เปิดครม.ครอบครัวตัวดี เด็กสร้าง-เด็กเส้นเพียบ

ในที่สุด "ครม.ยิ่งลักษณ์ 1" ก็ปรากฏโฉมออกมาให้เห็นกันแล้ว ท่ามกลางเสียงร้องยี้ ไม่ได้สร้างความศรัทธาหรือความน่าเชื่อถือ ที่จะนำพาประเทศชาติไปรอด ดั่งคำที่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ประกาศเป็นสัญญาประชาคมถึง 2 ครั้งนั่นคือ "ไม่แก้แค้น-แต่จะแก้ไข" กับ "สร้างสุข-สลายทุกข์"
ก่อนหน้านี้หากจำได้ การเปิดชื่อ "คนนอก" ที่ระดมมืออาชีพ ในการจะให้มาร่วมงานกับ "ยิ่งลักษณ์" นั้นมีทั้ง "วิชิต สุรพงษ์ชัย-ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล-อิสระ ว่องกุศลกิจ-พล.อ.สมทัต อัตตะนันท์-ประเสริฐ บุญสัมพันธ์-ชญานินทร์ เทพาคำ" ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี

แต่สุดท้าย...เมื่อ มีการแทรกแซงจาก "คนในครอบครัว" ก็ทำให้ "มืออาชีพเหล่านี้" ถอยทัพ...แบบไม่คิดจะ "ร่วมด้วยช่วยกัน" เหมือนแรกๆ ที่มีการไปทาบทามติดต่อ

รายชื่อครม.ที่ออกมา...ล้วนแต่ถูกส่งเข้าประกวดจาก "คนดูไบ-บ้านจันทร์ส่องหล้า-กลุ่มวังบัวบาน-กลุ่มเจ้าแม่เมืองหลวง" ที่หลายคนมีการเชือดเฉือนกันอย่างสุดมันส์ ซึ่ง คนที่ตกที่นั่งลำบากสุดๆ ก็คือ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นั่นเอง เพราะทุกอย่างที่ถูก "ปู" ด้วยกลีบกุหลาบนั้น ทำให้พูดอะไรมากไม่ได้ ทั้งยังเป็นน้องนุชสุดท้อง ที่จะไปเถียงพี่ๆ ก็ไม่ใช่เรื่อง

แม้แต่ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยเอง ยังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงโผครม.ที่ปรากฏออกมาตามสื่อต่างๆ ว่า เป็นครม.ที่ "ผิดฝาผิดตัว" เพราะคนที่ทำงานแทบตายนั้นกลับไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่คนที่ไม่ทำงานกลับได้ดิบได้ดี โดยได้เป็นรัฐมนตรีกันเต็มไปหมด

ขณะ ที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลาย ก็หนีไม่พ้นที่จะเป็น "ครม.ครอบครัว" เช่นกัน...แต่ต้องอย่าลืมว่า บ้านเมืองไม่ใช่ของคนตระกูลใดตระกูลหนึ่ง

ดัง นั้น "วินาที...ต่อจากนี้" จึงเป็นเรื่องที่ "ยิ่งลักษณ์" ต้องพิสูจน์ตัวในการทำงาน จะให้ "เด็กสร้าง-เด็กเส้น...ทั้งหลาย" มาครอบงำการทำงาน ก็จะทำให้ "ตัวเอง" เสื่อม...เสีย...เอง
บรรทัดจากนี้คือการรวบรวมรายละเอียดเบื้องต้นของปูมหลังแต่ละคน ว่าทำไมถึง "ดี-เด่น-ดัง-เด็กใคร" และเป็นบทพิสูจน์ชัดเจนว่า "ใครสวามิภักดิ์" ต่อ "ทักษิณ-เครือข่าย" ย่อมได้รับ "รางวัลตอบแทน" อย่างไร
ครม.ครอบครัวที่ต้องตอบแทน (พรรคเพื่อไทย)

1) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย
เป็น คนที่ "สนองใบสั่ง" จาก "นายใหญ่ดูไบ" ได้ตลอด จะสั่งให้ทำอะไรก็เชื่อและทำตามตลอด ตั้งแต่ให้มาเป็นหัวหน้าพรรค ที่หลายคนกลัว พอมีข่าวจะดึง "พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ" มาเป็นหัวหน้าพรรคแทน ก็ยอมลาออก แต่เมื่อเกิดรายการผิดคิว ก็ได้กลับเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง และยอมให้ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" สมาชิกพรรคธรรมดาเป็น "บัญชีรายชื่อเบอร์ 1" แทนตัวเองที่เป็นถึง "หัวหน้าพรรค

2) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรองนายกรัฐมนตรี
เป็น ที่รับทราบกันดีว่า "เขาคนนี้" คือ "ขุนพลฝีปากกล้า" และพรรคต้องพึ่งพา "ฝีปาก" ของเขาในการเดินสายปราศรัยตลอด โดยเฉพาะในถิ่นอีสาน ถึงขนาดประกาศตลอดเวลาว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง จะต้องพา "ทักษิณกลับบ้าน" ที่สำคัญสมัยที่เคยเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยให้ "สัมปทาน" แก่ "ทักษิณ-พจมาน" มาแล้ว จนทำให้ร่ำรวย ดังนั้น "บุญคุณจึงต้องตอบแทน"

3) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
เป็น ตัวเลือกที่ "ทักษิณ" มักหยิบขึ้นมาเลือกใช้เสมอ ถึงขนาดครั้งหนึ่งเคยจะยกเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้ แต่เกิดเหตุจำเป็นบางประการ จึงทำให้ต้องล้มเลิก เพราะแนวคิดใน "ความเชื่อ" ที่ว่า "เขาคนนี้" มีแบ็กพิงหลังชั้นดีนั่นเอง

4) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์
คร่ำ หวอดในแวดวงการเงิน-การลงทุน ช่วงเป็นกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เคยออกโรงมาปกป้องคดีซุกหุ้น ด้วยวลีเด็ด "ติ๊กผิด" ทั้งช่วย-ทั้งอุ้มครอบครัวชินวัตร และว่ากันว่า เป็นกุนซือคู่ซี้ให้กับ "ยิ่งลักษณ์" มาตลอด

5) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เป็นรมว.คลัง
เพิ่ง ลาออกจากเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อมารับเก้าอี้ดังกล่าว และเป็นอีกคนหนึ่งที่ออกโรงมาปกป้องช่วยครอบครัว "ชินวัตร" ในคดีซุกหุ้น ถึงขนาดก่อนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังออกแถลงการณ์ช่วย จนทำให้ "กรณ์ จาติกวณิช" รมว.คลังในขณะนั้นออกโรงตำหนิ และเป็นวิวาทะผ่าน "เฟซบุ๊ค" จนมาถึงทุกวันนี้

6) นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นรมช.คลัง
คนสนิทนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ โดยในช่วงที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี นายบุญทรงได้ทำหน้าที่เสมือนเลขานุการส่วนตัว

7) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็นรมว.ต่างประเทศ
เคย อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ย้ายมาร่วมงานกับ "ทักษิณ ชินวัตร" ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย และลงสมัครส.ส.เชียงใหม่ บ้านเกิดของ "ทักษิณ" ตลอด มาคราวนี้โยกมาลงในระบบบัญชีรายชื่อ และเป็นผู้ที่ออกโรงปกป้องครอบครัว "ชินวัตร" ตลอดในการอภิปรายในสภาฯ ที่สำคัญเป็นดองญาติกับ "ชินวัตร" เพราะอาของสุรพงษ์แต่งงานกับอาห่าง ๆ ของ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" เพราะข้อเท็จจริง คือ "สุมาลี โตวิจักษณ์ชัยกุล" น้องสาวของพ่อสุรพงษ์ แต่งงานกับ "เสถียร ชินวัตร" น้องชายขอพ่อพ.ต.ท.ทักษิณ

8) นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
เล่น การเมืองครั้งแรกเป็นส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคความหวังใหม่ และรับรู้กันดีว่าคือ "กระเป๋าเงิน" หลังยุบพรรคความหวังใหม่ ก็มาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ก่อนขยับมาเป็น "แกนนำภาคเหนือ" เพราะสนิทและเข้าพวกกับ "เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" มีบุคลิกที่ "พึ่งได้" จึงได้รับความไว้วางใจจาก "ทักษิณ" แต่ก็มีคู่ต่อกรสำคัญคือ "พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล" ซึ่งเป็นเพื่อนซี้อีกคนของ "ทักษิณ" เช่นกัน

9) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เป็นรมว.คมนาคม
เป็น เพื่อนร่วมรุ่นตท.10 กับ "ทักษิณ" เคยเป็นถึงผู้ช่วยผบ.ทอ. ที่ถูกวางตัวให้เป็นผบ.ทอ. แต่ก็ไปไม่ถึงฝัน เพราะถูกปฏิวัติเสียก่อน ที่สำคัญอย่างยิ่ง เป็นคนที่ "ทักษิณ" เคยเปิดใจกลางวงกินข้าวที่ "เบอร์จ คาลิฟาร์" ตึกสูงที่สุดกลางเมืองดูไบ ถึงเพื่อนรักคนนี้ว่า "นี่คือพ่อตาโอ๊ค" ซึ่งหมายถึง "พานทองแท้ ชินวัตร" บุตรชายคนโตของเขานั่นเอง

10) พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก เป็นรมช.คมนาคม
เป็น คนที่สนิทกับ "ทักษิณ" อีกคนหนึ่ง เคยเป็น "ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง" หลังเกษียณก็เข้ามาทำงานกับ "ทักษิณ" เคยเป็น "อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี" และครั้งหนึ่งเคยมีข่าวว่า "โอ๊ค-พานทองแท้" เคยจีบ "หลานสาวของชัจจ์" มาแล้ว

11) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็นรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มา ด่วนแบบม้ามืด เพราะรู้กันอยู่ว่าอยู่ก๊วนกทม.ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อยู่ฉากหลัง แต่มาได้แรงเชียร์แบบสุดใจขาดดิ้นจาก "โอ๊ค-พานทองแท้" ที่เพื่อนร่วมก๊วนกินเที่ยวด้วยกัน ซึ่งมี "น.ต.ศิธา ทิวารี" อยู่ด้วย ถึงขนาด "โอ๊ค" ลงทุนอ้อนขอกับ "คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร" ที่รู้ๆ กันว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ "คุณหญิงสุดารัตน์" สุดท้ายก็ไปถึงฝั่งฝันจนสำเร็จ

12) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นรมว.พลังงาน
ก่อน เล่นการเมืองเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อัญมณี เหมืองแร่ พลอย และการส่งออก อยู่เบื้องหลังหลายพรรคการเมือง เคยรับเก้าอี้รมช.คลังมาแล้ว และเขาคนนี้คือ "สายตรง" ของ "บ้านจันทร์ส่องหล้า" ที่มีคุณหญิงพจมาน กุมบังเหียนอยู่

13) นายฐานิสร์ เทียนทอง เป็นรมช.มหาดไทย
เป็นหลานชายนายเสนาะ เทียนทอง ที่ถูกส่งตรงมารับเก้าอี้ในโควต้าของก๊วนสระแก้ว

14) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นรมว.ยุติธรรม
เคย เป็น "ผบ.ตร." คนแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนลาออกมารับตำแหน่ง "รมว.แรงงาน" และมีสัมพันธ์อันดีกับพรรคเพื่อไทยมาตลอด ครั้งหนึ่งหลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรค และ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" กระเด็นตกเก้าอี้ "ประชา" อยู่สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน แต่กลับได้รับการเสนอชื่อและสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ให้ลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แข่งกับ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" แต่สู้ไม่ได้ เพราะมีรายการ "งูเห่า" เกิดขึ้น

15) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เป็นรมว.แรงงาน
เป็น ที่ทราบกันดีว่า "ตระกูลสะสมทรัพย์" มีความสนิทสนมเป็นอย่างดีกับ "บ้านจันทร์ส่องหล้า" ที่มี "คุณหญิงพจมาน" กุมบังเหียนอยู่ และทุกครั้ง คนในตระกูลนี้ ก็มักได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีเสมอ

16) นายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
พยายาม ทำงานรับใช้ "ทักษิณ" ตั้งแต่สมัยรับราชการ ไม่ว่าจะอยู่หน่วยงานใด เมื่อมี "คำสั่งให้ทำ" ก็จะสนองตอบอย่างดียิ่ง และที่ผ่านมาก็มักออกมาเป็น "กันชน" ในหลายๆ เรื่องให้คนในตระกูล แต่คำพูดส่วนใหญ่ที่ออกมา "มักหลุด" เป็นประจำ แต่ในเมื่อ "ต้องตอบแทน" ก็เลยถูกส่งมาอยู่กระทรวงนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อจะไปนั่งกระทรวงสำคัญๆ ตลอด

17) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เป็นรมว.ศึกษาธิการ
เป็น เด็กสร้างของ "เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" ภริยานายสมชาย และน้องสาวทักษิณ ได้แรงผลักดันอย่างดี จนทำให้ "พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย" ต้องกระเด็นตกเก้าอี้ และน้อยใจ ไม่ขอรับเก้าอี้ใดๆ ในครม.ยิ่งลักษณ์ในที่สุด

18) นางบุญรื่น ศรีธเรศ เป็นรมช.ศึกษาธิการ
เป็น ภรรยานายสังข์ทอง ศรีธเรศ อดีตรมช.ศึกษาธิการ แต่หลังสามีเสียชีวิต ก็โดดลงมาเล่นการเมืองแทน เป็นส.ส.หลายสมัย จนคนในพรรคเรียก "ป้ารื่น" และเป็นส.ส.อาวุโสที่ใกล้ชิดกับ "ทักษิณ ชินวัตร"

19) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นรมว.กลาโหม

หลาย คนแปลกใจที่ชื่อนี้โผล่ขึ้นมา และถูกต่อต้านจากนายทหารตท.10 เพื่อนร่วมรุ่นของ "ทักษิณ" เอง แต่เพราะ "เขาคนนี้" เคยสร้างปรากฏการณ์ที่เป็น "บุญคุณ" กับ "ทักษิณ-พจมาน" มาแล้ว ในครั้งเป็นผู้ประสานให้ "ทักษิณ-พจมาน" ได้รับเชิญไปร่วมงานกีฬาโอลิมปิคที่ประเทศจีน ซึ่งนั่นเป็นจุดหักเหที่ทำให้ "ทักษิณ" ไปแล้วยังไม่ได้กลับเมืองไทยมาจนถึงทุกวันนี้ ว่ากันว่า การออกหน้าแบบเป็นทางการครั้งนั้น ทำให้ "ได้ใจ" ไปเต็มๆ และที่ผ่านมา บทบาทหลายอย่างทั้ง "บนดิน-ใต้ดิน" ก็สามารถทำได้ จึงถูกเลือกให้มาเป็น "ผู้ประสาน" กับ "กองทัพ" ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ "ทักษิณ" มาตลอด

ครม.ครอบครัว (พรรคชาติไทยพัฒนา)

1) นายชุมพล ศิลปอาชา เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมว.การท่องเที่ยวและการกีฬา
น้อง ชายในสายเลือดของ "บรรหาร ศิลปอาชา" จอมบงการตัวจริงในพรรคชาติไทยพัฒนา ที่คนในตระกูล "ศิลปอาชา" โดนตัดสิทธิ์การเมืองกันหมด จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ "บรรหาร" ต้องดึง "น้องชาย" มาร่วมงานการเมืองอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้าที่เคยขัดแย้งกันทางความคิดมาแล้ว

2) นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เป็นรมช.พาณิชย์
เห็น นามสกุลก็รู้ว่า เกี่ยวดองกับใคร "เขา" เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ "พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์" ที่ครั้งนี้ขอวางมือ แล้วส่งลูกชายมาชิมลางงานเป็น "เสนาบดี"

ครม.ครอบครัว (พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน)

-นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็นรมว.อุตสาหกรรม
เป็น คู่เขยกับ "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่มีบทบาทสำคัญตัวจริงในพรรค และที่ผ่านมา หลัง "สุวัจน์-พล.ท.หญิง พูนภิรมย์" 2 สามี-ภรรยา ถูกห้ามเล่นการเมือง ก็เป็นหน้าที่ของ "เขาคนนี้" ที่ต้องมารับเก้าอี้แทนในโควต้าของครอบครัว

ครม.ครอบครัว (พรรคพลังชล)

-นางสุกุมล คุณปลื้ม เป็นรมว.วัฒนธรรม
เป็๋น ภรรยาของ "สนธยา คุณปลื้ม" แกนนำพรรคพลังชล และลูกชายของ "สมชาย คุณปลื้ม-กำนันเป๊าะ" และเพิ่งลงสมัครส.ส.ในครั้งนี้ แต่เพราะความเป็น "ภรรยา" จึงต้องโดดมารับเก้าอี้นี้แทน "สามี"

ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่เหลือ ส่วนใหญ่ก็มาตามโควต้าของแต่ละภาคที่ได้ รวมถึงพวกนายทุนและมีความอาวุโสพอที่จะได้รับตำแหน่ง เพื่อเป็นการตอบแทน และเพื่อเอาไว้ใช้งาน "บางอย่าง" ที่จำเป็น
-นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
-น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
-นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ เป็นรมช.คลัง
-นายธีระ วงศ์สมุทร เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์
-นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ เป็นรมช.มหาดไทย
-นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์
-นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ เป็นรมช.คมนาคม
-นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เป็นรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
-นายภูมิ สาระผล เป็นรมช.พาณิชย์
-นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล เป็นรมช.ศึกษาธิการ
-นายวิทยา บุรณศิริ เป็นรมว.สาธารณสุข
-นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น เป็นรมช.สาธารณสุข