The Economist -ว่าไงเกี่ยวกับทักษิณ

โดยดร.ไก่ Tanond เมื่อ 24 กรกฎาคม 2011 เวลา 12:20 น.

Bangkok, Thailand July 1, 2011 -
While many may believe the Economist is a reputable news publication, it is in reality a clearinghouse for the global corporatacracy and their illegitimate agenda. The Economist itself admitted to consorting with the global-elite at various venues including the annual, illegal Bilderberg meeting. And while many may rush to their defense, claiming such consorting is innocuous, the constant litany of self-serving, agenda peddling articles it turns out suggests differently. No piece better exemplifies this than their latest article, "Hands off the result.
" Describing Thailand's upcoming July 3 elections, the Economist considers the country as good as in the hands of the foreign-backed opposition party, and instructs the current Thai government to "behave as a loyal opposition."
ดิอีคอนโนมิสต์ ได้ขยายความถึงการเลือกตั้งของไทยที่จะมีขึ้นว่า..ประเทศไทยกำลังตกอยู่ใน มือของพรรคฝ่ายค้าน ที่มีต่างชาติคอยสนับสนุน มิหนำซ้ำยังสั่งให้รัฐบาลคณะปัจจุบัน..แสดงตนเป็นฝ่ายตรงข้ามกับสถาบัน..

What the Economist conveniently omits is the fact that the opposition party in Thailand, Peua Thai, is led by convicted criminal, Dubai-based fugitive, and globalist-stooge Thaksin Shinawatra. While the Economist claims that Thaksin's sister, who is running in his place, "is running a slick and brilliant campaign," the reality is she is simply a place holder with the campaign slogan reduced literally to, "Thaksin thinks, Peua Thai does."
แต่สิ่งที่ดิอีคอนฯ..เจตนาไม่กล่าวถึง ก็คือข้อเท็จจริงที่ว่า ..พรรคเพื่อไทยนั้นนำโดยอาชญากร นักโทษหนีคุกที่ไปตั้งรกรากในดูไบ..แถมยังยกยอน้องสาวทักษิณผู้มาแทนที่ด้วย ว่า ..กำลังรณรงค์หาเสียงได้อย่างเนียน เยี่ยมยอด ทั้งๆที่เธอก็เป็นเพียงผู้รักษาตำแหน่งให้ผู้พี่ ไม่ต่างกับป้ายหาเสียงที่เขียนว่า ..ทักษิณคิด เพื่อไทยทำันั่นเอง

It is quite clear,upon examining the facts the Economist omitted, who the Western corporate-elite want to win the Thai July 3rd election. And while the Economist instructs Thailand to keep it's hands off its own election results, suggesting the Thai Army "stay firmly in its barracks" and allow a convicted criminal's overt proxy party to seize control of the country, it fails to provide any advice to Thaksin's Peua Thai party in the event it fails to take over Thailand's parliamentary system.

In fact, the Economist suggests that "if it [Peua Thai] handsomely beats the Democrats yet is kept from power by a blocking coalition or by the disqualification through the courts of some of its candidates, its supporters will feel, yet again, that they have been cheated. They may abandon hopes for change through the ballot box." Of course, in Thailand's parliamentary systems, it is perfectly legal to form coalitions in any manner parties agree on. It is also perfectly legal to prosecute and disqualify candidates guilty of overt vote buying. By abandoning hope for change through the ballot box, the Economist of course means tipping off a third consecutive year of murderous street riots. 2010's riots featured admitted militants fielded by Thaksin's proxy "red shirt" movement. 2011's will surely make 2010's violence pale in comparison.

What the Economist, in tandem with fellow Chatham House major corporate member Amsterdam & Peroff, are trying to accomplish is establishing a particular narrative to call the elections "stolen" and justify Thaksin's third attempt of topping Thailand in violence and chaos in the streets. In an instant replay of the foreign-funded destabilization in Tunisia and Egypt, the global elite and their treasonous proxy Thaksin Shinawatra are preparing to plunge the region into an "Asian Summer."

แผ่นดินนี้เพื่อใคร?

เมื่อ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๓๑๐ พระยาตากสินได้ปราบดาภิเษกพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงธนบุรี ประชาชนขนานนามพระองค์ว่าพระเจ้ากรุงธนบุรี จากนั้นจึงได้ทรงปราบปรามก๊กต่างๆที่แตกแยกกันเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยา อันมีก๊กเจ้าพระฝาง ก๊กเจ้าพระยาพิษณุโลก ก๊กเจ้านคร และก๊กเจ้าพิมายได้สำเร็จ  จึงทรงรวบรวมผืนแผ่นดินไทยให้เป็นปึกแผ่น และตกทอดมาเป็นมรดกของลูกหลานไทยตราบจนปัจจุบัน 

           จะเห็นได้ว่าพระองค์นั้นทรงมีพระคุณต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาประมาณมิได้ ทรงลำบากพระวรกายต้องกรำศึกสงคราม เอาเลือด เอาเนื้อ และชีวิตของพระองค๋รวมทั้งเหล่าบรรพชนของไทยเข้าแลกไว้ เพื่อให้ลูกหลานไทยได้มีแผ่นดินเป็นที่อาศัยและทำกิน อยู่กันด้วยความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา พระราชอาณาเขตในสมัยของพระองค์ท่านกว้างขวางยิ่งใหญ่กว่านี้หลายเท่านัก

                   ทิศเหนือ ตลอดอาณาจักรล้านนา
                   ทิศใต้  ตลอดเมืองไทรบุรีและตรังกานู
                   ทิศตะวันออก  ตลอดกัมพูชาจนญวนใต้
                   ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ  ตลอดนครเวียงจันทน์ หัวเมืองพวน และนครหลวงพระบาง หัวพันทั้งห้าทั้งหก
                   ทิศตะวันออกเฉียงใต้  ตลอดเมืองพุทธไธมาศ
                   ทิศตะวันตก ตลอดเมืองมะริดและตะนาวศรีออกมหาสมุทรอินเดีย 

           แล้วแผ่นดินที่เร่าร้อนอยู่ขณะนี้มันเป็นของใครกันเล่า ในช่วงชีวิตของพวกเราความลำบากต่างๆที่พระองค์ท่านประสบพบมานั้น ดูเหมือนว่าเราทุกคนไม่ค่อยตระหนักถึงเพราะสงครามที่เราพบในปัจจุบันเป็นสงครามเศรษฐกิจ ศัตรูต้องการผลประโยชน์ทั้งหมดจากแผ่นดินนี้ แค่สามสี่จังหวัดภาคใต้ความร่วมไม้ร่วมมือกับภาครัฐและความสามัคคีของคนในชาติก็แทบจะไม่มีเหลือ การฆ่าครูรายวันนั้นมันเรื่องเล็ก เขาต้องการทำลายขวัญและกำลังใจมากกว่า เมื่อคนส่วนใหญ่ออกจากพื้นที่ ก็คงต้องดึง UN เข้ามาจัดการลงประชามติเพื่อแยกการปกครองออกจากประเทศไทย 

           ถึงตอนนั้นไม่ใช่เสียแค่สามสี่จังหวัดเท่านั้นผลประโยชน์ของชาติ เช่นทะเลอาณาเขต ไหล่ทวีป แหล่งแก๊สและทรัพยากรธรรมชาติในทะเล จะสูญเสียไปอีกเท่าไหร่ แล้วคิดหรือว่าจะหยุดแค่นั้น คนไทยมัวแต่ทะเลาะเบาะแว้งกัน พี่อิจฉาน้องปล่อยให้ต่างชาติแทรกซึมไปอยู่ในทุกแห่งหนเพราะผลประโยชน์มันบังตา มีอำนาจแล้วมัวแต่ระแวงกลัวจะถูกย้อนศร รอคอยความหวังและการกระทำจากพวกชอบพูดแต่ไม่เคยทำ อ้างทำเพื่อความสมานฉันท์เป็นกันไปหมดทุกองค์การ คิดถึงหัวอก ของคนและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือครูผู้เสียชีวิตกันบ้างหรือไม่ ว่าขวัญและกำลังใจยังดีอยู่หรือไม่

         ผู้รักชาติรักแผ่นดินจะทำอะไรก็ถูกปิดกั้น ขอร้องไม่เชื่อก็ใช้อำนาจบังคับข่มขู่ ส่วนฝ่ายที่ประกาศอย่างชัดแจ้งว่าต้องการแยกดินแดน กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เสียนี่ ไม่รู้หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้เพื่อประโยชน์ของใครกัน หากเป็นสมัยก่อน ขุนศึกที่ไม่ชนะสงครามท่านให้ประหารเจ็ดชั่วโคตร แต่เดี๋ยวนี้มาคบกับนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญทฤษฏี" ลุงเฉย สมานฉันท์ " จึงต้อง...เฉยไว้ๆแล้วดีเอง...

           แต่อยากจะบอกให้รู้กันทั่วไปว่าแผ่นดินไทยนี้ศักดิ์สิทธิ์ มันผู้ใดที่คิดร้ายต่อแผ่นดินย่อมพบกับความวิบัติฉิบหายในฉับพลัน กลับตัวกลับใจรีบทำความดีตอบแทนคุณแผ่นดินเสียโดยเร็วเพราะคนเรานั้นอายุมันน้อยนัก อยากใหญ่หรือจะยิ่งใหญ่เพียงใดก็ไม่ใหญ่เกิน...โลง...
           สุดท้ายก็ขอนำคำจารึกในศาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่วัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งแสดงถึงพระราชปรารถนา ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไว้ดังนี้.....
                  
                 อันตัวพ่อ                     ชื่อว่า               พระยาตาก
             ทนทุกข์ยาก                     กู้ชาติ              พระศาสนา
             ถวายแผ่นดิน                   ให้เป็น              พุทธบูชา
             แด่ศาสนา                        สมณะ              พระพุทธโคดม
                 ให้ยืนยง                      คงถ้วน             ห้าพันปี
             สมณะพราหมณ์ชี             ปฏิบัติ              ให้พอสม
             เจริญสมถะ                      วิปัสสนา            พ่อชื่นชม
             ถวายบังคม                     รอยบาท            พระศาสดา
                 คิดถึงพ่อ                     พ่ออยู่               คู่กับเจ้า
             ชาติของเรา                     คงอยู่                คู่พระศาสนา
             พระพุทธศาสนา                อยู่ยง               คู่องค์กษัตรา
             พระศาสดา                      ฝากไว้              ให้คู่กัน
                                
                                 ********************

พายุการเมืองตั้งท่า ส่อเค้ายุ่ง!ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม

"เรื่อง แขวน ส.ส.ต้องรอ กกต.ทำงานให้ครบขั้นตอนก่อน เพราะเขายังถือความชอบธรรมเรื่องกรอบเวลาตามกฎหมาย ถ้าสุดทางแล้วยังไม่รับรอง ผมรับรองได้เลยว่า งานใหญ่แน่นอน " กับคำพูดของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ตอนนี้ยังเป็นแค่ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช .  เพราะยังต้องรอ กกต.ให้การรับรองส.ส.อย่างเป็นทางการแล้ว  

เรียก ได้ว่า งานนี้ส่อเค้ายุ่งแน่! หาก"ยิ่งลักษณ์"ไม่ผ่าน ด่าน 5 เสือ กกต. ในการรับรองส.ส. ก่อนวันที่1 ส.ค. ที่จะถึงนี้ เพื่อเปิดสภากำหนดขั้นตอนโหวตเลือกเป็น นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ  ทุกภาคส่วนในสังคมไทยอาจถึงต้อง สะดุ้ง! เมื่อนึกหวนกลับไปนึกถึงการชุมนุมใหญ่ของ กลุ่มนปช. เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา  ซึ่งต้องยอมรับว่าได้สร้างความสูญเสียให้กับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้อง ประชาชน  และประเทศชาติ อย่างไม่เคยมีมาก่อน  หลายคนยังคงจำภาพเหตุการณ์และบรรยากาศรวมถึงสถานการณ์ความวุ่นวาย  ในการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ได้อย่างไม่มีวันลืม  และคงไม่อยากให้สิ่งเหล่านั้นตามกลับมาหลอกหลอนอีก ถึงกับต้องใช้คำว่า น่ากลัว!  หากเกิดการลุกฮือของประชาชนอีกครั้งของ กลุ่มผู้ชุมนุมนปช.  เพราะไม่พอใจกับการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง

แต่การชิงรีบ ออกมาดักคอ กล่าวความคิดเห็นส่วนตัวในลักษณะเช่นนี้ ของนายณัฐวุฒิ สังคมก็ต้องตั้งคำถามกลับว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ เพียงไร เพราะการส่งสัญญาณลักษณะนี้ เหมือนเป็นการจุดเชื้อไฟให้ กลุ่มคนเสื้อแดง เตรียมพร้อมหากไม่ได้ดังหวังก็จะออกมาป่วนให้ถึงที่สุดหรือไม่ ทั้งที่สังคมเองตั้งความหวังว่า หลังการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านพ้นไป ประเทศไทยน่าจะได้รัฐบาลที่มาตามครรลอง  และสามารถบริหารบ้านเมืองให้กลับเข้าสู่ความเป็นปกติได้ อย่างที่หลายคนหวัง
แต่ สถานการณ์ในขณะนี้สุ่มเสี่ยงที่จะไม่เป็นดังหวัง เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้สั่งแขวน  นส.ยิ่งลักษณ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมไปถึงแกนนำกลุ่มนปช. เพราต้องรอตรวจสอบข้อร้องเรียนของแต่ละคนก่อน ประกอบกับ กกต. ระบุ เตรียมพิจารณาแจกใบเหลือง-แดง ให้กับว่าที่ส.ส. ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งประมาณสัปดาห์หน้า แต่อย่างไรสังคมไทยยังคงเชื่อมั่นว่า กกต.จะพิจารณาเป็นไปตามข้อเท็จจริง และสามารถรับรอง นส.ยิ่งลักษณ์ และนายอภิสิทธิ์ ได้ทันก่อนถึงวันที่ 1 ส.ค.นี้ได้
แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุรับรองไม่ได้จริงๆ กกต.ก็ต้องตอบสังคมให้หมดข้อสงสัยให้ได้  และกลุ่มผุ้สนับสนุน นส.ยิ่งลักษณ์เองก็ต้องยอมรับ แต่การที่ พลพรรคเพื่อไทย อย่างนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค ออกมาปฏิเสธ รวมไปถึงมีลักษณะข่มขู่ไปถึง กกต. ทำนอง "การเลือกตั้งจบไปแล้ว อย่าไปฝันว่ายังไม่ได้เลือกตั้ง ในขณะนี้ถือว่าพรรคเพื่อไทยมีความชอบธรรมจากประชาชนให้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งผู้แทนที่จะเข้าสู่สภาก็เกินกว่าครึ่งที่มีความเห็นให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี"
และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า นอกจากจะปัดว่า พท.ไม่มีการตั้งนายกฯสำรองแล้ว  กรณี นายสมชาย-นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ไม่ได้ไปช่วย นส.ยิ่งลักษณ์ หาเสียง  เพียงแต่ไปยืนดูเท่านั้น และกฎหมายไม่ได้ห้ามว่าไปฟังปราศรัยไม่ได้ หากห้ามจะไม่เป็นการจำกัดสิทธิ์มากเกินไปหรือไม่" นั้น

ทำให้สถานการณ์ในตอนนี้จึง ไม่ต่างอะไร กับช่วงก่อนมีการเลือกตั้ง ที่ยังคงมีการกล่าวหาว่า มีการปะทะกันระหว่าง 2 ขั้วอำนาจ  ด้านหนึ่ง อ้างว่า มาตามระบอบประชาธิปไตย  ได้รับความไว้วางใจเลือกตั้งเข้ามา มีสิทธิอันชอบธรรมในการเข้ามาบริหารประเทศ   อีกอำนาจหนึ่ง ก็ระบุว่า ต้องเคารพในกฎ  กติกา คณะกรรมการการเลือกตั้งมีสิทธิ์ในการตรวจสอบข้อร้องเรียนตามกฎหมาย ดังนั้นไม่ควรชิงรับออกมาตีโพยตีพายไปก่อนหน้า ให้อดใจรอการตรวจสอบอีกนิด เมื่อไม่มีปัญหา ก็จะได้รับการรับรองตามกฎหมาย แล้วก็คงจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมใจ
ส่วนเรื่องที่ยังวุ่นวายไม่ จบ โผ ครม.ของรัฐบาล ปู 1 ที่ยังคงไม่มีท่าทีว่าจะนิ่ง ยังมีการต่อรองจากกลุ่มก๊วนกันเองในพรรคเพื่อไทย และภายนอกพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดมีกระแสข่าวมาอีกว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ขอรับเอากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารไว้  ทั้งที่ก่อนหน้าทุกฝ่ายในสังคมมองว่า เป็นกระทรวงที่เพื่อไทยต้องการเข้ามาบริหารจัดการ เพราะเกี่ยวข้องกับธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศ โดยจะขอแลกกับโควต้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของพรรคชาติไทยพัฒนา ของ นายชุมพล ศิลปอาชา จริงเท็จประการใด เดี๋ยวคงได้ทราบหลังมีการเปิดสภาได้แล้ว นั่นไม่นับรวม กระทรวงที่ถือเป็นของร้อนของรัฐบาลเพื่อไทย อย่าง กลาโหม และ ต่างประเทศ ที่โผไม่มีรายชื่อโผล่ออกมาให้เห็นเลย ว่าใครจะได้นั่งเก้าอี้

เห็นได้ชัด หนทางข้างหน้าของ"ยิ่งลักษณ์"ส่อเค้ายุ่งตั้งแต่ยังไม่ทันได้ตั้งรัฐบาล บริหารประเทศด้วยซ้ำ ถ้าได้ขึ้นบริหารราชการแผ่นดินจริงไม่อยากคิดว่าต่อไปมันจะยุ่งขนาดไหน...


ไทยรัฐ