พลันที่ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ม.112
ของคณะนิติราษฎร์ได้รับการขานรับโดย ครก.112 และประชาชน
ผู้มารวมตัวกันอย่างหนาแน่น ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 16
มกราคมที่ผ่านมา
ก็เกิดวิวาทะว่าด้วยข้อเสนอดังกล่าวขึ้นมา
คู่แรกเป็นการปะทะกันเล็กๆ ทางความคิด ระหว่าง "สมคิด เลิศไพฑูรย์" อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับ "ธีระ สุธีวรางกูร" อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ และสมาชิก "นิติราษฎร์"
คู่ต่อมาเป็นการประลองยุทธระดับเข้มข้นระหว่างจอมยุทธผู้เคยผ่าน "เบ้าหลอมทางการเมือง" เดียวกันมาก่อน อย่าง "คำนูณ สิทธิสมาน" ส.ว.สรรหา และคอลัมนิสต์เครือผู้จัดการ กับ "เกษียร เตชะพีระ" แห่งคณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์
โปรดติดตามอ่านโดยระทึกในดวงหทัยพลัน
วิวาทะ "สมคิด เลิศไพฑูรย์" vs "ธีระ สุธีวรางกูร"
เสรีภาพในการวิจารณ์ "นิติราษฎร์"
สมคิด เลิศไพฑูรย์
(ที่มา เฟซบุ๊กส่วนตัว)
อ่านการให้สัมภาษณ์นิติราษฎร์แล้วไม่สบายใจ
มธ.ให้เสรีภาพนิติราษฎร์มาล่ารายชื่อในมธ. แต่นิติราษฎร์ให้สัมภาษณ์ว่าใครคัดค้านขัดขวางนิติราษฏร์ผิดกฏหมายเข้าชื่อ
อาจถูกจำคุก
ทำไมนิติราษฎร์เรียกร้องให้มีเสรีภาพในการวิจารณ์สถาบัน
แต่ไม่เห็นด้วยกับการมีเสรีภาพในการวิจารณ์นิติราษฏร์
ธีระ สุธีวรางกูร
ธีระ (เสื้อขาว)
(ที่มา เฟซบุ๊กส่วนตัว)
ขอเรียนชี้แจงท่านอธิการบดี การขัดขวางการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย
เป็นความผิดตามมาตรา 15 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายพ.ศ.
2542 ครับ เราเพียงแต่เสนอข้อเท็จจริงเท่านั้น อีกอย่างหนึ่ง
นิติราษฎร์ไม่เคยพูดที่ไหนว่าห้ามไม่ให้วิจารณ์พวกเรา
ขอความกรุณาอย่านำเอาสิ่งที่ท่านพูดเอง
มาบอกว่าเป็นคำพูดหรือการกระทำของนิติราษฎร์เลย
ด้วยความเคารพท่านอธิการบดีครับ
วิวาทะ "คำนูณ" vs "เกษียณ"
"คณะนิติราษฎร์กำลังสานต่อการปฏิวัติ 24 มิถุนายน 2475"
"แล้วคุณคำนูณกับสื่อเครือ
ผู้จัดการกำลังสานต่อภารกิจใดหรือครับ? กบฎบวรเดช? คณะรัฐประหาร 2490
ของผิน-เผ่า? คณะปฏิวัติ 2500 ของจอมพลสฤษดิ์? คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน
2519?"
ไม่ใช่แค่ 112 !
โดย คำนูณ สิทธิสมาน
(http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000006030)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2555
มีการเปิดตัวคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
โดยมีเป้าหมายรณรงค์ล่ารายชื่อประชาชนให้มาร่วมกันเสนอร่างพระราชบัญญัติ
แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ
ฉบับปัจจุบัน
บ้านเมือง "ร้อน" ขึ้นทันตาเห็น !
เพราะ
คณะนี้เขามีร่างฯแก้ไขเพิ่มเติมไว้แล้ว
เป็นร่างฯที่จัดทำให้คณะนิติราษฎรที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของเขามาตั้งแต่ปีที่
แล้ว และที่เห็นเป็นระบบชัดเจนที่สุดก็ในเอกสารเผยแพร่ลงวันที่ 26 ธันวาคม
2554
โดยทั่วไปเขาจะใช้คำว่า "แก้ไข"
แต่ดูรายละเอียดทั้งหมดแล้วนอกจากจะมีค่าเท่ากับ "ยกเลิก"
แล้วยังเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างประมวลกฎหมายอาญาในส่วนความมั่นคงแห่ง
รัฐครั้งสำคัญ
1. ยกเลิกมาตรา 112 ออกจากลักษณะความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
2. เพิ่มเติมลักษณะความผิดเกี่ยวกับพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และเกียรติยศของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
3. แบ่งแยกการคุ้มครองสำหรับตำแหน่งพระมหากษัตริย์ออกจากพระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
4.
แก้ไขอัตราโทษ โดยไม่บัญญัติอัตราโทษขั้นต่ำ ลดอัตราโทษขั้นสูง
เพิ่มโทษปรับ โดยเปรียบเทียบกับอัตราโทษที่ใช้ในกรณีของบุคคลทั่วไป
ให้การกระทำผิดต่อพระมหากษัตริย์สูงกว่าบุคคลทั่วไป 1 ปี
และแยกแยะโทษของการกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทและดูหมิ่นออกจากกัน
5.
บัญญัติเหตุยกเว้นความผิดในกรณีติชมหรือแสดงข้อความโดยสุจริตเพื่อรักษาการ
ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
6. บัญญัติเหตุยกเว้นโทษในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง แต่หากการพิสูจน์นั้นไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนห้ามไม่ให้พิสูจน์
7. ห้ามบุคคลทั่วไปกล่าวโทษ ให้สำนักราชเลขาธิการเป็นผู้กล่าวโทษ
เห็นแล้วก็รู้ทันทีว่าคณะนิติราษฎร์กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมไม่รู้ว่าคณะที่รณรงค์ล่ารายชื่อและคนที่ร่วมลงชื่อจะรู้ทั้งหมดหรือไม่ ?
คณะนิติราษฎร์กำลังสานต่อการปฏิวัติ 24 มิถุนายน 2475 ให้สำเร็จ !
คณะนิติราษฎร์กำลังจะเสนอให้สถาบันพระมหากษัตริย์กลับไปสู่สถานะหลังวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2475
พูด
ง่าย ๆ
ว่าคณะนิติราษฎร์ต้องการใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่ว
คราว พุทธศักราช 2475 ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2475
มีอายุบังคับใช้อยู่เพียง 5
เดือนเศษมาเป็นหลักในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประเทศไทย
ประเด็น
นี้ผมเคยบอกท่านผู้อ่านมาแล้วเมื่อเห็นแถลงการณ์คณะนิติราษฎร์เนื่องในโอกาส
ครบ 5 ปีรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
ว่าก่อนหน้านี้บรรดาคนที่คัดค้านการรัฐประหาร รวมทั้งนปช. และพรรคเพื่อไทย
เสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญ 2540 เป็นตัวตั้ง หรือไม่ก็ให้เอามาใช้แทนเลย
แต่คณะนิติราษฎร์ไปไกลกว่า โดยให้ค่ารัฐธรรมนูญ 2540 ไว้จำกัดจำเขี่ยมาก
เพราะให้ย้อนไปดึงเอารัฐธรรมนูญของคณะราษฎรมาเป็นต้นแบบกันเลยทีเดียว
เริ่มต้นตั้งแต่พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว
พุทธศักราช 2475 ตามมาด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475
และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489
นี่เป็นหลักการใหม่ที่ทั้งนปช.และพรรคเพื่อไทยยังไม่เคยพูดชัดเจนมาก่อน
ย้อนไปดูความในแถลงการณ์คณะนิติราษฎร์ประเด็นที่ 4 ข้อ 2 กันทุกตัวอักษรนะ
"...เห็น
ว่ารัฐธรรมนูญที่จะนำมาใช้เป็นต้นแบบในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่สมควรเป็นพระ
ราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475,
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475,
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489
และอาจนำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
ในส่วนของการประกันสิทธิและเสรีภาพตลอดจนโครงสร้างสถาบันการเมืองและองค์กร
ทางรัฐธรรมนูญเท่าที่สอดคล้องกับพัฒนาการในยุคร่วมสมัยมาเป็นแนวทางในการยก
ร่าง"
รัฐธรรมนูญ 2540 ถูกลดคุณค่าไปแค่
"อาจนำ"
มาร่วมพิจารณาเฉพาะส่วนโครงสร้างสถาบันทางการเมืองและองค์กรทางรัฐธรรมนูญ
เท่านั้น ไม่ใช่ปรัชญาและแนวทางหลัก
รัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 คืออะไร ?
รัฐ
ธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 เป็นรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้น 3
วันหลังคณะราษฎรทำรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากในหลวงรัชกาลที่ 7
โดยคณะราษฎรเป็นผู้จัดทำฝ่ายเดียวแล้วนำมาถวายพระองค์ท่าน
แม้พระองค์อาจไม่ทรงเห็นด้วยในเนื้อหาบางประการ
แต่ด้วยพระราชปณิธานสูงสุดที่ไม่ต้องการให้แผ่นดินนองเลือดจึงทรงยินยอม
แต่ก็ลงพระอักษรกำกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้ว่า "ชั่วคราว"
อันเป็นผลให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่พระองค์ท่านมีส่วนร่วมพระราช
ทานความเห็นด้วยออกมาประกาศใช้ในอีก 5 เดือนเศษต่อมาในวันที่ 10 ธันวาคม
2475 คือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475
ซึ่งมีเนื้อหาบางประการแตกต่างออกไป
ในรัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 ไม่มีคำว่า "พระมหากษัตริย์" เหมือนรัฐธรรมนูญทุกฉบับต่อ ๆ มา โดยใช้คำว่า "กษัตริย์" เฉย ๆ
หลัก
การสำคัญอันเป็นเสมือนการแสดงเจตนารมณ์ปฏิบัติประชาธิปไตย-เปลี่ยนระบอบ
บรรจุอยู่ในมาตรา 1 ด้วยข้อความที่สั้น กระชับ
เมื่อพูดถึงอำนาจสูงสุดของประเทศก็มีแต่คำว่า "ราษฎร" เท่านั้น
ไม่มีข้อความต่อมาที่ระบุถึง "พระมหากษัตริย์"
ไว้ในมาตราเดียวกันเหมือนรัฐธรรมนูญฉบับต่อ ๆ มา
"อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย"
ไม่
ใช่แต่เพียงภาษาเท่านั้นแต่ฐานภาพของ "กษัตริย์" ตามรัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน
2475 ไม่เหมือน "พระมหากษัตริย์" ในรัฐธรรมนูญฉบับต่อมาทุกฉบับต่อจากนั้น
อ่านหมวด 1 ข้อความทั่วไป และหมวด 2 กษัตริย์ ดูก็พอจะรับรู้อารมณ์และเจตนารมณ์ได้
ที่
สำคัญและเชื่อมโยงไปถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ที่คณะนิติราษฎร์เสนอให้ยกเลิกด้วยก็คือ รัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475
ไม่มีหลักการสำคัญที่รัฐธรรมนูญทุกฉบับต่อมาบัญญัติคุ้มครองสถาบันพระมหา
กษัตริย์และองค์พระมหากษัตริย์ไว้เด็ดขาด ดังเช่นความในมาตรา 8
ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งก็เหมือนฉบับ 2540 และฉบับอื่น ๆ
ก่อนหน้า...
"องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่
ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ /
ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้"
หลัก
การนี้มีที่มาที่ไปที่แสดงลักษณะเฉพาะเป็นพิเศษของประเทศไทย
และเพราะมีหลักการนี้บรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญ
จึงเป็นเหตุให้มีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ถ้าหลักการนี้ไม่คงอยู่ในรัฐธรรมนูญ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็ไม่มีฐานรองรับ
แน่
นอนว่ารัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 ก็ยังคุ้มครองฐานภาพของ "กษัตริย์"
แต่ไม่ได้คุ้มครองไว้เด็ดขาดเหมือนรัฐธรรมนูญฉบับต่อ ๆ
มาทุกฉบับจนถึงปัจจุบัน รัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติไว้ในมาตรา 6 ว่า...
"กษัตริย์จะถูกฟ้องร้องคดีอาชญายังโรงศาลไม่ได้ เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรจะวินิจฉัย"
และไม่ใช่แค่ยกเลิกมาตรา 112 หรือแก้ไขแบบปรับเปลี่ยนโครงสร้างทั้งหมดเท่านั้น
ขณะนี้คนบางกลุ่มยังต้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ให้กลับไปสู่สถานะก่อนปี 2500 และก่อนปี 2490
.............................................
(ท่านผู้อ่านช่วยเติมบรรทัดสุดท้ายให้ข้อเขียนชิ้นนี้ด้วยหลังรับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรกันอยู่แล้ว !!)
คำถามจาก "เกษียร เตชะพีระ" ถึง "คำนูณ สิทธิสมาน"
(ที่มา เฟซบุ๊กส่วนตัวของเกษียร เตชะพีระ)
คุณคำนูณกล่าวหาว่าคณะนิติราษฎร์ต้องการกลับไปสู่สภาพการณ์ระหว่าง 24 มิ.ย. 2475 - 10 ธ.ค. 2475 ไม่ใช่แค่แก้ม. 112
แล้วคุณคำนูณกับสื่อเครือผู้จัดการกำลังสานต่อภารกิจใดหรือ
ครับ? กบฎบวรเดช? คณะรัฐประหาร 2490 ของผิน-เผ่า? คณะปฏิวัติ 2500
ของจอมพลสฤษดิ์? คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน 2519?
... ไม่มีใครทำซ้ำภารกิจในอดีตขึ้นใหม่จริง ๆ
ได้หรอก ประวัติศาสตร์ที่ซ้ำรอยเอาเข้าจริงจึงไม่เคยมี เพราะทุกการ
"ซ้ำรอย" ย่อมทำขึ้นในเงื่อนไขใหม่ทางประวัติศาสตร์เสมอ
และเงื่อนไขใหม่ที่ปฏิสัมพันธ์กับการกระทำแบบเก่า
ย่อมนำไปสู่ผลที่ต่างจากเดิม
ดังนั้นมากที่สุดที่คนเราทำได้
คือได้รับแรงบันดาลใจจากการต่อสู้ในอดีต
รับสืบทอดคุณค่า/อุดมคติจากขบวนการในอดีต
แล้วปรับมาทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน
เพื่อเดินหน้าต่อไปในแนวนิยมของคุณค่าที่ตนสมาทานนั้น
ถ้าคณะนิติราษฎร์สมาทานคุณค่าของคณะราษฎรและ
อ.ปรีดีซึ่งก็คือระบอบราชาธิปไตยใต้รัฐธรรมนูญ
ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ทำจะส่งผลเป็นสภาพการณ์ระหว่าง 24 มิ.ย. 2475 -
10 ธ.ค. 2475 เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ในทางกลับกัน สมมุติ
คุณคำนูณและสื่อเครือผู้จัดการต้องการสืบทอดคุณค่า/อุดมคติของคณะกู้บ้านกู้
เมือง (บวรเดช), คณะรัฐประหาร (2490), คณะปฏิวัติ (2500),
คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (2519) ก็โอเคครับ
แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการของคุณคำนูณกับ
สื่อเครือผู้จัดการจะเสกให้เหมือนอดีตได้ เรื่องในโลกย่อมไม่เป็นไปดังใจปรารถนาของมนุษย์เรานะครับ
แทนที่จะปลุกผีอดีตมาหลอกปัจจุบัน คำถามที่ผมอยากชวนคุณคำนูณและสื่อเครือผู้จัดการมาคิดคือ อะไร
คือสถานะและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในระบอบราชาธิปไตยใต้รัฐธรรมนูญที่เหมาะ
สมและเป็นคุณแก่ความมั่นคงยั่งยืนของสถาบันกษัตริย์ควบคู่กับประชาธิปไตยใน
สถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยบทเรียนที่เราพบเห็นใน 4 - 5 ปีที่ผ่านมา?
มาช่วยกันคิดดีกว่าครับ
มติชน
วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555
รัฐบาล พนักงานม๊อบรับจ้าง ทวงเงินมาแล้วจ้า ร้อนๆ.....
รัฐบาล พนักงานม๊อบรับจ้าง ทวงเงินมาแล้วจ้า ร้อนๆ.....
จ่ายด้วยนะจ๊ะ รัฐบาลปูจ๋า...
กระทรวงยุติธรรม - 12 ม.ค. 55
นายพิทยา จินาวัฒน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า
กรมคุ้มครองสิทธิฯได้ประสานข้อมูลไปยังกรมราชทัณฑ์
เพื่อสำรวจผู้ต้องขังคดีอาญาที่มีลักษณะเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการ
เมือง หรือกลุ่มคนเสื้อแดง
เพื่อให้ความช่วยเหลือวางหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัวต่อศาล
ภายหลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินงบประมาณ 48 ล้านบาท
ใช้กองทุนยุติธรรมนำไปใช้ประกันตัวผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี
โดยผลการสำรวจพบว่ามีผู้ต้องขังเสื้อแดงต้องการขอรับความช่วยเหลือเรื่องการ
ประกันตัว 57 คน กระจายถูกคุมขังในเรือนจำ 8 แห่ง
ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิฯจะเร่งให้ความช่วยเหลือต่อไป
อย่างไรก็ตาม
การให้ประกันตัวเป็นดุลพินิจของศาล
จึงไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ต้องขังจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวทั้งหมด
เนื่องจากที่ผ่านมาคดีความผิดตามมาตรา 112 ศาลมักไม่อนุญาตให้ประกันตัว
สำหรับรายชื่อผู้ต้องขังที่ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือเรื่องหลักทรัพย์
ประกันตัว จำแนกเป็นรายเรือนจำ ดังนี้
เรือนจำพิเศษกรุงเทพ จำนวน 21 คน มี
นายบัณฑิต สิทธิทุม วงเงิน 6 แสนบาท
นายเพชร หรือ โชค แสงมณี วงเงิน 6 แสนบาท
นายเอกชัย มูลเกษ วงเงิน 6 แสนบาท
นายสายชล แพบัว วงเงิน 6 แสนบาท
นายอเนก สิงขุนทด วงเงิน 6 แสนบาท
นายคมสันต์ สุดจันทร์ฮาม วงเงิน 6 แสนบาท
นายประสงค์ มณีอินทร์ วงเงิน 6 แสนบาท
นายโกวิทย์ แย้มประเสริฐ วงเงิน 6 แสนบาท
นายอาทิตย์ เป้าสุวรรณ วงเงิน 6 แสนบาท
นายยุทธชัย สีน้อย วงเงิน 6 แสนบาท
นายพรชัย โลหิตดี วงเงิน 6 แสนบาท
นายพินิจ จันทร์ณรงค์ วงเงิน 6 แสนบาท
นายวิศิษฎ์ แกล้วกล้าวงเงิน 6 แสนบาท
นายเลอพงษ์ วิชัยคำมาตย์ วงเงิน 1,440,000 บาท
นายธันย์วุฒิ ทวีวโรดมกุล วงเงิน 1,440,000 บาท
นายสุรภักดิ์ ภูไขยแสง วงเงิน 1,440,000 บาท
นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ วงเงิน 1,440,000 บาท
นายอำพล ตั้งนพกุล วงเงิน 1,440,000 บาท ( อากง )
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข วงเงิน 1,440,000 บาท
นายพศิน แสนจิตต์ วงเงิน 1 ล้านบาท
นายคำหล้า ชมชื่น วงเงิน 6 แสนบาท
เรือนจำกลางเชียงใหม่ 5 คน ซึ่งคดีอยู่ระหว่างยื่นฎีกา ประกอบด้วย
นายนพรัตน์ แสงเพชร วงเงิน 6 แสนบาท
นายประยุทธ บุญวิจิตร วงเงิน 6 แสนบาท
นายพะยอม ดวงแก้ว วงเงิน 6 แสนบาท
นายบุญรัตน์ ไชยมโน วงเงิน 6 แสนบาท
นายสมศักดิ์ อ่อนไสว วงเงิน 6 แสนบาท
เรือนจำนนทบุรี 2 คน คือ
นายจรูญ บุญเรือง วงเงิน 6 แสนบาท
นายสมนึก แซ่เฮง วงเงิน 6 แสนบาท
ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา
น.ส ดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล วงเงิน 1,440,000 บาท ( ดา ตอปิโด )
เรือนจำอุดรธานี 2 คน มี
นายอาทิตย์ ทองสาย วงเงิน 6 แสนบาท ( เผาศาลากลางอุดร )
นายกิตติพงษ์ ชัยกัง วงเงิน 6 แสนบาท
เรือนจำอุบลราชธานี 4 คน มี
น.ส.ปัทมา มูลมิล วงเงิน 1,440,000 บาท
นายธีรวัฒน์ สัจจสุวรรณ วงเงิน 1,440,000 บาท
นายสนอง เกตุสุวรรณ วงเงิน 1,440,000 บาท
นายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ วงเงิน 1,440,000 บาท
เรือนจำมุกดาหาร 13 คน มี
นายดวง คนยืน วงเงิน 6 แสนบาท
นายทวีศักดิ์ แข็งแรง วงเงิน 6 แสนบาท
นายณัฐวุฒิ พิกุลศรี วงเงิน 6 แสนบาท
นายไมตรี พันธ์คูณ วงเงิน 6 แสนบาท
นายนพชัย พิกุลศรี วงเงิน 6 แสนบาท
นายพนม กันนอก วงเงิน 6 แสนบาท
นายวิชัย อุลุพันธุ์ วงเงิน 6 แสนบาท
นายประคอง ทองน้อย วงเงิน 6 แสนบาท
นายวินัย ปิ่นศิลปะชัย วงเงิน 6 แสนบาท
นายสมัคร ลุนริลา วงเงิน 6 แสนบาท
นายแก่น หนองพุดสา วงเงิน 6 แสนบาท
นายทินวัฒน์ เมืองโคตร วงเงิน 6 แสนบาท
นายวิชิต อินตะ คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ วงเงิน 6 แสนบาท
เรือนจำมหาสารคาม 9 คน
นายคมกฤษ คำวิแสง วงเงิน 6 แสนบาท
นายภานุพงษ์ นวลเสน วงเงิน 6 แสนบาท
นายสมโภชน์ สีกากุล วงเงิน 6 แสนบาท
นายอุทัย คงหา วงเงิน 6 แสนบาท
นายไพรัช จอมพรรษา วงเงิน 6 แสนบาท
นายมนัส วรรณวงศ์ วงเงิน 6 แสนบาท
นายสุชล จันปัญญา วงเงิน 6 แสนบาท
นายชรัญย์ เอกสิริ วงเงิน 6 แสนบาท
นายเดชอดุลย์ เดชบุรัมย์ คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ วงเงิน 6 แสนบาท
Chor Chang Boon Wattanna Kwanjai May Sivaporn Butkanit
กระทรวงยุติธรรม - 12 ม.ค. 55 นายพิทยา จินาวัฒน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภ าพ เปิดเผยว่า กรมคุ้มครองสิทธิฯได้ประสานข้อม ูลไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อสำรวจผู้ต้องขังคดีอาญาที่ มีลักษณะเกี่ยวเนื่องกับความขัด แย้งทางการเมือง หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อให้ความช่วยเหลือวางหลักทร ัพย์ในการยื่นประกันตัวต่อศาล ภายห...
รวมการโกง ของ ทักษิณ ชินวัตร
รวมการโกง ของ ทักษิณ ชินวัตร
จาก...http://www.oknation.net/
--ก่อนหน้านี้ ทักษิณ ก็เป็นเหมือนคนปกติทั่วไปที
--เริ่มจากการอยากร่ำรวยทาง
--หลังจากทักษิณได้สัมปทานร
--ทักษิณก็เลยโดดมาเล่นการเ
--เริ่มที่พรรคพลังธรรม ทำหน้าที่เป็นนายทุนให้พรรค
--เมื่อทักษิณเล่นการเมืองม
--เริ่มจากตัดลดงบประมาณต่า
แทบจะใช้ไม่ได้ซักตู้
--พอทักษิณเล่นการเมืองไปนา
--ยุคนายก จิ๋ว ฟองสบู่แตก + ลดค่าเงินบาท ยุคนั้น ทักษิณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเสนอใ
--ทักษิณ ได้ใช้ข้อมูลนั้น ในการดำเนินการ ประกันค่าเงินของ ทรัพย์สินและบริษัท ในตระกูลของตนเองและพวกพ้อง
--ทักษิณและพวกพ้องกลุ่มนาย
ากเท่านั้น ซึ่งก็คือ...
--ทักษิณและพวกพ้อง ใช้วิธี กู้เงินจากสถาบันการเงินต่า
--ค่าเงิน จาก 25 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์ ก็ดิ่งลงสู่หายนะ ในเวลาอันรวดเร็ว โดยต่ำสุดอยู่ที่ 58 บาท ต่อ 1 ดอลล่าร์ ....... ทักษิณ และพวกพ้อง ก็เอาดอลล่าร์กลับมาแลกคือเ
ป็นเงินบาทไทย "กำไรทันทีเกิน เท่าตัว!!!!"
--ทฤษฏีของ สสาร ง่ายๆ คือ สสารไม่มีวันหายไปจากโลก เหมือนเม็ดทรายในท้องทะเล แค่ ย้ายจากที่หนึ่ง ไปสู่อีกที่หนึ่งเท่านั้นเอ
--เมื่อทักษิณ และพวกพ้องมีกำไรจากการประก
--ทักษิณและพวก ร่ำรวยขึ้นเป็นเท่าตัว บนความยากจนลงๆ ของประชาชนทั้งประเทศ จากการลดค่าเงินบาทในครั้งน
--คราวนี้ทักษิณก็มีทุน กระสุนดินดำ ไว้ใช้ในการเล่นการเมืองเต็
--ทักษิณก็เริ่มใช้เงินที่ไ
หรือเปลี่ยนแปลงกฏหมายอะไร จะได้มี สส.ลูกน้อง คอยยกมือโหวดผ่านร่างในสภา ให้กฏหมายผ่านง่ายๆ ตามแต่ใจที่ต้องการ
--หลังจากทักษิณกวาดต้อน ใช้เงินซื้อ สส.ที่ขายตัว มาเป็นลูกน้องคอยยกมือให้ใน
--ทักษิณแก้กฏหมาย วิธีการจ่ายภาษีสัมปทานมือถ
--ผลจากการแก้กฏหมายดังกล่า
--เป็นไงละ...ก็ เพราะทักษิณคุมอำนาจรัฐฯไว้
--แน่นอนเมื่อสัญญาถูกแก้ ให้ครอบครัวทักษิณจ่ายภาษีม
--ที่นี้ ทักษิณอยากได้เงินเข้าคลังเ
--ก็ขายสมบัติชาติไง เพราะพอขายแล้ว ชาติจะได้มีเงินเข้าคลังเยอ
--โดยเริ่มจากขาย ปตท. ซึ่งเดิมที ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือเรียกง่ายๆว่า ธุรกิจของรัฐฯ 100%
--ซึ่งหมายความว่า.."กำไร" จากการขายน้ำมัน /ปิโตรเคมี /อะโรเมติค /พาราไซรีน ฯลฯ ทุกอย่างทุกชนิด ทุกบาท ทุกสตางค์ ของ ปตท จะกลับเข้าคลัง ไปเป็นงบประมาณของรัฐฯ เพื่อนำเงินนั้น กลับมาบำรุงชาติ/ประชาชน แต่ทักษิณก็ขาย...
--ซึ่งนั้นหมายความว่า กำไรจาก ปตท ที่ รัฐฯเคยเก็บได้ทุกปี 100% เต็ม "ตลอดอายุประเทศไทย".... จะไม่ได้เท่าเดิมอีกแล้ว เพราะต้องเอากำไรของชาติ ไปแบ่งให้ผู้ถือหุ้นด้วย ประเทศไทยจะสูญเสียรายได้ใน
--แถมทักษิณยังขาย ปตท. แบบโกงราคา สัดส่วนหุ้น ต่อหน่วยลงทุนด้วย!! งง มั้ย คืองี้....
--ปตท คือรัฐวิสาหกิจของประเทศ ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของ เราเลือก สส + นายก มาเป็น ผู้บริหารประเทศ หรือเรียกง่ายๆว่า ตัวแทน "ผู้จัดการมรดก"
--ทีนี้ เมื่อทักษิณเป็นรัฐบาล เป็นนายก เป็นผู้จัดการมรดกของชาติ ก็มีความคิดเอาทรัพย์สินของ
--แทนที่ทักษิณจะขายให้ได้ก
"ขายขาดทุน โดยให้ พวกพ้อง ญาติเป็นคนซื้อ"
--ทักษิณให้ญาติ และ พวกพ้อง สส.ของพรรค ซื้อสมบัติชาติ จนหมด และ ในราคา ต่ำกว่าต้นทุนหลายๆเท่า ดังตัวอย่างเช่น ประชาชน"คนแรก"ที่ไปรอต่อแถ
วซื้อหุ้น ปตท ตั้งแต่ตี 4 แค่กรอกใบสมัคร 1.14 นาที หุ้นก็หมดไปแล้ว...
--แต่ผู้ที่ได้มีสิทธซื้อหุ
--แถม...ราคาหุ้น ที่พวกทักษิณได้มีสิทธิซื้อ
--ผลที่ได้คือ พวกพ้อง ญาติร่ำรวย +ประชาชนไม่รับรู้ + ประเทศชาติ(พูดไม่ได้)ขาดทุ
--นั้นคือ สาเหตุ ที่ราคาหุ้น PTT ณ.วันเปิดเข้าตลาดหลักทรัพย
--สรุป ทักษิณบริหารสมบัติชาติ -- ชาติ (ประชาชน )ขาดทุนย่อยยับ -- ญาติ พวกพ้องมัน ร่ำรวย เพราะซื้อสมบัติของชาติต่ำก
--หน้าทีอีกอย่างของ ปตท คือ คอยถ่วงดุล + กดดัน + ควบคุมระดับราคาน้ำมันภายใน
ประเทศ ไม่ให้แพงเกินจริง ซึ่ง...
--ว่าง่ายๆก็คือ ถ้า ปตท ไม่ขึ้นราคาน้ำมันซะอย่าง แล้ว บ.น้ำมันข้ามชาติ เช่น เชล เอสโซ่ คาร์เทค จะขึ้นราคาน้ำมันมากแค่ไหนก
--เมื่อ เป็นเช่นนั้น ถ้า ปตท พยายามกดดันราคาน้ำมันไว้ พวก บ.น้ำมันข้ามชาติทั้งหลาย ก็ไม่กล้าจะขึ้นราคาน้ำมันใ
ห้แพงเวอร์นัก เพราะ ประชาชนก็จะมีทางเลือกเติม ปตท ที่คิดราคาน้ำมันถูกกว่า
--ทีนี้ลองคิดตามนะ......
--ถ้า พวกทักษิณ เป็นรัฐบาล ควบคุมกลไกรัฐ ควบคุม ปตท.มีหน้าที่ คอยถ่วงดุล+กดดัน+ควบคุมระด
เดียวกัน พวกทักษิณ ก็ดันถือหุ้น ปตท ไปด้วย" ???
--นั้นหมายความว่า..."ถ้า ปตท กำไรมาก พวกทักษิณก็จะกำไรมากๆด้วย !!!"
--แล้วทักษิณ และพวกพ้อง ซึ่งเป็นผู้ควบคุมกลไกรัฐฯ จะอยากทำให้น้ำมันแพงหรือถู
กดีหละ....???
--เพราะถ้าทักษิณ ทำตามหน้าที่ โดยกดดันให้น้ำมันถูก ประชาชนก็จะได้ประโยชน์ ..แต่พวกทักษิณ ซึ่งถือหุ้น ปตท อยู่ ....."ก็จะกำไรน้อย"
--แต่ถ้าทักษิณปล่อย ให้น้ำมันขึ้นๆแพงๆๆ ให้ประชาชนจ่ายค่าน้ำมันแพง
--จากการขาย ปตท พวกทักษิณ กำไร 3 เด้ง ...คือ
1 กำไรจากการได้ซื้อสมบัติชาต
2 ปล่อยราคาน้ำมันขึ้นให้ประช
3 คลังมีเงินจากการขายสมบัติช
--นั้นคือเหตุผลที่ว่า น้ำมันทุกค่ายจับมือกันแพง จับมือกันขึ้นราคาไง จากยุคเชาวลิต 12-13 บาทต่อลิตร จน 45-48 บาทต่อลิตร และ... บ. ปตท กำไร ปีละเป็น แสนๆล้าน เยี่ยมมั้ย ไอ้ทักษิณ!!
--จากนั้น...รัฐบาลทักษิณ ก็ได้เงิน เข้ามาจากการขาย+โกง สมบัติชาติ เข้าคลัง... และ คลังก็มีเงินให้พวกทักษิณเอ
--ไทยมีเงินให้ถลุงแล้ว แต่ไทยก็ยังมีหนี้ IMF และเสียดอกเบี้ยอยู่ ทำไงดี ให้เอาเงินในคลังไปถลุงง่าย
--ทักษิณก็ปลดหนี้ IMF ไง จะได้ดูดี ไม่มีหนี้แล้ว เก่งด้วย
--กองทุน IMF เค้าให้ค่อยๆผ่อน ค่อยๆเสียดอก แต่ ทักษิณ ดันจ่ายทั้งต้น ทั้งดอก ทั้งหมดเลยทีเดียว คนจะได้ว่าข้าเก่ง และเอาเงินไปทำอย่างอื่นได้
โดยไม่โดนประชาชนด่า แล้วมันไม่ดีตรงไหนช่ายมะ ..ดูนะ
--ต้น+ดอกเบี้ย ทุกปีอะ เค้าให้เราทะยอยจ่าย โดยคำนวนไว้แล้ว เหมือนคุณผ่อนบ้านอะ สมมุติผ่อนบ้านเดือนละ 5 หมื่น ผ่อน 20 ปี .. คำถามก็คือว่า
--"ค่าของเงิน" 5หมื่นในวันนี้ กับ "ค่าของเงิน" 5หมื่นใน อีก 20 ปีข้างหน้ามีค่าเท่ากันมั้ย
--ถ้าให้จ่ายแบบปิดเงินต้น แล้ว ดอกมาคิดกันใหม่ก็ว่าไปอย่า
--ก็เหมือนเราจ่ายจำนวนเงิน
--คำตอบก็คือ ทักษิณต้องการให้ธนาคาร เอ็กซิมแบ้งค์ของรัฐ ปล่อยกู้พม่า ค่อนหมื่นล้าน โดยทักษิณตกลงกับพม่า ให้นำเงินก้อนนี้ "กลับมาซื้อสัมปทาน เครือค่ายโทรศัพท์ของตระกลู
--วิธีการก็ง่ายๆ ก็โอน 10% ให้นายพลเผด็จการพม่าใต้โต๊
--สรุป ปลดหนี้ จ่ายรวบ ดอกเบี้ย IMF ที่แแพงกว่า มาปล่อยกู้พม่า ในดอกเบี้ยที่ถูกกว่า...เพื
--หลังจากนั้นก็เริ่ม อภิมหาโครงการโกง ต่างๆ เช่น โคล้านตัว กล้ายาง กองทุนหมู่บ้าน สนุกสนานกันเข้าไป ยกตัวอย่างเด่นๆ ดังต่อไปนี้....
--ดาวเทียมไทยคม เคยรู้กันมั้ย??
--ประเทศแต่ละประเทศ ตามสนธิสัญญาสากล ทุกประเทศ มีสิทธิในการใช้วงจรดาวเทีย
--ดาวเทียม 1 ดวง สามารถหารายได้ จำนวนมหาศาล จากมัน เพราะขีดความสามารถทางด้านก
ารสือสาร ทุกชนิด แล้วมีโครงข่ายสูง.... ทักษิณ เลยจัดการประมูลให้เอกชน เป็นผู้ได้สัมปทาน???
--เงื่อนไข ผู้มีสิทธิเข้าประมูล คุณสมบัติ แต่ละข้อนั้น ทักษิณกำหนดเอง ตั้งข้อจำกัดในเงื่อนไข จนให้ บ. ของตัวเองได้ในที่สุด และกำกับท้ายว่า ผู้ชนะการประมูล ให้ยกเว้น+ลด ค่าสัมประทานให้กับรัฐฯ ให้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นอีก
ด้วย !!!
--รัฐ สูญเสียรายได้ ที่ควรจะจัดเก็บเข้าคลังได้
--ผลจากการประมูลสัมปทานดาว
FTA
--เกษตรกร ทั้งหลาย คงไม่เข้าใจ ว่าทำไมทุกวันนี้ พืชผลทางการเกษตรถึงตกต่ำ ราคาถูกแสนถูก ถ้าอยากรู้ คุณต้องเข้าใจ คำว่า FTA ก่อนนะ มาดูกัน....
--เริ่มที่....
--"ยุคอดีต" ประเทศแต่ละประเทศ ไม่ได้มีการติดต่อการค้าสัม
กินไป แต่สินค้าบางอย่างก็ขาดแคลน
--"ยุคอดีต" สินค้าล้น มีปริมาณมากไปราคาก็จะถูก เพราะเกินความจำเป็น ส่วนสินค้าที่ขาดแคลน ราคาก็จะแพงโดด เพราะมีปริมาณความต้องการสู
--ต่อมา.....
--"ยุคกลาง" มีการติดต่อ การค้าระหว่างประเทศ และเริ่มมีการนำสินค้า ที่มีปริมาณมากเกินไป "เหลือใช้" จากประเทศหนึ่ง ส่งไปค้าขายอีกประเทศหนึ่ง ที่มีความต้องการ หรือขาดแคลนสินค้านั้นๆ
--"ยุคกลาง" แน่นอนว่า...ถึงจะเป็นสินค้
ะเทศ
--"ยุคกลาง" ดังนั้น การนำเข้ามาสินค้าที่ขาดแคล
ขาย
--"ยุคกลาง" เพราะเมื่อภาษีสูง คนที่นำสินค้าที่มีปริมาณเก
้
--สุดท้าย....
--"ยุคปัจจุบัน" เจตนารมณ์ของ FTA ก็คือ ลดกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าที่
นกัน เพื่อให้เกิด "ดุลลภาพทางด้านการค้า"
--"ยุคปัจจุบัน" เมื่อเปิดเสรีการค้ามากขึ้น
--แต่ ยุคทักษิณทำไงรู้มั้ยย ย ย ย
--คนส่วนใหญ่ของประเทศไทยเร
--ทักษิณตกลง FTA กับจีน โดยยอมให้จีน นำพืชผลทางการเกษตรเข้ามาตี
บ้านเรา เพื่อ...แลกกับการนำเข้า อะไหล่รถยนต์ ซึ่งเป็น บ.ของ พวกทักษิณ เอง ไปจีน
--ผลก็คือ บ.พวกทักษิณร่ำรวย ส่งสินค้าเข้าจีน ขายได้ถล่มทลาย แต่ เกษตรกร ชาวไร่ ชาวสวน ชาวนา ในประเทศ ตาย..เพราะถูก ผลไม้จีนตีตลาด ถูกจนเหลือเชื่อ เช่น มะม่วงเหลือ โลละ 10 บาท ฯลฯ
สายการบิน
--ต่อมาก็เรื่องสายการบิน ทุกๆประเทศมีสายการบินประจำ
--กรุงเทพไป นิวยอร์ก กำไรทุกปี แต่ กรุงเทพไป.. อาจขาดทุน แต่สายการบินเป็นของรัฐ ยังไงก็ต้อง รองรับระบบพื้นฐานโลจิสติกข
น ชดเชยให้
--เมื่อทักษิณกุมอำนาจ การบริหารประเทศ ทักษิณก็ถือหุ้นใหญ่ สายการบิน แอร์เอเชีย จากนั้น ก็ง่ายนิดเดียว ยกเลิกเส้นทางการบินของรัฐท
--แอร์เอเชียก็กำไรมโหฬาร ส่วนการบินไทย ก็ ... ตามมีตามเกิดไป .......นั้นหละ การโกงในเชิงนโยบาย
+++เมื่อทักษิณจัดการธุรกิจ
+++จากนั้นทักษิณก็จัดการแก
ปรียบรัฐ ต่างๆไว้ นั้นก็คือ...
+++กฎหมายขยายเพดานการถือหุ
มีผลบังคับใช้วันที่ 21 มกราคม 2549
+++และ สองวันต่อมา ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ก็ขายหุ้นชินคอร์ป ให้กับบริษัทเทมาเส็ก แห่งประเทศสิงคโปร์ เป็นจำนวนเงิน 73,300 ล้านบาท
+++รวยขึ้นทันตาเห็น เดิมจาก 2หมื่นกว่าล้าน ขายทีเดียวได้เกิน 3 เท่า หรือกว่า 300%
+++".......จริงๆทุกอย่างแท
+++แต่ความโลภ และ หลงอำนาจ ของทักษิณ เลยทำให้ทักษิณชะล่าใจ ใช้อำนาจเอื้อหนุน ในการซื้อที่ดินรัชดา
+++เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนว
+++จากนั้นการประมูล ทางอินเตอร์เน็ต ก็ไม่พบผู้ร่วมประมูล ทั้งๆที่ บ. แลนด์แอนเฮ้า LPN ฯลฯ กว่า 7 ราย ก็เข้าร่วมประมูล แต่ทักษิณบอกเป็นการผิดพลาด
+++แถมทักษิณยัง ประกาศแก้ไขวันหยุดสิ้นปีขอ
มายการใหม่ ในปีถัดไปอีกด้วย
+++สรุปราคาการซื้อขาย จากเดิมที่ กองทุนฟื้นฟูซื้อมาที่ต้นทุ
+++เฮ้อ คนไทยบางคน ยังภูมิใจกับเศษเงินที่เขาใ
+++รัฐจะสูญเสียเงิน ที่ควรจะเก็บภาษีต่างๆ ที่ควรได้ในทุกๆปี หายไปอีกปีละกว่าหลายหมื่นล
าย รวมทั้งสิ้น ปีละเป็นแสนล้าน
+++เงินในคลังก็จะน้อยลง ไทยก็จะยากจน การพัฒนาก็จะน้อยลงกว่าที่ค
-+-ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทักษิณ กุมอำนาจเสร็จเด็ดขาดทุกอย่
-+-ถ้าทักษิณครองเมืองได้ ถึงมีผู้รู้ทันมากสักแค่ไหน
--------------" แล้วใครละ จะคอยขวางทางทักษิณ "......ไม่ให้ทักษิณแต่งตั้
ระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน