บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ตลาดเก๋งเล็กเดือด รับคืนภาษีรถคันแรก1แสน ขึ้นเงินเดือนป.ตรี ลดภาษีน้ำมัน ฝันของคนอยากมีรถขับสักคัน!

มติชน







นิสสัน มาร์ช



ฮอนด้า บริโอ้



เฌอรี่



ทาทา นาโน



โตโยต้า วีออส



มาสด้า2 รุ่น4ประตู



ช่วงนี้ข่าวเศรษฐกิจฮอตๆคงหนีไม่พ้นนโยบายรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์1"ที่หลายคนเฝ้ารอคอย

ทั้งเรื่องการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ300บาท/วัน และการปรับขึ้นเงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรีที่จะสตาร์ทที่อัตรา15,000บาท/เดือน

แต่ในทางปฏิบัติแล้วไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและเอกชนเมื่อฐานล่างสุดมีการ ขยับขึ้นเงินเดือน ฐานต่อๆไปย่อมต้องขยับตามไปด้วย ไม่เช่นนั้นคงตีกันตาย เพียงแต่จะขยับกันเท่าไรถึงจะสม
ประโยชน์กันทุกฝ่าย

นอกเหนือจาก2เรื่องนี้ยังมีเรื่องการคืนภาษีให้กับผู้ที่ต้องการมีรถ คันแรกในอัตรา1แสนบาท และยังมีเรื่องการปรับลดภาษีน้ำมันที่รัฐบาลประกาศไปก่อนหน้าว่าจะทำให้ราคา น้ำมันถูกลง

เมื่อเงินในกระเป๋าเพิ่ม ราคาน้ำมันถูกลง ฝันอยากมีรถ(คันแรก)ของคนที่เพิ่งจบใหม่ หรือเพิ่งทำงานใหม่ หรือเพิ่งมีครอบครัว อาจเป็นจริงขึ้นมาก็คราวนี้ โดยเฉพาะรถเล็กอย่าง"ซิตี้คาร์"ที่
ราคาไม่แพงมาก และประหยัดน้ำมันเป็นยอด

ไม่แปลกที่ช่วงนี้เราจะเห็นวงการรถยนต์บ้านเราคึกคักไปตามๆกัน ยอดขายพุ่งทำสถิติใหม่ทุกเดือน ทั้งๆที่มาตรการดังกล่าวยังไม่คลอดออกมาด้วยซ้ำ


@โตโยต้าปรับไลน์ เร่งผลิตวีออส ตั้งเป้าขายเดือนละหมื่นคัน@


ล่า สุดยักษ์ใหญ่เจ้าตลาดอย่าง"โตโยต้า" ได้เพิ่มกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ ทั้งการทำงาน 2 กะและเพิ่มการทำงานล่วงเวลาเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์เพื่อส่งมอบให้ แบ็กออร์เดอร์ที่มีอยู่หลังจากประสบปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน ช่วงก่อนหน้านี้ที่ญี่ปุ่นประสบกับสึนามิครั้งใหญ่ ทำให้ลูกค้าต้องรอรถนานกว่า2เดือน


"ตอนนี้บริษัทได้ปรับไลน์การผลิต โดยเรามุ่งเน้นไปที่โตโยต้า วีออส และอัลติส ซีเอ็นจีมากขึ้น เนื่องจากได้รับความนิยมจากลูกค้า ซึ่งขณะนี้เราได้เพิ่มกำลังการผลิตทั้งการทำงาน 2 กะ และเพิ่มการทำงานล่วงเวลาเท่าที่เครื่องจักรของเราจะสามารถทำได้ อย่างโรงงานเกตเวย์นั้นจะมีกำลังการผลิตถึง 240,000 คันต่อปี เพื่อเคลียร์ แบ็กออร์เดอร์ที่มีทั้งหมด หลังจากแผนการผลิตของเราสะดุดไปในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมา" นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว

ทั้งนี้หลังจากที่บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตแล้ว ยอดขายก็จะเติบโตตามไปด้วย โดยเฉพาะสำหรับรถยนต์รุ่นวีออส ที่บริษัทจะหันมาเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น จากปัจจุบันมียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 8,000-9,000 คัน และหากสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ ก็คาดว่าในบางเดือนจะมียอดขายสูงถึง 10,000 คัน ทำให้รถรุ่นดังกล่าวเป็นรถยนต์นั่งที่มียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งยอดขายรวมสำหรับรถยนต์วีออสทั้ง 3 โมเดลมียอดขายรวมแล้วกว่า 500,000 คัน ส่วน ยาริสมียอดขายเดือนละ 1,000 คัน


โตโยต้าคาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมียอดขายรวมกว่า 360,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่งมียอดขายรวมกว่า 162,000 คัน

นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าทั้ง "วีออส วีเลิฟ เฟสติวัล" ทั้งการลุ้นช็อปปิ้งฟรีที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี กิจกรรมทำบุญ "กอดบุญ" กิจกรรมวีออส วีเลิฟ โฟโต้คอนเทสต์ กิจกรรมคอนเสิร์ต และแคมเปญพิเศษคือ ดอกเบี้ย 1.49% หรือเลือกรับบัตรกำนัลอุปกรณ์ตกแต่ง โตโยต้ามูลค่า 15,000 บาท และแคมเปญ ทริปเปิล ซีโร่ คือ ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน, ผ่อน 0 บาทในเดือนแรก โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน


@มาสด้าส่ง"มาสด้า2"ใหม่เจาะตลาด@


ขณะ ที่ค่าย "มาสด้า" ที่โกยยอดขายจากมาสด้า2 และมาสด้า3ถล่มทลายก็ประกาศปรับเพิ่มยอดขายขึ้นอีก 3 พันคัน หลัง "ดีมานด์" ต่อเดือนยังสูง พร้อมส่งมาสด้า 2 ใหม่ลุยตลาด

โดยนายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้มาสด้าได้ตัดสินใจปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายในปีนี้จากเดิม 38,500 คัน เพิ่มเป็น 41,500 คัน เพิ่มขึ้น 3,000 คัน แบ่งเป็นมาสด้า 2 จำนวน 2,000 คัน มาสด้า 3 จำนวน 5,000 คัน และปิกอัพ บีที-50 อีกจำนวน 500 คัน

บอสใหญ่มาสด้าบอกว่า  เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางบวก โดยเฉพาะตลาดรถยนต์โดยรวมที่มีความต้องการซื้ออยู่ค่อนข้างมากอยู่แล้ว ประกอบกับการฟื้นตัวของตลาดหลังจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อช่วงที่ผ่านมา โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตลาดมียอดขายรวมอยู่ที่ 432,000 คัน โต 5% ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังโดยปกติแล้วจะเป็นช่วงที่ตลาดมีการเติบโตมากกว่าครึ่ง ปีแรกอยู่แล้ว มาสด้าเชื่อว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ระดับ 5-10% และจะทำให้ทั้งปีมียอดขายโดยรวมอยู่ที่ 860,000-880,000 คัน

"ตอนแรกเราคิดว่าในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และกว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้คงเป็นช่วงปลายปี แต่นี่ทุกอย่างกลับมาได้ค่อนข้างเร็วมากและดีกว่าที่คิดเยอะ มาสด้าและค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ก็ประหลาดใจ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากปัจจัยพื้นทางเศษรฐกิจที่ดีของประเทศไทยนั่นเอง และมาสด้าเราได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่อย่างต่อเนื่องด้วย"

นายยูกิกล่าว ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะเศรษฐกิจพื้นฐานของไทยมีการเติบโต เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ลูกค้ามีกำลังในการ จับจ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของลูกค้าต่างจังหวัด ประกอบกับมาสด้าได้มีการแนะนำรถมาสด้า 2 ใหม่ ด้วยการเพิ่มออปชั่นและใส่ความคุ้มค่าลงไปในตัว และเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่า มาสด้า 2 ใหม่จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ยอดขายมาสด้า

"เราเชื่อว่าปีนี้เราน่าจะโตเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียอดขายที่ 35,147 คัน โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นหลัก ๆ จะมาจากมาสด้า 2 น่าจะทำได้ถึง 26,000 คัน มาสด้า 3 เพิ่มขึ้น 500 คัน เป็น 7,500 คัน และมาสด้า บีที-50 เพิ่มขึ้นอีก 500 คัน เป็น 7,500 คัน ซึ่งจะส่งผลให้มาสด้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดจาก 4.7% ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 4.9% ของตลาด โดยสัดส่วนการขายของมาสด้า 45% อยู่ในกรุงเทพฯ และ 55% อยู่ในต่างจังหวัด ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงอย่างราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าจะยังต้องจับตาอยู่ แต่โดยรวมเชื่อว่า เสถียรภาพและความแข็งแกร่งของประเทศไทยจะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนให้ทุกอย่าง เป็นไปในทิศทางที่ดี"

@ นิสสันเปิดก็อกสอง เปิดตัว"มาร์ช4ประตู"ซีดาน@



หลังจากที่ค่ายนิสสันกวาดยอดขาย"มาร์ช"อย่างถล่มทลายหลังเปิดตัว  เนื่องจากเปิดราคาไม่สูงมาก แค่3.75แสนบาท ทำให้นิสสันกวาดยอดขายไปกว่า2หมื่นคันแล้ว

ล่าสุดมีกระแสข่าวยืนยันชัดเจนหลายด้านว่า นิสสันพร้อมเปิดตัวอีโคคาร์ "มาร์ช 4 ประตู ซีดาน" ภายใน เร็ว ๆ นี้ 

แหล่งข่าวระดับบริหารบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตามแผนมาร์ช 4 ประตู ซีดาน จะวางตลาดอย่างเป็นทางการภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยเมื่อวันที่ 20-22กรกฎาคมที่ผ่านมาบริษัทได้เชิญบรรดาตัวแทนจำหน่าย ทั่วประเทศพร้อมสื่อมวลชนบางกลุ่มร่วมทดลองขับรถรุ่นใหม่นี้ที่แก่งกระจาน เซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี

สำหรับอีโคคาร์ 4 ประตู ซีดาน จะใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกับนิสสัน มาร์ช 5 ประตู แฮตช์แบ็กที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ เพื่อทำทุกอย่างให้ตรงกับข้อกำหนดที่นิสสันได้ขอรับการส่งเสริมกับทางบีโอไอ โดยเฉพาะอัตราการบริโภคน้ำมัน 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับยูโร 4 มีการปล่อยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์จากท่อไอเสียไม่เกิน 120 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร เพื่อให้รถคันนี้เสียภาษีสรรพสามิตในอัตรา 17%

"เราใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ รหัส HR12DE 79 แรงม้า มีระบบควบคุมการเปิดปิดของวาล์ว จุดเด่นสำคัญของเครื่องยนต์ตัวนี้คือ การปล่อยมลพิษต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระดับต้น ๆ ของโลก ระบบเกียร์เป็นแบบธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติซีวีที ทั้งหมดวางอยู่บนโครงสร้างวี-แพลตฟอร์ม เช่นเดียวกับที่มีอยู่ในนิสสัน มาร์ช รุ่น 5 ประตู"

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า โครงสร้างวี- แพลตฟอร์มเป็นปัจจัยหลักประการหนึ่งที่ช่วยให้รถมีความปลอดภัยจากแรงกระแทก และยังคงรักษาความแข็งแรงของห้องโดยสาร สำหรับรูปร่างหน้าตาของรถคันนี้จะเป็นโฉมเดียวกับนิสสัน ซันนี่ 2011 ระหัส L02B ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศจีนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่สำหรับประเทศไทยนั้นอาจจะใช้ชื่อ นิสสัน อัลเมร่า แทน "ซันนี่" เพื่อป้องกันความสับสน แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ก่อนถึงวัน เปิดตัว

จุดเด่นของนิสสัน มาร์ช 4 ประตู ซีดาน ที่จะใช้เป็นจุดขายอีกอย่างคือ "ความกว้างขวางและโอโถ่ง" เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง รวมถึงนิสสัน มาร์ช 5 ประตู มิติของรถคันนี้เหนือกว่าทุก ๆ ด้านของรถในกลุ่มเดียวกัน คือความยาว 4,426 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,695 มิลลิเมตร, ความสูง 1,505 มิลลิเมตร ส่วนความยาวหน้า-หลัง 2,600 มิลลิเมตร

น้ำหนักรถ 962-1,027 กิโลกรัม และฐานล้อมีขนาดเท่ากับโตโยต้า อัลติส ส่วนสเป็กอื่น ๆ ของตัวรถใกล้เคียง นิสสัน มาร์ช 5 ประตู และเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถประหยัดได้มากขึ้นยังได้ติดตั้งระบบ "ไอดัล สต๊อป" ซึ่งเป็นระบบดับเครื่องทันทีเมื่อจอด และทำงานอีกครั้งเมื่อปล่อยเบรกเพื่อเคลื่อนตัวไป ข้างหน้า

ทั้งนี้ กำหนดการเปิดตัวนิสสัน มาร์ช 4 ประตู ซีดาน น่าจะเป็นช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคมนี้ และขายจริงจังในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปี เพื่อตัดหน้าคู่แข่งอีกสองราย มิตซูบิชิ และซูซูกิ ที่กำลังจะเปิดตัวในต้นปี 2555 โดยคาดว่าจะมีราคาสูงกว่ามาร์ชตัวเก่าประมาณ 5 หมื่นบาท ซึ่งทำให้ตัวเริ่มต้นน่าจะมีราคาประมาณ 4 แสนบาท

ส่วนความคืบหน้าค่ายซูซูกิ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซูซูกิได้เชิญผู้บริหารจากบีโอไอไปร่วมชมรถต้นแบบอีโคคาร์ที่โรงงานซูซูกิใน จังหวัดระยอง ซึ่งคาดว่าซูซูกิอาจจะนำรถรุ่นดังกล่าวมาโชว์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปีนี้ เช่นเดียวกัน และน่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับอีโคคารของค่ายมิตซูฯในงานมอเตอร์ โชว์เดือนมีนาคมปีหน้า


@ทาทาเล็งส่งโมเดลเดียวกับ"นาโน"เจาะตลาด ราคา3แสน@


ขณะ ที่ค่ายรถใหญ่แดนโรตีอย่างทาทา "ทาทา" แย้มเตรียมส่ง "เก๋งเล็ก" ทำตลาด ระบุชัดเป็นโมเดลเดียวกับ "นาโน" แต่ปรับเพิ่มออปชั่นสำหรับตลาดเมืองไทย เคาะราคาต่ำกว่า 3 แสน ชูความเป็นซิตี้คาร์แท้จริง

แหล่งข่าวระดับบริหารจากบริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์สัญชาติอินเดีย ยี่ห้อทาทา กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการผลิตและจำหน่ายรถยนต์นั่งขนาดเล็ก (ซิตี้คาร์) ว่า ขณะนี้มีความชัดเจนแล้ว โดยจะส่งซิตี้คาร์ออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการปลายปีนี้ คาดว่าลูกค้าจะได้จับจองในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปอย่างแน่นอน

แต่สำหรับชื่อรุ่นนั้น บริษัทอาจจะไม่ใช้ชื่อ ทาทา นาโน เพราะต้องการให้เหมาะสมกับตลาดในเมืองไทย พร้อมกันนี้ ในส่วนของรูปร่างหน้าตาของซิตี้คาร์ตัวนี้ก็จะเป็นโมเดลเดียวกับทาทา นาโน ที่มีจำหน่ายในประเทศอินเดีย ทั้งนี้จะมีการปรับเปลี่ยนภายใน หรือออปชั่นต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าคนไทย

สำหรับราคาขายซิตี้คาร์คันนี้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะต่ำกว่า 300,000 บาทอย่างแน่นอน เรากำหนดตำแหน่งสินค้าให้เป็นซิตี้คาร์ ไม่ใช่คู่แข่งของอีโคคาร์ เนื่องจากอยู่คนละตลาด กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจึงไม่ใช่กลุ่มผู้ใช้อีโคคาร์

"เดิมบริษัทตั้งใจจะใช้ไทยเป็นฐานผลิตเก๋งเล็ก หรือซิตี้คาร์ แต่เนื่องจากความไม่ชัดเจนทางด้านภาษี และมองว่าผลิตในบ้านเราก็ไม่ได้เปรียบ โดยเฉพาะส่วนต่างกับอีโคคาร์ ซึ่งเก๋งเล็ก เก็บ35% ในขณะที่อีโคคาร์ เก็บ 17% และรถยนต์ที่ใช้น้ำมันอี 85 เก็บ 23% หรือไฮบริด เสียภาษีเพียง 10% ซึ่งหากทาทาตัดสินใจลงทุน มูลค่า 5,000 ล้านบาท ตามที่ บีโอไอกำหนด แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนทางด้านภาษีที่ดีกว่า ก็ควรย้ายโครงการผลิตซิตี้คาร์ไปที่อื่น"


@"เฌอรี่"ส่ง1-2รุ่นลงตลาด  คาดสตาร์ตไม่เกิน 5 แสน@



"เฌอรี่" เกาะกระแสเก๋งเล็กมาแรง เตรียมส่งซิตี้คาร์ 1,500 ซีซี ลงตลาด 1-2 รุ่น คาดสตาร์ตราคาไม่เกิน 5 แสน สู้อีโคคาร์ เผยรถตู้ "บิ๊ก ดี" กระแสตอบรับเยี่ยม แต่บริษัทแม่ไม่มีรถส่งมอบแบ็กออร์เดอร์ทะลักร่วม 500 คัน คาดเริ่มทยอยส่งลูกค้าได้เดือนกันยายนนี้ ยังฝันเป้า 3,000 คัน

ด้านนายกลิน บุณยนิตย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยเฌอรี่ ยานยนตร์ จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ว่า ในช่วงปลายปีบริษัทจะนำเข้ารถยนต์ขนาด 1,500 ซีซี เข้ามาทำตลาดเพิ่มอีก 1-2 รุ่น เพื่อเติมเต็มสินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งอยู่ในระหว่างการเลือกรุ่นที่จะนำเข้ามาจำหน่าย ซึ่งมีรุ่นที่บริษัทกำลังให้ความสนใจนำเข้ามาทำตลาดแล้ว 2 รุ่น

เบื้องต้นคาดว่า 1 ใน2 รุ่นนั้นจะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มการแข่งขันกับอีโคคาร์ที่กำลังได้รับความนิยม

ส่วนความคืบหน้าแผนการจัดตั้งโรงงานประกอบในประเทศนั้น นายกลินกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับบริษัทแม่ เพื่อหาข้อสรุปถึงโมเดลที่จะนำเข้ามาผลิตในไทย เนื่องจากบริษัทเห็นว่าประเทศไทยเป็นฐานการผลิตปิกอัพที่สำคัญ น่าจะมีการผลิตรถยนต์ดังกล่าวในประเทศไทยเพื่อเป็นฐานการส่งออกในอาเซียน แต่ทางบริษัทไทยเฌอรี่ฯเห็นว่า น่าจะมีการผลิตรถยนต์นั่งโดยสารและรถตู้มากกว่า เนื่องจากยังมีช่องว่างในการทำตลาดอีกมาก

"ปัจจุบันเรายังมีช่องว่างราคาที่ไม่ต่างจากอีโคคาร์ ทั้งนิสสันมาร์ชและฮอนด้า บริโอ้แต่ถ้าต้นทุนเราต่ำลงก็สามารถลดราคาจำหน่ายลงได้อีก ลูกค้าก็จะเกิดการเปรียบเทียบราคาและสเป็กรถที่ดีกว่า ทำให้ลูกค้าหันมามองเฌอรี่มากขึ้น" นายกลินกล่าว


@ "ฮอนด้า" เปิดรับจอง "บริโอ้" รอบใหม่ พร้อมเชิญลูกค้าทดลองขับ@


นายอาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ตัดสินใจประกาศหยุดรับจองรถยนต์ฮอนด้า บริโอ้ หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่นต่อการจัดส่ง ชิ้นส่วนรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย ทำให้บริษัทจำเป็นต้องหยุดรับจองฮอนด้า บริโอ้ชั่วคราวไปเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา

แต่ขณะนี้บริษัทได้ประกาศรับจองรถยนต์ฮอนด้า และพร้อมให้ลูกค้าชมและทดลองขับแล้วที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ โดยผู้จำหน่ายฮอนด้าทุกแห่งเริ่มเปิดรับจองรถใหม่แล้ว ทั้งนี้ รถอีโคคาร์ประหยัดน้ำมันรุ่นล่าสุดของฮอนด้า ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกในประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับด้วยกระแสท่วมท้น ด้วยยอดจองกว่า 5,000 คัน ภายใน 1 เดือน

"ผู้จำหน่ายทั่วประเทศของฮอนด้าได้รับแจ้งแล้วว่าชิ้นส่วนสำหรับประกอบรถ ยนต์ฮอนด้า บริโอ้จากญี่ปุ่นสามารถส่งออกป้อนให้กับโรงงานได้แล้ว ถือเป็นข่าวที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เพราะเมื่อการผลิตชิ้นส่วนมีเสถียรภาพแล้ว เราก็สามารถที่จะวางแผนได้ล่วงหน้า และสามารถเพิ่มการผลิตฮอนด้า บริโอ้ได้ และลูกค้าสามารถแวะชมและทดลองขับฮอนด้า บริโอ้ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทุกแห่งทั่วประเทศ และผู้จำหน่ายของฮอนด้าก็พร้อมจะรับจองรถฮอนด้า บริโอ้ใหม่ด้วยเช่นกัน" นายฟูจิโมโตะกล่าว

ฝันของคนที่อยากมีรถขับสักคัน อาจจะเป็นจริงก็คราวนี้ !!

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง