New Thai Minister listed on US Treasury blacklist as a Mugabe crony
By Bangkok Pundit Jan 18, 2012 11:29PM UTCThe reshuffle of the Thai Cabinet is official as per the Bangkok Post:
Ten new ministers appointed to the cabinet are:
1. Nalinee Taweesin, as PM’s Office Minister;
2. Niwatthamrong Boonsongpaisan, as PM’s Office Minister;
3. Tanusak Lek-uthai, as Deputy Finance Minister;
4. Nathawut Saikua, as PM’s Office Minister;
5. Charupong Ruangsuwan, as Transport Minister;
6. Chadchart Sitthiphan, as Deputy Transport Minister;
7. Arak Chonlathanont, as Deputy Transport Minister;
8. Suchart Thada-thamrongvej, as Education Minister;
9. Sakda Khongphet, as Deputy Education Minister; and
10. MR Pongsavas Svasti, as Industry Minister.
On November 25, 2008, the US Treasury issued a press release entitled “Treasury Designates Mugabe Regime Cronies”:
11/25/2008
HP-1295
Washington, DC–The U.S. Department of the Treasury’s Office of Foreign Assets Control (OFAC) today designated four Mugabe regime cronies and a number of entities owned or controlled by two of them. The financial and logistical support they have provided to the regime has enabled Robert Mugabe to pursue policies that seriously undermine democratic processes and institutions in Zimbabwe.
….
In addition, OFAC is designating Nalinee Joy Taveesin, a Thai businesswoman who has facilitated a number of financial, real-estate, and gem-related transactions on behalf of Grace Mugabe, Gideon Gono, and a number of other Zimbabwean Specially Designated Nationals (SDNs). Ironically, Nalinee Taveesin has participated in a number of initiatives on corruption and growth challenges in Africa and Southeast Asia while secretly supporting the kleptocratic practices of one of Africa’s most corrupt regimes.
….
Today’s action was taken pursuant to Executive Order 13469, which targets, among others, individuals and entities who provide financial and other support to the Government of Zimbabwe and Zimbabwean SDNs. As a result of Treasury’s action, any assets of the individuals and entities designated today that are within U.S. jurisdiction must be frozen. Additionally, U.S. persons are prohibited from conducting financial or commercial transactions with these individuals or entities.
BP: Nalinee is a former Senator and comes from a connected family and was until recently the Thai Trade Representative – actually BP is surprised more was not made of her Mugabe connections then as her position of the US Treasury blacklist* and what the implications were for US persons who were dealing with her when was the Trade Representative. In her new position, she may not necessarily have dealings with the US whereas as Trade Representative she obviously would, but there is no getting over the fact that a Minister – which is a higher rank, even if only PM’s Office Minister – she will get more scrutiny. BP should quickly note that this is a US Treasury blacklist and not a visa blacklist. BP is unsure whether she is eligible for a US visa because of her listing on the US Treasury blacklist, but this is not definitive, particularly as she is now a Minister so she may be granted a visa to visit the US in an official capacity. The same may not be the case if she was going to conduct business.
This is not the first time that someone being or possibly being on a US blacklist has become a political issue in Thailand. A former possible Minister, Narong was suspected be on a US blacklist over drug trafficking/drug links in the early 90s – see this post for some details – but that the US government has labelled someone who has become a Thai Minister as a crony of the Mugabe regime is politically embarrassing for the Yingluck government. BP has heard a statement she gave to the media today that her inclusion on the blacklist being a misunderstanding. If she is correct and can get her name removed that is one thing,** but if she remains on the blacklist then she is just engaging in political spin. So how long will she last?
Here BP was thinking it would have been the inclusion of red shirts as Ministers which would have created controversy, but Nalinee has stolen the limelight….
*Technically, it is not called a blacklist, but well it is just a term that is easier to understand..
**Working with corrupt African governments is not the politically embarrassing thing (yes, it may be morally wrong) – ask a former Prime Minister whether this has affected his position in Thai politics – but it is her inclusion on the blacklist which is the political problem. It is one thing for a Thai government to have labelled someone on the opposite side of the political divide as a terrorist or put them on a blacklist as this can be dismissed as merely partisan politics, but it is another when a foreign government, and in particular, the US does. Also, this is not a mere suspicion. She is listed on the US Treasury Web site.
คลิกอ่าน http://asiancorrespondent.com/74119/new-thai-minister-on-us-treasury-blacklist-as-a-mugabe-crony/
prasong.com
วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555
"ศาสตรา" แฉ "นิติราษฎร์" จ้องล้มสถาบันฯชัดเจน ซัดเพี้ยนช่วยมะกันทำลายชาติตัวเอง
"ศาสตรา" ชี้น่าเป็นห่วง "ทักษิณ" ทิ้งคนเสื้อแดงให้ "นิติราษฎร์" มอมเมา เผยรู้จักนักวิชาการกลุ่มนี้ดีแต่ละคนมีแนวคิดล้มสถาบันฯชัดเจน ซัดเพี้ยนเทียบกษัตริย์ไทยกับฝรั่งเศส ทั้งที่มีคุณูปการต่างกัน เชื่อ "สหรัฐฯ" หนุนล้มกษัตริย์ เพื่อง่ายต่อการกอบโกยทรัพยากร พร้อมยกลิเบียเป็นตัวอย่าง ประชาชนถูกเป่าหู ถึงขั้นฆ่า "กัดดาฟี" ผู้แทนทางจิตวิญญาณของประเทศ ตายอนาถกลางถนน ระบุพวกลงชื่อแก้มาตรา 112 ถ้าไม่รับเงินอเมริกา ก็เฟอะฟะตามเกมไม่ทัน ตกเป็นเครื่องมือนักล่าอาณานิคมแบบไม่รู้ตัว
วันที่ 18 ม.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. นายศาสตรา โตอ่อน อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต สมาชิก "สยามประชาภิวัฒน์" และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV พูดคุยในประเด็นการแก้มาตรา 112
นายปานเทพ กล่าวว่า การหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย บุคคลที่ถูกกระทำต้องได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายทุกคน แต่ระดับชั้นของโทษ จะแรงขึ้นเรื่อยๆตามลำดับความสำคัญที่คนหรือมนุษย์ในแต่ละชนชาตินั้นให้ความเคารพสักการะ ฉะนั้นน้ำหนักของคนทั่วไปกับกษัตริย์ก็ต้องต่างกัน เพราะถ้าปล่อยให้โทษใกล้กันอาจวุ่นวายได้ อย่าลืม คนธรรมดาถูกหมิ่นประมาทก็ขัดแย้งเฉพาะคู่กรณีคนหรือสองคน แต่ถ้าเป็นพระมหากษัตริย์เกิดความขัดแย้ง จะเกิดคนที่มีความคิดเห็นขัดแย้งทางสาธารณะหลายสิบล้านคน หากเกิดการเผชิญหน้า แน่นอนต้องรุนแรงมากกว่าหลายเท่า
แล้วไม่ใช่กฎหมายให้ความคุ้มครองเฉพาะประมุขของไทยเท่านั้น แต่ยังให้ความคุ้มครองประมุขของรัฐต่างประเทศด้วย อย่างประมวลกฎหมายทางอาญา มาตรา 133 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงอาฆาต มาดร้ายราชาธิบดี ราชินี ราชสามี รัชทายาท หรือประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่ สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 134 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาต มาดร้ายผู้แทนรัฐต่างประเทศซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มาสู่พระราชสำนัก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาท ถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หรือแม้แต่การกระทำต่อสิ่งที่เป็นเพียงสัญลักษณ์อย่างธงชาติ ก็คุ้มครองด้วย โดยมาตรา 135 ผู้ใดกระทำการใด ๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใด อันมีความหมายถึงรัฐต่างประเทศซึ่งมีสัมพันธไมตรี เพื่อเหยียดหยาม รัฐนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า การล่าอาณานิคมของสหรัฐฯเพื่อแสวงหาแหล่งพลังงานจะเชื่อมโยงโดยบังเอิญหรือไม่กับการพยายามแก้มาตรา 112 ซึ่งตนได้ไปหาข้อมูล โชคดีที่อเมริกาเป็นประเทศที่ต้องเปิดเผยข้อมูล เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ โดยพบว่าองค์กรของอเมริกาชื่อว่า National Endowment for Democracy ได้บริจาคให้บางเว็บไซต์ในไทย ที่รณรงค์โค่นล้มมาตรา 112 โดยระบุชื่อเลย นอกจากนั้นไม่น่าเชื่อ มีการจ่ายเงินให้แกนนำนปช.บางคนด้วย แต่มีการลบออกภายหลัง โชคดีที่มีคนเก็บข้อมูลไว้ได้
สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ ตามที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าสหรัฐฯเคลื่อนมายังเอเชียแปซิฟิก เพื่อเอาแหล่งพลังงาน จึงไม่แปลกเลยทำไมอเมริกาถึงร่วมสนุบสนุนการแก้มาตรา 112 ก็เพราะภูมิคุ้มกันของชาติคือความรักชาติ เวลาคนไทยมีความรักเทิดทูนต่อพระมหากษัตริย์ จะสู้อะไรบางอย่างเพื่อความถูกต้อง เขานึกถึงพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นจิตวิญญาณของคนในชาติ แม้กระทั่งเศรษฐกิจพอเพียง นี่เป็นภูมิคุ้มกันอย่างดีในการป้องกันกองทุนต่างชาติที่เข้ามาสูบความมั่งคั่ง แล้วเราก็หลงในความมั่งคั่งแล้วเขาก็สูบความมั่งคั่งกลับไป แน่นอนการส่งเสริมคนจาบจ้วงสถาบันฯ คือกระบวนการบ่อนทำลาย เพื่อทำให้เกิดความไม่ยึดในศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ เพราะความเป็นชาตินิยมหวงแหนแผ่นดิน เป็นสิ่งขัดขวางนักล่าอาณานิคม เลยต้องมีคนมากล่อมความคิด ว่าโลกไร้พรหมแดน หลายคนไปเรียนต่างประเทศ หลายคนหลงในหลักคิดของทุนนิยม ที่เขามาครอบเอาไว้ ถูกครอบด้วยความคิดเลือกตั้งแม้ว่าจะซื้อเสียงอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างคือเรื่องผลประโยชน์ ไม่ใช่ประชาธิปไตยแท้หรือไม่แท้
ด้านนายศาสตรา กล่าวว่า นิติราษฎร์อ้างว่าคนที่ถูกลงโทษตามมาตรา 112 ถูกใส่ร้าย ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง แล้วก็ไปตีขลุมอนุมานว่าคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นการใส่ร้าย ซึ่งเห็นว่าปี 49 เป็นปีที่พ.ต.ท.ทักษิณ สู้เพื่อกลับมามีอำนาจ มีการโจมตีสถาบันศาาล สถาบันทหาร และโยงสถาบันกษัตริย์เข้ามา คดีเกิดมากขึ้นในปีนี้ ทั้งๆที่กฎหมายนี้มีมานานแล้ว คดีมันมากขึ้นจากการถูกใส่ร้าย หรือจากการจาบจ้วงจริงกันแน่ ทางวิชาการ ถ้าเรายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ เราฟันธงไม่ได้ แต่เราตั้งสมมุติฐานได้ แต่เขาฟันธงว่าเป็นการกลั่นแกล้ง แล้วตนก็ขอตั้งสันนิษฐานต่อไว้ว่า การกลั่นแกล้งทางการเมืองมันเป็นปัญหาการเมือง กับการใช้กฎหมาย ซึ่งทางกฎหมายอาญามันมีทางออกอยู่แล้ว เมื่อศาลตัดสินว่าคุณไม่ได้ทำ ก็ฟ้องกลับ แต่ถ้าตำรวจมีปัญหา มันก็เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ที่ประเทศเราก็มีปัญหาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะจับแพะ ยัดยาบ้า กรือเซะ ตากใบ ก็ไม่เห็นว่านิติราษฎร์จะไปต่อสู้เรื่องการใส่ร้ายอะไรเลย
แสดงว่าเขาไม่สนใจปัญหาการใส่ร้ายชนิดอื่น แต่สนใจแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ เชื่อมโยงแล้วมีแต่ความพยายามถอดสถาบันฯให้ออกจากความเป็นจิตวิญญาณของคนในชาติ ถอดออกจากความมั่นคงของชาติ เสนอให้ลดโทษลง แต่ความกระสันอยากบางอย่าง ทำให้ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ที่เป็นนักเรียนกฎหมายเกียรตินิยมขั้นสูงสุดของเยอรมัน ผิดพลาดอย่างมหันต์ เกิดผลประหลาดคือคุณคุ้มครองประมุขรัฐตัวเอง (โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี) น้อยกว่าประมุขของรัฐต่างประเทศ (โทษจำคุก 1- 7 ปี) ตามที่อาจารย์ปานเทพชี้แจง
ส่วนการให้สำนักราชเลขาธิการเป็นผู้ฟ้อง ก็เป็นการลดพระเกียรติ คิดง่ายๆเวลาเด็กไปทะเลาะกับผู้ใหญ่ ใครเสีย ผู้ใหญ่เสียทั้งนั้น ตนมองว่ากฎหมาย คนกฤษฎีกาที่เขาร่างกฎหมายตั้งแต่ชื่อไปจนถึงบทเฉพาะกาล แบบนี้เขาก็ทำเป็น ไม่ต้องไปเรียนจบจากเมืองนอก แต่ที่ไปเรียนจบต่างประเทศมา แล้วมีเจตนาอะไร
นายศาสตรา กล่าวอีกว่า มันเป็นความพยายามทำลายสถาบันกษัตริย์ให้หมดสภาพไปในทางความเป็นจริงก่อน ความมั่นคงของรัฐมีบทบัญญัติเยอะแยะ แต่ทำไมถึงโฟกัสมาเฉพาะที่มาตรา 112 ก็เพราะมาตรานี้มันคือปากที่จะได้พูด ได้เสนอ เป็นด่านแรกให้พวกโพสต์โมเดิร์นทั้งหลาย พยายามจะทำลายสปิริตของประเทศชาติ และพยายามสร้างความคิดขึ้นมาใหม่ บางคนไม่เหนียมอายอย่างดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ก็บอกเลยให้ยกเลิก บางคนบอกเป็นแนวปฏิรูป แต่มันมีพวกฮาร์ดคอร์ซ่อนรูปอยู่ข้างหลัง นิติราษฎร์เปิดประตูมาตรา 112 เมื่อไหร่ พวกนี้จะระดมเข้ามารื้อสปิริตของสังคม โดยอกุศลกรรม ไม่ใช่การตักเตือนอย่างดีงาม
นายศาสตรา กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนมองว่ามาตรา 112 พรรคการเมืองไม่แก้แล้ว เขาพอใจที่ได้อยู่ในรัฐบาล ได้คุมระบบเศรษฐกิจ คุมสัมปทาน สามารถดำรงโครงสร้างทุนนิยมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว พอทุนนิยมได้สิ่งเหล่านี้หมดแล้ว เขาก็ประนีประนอมทุกอย่าง เพราะการต่อสู้ต่อไป เปลืองต้นทุนเปล่าๆ ดังนั้นมันจึงเป็นปัญหาที่กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์มองอยู่แล้ว ว่าตรงนี้นำไปสู่การผูกขาดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ คือการผูกขาดอำนาจทางเศรษฐกิจ สนิทแนบแน่นไปเรียบร้อยแล้วกับการผูกขาดอำนาจทางการเมือง ผ่านทางการเลือกตั้ง ซึ่งมีวัฒนธรรมไทยที่เป็นรากฐานคือระบบอุปถัมภ์
"ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงคือ กระแสมวลชนเสื้อแดงที่ปลุกขึ้นมาโดยเผด็จการทุนนิยมพรรคการเมือง มันยังมีพลังอยู่ และมวลชนต้องการอาหารทางอุดมการณ์ ต้องการข่าวร้อน ต้องการเสพนักวิชาการ ในกลุ่มนิติราษฎร์ผมมีความรู้จักเป็นการส่วนตัวเลย รู้หมดใครคิดอะไรอย่างไร พวกนี้มีความคิดอย่างร้ายที่สุดคือไปถึงสาธารณรัฐ มีมุมมองต่อกษัตริย์แบบเชิงลบ เหมือนฝรั่งเศสที่มองพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อองตัวแนต แต่พวกนี้ผมว่าเขาเพี้ยน เพราะกษัตริย์ฝรั่งไม่ได้แสดงบทบาทต่อสังคม อย่างพระนางมารี อองตัวแนต มีคนไปทูลว่าประชาชนยากจนไม่มีข้าวกิน พระนางบอกให้ไปกินขนมปัง มันสะท้อนตอบอะไรไม่ได้ แต่สถาบันกษัตริย์ไทยมีคุณูปการทุกเรื่อง ตลอดเวลาที่ผ่านมา" นายศาสตรา ระบุ
นายศาสตรา กล่าวอีกว่า กลุ่มเหล่านี้มีมาตั้งนานแล้ว 20 - 30 ปี ฝังตัวอยู่แถวต้นโพธิ์ธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ทั้งหลาย มีอาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เป็นศาสดา ส่วนคณะนิติศาสตร์เพิ่งเกิดช่วงหลังๆ พวกนี้บางคนก็ชอบอ่านงานของดร.สมศักดิ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บางคนเรียนอยู่ฝรั่งเศส บางคนเรียนอยู่เยอรมัน ชัดเจนอยู่แล้ว ความประสงค์ของเขา โดยอาศัยฐานมวลชนซึ่งเป็นผลผลิตของเผด็จการทุนนิยมพรรคการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทิ้งมวลชนตรงนั้นเอาไว้ ฉะนั้นจะเห็นได้เลยว่าตอนนี้แกนนำม็อบเสื้อแดงได้ไปเสพอำนาจเป็นส.ส. เป็นรัฐมนตรี เขาพอใจแล้ว และปล่อยให้นปช.ถูกดูแลโดยนิติราษฏร์ไป คนเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ที่ชอบอ่านโน่นอ่านนี่ ก็มีความสุขต่อไปที่ได้เสพงาน แล้วมีศาสดาองค์ใหม่คือดร.วรเจตน์ ตนมองว่าเหมือนระบบนาซีเลย สมัยฮิตเลอร์เรืองอำนาจ ก็มีด็อกเตอร์สติเฟื่องคนหนึ่ง ชื่อดร. โจเซฟ เกิบเบิลส์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโฆษณาการ คอยคิดการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง คนนี้ร้ายแรงยิ่งกว่าพวก ฮิมเลอร์ รอมเมล ที่เป็นพวกนักรบ เข้ามาคอยผลิตวาทกรรม ต่างคนต่างได้ประโยชน์ เสื้อแดงก็ได้เสพข่าวสารเป็นมังสาหาร ฝ่ายนักวิชาการก็ได้เป็นศาสดาขึ้นมา
มองว่าตอนนี้เบอร์ 2 ที่กำลังมาแรง คือดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล คนนี้เคยนั่งกินข้าวกับตน แล้วดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อหน้าตนเลย ถามนักเรียนไทยในฝรั่งเศสได้เลย ตอนอยู่ฝรั่งเศสคนๆนี้ใช้สรรพนามอะไรเมื่อพูดถึงสถาบันฯ มันชัดเจน หรือสาวิตรี สุขศรี เบอร์ 3 มีนามปากกาว่า เช กูวารา ล่าสุดออกมาบอกว่ามนุษย์ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน แต่นี่มันเป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐ มันคนละเรื่อง ไม่ต้องแปลกใจนิติราษฎร์ไม่ใช่นักกฎหมาย เป็นนักอะไรก็ไม่รู้ที่ใส่เสื้อคลุมนักกฎหมาย
ดร.ศาสตรา ยังกล่าวว่า ถ้า 118 คน ที่ร่วมลงชื่อแก้มาตรา 112 ไม่ได้ไปรับเงินพวกองค์กรของอเมริกาเพื่อล้มสถาบันฯ และเชื่อมั่นในอุดมการณ์จริงๆ ตนว่าพวกนี้เฟอะฟะ ไม่ทันสมัย ไม่ทันเกม ตนไม่แปลกใจที่อเมริกาต้องแสวงหาแหล่งพลังงาน เพราะอเมริกาประเทศเดียวบริโภคทรัพยากรของโลกถึง 30 - 40 เปอร์เซ็นต์ เขาจึงต้องการความมั่นคงทางพลังงานสูง เพื่อดำรงระบบของเขาไว้ให้ได้
อิทธิพลอเมริกาเข้าไปในประเทศที่เป็นแหล่งพลังงาน แบ่งผลประโยชน์กับกลุ่มอียู หรืออียูก็ร่วมกับอเมริกาในการบอมบ์ลิเบีย พรรคฝ่ายค้านเยอรมันก็โจมตี นางแองเจลา แมร์เคิล ทำไมโจมตีลิเบีย แต่ไม่โจมตีซีเรีย ก็เพราะลิเบียมีผลประโยชน์ อีกทั้งกล่าวหากัดดาฟี่ ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณการต่อสู้ของของประเทศ กัดดาฟีเป็นคนเผ่าเบดูอิน ชนร่อนเร่ที่เป็นอัตลักษณ์ของประเทศ แต่คนในชาติถูกมอมเมา ลากหัวหน้าเผ่า ซึ่งเดิมเป็นผู้แทนทางจิตวิญญาณ ออกมาทุบตีเลือดสาดตายกลางถนน วันนี้สิ่งเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในประเทศของเรา ความวิปลาสของโลกกำลังส่งผลต่อประเทศเรา โดยมีนักวิชาการเป็นตัวช่วย ซึ่งถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์ก็เฟอะฟะมาก หรืออย่างนักเขียนที่ออกมาร่วมด้วย แสดงให้เห็นว่าภูมิปัญญาของสังคมในประเทศอ่อนแอมาก
ทำไมมุสลิมจึงเกิดอัลกออิดะห์ เพราะพวกนี้ตระหนักว่านี่คือภูมิคุ้มกันของประเทศเขา หรือจีนบล็อกเฟซบุ๊ก ก็เพราะรู้ว่านี่คือเครื่องทำลายล้าง อเมริกาไม่ได้มีสิทธิเสรีภาพจริง คนทั้งโลกกำลังถูกอำนาจสื่อต่างๆมอมเมา ภูมิภาคไหนมีทรัพยากรมากจะสูญเสียทรัพยากรทันทีถ้าคนในประเทศนั้นโง่ และไม่สามารถปรับตัวได้ อีกหน่อยไร่นาก็หมด เมื่อเผด็จการทุนนิยมพรรคการเมืองไทยกับทุนนิยมโลก จับมือกันเรียบร้อยแล้วทำลายภูมิคุ้มกันของชาติ
Manager online
วันที่ 18 ม.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. นายศาสตรา โตอ่อน อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต สมาชิก "สยามประชาภิวัฒน์" และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV พูดคุยในประเด็นการแก้มาตรา 112
นายปานเทพ กล่าวว่า การหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย บุคคลที่ถูกกระทำต้องได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายทุกคน แต่ระดับชั้นของโทษ จะแรงขึ้นเรื่อยๆตามลำดับความสำคัญที่คนหรือมนุษย์ในแต่ละชนชาตินั้นให้ความเคารพสักการะ ฉะนั้นน้ำหนักของคนทั่วไปกับกษัตริย์ก็ต้องต่างกัน เพราะถ้าปล่อยให้โทษใกล้กันอาจวุ่นวายได้ อย่าลืม คนธรรมดาถูกหมิ่นประมาทก็ขัดแย้งเฉพาะคู่กรณีคนหรือสองคน แต่ถ้าเป็นพระมหากษัตริย์เกิดความขัดแย้ง จะเกิดคนที่มีความคิดเห็นขัดแย้งทางสาธารณะหลายสิบล้านคน หากเกิดการเผชิญหน้า แน่นอนต้องรุนแรงมากกว่าหลายเท่า
แล้วไม่ใช่กฎหมายให้ความคุ้มครองเฉพาะประมุขของไทยเท่านั้น แต่ยังให้ความคุ้มครองประมุขของรัฐต่างประเทศด้วย อย่างประมวลกฎหมายทางอาญา มาตรา 133 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงอาฆาต มาดร้ายราชาธิบดี ราชินี ราชสามี รัชทายาท หรือประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่ สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 134 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาต มาดร้ายผู้แทนรัฐต่างประเทศซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มาสู่พระราชสำนัก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาท ถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หรือแม้แต่การกระทำต่อสิ่งที่เป็นเพียงสัญลักษณ์อย่างธงชาติ ก็คุ้มครองด้วย โดยมาตรา 135 ผู้ใดกระทำการใด ๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใด อันมีความหมายถึงรัฐต่างประเทศซึ่งมีสัมพันธไมตรี เพื่อเหยียดหยาม รัฐนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า การล่าอาณานิคมของสหรัฐฯเพื่อแสวงหาแหล่งพลังงานจะเชื่อมโยงโดยบังเอิญหรือไม่กับการพยายามแก้มาตรา 112 ซึ่งตนได้ไปหาข้อมูล โชคดีที่อเมริกาเป็นประเทศที่ต้องเปิดเผยข้อมูล เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ โดยพบว่าองค์กรของอเมริกาชื่อว่า National Endowment for Democracy ได้บริจาคให้บางเว็บไซต์ในไทย ที่รณรงค์โค่นล้มมาตรา 112 โดยระบุชื่อเลย นอกจากนั้นไม่น่าเชื่อ มีการจ่ายเงินให้แกนนำนปช.บางคนด้วย แต่มีการลบออกภายหลัง โชคดีที่มีคนเก็บข้อมูลไว้ได้
สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ ตามที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าสหรัฐฯเคลื่อนมายังเอเชียแปซิฟิก เพื่อเอาแหล่งพลังงาน จึงไม่แปลกเลยทำไมอเมริกาถึงร่วมสนุบสนุนการแก้มาตรา 112 ก็เพราะภูมิคุ้มกันของชาติคือความรักชาติ เวลาคนไทยมีความรักเทิดทูนต่อพระมหากษัตริย์ จะสู้อะไรบางอย่างเพื่อความถูกต้อง เขานึกถึงพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นจิตวิญญาณของคนในชาติ แม้กระทั่งเศรษฐกิจพอเพียง นี่เป็นภูมิคุ้มกันอย่างดีในการป้องกันกองทุนต่างชาติที่เข้ามาสูบความมั่งคั่ง แล้วเราก็หลงในความมั่งคั่งแล้วเขาก็สูบความมั่งคั่งกลับไป แน่นอนการส่งเสริมคนจาบจ้วงสถาบันฯ คือกระบวนการบ่อนทำลาย เพื่อทำให้เกิดความไม่ยึดในศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ เพราะความเป็นชาตินิยมหวงแหนแผ่นดิน เป็นสิ่งขัดขวางนักล่าอาณานิคม เลยต้องมีคนมากล่อมความคิด ว่าโลกไร้พรหมแดน หลายคนไปเรียนต่างประเทศ หลายคนหลงในหลักคิดของทุนนิยม ที่เขามาครอบเอาไว้ ถูกครอบด้วยความคิดเลือกตั้งแม้ว่าจะซื้อเสียงอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างคือเรื่องผลประโยชน์ ไม่ใช่ประชาธิปไตยแท้หรือไม่แท้
ด้านนายศาสตรา กล่าวว่า นิติราษฎร์อ้างว่าคนที่ถูกลงโทษตามมาตรา 112 ถูกใส่ร้าย ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง แล้วก็ไปตีขลุมอนุมานว่าคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นการใส่ร้าย ซึ่งเห็นว่าปี 49 เป็นปีที่พ.ต.ท.ทักษิณ สู้เพื่อกลับมามีอำนาจ มีการโจมตีสถาบันศาาล สถาบันทหาร และโยงสถาบันกษัตริย์เข้ามา คดีเกิดมากขึ้นในปีนี้ ทั้งๆที่กฎหมายนี้มีมานานแล้ว คดีมันมากขึ้นจากการถูกใส่ร้าย หรือจากการจาบจ้วงจริงกันแน่ ทางวิชาการ ถ้าเรายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ เราฟันธงไม่ได้ แต่เราตั้งสมมุติฐานได้ แต่เขาฟันธงว่าเป็นการกลั่นแกล้ง แล้วตนก็ขอตั้งสันนิษฐานต่อไว้ว่า การกลั่นแกล้งทางการเมืองมันเป็นปัญหาการเมือง กับการใช้กฎหมาย ซึ่งทางกฎหมายอาญามันมีทางออกอยู่แล้ว เมื่อศาลตัดสินว่าคุณไม่ได้ทำ ก็ฟ้องกลับ แต่ถ้าตำรวจมีปัญหา มันก็เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ที่ประเทศเราก็มีปัญหาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะจับแพะ ยัดยาบ้า กรือเซะ ตากใบ ก็ไม่เห็นว่านิติราษฎร์จะไปต่อสู้เรื่องการใส่ร้ายอะไรเลย
แสดงว่าเขาไม่สนใจปัญหาการใส่ร้ายชนิดอื่น แต่สนใจแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ เชื่อมโยงแล้วมีแต่ความพยายามถอดสถาบันฯให้ออกจากความเป็นจิตวิญญาณของคนในชาติ ถอดออกจากความมั่นคงของชาติ เสนอให้ลดโทษลง แต่ความกระสันอยากบางอย่าง ทำให้ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ที่เป็นนักเรียนกฎหมายเกียรตินิยมขั้นสูงสุดของเยอรมัน ผิดพลาดอย่างมหันต์ เกิดผลประหลาดคือคุณคุ้มครองประมุขรัฐตัวเอง (โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี) น้อยกว่าประมุขของรัฐต่างประเทศ (โทษจำคุก 1- 7 ปี) ตามที่อาจารย์ปานเทพชี้แจง
ส่วนการให้สำนักราชเลขาธิการเป็นผู้ฟ้อง ก็เป็นการลดพระเกียรติ คิดง่ายๆเวลาเด็กไปทะเลาะกับผู้ใหญ่ ใครเสีย ผู้ใหญ่เสียทั้งนั้น ตนมองว่ากฎหมาย คนกฤษฎีกาที่เขาร่างกฎหมายตั้งแต่ชื่อไปจนถึงบทเฉพาะกาล แบบนี้เขาก็ทำเป็น ไม่ต้องไปเรียนจบจากเมืองนอก แต่ที่ไปเรียนจบต่างประเทศมา แล้วมีเจตนาอะไร
นายศาสตรา กล่าวอีกว่า มันเป็นความพยายามทำลายสถาบันกษัตริย์ให้หมดสภาพไปในทางความเป็นจริงก่อน ความมั่นคงของรัฐมีบทบัญญัติเยอะแยะ แต่ทำไมถึงโฟกัสมาเฉพาะที่มาตรา 112 ก็เพราะมาตรานี้มันคือปากที่จะได้พูด ได้เสนอ เป็นด่านแรกให้พวกโพสต์โมเดิร์นทั้งหลาย พยายามจะทำลายสปิริตของประเทศชาติ และพยายามสร้างความคิดขึ้นมาใหม่ บางคนไม่เหนียมอายอย่างดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ก็บอกเลยให้ยกเลิก บางคนบอกเป็นแนวปฏิรูป แต่มันมีพวกฮาร์ดคอร์ซ่อนรูปอยู่ข้างหลัง นิติราษฎร์เปิดประตูมาตรา 112 เมื่อไหร่ พวกนี้จะระดมเข้ามารื้อสปิริตของสังคม โดยอกุศลกรรม ไม่ใช่การตักเตือนอย่างดีงาม
นายศาสตรา กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนมองว่ามาตรา 112 พรรคการเมืองไม่แก้แล้ว เขาพอใจที่ได้อยู่ในรัฐบาล ได้คุมระบบเศรษฐกิจ คุมสัมปทาน สามารถดำรงโครงสร้างทุนนิยมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว พอทุนนิยมได้สิ่งเหล่านี้หมดแล้ว เขาก็ประนีประนอมทุกอย่าง เพราะการต่อสู้ต่อไป เปลืองต้นทุนเปล่าๆ ดังนั้นมันจึงเป็นปัญหาที่กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์มองอยู่แล้ว ว่าตรงนี้นำไปสู่การผูกขาดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ คือการผูกขาดอำนาจทางเศรษฐกิจ สนิทแนบแน่นไปเรียบร้อยแล้วกับการผูกขาดอำนาจทางการเมือง ผ่านทางการเลือกตั้ง ซึ่งมีวัฒนธรรมไทยที่เป็นรากฐานคือระบบอุปถัมภ์
"ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงคือ กระแสมวลชนเสื้อแดงที่ปลุกขึ้นมาโดยเผด็จการทุนนิยมพรรคการเมือง มันยังมีพลังอยู่ และมวลชนต้องการอาหารทางอุดมการณ์ ต้องการข่าวร้อน ต้องการเสพนักวิชาการ ในกลุ่มนิติราษฎร์ผมมีความรู้จักเป็นการส่วนตัวเลย รู้หมดใครคิดอะไรอย่างไร พวกนี้มีความคิดอย่างร้ายที่สุดคือไปถึงสาธารณรัฐ มีมุมมองต่อกษัตริย์แบบเชิงลบ เหมือนฝรั่งเศสที่มองพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อองตัวแนต แต่พวกนี้ผมว่าเขาเพี้ยน เพราะกษัตริย์ฝรั่งไม่ได้แสดงบทบาทต่อสังคม อย่างพระนางมารี อองตัวแนต มีคนไปทูลว่าประชาชนยากจนไม่มีข้าวกิน พระนางบอกให้ไปกินขนมปัง มันสะท้อนตอบอะไรไม่ได้ แต่สถาบันกษัตริย์ไทยมีคุณูปการทุกเรื่อง ตลอดเวลาที่ผ่านมา" นายศาสตรา ระบุ
นายศาสตรา กล่าวอีกว่า กลุ่มเหล่านี้มีมาตั้งนานแล้ว 20 - 30 ปี ฝังตัวอยู่แถวต้นโพธิ์ธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ทั้งหลาย มีอาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เป็นศาสดา ส่วนคณะนิติศาสตร์เพิ่งเกิดช่วงหลังๆ พวกนี้บางคนก็ชอบอ่านงานของดร.สมศักดิ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บางคนเรียนอยู่ฝรั่งเศส บางคนเรียนอยู่เยอรมัน ชัดเจนอยู่แล้ว ความประสงค์ของเขา โดยอาศัยฐานมวลชนซึ่งเป็นผลผลิตของเผด็จการทุนนิยมพรรคการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทิ้งมวลชนตรงนั้นเอาไว้ ฉะนั้นจะเห็นได้เลยว่าตอนนี้แกนนำม็อบเสื้อแดงได้ไปเสพอำนาจเป็นส.ส. เป็นรัฐมนตรี เขาพอใจแล้ว และปล่อยให้นปช.ถูกดูแลโดยนิติราษฏร์ไป คนเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ที่ชอบอ่านโน่นอ่านนี่ ก็มีความสุขต่อไปที่ได้เสพงาน แล้วมีศาสดาองค์ใหม่คือดร.วรเจตน์ ตนมองว่าเหมือนระบบนาซีเลย สมัยฮิตเลอร์เรืองอำนาจ ก็มีด็อกเตอร์สติเฟื่องคนหนึ่ง ชื่อดร. โจเซฟ เกิบเบิลส์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโฆษณาการ คอยคิดการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง คนนี้ร้ายแรงยิ่งกว่าพวก ฮิมเลอร์ รอมเมล ที่เป็นพวกนักรบ เข้ามาคอยผลิตวาทกรรม ต่างคนต่างได้ประโยชน์ เสื้อแดงก็ได้เสพข่าวสารเป็นมังสาหาร ฝ่ายนักวิชาการก็ได้เป็นศาสดาขึ้นมา
มองว่าตอนนี้เบอร์ 2 ที่กำลังมาแรง คือดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล คนนี้เคยนั่งกินข้าวกับตน แล้วดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อหน้าตนเลย ถามนักเรียนไทยในฝรั่งเศสได้เลย ตอนอยู่ฝรั่งเศสคนๆนี้ใช้สรรพนามอะไรเมื่อพูดถึงสถาบันฯ มันชัดเจน หรือสาวิตรี สุขศรี เบอร์ 3 มีนามปากกาว่า เช กูวารา ล่าสุดออกมาบอกว่ามนุษย์ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน แต่นี่มันเป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐ มันคนละเรื่อง ไม่ต้องแปลกใจนิติราษฎร์ไม่ใช่นักกฎหมาย เป็นนักอะไรก็ไม่รู้ที่ใส่เสื้อคลุมนักกฎหมาย
ดร.ศาสตรา ยังกล่าวว่า ถ้า 118 คน ที่ร่วมลงชื่อแก้มาตรา 112 ไม่ได้ไปรับเงินพวกองค์กรของอเมริกาเพื่อล้มสถาบันฯ และเชื่อมั่นในอุดมการณ์จริงๆ ตนว่าพวกนี้เฟอะฟะ ไม่ทันสมัย ไม่ทันเกม ตนไม่แปลกใจที่อเมริกาต้องแสวงหาแหล่งพลังงาน เพราะอเมริกาประเทศเดียวบริโภคทรัพยากรของโลกถึง 30 - 40 เปอร์เซ็นต์ เขาจึงต้องการความมั่นคงทางพลังงานสูง เพื่อดำรงระบบของเขาไว้ให้ได้
อิทธิพลอเมริกาเข้าไปในประเทศที่เป็นแหล่งพลังงาน แบ่งผลประโยชน์กับกลุ่มอียู หรืออียูก็ร่วมกับอเมริกาในการบอมบ์ลิเบีย พรรคฝ่ายค้านเยอรมันก็โจมตี นางแองเจลา แมร์เคิล ทำไมโจมตีลิเบีย แต่ไม่โจมตีซีเรีย ก็เพราะลิเบียมีผลประโยชน์ อีกทั้งกล่าวหากัดดาฟี่ ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณการต่อสู้ของของประเทศ กัดดาฟีเป็นคนเผ่าเบดูอิน ชนร่อนเร่ที่เป็นอัตลักษณ์ของประเทศ แต่คนในชาติถูกมอมเมา ลากหัวหน้าเผ่า ซึ่งเดิมเป็นผู้แทนทางจิตวิญญาณ ออกมาทุบตีเลือดสาดตายกลางถนน วันนี้สิ่งเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในประเทศของเรา ความวิปลาสของโลกกำลังส่งผลต่อประเทศเรา โดยมีนักวิชาการเป็นตัวช่วย ซึ่งถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์ก็เฟอะฟะมาก หรืออย่างนักเขียนที่ออกมาร่วมด้วย แสดงให้เห็นว่าภูมิปัญญาของสังคมในประเทศอ่อนแอมาก
ทำไมมุสลิมจึงเกิดอัลกออิดะห์ เพราะพวกนี้ตระหนักว่านี่คือภูมิคุ้มกันของประเทศเขา หรือจีนบล็อกเฟซบุ๊ก ก็เพราะรู้ว่านี่คือเครื่องทำลายล้าง อเมริกาไม่ได้มีสิทธิเสรีภาพจริง คนทั้งโลกกำลังถูกอำนาจสื่อต่างๆมอมเมา ภูมิภาคไหนมีทรัพยากรมากจะสูญเสียทรัพยากรทันทีถ้าคนในประเทศนั้นโง่ และไม่สามารถปรับตัวได้ อีกหน่อยไร่นาก็หมด เมื่อเผด็จการทุนนิยมพรรคการเมืองไทยกับทุนนิยมโลก จับมือกันเรียบร้อยแล้วทำลายภูมิคุ้มกันของชาติ
Manager online
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน