บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

เปิดสัมพันธ์ แม้ว-แดง

คมชัดลึก

ชำแหละสายสัมพันธ์ "ทักษิณ-แดง" นั่งที่ปรึกษาฯ, เลขาฯ รมต. "ผดุง" นั่งเลขาฯมท.1 หวังช่วยเป็นหูเป็นตา "ฐิติมา" หวั่นถูกเด้งชิงขอพบ "ปู" เปิดปากขอนั่งรองเลขาฯนายกฯแทน "พายัพ"ปลอบใจส.ส.อีสานวื๊ดเก้าอี้รัฐมนตรี “นพดล”ปัดทักษิณวอนบันคีมูนเข้าเฝ้า
24ม.ค.2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่งตั้งบุคคลต่างๆให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีและเลขานุการรัฐมนตรี จากการตรวจสอบพบว่าบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งหลายคนมีทั้งสายสัมพันธ์โยงใยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เครือญาติและ นปช. เสื้อแดง

โดยมีอดีตนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 26 ( นรต. รุ่น 26 ) รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อาทิ พล.ต.ต.ไพฑูรย์ เชิดมณี ที่ปรึกษานายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ , พล.ต.ต. บุญเลิศ นันทวิสิทธิ์ ที่ปรึกษานายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ, อดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ( ตท. 10) รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท. ทักษิณ อาทิ พล.อ. วรวิทย์ ชินะนาวิน เลขานุการ พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต รมว. กลาโหม , พล.ร.อ. ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ที่ปรึกษา พล.อ.อ. สุกำพล ก็เป็น ตท. 10

นอกจากนี้ ก็ยังมีบุคคลที่เป็นคนสนิทกับ พ.ต.ท. ทักษิณและเครือญาติ อาทิ นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตผู้ติดตามพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเลขานุการนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รมว. มหาดไทย , พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ คณะทำงานสายทหาร พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร (พี่ชาย พ.ต.ท. ทักษิณ) เป็นเลขานุการนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว. พาณิชย์ ,นายภาคิน สมมิตร กรรมการมูลนิธิ 111 พรรคไทยรักไทย ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ( น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ) เป็นประธาน เป็นที่ปรึกษานายบุญทรง รมว.พาณิชย์ , ทพ.ญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สะใภ้ตระกูลชินวัตร เป็นเลขานุการนายสุชาติ ธาดาดำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ,นายวิม รุ่งวัฒนจินดา คนสนิทนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล เป็นเลขาฯนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.สำนักนายกฯ

ส่วนบุคคลที่ดำรงตำแหน่งการเมืองที่มีสายสัมพันธ์กับเสื้อแดง อาทิ พล.อ. จงศักดิ์ พานิชกุล หรือเสธฯจง เป็น รองเลขาฯ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ ซึ่งเขาเคยโดดขึ้นเวทีเสื้อแดงมาแล้ว, พ.ต.อ.ปราณ์รนต์ สันติปราน์รนต์ ที่เคยลงชื่อเพื่อถอดถอนพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ร่วมกับกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2550 ในลำดับที่ 1,643 เป็นที่ปรึกษา ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ,


นายสมหวัง อัศราษี รักษาการรองประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติถือว่าเป็นนักธุรกิจที่มีตำแหน่งในองค์กรแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติเป็นคนแรกและ ศอฉ. เคยขึ้นทะเบียนอายัดทรัพย์มาแล้วเป็นที่ปรึกษานายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช. เกษตรฯ,นาย จิรวุฒิ สิงห์โตทอง เลขานุการนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง เขาเป็นแกนนำเสื้อแดง จ.ชลบุรี เคยถูกหมายจับในข้อหาทุบรถนายกรัฐมนตรีและล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อปี 2552,นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ ที่ปรึกษานายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช. คลัง ก็เป็นแกนนำเสื้อแดง จ.ชลบุรี เคยถูกหมายจับในข้อหาทุบรถนายกรัฐมนตรีและล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อปี 2552 ,นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง เป็นเลขานุการนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตร

และ ศ.ธเนศวร์ เจริญเมือง ที่ปรึกษานายศักดา คงเพชร รมช.ศึกษา เขาเคยได้รับเชิญเป็นผู้บรรยายของโรงเรียน "นปช.แดงทั้งแผ่นดินและเข้าร่วมงานเสาวนา พัฒนาการประชาธิปไตยในสังคมไทย จาก 14 ตุลา 16 ถึงปรองดอง 53 ในวันที่ 16ตุลาคม พ.ศ2553 จัดขึ้นที่ห้องประชุมพยอมภายในตึกไอที ม.ราชภัฏเชียงราย โดยกลุ่มพลังมวลชนเชียงรายหรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการเชียงราย, เป็นหนึ่งในคนเดือนตุลา เป็นหนึ่งในคนเขียน หนังสือพิมพ์ เรดพาวเวอร์

“ผดุง”นั่งเลขาฯมท.1หวังช่วยคุมมหาดไทย
แหล่งขาวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลได้แต่งตั้งให้นายผดุงเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น เรื่องนี้เป็นความประสงค์ของพ.ต.ท.ทักษิณโดยแท้ เพื่อต้องการให้นายผดุงเข้ามาดูแล บริหารจัดการงานในกระทรวงมหาดไทยให้งานต่าง ๆ รวดเร็วขึ้น คอยเป็นหูเป็นตาให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วย เปรียบเหมือนเป็นรัฐมนตรีน้อยคนหนึ่งที่เข้ามากำกับงานในกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากที่ผ่านมาการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงมหาดไทยค่อนข้างล่าช้า ไม่เห็นผลงานที่ชัดเจน เมื่อมีนายผดุงเข้ามา ซึ่งเป็นคนที่มีประสบการณ์งานการเมือง รู้ระบบราชการ สามารถประสานงานสั่งการหน่วยราชการต่าง ๆ ได้ ทำให้การเร่งรัดนโยบายสามรถทำได้รวดเร็วขึ้น ที่สำคัญกระทรวงมหาดไทยมีงบประมาณจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องใช้คนที่มีประสบการเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการและกระจายงบประมาณให้ทั่วถึงและรวดเร็ว
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแต่งตั้งให้นายผดุง มาเป็นเลขานุการรมว.มหาดไทยแทนนายอารี ไกรนรานั้น เป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการทำงานขับเคลื่อนนโยบายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากนายผดุงเคยทำงานในตำแหน่งสำคัญมาก่อนในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ ที่จำเป็นต่อการทำงานในกระทรวงมหาดไทยที่ถือว่าเป็นกระทรวงใหญ่ ที่ต้องดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุขของพี่น้องประชาชนผ่านกลไกการปกครองในทุกระดับ ซึ่งนายผดุงจะใช้ประสบการณ์เข้ามาช่วยประสานงานกับข้าราชการ ภาคเอกชน ซึ่งจะช่วยงานในมหาดไทยได้มาก
ส่วนนายอารีที่ถูกย้ายไปเป็นเลขานุการรมช.เกษตรฯนั้นถือว่าเป็นงานที่หนักอยู่เช่นกัน เพราะทราบว่าขณะนี้กำลังมีขบวนการปลุกม็อบเกษตรกร ซึ่งเรื่องงานมวลชนนั้นเป็นงานที่นายอารีถนัดอยู่แล้ว ดังนั้นการเข้ามาทำงานคู่กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ จะสามารถชี้แจงทำความเข้าใจ และลดเงื่อนไข ป้องกันให้เกิดม็อบได้ ถือเป็นคู่หูรมต.เลขาฯที่ถูกคู่ที่สุด

"ฐิติมา"ขอพบ"ยิ่งลักษณ์"เปิดปากขอนั่งรองเลขาฯนายกฯแทน
ภายหลังจากการปรับคณะรัฐมนตรี ก็มีกระแสข่าวถึงการปรับเปลี่ยนตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด จนล่าสุดคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งโยกย้ายนางฐิติมา ฉายแสง จากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังจากมีการนำรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกแต่งตั้งใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ เมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนโฆษกประจำสำนักนายกฯก็เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก จึงทำให้นางฐิติมา ได้ปรึกษาคนใกล้ชิดถึงทิศทางการทำงานต่อไป และได้ตัดสินใจขอเข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอหารือในแนวทางการทำงาน ซึ่งนางฐิติมา ได้บอกถึงสาเหตุการทำงานที่ผ่านมาว่า ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลต้องสามารถชี้แจงรายละเอียดให้กับสื่อมวลชนได้ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะมติครม. ซึ่งตนไม่มีความรู้รอบด้าน ทั้งงานด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ต่างประเทศ จึงอยากขอมานั่งในตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งคิดว่าน่าจะเหมาะสมกว่า อีกทั้งคิดว่าน่าจะมีผู้ที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งโฆษกฯได้ดีกว่าแน่ อย่างไรตามนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ให้คำตอบในทันที

เผยสเปคโฆษกรัฐบาลคนใหม่“นักวิชาการ-เก่งภาษา-โต้การเมืองได้”
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า จากการที่ครม.มีมติแต่งตั้งข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่งและหนึ่งในนั้นคือการโยกนางฐิติมามานั่งในตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง จึงทำให้ตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่างลง ซึ่งเรื่องนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่มีสิทธิ์เลือกใครก็ได้ทีจะทำงานในตำแหน่งโฆษกฯซึ่งต้องเข้ากับนายกรัฐมนตรีได้ และไปไหนมาไหนกับนายกฯได้
“โดยโฆษกรัฐบาลคนต่อไปจะมีคุณลักษณะ 3 ประการ 1.ต้องเป็นครูบาอาจารย์หรือนักวิชาการ 2.สันทัดด้านภาษาต่างประเทศ และ 3.สามารถตอบโต้ทางการเมืองได้”
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่ครม.มีมติในเรื่องของการแบ่งงานของรองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่มีการมอบหมายให้นางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มากำกับดูแลสำนักโฆษกฯ ทั้งที่จริงแล้วสำนักโฆษกฯควรจะกำกับโดยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ถูกมอบหมายให้กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์และอสมท.มากกว่านางนลินี ซึ่งมีคำถามว่านี่เป็นการส่งสัญญาณหรือไม่ว่าจะเป็นการมอบหมายให้นางนลินี มาเป็นโฆษกรัฐบาล แม้ธรรมเนียมปฏิบัติแล้วเขาก็ไม่เป็นกันเพราะไม่เคยมีที่ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกที่นั่งเป็นโฆษกรัฐบาล

"พายัพ"ปลอบใจส.ส.อีสานวื้ดเก้าอี้รัฐมนตรี
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเผยว่า ก่อนการประชุมพรรคได้มีการประชุมส.ส.ภาคอีสาน มีนายพายัพ ชินวัตร ประธานคณะกรรมการบริหารภาคอีสานเป็นประธาน โดยนายพายัพได้พูดถึงการปรับครม.ยิ่งลักษณ์ 2 ที่โควตาภาคอีสานหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรี 4 คน ได้เก้าอี้รัฐมนตรีมา 1 คน เชื่อว่าการปรับครม.ครั้งต่อไปภาคอีสานคงได้รับความเป็นธรรม ซึ่งก็เป็นที่ถูกใจของส.ส.ภาคอีสาน นอกจากนี้ได้หารือถึงการประชุมครม.สัญจรในภาคอีสาน โดยที่ประชุมได้มีการแบ่งเป็นอีสานเหนือ อีสานกลาง อีสานใต้ โดยทางภาคต้องการให้มีการประชุมครม.สัญจรภาคอีสาน 3 ครั้ง ครั้งแรกที่จะมีขึ้นที่จ.อุดรธานี ระหว่างวันที่ 21-22 ก.พ.นี้ ส่วนการประชุมครม.สัญจรครั้งต่อไปที่จ.ขอนแก่น และที่จ.อุบลราชธานี หรือจ.สุรินทร์ ขอมอบหมายให้นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ไปประสานกับทางพรรคต่อไป

“นพดล”ปัดทักษิณวอนบันคีมูนเข้าเฝ้า
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีสำนักข่าวแห่งหนึ่งอ้างเนื้อหาในหนังสือเล่มใหม่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชื่อ “Conversation of Thaksin” เสนอให้นายบันคีนมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องความปรองดองว่า ได้ตรวจสอบหนังสือเล่มดังกล่าวแล้ว เขียนโดยนายทอม เพลส นักเขียนชาวอเมริกันที่เขียนแบบซี่รี่ส์ถึงยักษ์แห่งเอเชีย โดยเป็นการถามพ.ต.ท.ทักษิณว่าถ้านายบันคีนมูนมาประเทศไทยเพื่อความปรองดองเห็นว่าอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณตอบกลับไปว่า เมื่อคำนึงถึงสถานภาพของนายบันคีนมูนคงได้เข้าเฝ้าฯ แต่สุดท้ายท่านบอกว่าไม่คิดว่านายบันคีนมูนจะกล้าทำเช่นนั้น ทั้งหมดพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้นำเสนอนายบันคีนมูน และท่านต้องการให้เรื่องความปรองดองเป็นของคนไทยที่ต้องร่วมกันมากกว่า ทั้งนี้สำนักข่าวแห่งนี้ก็ชอบหาประเด็นมาให้กระทบต่อพ.ต.ท.ทักษิณอยู่แล้ว
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง