บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

แดงเอ๋ยแดงเทียม เมื่อไทยเข้าสู่ยุคคณาธิปไตยของแดงเทียม

ผมได้ไปอ่านเจอบทความนี้มาจากเวบบอร์ดบ้านตุลาไทย เขียนไว้ตั้งแต่วันที่ 2 - 30 กันยายน  มีเนื้อหาที่น่าสนใจ และทำให้ผมได้รู้จักคนเสื้อแดงดีขึ้น เป็นบทความของคุณ แสนไชย เลยเอามาให้อ่านกัน ขอขอบคุณคุณแสนไชย สำหรับความรู้มา ณที่นี้ด้วยครับ / ช.ช้าง


แสนไชย Hero Member
หลังจากคอยดูรัฐบาลปูตั้งไข่มาได้ระยะหนึ่ง

ตอนแรกก็พยายามคิดในแง่ดีว่า   คงจะมีการสรุปบทเรียนหรือทำอะไรให้ดีกว่าเดิมบ้าง
แต่ปรากฏว่าบทเรียนที่ผ่านมาไม่ได้สอนอะไรให้กับทักษิณ ชินวัตรและพวกพ้องเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ "ปู" กลายเป็น "หุ่น" จริงๆ  ไม่ว่าการแย่งซีนในต่างประเทศของทักษิณ ชินวัตร

เป็น ทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่ไม่เคยอดทนแม้แต่เรื่องใดๆ  เวลานี้เขาพยายามทำตัวในต่างประเทศให้ต่างประเทศเข้าใจเสมือนหนึ่งว่าเขา เป็นนายกจริงๆ
ส่วนในประเทศ  แทนที่จะสอน ปู ให้เล่นบทนายกให้เป็น  (เอาแค่ครึ่งของนายกมือใหม่ในหนังของไทยพีบีเอส ก็เพียงพอ)
แต่เขากลับปล่อยให้เฉลิม อยู่บำรุงออกมาวาดลวดลาย  ตอกย้ำความเป็น "หุ่น" ของปูเข้าไปอีก

แถมในวงราชการก็ยังเต็มไปด้วยการล้างผลาญฝ่ายตรงข้าม   ซึ่งจะก่อให้เกิดแรงต้านโดยธรรมชาติขึ้นมาอีกในกลไกของข้าราชการประจำ
สิ่งเดียวที่ดูเหมือนทักษิณจะสรุปบทเรียนแล้วนำมาแก้จุดอ่อนของตน
ได้แก่การตั้งเหล่าเสื้อแดงให้มีตำแหน่งข้าราชการการเมือง  เพื่อเป็นแนวมวลชนป้องกันรัฐบาลหุ่นปูไว้ชั้นหนึ่ง
ซึ่ง เป็นแน่ว่า   หากสีอื่นๆ คิดจะล้มรัฐบาลด้วยการเดินขบวนประท้วงยืดเยื้ออีก   ครั้งนึ้ไม่ใช่จะล้มรัฐบาลหุ่นปูได้ง่ายเหมือนกับยุคของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือสมัคร สุนทรเวชอีก
แต่นั่นก็เป็นการขว้างูไม่พ้นคอ
เพราะยิ่งทำก็ยิ่งทำให้รัฐบาลชุดนี้เข้าสู่ยุคของ "คณาธิปไตย" เป็นอธิปไตยของกลุ่มคนคณะหนึ่ง พวกหนึ่งไปอย่างสมบูรณ์

ในขณะที่พลพรรคเสื้อแดงของแท้  แม้จะพยายามทำความเข้าใจ   แต่ลึกๆ  ก็รู้อยู่แก่ใจดีว่า
นี่คือ  "คณะธิปไตยของเสื้อแดง"  แต่หาใช่ เสื้อแดงของแท้ไม่   แต่กลับกลายเป็น "คณาธิปไตยของแดงเทียม" เท่านั้น






ความขมขื่นของเหล่า "แดงแท้"  ก็คือ การที่เฉลิม อยู่บำรุง ประกาศอย่างโอหังว่า  "เพื่อไทยกับเสื้อแดง เป็นพวกเดียวกัน"
เพราะ คำว่า "พวกเดียวกันนั้น"  หมายถึงพวกนักการเมืองสอบตก  คนสนิทนักการเมือง คนหิ้วกระเป๋านักการเมือง กระทั่งนักเลงอันธพาลมือคุ้มกันนักการเมือง หรือพวกหวังตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น
คนเหล่านี้หาได้มีอุดมการณ์ "สีแดง" อย่างที่คุยนักคุยหนากันหาได้ไม่

เพราะ อุดมการณ์ของคนพวกนี้มีแต่ "อุดมกิน" คืออาศัยเสื้อสีแดงมาเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อให้เจ้านายของฉัน พวกของฉัน ได้กลับมาเป็นรัฐบาลก็เพียงพอแล้ว
เวลานี้พวกเขาต่างพากันเสวยสุข  และคิดว่าถึงฟากฝั่งหรือจุดมุ่งหมายแล้ว  นั่นคือการกลับมาเป็นรัฐบาลที่มั่นคงไปอย่างน้อยอีก 4 ปี
เวลานี้ก็เป็นเวลาที่จะได้ลืมตาอ้าปาก  หากินตามโครงการต่างๆ ได้เสียที
ได้เวลา กอบโกย และรวย รวย รวย กันเท่านั้น

ทิ้งให้บรรดาเหล่าสหายเสื้อแดง  พากันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
จะออกมาตำหนิติติงกันแต่ตอนนี้  ก็กลัวสหายเสื้อเหลืองจะพากันหัวเราะเยาะ
ว่าถึงที่สุดที่ไปเหนื่อย ไปตายกันนั้น......
ก็เพียงเพื่อให้คนกลุ่มหนึ่งได้ขึ้นไปเสวยสุขเป็นผู้ปกครองหรือ "อำมาตย์" ที่เคยร่วมกันด่ามาเท่านั้น
นับเป็นเรื่องที่หัวร่อก็ไม่ออก  จะร้องไห้ก็ไม่ได้เสียจริงๆ     สำหรับสหายเสื้อแดงของแท้ในเวลานี้  




แต่บางคนก็บอกว่า  สำหรับ "สหาย"เสื้อแดง นั้น  ก็คงไม่ใช่แดงแท้อะไรหรอก
เพราะตอนนี้เห็นพากันเทียวไล้เทียวขื่อบันไดบ้าน สส. อดีตเสื้อแดงที่ได้กลายเป็น "ฯพณฯ" ผู้ทรงเกียรติกันเป็นแถวๆ 

บางคนก็หวังว่าจะได้ผลักดันงบประมาณลงมาให้นำไปทำกิจกรรมตามหมู่บ้านให้ปรีด์เปรมกันอีกสมัย
บางคนก็หวังจะได้กองทุนหมู่บ้านไปแบ่งเค็ก  อย่างน้อยก็อ้างกับชาวบ้านได้ว่านี่คือ "ผลสำเร็จ" ของพวกเรา

รวมแล้วก็ไม่ต่างกับพวกลิ่วล้อของนักการเมืองที่ตรงไหน
เพราะอดีตนักปฏิวัติเวลานี้  บางคนก็เป็นถึงผู้อาวุโส  แต่ก็ยังทำได้แค่เลียแข้งเลียขานักการเมือง
บางคนก็เอาได้แค่ไปนั่งเป็นประธานกับ อดีตสหาย  ก็คิดว่าโก้หรือเป็นการแสดงบุญบารมีบ้าง  ก็เพียงพอแล้ว

ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
เวลานี้แดงลูกน้องนักการเมืองก็เป็นแค่ "แดงเทียม"
แดงอดีตสหายในกลุ่มเสื้อแดง ก็เป็นแค่ "แดงเทียม" 
อุดมการณ์ที่พ่นออกมาก็เป็นแค่ลมปาก

เพราะเอาเข้าจริงก็เป็นแค่ "อุดมกิน" กันเท่านั้น




ข่าวคราวที่ออกมาในปลายอาทิตย์นี้   รวมทั้งผลสำรวจหรือโพลล์ต่างๆ  ชี้ให้เห็นว่า   ช่วงฮันนีมูนของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ผ่านไปแล้วอย่างรวดเร็ว  เวลานี้มีแต่ทุกฝ่ายจับจ้อง 
แรกๆ ก็ยังหวังว่ายิ่งลักษณ์จะทำได้คล้ายๆ ในหนังเรื่องนายกมือใหม่ที่ช่องไทยพีบีเอสเอามาฉายถึงสองครั้งสองครา   หวังว่าทำได้สักครึ่งหนึ่งก็ยังดี
แต่ยิ่งดูก็จะยิ่งห่างออกไปทุกที..

เพราะอะไร   ก็เพราะเธอไม่สามารถทำให้ตัวให้ซื่อบริสุทธิ์เหมือนกับนายกในหนังเรื่องนายกมือใหม่
ใน เรื่องนั้น  แม้นายกมือใหม่จะได้มาด้วยอุบัติเหตุเหมือนกัน    แต่เขาเป็นคนที่มีจิตใจซื่อบริสุทธิ์จริงๆ     เขาไม่รู้เรื่องการอิงแอบกับนักการเมืองหรือผู้ทรงอิทธิพลใดๆ
ดังนั้นจึงสามารถคิดแก้ปัญหาต่างๆ ได้โดยอิสระ  อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

คุณยิ่งลักษณ์จะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องรีบเป็นตัวของตัวเอง   อย่าให้เสือสิงห์กระทิงแรดทางการเมืองมาชักนำให้เสียเรื่อง

ไม่เช่นนั้นยิ่งลักษณ์ก็จะกลายเป็น "ยิ่งเละ" อย่างแน่นอน




ลอกเค้ามาอีกที

Yingluck, Thai first female priminister walks into a Bank to cash a check. As she approaches the cashier she says "Good morning Ma'am, could you please cash this check for me"?

Cashier: "It would be my pleasure madame. Could you please show me your ID"?

Yingluck: "Truthfully, I did not bring my ID with me as I didn't think there was any need to. I am Yingluck, the priminister of Thailand !!!!"

Cashier: "Yes madame, I know who you are, but with all the regulations and monitoring of the banks because of impostors and forgers, etc I must insist on seeing ID"

Yingluck: "Just ask anyone here at the bank who I am and they will tell you. Everybody knows who I am"
Cashier: "I am sorry but these are the bank rules and I must follow them."

Yingluck: "I am urging you, please, to cash this check"

Cashier: "Look Ms Primeminister this is what we can do:

One day Tiger Woods came into the bank without ID. To prove he was Tiger Woods he pulled out his putter and made a beautiful shot across the bank into a cup. With that shot we knew him to be Tiger Woods and cashed his check.

Another time, Andre Agassi came in without ID. He pulled out his tennis racquet and made a fabulous shot whereas the tennis ball landed in my cup. With that shot we cashed his check.
So, Ms. Primeminister, what can you do to prove that it is you, and only you, as the priminister of Thailand?"

Yingluck stood there thinking, and thinking and finally says: "Honestly, my mind is a total blank~~~there is nothing that comes to my mind. I can't think of a single thing, Just wait, let me call my brother"

Cashier: "OK ma'am, that's proved who you are, would you like large or small bills?
ขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังไม่เป็นใจ

รัฐบาลปัปเปต  ในไทยก็กำลังโขกหมากให้เข้าสู่กลียุคขึ้นทุกวัน

ด้วยความเป็นคนไม่รู้จักรอคอยของทักษิณ ชินวัตร 

และด้วยการแพ้ภัยตนเอง  ที่ไม่ว่าอะไรก็ต้องเล่นในเกมส์ที่ตนเองมีอำนาจสั่งการได้โดยตรง

จึงไม่รีรอที่จะให้พวกพ้องรีบเร่งการนิรโทษกรรมโดยไม่ต้องติดคุก  และนำพาเขากลับประเทศเพื่อจะได้มาเป็นนายกตัวจริงเสียที

เดินหมากแบบนี้  ก็เท่ากับพากันเดินเข้าสู่มุมอับ   ทำให้เลี่ยงความรุนแรงในวันข้างหน้าได้ยากยิ่งนัก

ทั้งๆ ที่มีทางอื่นที่ทำได้   แต่ทักษิณก็ชอบที่จะเดินหมากแบบนี้   ด้วยความไม่รู้จักรอคอย

ความรุนแรงในประเทศไทยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 

ก็ต้องบันทึกว่า  เกิดจากทักษิณ ชินวัตรคนเดียว
ภาระกิจของแดงเทียมมีอยู่ประการเดียวคือ

"พาทักษิณกลับบ้านอย่างไม่มีความผิด"   นี่เป็นบันไดสำหรับกระโดดก้าวแรก

จากนั้นก็คือบันไดขั้นที่สองคือ  "นำทักษิณกลับมาเป็นนายกตัวจริง"  อีกครั้ง

นี่คือภาระหน้าที่ของ "แดง"  ที่เป็น "แดงเทียม" กันทั้งนั้น

รวม ทั้งอดีตสหายที่พากันไปเข้าร่วมขบวนการเสื้อแดง  พากันแห่แหนแกนนำขึ้นรับตำแหน่งเป็นอำมาตย์  แล้วก็พากันเลียแข้งเลียขา ส.ส.อดีตสหายหรือแกนนำเสื้อแดงอยู่ในเวลานี้  ก็ล้วนแล้วแต่เป็น "แดงเทียม" กันทั้งนั้น   เพราะที่ต้องการก็มีเพียงแค่นี้   ส่วนอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง  เพื่อประชาธิปไตยของคนรากหญ้า  เพื่อความเท่าเทียมกันในสังคมเวลานี้ก็ได้พากันโยนทิ้งหมดแล้ว    ขอแค่ได้เป็นแค่ลูกน้องอำมาตย์ไพร่  ได้แห่แหนอำมาตย์ไพร่ทั้งหลาย เท่านี้ก็เพียงพอ

หมู่บ้านเสื้อแดงที่พากันตั้งขึ้น  ก็เพียงเพื่อรอรับงบกองทุนหมู่บ้านหรือเงินสนับสนุนการพัฒนาต่างๆ ที่จะลงมาเท่านั้น

เห็นภาพแบบนี้แล้ว  ยังต้องนับถือว่า จักรภพหรือไจลส์  ยังเป็นแดงของแท้มากกว่าพวกนี้หลายเท่านัก !!!
มวยตอนจะขึ้นชิงแชมป์ถือว่ายากแล้ว
แต่การรักษาบัลลังค์แชมป์ที่ได้มานั้นยากยิ่งกว่า
เรื่องนี้ ปู-ยิ่งเละ  คงจะได้รับอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้ไปอย่างมาก
ไม่ต้องอื่นไกลแค่ไม่ถึงเดือนของการนั่งเก้าอี้อัครมหาอำมาตย์เสนาบดี
ผลของเอแบคโพลล์วันนี้ก็ยังออกมาอย่างนี้แล้ว

"แต่ ที่น่าเป็นห่วงคือ ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนไม่มีความสุขต่อทุกตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ เรื่อง รายได้ส่วนตัวเปรียบเทียบกับช่วงเวลารัฐบาล นายอภิสิทธิ์  หรือจะเป็นเรื่องรายได้ครัวเรือน และการใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตประจำวัน การร้องเรียกสิทธิของผู้บริโภคจากกลุ่มนายทุนผู้ประกอบธุรกิจ และสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยได้ค่าความสุขต่ำกว่ามาตรฐาน ได้แก่ 93.1จุด 83.2 จุด 75.6 จุด 74.7 จุด และ 61.3 จุด ตามลำดับ

โดยค่าความสุขมวลรวมด้านเศรษฐกิจก็ต่ำกว่าค่ามาตรฐานเช่นกันคือได้ 77.58 หมายความว่า ประชาชนยังไม่มีความสุขต่อตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ

ยิ่ง ไปกว่านั้น ผลการศึกษายังพบว่า ประชาชนไม่มีความสุขต่อทุกตัวชี้วัดด้านการเมืองเช่นกัน ได้แก่ ไม่มีความสุขต่อนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันเปรียบเทียบกับรัฐบาลยุคนาย อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ได้เพียง 92.5 จุด ถือว่าต่ำกว่าค่ามาตรฐาน นอกจากนี้ ประชาชนยังไม่มีความสุขต่อ การทำงานของรัฐบาลในการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา 91.2 จุด ไม่มีความสุขต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สินในช่วง 30 วันที่ผ่านมา 90.8 จุด ไม่มีความสุขต่อการทำงานของรัฐบาลโดยภาพรวมช่วงนี้ 90.0 จุด ไม่มีความสุขต่อการพบเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในช่วง 30 วันที่ผ่านมา 89.6 จุด ไม่มีความสุขต่อการทำงานของนักการเมืองฝ่ายค้าน 87.2 จุด ไม่มีความสุขต่อนักการเมืองระดับท้องถิ่นในชุมชน 80.4 จุด ไม่มีความสุขต่อคุณภาพนักการเมืองระดับชาติในช่วง 30 วันที่ผ่านมา 71.1 จุด และไม่มีความสุขต่อสถานการณ์การเมืองโดยภาพรวมในช่วง 30 วันที่ผ่านมา 68.2 จุด ตามลำดับ โดยค่าความสุขมวลรวมด้านการเมืองก็ต่ำกว่าค่ามาตรฐานเช่นกันคือได้ 84.56 หมายความว่า ประชาชนยังไม่มีความสุขต่อตัวชี้วัดด้านการเมือง"
เมื่อวานก็เรื่องบินไปหาพี่ชาย  แล้วก็เอาหม้อข้าวไปฝากมหาเศรษฐีบรูไน  ไม่รู้ใครคิด 

มาวันนี้พวกโง่แต่ขยัน  หรือสามล้อถูกหวย  นักเลงเล่นพระหมอผีกลายมาเป็นรัฐมนตรีก็สร้างเรื่องอีกแล้ว

ขอยกที่สุทธิชัย หยุ่น เขาถามไว้

""มติชน" เช้านี้พาดหัวหน้าหนึ่งว่า "หนุนลูกคนรวยเข้า ร.ร. ดัง ฟื้นแป๊ะเจี๊ยะ!"

และพาดหัวรองบอกว่า "ไอเดียวรวัจน์ ชี้สกัดยาก..."

เนื้อหาข่าวบอกตอนหนึ่งว่า

"....รัฐมนตรี ศึกษา (วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล) กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังเห็นว่าหากใครมีฐานะดี ก็มีสิทธิที่จะเลือกโรงเรียนที่ดี ๆ ให้กับลูกหลานได้ ดังนั้น ต่อไป หากผู้ปกครองคนใดอยากสนับสนุนโรงเรียน ก็สามารถทำได้ เพราะในความเป็นจริงต้องถามกลับไปว่ากระทรวงศึกษาสามารถปิดกั้นเรื่อง แป๊ะเจี๊ยะได้จริงหรือไม่ ถ้าปิดกั้นไม่ได้ ก็ต้องคิดนอกกรอบ เพื่อที่จะพัฒนาโรงเรียนที่อยู่รอบนอกให้มีคุณภาพมากขึ้น และให้นักเรียนทุกคนมีสิทธิได้เรียนอย่างมีคุณภาพ ฉะนั้นใครที่มีฐานะดีอยากจะให้ลูกเข้าโรงเรียนดัง และพร้อมจะสนับสนุนโรงเรียนก็ทำได้เต็มที่..."

คุณว่าอย่างไรครับ"

ก็อยากถามต่อว่าประชาชนไทยว่ายังไงครับ  พี่น้องชาวรากหญ้าเสื้อแดงที่ไม่มีตังค์ฝากลูกเรียนโรงเรียนดังๆ ว่ายังไงครับ

หากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษานายวรวัจน์อยากเล่นเรื่องนี้จริงๆ   ก็ควรทำให้เนียนกว่านี้
นั่นคือรณรงค์ให้มหาเศรษฐีต่างๆ บริจาคเงินให้กับโรงเรียนต่างๆ  โดยไม่หวังตอบแทน (ที่ออกนอกหน้า)มากกว่า
โรงเรียนนั้นอาจเป็นโรงเรียนเดิมของท่านมหาเศรษฐีหรือโรงเรียนอื่นๆ ที่ท่านคิดว่าจะสนับสนุนก็ได้
เหมือน กับเมืองนอกหรือประเทศทุนนิยมใหญ่ของอเมริกา  โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเขาก็มีการรณรงค์ให้บริจาคเงินให้กับสถาบันการศึกษา  ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
แต่เขาไม่พูดหรอกว่า    จะได้ส่งลูกหลานเข้าเรียนได้   เขาถือว่าบริจาคคืดบริจาค  ให้แล้วให้เลย อย่าไปหวังผล
เพราะคริสต์เขาก็มีคำอยู่ว่า "เมื่อมือขวาจะบริจาค  มือซ้ายของคุณอย่าถามว่าจะได้อะไร"
เรื่องนี้ก็ยังสอดคล้องกับศาสนาพุทธของไทย  เหมือนกับการทอดผ้าป่า ทอดกฐิน   บริจาคแล้วบริจาคเลย ให้แล้วให้เลย
ถ้า รณรงค์อย่างนี้ได้กับเศรษฐีทุกคนในเมืองไทย  ก็เป็นบุญโข  และชาวรากหญ้า ชาวเสื้อแดงที่ส่วนใหญ่บอกว่าไม่มีตังค์จะได้ยกนิ้วให้แก่ท่าน

และคนที่ท่านควรไปรณรงค์ก่อนอื่นก็คือ  นายใหญ่ของท่านนั่นแหละ
ว่าเคยบริจาคอะไรให้กับโรงเรียนในภาคเหนือที่เรียนมาบ้าง
เพราะทุกว่านี้เวลาเขาจะไปขอให้ศิษย์เก่ามาช่วยเหลือการเงินของโรงเรียน
เศรษฐี(ขี้เหนียว)ศิษย์เก่าโรงเรียนก็จะพากันพูดว่า  "ก่อไอ่ทักษิณมันยังบ่ะหื้อ ฮาจะไปหื้อฮิหยัง

อยากฟังคนเดือนตุลาที่เป็นเสื้อแดงว่าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร



"เมื่อวันที่ 19 กันยายน องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) จัดเสวนา เรื่อง การรัฐประหารเปลี่ยนแปลงประเทศไทยอย่างไร ที่ห้องจิ๊ด เศรษฐบุตร คณะนิติศาสตร์ มธ.ท่าพระจันทร์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจาก มีประชาชนและคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง มาร่วมฟังการเสวนาท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะ สงคราม หลายสิบนาย

 สำหรับผู้เข้าร่วมในการเสวนาครั้งนี้ประกอบด้วย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง รศ.ดร.สุดา รังกุพันธุ์ อาจารย์จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัครสส.กทม.พรรค ประชาธิปัตย์

ก่อนการเสวนานั้น นายสมบัติ จับมือ กับ นพ.ตุลย์ ท่ามกลางเสียงปรบมือของประชาชนที่มาฟังการเสวนา และในช่วงที่ฉายวีดีโอรำลึก 5 ปี การรัฐประหารของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ก็มีเสียงตะโกนโห่ลั่นห้องประชุม อีกทั้งระหว่างที่นพ.ตุลย์ และนายแทนคุณ อภิปรายนั้น ก็มีเสียงโห่ไล่แสดงความไม่พอใจจากคนเสื้อแดง เป็นระยะๆ และมีเสียงปรบมือเชียร์ในช่วงที่นายสมบัติพูดแสดงความเห็น

ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ระหว่าง การอภิปรายตลอดรายการมีเสียงโห่อยู่ตลอดและ 2 ฝ่ายต่างชี้แจงเหตุผล ทำให้สถานการณ์ร้อน ระอุมากขึ้น ต่อมาในช่วงเปิดโอกาสผู้ฟังถามผู้อภิปราย ปรากฏว่าผู้ฟังส่วนใหญ่ที่เป็นคนเสื้อแดง แสดงความไม่พอใจคำตอบของ นพ.ตุลย์ และนายแทนคุณ เริ่มส่งเสียงโห่ดังขึ้นทุกที

 จนกระทั่งตัวแทนนัก ศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่ไปร่วมฟังเสวนาได้แย่งไมโครโฟนจากเจ้าหน้าที่ไปพูดว่า ที่ประชุมไม่รับฟังความเห็นการเสวนาในวันนี้ เพราะมีแต่โต้เถียงกัน ทำให้เกิดการชุลมุนวุ่นวายขึ้นทันที กลุ่มผู้ฟังเสื้อแดงบางส่วนฮือเข้ามาปาด้วยขวดน้ำ และปรี่เข้าไปหมายทำร้ายร่างกาย นักศึกษาด้วยความไม่พอใจ ตำรวจต้องรีบพา นพ.ตุลย์ และนักศึกษาออกจากห้องประชุมส่งตัวกลับไป"

...........................................

หรือจะอธิบายว่าเป็นเพราะคนเสื้อแดงเขาเก็บกด   ต้องเข้าใจเขา ;55555<

ไม่ว่าการเคลื่อนไหวจะอ้างว่า  "เพื่อประชาธิปไตย"

แต่ความเป็นจริงก็คือ "เผด็จการที่คนกลุ่มหนึ่งกระทำต่อคนอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น"


ช่างไม่ต่างจากพลพรรคนาซี"อันธพาลเชิร์ตน้ำตาล" เที่ยวไล่กระทืบทุกฝ่ายที่ไม่ใช่พวกตน...นี่คือ   อันธพาลนาธิปไตยของพวกแดง...

แต่รับรองได้ว่า  พวกนิติราษฎร์จะไม่แอะปากตำหนิให้กระเทือนต่อมมีท่อของพวกแดงทักษิณา

เพราะ ซือแป๋  นิธิ เอียว ของพวกแดงนิติราษฎร์  ได้กล่าวไว้ในการพูดถึงเกร็ดประวัติศาสตร์คนดีในหนัง "ขุนรองปลัดชู"  ไว้อย่าง(ไม่)น่าฟัง

ว่า  " ผมไม่แคร์  ว่าคนชั่วจะขึ้นมาปกครอง เพียงแต่เราจะควบคุมคนชั่วได้อย่างไร..." ( แหม  ช่าง.. แตกต่างจากแนวคิดที่ให้คนดีปกครองบ้านเมือง..? อย่าให้คนชั่วขึ้นมามีอำนาจปกครองราวฟ้ากับเหวอย่างมีเลศนัย...เลยนะ นิธิ   แลบลิ้น  )
ขอบคุณศาลปกครองกลาง  ที่ช่วยถ่วงดุล  ทำให้บ้านนี้เมืองนี้ไม่ถูกพวกมากลากไปตามใจชอบได้

ศาล ปกครองตบหน้าเสื้อแดง สั่งคุ้มครอง “ทีนิวส์” ชี้ กรมประชาฯระงับการออกอากาศรายการ “เจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก” เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่มาตรา 45 ตามที่รัฐธรรมนูญให้การคุ้มครองไว้ แถมระบุเนื้อหารายการต่อต้านขบวนการล้มสถาบัน ไม่ถือว่ากระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และความเรียบร้อยของประชาชน



เห็นข่าวทักษิณใช้ skype มาบัญชาการทำงานของรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยโดยตรงแล้ว

ด้านหนึ่งก็ทำให้เห็นได้ชัดว่า คนๆ นี้ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ  ไม่รู้จักรอคอยอะไรเสียเลยจริงๆ

และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาที่ดูเหมือนเป็นคนฉลาดมีเงินมีทองซื้อทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าได้  กลับต้องล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า

อีกด้านหนึ่ง  ก็แสดงให้เห็นว่า น้องสาวของเขานั้นไม่มีน้ำยาอะไรในการบริหารกิจการบ้านเมือง

กระทั่งไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร  ไม่สามารถบริหารรัฐมนตรีและ ส.ส.ของพรรคตนเองเสียด้วยซ้ำ

ด้วยการกระทำเช่นนี้

ก็เป็นเหมือนกับการดิสเครดิต  และตบหน้าน้องสาวของตนเองอย่างจัง

สิ่งที่นักเคลื่อนไหวซ้ายจัดหลงยุคที่ยังแสดงตัวทั้งทางทฤษฎีและการปฏิบัติในเวลานี้พยายามจะกลบเกลื่อนก็คือ...

การ ยึดกลางเมืองกรุงเทพที่ผ่านมาของกลุ่มเสื้อแดงนั้น   หาใช่เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์อย่างที่ครั้งเมื่อง 6 ตุลาไม่

หากแต่เป็นการแฝงด้วยความทะเยอทะยานทางการเมืองของกลุ่มตน

แต่ที่สำคัญคือการบรรลุจุดหมายทำเพื่อคนๆ เดียวเท่านั้น

ในการนี้  คนจะตาย จะเจ็บไปเท่าไรไม่เสียดาย   เอาแต่ปลุกระดมกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นแท้จริงคือความพยายามในการเข้ายึดอำนาจรัฐต่างหาก

เมื่อคิดจะยึดอำนาจรัฐก็ต้องนำกำลังเข้าปะทะ 

แล้วที่เข่นฆ่าอีกฝ่ายนั้นไม่คิดบ้างเลยหรือ ? 

เช่นนี้จึงกล่าวได้ว่าความคิดของคนเหล่านี้เป็นแค่ "แดงเทียม"   หาใช่ "แดงแท้" อะไรไม่


ตอนอธิการบดี มธ. คนนี้เปิดโอกาสให้พวกนิติทรราชได้เคลื่อนไหว

ก็ถูกต่อว่ากลับไปเหมือนกันว่า  เป็น "อีแอบ" ของฝั่งสีแดงอยู่เหมือนกัน

แต่พอออกมาตั้งคำถามข้างต้น

พวกสีแดงก็เข้ากระหน่ำ หาว่าอธิการคนนี้เป็นสีเหลืองมาแต่ไหนแต่ไร

ตกลงมันเป็นอย่างไรกันแน่ (วะ)

หรือความถูกต้องเวลานี้จะมีแค่สีเหลืองกับสีแดงเท่านั้น

ไม่มีความถูก และความผิด ที่ไม่สังกัดสีเลยหรือ ?


พิ่งมีคนเขียนกลอนบรรยายเหตุการณ์สำหรับฝ่ายซ้ายไทย(บางคน)ในเวลานี้ได้ดีจริงๆ จาก oknation

....................................................

ปรากฎการณ์อธิบายถึงธาตุแท้
ธิดาแดงณ.ขะแมร์ที่แลเห็น
คารวะปฏิกริยาจอมฮุนเซ็น
เป็นภาพเด่นภาพร้ายฝ่ายซ้ายไทย
สามัคคีทุนสามานย์ในประเทศ
ออกนอกเขตชิงสมคบชวนสงสัย
นี่ละหรือคือแนวทางของแดงไทย
ลัทธิใหม่ลัทธิแก้แปรทฤษฎี
ฤาเป็นนักปฏิวัติถนัดขาย
ชอบรับใช้รับจ้างพวกเศรษฐี
ทุนสามานย์ประเทศไหนก็ขายดี

หน้าอย่างนี้บอกรักชาติอนาถจริง

จากประจญยุทธ บล็อก oknation


หากใครคิดจะเอาวีรภาพของประชาชนในอดีตมาเกลือกลั้วกับอุดมคติของพวกที่อ้างเป็นแดงแท้ แต่ที่แท้เป็นแค่แดงเทียม

หรือแดงที่ทำตัวเป็นขี้ข้านายทุนสามานย์อย่างไม่ลืมหูลืมตา

เราต้องช่วยกันคัดค้าน กระทั่งประณามคนเหล่านี้ด้วยซ้ำไป


คุณคงจะจำ จิตรา คชเดช ไพร่แดงเจ้าของวลี "ดีแต่ปาก" ได้นะครับ ไพร่ตัวนี้แหละที่มา"ฉีกเหงือก"(สาระแน) เรื่องนี้ไม่เข้าท่า
หล่อนกล่าวราวๆว่า ๖ ตุลา มีส่วนเกี่ยวกับ เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง เหตุเพราะเปนเหตุการณ์ที่มีการฆ่ากันตายโดยฝีมือรัฐ....(คือพยายามโยงว่าฆาตรคือคนๆเดียวกัน ต้องถามกลับไปว่า ตอนนั้น คุณจิตรา.. ไถนาอยู่ที่ไหน? หนังสืออ่านออกแล้วหรือยัง? จึงจะถูก ขยิบตา)

อ้าว แล้วฝ่ายอื่นที่ตายล่ะ..? อย่าดีแต่ปากซี แบบนี้เปนที่เข้าใจกันโดยทั่วไปเลยว่า วิภาและพรรคพวก ทั้งไอ้วัฒน์ ไอ้สมศักดิ์ เจียมฯ ไอ้สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ เลือกปฏิบัติ!


ขอยกคำพูด ธง แจ่มศรี เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๔ ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์ มาลงไว้ให้เห็นเปนประจักษ์ต่อสายตาครับ(มีอดีตสหายดังผู้หนึ่งช่วยจำมา)


"โลกทุกวันนี้เป็นกระแสทุนนิยมเราจะต้องปรับตัวให้เท่าทันกระแสทุนนิยม และการต่อสู้ของพี่น้องเสื้อแดงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และพรรคเพื่อไทยก็เป็นพรรคทุนนิยมประชาธิปไตย เราเดินทางมาถูกต้องแล้ว" - ธง แจ่มศรี ๑๘ กันยายน ๒๕๕๔

เริ่มเลอะเลือน.... ลุงแกน่าจะอยู่เลี้ยงหลานอย่างเดียวได้แล้ว(เอ หรือไม่มี?)


คือลุงแกจำฝังใจแต่เรื่องสมัยบ้านแตกเมื่อปี 07-08 อยู่อย่างนั้นนั่นแหละ

ดังนั้นเมื่อใครจะขึ้นมาง้างกับเจ้าเก่าของเดิมได้ แกก็คิดว่าคนนั้นแหละ

เวลานี้ก็ทุ่มให้เขาหมดหน้าตัก

เอาไว้เขาซูเอี๋ยกันแล้ว ลุงก็จะช้ำใจเปล่าๆ

มันเป็นเรื่องตลกนะ น่าวิเคราะห์กันทีว่าการขึ้นมาของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ได้ทำให้สังคมไทยก้าวหน้าอะไรขึ้นมาบ้าง

ที่เห็นนี่ไม่มีอะไรเลย นอกจากลดแลกแจกแถม แถมยังจะกู้เงินอีก 8 แสนล้านมาอีลุ่ยฉุยแฉกกันอีก

ทั้งที่เรื่องของกรีซเอย สเปนเอย เป็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่สุด

เวลานี้ผมจึงไม่แปลกใจว่า "ขบวนการเรดการ์ดของจีนเกิดขึ้นมาได้อย่างไร" ก็เพราะความเป็นเจ้าทฤษฎีจ๋ากันนี่แหละ

ต่อมาจีนเขาจึงต้องแก้ด้วยคำว่า "แสวงหาสัจจะจากความเป็นจริง" คืออย่าเป็นบ้ากับทฤษฎี(ที่ยึดถือเพียงบางอย่างหรือในบางด้านที่สนับสนุนแนวคิดและการกระทำของตนเท่านั้น) เพราะมันทำให้ประเทศแหลกราญมาแล้ว

แต่อดีตฝ่ายซ้ายไทยบางคนอาจชอบ เพราะมันอาจทำให้ได้ยืดอกในทำนองว่า "เราชนะแล้ว" บางคนก็ได้ภูมิใจว่ามีมิตรสหายได้เป็น รมต.บ้าง ผู้ช่วยรมต. บ้าง อะไรทำนองนี้

ไม่ก็มีเงินรางวัลติดปลายนวมมาให้ชื่นใจกันนิดๆ หน่อยๆ

เห็นแบบนี้แล้ว ผมก็ได้ข้อยุติแบบคนอื่นๆ เหมือนกันว่า "โชคดีแล้ว ที่พคท. มันไม่ชนะการปฏิวัติ" (ว่ะ)


ระยะก่อนตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งว่าใครจะได้มาเป็นรัฐบาลเสียด้วยซ้ำไป

ผมไปงานเขตงานแห่งหนึ่ง เมื่อไปพบกับสภาพของคนเก่าๆ แถบนั้นแล้ว ก็ทำให้ผมถึงกับหยุดชะงักและคิดทบทวนเรื่องต่างๆ เสียใหม่

ด้วยเห็นว่าคนเก่าๆ ของเราจำนวนไม่น้อย เป็น "สิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์" ไปแล้วจริงๆ

เวลานี้ดำรงตัวอยู่แบบที่ว่า ถ้าเอาอะไรได้เอาหมด ชอบให้มีคนมาคิดมาทำแทน ชอบให้คนภายนอกมาโอบอุ้ม

จริตเช่นนี้จึงไม่ต้องบอกว่าถูกกับวิถีทางของกลุ่มการเมืองใด

จึงง่ายที่จะตกไปเป็นลูกมือเขา หรือไม่ใช่ถูกหลอกแต่เต็มใจจะไปเป็นลูกมือให้เขา

เรื่องนี้ไม่เว้นแม้แต่คนที่ผมหงอกแล้วหงอกอีก

ไปงานนั้นมาแล้ว จึงทำให้ผมประกาศกับตัวเองว่า "คงจะไม่ไปร่วมงานอีกแล้ว"

เพราะเสียความรู้สึกกับสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์เหล่านี้เสียจริงๆ


พวกกากเดนหรือที่เด็กๆ เรียกกันตาม fb ว่า "พวกกาก"

ก็รวมถึงคนที่คอยเอา spam มาแปะเวลาคุยการเมืองเริ่มเข้มข้น

รู้สึกว่าพวกเขาจะมีมือวางติดตามไปเกือบทุกที่นะครับ โกรธ

แล้วอย่างนี้นะหรือจะถือว่าเป็นพวกต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

แค่นี้ก็รับไม่ได้ แล้วก็มาทำอย่างนี้ ทำแบบนี้ก็เป็นได้แค่ "พวกกาก พวกแดงเทียม พวกกากไซเบอร์" เท่านั้น



พวกกากเดนหรือที่เด็กๆ เรียกกันตาม fb ว่า "พวกกาก"

ก็รวมถึงคนที่คอยเอา spam มาแปะเวลาคุยการเมืองเริ่มเข้มข้น

รู้สึกว่าพวกเขาจะมีมือวางติดตามไปเกือบทุกที่นะครับ โกรธ

แล้วอย่างนี้นะหรือจะถือว่าเป็นพวกต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

แค่นี้ก็รับไม่ได้ แล้วก็มาทำอย่างนี้ ทำแบบนี้ก็เป็นได้แค่ "พวกกาก พวกแดงเทียม พวกกากไซเบอร์" เท่านั้น


ผมยังเชื่อว่าคนเดือนตุลาที่ร่วมอยู่ในคนเสื้อแดง (ส่วนใหญ่ หรือ..ส่วนน้อย ? ) ยังเป็นผู้ที่มีอุดมคติเพื่อประชาชนและเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงอยู่บ้าง

แต่อยากให้เรียงมาตอบกันหน่อยว่าเรื่องที่เขาจี้ถามมาอย่างนี้ พวกท่านไม่รู้ร้อนหรือหนาวบ้างเชียวหรือ ฮืม หรือจะว่าอย่างไรก็ได้ขอแต่ลงเรือลำเดียวกันไปโค่นเจ้าเก่าเขาเท่านั้นเป็นพอ แลบลิ้น


คือพวกนี้อยู่กับเสื้อแดงนานๆ ก็ติดนิสัยเสื้อแดง

อย่างพวกเขาว่า ที่ไม่ชอบใจทหาร เพราะทหารไม่ยอมรับคำสั่งให้ปราบเสื้อเหลืองในสมัยสมชายและสมัคร
ดังนั้นถ้ายุคนั้นทหารปราบเสื้อเหลืองเขาจะว่าเป็นประชาธิปไตยเพราะปกป้องอำนาจรัฐ(ของพวกเขา)
แต่เมื่อพวกเขาถูกทหารปราบ เขาก็ว่าทหารไม่ดี เป็นพวกเผด็จการ เป็นพวกไม่เป็นประชาธิปไตย (เพราะทำลายอำนาจรัฐของเขา)

เมื่อพวกเขาก่อการยึดอำนาจแต่ใจไม่ถึง และมีคนไม่มาตามนัด พวกเขาก็บอกว่าเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ทั้งที่มีการเตรียมการ เตรียมอาวุธ เตรียมยึดอำนาจรัฐกันชัดๆ (เรื่องนี้ไม่ต้องมาปฏิเสธกันเวลานี้ เพราะเวลานั้นเห็นเที่ยวประกาศระดมคน ระดมของกันขวักไขว่)
แต่เมื่อใจไม่ถึงและมีคนไม่มาตามนัด ก็ต้องถูกปราบ
ถูกปราบแล้วหาว่าฝ่ายประชาธิปไตยถูกรังแก มีคนมือเปล่าตายมากมาย
ก็พรรคพวกก็ช่วยกันเตือนแล้วเตือนอีกว่าอย่าพาคนบริสุทธิ์ไปตาย เพราะการเคลื่อนไหวอย่างนั้นคนจะตายกันมาก ก็ไม่ฟัง เพราะมุ่งมั่นจะเอาชนะให้ได้เพียงอย่างเดียว
ความจริงคนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ก็คือพวกคนเดือนตุลาเสื้อแดงนั่นแหละ เพราะมีประสบการณ์เรื่องนี้กันมาหลายครั้งหลายครา

พาคนไปตาย คนที่ควรรับผิดชอบก็พวกคนเดือนตุลาเสื้อแดงนั่นแหละ !!!

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง