บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

พท.ปรับยุทธศาสตร์"ทับรอย"มาร์ค-ปัดประเด็นนิรโทษกรรม

พท.ปรับยุทธศาสตร์"ทับรอย"มาร์ค-ปัดประเด็นนิรโทษกรรม


  

   สำนักข่าวเนชั่น-13 มิ.ย. 54- พท.ปรับยุทธศาสตร์"ทับรอย"มาร์ค ปัดประเด็นนิรโทษกรรม ด้านพรรคกลาง-พรรคเล็ก "ดี๊ด๊า" เตรียมโควต้ารมต.ส่งพรรคแกนนำ 2 พรรคใหญ่ "ชทพ.-ชพน." ลอยลำติดโผนั่งพรรคร่วมฯไม่ว่าพรรคไหนจะชนะ ขณะที่"ยิ่งลักษณ์" นั่ง เฮลิคอปเตอร์เดินสายหาเสียงที่เชียงใหม่-ทับรอย"อภิสิทธิ์"บุกวัดหนองเงือก ทำพิธีเสริมดวง ปราบมาร แก้เคล็ด- เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้พรุ่งนี้- “สุเทพ”ซัดโพลปั่นกระแสเทียม เชื่อทีมา“ทักษิณ” สั่งลิ่วล้อปั่น ยังมั่นใจประชาชนเทคะแนนส่งปชป.เป็นรบ.- ภท.เตรียมเดินสายปราศรัย สระบุรี-นครสวรรค์-อุตรดิตถ์ ชี้ “ชวรัตน์” พูดแค่เปรียบการเมืองไม่ควรเอาถึงตาย ปัดคิดร่วมงานเพื่อไทย-"อภิรักษ์"เผยเร่งปรับกลยุทธ์หาเสียงในสนามกทม.หลัง โพลชี้ตามหลัง"พท."หลายสำนัก

           แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยถึง ยุทธศาสตร์หาเสียงของพรรคในช่วงก่อนถึงโค้งสุดท้ายว่า พรรคได้มีการปรับแผนการหาเสียงเป็นสองส่วนด้วยกันคือ กรณีการเดินสายหาเสียงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนั้น

           ถ้าสังเกตให้ดีเราจะมีการย้อนกลับไปหาเสียงในจุดที่ได้เคยลงพื้นที่ไปแล้ว แต่จุดประสงค์ในการลงซ้ำนั้น พรรคเน้นลงพื้นที่ซึ่งก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์ได้ลงไปแล้วเพื่อเป็นการตามเก็บแต้ม เช่นการลงพื้นที่ภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ ลำพูน  หรือในช่วงกลางสัปดาห์นี้พรรคก็มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ซึ่งก็เป็นพื้นที่ที่นายอภิสิทธิ์ลงไปแล้ว และเป็นจังหวัดที่เป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์

        ลงพื้นที่ถี่สะสมแต้มเพิ่ม-หวังชนะถล่มทลาย
       แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นการลงพื้นที่ถี่ขึ้นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในระยะหลัง รวมถึงช่วงโค้งสุดท้ายก็เพื่อเป็นการสะสมคะแนนเพิ่มขึ้น เนื่องจากพรรคมั่นใจว่าเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งแน่นอนแล้ว แต่ที่ต้องการคะแนนเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นชัยชนะที่ขาดลอย ถล่มทลาย เพื่อปิดโอกาสพรรคอันดับสองไม่ให้มีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล

       โดยขณะนี้พรรคได้มีการพูดคุยกันแล้วกับพรรคการเมืองที่จะเข้ามาร่วมรัฐบาล ซึ่งได้แก่พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน รวมถึงพรรคการเมืองอื่นที่ได้ที่นั่งในสภา ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย

       แหล่งข่าวกล่าวต่อถึงยุทธศาสตร์ที่สองว่า ในส่วนของตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พยายามโจมตีเรื่องนิรโทษกรรมนั้น พรรคได้พลิกเกมด้วยการไม่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบเรื่องนิรโทษกรรม โดยให้มุ่งประเด็นไปที่การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน นอกจากนั้นก็จะให้น.ส.ยิ่งลักษณ์คงภาพของการเป็นผู้หญิงทำงาน ฉีกตัวเองออกจากประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง โดยคำพูดที่จะเป็นจุดขายหลักของน.ส.ยิ่งลักษณ์คือ "เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่แก้ปัญหาให้พี่ชาย"

       "ตอนนี้ตัวช่วยของคุณยิ่งลักษณ์มีเพียงตัวเดียวคือ ผลงานที่ผ่านมา2ปีของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เพราะความผิดพลาดในหลายเรื่องได้ทำให้คนที่เคยเลือกประชาธิปัตย์เปลี่ยนใจ กระแสยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยที่แรงทั้งในกทม.และต่างจังหวัดจึงล้วนมาจาก ตัวนายอภิสิทธิ์และรัฐบาลทั้งสิ้น"แหล่งข่าวกล่าว

      ไม่เร่งนิรโทษกรรม-เน้นแก้ปัญหาปากท้องอันดับแรก
        แหล่งข่าวยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า ประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามจะปลุกให้เกิดแรงต้าน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องนิรโทษกรรมนั้นเป็นความคิดที่เสียเวลาเปล่า เพราะพรรคจะยังไม่ทำอย่างแน่นอน อย่างน้อยในวาระแรกที่ได้เข้าไปเป็นรัฐบาล รัฐบาลจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชนก่อนเป็นอันดับแรก รวมถึงนโยบายบัตรเครดิตเกษตรกรจะออกมาภายใน 90 วัน  ส่วนประเด็นนิรโทษกรรมนั้นจะไม่ใช่เกิดจากการดำเนินการโดยพรรคเพื่อไทย แต่จะต้องมาจากเสียงเรียกร้องของประชาชน

        "แน่นอนว่าเรายังไม่ทำทันทีสำหรับการนิรโทษกรรม และถ้าจะทำก็ต้องให้เป็นประชามติของเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ วันนี้ปัญหาใหญ่เร่งด่วนคือแก้ปัญหาในสิ่งซึ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์ทำไม่ได้ และในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ พรรคก็จะออกแคมเปญเลือกตั้งอีกชุดหนึ่ง ซึ่งรับรองว่าต้องฮือฮาแน่นอน" แหล่งข่าวกล่าว


      ชทพ.-ชพน. ลอยลำติดโผนั่งพรรคร่วมฯไม่ว่าพรรคไหนชนะ
       "แหล่งข่าว"จากแกนนำอดีตพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมได้มีการเตรียมจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคตัวเอง ไว้หมดแล้ว โดยได้มีการพูดคุยทาบทามกันแบบหลวมๆกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์และแกนนำพรรค เพื่อไทยว่า หากเข้าร่วมรัฐบาลต้องการที่จะรับผิดชอบและดูแลกระทรวงใด

     ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่ง พรรคที่จะเชิญเข้าร่วมรัฐบาลคือ พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน โดยพรรคชาติไทยพัฒนา ในสัดส่วนของนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ขอโควต้าเก้าอี้ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงกีฬาและการท่องเที่ยว พร้อมทั้งขอโควต้ากระทรวงพาณิชย์เพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาสินค้าทางการเกษตรทั้งระบบ
 ส่วนโควต้าในส่วนของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา หากไม่ได้เสนอชื่อเป็นนายกฯ ก็จะขอสละสิทธิ์ตำแหน่งรมต.ให้กับลูกชายนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ และขอเก้าอี้รมว.คมนาคมให้กับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์

      ชพน. ขอเก้าอี้ พลังงาน-ไอซีที-พาณิชย์
      ส่วนโควต้าของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ขอโควต้ารมว.พลังงานให้กับ น.พ.ชวรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค และขอกระทรวงไอซีทีให้กับกลุ่มของนายไพโรจน์ สุวรรณฉวี รวมทั้งขอเก้าอี้เพิ่มเติมในกระทรวงพาณิชย์ให้กับนายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษกิจของพรรคและรมช.คลัง หรือ รมช.คมนาคม ด้วย

       "แหล่งข่าว"จากอดีตแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยอีกว่า แต่หากพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พรรคประชาธิปัตย์เตรียมที่จะตั้งรัฐบาลแข่งทันที โดยจะเชิญพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคมาตุภูมิและพรรคกิจสังคม ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเข้าร่วม โดยพรรคประชาธิปัตย์ตั้งเงื่อนไขว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องเว้นไว้ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่านั้น และขอดูแลในกระทรวงหลัก ได้แก่ รองนายกฯด้านความมั่นคง กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น โดยพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ยังคงยื่นโควต้าเดิมที่เสนอให้แกนนำพรรคเพื่อไทยพิจารณา

       ส่วนพรรคภูมิใจไทยเสนอโควต้ากระทรวงเกรดเอเกือบทั้งหมด ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ ขณะที่พรรคกิจสังคมของนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม ยังคงโควต้ารมว.ทรัพยากรฯ และพรรคมาตุภูมิ ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่จะต้องเข้ามาเบียดแทรกเก้าอี้ในกระทรวงด้านความมั่นคง อย่างกระทรวงกลาโหม

       "ยิ่งลักษณ์"นั่ง ฮ.เดินสายหาเสียงเชียงใหม่-ลง 3 จว.ใต้พรุ่งนี้
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเดินสายปราศรัยหาเสียงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านหลายแห่ง อาทิ อ.ไชยปราการ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งสถานที่ส่วนใหญ่เป็นหุบเขาและยากต่อการเดินทางโดยรถยนต์ ซึ่งหลังจากพบประชาชนที่ อ.พร้าวแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์และคณะอีก 6 คน ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จาก อ.พร้าว ไปลงที่วิทยาลัยการอาชีพจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ในเวลา 11.45 น.  เพื่อไปให้ทันการปราศรัยที่สนามหญ้า ร.ร.ชุมชนศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

      ทั้งนี้คณะที่เดินทางมากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกอบด้วย เพื่อนสนิท น.ส. ยิ่งลักษณ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ช่างภาพของพรรค และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทั้งนี้เฮลิคอปเตอร์ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาก่อนถึงเวลาที่ช่างภาพจะมาถึง และเพื่อให้ได้ภาพและบรรยากาศสวยงาม เธอและคณะได้ขึ้นไปยังเฮลิคอปเตอร์ เพื่อบินวนให้ช่างภาพบันทึกภาพขณะเครื่องลงจอดอีกครั้ง ทั้งนี้ได้รับการเปิดเผยจากกัปตันว่า เฮลิคอปเตอร์นี้เป็นของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง คิดค่าบริการเป็นรายนาที หากเช่า 60 นาที จะเสียค่าเช่า 75,000 บาท หากไม่ครบชั่วโมงก็หารเฉลี่ยลงมา ซึ่งคณะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางจาก อ.พร้าวมายัง อ.จอมทอง ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

       " ยิ่งลักษณ์" ยอมรับตื่นเต้นนั่ง ฮ. หาเสียง 
       โดย น.ส. ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จะใช้บ่อยหรือไม่อยู่ที่ระยะทางและความเร็วในการ เดินทาง เพราะต้องการจะไปปราศรัยให้ได้มากที่สุด ดังนั้นจะใช้บ่อยหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ แต่อยากใช้รถยนต์มากกว่า  ทั้งนี้ยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นที่ต้องเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์  แต่ไม่รู้สึกเมาเครื่องบินซึ่ง อาจเป็นเพราะซีแบนด์ที่ใส่อยู่ช่วยได้ รวมทั้งกัปตันขับเครื่องได้ดีและสภาพอากาศก็ดีด้วย

       น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับวันที่14 มิ.ย  ตนจะลงพื้นที่ปราศรัย 3 จังหวัดใต้ แบบเช้าไปเย็นกลับเพื่อไปขอโอกาสกับพี่น้องใน 3 จังหวัดภาคใต้ ส่วนรายละเอียดจะลงไปจุดใดบ้างนั้น จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

      ผู้สื่อข่าวถามว่าจะลงพื้นที่ภาคใต้เป็นครั้งที่ 2 อีกหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องรอดูเวลาอีกครั้ง แต่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง จะดูอีกครั้งว่าต้องไปเพิ่มเติมในจุดใดบ้าง ส่วนจะนำนโยบายที่จะนำไปขายคงเป็นนโยบายทั่วไป แต่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องใน 3 จังหวัดภาคใต้ได้ และจะขอรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องภาคใต้ด้วยว่าจะคาดหวังให้พรรคเพื่อไทย ช่วยอย่างไรบ้าง


      " หลวงปู่ทอง" อวยพรให้เป็นนายกฯหญิง 
       ทั้งนี้ก่อนที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์จะขึ้นเวทีปราศรัยที่โรงเรียนศรีจอมทอง นายนที ธีรโรจภัทร หรือ "เกย์นที" ผู้ประสานเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ ได้เดินทางมายื่นหนังสือให้ น.สยิ่งลักษณ์ พร้อมทั้งระบุว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลขอให้สนับสนุนนโยบาย กฎหมายคู่ชีวิตเพศเดียวกันด้วย และหากได้เป็นรัฐบาลแล้วไม่สนับสนุน ให้เป็นกฎหมาย จะพาคนที่สนับสนุนตนที่มีอยู่ 4 ล้านคน ออกมาคัดค้านพรรคเพื่อไทย

       จากนั้นเวลา 12.30 น . คณะหาเสียงได้เดินทางไปนมัสการพระบรมธาตุเจ้าจอมทองที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง วรวิหาร โดยพระธรรมมังคลาจารย์หรือหลวงปู่ทอง เจ้าอาวาส ได้นำพัดใบลานมาเคาะหัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมทั้งมอบองค์พระธาตุจอมทองจำลอง กำไลหยก มอบสายสิญจน์ ถักสีแดง รวมทั้งพระรอดลำพูน ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สรงน้ำพระธาตุ และสนทนากับหลวงปู่ทอง โดยหลวงปู่ทองได้อวยพรว่าขอให้เป็นนายกฯหญิง ซึ่งภายหลังจากสรงน้ำเสร็จฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ชาวบ้านที่มารอต้อนรับ ถึงกับตะโกนว่า ฟ้าพรมน้ำมนต์ให้ทุกคนแล้ว

       "ยิ่งลักษณ์"ทับรอย"อภิสิทธิ์"บุกวัดหนองเงือก ทำพิธีเสริมดวง ปราบมาร แก้เคล็ด 
        ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ1 พรรคเพื่อไทย และคณะเดินทางไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์หัตถกรรม อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เพื่อเยี่ยมเยียนและรับชมผลิตภัฑณ์ผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดลำพูน

      จากนั้นเวลา 14.40 น. นส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปที่วัดหนองเงือก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นวัดที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยเดินทางมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์และถูกพระชื่อดังทำนายถึงเรื่องดวง โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้พบกับพระครูโพธิโสภณ เจ้าอาวาสวัดหนองเงือก เพื่อทำพิธีเสริมมงคล สะเดาะเคราะห์และเสริมชะตา ซึ่งมีการนิมนต์พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ในอำเภอป่าซาง มาร่วมพิธีด้วย ทั้งนี้เมื่อเสร็จพิธีมีพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่รูปหนึ่งกล่าวกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ขอให้เฮงๆ และสมประสงค์ทุกประการ

      จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ให้พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ผูกสายสิญจน์ที่ข้อมูลซ้ายและขวาให้ รวมทั้งพรมน้ำมนต์และรับมอบตระกรุดปราบมารเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย และได้รับเหรียญพระครูบาญาณะ ก่อนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินออกมาพบประชาชนที่บริเวณภายนอกพระอุโบสถ

       เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าที่วัดหนองเงือก นายอภิสิทธิ์ เคยมาทำพิธีเช่นกัน ดังนั้นการเดินทางมาวันนี้ถือว่าเป็นการแก้เคร็ดหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า ไม่จำเป็น และได้เดินขึ้นเวทีปราศรัย

        เวลา 17.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมายังวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน เพื่อนมัสการหลวงปู่ครูบาเจ้าชัยยะ วงศาพัฒนา โดยพระครูพินิจสารธรรม หรือครูบาพรรณ เจ้าอาวาสวัดได้มอบสร้อยพระคล้องคอ ให้กับนส.ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่ได้รับสร้อยพระดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง

       ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การเตรียมการปราศรัยใหญ่ที่จ.สมุทรปราการซึ่งถือเป็นถิ่นคนเสื้อแดง ว่า ไม่เป็นห่วงอะไร เพราะไปทำหน้าที่ชวนประชาชนให้ไปเลือกตั้ง ตอนนี้ตนยังเชื่อมั่นว่าประชาชนจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้ามามากพอจนเป็น แกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้ผลการสำรวจจะชี้นำว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำก็ถือเป็นกระแสเทียม ที่ถูกสร้างขึ้นตามยุทธวิธีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนสั่งการให้สมุนบริวารกระพือข่าวว่าพรรคเพื่อไทยชนะท่วมท้น เพื่อหวังผลทางจิตวิทยาว่าพรรคเพื่อไทยชนะแน่นอน ให้ทุกคนถือหางฝ่ายชนะ

       "สุเทพ"ระบุ เลือกตั้งครั้งนี้ "ทักษิณ" ตบตา ปชช. ไม่ได้
        เขา กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งคราวนี้พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้บทเรียนจากประชาชนทั้งประเทศว่าไม่สามารถตบตาประชาชนได้ เขายังจำได้ว่าสมุนบริวารพ.ต.ท.ทักษิณ เผาบ้านเมือง ฆ่าทหารตำรวจ ประชาชนผู้บริสุทธิ์กลางกทม. ถือเป็นพฤติกรรมที่ต้องตำหนิ ถ้าปล่อยให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาเป็นรัฐมนตรีได้ ประเทศไทยก็จบ ทั้งนี้ผลโพลที่ออกมาไม่ส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องปรับกลยุทธ์การหาเสียง โดยพรรคจะหาเสียงอย่างตรงไปตรงมาไม่มีลูกเล่นใด ๆ และไม่เคยคิดโค่นล้มน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีแต่พวกน.ส.ยิ่งลักษณ์จะโค่นล้มนายอภิสิทธิ์ เราจะเอาชนะการเลือกตั้งตามวิธีการปกติ

        “ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามทุ่มเททรัพยากรทั้งหลายเพราะหวังจะยึดอำนาจรัฐให้ได้ และจะได้ใช้อำนาจรัฐผ่านพรรคเพื่อไทยลบล้างความผิดของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่ความยุติธรรมที่ประชาชนจะยอมรับได้ ไม่มีที่ไหนจะยอมให้เกิดขึ้น โดยพวกผมจะต่อต้านให้ถึงที่สุด ไม่ยอมให้กระบวนการนี้ออกกฎหมายมาชำระความผิดให้คนๆเดียว จะทำให้เสียหลักกระบวนการยุติธรรมของชาติ ” นายสุเทพ กล่าว

        ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุหลังการเลือกตั้งหากพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลได้จะมีมวลชนออกมา นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ พูดจริง ก็ถือว่าเป็นคนที่ประชาชนไม่ควรคบค้าสมาคมด้วย เพราะไม่ยอมรับกฎเกณฑ์กติกาใด ๆ เอาอำนาจและจิตใจตัวเองเป็นใหญ่ ถ้าชนะก็ยอมรับ แต่ถ้าแพ้ก็จะก่อหวอด แต่รับรองได้ว่าถ้าประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ คราวนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และบริวารก่อเหตุไม่ได้อีกแล้ว เราไม่ยอมให้ผู้ก่อการร้ายมาข่มขู่ประเทศไทยเด็ดขาด

       ภท. เดินสายหาเสียง 3 จว. 4 เขตเลือกตั้ง
      นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคจะจัดปราศรัย 3 จังหวัด 4 เขตเลือกตั้ง โดยวันที่ 14 มิ.ย. เวลา 16.00-18.00 น. ปราศรัยที่เขต 1 จ.สระบุรี โรงเรียนหน้าพระลาน (พิบูลย์สงเคราะห์)อ.เฉลิมพระเกียรติ และเขต 4 เวลา 17.00-19.00 น. บริเวณวงเวียนตลาดใน อ.พระพุทธบาท และวันที่ 15 มิ.ย.ปราศรัยที่เขต 6 จ.นครสวรรค์เวลา 10.00-12.00 น. บริเวณวัดตลุกช่อน้ำ ต.เขาชนกัน อ.แม่วงศ์ และเขต 3 จ.อุตรดิตถ์ เวลา 15.00 -17.00 น. บริเวณลานกีฬา ต.พระยาแมน อ.พิชัย โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ เป็นแม่งานหลัก ส่วนวันที่ 16 มิ.ย. เวลา 10.00 น. พรรคจะมีการแถลงข่าวเรื่องนโยบายล้างหนี้กองทุนหมู่บ้าน โดยมีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นายโสภณและตน รวมถึงลูกหนี้ มาร่วมพูดถึงปัญหาดังกล่าว เพราะเป็นนโยบายสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

        "ศุภชัย"ชี้"ชวรัตน์" พูดแค่เปรียบการเมือง ไม่ควรเอาถึงตาย 
       นายศุภชัย กล่าวว่า การที่นายชวรัตน์ ระบุว่าจะร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยนั้น ในลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรควานนี้ (12 มิ.ย.) ตนก็นั่งอยู่ด้วย และอยากเรียนว่าหัวหน้าพรรคตอบไป ไม่ได้มีความหมายอย่างที่เข้าใจ แต่เพื่อต้องการแสดงเจตนาว่าทางการเมือง ไม่ควรฟาดฟันจนไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการแถลงข่าวของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคและตน เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในการปราศรัยใหญ่ที่จ.นครราชสีมา ก็เป็นที่ชัดเจนแล้ว

         นายศุภชัย กล่าวว่า ส่วนผลโพลล์ที่พบว่าพรรคที่ไม่ติดลำดับต้นๆ นั้น ตนคิดว่าโพลล์ต้องดูว่าเป็นตามหลักวิชาการและน่าเชื่อถือได้ ทั้งนี้ ตนไม่รู้สึกวิตกกังวลอะไร เพราะอาจเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ทั้งนี้ แม้โพลล์ชี้ว่ากทม.พรรคเพื่อไทยจะมีคะแนนนำพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้สมัครของพรรคในพื้นที่กทม. แต่ก็ต้องทำงานหนักขึ้น และที่มีการพูดกันในอดีตว่า ประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่กทม.มักใช้วิธีการเลือกส.ส.ด้วยอารมณ์เป็นตัวตั้ง ซึ่งส่วนตัวไม่เชื่อ อย่างไรก็ดี ผลโพลล์ที่ออกมาอาจทำให้รู้สึกวูบวาบ ดังนั้น ประชาชนควรมีวิธีคิดเลือกส.ส.ไม่ควรใช้อารมณ์ ไม่เช่นนั้นการตัดสินใจไปในทางใดทางหนึ่ง อาจเกิดผลลบหรือผลบวกต่อประเทศได้ เพราะส.ส.กทม.มีมาก จึงเป็นตัวกำหนดทิศทางประเทศได้

         นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีบางฝ่ายพยายามเสนอนายกฯปรองดอง พรรคไม่ได้ให้น้ำหนักว่าใครจะมาเป็นนายกฯ มากกว่าการหาเสียง ทั้งนี้เหลือเวลา 20 กว่าวัน จนกว่าเลือกตั้งเสร็จ จากนั้นก็เป็นเรื่องส.ส.ในสภา แต่ควรมองว่าทำอย่างไรให้ประเทศเดินหน้าไปได้ด้วยดีและอยากให้ประชาชน ไตร่ตรองให้ดี

         "อภิรักษ์"เร่งปรับกลยุทธ์สนามกทม.หลังโพลชี้ตามหลัง"พท."หลายสำนัก 
          นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง กล่าวภายหลังการประชุมผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตทั้ง 33 เขตในกทม.ว่า วันนี้ผู้อำนวยการแต่ละเขตได้มาสะท้อนถึงปัญหาต่างๆในพื้นที่แต่ละเขต ซึ่งพบว่ามีการทำลายป้ายหาเสียงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรูปหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในสนามกทม.ชั้นนอก นอกจากนี้พรรคมีการเตรียมการออกแคมเปญหาเสียงนอกเหนือจากการปราศรัยในช่วง เช้าและช่วงเย็นแล้ว จะมีการปราศรัยใหญ่อีกครั้งในกทม. โดยวันที่ 16 มิ.ย. จะปราศรัยใหญ่ที่วงเวียนใหญ่ โดยจะมีแกนนำและหัวหน้าพรรคไปร่วมกันปราศรัย และพูดถึงนโยบายต่างๆในการแก้ปัญหาให้กับชาวกทม.ในฝั่งธนบุรี อาทิ การสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมต่อฝั่งธนฯมาพระนคร วันที่ 17 มิ.ย.จะมีการปราศรัยสวนเบญจศิริ และวันที่ 19 มิ.ย. จะปราศรัยใหญ่ที่ตลาดลำผักชี

        "อภิรักษ์" ไม่เชื่อพรรคจะแพ้หลุดลุ่ยตามโพลล์
         นายอภิรักษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่โพลหลายสำนักออกมาระบุว่ามีกลุ่มตัวอย่าง 40 - 50 เปอร์เซนต์ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองใดว่า ตนเชื่อว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งไม่กล้าแสดงความคิดเห็นตรงๆ หรือเป็นกลุ่มที่ประชาชนตัดสินใจแล้วแต่ไม่กล้าแสดงความเห็น แต่พรรคก็ได้วิเคราะห์ถึงผลโพลต่างๆและไม่ได้นิ่งนอนใจมีการปรับปรุงกลยุทธ์ เทคนิคหาเสียงต่อเนื่อง แต่ไม่เชื่อว่าผลการเลือกตั้งออกมาพรรคจะแพ้หลุดลุ่ยเหมือนที่โพลล์ระบุ แต่จะมีการแข่งขันกันอย่างสูสี ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ 33 ที่นั่งจาก 36 ที่นั่ง

        เขา กล่าวอีกว่า ส่วนที่พรรคยังไม่มีส.ส.ในพื้นที่ คือ สายไหม ดอนเมือง หนองจอก ทางพรรคก็ต้องพยายามต่อไป และหากแยกย่อยในรายละเอียดแต่ละพื้นที่จะพบว่า พรรคมีคะแนนชนะพรรคเพื่อไทยในเขตกทม.พื้นที่ชั้นใน ส่วนกทม.ชั้นนอกนั้นเรายังมีคะแนนตามอยู่ ซึ่งพื้นที่กทม.มีกระแสการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ที่สำคัญคืออยากเรียกร้องให้ประชาชนตัดสินใจโดยมองไปข้างหน้า โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่ตั้งใจว่าจะไม่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งและกลุ่ม เยาวชนที่ใช้สิทธิ์ครั้งแรก

       เณริศา เนยเขียว @ narisa _nna,  ประพันธ์ จินดาเลิศอุดมดี @ praphan_nna, อรรถภูมิ  อองกุลนะ @poom_nna
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง