บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

บีบธปท.แก้หนี้กองทุนฟื้นฟู1ล้านล. จี้โอนทรัพย์สินให้คลัง ณรงค์ชัยห่วงจำนำข้าว

สวค.เสนอ 4 แนวทาง แก้ไขหนี้กองทุนฟื้นฟู คาด 6 ปีลดหนี้ได้ 3.38 แสนล้านบาท และประหยัดดอกเบี้ยได้ 1.69 หมื่นล้านบาท  "ณรงค์ชัย" ชี้ป้องกันทุจริตจำนำข้าวทำได้ยาก ห่วงงบบาน
 นายคณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) จำนวน 1.14 ล้านล้านบาท เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ เพราะเป็นภาระงบประมาณจ่ายดอกเบี้ยปีละ 6.6 หมื่นล้านบาท  เนื่องธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่มีกำไรจากการดำเนินงานมาจ่ายเงินต้น
 ทั้ง นี้ สวค.ได้ศึกษาแนวทางการแก้ไข โดยเห็นว่ารัฐบาลควรเร่งดำเนินการใน 4 เรื่อง เพื่อแก้ไขเรื่องดังกล่าว ได้แก่ 1.ทำให้ ธปท.บริหารสินทรัพย์ต่างประเทศให้มีผลตอบแทนมากขึ้น โดยให้ทั้ง ธปท.บริหารเอง หรือมีการจัดตั้งกองทุนมั่งคั่งแห่งชาติขึ้นมาบริหารช่วย ธปท.ก็ได้ 2.แก้ปัญการลงบัญชีของ  ธปท.ที่มีปัญหาขาดทุนทางบัญชี ให้มีผลกำไรมีเงินมาใช้หนี้ 3.ให้ ธปท.โอนสินทรัพย์ของกองทุนฟื้นฟูที่มีทั้งเงินสดและหุ้นของธนาคารกรุงไทยมา ให้คลังบริหารต่อ และ 4.โอนสินทรัพย์ที่อยู่กับ บสท.เข้าคลัง
 นายคณิศก ล่าวว่า ทั้ง 4 แนวทางหากดำเนินการทั้งหมด จะทำให้มีรายได้เพิ่มปีละประมาณ 4 หมื่นล้านบาท มาชำระหนี้เงินต้นให้ลดลง ลดภาระดอกเบี้ยได้มาก ทั้งนี้ จากการประเมินของ สศค. หากดำเนินการทั้งหมดได้ตั้งแต่ปี  2554-2559 จะทำให้ยอดหนี้ของกองทุนฟื้นฟูลดลง 3.38 แสนล้านบาท และภาระหนี้ดอกเบี้ยจ่ายที่มาจากเงินงบประมาณลดลง 1.69 หมื่นล้านบาท
 นาย คณิศกล่าวว่า แนวทางดังกล่าว นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง ได้ยกขึ้นมาหารือกับนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งหลายเรื่อง ธปท.เห็นด้วย และคงเอาเรื่องเหล่านี้เสนอต่อกระทรวงการคลังอีกครั้ง
 ด้านนายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) อดีต รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในฐานะที่เคยทำงานอยู่กระทรวงพาณิชย์มาก่อน รู้สึกเป็นห่วงโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลชุดนี้ประกาศรับจำนำทุกเม็ด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าภาระจากการรับจำนำครั้งนี้จะไปสิ้นสุดที่เท่าไหร่ และเงินที่รัฐบาลประกาศไว้ว่าจะใช้ถึง 4.3 แสนล้านบาทนั้น จะเพียงพอหรือไม่และนำเงินตรงนี้มาจากไหน นอกจากนี้ยังเป็นห่วงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากโครงการครั้งนี้ว่าจะมีมาก แค่ไหน
 ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือการควบคุมเรื่องทุจริตในการรับจำนำนั้นจะทำได้ มากน้อยแค่ไหน แม้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลการรับจำนำ และตั้งคณะกรรมการเพื่อมาดูแลการทุจริตในโครงการ พร้อมทั้งได้ดึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาช่วยดูแลการทุจริต แต่เชื่อว่าการควบคุมไม่ให้เกิดทุจริตขึ้นมาในโครงการเป็นการยาก สิ่งที่จะควบคุมได้คือคนในสังคมต้องช่วยกันสอดส่องดูแลและใช้สื่อโซเชีย ลเน็ตเวิร์กอย่างเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ในการช่วยตรวจสอบโครงการนี้
 “เชื่อ ว่าผู้จะทุจริตในโครงการนี้จะต้องกลัวเฟสบุ๊กมากกว่าดีเอสไอ  เพราะถ้าเจอข้อมูลทุจริต ผู้ที่เจอโพสต์ข้อมูลแฉได้ทันที ยอมรับว่าโครงการนี้สามารถโกงง่าย แต่การควบคุมทำได้ยาก” นายณรงค์ชัยกล่าว.
 


Thaipost

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง