กมการ เมืองของพรรคเพื่อไทย ที่กำลังดำเนินอยู่ ณ เวลานี้ เริ่มปรากฎชัดเจนว่า พรรคแกนนำรัฐบาลกำลังเป็นฝ่ายเปิดหน้ารุก และยืนยันในทุกความต้องการ ซึ่งล้วนแล้วแต่เคยถูกจับตาจากสังคมมาแล้วแทบทั้งสิ้น ทั้งเพื่อสนองความต้องการบางเรื่อง บางประเด็นให้กับ "เจ้าของพรรค" ตัวจริงที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้มีส่วนสำคัญต่อก้าวเดินของพรรคเพื่อไทยและครม.
หรือการสนองตอบต่อความต้องการของทุกคนที่เกี่ยวข้อง โยงใยกับเครือข่ายอำนาจของอดีตนายกฯทักษิณ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ตลอดระยะเวลาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีความชัดเจนว่าประเด็นที่ถูกพูดถึงและถูกจับตามากที่สุดย่อมไม่พ้นการ เคลื่อนไหว "นอกประเทศ" ของ อดีตนายกฯทักษิณ ที่เจ้าตัวจงใจเดินทางไปยังประเทศต่างๆ
จนกลายเป็นข่าวคราวขึ้นมา ทั้งประเทศญี่ปุ่น และล่าสุดคือการเตรียมเดินทางไปเยือนกัมพูชา ในฐานะที่มีผู้นำรัฐบาลอย่าง "สมเด็จฮุนเซน" เป็นผู้มักคุ้นกับอดีตนายกฯทักษิณ แต่ถือเป็น ไม้เบื่อไม้เมากับ อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
การเดินทางเข้าออกประเทศญี่ปุ่น ตามกำหนดการที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 22-28 ส.ค.นี้ กลายเป็นประเด็นคำถามร้อนแรง ที่โจมตีเข้าใส่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กันถ้วนหน้า ทั้งตัว นายกฯยิ่งลักษณ์ ในฐานะ ผู้นำรัฐบาลและ "น้องสาว"
ไปจนถึง เจ้ากระทรวงบัวแก้วคนใหม่ อย่าง สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ให้โดนถล่มจากฝ่ายค้านโดยที่ยังไม่ทันถึงเวลาการซักฟอกกันในสภาด้วยซ้ำ
ล่าสุดประเด็นร้อนแรง ที่ได้ถูกจุดพลุขึ้นมารอบใหม่ กลายเป็น "คำถาม" ที่พุ่งเข้าใส่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ก่อนถึงวันที่รัฐบาลใหม่จะเปิดฉากแถลงนโยบายในสัปดาห์หน้า กลับกลายเป็นเรื่องราวทางการเมือง ที่ว่า "การแก้รัฐธรรมนูญ"
และดูเหมือนว่า "คำตอบ"ที่ออกมาจากปากของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ว่าโดยหลักการแล้วรัฐบาลยังต้องการ "ฟังเสียงประชาชน" และ "การแก้รัฐธรรมนูญ" นั้นต้องยืนอยู่บนหลักความต้องการของประชาชน ส่วนรายละเอียด จะเป็นเรื่องของ "สภา" ที่จะเป็นผู้พิจารณา !
ทั้งนี้เป็นที่รับรู้โดยทั่วกันว่า เมื่อใดก็ตามที่มีการพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมา สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ "แรงต้าน" จากฝ่ายที่ได้เคยประกาศเอาไว้แล้วว่า "รื้อเมื่อไหร่ เคลื่อนเมื่อนั้น" อย่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
การจงใจเปิดเกมแรงของอดีตนายกฯทักษิณ โดยต่อเนื่องกัน ทั้งที่นายกฯยิ่งลักษณ์ ยังไม่ทันได้ทำการแถลงนโยบายต่อสภา เช่นนี้โดยเฉพาะการที่ คนในพรรคเพื่อไทยเองที่เลือกหยิบเรื่องราวที่เป็นเหมือน "ชนวนเหตุ"การเมืองรอบใหม่ ขึ้นมาในรอบนี้
อาจมีความน่าสนใจและมีวาระซ่อนเร้น ที่แอบซุกซ่อนเอาไว้ มากไปกว่าเป็นเพียงการแสดงออกของ อดีตนายกฯทักษิณ ที่กำลังถูกติงว่าใจร้อน วู่วามและหากยังไม่หยุดเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นนี้ จะส่งผลกระทบต่ออายุรัฐบาลของน้องสาวในอีกไม่นาน
อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริงแล้วการที่คนในพรรคเพื่อไทย ออกมาจุดพุลเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ ฉบับ2550 ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ามีหลายต่อหลายพรรคการเมืองที่ต่างต้องการ แก้ ไปจนถึงขั้น "รื้อ" ด้วยกันหลายพรรค
ทว่าการปรับ หรือแก้ไขของพรรคการเมือง ทั้งภูมิใจไทยหรือแม้แต่พรรคชาติไทยพัฒนานั้น ดูจะมีความชัดเจนว่าพวกเขาต่างต้องการแก้ไข เพิ่มเติมในบางมาตราที่รู้สึกว่าส่งผลกระทบต่อเรื่องของการถูกสั่งให้ยุบพรรค
แต่สำหรับความวิตกกังวลที่ฝ่ายตรงข้ามอดีตนายกฯทักษิณ คือความวิตกที่ว่า อาจมีการ "สอดไส้" นำเรื่องของการ "นิรโทษกรรม" เพื่อช่วยล้างความผิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ รวมเข้าไปด้วยในคราวเดียวกัน
มีข้อน่าสังเกตว่า ในการที่คนของพรรคเพื่อไทยกำลังพากันกระตือรือล้นที่จะเสนอให้มีการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญนั้น แท้ที่จริงแล้ว การเลือกขยับหมากการเมืองว่าด้วยเรื่องดังกล่าวนั้น
มี ความจำเป็น และสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วทันใจ ทันการณ์ สำหรับพรรคเพื่อไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่ออดีตนายกฯทักษิณ มากน้อยแค่ไหน
เพราะต้องไม่ลืมว่า ความจำเป็นที่จะเลือกหยิบใช้หมากการเมือง แถวถัดไปของอดีตนายกฯทักษิณ คือบรรดาสมาชิกบ้านเลขที่ 111 นั้นเพียงอดใจรออีกไม่นาน เพียง8-9 เดือนข้างหน้า บ้านเลขที่ 111 ก็จะสามารถเป็นอิสระ ครบกำหนดการถูกสั่งให้เว้นวรรคทางการเมือง อันเนื่องมาจากคดียุบพรรค ในเดือน พ.ค.ปี2555 อยู่แล้ว
ในทางกลับกัน เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาที่จะถูกใช้ในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นมี ความเป็นไปได้ว่าอาจยาวนานกว่านั้น และการที่มีข่าวว่ารัฐบาลตั้งเวลาเอาไว้ที่ 3 เดือนนั้นก็ดูจะเป็นไปได้ยาก หากหวังที่จะเร่งรัด รวบรัดได้จริง
การเลือกเปิดเกมการเมือง ที่สร้างความวุ่นวาย ความวิตกกังวลให้แก่ฝ่ายตรงข้ามโดยเครือข่ายอำนาจเก่าของอดีตนายกฯทักษิณ นั้นกำลังกลายเป็น "ปมประเด็น" ที่สามารถดึงดูดและเบี่ยงเบนความสนใจของคนในสังคม ให้ต้องละสายตาไปจากการจับตาเรื่องการบริหารงานของรัฐบาลใหม่อย่างได้ผลอยู่ หรือไม่ ?
แท้ที่จริงแล้วยังมี "คำถาม" ที่เกี่ยวข้อง โยงใยกับการบริหารนโยบาย ของรัฐบาลใหม่ ของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งนายกฯยิ่งลักษณ์ และแกนนำในรัฐบาลต่างต้องให้ "คำตอบ" อีกด้วยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้าที่ประชาชนกำลังเผชิญวิกฤตจากภัยน้ำท่วมในเวลานี้
หรือแม้แต่คำถามพื้นฐานที่ว่า เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ชีวิตของพวกเขาจะดีขึ้นได้จริงหรือไม่
ฉะนั้นมีความเป็นไปได้ว่า หลังจากที่ "ผู้มีอิทธิพล" เหนือรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เลือกเปิดเกมการเมืองสารพัดเรื่องจนเป็นที่พอใจแล้ว
อีกไม่นาน เมื่อนายกฯคนใหม่ สามารถคลี่คลายปัญหาความเดือดร้อนที่แท้จริงลงได้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ถึงเวลานั้นทุกอย่างอาจเข้าสู่ภาวะปกติ ?!
ทีมข่าวคิดลึก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน
คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค
บทความย้อนหลัง
-
►
2012
(274)
- ► กุมภาพันธ์ (51)
-
▼
2011
(1241)
-
▼
สิงหาคม
(263)
-
▼
22 ส.ค.
(12)
- ปชป.ดีแต่พูดจริงๆ
- เปิด 16 นโยบายเร่งด่วนรัฐบาลดันประชานิยมวัดฝีมือ '...
- บิ๊กตู่ดันขึ้นยกแผงตท.12เฮ โผถึงมือ'ยุทธศักดิ์'
- เปิดก่อนรับเงินก่อน
- หยุดเอาใจพวกเศรษฐีเสียที!!(วอเรน บัฟเฟต)
- สำรวจนโยบายดับไฟใต้...เพื่อไทย-ทหารยังเห็นต่าง และ...
- หมายจับ “แม้ว” ลวงโลก ภาพสะท้อนความไร้น้ำยา ตำรวจ-...
- คนงานเหนือหนุน300 สภาลูกจ้างวอนปูสร้างรพ.ให้คนไข้ป...
- "ภารกิจลับ" เจ้ากระทรวงบัวแก้ว ?
- จุดพลุแก้รธน. !
- "ปู"วอน"ป๋าเปรม"เปิดโอกาสอวยพรวันเกิด!
- อย่าแก้รัฐธรรมนูญด้วยความกลัวกันอีก
-
▼
22 ส.ค.
(12)
-
▼
สิงหาคม
(263)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น