิบข้างหู...(พูดว่าข้างหู) ว่าออกเถอะ จะกราบพระบาทบังคมลาทันที...คำหลังยังใช้ราชาศัพท์เป็น แต่คำหน้าไหงใช้คำว่า มากระซิบข้างหู...ทักษิณ ไม่ควรทำตัวเสมอพระองค์ท่าน
o แม่ยายของทักษิณ กล่าวจาบจ้วงว่า บางทีตนอาจขอม็อบพระราชทานบ้าง คำว่า สิ่งพระราชทาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มงคล เป็นสิ่งที่ดี แต่คำว่า ม็อบ หมายถึง กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องบางอย่าง พระองค์ท่านจะพระราชทานได้อย่างไร...ไม่สมควรพูด
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯพระราชทานอยู่แล้ว ถ้าได้กลับมาอีกครั้ง พระองค์ท่านต้อง...ใช้คำว่า ต้อง เซ็นต์ให้ตนเป็นนายกฯอยู่วันยังค่ำ
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า โผทหารที่นายกฯเซ็นต์แล้ว ใครจะกล้าเปลี่ยน...หมายถึงใคร เพราะโผทหารหลังจากนายกฯเซ็นต์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำทูลเกล้าฯ ใครที่นายกฯหมายถึง........ การจาบจ้วงด้วยวาจาและการกระทำถึง 7 ครั้ง ไม่เห็นมีใครที่บอกว่า รักในหลวง ออกมาปกป้องพระองค์ท่านสักคน โดยเฉพาะตำรวจและทหาร พอสนธิออกมาปกป้อง..ก็โจมตีกันใหญ่..ไม่เข้าใจคนไทยเลยครับ
41. ใช้หนี้ IMF เกิดจากการออกพันธบัตรให้คนไทยและชาวต่างชาติซื้อ แล้วนำเงินไปใช้หนี้ ความจริงก็คือ *** ้หนี้จากคนไทยและชาวต่างชาติ มาใช้หนี้ IMF สร้างภาพ เพราะเราก็ยังเป็นหนี้อยู่ดี
42. ตัวเลขรายได้เฉลี่ยของคนไทยเพิ่มขึ้น ถ้าไม่นำรายได้ของทักษิณมารวม แล้วหาร 60ล้าน ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นไหม? พ่อแม่พี่น้องคิดดูดีๆ
43. โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ก่อนมีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ผู้ป่วยยากจนไม่ต้องเสียเงินรักษาแม้แต่สตางค์เดียว ส่วนคนพอมีเงินบ้างก็จ่ายตามมีตามเกิด คนรวยไม่ต้องพูดถึง จ่ายเต็มที่อยู่แล้ว ทำให้โรงพยาบาลมีเงินหมุนเวียนจับจ่ายซื้อยาได้เต็มที่ ผู้ป่วยก็ได้รับการรักษาเท่าเทียมกันไม่แบ่งชั้น การฟ้องร้องหมอก็มีน้อย แต่พอนายทักษิณเข้ามา แล้วมีโครงการ 30 บาทตายทุกโรค คนทุกระดับเสีย 30 บาทเท่ากันหมด ทำให้โรงพยาบาลขาดทุนยับเยิน ทำให้ไม่สามารถจับจ่ายซื้อยาดีๆมารักษาผู้ป่วยได้ คนไข้ตายมากขึ้น มีการฟ้องร้องหมอมากขึ้น จนหมอส่วนหนึ่งลาออกไปทำงานโรงพยาบาลเอกชนหรือเลิกอาชีพแพทย์ไปเลย คนมีเงินส่วนใหญ่ไม่อยากไปรักษา รพ รัฐ เพราะกลัวตาย จึงหนีไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน ทักษิณวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอย่างนี้ จึงไปกว้านซื้อ รพ เอกชนดีๆไว้เกือบหมด เพื่อขูดรีดคนพอมีเงิน ส่วนคนชั้นกลางจะหนีโรงพยาบาลรัฐไปหาหมอที่คลินิก อย่าเข้าใจผิดว่าหมอที่เปิดคลินิกเป็นหมอพาณิชย์ หมอที่ทำงาน รพ รัฐ เงินเดือนเริ่มต้นแค่ 8,000 บาท (แปดพันบาท) เพิ่งได้ขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วเป็น 10,000 บาท ตอนเกษียณอายุได้เงินเดือนแค่ 30,000 กว่าบาท แล้วจะให้พอกินพอใช้ได้อย่างไร จึงจำเป็นต้องเปิดคลินิกหลังเลิกงานเพื่อหารายได้เสริมพอเลี่ยงตัวเองและ ครอบครัว ส่วนใหญ่หมอคลินิกมักไม่คิดค่าตรวจ (doctor free) เพราะได้กำไรจากค่ายาค่อนข้างเยอะแล้ว เพราะสามารถซื้อยาจากบริษัทยาได้ในราคาเป็นแกลลอน ซึ่งต่างจากร้านขายยาทั่วไปต้องซื้อเป็นขวดเล็กๆ ราคาจึงต่างกันมาก ยกตัวอย่าง ยาพาราแก้ไข้ ขนาด 60 ซีซี ร้านขายยาขายขวดละ 12-60 บาท แต่คลินิกเอายาจากแกลลอนแบ่งใส่ขวด 60 ซีซี ราคาทุนแค่ขวดละ 3-15 บาทแล้วแต่ยี่ห้อ ดังนั้นหากหมอขายในราคาเท่าร้านขายยาก็ได้กำไรมากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องคิดค่าตรวจ ทำให้ค่ารักษาพยาบาลในคลินิกถูกกว่าในโรงพยาบาลเอกชนมาก และแพงกว่าใน รพ รัฐไม่มาก คนชั้นกลางจึงไปใช้บริการของคลินิกมาก เพราะบริการดีกว่าเร็วกว่า ทักษิณรู้แกวจึงวางแผนกดดันคลินิก โดยบังคับให้คลินิกเลิกจ่ายยาให้ผู้ป่วย แต่ให้ผู้ป่วยจ่ายค่าตรวจเพื่อแลกกับคำวินิจฉัยและใบสั่งยา เพื่อเอาไปซื้อที่ร้านขายยาแทน จากนั้นก็ให้ยายสุดารัตน์ไปเทคโอเวอร์ยี่ปั๊วขายยาที่ขายให้แก่ร้านขายยาราย ย่อยและโรงพยาบาล ตัวอย่างคือ บริษัทฟาสซิโน และอื่นๆ เพื่อเป็นโมโนโปลี่ขายยาแต่ผู้เดียวขูดรีดจากผู้ป่วยได้ตามใจชอบ ทำให้ผู้ป่วยชั้นกลางเลิกมาคลินิก เพราะไม่อยากเสียเวลา 2 ต่อ แถมยังเสียเงินแพงพอๆกับ รพ เอกชนอีกด้วย จึงหันไป รพ เอกชนแทน ทักษิณจึงกว้านซื้อโรงพยาบาลเอกชนดีๆไว้ ทักษิณมันเลวมั๊ย.......
44. บ้านเอื้ออาทร...ช่วยให้เป็นหนี้กองทุนวายุพักตร์ของตัวเอง แต่เอาธนาคารรัฐมาบังหน้าไว้ก่อน ทั้งที่เราก็มี อาคารสงเคราะห์มาตั้งนานแล้ว แถมเอาที่ดินราชพัสดุมาทำอีก ไม่ได้ลงทุนอะไรสักอย่างแต่กำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง...นี่แหละ นายกนักธุรกิจ
45. กองทุนหมู่บ้าน ตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว กองทุนหมู่บ้านนับว่าเป็นนโยบายที่ดีมากๆๆๆ แต่การนำมาใช้กับประเทศไทยนี่นับว่า ไม่ควรครับ เพราะ เป็นการทำให้ ชาวบ้านเอาหนี้นอกระบบ มาเป็นในระบบ และในที่สุด ชาวบ้านก็ชักดาบ ไม่จ่ายเงินให้กับกองทุนหมู่บ้าน เพราะว่า ไม่มีกฏหมายตัวไหนจะเล่นได้เลยครับ จะใช้ กฏหมายแพ่งมาเล่น กับการที่ไม่ยอมใช้หนี้ก็ไม่ได้ เพราะว่า นี่มันขัดกับหลักการของ กองทุน จริงๆจะเล่นก็ได้ครับ แต่ถ้าเล่นแล้วรับรองว่า เป็นข่าว ทางรัฐก็เลยยอมๆเงียบๆไป และตามหลักการแล้ว เงินกองทุนที่เขาให้เอามานั้น เขาให้เอามาลงทุน ครับ ไม่ใช่เอามา ดาวส์รถ ซื้อ มือถือ ครับ นี่นับว่าผิดวัตถุประสงค์กองทุน และไม่ได้ดำเนินตามหลักการเลยแม้แต่นิดครับ ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า คนควบคุมกองทุนในแต่ละหมู่บ้านนั้น ก็คือ คนในหมู่บ้านกันเอง และก็เป็น ผู้ใหญ่บ้านนั่นเองครับ ซึ่งก็ไม่ได้รับการอบรมเรื่องการบริหารเงินเลย และก็ยังมีนอกมีในอีก กองทุนหมู่บ้านจึงล้มเหลวด้วยประการนี้ครับ
46. ถ้าประชาชนเป็นหนี้ ธกส.แล้ว บ้านเอื้ออาทร และกองทุนหมู่บ้านก็แล้ว สิ้นเดือนหาเงินจ่ายดอกไม่ได้ อย่าลืม *** ้ Capital OK ธุรกิจผมนะครับ
47. แปรรูปการท่าเรือ แล้วทำโครงการพัฒนาท่าเรือคลองเตย ต่อด้วยท่าเรือบ้านฉาง แล้วให้เทมาเส็กซื้อหุ้นการท่าเรือของประเทศ โดยมีข้อตกลงให้ขุดคอขอดกระ ดังนั้นจึงมีโครงการ Mega Project ขุดคอขอดกระ ขณะที่เทมาเส็กสิงคโปร์ขายท่าเรือที่ประเทศตัวเองให้กับดูไบ
48. ให้สัมปทานเหมืองทองคำ 19 ปีที่จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์กับออสเตรเลีย โดยไทยได้ค่าสัมปทานประมาณ 250 ล้านบาท ค่าดำเนินการ 30 ล้านบาท ได้ค่าภาษี 700 ล้านบาท ต่างประเทศได้จากการส่งออกทองคำที่ขุดได้กว่า 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันขุดหมดแล้วรวมเวลา 4ปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างขอสัมปทานเหมืองทองคำที่ใหม่ต่อ จาก สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
49. ร่าง พรบ.เศรษฐกิจพิเศษ กำลังพยายามเปลี่ยนกฎหมายให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองที่ดินได้ จะเหมือนเกาะฮ่องกง ที่เคยเป็นของอังกฤษ, ใครทำผิดกฎหมายมาจากจังหวัดอื่น พอเข้ามาในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ กฎหมายนั้นไม่สามารถ ทำอะไรได้, เปิดบ่อนเสรี, ออกพันธบัตรหรือตราสารหนี้ใช้เอง ฯลฯ จะยึดครองประเทศเหรอ? ล่าสุดคุณหญิงอ้อ ได้กว้านซื้อที่ แถวสุวรรณภูมิเตรียมไว้แล้ว
50. โอนหุ้นให้ขี้ข้า คนขับรถ ปกปิดเลี่ยงภาษี / เลี่ยง กม. เลือกตั้ง
51. เสนอเงินซื้อ สส. พรรคอื่น / ซื้อคนโง่ๆเห็นแก่เงินให้เลือกตน
52. พูดจาโกหกตอแหลเป็นอาจิณ ตลอดจนพูดจาเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น ด่าว่าคนอื่นเขาโง่กันหมด
53. เป็นนายกได้ เพราะศาล รธน. มีมติฉิวเฉียด / เงินเข้ามาเกี่ยวอีกครั้ง เพราะข่าวคราวขณะนั้น มีข่าวว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงิน 300 ล้านบาทก่อนมีการตัดสิน
54. พูดภาษาอังกฤษเหมือนเด็ก ป.6
55. ลูกๆ ก็เก่งกันจัง โอ๊ค เรียน ม. แอบเอาข้อสอบ (โพยคำตอบ) เข้าไปลอกในห้องสอบ ปรากฏว่าถูกจับได้ ความจริงต้องถูกลงโทษสถานหนัก ทักษิณต้องไปเจรจาถึง ม. ราม บังเอิญนายกสภา ม. ราม เป็นพวกเดียวกัน (อีดี้) จึงรอดพ้นความผิดได้แบบสองมาตรฐาน ส่วน เอม สอบเอ็นทรานซ์ไม่ได้จึงต้องหาทางซิกแซกโดยการเข้าเรียนโครงการพิเศษคณะ อุตสาหกรรมเกษตร ม. เกษตร ทั้งที่ไม่ได้เรียนสายวิทย์ (ตามระเบียบคนที่มีสิทธิ์สอบจะต้องเรียนชั้นมัธยมปลายสายวิทย์เท่านั้น แต่ทะลึ่งสอบเข้าไปได้อย่างมหัศจรรย์ ผลสุดท้ายเรียนไปไม่รอดต้องย้ายคณะไปอยู่ภาคเรียนปกติ ซึ่งเป็นพวกที่สอบเข้าด้วยวิธีการสอบเอ็นทรานซ์ ซึ่งเป็นเป็นการโกงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแบบสองมาตรฐาน สำหรับอุ้งอิ้ง เป็นที่ทราบกันดีว่าสอบเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ด้วยวิธีใด เพราะปีนั้นมีข่าวคราวข้อสอบรั่ว เป็นข่าวครึกโครม เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบสองมาตรฐานเช่นเดียวกัน สรุปแล้ว โคตรโกง และโกงทั้งโคตร
56 ทักษิณ สั่งเด้ง! ผวจ.-ผบก.ปัตตานีคนที่ถูกปืนลั่น น่าจะเป็นทั่นหน้าเหลี่ยนนะ ทั่นเล่นชี้นำขนาดนั้นหมาตัวไหนมันจะมากล้าขัดล่ะ เดี๋ยวก็ด่าเขาอีก
น่าจะรู้ตัวนะ ว่าตัวเองปาก*** น่ะ...พอทีนี้มาปฎิเสธว่าไม่ได้ชี้นำ...
57. ทักษิณ สั่ง กกต. เด็กผมเอง สั่งอะไร ไม่เคยขัด ผมเพิ่งเซ็นอนุมัติงบให้ทางกกตที่ขอมาไปวันก่อน จะกล้าขัดใจผมได้งัย
58. ทักษิณ ถูกตัดสินติดคุกแต่ไม่ยอมติดคุก จึงมีสถานะเป็นนักโทษหนีคุก ในขณะที่นักโทษคนอื่น ๆ เมื่อศาลสั่งติดคุก็คือติดคุก จึงปฏิบัติตัวเป็นสองมาตรฐานไม่ยอมรับการตัดสินของศาล
59. กรณีสั่งฆ่าพี่น้องชาวมุสลิมที่มัสยิดกรือเซะ โดยฝีมือทหารแก่ (ปัจจุบัน รับจ้างเผาบ้านเผาเมืองด้วยค่าจ้างรองเท้ากอล์ฟหนึ่งคู่) และกรณีเข่นฆ่าประชาชนที่ตากใบ โดยมีทักษิณบินบัญชาการด้วยตัวเอง
60. ผลประโยชน์ทับซ้อน โดยทักษิณ ใช้อำนาจบาตรใหญ่สร้างความร่ำรวยให้กับบริษัทในเครือของตระกูลทักษิณ
0. การปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บภาษีสรรพสามิต โดยบริษัทในเครือชินคอร์ปได้ประโยชน์ (เอไอเอส) แต่รัฐเสียหายมูลค่า 30,667 ล้านบาท
0 การปรับลดส่วนแบ่งรายได้พรีเพดเป็น 20 % โดยบริษัทในเครือชินคอร์ปได้ประโยชน์ (เอไอเอส) แต่รัฐเสียหายมูลค่า 39,588 ล้านบาท
0. การแก้ไขสัญญาโรมมิ่ง โดยบริษัทในเครือชินคอร์ปได้ประโยชน์ (เอไอเอส) แต่รัฐเสียหายมูลค่า 12,595 ล้านบาท
0. การให้สิทธิประโยชน์ BOI ของไอพีสตาร์ โดยบริษัทในเครือชินคอร์ปได้ประโยชน์ (ชินแซทฯ) แต่รัฐเสียหายมูลค่า 12,776 ล้านบาท
0. การสั่งให้เอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ให้พม่า โดยบริษัทในเครือชินคอร์ปได้ประโยชน์ (ชินแซทฯ) แต่รัฐเสียหายมูลค่า 950 ล้านบาท
ใครมีเพิ่มเติม คอมเม้นไว้ด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
“บ้านเมืองมันอ่อนแอ ...เพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน (ด้านพลังงาน)
ประสาท มีแต้ม
เมื่อแปดปีที่แล้ว ผมได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “ภาระที่ไม่จำเป็นด้านพลังงาน” ดังภาพปกทางซ้ายมือ ภาพลาลากล้อเลื่อนที่บรรทุกหนักจนขาลอย และผู้สนับสนุนการจัดพิมพ์โดยคณะกรรมการกองทุนสื่อเพื่อประชาสังคมต้าน คอร์รัปชัน คงจะบอกถึงเนื้อหาสาระข้างในได้ระดับหนึ่ง
บทหนึ่งในหนังสือเล่มนี้ ผมบอกว่าราคาก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยซื้อจากประเทศพม่ามีราคาแพงกว่าราคา ก๊าซในอ่าวไทยคิดเป็นมูลค่าตลอดโครงการ (40 ปี) ถึง 4.5 แสนล้านบาท ผมได้ข้อมูลนี้มาจากรายงานชิ้นเล็กๆ ของกระทรวงพลังงาน (http://www.eppo.go.th/admin/nlt/nlt-2546-01.pdf) ซึ่งผมคิดว่าเขาคง “เผลอ” บอกมา ทำให้คนไทยต้องแบก “ภาระที่ไม่จำเป็น” คล้ายกับลาตัวนี้
ในวันนั้นผมคิดว่า ราคาก๊าซในอ่าวไทยเป็นราคาปกติที่ทั่วโลกเขาซื้อขายกัน แต่ราคาที่เราซื้อจากประเทศพม่าเป็นราคาที่แพงกว่าปกติ ตอนนั้นผมมีโอกาสได้ “ออกสื่อ” บ้างเล็กน้อย เพราะอยู่ในช่วงการคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ผู้บริหาร ปตท. อธิบายว่า ราคาก๊าซในอ่าวไทยเป็นราคาที่ปากหลุม แต่ราคาจากพม่าเป็นราคาที่ชายแดนที่ผู้ขายต้องลงทุนสร้างท่อมาเองระยะหนึ่ง ราคาจึงต้องสูงกว่า อย่างไรก็ตาม ผมมีราคาการลงทุนท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย เมื่อเทียบเคียงกันแล้ว ผมยืนยันว่าราคาก๊าซในพม่าก็ยังแพงกว่าถึงประมาณ 4.5 แสนล้านบาท
ในวันนั้นไม่มีสื่อใดติดตามประเด็นนี้ หนังสือที่ผมเขียนก็พิมพ์จำนวนแค่พันกว่าเล่ม คนรับรู้จึงน้อย แต่คำบอกเล่าของผมในหนังสือเล่มนี้ที่ว่า "ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช กล่าวว่า ประเทศไทยเราอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรมากมาย หากไม่มีการคอร์รัปชันเสียอย่างเดียว เอาทองคำมาทำถนนยังได้เลย” กลับมาเข้าหูผมโดยคนขับแท็กซี่ใน กทม.ครับ นี่เป็นปรากฏการณ์ของการสื่อสารที่น่าสนใจยิ่ง
ผมเคยเรียนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีทราบถึงปัญหาท่อก๊าซไทย-พม่า เขาบอกว่า "เรื่องนี้เกิดในสมัย ส.ส.สงขลาเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรม รัฐบาลนี้กำลังแก้ปัญหาอยู่” นับว่าเป็นคำตอบที่กระทบชิ่ง แต่ก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรได้เลย
มาวันนี้ รายงานเรื่อง “ธรรมาภิบาลในระบบพลังงานของประเทศ ภาคที่ 2” ของวุฒิสภาที่มี คุณรสนา โตสิตระกูล เป็นประธานจับเรื่องนี้ต่อ ผลการศึกษากลับตรงกันข้ามกับที่ผมเคยสรุปครับ คือ ราคาก๊าซจากประเทศไทยมีราคาต่ำกว่าที่ใดๆ ในหลายแหล่งของโลกประมาณ 40 ถึง 67% รวมทั้งต่ำกว่าราคาที่เราซื้อจากพม่าด้วย (ดูตาราง) ตารางนี้มาจากเอกสารชี้แจงของกระทรวงพลังงานต่อคณะกรรมาธิการฯ รายงานของวุฒิสภาชิ้นนี้น่าสนใจมากครับ (หาได้จากกูเกิล) เฉพาะเรื่องการจัดการรายได้ปิโตรเลียมเพียงประเด็นเดียวสรุปว่า
(1) ประชาชนไทยเจ้าของประเทศได้ค่าภาคหลวงต่ำที่สุดในโลก คือประมาณ 12.5% ถ้ารวมภาษีเงินได้เข้าไปด้วยก็จะได้แค่ร้อยละ 28.87 ของมูลค่าปิโตรเลียมที่ปากหลุมเท่านั้น ในขณะที่ ประเทศพม่า นอกจากค่าภาคหลวง 10% แล้วยังได้ส่วนแบ่งกำไรอีกร้อยละ 50-80 จากน้ำมัน และได้ส่วนแบ่งอีกร้อยละ 45-60 จากการผลิตก๊าซธรรมชาติ และได้ภาษีเงินได้อีกร้อยละ 30 ประเทศกัมพูชาได้ค่าภาคหลวงร้อยละ 12.5 และได้ส่วนแบ่งกำไรอีกร้อยละ 40-60 จากน้ำมัน และส่วนแบ่งกำไร 35% จากก๊าซธรรมชาติ และได้ภาษีเงินได้อีก 30% สำหรับประเทศอินโดนีเซียจะได้ส่วนแบ่งกำไรจากน้ำมันร้อยละ 65 และส่วนแบ่งกำไรจากก๊าซธรรมชาติ 35% และได้ภาษีเงินได้อีก 44%
(2) ราคาก๊าซในอ่าวไทยต่ำกว่าที่อื่นถึง 40-67% ดังที่กล่าวแล้ว
เมื่อผลการศึกษาชิ้นนี้ออกมาว่า ราคาก๊าซในอ่าวไทยต่ำกว่าที่อื่นๆ ทำให้ผมยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก เพราะผมทราบว่าบริษัทผู้ขุดเจาะก๊าซในอ่าวไทย ส่วนมากเป็นบริษัทต่างชาติ มีบริษัท ปตท.สผ.อยู่บ้างแต่ก็ถือว่ายังเป็นส่วนน้อย
การกำหนดค่าภาคหลวงในอัตราต่ำนั้น เราสามารถเข้าใจได้ เพราะบริษัทขุดเจาะจะได้จ่ายเงินให้รัฐบาลไทยน้อยๆ แต่การกำหนดราคาก๊าซให้ต่ำๆ จะทำให้บริษัทขุดเจาะไม่เสียผลประโยชน์หรือ? เพราะบริษัทขุดเจาะจะต้องขายก๊าซนี้ให้แก่บริษัท ปตท.จำกัด เพื่อนำก๊าซผ่านท่อไปขายต่อให้กับผู้ผลิตไฟฟ้า
หลังจากสงสัยและสอบถามใครต่อใครอยู่หลายวัน ก็มาพบความจริงว่า ผู้ขุดเจาะก๊าซจะต้องขายก๊าซให้แก่ บริษัท ปตท. จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ จำกัด (ก่อตั้งปี 2539) โดยที่บริษัทนี้คือบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 58% บริษัท Suez Energy International (ถือหุ้น 40%) และ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (2%)
รายงานของวุฒิสภาฯ ระบุว่า ในปี 2551 ประเทศไทยขายก๊าซ (เฉพาะก๊าซ) ได้ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท โดยที่ราคานี้อยู่ที่ระดับ 45% ของตลาดโลก เราได้ค่าภาคหลวงประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ถ้าคิดกันเต็มราคาจริงที่อัตรา 12.5 % ก็จะได้ค่าภาคหลวง 4 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าคิดเต็มราคาจริงและอัตราที่ 35% (ตามรัฐ Alberta แคนาดา) รัฐก็จะได้ค่าภาคหลวง 1.2 แสนล้านบาท เห็นอะไรไหมครับ?
การกำหนดราคาก๊าซต่ำเช่นนี้ ไม่ได้แปลว่าคนไทยได้ใช้ก๊าซราคาถูก เพราะ บริษัท ปตท.จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ จำกัด นำมาขายแพงอยู่ดี ส่งผลให้ บริษัท ปตท.จำกัด มีกำไรมหาศาล
เขียนมาถึงตอนนี้ ก็นึกถึงคำพูดของ ขุนรองปลัดชู ทางทีวีไทยที่ว่า "กูอยากจะบอกต่อพวกมึงว่า แผ่นดินมันกำลังอ่อนแอ อ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเรือนใกล้จะพัง คานใกล้จะขาด เสาผุกร่อน เพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน วันหนึ่ง ถ้ามันต้องเผชิญกับพายุร้าย แม้นแรงเพียงนิด มันก็ไม่แคล้วต้องพังทลายลง เราต้องดูแลตัวเอง ดูแลบ้านเกิดของเรา ดูแลวิเศษไชยชาญ แล้วกูมีความหวังว่า จิตวิญญาณ...จะปลุกให้พวกเราตื่น
เมื่อแปดปีที่แล้ว ผมได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “ภาระที่ไม่จำเป็นด้านพลังงาน” ดังภาพปกทางซ้ายมือ ภาพลาลากล้อเลื่อนที่บรรทุกหนักจนขาลอย และผู้สนับสนุนการจัดพิมพ์โดยคณะกรรมการกองทุนสื่อเพื่อประชาสังคมต้าน คอร์รัปชัน คงจะบอกถึงเนื้อหาสาระข้างในได้ระดับหนึ่ง
บทหนึ่งในหนังสือเล่มนี้ ผมบอกว่าราคาก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยซื้อจากประเทศพม่ามีราคาแพงกว่าราคา ก๊าซในอ่าวไทยคิดเป็นมูลค่าตลอดโครงการ (40 ปี) ถึง 4.5 แสนล้านบาท ผมได้ข้อมูลนี้มาจากรายงานชิ้นเล็กๆ ของกระทรวงพลังงาน (http://www.eppo.go.th/admin/nlt/nlt-2546-01.pdf) ซึ่งผมคิดว่าเขาคง “เผลอ” บอกมา ทำให้คนไทยต้องแบก “ภาระที่ไม่จำเป็น” คล้ายกับลาตัวนี้
ในวันนั้นผมคิดว่า ราคาก๊าซในอ่าวไทยเป็นราคาปกติที่ทั่วโลกเขาซื้อขายกัน แต่ราคาที่เราซื้อจากประเทศพม่าเป็นราคาที่แพงกว่าปกติ ตอนนั้นผมมีโอกาสได้ “ออกสื่อ” บ้างเล็กน้อย เพราะอยู่ในช่วงการคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ผู้บริหาร ปตท. อธิบายว่า ราคาก๊าซในอ่าวไทยเป็นราคาที่ปากหลุม แต่ราคาจากพม่าเป็นราคาที่ชายแดนที่ผู้ขายต้องลงทุนสร้างท่อมาเองระยะหนึ่ง ราคาจึงต้องสูงกว่า อย่างไรก็ตาม ผมมีราคาการลงทุนท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย เมื่อเทียบเคียงกันแล้ว ผมยืนยันว่าราคาก๊าซในพม่าก็ยังแพงกว่าถึงประมาณ 4.5 แสนล้านบาท
ในวันนั้นไม่มีสื่อใดติดตามประเด็นนี้ หนังสือที่ผมเขียนก็พิมพ์จำนวนแค่พันกว่าเล่ม คนรับรู้จึงน้อย แต่คำบอกเล่าของผมในหนังสือเล่มนี้ที่ว่า "ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช กล่าวว่า ประเทศไทยเราอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรมากมาย หากไม่มีการคอร์รัปชันเสียอย่างเดียว เอาทองคำมาทำถนนยังได้เลย” กลับมาเข้าหูผมโดยคนขับแท็กซี่ใน กทม.ครับ นี่เป็นปรากฏการณ์ของการสื่อสารที่น่าสนใจยิ่ง
ผมเคยเรียนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีทราบถึงปัญหาท่อก๊าซไทย-พม่า เขาบอกว่า "เรื่องนี้เกิดในสมัย ส.ส.สงขลาเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรม รัฐบาลนี้กำลังแก้ปัญหาอยู่” นับว่าเป็นคำตอบที่กระทบชิ่ง แต่ก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรได้เลย
มาวันนี้ รายงานเรื่อง “ธรรมาภิบาลในระบบพลังงานของประเทศ ภาคที่ 2” ของวุฒิสภาที่มี คุณรสนา โตสิตระกูล เป็นประธานจับเรื่องนี้ต่อ ผลการศึกษากลับตรงกันข้ามกับที่ผมเคยสรุปครับ คือ ราคาก๊าซจากประเทศไทยมีราคาต่ำกว่าที่ใดๆ ในหลายแหล่งของโลกประมาณ 40 ถึง 67% รวมทั้งต่ำกว่าราคาที่เราซื้อจากพม่าด้วย (ดูตาราง) ตารางนี้มาจากเอกสารชี้แจงของกระทรวงพลังงานต่อคณะกรรมาธิการฯ รายงานของวุฒิสภาชิ้นนี้น่าสนใจมากครับ (หาได้จากกูเกิล) เฉพาะเรื่องการจัดการรายได้ปิโตรเลียมเพียงประเด็นเดียวสรุปว่า
(1) ประชาชนไทยเจ้าของประเทศได้ค่าภาคหลวงต่ำที่สุดในโลก คือประมาณ 12.5% ถ้ารวมภาษีเงินได้เข้าไปด้วยก็จะได้แค่ร้อยละ 28.87 ของมูลค่าปิโตรเลียมที่ปากหลุมเท่านั้น ในขณะที่ ประเทศพม่า นอกจากค่าภาคหลวง 10% แล้วยังได้ส่วนแบ่งกำไรอีกร้อยละ 50-80 จากน้ำมัน และได้ส่วนแบ่งอีกร้อยละ 45-60 จากการผลิตก๊าซธรรมชาติ และได้ภาษีเงินได้อีกร้อยละ 30 ประเทศกัมพูชาได้ค่าภาคหลวงร้อยละ 12.5 และได้ส่วนแบ่งกำไรอีกร้อยละ 40-60 จากน้ำมัน และส่วนแบ่งกำไร 35% จากก๊าซธรรมชาติ และได้ภาษีเงินได้อีก 30% สำหรับประเทศอินโดนีเซียจะได้ส่วนแบ่งกำไรจากน้ำมันร้อยละ 65 และส่วนแบ่งกำไรจากก๊าซธรรมชาติ 35% และได้ภาษีเงินได้อีก 44%
(2) ราคาก๊าซในอ่าวไทยต่ำกว่าที่อื่นถึง 40-67% ดังที่กล่าวแล้ว
เมื่อผลการศึกษาชิ้นนี้ออกมาว่า ราคาก๊าซในอ่าวไทยต่ำกว่าที่อื่นๆ ทำให้ผมยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก เพราะผมทราบว่าบริษัทผู้ขุดเจาะก๊าซในอ่าวไทย ส่วนมากเป็นบริษัทต่างชาติ มีบริษัท ปตท.สผ.อยู่บ้างแต่ก็ถือว่ายังเป็นส่วนน้อย
การกำหนดค่าภาคหลวงในอัตราต่ำนั้น เราสามารถเข้าใจได้ เพราะบริษัทขุดเจาะจะได้จ่ายเงินให้รัฐบาลไทยน้อยๆ แต่การกำหนดราคาก๊าซให้ต่ำๆ จะทำให้บริษัทขุดเจาะไม่เสียผลประโยชน์หรือ? เพราะบริษัทขุดเจาะจะต้องขายก๊าซนี้ให้แก่บริษัท ปตท.จำกัด เพื่อนำก๊าซผ่านท่อไปขายต่อให้กับผู้ผลิตไฟฟ้า
หลังจากสงสัยและสอบถามใครต่อใครอยู่หลายวัน ก็มาพบความจริงว่า ผู้ขุดเจาะก๊าซจะต้องขายก๊าซให้แก่ บริษัท ปตท. จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ จำกัด (ก่อตั้งปี 2539) โดยที่บริษัทนี้คือบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 58% บริษัท Suez Energy International (ถือหุ้น 40%) และ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (2%)
รายงานของวุฒิสภาฯ ระบุว่า ในปี 2551 ประเทศไทยขายก๊าซ (เฉพาะก๊าซ) ได้ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท โดยที่ราคานี้อยู่ที่ระดับ 45% ของตลาดโลก เราได้ค่าภาคหลวงประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ถ้าคิดกันเต็มราคาจริงที่อัตรา 12.5 % ก็จะได้ค่าภาคหลวง 4 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าคิดเต็มราคาจริงและอัตราที่ 35% (ตามรัฐ Alberta แคนาดา) รัฐก็จะได้ค่าภาคหลวง 1.2 แสนล้านบาท เห็นอะไรไหมครับ?
การกำหนดราคาก๊าซต่ำเช่นนี้ ไม่ได้แปลว่าคนไทยได้ใช้ก๊าซราคาถูก เพราะ บริษัท ปตท.จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ จำกัด นำมาขายแพงอยู่ดี ส่งผลให้ บริษัท ปตท.จำกัด มีกำไรมหาศาล
เขียนมาถึงตอนนี้ ก็นึกถึงคำพูดของ ขุนรองปลัดชู ทางทีวีไทยที่ว่า "กูอยากจะบอกต่อพวกมึงว่า แผ่นดินมันกำลังอ่อนแอ อ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเรือนใกล้จะพัง คานใกล้จะขาด เสาผุกร่อน เพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน วันหนึ่ง ถ้ามันต้องเผชิญกับพายุร้าย แม้นแรงเพียงนิด มันก็ไม่แคล้วต้องพังทลายลง เราต้องดูแลตัวเอง ดูแลบ้านเกิดของเรา ดูแลวิเศษไชยชาญ แล้วกูมีความหวังว่า จิตวิญญาณ...จะปลุกให้พวกเราตื่น
ตำนานเสรีไทย
ที่มา หนังสือตำนานเสรีไทย โดยดร.วิชิตวงศ์ ณ ป้อมเพชร และบทความ60ปีเสรีไทย โดยธนาพล อิ๋วสกุล
แผนที่ปฏิบัติงานของเสรีไทยสายอเมริกาเล็ดลอดเข้าไทย และบริเวณที่2วีรชนเสียสละพลีชีพ
การะเวก ศรีวิจารณ์ ( แครี่ ):เราคนไทยไม่พอใจไม่ว่าชาติใดก็ตามที่เป็นภัยต่อเอกราชของเรา
วีรประวัติ-การะเวก ศรีวิจารณ์ ได้รับพระราชทานยศพันตรีหลังเสียสละชีพเพื่อชาติ ขณะปฏิบัติงานเสรีไทยพร้อมกับสหายศึกอีก2รายคือพันตรีสมพงษ์ ศัลยพงษ์ และพันตรีจำกัด พลางกูร รายนามของทั้ง3ท่านถูกจารึกไว้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาจนตราบทุกวันนี้
ชาตะ- 7 สิงหาคม 2461
มรณะ-11 มิถุนายน 2487 ขณะอายุย่าง 26 ปี หากมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันจะมีอายุ 93 ปี
กำเนิด-เกิดที่บ้านพักราชการหลังที่ว่าการอำเภอบางระจัน สิงห์บุรี บุตรนายกลิ่น นางนวม เป็นน้องชายนายฟุ้ง อดีตอธิบดีกรมศาสนา
การศึกษา-ประถมถึงมัธยมต้น ที่โรงเรียนประจำจังหวัดอ่างทอง
-มัธยมปลาย โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์
-โรงเรียนเทฆนิคทหารบกรุ่น2 รุ่นเดียวกันที่มีชีวิตอยู่เป็นนายพล19คน เช่น พล.อ.เฉลิมชัย จารุวัสตร์ พล.อ.ประลอง วีระปรี
-เดินทางไปเรียนสถาบันMITสหรัฐฯ สำเร็จปริญญาตรีวิศวกรรมโยธาในปี2484 และสำเร็จปริญญาโทวิศวกรรมโยธาที่มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ในปี2485
การปฏิบัติงานเสรีไทย-หลังจากไทยถูกญี่ปุ่นยึดครองในวัน ที่8ธันวาคม2484 ในปีรุ่งขึ้นแครี่เข้าเป็นสมาชิกเสรีไทยในอเมริกา ที่ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เอกอัคราชทูตไทยประจำสหรัฐฯเป็นหัวหน้าและก่อตั้งเสรีไทยขึ้น เข้ารับการฝึกอบรมกับหน่วยทหารอเมริกันคือO.S.S.นาน9เดือน
-เป็นเสนาธิการของเสรีไทยในอเมริกา โดยยกร่างแผนปฏิบัติการสำหรับเสรีไทยสายอเมริการุ่นที่1 ที่จะเดินทางไปสู่สมรภูมิ
-มีนาคม2486 แครี่ซึ่งอายุย่าง25ปีเดินทางออกจากสหรัฐฯร่วมกับเสรีไทย19นายเพื่อเล็ดลอด สู่มาตุภูมิประเทศไทย ด้วยเรือลิเบอร์ตี้ผ่านคลองปานามาไปมหาสมุทรแปซิฟิก ตัดเข้าตอนใต้ออสเตรเลีย ย้อนขึ้นเหนือผ่านมหาสมุทรอินเดียขึ้นบกที่บอมเบย์ ฐานที่มั่นฝ่ายสัมพันธมิตรในเอเชียช่วงกลางเดือนมิถุนายน2486 ใช้เวลาเดินทางรวม 95 วัน ฝึกเพิ่มเติมกับO.S.S.ที่ชายแดนพม่า
-สิงหาคม2486 ย้ายไปจุงกิงนครหลวงของจีนคณะชาติ ซึ่งเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร และย้ายไปที่คุนหมิง จีนตอนใต้
-มกราคม2487 ฐานปฏิบัติการO.S.S.จัดตั้งที่ซือเหมาตอนใต้ของยูนนาน ใกล้พรมแดนลาว(ซึ่งตอนนั้นหลายเมืองของลาวเป็นอาณาเขตของไทย)และวางแผนส่ง เสรีไทย10นายเล็ดลอดเข้าประเทศ เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญคือนำสารจากรัฐบาลสหรัฐฯไปรับรองขบวนการเสรีไทยใน ประเทศว่ากำลังต่อสู้เพื่อเอกราช และไทยจะมีรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อต่อต้านญี่ปุ่นผู้รุกรานยึดครองไทย
-ปลายเดือนกุมภาพันธ์2487 ร.อ.การะเวก และร.ท.สมพงษ์(ยศขณะนั้น)ออกจากซือเหมาเดินทางไปพำนักที่เมืองลา สิบสองปันนาราวเดือนเศษ จากนั้นได้ผู้นำทางชาวจีนไปเมืองพงสาลี ล่องเรือตามลำน้ำโขงถึงเมืองหลวงพระบาง
-10 มิถุนายน 2487 แล้วข้ามโขงเข้าแดนไทยที่ตำบลบ้านด่าน อำเภอเชียงแมน จังหวัดล้านช้าง(ขณะนั้นเป็นดินแดนของไทยที่ได้คืนจากฝรั่งเศส) มีเป้าหมายจะเดินทางต่อไปที่หนองคาย คนนำทางพาไปพบสารวัตรกำนันในตอนเย็น และกำนันได้ขอยึดปืนไว้ เพราะได้รับคำสั่งจากรัฐบาลจอมพลป.พิบูลสงครามให้จับกุมจารชน
-11 มิถุนายน 2487 ตำรวจเชียงแมนจับกุมการะเวกและสมพงษ์ข้อหาจารชนและยึดปืนพกไว้ ตามคำสั่งรัฐบาลต้องส่งทั้งสองไปที่กรุงเทพฯ แต่ตำรวจกลับควบคุมตัวเป็นเชลยลอยเรือไปกลางลำน้ำโขง เมื่อเวลาราว15.40น.ส.ต.ท.สมวงษ์ จันทศร และพลตำรวจถึง มูลพิชัย ได้ยิงปืนใส่ทั้งสอง และผู้นำทาง ร.อ.การะเวกกับผู้นำทางเสียชีวิตทันที ส่วนร.ท.ยังไม่ตายร้องขึ้นว่า"ผมเป็นคนไทยแท้ๆผมมาทำงานเพื่อชาติ ไม่ควรยิงผมเลย"
แต่ตำรวจทั้งสองไม่ปรานีมุ่งค้นสมบัติที่เสรีไทยทั้งสองนำติดตัวมา และเมื่อได้ทองคำที่ทั้งสองได้รับจากO.S.S.มาใช้ในงานกู้ชาติก็โยนร.ท.สม พงษ์ลงน้ำโขง เมื่อว่ายขึ้นมาก็ใช้ไม้ค้ำคอลงไปในลำน้ำ ขณะที่กำลังว่ายหนีไปอยู่ที่แก่งหินกลางน้ำ พลตำรวจถึงยิงใส่ร.ท.สมพงษ์จมหายไปท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว
เรือลำนั้นกลับมาที่สถานีตำรวจเชียงแมนเวลา17.00น.แล้วอ้างว่าจารชนขัดขืน ต่อสู้แย่งชิงปืนตำรวจจึงถูกวิสามัญฆาตกรรม จากนั้นยึดปืน,กระสุนปืน,พันธบัตร,ทองคำ,เครื่องรับส่งวิทยุไว้ ศพของ"แครี่"การะเวกกับคนนำทางถูกทิ้งไว้หน้าสถานีตำรวจ จนเย็นวันรุ่งขึ้นจึงนำไปขุดฝังไว้หลังสถานี ส่วนศพของสมพงษ์ไม่มีผู้พบเห็นทำให้ญาติยังฝังใจมาจนทุกวันนี้ว่าเขายังไม่ ตายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
-เวลาไล่เลี่ยกันร.อ.โผนเดินทางตามหลังทั้งสองมา2สัปดาห์ และก่อนข้ามโขงได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของทั้งสองและแจ้งข่าวไปยังเสรีไทย สายอเมริกาในอีก1เดือนต่อมา ทำให้เสรีไทยในไทยทราบจึงแต่งตั้งข้าราชการทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจมายัง ชายแดนเพื่อคอยช่วยเหลือเสรีไทยให้เล็ดลอดเข้าประเทศได้สำเร็จ
16 สิงหาคม 2488-ปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการ และหัวหน้าขวนการเสรีไทยประกาศสันติภาพ หลังญี่ปุ่นยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่2 และไทยไม่ต้องตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม และไม่ถูกมหาอำนาจผู้ชนะแบ่งแยกเป็นไทยเหนือ-ไทยใต้
-30ตุลาคม2488 หลังสงครามยุติลงมีการรื้อฟื้นคดีสังหาร2เสรีไทย 2ตำรวจมือสังหารโหดหลบหนีข้ามไปฝั่งลาว มีการขุดศพแครี่กลับสู่มาตุภูมิกรุงเทพฯ
-ค่ำวันที่ 25 กันยายน 2488 ปรีดี พนมยงค์ "รูธ"หัวหน้าขบวนการเสรีไทย กล่าวปราศรัยก่อนสลายขบวนการเสรีไทยตอนหนึ่งว่า
10 กุมภาพันธ์ 2497-รัฐบาลสหรัฐฯมอบเหรียญ"เมดัล ออฟ ฟรีดอม"ให้แก่เสรีไทยผู้เสียสละชีวิตทั้งสอง
ท่วงท่าบุคคลิกของการะเวก-แครี่เป็นคนร่างเล็กมีน้ำหนัก เพียง55กิโลกรัม เป็นคนขรึม กำลังกายปานกลาง และรู้จักชั่งใจ แต่มีความเป็นผู้นำสูง แม้ผู้นำทางการของเสรีไทยสายอเมริกาชุดแรก19คนมีโผน อินทรทัตเป็นผู้นำ แต่เพื่อนทั้งหมดกลับให้ความนับถือแครี่มากที่สุด
อุดมคติเรื่องชาติของแครี่-ร.อ.นิคอล สมิธ นายทหารอเมริกันพี่เลี้ยงเสรีไทยชุดนี้บันทึกการสนทนากับเขาไว้ว่า แครี่เชื่อมั่นว่าคนไทยในประเทศก็เช่นเดียวกับเขาที่ต้องการเอกราชสมบูรณ์
หนังสือเล่มที่กล่าวถึงรายละเอียดคดีตำรวจไทยสังหารเสรีไทยเพื่อหวังชิงทองคำที่นำมากู้ชาติ หน้าปกเป็นรูปของการะเวก
เปิดปฏิบัติการเสรีไทยสายอเมริกา
คณะนักเรียนไทยได้รับการจัดตั้งเป็น "กองทหารเสรีไทย" ซึ่งเป็นหน่วยทหารไทยที่ใช้เครื่องแบบของไทย มีธงไทยเป็นเครื่องหมาย มีฐานะทัดเทียมกับทหารฝ่ายสัมพันธมิตร โดยมี ม.ล. ขาบ กุญชร เป็นผู้แทน กองกำลังเสรีไทยสายอเมริกาแบ่งได้เป็นสี่รุ่น คือ
รุ่นแรก มี ม.ล. ขาบ กุญชร ทูตทหาร เป็นหัวหน้าประสานงานร่วมกับ พ.ท. นิคอล สมิธ ผู้เป็นตัวแทนหน่วย O.S.S. คณะนักเรียนไทยชุดแรกจำนวน ๒๑ คนนี้เข้าฝึกการรบพิเศษในวิชาการต่าง ๆ เช่น วิชาแผนที่ วิชาเดินเรือ วิชาสื่อสาร โดยกำหนดหลักสูตรเวลา ๔ เดือน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการในประเทศไทย เป้า ขำอุไร เล่าถึงการฝึกไว้ว่า
"เราเข้าฝึกในค่ายของ U.S. Marrine ซึ่งเป็นค่ายลับอยู่ในป่าใน Maryland หลายแห่งฝึกหนักยิ่งกว่าทหารธรรมดาหลายเท่าในด้านการรบ การใช้อาวุธการต่อสู้ทุกรูปแบบ ในด้านการจารกรรม ก่อวินาศกรรม ฝึกเป็น Jame Bond กันเลย ทำการฝึกหนึ่งปีจนจบหลักสูตร ทางสถานทูตก็ทำการประดับยศให้เป็นร้อยตรีทุกคน... พิธีประดับยศนี้เป็นการประกาศให้อเมริกันทราบว่า เรามิใช่เป็นเสรีไทยแต่ปากเท่านั้น เรามีกำลังรบด้วย"
หลังจากนั้นได้แบ่งเป็นสองสาย
-สายที่ ๑ นำโดย ม.ล. ขาบ กุญชร และ พ.ต. เคฟแลน นายทหารอเมริกา ได้เดินทางล่วงหน้าไปที่เมืองจุงกิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลเจียงไคเช็ค และเป็นที่ตั้งของหน่วย O.S.S. ประจำประเทศจีน เพื่อจัดตั้งหน่วยต่อต้านในประเทศไทย
-สายที่ ๒ ทหารเสรีไทยที่เหลืออีก ๑๙ คน นำโดย พ.ท. นิคอล สมิธ และนายทหาร O.S.S. ๓ นาย เดินทางมายังค่ายฝึก ๑๐๑ ของ O.S.S. ที่ตั้งอยู่ในแคว้นอัสสัมเพื่อฝึกเพิ่มเติม ภารกิจของหน่วยนี้คือการสืบเหตุการณ์ภายในประเทศไทยให้แก่หน่วย O.S.S. ส่งอาวุธและทหารมาช่วยฝึกแบบกองโจร การบ่อนทำลายกองทหารญี่ปุ่น ตลอดจนแลกเปลี่ยนข่าวกรองกับจีนเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่น
รุ่นที่ ๒ มีจำนวน ๓ คน คือบุญมาก เทศะบุตร วิมล วิริยะวิทย์ อานนท์ ศรีวรรธนะ สมัครเข้าฝึกกับหน่วย O.S.S. โดยตรง ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่พิเศษในประเทศไทย เพื่อหาทางติดต่อกับขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นในประเทศไทย วิมล วิริยะวิทย์ เล่าถึงการฝึกว่า
"เพื่อรับภารกิจเร่งด่วน... ผมต้องฝึกการจารกรรมทั้งหมด การฝึกหนักมากเพื่อจุดประสงค์ที่จะให้เข้าไปเป็นแนวที่ ๕ (Fifth Column) ฝึกการใช้วิทยุรับส่ง... การจู่โจมข้าศึก และป้องกันตัวเองการฝึกเอาตัวรอดหรือให้อยู่รอด สอดแนม สะเดาะกุญแจ โจรกรรม ฯลฯ เป็นการฝึกที่หนักมาก ตื่นแต่เช้าตรู่ จมอยู่ในน้ำทั้งวัน แทบจะไม่รู้สึกว่าแดดร้อน น้ำจืดหรือว่าน้ำเค็ม...ร่างกายและจิตใจแข็งแกร่งขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จะออกไปทำภารกิจที่แลกด้วยชีวิตกับความ สำเร็จ"
แม้ว่าเสรีไทยสายอเมริกาจะเดินทางถึงจุงกิง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๔๘๖ แต่เนื่องจากความไม่มั่นใจซึ่งกันและกันระหว่าง ม.ร.ว. เสนีย์กับ ม.ล. ขาบ ทำให้การปฏิบัติการในประเทศไทยต้องล่าช้าออกไป หลังจากนั้นเสรีไทยสายอเมริกา ได้มาตั้งฐานปฏิบัติการสำหรับส่งทหารเข้าปฏิบัติการ ในประเทศที่เมืองซือเหมา โดยชุดแรกออกเดินทางในวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๗ ซึ่งประกอบด้วย
"ปอล (โผน อินทรทัต) ซึ่งเป็นผู้อาวุโสอายุกว่าเพื่อนจะเดินทางโดยลำพัง เขาเป็นคนที่ได้รับการศึกษาทางวิชาทหารมากที่สุด เป็นคนผิวคล้ำ สูงขนาดธรรมดา ...หน้าที่ของเขาคือหาทางเดินประจำจากชายแดนอินโดจีนไปอุตรดิตถ์ ศูนย์กลางทางรถไฟในภาคกลางสยาม เขาจะเป็นผู้ติดต่อกับผู้สื่อข่าวอื่น ๆ นำสิ่งของที่ต้องการไปให้ ถือเอกสารสำคัญที่ส่งทางวิทยุไม่ได้
เอียน (การุณ เก่งระดมยิง) เคยอยู่ลำปางหลายปี เคน (เอี่ยน ขัมพานนท์) และเอียนจะไปเข้าทำงานในเขตนี้ สองคนตรงกันข้ามทางจิตต์ เอียนช่างคิดและเป็นนักทฤษฎีแต่เคนเป็นนักปฏิบัติ เอียนเป็นสมาชิกไฟบีตาแคปปา ฝันแต่ในการหาวิธีทำเครื่องวิทยุให้ดีขึ้น และเคนเป็นวิศวกรรมเมคานิกซ์จะทำให้มันใช้ได้"
ในการเดินทาง ทุกคนแต่งตัวเป็นชาวพื้นเมือง มีเครื่องวิทยุขนาดเล็ก ซึ่งดัดแปลงให้สามารถส่งได้ถึง ๕๐๐ ไมล์ติดตัวไปด้วย พร้อมทองคำไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ปรากฏว่าคนนำทางชาวจีน พยายามถ่วงเวลาการเดินทางให้ช้าลง ทำให้ โผน อินทรทัต ต้องรายงานกลับไปยัง ม.ล. ขาบ เพื่อให้ส่งเสรีไทยชุดที่ ๒ ซึ่งประกอบด้วย "บันนี่ (บุญเย็น ศศิรัตน์) เพา (เป้า ขำอะไร) พีท (พิสุทธ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา) แซม (สวัสดิ์ เชี่ยวสกุล) ปลอมตัวเป็นคนขายของ" เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นชุดต่อไป ทางการจีนจึงไม่สามารถหน่วงเหนี่ยว ไม่ให้เสรีไทยสายอเมริกาเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้อีกต่อไป
เนื่องจากเป็นการเดินทางเข้าประเทศไทย เป็นครั้งแรกของเสรีไทยสายอเมริกา โดยที่ยังไม่มีการประสานงานมาก่อน ทำให้คณะของการะเวกและสมพงษ์ ที่มีนายบุญช่วยเป็นผู้นำทาง ถูกตำรวจคุมตัวที่ตำบลบ้านด่าน อำเภอเชียงแมน จังหวัดล้านช้าง (ซึ่งเป็นของไทยในขณะนั้น) ในวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๘๗ ระหว่างทางทั้งสามถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต โดยอ้างว่าบุคคลทั้งสามขัดขืนและต่อสู้เจ้าหน้าที่ แต่จากคำให้การของ โล่ห์ โจ๊ะทอง ซึ่งเป็นนายท้ายเรือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้การต่อศาลในเวลาต่อมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฆ่าคนทั้งสามเพื่อชิงทรัพย์
แต่การเสียชีวิตของการะเวกและสมพงษ์ไม่สูญเปล่า เพราะการที่ตำรวจได้นำหลักฐานเช่นวิทยุและเอกสารต่าง ๆ รายงานให้ พล.ต.อ. อดุล อดุลเดชจรัส รับทราบ จึงรู้ว่ามีความพยายามในการติดต่อจากต่างประเทศเข้ามา
ขณะที่อีกสาม คนถูกตำรวจไทยจับเช่นกัน และนำมาคุมตัวไว้ที่กองสันติบาล กรุงเทพฯ ที่นั่นเอง การุณและนายเอียนได้ชี้แจงวัตถุประสงค์ให้ พล.ต.อ. อดุล อดุลเดชจรัส รับทราบ
๙ กันยายน ๒๔๘๗ วิมล วิริยะวิทย์ และ บุญมาก เทศะบุตร เสรีไทยสายอเมริกาที่ไปฝึกรุ่นพิเศษ ได้กระโดดร่มลงกลางป่าอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ วิมลถูกคุมตัวมาพบ พล.ต.อ. อดุล ภายหลังจากแจ้งภารกิจให้ทราบ ทั้งคู่ได้เดินทางไปพบ ปรีดี พนมยงค์ วิมลแจ้งให้ทราบว่าทางอเมริกา ยินดีให้การสนับสนุนเสรีไทยทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นทางการทหารหรือในทางการเมือง รวมทั้งรับทราบด้วยว่ามีปฏิบัติการต่อต้านญี่ปุ่น เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย
ต่อมาเสรีไทยชุดที่ ๒ ก็ถูกตำรวจไทยจับเช่นกัน แต่ถูกคุมตัวมาไว้ที่กองสันติบาล กรุงเทพฯ และจุดนี้เองที่ทำให้ทหารเสรีไทยสามารถติดต่อวิทยุกลับไปยังซือเหมาได้ เพราะ พล.ต.อ. อดุลให้ความร่วมมือ นิคอล สมิธ ได้กล่าวถึงความสำคัญของเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ว่า
0000
16 สิงหาคม-วันสันติภาพไทย-รำลึกวันสันติภาพ ไทยพ้นสถานะประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
ปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการและหัวหน้าขบวนการเสรีไทยขณะประกาศแถลงสันติภาพ
รำลึกถึงเหตุการณ์วันที่ 16 สิงหาคม 2488 นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการในขณะนั้น และเป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยได้ออกประกาศสันติภาพ สาระสำคัญคือประกาศว่า การประกาศสงครามต่อสหรัฐฯ และอังกฤษของรัฐบาลจอมพลป.พิบูลสงคราม เป็นโมฆะไม่ผูกพันกับประชาชนชาวไทย ที่ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยต่อต้านญี่ปุ่น และให้สถานะของประเทศกลับไปมีไมตรีอันดีกับ2ประเทศมหาอำนาจเหมือนก่อนประกาศ สงคราม และพร้อมจะร่วมมือทุกวิถีทางกับสหประชาชาติในการสถาปนาเสถียรภาพในโลกนี้
ด้วยคำประกาศสันติภาพดังกล่าว ทำให้ไทยไม่ต้องผูกพันกับญี่ปุ่นและรอดพ้นการตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม มีเอกราชโดยสมบูรณ์ สมควรที่ชาวไทยผู้รักชาติจะได้หวนรำลึกถึงบุญคุณของบรรพชนในคราวนั้น
*******
วีรประวัติ-สมพงษ์ ศัลยพงษ์ ได้รับพระราชทานยศพันตรีหลังเสียสละชีพเพื่อชาติ ขณะปฏิบัติงานเสรีไทยพร้อมกับสหายศึกอีก2รายคือพันตรีการะเวก ศรีวิจารณ์ และพันตรีจำกัด พลางกูร รายนามของทั้ง 3 ท่านถูกจารึกไว้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาจนตราบทุกวันนี้
ชาตะ- 16 มิถุนายน 2461
มรณะ-11 มิถุนายน 2487 ขณะอายุ 26 ปี หากมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันจะมีอายุ 93 ปี
กำเนิด-บุตรของร.ต.เกียรติ ศัลยพงษ์ (ผู้พิพากษา) และนางบุญมี ศัลยพงษ์
การศึกษา-มัธยม สวนกุหลาบวิทยาลัย สหรัฐอเมริกา
-อุดมศึกษา เป็นนักเรียนแพทย์ที่สอบชิงทุนมาศึกษาวิชาเภสัชกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฟิลาเดเฟีย สหรัฐอเมริกา
การปฏิบัติงานเสรีไทย-หลังจากไทยถูกญี่ปุ่นยึดครองในวัน ที่8ธันวาคม2484 ในปีรุ่งขึ้นสมพงษ์ สมัครเข้าเป็นสมาชิกเสรีไทยในอเมริกา ที่ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เอกอัคราชทูตไทยประจำสหรัฐฯเป็นหัวหน้าและก่อตั้งเสรีไทยและมีพ.ท.หม่อมหลวง ขาบ กุญชร เป็นหัวหน้าเสรีไทยสายสหรัฐฯฝ่ายทหาร เข้ารับการฝึกอบรมกับหน่วยทหารอเมริกันคือO.S.S.นาน9เดือน ต่อมาได้รับยศร้อยโท ชื่อรหัส"แซล"
นักเรียนแพทย์สมพงษ์เป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก สอบชิงทุนหลวงได้ไปศึกษาต่อทางด้านเภสัชกรรมศาสตร์ ฟิลาเดลเฟีย ก่อนสมัครเป็นเสรีไทย ภายหลังประเทศถูกญี่ปุ่นยึดครอง
-มีนาคม2486 แซลซึ่งอายุย่าง26ปีเดินทางออกจากสหรัฐฯร่วมกับเสรีไทย19นายเพื่อเล็ดลอดสู่ มาตุภูมิประเทศไทย ด้วยเรือลิเบอร์ตี้ผ่านคลองปานามาไปมหาสมุทรแปซิฟิก ตัดเข้าตอนใต้ออสเตรเลีย ย้อนขึ้นเหนือผ่านมหาสมุทรอินเดียขึ้นบกที่บอมเบย์ ฐานที่มั่นฝ่ายสัมพันธมิตรในเอเชียช่วงกลางเดือนมิถุนายน2486 ใช้เวลาเดินทางรวม 95 วัน ฝึกเพิ่มเติมกับO.S.S.ที่ชายแดนพม่า
-สิงหาคม2486 ย้ายไปจุงกิงนครหลวงของจีนคณะชาติ ซึ่งเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร และย้ายไปที่คุนหมิง จีนตอนใต้
-มกราคม2487 ฐานปฏิบัติการO.S.S.จัดตั้งที่ซือเหมาตอนใต้ของยูนนาน ใกล้พรมแดนลาว(ซึ่งตอนนั้นหลายเมืองของลาวเป็นอาณาเขตของไทย)และวางแผนส่ง เสรีไทย10นายเล็ดลอดเข้าประเทศ เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญคือนำสารจากรัฐบาลสหรัฐฯไปรับรองขบวนการเสรีไทยใน ประเทศว่ากำลังต่อสู้เพื่อเอกราช และไทยจะมีรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อต่อต้านญี่ปุ่นผู้รุกรานยึดครองไทย
-ปลายเดือนกุมภาพันธ์2487 ร.ท.สมพงษ์ และร.อ.การเวก(ยศขณะนั้น)กับเสรีไทยสายอเมริกาชุดแรก10คนได้รับภารกิจเล็ด ลอดเข้าประเทศไทย โดยออกจากซือเหมาเดินทางไปพำนักที่เมืองลา สิบสองปันนาราวเดือนเศษ ที่รอนานเพราะทางจีนคณะชาติหน่วงเหนี่ยวไม่สนับสนุนภารกิจตามที่ให้คำมั่น สัญญาไว้ จึงต้องหาผู้นำทางคนไทยเชื้อสายจีนพาไปเมืองพงสาลี ล่องเรือตามลำน้ำโขงถึงเมืองหลวงพระบาง
การปฏิบัติภารกิจนี้เสียงอันตรายรอบด้าน เพราะต้องหลบหลีกทหารญี่ปุ่น ขณะที่ไม่ได้รับการสนับสนุนภารกิจแต่ถ่วงรั้งจากจีนคณะชาติที่เป็นเจ้าของ พื้นที่ ส่วนเสรีไทยในประเทศก็ยังติดต่อกันไม่ได้เลย ประเทศอยู่ภายใต้การบริหารของจอมพลป.พิบูลสงคราม ซึ่งร่วมมือกับญี่ปุ่น และโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนและกำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นจับกุมตัว จารชนไทยที่ลักลอบเข้าประเทศ
-10 มิถุนายน 2487 ข้ามโขงเข้าแดนไทยที่ตำบลบ้านด่าน อำเภอเชียงแมน จังหวัดล้านช้าง(ขณะนั้นเป็นดินแดนของไทยที่ได้คืนจากฝรั่งเศส) มีเป้าหมายจะเดินทางต่อไปที่หนองคาย แต่คนนำทางพาไปพบสารวัตรกำนันในตอนเย็น และกำนันได้ขอยึดปืนไว้ เพราะได้รับคำสั่งจากรัฐบาลจอมพลป.พิบูลสงครามให้จับกุมจารชน
แผนที่ปฏิบัติงานของเสรีไทยสายอเมริกาเล็ดลอดเข้าไทย และบริเวณที่2วีรชนเสียสละพลีชีพ
-11 มิถุนายน 2487 ตำรวจเชียงแมนจับกุมการะเวกและสมพงษ์ข้อหาจารชนและยึดปืนพกไว้ ตามคำสั่งรัฐบาลต้องส่งทั้งสองไปที่กรุงเทพฯ แต่ตำรวจกลับควบคุมตัวเป็นเชลยลอยเรือไปกลางลำน้ำโขง เมื่อเวลาราว15.40น.ส.ต.ท.สมวงษ์ จันทศร และพลตำรวจถึง มูลพิชัย ได้ยิงปืนใส่ทั้งสอง และผู้นำทาง ร.อ.การะเวกกับผู้นำทางเสียชีวิตทันที
เรือลำนั้นกลับมาที่สถานีตำรวจเชียงแมนเวลา17.00น.แล้วอ้างว่าจารชนขัดขืน ต่อสู้แย่งชิงปืนตำรวจจึงถูกวิสามัญฆาตกรรม จากนั้นยึดปืน,กระสุนปืน,พันธบัตร,ทองคำ,เครื่องรับส่งวิทยุไว้ ศพของ"แครี่"การะเวกกับคนนำทางถูกทิ้งไว้หน้าสถานีตำรวจ จนเย็นวันรุ่งขึ้นจึงนำไปขุดฝังไว้หลังสถานี ส่วนศพของสมพงษ์ไม่มีผู้พบเห็นทำให้ญาติยังฝังใจมาจนทุกวันนี้ว่าเขายังไม่ ตายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
แม้กระทั่งถึงทุกวันนี้ ญาติตระกูลศัลยพงษ์ทุกคน ยังหวังเต็มเปี่ยมว่า สมพงษ์ น่าจะยังไม่ตาย และอาจมีเหตุผลบางอย่างที่ปรากฏตัวไม่ได้ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะมีอายุ 93 ปี
-เวลาไล่เลี่ยกันร.อ.โผนเดินทางตามหลังทั้งสองมา2สัปดาห์ และก่อนข้ามโขงได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของทั้งสองและแจ้งข่าวไปยังเสรีไทย สายอเมริกาในอีก1เดือนต่อมา ทำให้เสรีไทยในไทยทราบจึงแต่งตั้งข้าราชการทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจมายัง ชายแดนเพื่อคอยช่วยเหลือเสรีไทยให้เล็ดลอดเข้าประเทศได้สำเร็จ
16 สิงหาคม 2488-ปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการ และหัวหน้าขวนการเสรีไทยประกาศสันติภาพ หลังญี่ปุ่นยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และไทยไม่ต้องตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม และไม่ถูกมหาอำนาจผู้ชนะแบ่งแยกเป็นไทยเหนือ-ไทยใต้
-30 ตุลาคม 2488 หลังสงครามยุติลงมีการรื้อฟื้นคดีสังหาร 2 เสรีไทย แต่ 2 ตำรวจมือสังหารโหดหลบหนีข้ามไปฝั่งลาว มีการขุดศพแครี่กลับสู่มาตุภูมิกรุงเทพฯ
-ค่ำวันที่ 25 กันยายน 2488 ปรีดี พนมยงค์ "รูธ"หัวหน้าขบวนการเสรีไทย กล่าวปราศรัยก่อนสลายขบวนการเสรีไทยตอนหนึ่งว่า
10 กุมภาพันธ์ 2497-รัฐบาลสหรัฐฯมอบเหรียญ"เมดัล ออฟ ฟรีดอม"ให้แก่เสรีไทยผู้เสียสละชีวิตทั้งสอง ถ้อยความตอนหนึ่งว่า
เจือ ศัลยพงษ์ ผู้พี่ชายรับเหรียญกล้าหาญ"เมดัลออฟฟรีดอม"จากทูตวิลเลียม โดโนแวน 10 ปีหลังการเสียสละชีพเพื่อชาติของสมพงษ์
ท่วงท่าบุคคลิกของสมพงษ์-ร้อยเอกนิคอล สมิธ นายทหารอเมริกัน พี่เลี้ยงเสรีไทยชุดแรกที่ลักลอบเข้าปฏิบัติภารกิจลับในประเทศ บันทึกถึงเขาว่า "แซลมีน้ำหนักเกินกว่า70ก.ก.(160ปอนด์)ร่างใหญ่สมบูรณ์ด้วยกล้ามเนื้อ ใจเร็ว และฉุนเฉียวประเภทไม่กลัวใครหรือสิ่งใดทั้งนั้น ก่อนมาปฏิบัติงานเสรีไทยเขาเป็นนักเรียนแพทย์ที่สอบชิงทุนมาศึกษาวิชา เภสัชกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฟิลาเดเฟีย
ส่วนกำนันที่แจ้งตำรวจมาจับเสรีไทยทั้งสองพูดถึงสมพงษ์ว่า"พูดคล้ายกับคนลาว แต่พูดลาวไม่ชัด หน้าตาก็เหมือนคนไทย"
ความเป็นคนรูปร่างใหญ่น้ำหนักเกิน70ก.ก.ฉุนเฉียวไม่กลัวใครทั้ง สิ้น เขาจึงถูกจับคู่กับการะเวก ศรีวิจารณ์(แครี่)ซึ่งร่างเล็กหนักเพียง 55 ก.ก.เล็ดลอดเข้าประเทศไทย แต่ทั้งสองต้องเสียสละชีพเพื่อชาติในคราวนั้น
********
16 สิงหาคม2554-ครบ 66 ปีวันสันติภาพไทย-รำลึกวันสันติภาพ ไทยพ้นสถานะประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
ปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการและหัวหน้าขบวนการเสรีไทยขณะประกาศแถลงสันติภาพ
รำลึกถึงเหตุการณ์วันที่ 16 สิงหาคม 2488 นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการในขณะนั้น และเป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยได้ออกประกาศสันติภาพ สาระสำคัญคือประกาศว่า การประกาศสงครามต่อสหรัฐฯ และอังกฤษของรัฐบาลจอมพลป.พิบูลสงคราม เป็นโมฆะไม่ผูกพันกับประชาชนชาวไทย ที่ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยต่อต้านญี่ปุ่น และให้สถานะของประเทศกลับไปมีไมตรีอันดีกับ2ประเทศมหาอำนาจเหมือนก่อนประกาศ สงคราม และพร้อมจะร่วมมือทุกวิถีทางกับสหประชาชาติในการสถาปนาเสถียรภาพในโลกนี้
ด้วยคำประกาศสันติภาพดังกล่าว ทำให้ไทยไม่ต้องผูกพันกับญี่ปุ่นและรอดพ้นการตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม มีเอกราชโดยสมบูรณ์ สมควรที่ชาวไทยผู้รักชาติจะได้หวนรำลึกถึงบุญคุณของบรรพชนในคราวนั้น
แผนที่ปฏิบัติงานของเสรีไทยสายอเมริกาเล็ดลอดเข้าไทย และบริเวณที่2วีรชนเสียสละพลีชีพ
การะเวก ศรีวิจารณ์ ( แครี่ ):เราคนไทยไม่พอใจไม่ว่าชาติใดก็ตามที่เป็นภัยต่อเอกราชของเรา
วีรประวัติ-การะเวก ศรีวิจารณ์ ได้รับพระราชทานยศพันตรีหลังเสียสละชีพเพื่อชาติ ขณะปฏิบัติงานเสรีไทยพร้อมกับสหายศึกอีก2รายคือพันตรีสมพงษ์ ศัลยพงษ์ และพันตรีจำกัด พลางกูร รายนามของทั้ง3ท่านถูกจารึกไว้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาจนตราบทุกวันนี้
ชาตะ- 7 สิงหาคม 2461
มรณะ-11 มิถุนายน 2487 ขณะอายุย่าง 26 ปี หากมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันจะมีอายุ 93 ปี
กำเนิด-เกิดที่บ้านพักราชการหลังที่ว่าการอำเภอบางระจัน สิงห์บุรี บุตรนายกลิ่น นางนวม เป็นน้องชายนายฟุ้ง อดีตอธิบดีกรมศาสนา
การศึกษา-ประถมถึงมัธยมต้น ที่โรงเรียนประจำจังหวัดอ่างทอง
-มัธยมปลาย โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์
-โรงเรียนเทฆนิคทหารบกรุ่น2 รุ่นเดียวกันที่มีชีวิตอยู่เป็นนายพล19คน เช่น พล.อ.เฉลิมชัย จารุวัสตร์ พล.อ.ประลอง วีระปรี
-เดินทางไปเรียนสถาบันMITสหรัฐฯ สำเร็จปริญญาตรีวิศวกรรมโยธาในปี2484 และสำเร็จปริญญาโทวิศวกรรมโยธาที่มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ในปี2485
การปฏิบัติงานเสรีไทย-หลังจากไทยถูกญี่ปุ่นยึดครองในวัน ที่8ธันวาคม2484 ในปีรุ่งขึ้นแครี่เข้าเป็นสมาชิกเสรีไทยในอเมริกา ที่ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เอกอัคราชทูตไทยประจำสหรัฐฯเป็นหัวหน้าและก่อตั้งเสรีไทยขึ้น เข้ารับการฝึกอบรมกับหน่วยทหารอเมริกันคือO.S.S.นาน9เดือน
-เป็นเสนาธิการของเสรีไทยในอเมริกา โดยยกร่างแผนปฏิบัติการสำหรับเสรีไทยสายอเมริการุ่นที่1 ที่จะเดินทางไปสู่สมรภูมิ
-มีนาคม2486 แครี่ซึ่งอายุย่าง25ปีเดินทางออกจากสหรัฐฯร่วมกับเสรีไทย19นายเพื่อเล็ดลอด สู่มาตุภูมิประเทศไทย ด้วยเรือลิเบอร์ตี้ผ่านคลองปานามาไปมหาสมุทรแปซิฟิก ตัดเข้าตอนใต้ออสเตรเลีย ย้อนขึ้นเหนือผ่านมหาสมุทรอินเดียขึ้นบกที่บอมเบย์ ฐานที่มั่นฝ่ายสัมพันธมิตรในเอเชียช่วงกลางเดือนมิถุนายน2486 ใช้เวลาเดินทางรวม 95 วัน ฝึกเพิ่มเติมกับO.S.S.ที่ชายแดนพม่า
-สิงหาคม2486 ย้ายไปจุงกิงนครหลวงของจีนคณะชาติ ซึ่งเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร และย้ายไปที่คุนหมิง จีนตอนใต้
-มกราคม2487 ฐานปฏิบัติการO.S.S.จัดตั้งที่ซือเหมาตอนใต้ของยูนนาน ใกล้พรมแดนลาว(ซึ่งตอนนั้นหลายเมืองของลาวเป็นอาณาเขตของไทย)และวางแผนส่ง เสรีไทย10นายเล็ดลอดเข้าประเทศ เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญคือนำสารจากรัฐบาลสหรัฐฯไปรับรองขบวนการเสรีไทยใน ประเทศว่ากำลังต่อสู้เพื่อเอกราช และไทยจะมีรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อต่อต้านญี่ปุ่นผู้รุกรานยึดครองไทย
-ปลายเดือนกุมภาพันธ์2487 ร.อ.การะเวก และร.ท.สมพงษ์(ยศขณะนั้น)ออกจากซือเหมาเดินทางไปพำนักที่เมืองลา สิบสองปันนาราวเดือนเศษ จากนั้นได้ผู้นำทางชาวจีนไปเมืองพงสาลี ล่องเรือตามลำน้ำโขงถึงเมืองหลวงพระบาง
-10 มิถุนายน 2487 แล้วข้ามโขงเข้าแดนไทยที่ตำบลบ้านด่าน อำเภอเชียงแมน จังหวัดล้านช้าง(ขณะนั้นเป็นดินแดนของไทยที่ได้คืนจากฝรั่งเศส) มีเป้าหมายจะเดินทางต่อไปที่หนองคาย คนนำทางพาไปพบสารวัตรกำนันในตอนเย็น และกำนันได้ขอยึดปืนไว้ เพราะได้รับคำสั่งจากรัฐบาลจอมพลป.พิบูลสงครามให้จับกุมจารชน
-11 มิถุนายน 2487 ตำรวจเชียงแมนจับกุมการะเวกและสมพงษ์ข้อหาจารชนและยึดปืนพกไว้ ตามคำสั่งรัฐบาลต้องส่งทั้งสองไปที่กรุงเทพฯ แต่ตำรวจกลับควบคุมตัวเป็นเชลยลอยเรือไปกลางลำน้ำโขง เมื่อเวลาราว15.40น.ส.ต.ท.สมวงษ์ จันทศร และพลตำรวจถึง มูลพิชัย ได้ยิงปืนใส่ทั้งสอง และผู้นำทาง ร.อ.การะเวกกับผู้นำทางเสียชีวิตทันที ส่วนร.ท.ยังไม่ตายร้องขึ้นว่า"ผมเป็นคนไทยแท้ๆผมมาทำงานเพื่อชาติ ไม่ควรยิงผมเลย"
แต่ตำรวจทั้งสองไม่ปรานีมุ่งค้นสมบัติที่เสรีไทยทั้งสองนำติดตัวมา และเมื่อได้ทองคำที่ทั้งสองได้รับจากO.S.S.มาใช้ในงานกู้ชาติก็โยนร.ท.สม พงษ์ลงน้ำโขง เมื่อว่ายขึ้นมาก็ใช้ไม้ค้ำคอลงไปในลำน้ำ ขณะที่กำลังว่ายหนีไปอยู่ที่แก่งหินกลางน้ำ พลตำรวจถึงยิงใส่ร.ท.สมพงษ์จมหายไปท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว
เรือลำนั้นกลับมาที่สถานีตำรวจเชียงแมนเวลา17.00น.แล้วอ้างว่าจารชนขัดขืน ต่อสู้แย่งชิงปืนตำรวจจึงถูกวิสามัญฆาตกรรม จากนั้นยึดปืน,กระสุนปืน,พันธบัตร,ทองคำ,เครื่องรับส่งวิทยุไว้ ศพของ"แครี่"การะเวกกับคนนำทางถูกทิ้งไว้หน้าสถานีตำรวจ จนเย็นวันรุ่งขึ้นจึงนำไปขุดฝังไว้หลังสถานี ส่วนศพของสมพงษ์ไม่มีผู้พบเห็นทำให้ญาติยังฝังใจมาจนทุกวันนี้ว่าเขายังไม่ ตายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
-เวลาไล่เลี่ยกันร.อ.โผนเดินทางตามหลังทั้งสองมา2สัปดาห์ และก่อนข้ามโขงได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของทั้งสองและแจ้งข่าวไปยังเสรีไทย สายอเมริกาในอีก1เดือนต่อมา ทำให้เสรีไทยในไทยทราบจึงแต่งตั้งข้าราชการทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจมายัง ชายแดนเพื่อคอยช่วยเหลือเสรีไทยให้เล็ดลอดเข้าประเทศได้สำเร็จ
16 สิงหาคม 2488-ปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการ และหัวหน้าขวนการเสรีไทยประกาศสันติภาพ หลังญี่ปุ่นยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่2 และไทยไม่ต้องตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม และไม่ถูกมหาอำนาจผู้ชนะแบ่งแยกเป็นไทยเหนือ-ไทยใต้
-30ตุลาคม2488 หลังสงครามยุติลงมีการรื้อฟื้นคดีสังหาร2เสรีไทย 2ตำรวจมือสังหารโหดหลบหนีข้ามไปฝั่งลาว มีการขุดศพแครี่กลับสู่มาตุภูมิกรุงเทพฯ
-ค่ำวันที่ 25 กันยายน 2488 ปรีดี พนมยงค์ "รูธ"หัวหน้าขบวนการเสรีไทย กล่าวปราศรัยก่อนสลายขบวนการเสรีไทยตอนหนึ่งว่า
"ขอให้ท่านได้สำนึกถึงวีรกรรมของเพื่อนร่วมตาย ซึ่งต้องเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้คือนายจำกัด พลางกูร ,นายการะเวก ศรีวิจารณ์ และนายสมพงศ์ ศัลยพงศ์ ชีวิตเขาสิ้นไปเพื่อได้มาซึ่งเอกราช และความคงอยู่ของชาติไทย ซึ่งชาวไทยไม่ควรลืม"
10 กุมภาพันธ์ 2497-รัฐบาลสหรัฐฯมอบเหรียญ"เมดัล ออฟ ฟรีดอม"ให้แก่เสรีไทยผู้เสียสละชีวิตทั้งสอง
ท่วงท่าบุคคลิกของการะเวก-แครี่เป็นคนร่างเล็กมีน้ำหนัก เพียง55กิโลกรัม เป็นคนขรึม กำลังกายปานกลาง และรู้จักชั่งใจ แต่มีความเป็นผู้นำสูง แม้ผู้นำทางการของเสรีไทยสายอเมริกาชุดแรก19คนมีโผน อินทรทัตเป็นผู้นำ แต่เพื่อนทั้งหมดกลับให้ความนับถือแครี่มากที่สุด
อุดมคติเรื่องชาติของแครี่-ร.อ.นิคอล สมิธ นายทหารอเมริกันพี่เลี้ยงเสรีไทยชุดนี้บันทึกการสนทนากับเขาไว้ว่า แครี่เชื่อมั่นว่าคนไทยในประเทศก็เช่นเดียวกับเขาที่ต้องการเอกราชสมบูรณ์
"ไทย เราเป็นเอกราชมากว่า 700 ปี เป็นไปไม่ได้ที่คนไทยจะทนญี่ปุ่นผู้รุกรานยึดครองเราไปได้นาน คนไทยมีสติพอที่จะรู้จักว่า เป็นอิสรชนไม่ได้ตราบใดที่ประเทศถูกยึดครองโดยต่างชาติ เราคนไทยไม่พอใจไม่ว่าชาติใดก็ตามที่เป็นภัยต่อเอกราชของเรา เราไม่ต้องการใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส หรืออเมริกาที่จะมาบงการเราให้ทำอะไรหรือไม่ทำอะไร และหากประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ยังใช้วิธีการครอบครองแบบเก่าต่อไปหลังสงคราม ครั้งนี้.."แครี่เน้นเบาๆ"ผมเกรงว่าต้องนองเลือดแน่ๆ"
หนังสือเล่มที่กล่าวถึงรายละเอียดคดีตำรวจไทยสังหารเสรีไทยเพื่อหวังชิงทองคำที่นำมากู้ชาติ หน้าปกเป็นรูปของการะเวก
เปิดปฏิบัติการเสรีไทยสายอเมริกา
"ปัญญาชนชั้นหนึ่งเท่าที่ O.S.S. เคยมีมา แต่ละคนมีปริญญาเอก ปริญญาโท จากฮาวาร์ด เอ็มไอที และมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่น ๆ ในสหรัฐ"-นิคอล สมิธ
คณะนักเรียนไทยได้รับการจัดตั้งเป็น "กองทหารเสรีไทย" ซึ่งเป็นหน่วยทหารไทยที่ใช้เครื่องแบบของไทย มีธงไทยเป็นเครื่องหมาย มีฐานะทัดเทียมกับทหารฝ่ายสัมพันธมิตร โดยมี ม.ล. ขาบ กุญชร เป็นผู้แทน กองกำลังเสรีไทยสายอเมริกาแบ่งได้เป็นสี่รุ่น คือ
รุ่นแรก มี ม.ล. ขาบ กุญชร ทูตทหาร เป็นหัวหน้าประสานงานร่วมกับ พ.ท. นิคอล สมิธ ผู้เป็นตัวแทนหน่วย O.S.S. คณะนักเรียนไทยชุดแรกจำนวน ๒๑ คนนี้เข้าฝึกการรบพิเศษในวิชาการต่าง ๆ เช่น วิชาแผนที่ วิชาเดินเรือ วิชาสื่อสาร โดยกำหนดหลักสูตรเวลา ๔ เดือน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการในประเทศไทย เป้า ขำอุไร เล่าถึงการฝึกไว้ว่า
"เราเข้าฝึกในค่ายของ U.S. Marrine ซึ่งเป็นค่ายลับอยู่ในป่าใน Maryland หลายแห่งฝึกหนักยิ่งกว่าทหารธรรมดาหลายเท่าในด้านการรบ การใช้อาวุธการต่อสู้ทุกรูปแบบ ในด้านการจารกรรม ก่อวินาศกรรม ฝึกเป็น Jame Bond กันเลย ทำการฝึกหนึ่งปีจนจบหลักสูตร ทางสถานทูตก็ทำการประดับยศให้เป็นร้อยตรีทุกคน... พิธีประดับยศนี้เป็นการประกาศให้อเมริกันทราบว่า เรามิใช่เป็นเสรีไทยแต่ปากเท่านั้น เรามีกำลังรบด้วย"
หลังจากนั้นได้แบ่งเป็นสองสาย
-สายที่ ๑ นำโดย ม.ล. ขาบ กุญชร และ พ.ต. เคฟแลน นายทหารอเมริกา ได้เดินทางล่วงหน้าไปที่เมืองจุงกิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลเจียงไคเช็ค และเป็นที่ตั้งของหน่วย O.S.S. ประจำประเทศจีน เพื่อจัดตั้งหน่วยต่อต้านในประเทศไทย
-สายที่ ๒ ทหารเสรีไทยที่เหลืออีก ๑๙ คน นำโดย พ.ท. นิคอล สมิธ และนายทหาร O.S.S. ๓ นาย เดินทางมายังค่ายฝึก ๑๐๑ ของ O.S.S. ที่ตั้งอยู่ในแคว้นอัสสัมเพื่อฝึกเพิ่มเติม ภารกิจของหน่วยนี้คือการสืบเหตุการณ์ภายในประเทศไทยให้แก่หน่วย O.S.S. ส่งอาวุธและทหารมาช่วยฝึกแบบกองโจร การบ่อนทำลายกองทหารญี่ปุ่น ตลอดจนแลกเปลี่ยนข่าวกรองกับจีนเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่น
รุ่นที่ ๒ มีจำนวน ๓ คน คือบุญมาก เทศะบุตร วิมล วิริยะวิทย์ อานนท์ ศรีวรรธนะ สมัครเข้าฝึกกับหน่วย O.S.S. โดยตรง ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่พิเศษในประเทศไทย เพื่อหาทางติดต่อกับขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นในประเทศไทย วิมล วิริยะวิทย์ เล่าถึงการฝึกว่า
"เพื่อรับภารกิจเร่งด่วน... ผมต้องฝึกการจารกรรมทั้งหมด การฝึกหนักมากเพื่อจุดประสงค์ที่จะให้เข้าไปเป็นแนวที่ ๕ (Fifth Column) ฝึกการใช้วิทยุรับส่ง... การจู่โจมข้าศึก และป้องกันตัวเองการฝึกเอาตัวรอดหรือให้อยู่รอด สอดแนม สะเดาะกุญแจ โจรกรรม ฯลฯ เป็นการฝึกที่หนักมาก ตื่นแต่เช้าตรู่ จมอยู่ในน้ำทั้งวัน แทบจะไม่รู้สึกว่าแดดร้อน น้ำจืดหรือว่าน้ำเค็ม...ร่างกายและจิตใจแข็งแกร่งขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จะออกไปทำภารกิจที่แลกด้วยชีวิตกับความ สำเร็จ"
แม้ว่าเสรีไทยสายอเมริกาจะเดินทางถึงจุงกิง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๔๘๖ แต่เนื่องจากความไม่มั่นใจซึ่งกันและกันระหว่าง ม.ร.ว. เสนีย์กับ ม.ล. ขาบ ทำให้การปฏิบัติการในประเทศไทยต้องล่าช้าออกไป หลังจากนั้นเสรีไทยสายอเมริกา ได้มาตั้งฐานปฏิบัติการสำหรับส่งทหารเข้าปฏิบัติการ ในประเทศที่เมืองซือเหมา โดยชุดแรกออกเดินทางในวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๗ ซึ่งประกอบด้วย
"ปอล (โผน อินทรทัต) ซึ่งเป็นผู้อาวุโสอายุกว่าเพื่อนจะเดินทางโดยลำพัง เขาเป็นคนที่ได้รับการศึกษาทางวิชาทหารมากที่สุด เป็นคนผิวคล้ำ สูงขนาดธรรมดา ...หน้าที่ของเขาคือหาทางเดินประจำจากชายแดนอินโดจีนไปอุตรดิตถ์ ศูนย์กลางทางรถไฟในภาคกลางสยาม เขาจะเป็นผู้ติดต่อกับผู้สื่อข่าวอื่น ๆ นำสิ่งของที่ต้องการไปให้ ถือเอกสารสำคัญที่ส่งทางวิทยุไม่ได้
แครี่ (การะเวก ศรีวิจารณ์) รู้จักชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือเป็นอย่างดี เขาเป็นคนขรึม กำลังกายปานกลางและรู้จักชั่งใจ พ.อ. ขาบถือว่าเขาเป็นสื่อสารดีที่สุด คู่ของเขา คือ ทาซานแซล (สมพงษ์ ศัลยพงศ์) ขี้โกรธและใจเร็ว ไม่กลัวใครหรือสิ่งใด ทั้งสองทำงานร่วมกันดี แครี่สามารถนำกำลังของแซลให้เป็นประโยชน์
เอียน (การุณ เก่งระดมยิง) เคยอยู่ลำปางหลายปี เคน (เอี่ยน ขัมพานนท์) และเอียนจะไปเข้าทำงานในเขตนี้ สองคนตรงกันข้ามทางจิตต์ เอียนช่างคิดและเป็นนักทฤษฎีแต่เคนเป็นนักปฏิบัติ เอียนเป็นสมาชิกไฟบีตาแคปปา ฝันแต่ในการหาวิธีทำเครื่องวิทยุให้ดีขึ้น และเคนเป็นวิศวกรรมเมคานิกซ์จะทำให้มันใช้ได้"
ในการเดินทาง ทุกคนแต่งตัวเป็นชาวพื้นเมือง มีเครื่องวิทยุขนาดเล็ก ซึ่งดัดแปลงให้สามารถส่งได้ถึง ๕๐๐ ไมล์ติดตัวไปด้วย พร้อมทองคำไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ปรากฏว่าคนนำทางชาวจีน พยายามถ่วงเวลาการเดินทางให้ช้าลง ทำให้ โผน อินทรทัต ต้องรายงานกลับไปยัง ม.ล. ขาบ เพื่อให้ส่งเสรีไทยชุดที่ ๒ ซึ่งประกอบด้วย "บันนี่ (บุญเย็น ศศิรัตน์) เพา (เป้า ขำอะไร) พีท (พิสุทธ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา) แซม (สวัสดิ์ เชี่ยวสกุล) ปลอมตัวเป็นคนขายของ" เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นชุดต่อไป ทางการจีนจึงไม่สามารถหน่วงเหนี่ยว ไม่ให้เสรีไทยสายอเมริกาเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้อีกต่อไป
เนื่องจากเป็นการเดินทางเข้าประเทศไทย เป็นครั้งแรกของเสรีไทยสายอเมริกา โดยที่ยังไม่มีการประสานงานมาก่อน ทำให้คณะของการะเวกและสมพงษ์ ที่มีนายบุญช่วยเป็นผู้นำทาง ถูกตำรวจคุมตัวที่ตำบลบ้านด่าน อำเภอเชียงแมน จังหวัดล้านช้าง (ซึ่งเป็นของไทยในขณะนั้น) ในวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๘๗ ระหว่างทางทั้งสามถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต โดยอ้างว่าบุคคลทั้งสามขัดขืนและต่อสู้เจ้าหน้าที่ แต่จากคำให้การของ โล่ห์ โจ๊ะทอง ซึ่งเป็นนายท้ายเรือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้การต่อศาลในเวลาต่อมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฆ่าคนทั้งสามเพื่อชิงทรัพย์
แต่การเสียชีวิตของการะเวกและสมพงษ์ไม่สูญเปล่า เพราะการที่ตำรวจได้นำหลักฐานเช่นวิทยุและเอกสารต่าง ๆ รายงานให้ พล.ต.อ. อดุล อดุลเดชจรัส รับทราบ จึงรู้ว่ามีความพยายามในการติดต่อจากต่างประเทศเข้ามา
ขณะที่อีกสาม คนถูกตำรวจไทยจับเช่นกัน และนำมาคุมตัวไว้ที่กองสันติบาล กรุงเทพฯ ที่นั่นเอง การุณและนายเอียนได้ชี้แจงวัตถุประสงค์ให้ พล.ต.อ. อดุล อดุลเดชจรัส รับทราบ
๙ กันยายน ๒๔๘๗ วิมล วิริยะวิทย์ และ บุญมาก เทศะบุตร เสรีไทยสายอเมริกาที่ไปฝึกรุ่นพิเศษ ได้กระโดดร่มลงกลางป่าอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ วิมลถูกคุมตัวมาพบ พล.ต.อ. อดุล ภายหลังจากแจ้งภารกิจให้ทราบ ทั้งคู่ได้เดินทางไปพบ ปรีดี พนมยงค์ วิมลแจ้งให้ทราบว่าทางอเมริกา ยินดีให้การสนับสนุนเสรีไทยทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นทางการทหารหรือในทางการเมือง รวมทั้งรับทราบด้วยว่ามีปฏิบัติการต่อต้านญี่ปุ่น เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย
ต่อมาเสรีไทยชุดที่ ๒ ก็ถูกตำรวจไทยจับเช่นกัน แต่ถูกคุมตัวมาไว้ที่กองสันติบาล กรุงเทพฯ และจุดนี้เองที่ทำให้ทหารเสรีไทยสามารถติดต่อวิทยุกลับไปยังซือเหมาได้ เพราะ พล.ต.อ. อดุลให้ความร่วมมือ นิคอล สมิธ ได้กล่าวถึงความสำคัญของเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ว่า
"ภายในหนึ่งชั่วโมง ข่าวถูกส่งต่อไปยังคุนหมิง เดลลี จุงกิง แคนดี และวอชิงตัน อาณาจักรไทยสองแสนสองหมื่นตารางไมล์ ไม่เป็นจุดมืดสำหรับข่าวต่อไปแล้ว ได้มีโคมไฟจุดขึ้นในเมืองหลวงของสยามกว่าห้าร้อยไมล์ไปทางทิศใต้ และเรารู้ว่ามันจะส่องแสงสว่างขึ้นทุกที"
0000
16 สิงหาคม-วันสันติภาพไทย-รำลึกวันสันติภาพ ไทยพ้นสถานะประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
ปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการและหัวหน้าขบวนการเสรีไทยขณะประกาศแถลงสันติภาพ
รำลึกถึงเหตุการณ์วันที่ 16 สิงหาคม 2488 นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการในขณะนั้น และเป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยได้ออกประกาศสันติภาพ สาระสำคัญคือประกาศว่า การประกาศสงครามต่อสหรัฐฯ และอังกฤษของรัฐบาลจอมพลป.พิบูลสงคราม เป็นโมฆะไม่ผูกพันกับประชาชนชาวไทย ที่ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยต่อต้านญี่ปุ่น และให้สถานะของประเทศกลับไปมีไมตรีอันดีกับ2ประเทศมหาอำนาจเหมือนก่อนประกาศ สงคราม และพร้อมจะร่วมมือทุกวิถีทางกับสหประชาชาติในการสถาปนาเสถียรภาพในโลกนี้
ด้วยคำประกาศสันติภาพดังกล่าว ทำให้ไทยไม่ต้องผูกพันกับญี่ปุ่นและรอดพ้นการตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม มีเอกราชโดยสมบูรณ์ สมควรที่ชาวไทยผู้รักชาติจะได้หวนรำลึกถึงบุญคุณของบรรพชนในคราวนั้น
*******
สมพงษ์ ศัลยพงศ์( แซล ):ผมเป็นคนไทยแท้ๆไม่ควรยิงผมเลย ผมมาทำงานเพื่อชาติ
วีรประวัติ-สมพงษ์ ศัลยพงษ์ ได้รับพระราชทานยศพันตรีหลังเสียสละชีพเพื่อชาติ ขณะปฏิบัติงานเสรีไทยพร้อมกับสหายศึกอีก2รายคือพันตรีการะเวก ศรีวิจารณ์ และพันตรีจำกัด พลางกูร รายนามของทั้ง 3 ท่านถูกจารึกไว้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาจนตราบทุกวันนี้
ชาตะ- 16 มิถุนายน 2461
มรณะ-11 มิถุนายน 2487 ขณะอายุ 26 ปี หากมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันจะมีอายุ 93 ปี
กำเนิด-บุตรของร.ต.เกียรติ ศัลยพงษ์ (ผู้พิพากษา) และนางบุญมี ศัลยพงษ์
การศึกษา-มัธยม สวนกุหลาบวิทยาลัย สหรัฐอเมริกา
-อุดมศึกษา เป็นนักเรียนแพทย์ที่สอบชิงทุนมาศึกษาวิชาเภสัชกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฟิลาเดเฟีย สหรัฐอเมริกา
การปฏิบัติงานเสรีไทย-หลังจากไทยถูกญี่ปุ่นยึดครองในวัน ที่8ธันวาคม2484 ในปีรุ่งขึ้นสมพงษ์ สมัครเข้าเป็นสมาชิกเสรีไทยในอเมริกา ที่ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เอกอัคราชทูตไทยประจำสหรัฐฯเป็นหัวหน้าและก่อตั้งเสรีไทยและมีพ.ท.หม่อมหลวง ขาบ กุญชร เป็นหัวหน้าเสรีไทยสายสหรัฐฯฝ่ายทหาร เข้ารับการฝึกอบรมกับหน่วยทหารอเมริกันคือO.S.S.นาน9เดือน ต่อมาได้รับยศร้อยโท ชื่อรหัส"แซล"
นักเรียนแพทย์สมพงษ์เป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก สอบชิงทุนหลวงได้ไปศึกษาต่อทางด้านเภสัชกรรมศาสตร์ ฟิลาเดลเฟีย ก่อนสมัครเป็นเสรีไทย ภายหลังประเทศถูกญี่ปุ่นยึดครอง
-มีนาคม2486 แซลซึ่งอายุย่าง26ปีเดินทางออกจากสหรัฐฯร่วมกับเสรีไทย19นายเพื่อเล็ดลอดสู่ มาตุภูมิประเทศไทย ด้วยเรือลิเบอร์ตี้ผ่านคลองปานามาไปมหาสมุทรแปซิฟิก ตัดเข้าตอนใต้ออสเตรเลีย ย้อนขึ้นเหนือผ่านมหาสมุทรอินเดียขึ้นบกที่บอมเบย์ ฐานที่มั่นฝ่ายสัมพันธมิตรในเอเชียช่วงกลางเดือนมิถุนายน2486 ใช้เวลาเดินทางรวม 95 วัน ฝึกเพิ่มเติมกับO.S.S.ที่ชายแดนพม่า
-สิงหาคม2486 ย้ายไปจุงกิงนครหลวงของจีนคณะชาติ ซึ่งเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร และย้ายไปที่คุนหมิง จีนตอนใต้
-มกราคม2487 ฐานปฏิบัติการO.S.S.จัดตั้งที่ซือเหมาตอนใต้ของยูนนาน ใกล้พรมแดนลาว(ซึ่งตอนนั้นหลายเมืองของลาวเป็นอาณาเขตของไทย)และวางแผนส่ง เสรีไทย10นายเล็ดลอดเข้าประเทศ เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญคือนำสารจากรัฐบาลสหรัฐฯไปรับรองขบวนการเสรีไทยใน ประเทศว่ากำลังต่อสู้เพื่อเอกราช และไทยจะมีรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อต่อต้านญี่ปุ่นผู้รุกรานยึดครองไทย
-ปลายเดือนกุมภาพันธ์2487 ร.ท.สมพงษ์ และร.อ.การเวก(ยศขณะนั้น)กับเสรีไทยสายอเมริกาชุดแรก10คนได้รับภารกิจเล็ด ลอดเข้าประเทศไทย โดยออกจากซือเหมาเดินทางไปพำนักที่เมืองลา สิบสองปันนาราวเดือนเศษ ที่รอนานเพราะทางจีนคณะชาติหน่วงเหนี่ยวไม่สนับสนุนภารกิจตามที่ให้คำมั่น สัญญาไว้ จึงต้องหาผู้นำทางคนไทยเชื้อสายจีนพาไปเมืองพงสาลี ล่องเรือตามลำน้ำโขงถึงเมืองหลวงพระบาง
การปฏิบัติภารกิจนี้เสียงอันตรายรอบด้าน เพราะต้องหลบหลีกทหารญี่ปุ่น ขณะที่ไม่ได้รับการสนับสนุนภารกิจแต่ถ่วงรั้งจากจีนคณะชาติที่เป็นเจ้าของ พื้นที่ ส่วนเสรีไทยในประเทศก็ยังติดต่อกันไม่ได้เลย ประเทศอยู่ภายใต้การบริหารของจอมพลป.พิบูลสงคราม ซึ่งร่วมมือกับญี่ปุ่น และโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนและกำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นจับกุมตัว จารชนไทยที่ลักลอบเข้าประเทศ
-10 มิถุนายน 2487 ข้ามโขงเข้าแดนไทยที่ตำบลบ้านด่าน อำเภอเชียงแมน จังหวัดล้านช้าง(ขณะนั้นเป็นดินแดนของไทยที่ได้คืนจากฝรั่งเศส) มีเป้าหมายจะเดินทางต่อไปที่หนองคาย แต่คนนำทางพาไปพบสารวัตรกำนันในตอนเย็น และกำนันได้ขอยึดปืนไว้ เพราะได้รับคำสั่งจากรัฐบาลจอมพลป.พิบูลสงครามให้จับกุมจารชน
แผนที่ปฏิบัติงานของเสรีไทยสายอเมริกาเล็ดลอดเข้าไทย และบริเวณที่2วีรชนเสียสละพลีชีพ
-11 มิถุนายน 2487 ตำรวจเชียงแมนจับกุมการะเวกและสมพงษ์ข้อหาจารชนและยึดปืนพกไว้ ตามคำสั่งรัฐบาลต้องส่งทั้งสองไปที่กรุงเทพฯ แต่ตำรวจกลับควบคุมตัวเป็นเชลยลอยเรือไปกลางลำน้ำโขง เมื่อเวลาราว15.40น.ส.ต.ท.สมวงษ์ จันทศร และพลตำรวจถึง มูลพิชัย ได้ยิงปืนใส่ทั้งสอง และผู้นำทาง ร.อ.การะเวกกับผู้นำทางเสียชีวิตทันที
ส่วนร.ท.สมพงษ์ยังไม่ตายร้องครวญครางอยู่ และเนื่องจากได้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการมอบอาวุธปืนให้ตำรวจไปแล้วก็ไม่ คิดว่าจะถูกยิง และคิดว่าไทยด้วยกันควรมีน้ำใจรักชาติปกป้องมาตุภูมิ ร.ท.สมพงษ์จึงพูดขึ้นว่า"ผมเป็นคนไทยแท้ๆผมมาทำงานเพื่อชาติ ไม่ควรยิงผมเลย"
แต่ตำรวจทั้งสองไม่ปรานีมุ่งค้นสมบัติที่เสรีไทยทั้งสองนำติดตัวมา และเมื่อได้ทองคำที่ทั้งสองได้รับจากO.S.S.มาใช้ในงานกู้ชาติก็โยนร.ท.สม พงษ์ลงน้ำโขงเพื่อให้ตาย แต่ความที่ร่างใหญ่แข็งแรงร.ท.สมพงษ์ได้ว่ายเข้ามาเกาะเรือไว้ พลตำรวจถึงเอาปืนจ้องคนพายเรือสั่งให้เอาไม้พายค้ำไปที่ตัวร.ท.สมพงษ์ให้จม น้ำตาย แต่เขาก็ดิ้นหลุดดำน้ำไปเกาะอยู่ที่แก่งหินกลางน้ำ คนพายเรือถูกสั่งใพยเรือตามไป แล้วพลตำรวจถึงยิงใส่ร.ท.สมพงษ์2-3นัด แล้วร่างของร.ท.สมพงษ์ก็จมหายไปท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว
เรือลำนั้นกลับมาที่สถานีตำรวจเชียงแมนเวลา17.00น.แล้วอ้างว่าจารชนขัดขืน ต่อสู้แย่งชิงปืนตำรวจจึงถูกวิสามัญฆาตกรรม จากนั้นยึดปืน,กระสุนปืน,พันธบัตร,ทองคำ,เครื่องรับส่งวิทยุไว้ ศพของ"แครี่"การะเวกกับคนนำทางถูกทิ้งไว้หน้าสถานีตำรวจ จนเย็นวันรุ่งขึ้นจึงนำไปขุดฝังไว้หลังสถานี ส่วนศพของสมพงษ์ไม่มีผู้พบเห็นทำให้ญาติยังฝังใจมาจนทุกวันนี้ว่าเขายังไม่ ตายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
แม้กระทั่งถึงทุกวันนี้ ญาติตระกูลศัลยพงษ์ทุกคน ยังหวังเต็มเปี่ยมว่า สมพงษ์ น่าจะยังไม่ตาย และอาจมีเหตุผลบางอย่างที่ปรากฏตัวไม่ได้ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะมีอายุ 93 ปี
-เวลาไล่เลี่ยกันร.อ.โผนเดินทางตามหลังทั้งสองมา2สัปดาห์ และก่อนข้ามโขงได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของทั้งสองและแจ้งข่าวไปยังเสรีไทย สายอเมริกาในอีก1เดือนต่อมา ทำให้เสรีไทยในไทยทราบจึงแต่งตั้งข้าราชการทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจมายัง ชายแดนเพื่อคอยช่วยเหลือเสรีไทยให้เล็ดลอดเข้าประเทศได้สำเร็จ
16 สิงหาคม 2488-ปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการ และหัวหน้าขวนการเสรีไทยประกาศสันติภาพ หลังญี่ปุ่นยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และไทยไม่ต้องตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม และไม่ถูกมหาอำนาจผู้ชนะแบ่งแยกเป็นไทยเหนือ-ไทยใต้
-30 ตุลาคม 2488 หลังสงครามยุติลงมีการรื้อฟื้นคดีสังหาร 2 เสรีไทย แต่ 2 ตำรวจมือสังหารโหดหลบหนีข้ามไปฝั่งลาว มีการขุดศพแครี่กลับสู่มาตุภูมิกรุงเทพฯ
-ค่ำวันที่ 25 กันยายน 2488 ปรีดี พนมยงค์ "รูธ"หัวหน้าขบวนการเสรีไทย กล่าวปราศรัยก่อนสลายขบวนการเสรีไทยตอนหนึ่งว่า
"ขอให้ท่านได้สำนึกถึงวีรกรรมของเพื่อนร่วมตาย ซึ่งต้องเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้คือนายจำกัด พลางกูร ,นายการะเวก ศรีวิจารณ์ และนายสมพงศ์ ศัลยพงศ์ ชีวิตเขาสิ้นไปเพื่อได้มาซึ่งเอกราช และความคงอยู่ของชาติไทย ซึ่งชาวไทยไม่ควรลืม"
10 กุมภาพันธ์ 2497-รัฐบาลสหรัฐฯมอบเหรียญ"เมดัล ออฟ ฟรีดอม"ให้แก่เสรีไทยผู้เสียสละชีวิตทั้งสอง ถ้อยความตอนหนึ่งว่า
"วีรกรรม และการเสียสละอันใหญ่หลวงเป็นพิเศษของร้อยโทสมพงษ์นั้นย่อมปรากฎเป็น เกียรติคุณความดียิ่งแก่ตนเอง แก่ประเทศ และแก่สหรัฐอเมริกาด้วย"
เจือ ศัลยพงษ์ ผู้พี่ชายรับเหรียญกล้าหาญ"เมดัลออฟฟรีดอม"จากทูตวิลเลียม โดโนแวน 10 ปีหลังการเสียสละชีพเพื่อชาติของสมพงษ์
ท่วงท่าบุคคลิกของสมพงษ์-ร้อยเอกนิคอล สมิธ นายทหารอเมริกัน พี่เลี้ยงเสรีไทยชุดแรกที่ลักลอบเข้าปฏิบัติภารกิจลับในประเทศ บันทึกถึงเขาว่า "แซลมีน้ำหนักเกินกว่า70ก.ก.(160ปอนด์)ร่างใหญ่สมบูรณ์ด้วยกล้ามเนื้อ ใจเร็ว และฉุนเฉียวประเภทไม่กลัวใครหรือสิ่งใดทั้งนั้น ก่อนมาปฏิบัติงานเสรีไทยเขาเป็นนักเรียนแพทย์ที่สอบชิงทุนมาศึกษาวิชา เภสัชกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฟิลาเดเฟีย
ส่วนกำนันที่แจ้งตำรวจมาจับเสรีไทยทั้งสองพูดถึงสมพงษ์ว่า"พูดคล้ายกับคนลาว แต่พูดลาวไม่ชัด หน้าตาก็เหมือนคนไทย"
ความเป็นคนรูปร่างใหญ่น้ำหนักเกิน70ก.ก.ฉุนเฉียวไม่กลัวใครทั้ง สิ้น เขาจึงถูกจับคู่กับการะเวก ศรีวิจารณ์(แครี่)ซึ่งร่างเล็กหนักเพียง 55 ก.ก.เล็ดลอดเข้าประเทศไทย แต่ทั้งสองต้องเสียสละชีพเพื่อชาติในคราวนั้น
********
16 สิงหาคม2554-ครบ 66 ปีวันสันติภาพไทย-รำลึกวันสันติภาพ ไทยพ้นสถานะประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
ปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการและหัวหน้าขบวนการเสรีไทยขณะประกาศแถลงสันติภาพ
รำลึกถึงเหตุการณ์วันที่ 16 สิงหาคม 2488 นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการในขณะนั้น และเป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยได้ออกประกาศสันติภาพ สาระสำคัญคือประกาศว่า การประกาศสงครามต่อสหรัฐฯ และอังกฤษของรัฐบาลจอมพลป.พิบูลสงคราม เป็นโมฆะไม่ผูกพันกับประชาชนชาวไทย ที่ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยต่อต้านญี่ปุ่น และให้สถานะของประเทศกลับไปมีไมตรีอันดีกับ2ประเทศมหาอำนาจเหมือนก่อนประกาศ สงคราม และพร้อมจะร่วมมือทุกวิถีทางกับสหประชาชาติในการสถาปนาเสถียรภาพในโลกนี้
ด้วยคำประกาศสันติภาพดังกล่าว ทำให้ไทยไม่ต้องผูกพันกับญี่ปุ่นและรอดพ้นการตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม มีเอกราชโดยสมบูรณ์ สมควรที่ชาวไทยผู้รักชาติจะได้หวนรำลึกถึงบุญคุณของบรรพชนในคราวนั้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน