หากไม่มีการรับรองรายชื่อ ส.ส.จนถึงวันที่ 3 สิงหาคม วิกฤติทางการเมืองไทยจะยืดเยื้ออีก ขณะที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงสั่งสมาชิกให้เติมพลังรับสถานการณ์
กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.มีการหารือกันทันทีภายหลังที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส. 358 คนเท่านั้น และมีการแขวนรายชื่อ ผู้สมัคร บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย 11 คนเป็นแกนนำเสื้อแดง 10 คนและอีกหนึ่งคนคือนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในวันนี้ นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช.ได้ประกาศว่าจะเฝ้ารอดูการทำงานของ กกต. ตามกรอบระยะเวลากำหนด คือวันที่ 19 กรกฎาคม และวันที่ 3 สิงหาคม พร้อมกับเรียกร้องให้คนที่คิดจะขัดขวางระบอบประชาธิปไตยและปิดทางไม่ให้คน ที่ประชาชนเลือกมาด้วยเสียง 15 ล้านเสียงเข้ามาบริหารประเทศ เลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว
ขณะเดียวกันสำนักข่าวเอพีกลับวิเคราะห์ว่าการไม่รับรองการเป็นส.ส.ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ อาจก่อให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่บนท้องถนนจากกลุ่มผู้สนับสนุนเธอ และจุดชนวนกระแสการเมืองระส่ำรอบใหม่ในเมืองไทยซึ่งที่ผ่านมาได้กลายเป็น ประเทศที่มีประชาธิปไตยที่เปราะบาง
นอกจากนี้ เอพียังรายงาน นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้พยายามลดกระแสว่า การถูกแขวนชื่อ จาก กกต.เป็นเพียงกระบวนการตรวจสอบปกติของ กกต. และหวังว่า กกต.จะให้ความยุติธรรมแก่เธอและพรรคเพื่อไทย และยังมีโอกาสจนถึงวันที่ 3 สิงหาคมที่จะมีการตรวจสอบและตัดสินใจสรุป
ด้านนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิจัยประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ แสดงทัศนะว่า กกต.กำลังเริ่มการรัฐประหารทางกฎหมายรอบใหม่กับกลุ่มผู้สนับสนุนพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร และขวางไม่ให้พรรคเพื่อไทย ขึ้นสู่อำนาจถือเป็นความพยายามหลังการเลือกตั้งที่จะขัดขวางไม่ให้พรรคเพื่อ ไทยได้ขึ้นสู่อำนาจ และความเคลื่อนไหวนี้ อย่างน้อยที่สุดจะทำให้เกิดกระแสไม่ยอมรับจากกลุ่มเพื่อสนับสนุนพรรคเพื่อ ไทย และอาจจบลงด้วยวิกฤตการเมืองที่ยืดเยื้อของเมืองไทย
ส่วนนาย วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มองว่าในขั้นตอนของกฏหมาย กกต.ยังมีเวลาพิจารณาการรับรองรายชื่อ แต่ถ้ามีปัญหา ยังมีศาลฏีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิจารณาอยู่
ในกรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง นายวีรพัฒน์ อยากให้ดุเจตนารมณ์ด้วยว่า นายจตุพรต้องการไปใช้สิทธิ์ แต่มีปัญหาไม่สามารถออกไปใช้สิทธิ์ ดังนั้น กกต.ไม่ควรตัดสิทธิ์ตรงนี้