บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ชำแหละ"ทักษิณ" กลางสภา ! ?

บรรยากาศตื่นเต้น เร้าใจบนเวทีการเมืองได้ถูกปลุกขึ้นมารอบใหม่ ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ !
เมื่อมีความชัดเจนแล้วว่าทั้ง ฝ่ายรัฐบาล -ฝ่ายค้านและวุฒิสภา ได้วางโปรแกรม "ตรวจสอบ" กันเองอย่างดุเดือด

     ทั้งที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรระหว่างวันที่ 23-24 ส.ค.นี้ วาระที่จัดเข้าสู่การพิจารณาเป็นการเพียงการแถลงนโยบายรัฐบาลใหม่อย่างเป็น ทางการเท่านั้น  ทว่าท่าทีของทั้งฝ่ายค้านและสว.ดูจะใกล้เคียงกับการทำหน้าที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายบริหารเสียมากกว่า !
     เวลานี้ความเคลื่อนไหวที่กำลังอยู่ในความสนใจของคอการเมืองและประชาชนทั่วไป อาจไม่ใช่ประเด็นที่ว่าด้วยเรื่องของแนวทางนโยบายรัฐบาล ที่จะได้ให้คำมั่นสัญญาณต่อสาธารณชนว่าจากนี้ไปจนกว่า "ครบวาระ" นโยบายหรือโครงการใดบ้างที่จะได้รับการผลักดัน ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมขึ้นมาบ้าง
     ไม่ว่าจะเป็นนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ สังคมตลอดจนแนวทาง ทางการเมือง  ว่าด้วยเรื่องของการปรองดองสมานฉันท์ จะเป็นไปได้มากแค่ไหน จะใกล้เคียงกับสิ่งที่นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เคยประกาศไว้หรือไม่ว่า "แก้ไข ไม่แก้แค้น" 
     และนอกเหนือไปจากเรื่องของแนวทางนโยบายรัฐบาล โดยครม. ที่พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่เป็นพรรคใหญ่ถือธงนำหน้าในฐานะ "พรรคแกนนำรัฐบาล" แล้ว ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่าความสนใจ และนับเป็น "แรงดึงดูด"ชั้นดีที่กำลังทำให้ทั้งพรรคฝ่ายค้าน และสว. ต่างจ้องที่จะ "ตรวจสอบ" มากที่สุด

     จึงไม่พ้นบุคคลที่ถือเป็น "เจ้าของพรรคตัวจริง" และยังเป็นเสมือน" หัวหน้ารัฐบาลตัวจริง" ที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะ "พี่ชาย" ที่รักยิ่งของ นายกฯยิ่งลักษณ์ นั่นเอง 
     การที่ทั้งฝ่ายค้านได้ส่งสัญญาณแรงชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือ "เป้าหมาย" ในการที่จะถูกโจมตีกลางสภา ในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบาย

     ควบคู่ไปกับการจงใจปล่อยข่าว เตรียม "เขย่าขวัญ" นายกฯยิ่งลักษณ์  ในฐานะ"มือใหม่" เพื่อเป็นการ "รับน้องใหม่" นั้นเป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลต่างรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นเป็นทั้ง "จุดแข็ง"และ "จุดอ่อน" ของขั้วอำนาจเก่าอย่างแท้จริง
     รวมทั้ง "ปมร้อน" สารพัดเรื่องราวที่จงใจเปิดขึ้นมา ล้วนแล้วแต่โยงใยเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรง คล้ายจงใจ "ยั่วยุ" ฝ่ายตรงข้าม นอกเหนือไปจากอาการ "ใจร้อน"เร่งเดินหน้าที่จะ "ทวงคืน" ทั้งอำนาจและทรัพย์สินที่เคยหายไป
     ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบว่าแกนนำจากพรรคประชาธิปัตย์ เองได้ออกมาเปิดหน้าอย่างตรงไปตรงมาถึง 3 ข้อหลักที่สมาชิกพรรคจะนำมาใช้ในการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลใหม่ โดยประกอบไปด้วย เน้นการอภิปรายในนโยบายหลักๆที่มุ่งผลักภาระให้กับประชาชนในอนาคต-เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือการทุจริตเชิงนโยบายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ
     โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวพันตัวของนายกฯยิ่งลักษณ์ ไปจนถึงพ.ต.ท.ทักษิณ และในด้านความมั่นคงในด้านต่างประเทศ ที่มีการผูกโยงเชิงนโยบายที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้าน
     จะเห็นได้ว่าภายใต้หลักการที่ประชาธิปัตย์ "ตั้งธง" มาชำแหละนโยบายรัฐบาลในครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมายที่พุ่งตรงไปยังคนที่ชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างชัดเจน
     เพียงแต่อาศัยการเขย่าผ่านไปยัง นายกฯยิ่งลักษณ์ และ "รัฐมนตรีสายล่อฟ้า" ที่ชื่อ "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" รมว.ต่างประเทศ เท่านั้น !

     ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่า ตลอดระยะเวลาสองวันจากนี้ไป ภาระหน้าที่ของ "องครักษ์พิทักษ์นายกฯ" ย่อมไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเพื่อ "ปกป้อง" นายกฯยิ่งลักษณ์ จากขุนพลพรรคฝ่ายค้านและสว.เท่านั้น 
     แต่ทีมองครักษ์ฯ ของพรรคเพื่อไทย ยังต้องทกทุกวิถีทางเพื่อปกป้อง "นายใหญ่" ในฐานะ "บุคคลที่3" ซึ่งพร้อมจะถูกระบุถึงในที่ประชุมได้ตลอดเวลาอีกด้วยต่างหาก
     อย่างไรก็ดีสำหรับ "วงใน" ของพรรคเพื่อไทยเองแล้ว กลับมองและประเมินว่า แม้นายกฯยิ่งลักษณ์ หรือ "นายใหญ่" ของพวกเขาจะโดนโจมตี หนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ตาม จากฝ่ายตรงข้าม แต่ต้องไม่ลืมว่าการอภิปรายนโยบายรัฐบาลนั้น ไม่มีการ "ลงมติ" แต่อย่างใด
     เมื่อไม่มีการลงมติ จึงเท่ากับว่าเกมซักฟอกในยกแรกของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล นั้นย่อมมีผลกระทบต่อฝ่ายบริหารไม่ถึงขั้นหนักหนาสาหัส จนถึงกับต้องมีการเปลี่ยนแปลงฉับพลันทันด่วน 
     เพราะ "คำตอบ"ที่นายกฯยิ่งลักษณ์ จะนำมาใช้อธิบายนั้น จะตอกย้ำต่อสาธารณะ ว่าประเด็นที่ฝ่ายค้านและสว.กำลังดาหน้าถล่มอยู่นั้น ยังไม่ได้เดินหน้าไปสู่การป ฏิบัติแต่อย่างใด
     จากนั้น จะเป็นคิวของพรรคเพื่อไทย จะ"ปฏิบัติการรุกกลับ" ด้วยข้อหาเดิมๆ ในเรื่องทุจริตคอรัปชั่น การแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ที่เคยกลายเป็นเรื่องร้อน และท้าทาย "กฎเหล็ก9ข้อ" ของอดีตนายกฯอภิสิทธิ์ อาจถูกนำกลับมา "เล่าใหม่" เพื่อตอบโต้พรรคฝ่ายค้านแทน
     ความคึกคักจากการระดมทีม ระดมกำลังพล ของแกนนำแต่ละกลุ่มในพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศขอปกป้องทั้งนายกฯยิ่งลักษณ์ และพ.ต.ท.ทักษิณ  อย่างแข็งขันที่มีขึ้นตั้งแต่เมื่อราวกลางสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น อาจจะกลายเป็น "สัญญาณ" ที่ต้องแนะนำว่า อย่าละสายตาเด็ดขาด
     เพราะการเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวนั้นดูจะเป็นความ " จงใจ " ที่สามารถนำไปสู่เป้าหมายที่แตกต่างกันได้ทั้งสิ้น
     ด้านหนึ่ง - การที่แกนนำแต่ละกลุ่มก๊วน "อาสา" เข้ามารับหน้าที่พิทักษ์"นาย" อย่างสุดจิตสุดใจเช่นนี้ เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมที่จะทำงานให้คุ้มกับ "ความไว้วางใจ" จากพ.ต.ท.ทักษิณ

     หรือ ในอีกด้านหนึ่ง- เป็นเพราะความจงใจของ "นายใหญ่" เองที่ต้องการ "หลอกล่อ" เอาตัวเองเข้าล่อเป้าจากฝ่ายตรงข้าม ลดแรงเสียดทานในทุกทางที่จะพุ่งไปสู่ "น้องสาว" แทน
     ฉะนั้นต้องจับตาดูกันไปว่า ท้ายที่สุดแล้ว ตลอดสองวันนี้ ระหว่าง " พ.ต.ท.ทักษิณ" กับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ใครคือ "เป้าจริง" และใครคือ "ตัวหลอก" ให้ทั้งฝ่ายค้านและสว.หลงทางกันเป็นแถว  ! 
                                                                                                                                                           .ทีมข่าวคิดลึก. 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง