บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พี่ทำชายแดนใต้ลุกเป็นไฟมาหลุดลอยยุคน้องสาว

ผ่าประเด็นร้อน

นับว่าน่าเศร้า น่าอัปยศจริงๆสำหรับการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่นำโดย นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เวลานี้สถานการณ์ได้ขยายบานปลายลุกลามจนเอาไม่อยู่แล้ว เพราะความไม่เอาไหน ไม่เอาใจใส่ เพียงเพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่ใช่ฐานเสียงหลักของตัวเอง เหมือนกับที่ ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชายเคยกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งมีอำนาจว่า “พื้นที่เลือกเราให้ดูแลพื้นที่นั้นก่อน”

แต่ในยุคปัจจุบันนอกจากไม่เหลียวแลแล้ว การมอบหมายคนที่รับผิดชอบก็ล้วนแล้วแต่ไร้ประสิทธิภาพ มีแต่เส้นสายแต่งตั้งคนของตัวเองแทบทั้งสิ้น แม้กระทั่งล่าสุดมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการดับไฟใต้ ที่มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีแต่ละคนไปดูแลล้วนแล้วแต่สร้างความหดหู่ หรือฟังการให้สัมภาษณ์ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสำหรับการแก้ปัญหาเผชิญแล้วยิ่งชวนหดหู่ เน้นแต่เรื่องเอามัน ไม่เข้าใจถึงความละเอียดอ่อนของพื้นที่ ยิ่งกลับสร้างความรุนแรงบานปลายมากขึ้นไปอีก

ก่อนจะว่ากันในรายละเอียดเหตุการณ์ข้างหน้าก็ต้องย้อนหลังให้เห็นถึงความรุนแรงที่เริ่มก่อตัวขึ้น ซึ่งก็ไม่มีทางเกินเลยหากระบุกันตรงๆว่าเกิดขึ้นในยุคที่ ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เริ่มนโยบายปราบปรามยาเสพติด ที่ใช้วิธีแบบ “ทำยอด” สร้างผลงาน และ “สันดาน” แบบ “รัฐตำรวจ” เน้นความสะใจฉาบฉวย

หากจะว่าไปแล้ววิธีการดังกล่าวหากไปใช้ในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศไทยรับรองว่า “ฉิบหาย” มาเยือนแน่ เพียงแต่ว่ายังไม่ปรากฏผลออกมาในทันที แต่สำหรับพื้นที่ชายแดนภาคใต้หากเมื่อใดก็ตามที่ทำแบบนี้ความหายนะก็จะยิ่งบังเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า อย่างที่เห็นเป็นผลพวงที่กำลังมาถึง

ในยุค ทักษิณ จากนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่เน้นทำยอด จนทำไปสู่การอุ้มฆ่า ฆ่าตัดตอน จนนำไปสู่เหตุการณ์ปล้นปืนในค่ายทหารกองพันพัฒนาที่ 4 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ถัดมาก็เป็นเหตุการณ์ตากใบ และที่มัสยิดกรือเซะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนต่อเนื่องและเชื่อมโยงกันทั้งสิ้น เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเคียดแค้นชิงชัง และเมื่อมีการปลุกระดมโดยใช้เงื่อนไขในพื้นที่ และประวัติศาสตร์ที่ละเอียดอ่อน มันก็ยิ่งฝังรากลึก ยากแก่การเยียวยาแก้ปัญหา

ต้องยอมรับว่าพื้นที่ชายแดนใต้เป็นพื้นที่พิเศษ และละเอียดอ่อน ไม่เหมือนพื้นที่อื่น เพราะมีความแตกต่างทางด้านความเชื่อ ประเพณีวัฒนธรรม มีทั้งเงื่อนปมทางประวัติศาสตร์ เป็นปัญหาเรื้อรัง ทำให้ล้าหลัง มีความยากจน สารพัดปัญหาที่หมักหมม จนยากแก่การแก้ปัญหา ดังนั้นคนที่ลงไปแก้ปัญหา หรือรับผิดชอบในพื้นที่ต้องมีความ “พิเศษ” มีความรอบรู้ มีความเก่งกาจ และเสียสละจริงๆเท่านั้น

ปัญหาของชายแดนใต้ที่ลุกลามบานปลายมีสาเหตุมาจากความไม่รู้และที่สำคัญมาจาก “นิสัยของตำรวจเลว” ของ ทักษิณ ที่เน้นการแก้ปัญหาแบบฉาบฉวยเอาหน้าด้วยความเคยชินด้วยการให้แข่งขันการสร้างผลงาน เช่น ต้องแก้ปัญหาภายใน 3-6 เดือน จนนำไปสู่การอุ้มฆ่า ฆ่าตัดตอน ปัญหาที่เคยคุกรุ่น ความแตกต่าง การข่มเหงรังแกจากเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกอย่างก็เลยระเบิดขึ้นมา และคุมไม่อยู่

ที่ผ่านมาหากสังเกตให้ดีจะพบว่า การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่มักมองในเรื่องของการเมือง การเป็นพวกใคร มากกว่าเน้นในเรื่องความรู้ความสามารถ หรือเข้าใจปัญหาในพื้นที่ มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าหน้าที่ รวมทั้งมีการส่งเจ้าหน้าที่ที่ถูกลงโทษหรือมีพฤติกรรมไม่ดีลงไป ซึ่งยิ่งเป็นการซ้ำเติมเพิ่มปัญหามากขึ้นไปอีก

ปัญหาชายแดนใต้แม้จะยอมรับกันว่ามีความสุดหิน แต่ก็ใช่ว่าจะแก้ไขไม่ได้ แต่ที่สำคัญต้องแก้ไขทัศนคติของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับล่าง อีกทั้งต้องแก้ไขในเรื่อง “เอกภาพ” การทำงานให้สอดคล้องกันให้ได้ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และพลเรือนฝ่ายปกครอง ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับความจริงว่า “เรื้อรัง” มานาน และไม่เคยแก้ไขอย่างจริงจัง หรือต่างคนต่างทำ บางครั้งมีการประเภท “ธุระไม่ใช่” มีการทำธุรกิจเถื่อน มีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐนั่นแหละตัวการ หรือเลวร้ายไปกว่านั้นก็คือมีการ “เลี้ยงไข้” สร้างสถานการณ์เพื่อกินงบประมาณ เบี้ยเลี้ยง ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคน ซึ่งที่ผ่านมามีการนินทาให้ได้ยินเข้าหูตลอดเวลา สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นการบั่นทอน ทำลายขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่อื่นๆที่ตั้งใจแก้ปัญหา และเสี่ยงชีวิตในพื้นที่

ล่าสุดนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้สั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการดับไฟใต้ขึ้นโดยมี 3 รองนายกฯเข้ามารับผิดชอบ เช่น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รับผิดชอบด้านกองทัพ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รับผิดชอบฝ่ายปกครอง และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ดูแลด้านตำรวจ หากมองเผินๆมันก็ดูขึงขังจริงจัง น่าจะได้ผลดี แต่ขอปรามาสล่วงหน้าว่าเหลวอีก เพราะมันซ้ำซ้อนรุ่มร่ามไม่สามารถปฏิบัติการได้จริง แทนที่จะไปเน้นกระชับโครงสร้างที่มีอยู่แล้วให้เดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ที่มีนายกฯเป็นผู้อำนวยการ ซึ่งอาจมอบอำนาจให้รองนายกฯสักคนหนึ่งดูแลรับผิดชอบในพื้นที่โดยตรง เหมือนกับ มีทำเนียบฯส่วนหน้าในพื้นที่ คอยประสานงาน แก้ปัญหาระหว่างหน่วยงาน แต่ที่สำคัญต้องเน้นงานมวลชนควบคู่ไปกับการใช้กำลังรักษาความปลอดภัย

โดยเฉพาะยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ซึ่งที่ผ่านมามีแต่การท่องจำเท่านั้น ยังไม่ได้ปฏิบัติให้ได้ผลจริงจัง ไม่เช่นนั้นคงไม่เกิดเหตุร้ายรุนแรงถี่ยิบอย่างที่เห็นแน่นอน เพราะการที่คนร้ายเคลื่อนไหวก่อเหตุอย่างอุกอาจได้ในทุกพื้นที่นั่นก็แสดงให้เห็นว่าการข่าว ความร่วมมือและความไว้วางใจจากมวลชนในพื้นที่ “ล้มเหลว” อย่างสิ้นเชิง ยังไม่อาจ “เข้าใจและเข้าถึง” ได้อย่างที่ควรจะเป็น

ขณะเดียวกันหากกล่าวกันแบบตรงไปตรงมาก็ต้องบอกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ล้มเหลวในการแก้ปัญหาชายแดนใต้อย่างสิ้นเชิง ทั้งที่หากจะว่าไปแล้วได้มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนใกล้ชิดไว้ใจได้ลงไปคุมทั้ง เลขาฯศอ.บต.ที่ชื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง และ ตำรวจ ทั้งที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบัน คือ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ และว่าที่คนต่อไปคือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ผ่านมานับปีแล้วเป็นอย่างไรบ้าง อย่าว่าแต่ดีขึ้นเลยเอาแค่ประคองสถานการณ์ให้เหมือนเดิมก็ล้มเหลว แล้วแบบนี้จะให้ทำอย่างไร จะชมเชยไว้หน้าว่ามาถูกทางอย่างนั้นหรือ

นี่เป็นเรื่องอธิปไตย ความเป็นตายของชาวบ้าน มันก็ต้องมีคนรับผิดชอบ โดยเฉพาะรัฐบาลที่สร้างปัญหาให้ปะทุขึ้นมาจนลุกลาม เพราะหากบอกว่า ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นพี่ชายทำให้ชายแดนใต้ลุกเป็นไฟ และอาจจะต้องหลุดลอยไปในยุคของน้องสาวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เป็นได้ หากยังทำงานห่วยแตกกันแบบนี้ !!
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง