จากแถลงการณ์
ของกลุ่มคณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในนามกลุ่มนิติราษฎร์
เรียกร้องให้ลบล้างผลพวงของรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ทั้งหมด
รวมทั้งยังให้เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนั้นได้กลายเป็นข้อวิพากษ์
ทางการเมืองที่มีความร้อนแรงและอาจส่อเค้าว่าอาจกลายเป็น "หัวเชื้อ"
แห่งความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นหรือไม่ ?
ยิ่งมีเสียงขานรับและปฏิกริยาที่ออกมาในทางที่เห็นด้วยกับ
"ประเด็น"ที่ถูกโยนเข้ามาสู่กลางเวทีการเมืองครั้งล่าสุด
ออกมาจากพรรคเพื่อไทยและคนในรัฐบาลมากเท่าใด
ยิ่งคล้ายเป็น "ชนวน" ที่ปลุกเร้าให้ทุกขั้วอำนาจที่อยู่ในฝ่ายตรงข้ามกับ "ระบอบทักษิณ" ออกมาตอบโต้และรุมเขย่า "กลุ่มนิติราษฎร์" อย่างหนัก
ข้อเรียกร้องและแนวคิดที่ได้ถูกนำเสนอผ่านแถลงการณ์ของกลุ่มคณาจารย์กลุ่ม
ดังกล่าวนั้นบอกชัดเจนอย่างตรงไปตรงมาว่าพวกเขาไม่เพียงแต่จะปฏิเสธแนวทาง
การใช้อำนาจทหารล้มล้างอำนาจฝ่ายบริหาร โดยชูเหตุการณ์ 19 ก.ย.2549
ขึ้นมาเท่านั้น หากแต่ยังต้องการให้มีการ "รื้อ-โละ" ทุกกลไก ทุกเงื่อนไขที่ผุดขึ้นมาหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อ 5 ปีที่แล้วทั้งหมด
แน่นอนว่า "ข้อเสนอ" ที่ของกลุ่มนิติราษฎร์
ได้กลายเป็นข้อถกเถียงทั้งในเชิงวิชาการและในทางการเมืองอย่างไม่อาจหลีก
เลี่ยงได้ เพราะแนวคิดดังกล่าวย่อมส่งผล "บวก"
ต่อฝ่ายขั้วอำนาจเก่าของพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะ "ผู้ถูกยึดอำนาจ" ในปี2549
ขณะเดียวกันย่อมเกิดแรงสั่นสะเทือนต่อฝ่ายที่ลงมือ "ปฏิบัติการยึด"
อำนาจฝ่ายบริหารในครั้งนั้นกันโดยถ้วนหน้าเช่นกัน
โดย
เฉพาะต่อพรรคประชาธิปัตย์และบรรดาอดีตผู้ที่มีชื่อที่เคยอยู่ในคณะความมั่น
คงแห่งชาติ (คมช.)
ดังนั้นเมื่อความเคลื่อนไหวจากฟากฝั่งนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์
ได้ออกมาเคลื่อนไหวจุดประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง
ผลที่ตามมาคือการออกมาตอบโต้จากคนในพรรคประชาธิปัตย์และพล.อ.สมเจตน์
บุญถนอม อดีตหน.สำนักงานคมช. ด้วยการตั้งข้อสังเกตว่า งานนี้จะมีรายการ
"รับงาน" จากรัฐบาลชุดนี้ จากพรรคเพื่อไทย และที่สำคัญเป็นการรับสัญญาณจาก "นายใหญ่" ด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ "แอคชั่น" จาก กลุ่มนิติราษฎร์ใน
ครั้งนี้นั้น แม้นักวิชาการในกลุ่มจะออกมาปฏิเสธอย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่ได้
"รับงาน" จากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าเวลานี้
จะด้วยความตั้งใจหรือพลาดพลั้งหรือไม่ก็ตาม ทว่ากลุ่มนิติราษฎร์ กำลังจะกลายเป็น "จุดอ่อน"
ที่ "เปิดช่อง"
เปิดหน้าให้ฝ่ายตรงข้าม ลงมือ "โจมตี" พรรคเพื่อไทย - รัฐบาล
และลุกลามบานปลายไปจนถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ หาก "วิวาทะ"ในทางการเมืองระหว่างกลุ่มนิติราษฎร์-พรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ยังคงยันกันต่อไปในลักษณะ 3เส้ายืดเยื้อต่อไป !
ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้กลุ่มนิติราษฎร์เอง
ใช่ว่าจะเพิ่งเปิดตัว หรือเป็น "ของใหม่"
ในสังคมไทยที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทางการเมือง หากแต่การเคลื่อนไหว
นำเสนอแนวคิดของกลุ่มดังกล่าวนั้นได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้จึงเท่ากับว่า
"สถานภาพ"ของนักวิชาการกลุ่มนี้จึงคล้ายกับเป็น "แนวร่วม" กับระบอบทักษิณ
และในทุกเครือข่ายอำนาจของพ.ต.ท.ทักษิณ ไปโดยปริยาย ยิ่งมีความชัดเจนว่า สิ่งที่ กลุ่มนิติราษฎร์นำเสนอต่อสังคมนั้น ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฝ่ายได้ประโยชน์
และการดำรงอยู่ในลักษณะที่ถือเป็น "แนวร่วม" ของกลุ่มดังกล่าวนี่เอง
อาจทำให้ทั้งพ.ต.ท.ทักษิณ , นายกฯยิ่งลักษณ์ และเพื่อไทย
ตลอดจนบรรดาเครือข่ายคนเสื้อแดง
กำลังตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบมากยิ่งขึ้นหรือไม่
เพราะอาจเป็นความสอดคล้องกับสิ่งที่ "ธิดา ถาวรเศรษฐ"
รักษาการประธานนปช. มักออกมาระบุอยู่บ่อยครั้งว่า
บรรยากาศการต่อสู้ทางการเมืองเวลานี้ กำลังอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่า
"กระแสสูง" นั่นคือกระแสของภาคประชาชน โดยเฉพาะคนเสื้อแดง
กำลังเดินไปด้วยความแข็งแกร่งมากกว่าที่ผ่านมา
แต่
นาทีนี้หากถามใจของพ.ต.ท.ทักษิณ ลึกๆแล้ว
เมื่อในมือยังภารกิจหลายๆต่อเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ ทั้งในฝ่ายบริหาร
และเกมบนกระดานการเมือง ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ต้องการ "พลาด" ซ้ำรอย "19
กันยา 49"
ขณะเดียวกันสิ่งที่อดีตนายกฯทักษิณ น่าที่จะต้องการมากที่สุด คือ
"ความนิ่ง" ในสังคมให้มากพอ เพื่อที่จะเป็นโอกาสได้ขับเคลื่อน "วาระสำคัญ"
อย่างจริงจังและเบ็ดเสร็จ
เช่นนี้แล้ว ในใจของพ.ต.ท.ทักษิณ จะยังคงต้องการ "เสียงอึกทึก" ที่ถูกจุดขึ้นมาจาก "แนวร่วม" โดยใช่เหตุ เช่นนี้หรือไม่ ? !
ทีมข่าวคิดลึก.สยามรัฐ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น