บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ซัดตั้งรมต.กดปุ่มสั่งได้! จับตาผลปย.ที่'กต.-คลัง' รอ'ซากศพ'กลับมาใหญ่ ก่อนออกพ.ร.ก.นิรโทษฯ

                                                         
แก้วสรร-สมชาย









ภายหลังรายชื่อ “ครม.ยิ่งลักษณ์1” ปรากฏออกมา ก่อให้เกิด “กระแสยี้”...ดังกระหึ่มทั่วบ้านทั่วเมือง เพราะ “หลายคน” ที่มีรายชื่อได้นั่ง “รัฐมนตรี” ในเก้าอี้ต่างๆ นั้น ถูกวิจารณ์ว่า “ผิดฝา-ผิดตัว” และ “บางคน” มี “เบื้องหน้าเบื้องหลัง”...???
โดยเฉพาะการพุ่งเป้าไปที่เก้าอี้ “รมว.ต่างประเทศ” ที่ “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” ได้นั่ง ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับเองว่า เป็นดองญาติห่างๆ กับ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์...ชินวัตร” แต่เหตุผลอะไรล่ะ...ที่ “คนจัดการ-คนบงการ” ที่แต่งตั้งให้ “เขา” เข้ามาทำงานในหน้าที่ที่ถือเป็น “หน้าตาของประเทศ”
อีกคนที่น่าสนใจคือเก้าอี้ “รมว.คลัง” ที่ตกไปอยู่กับ “ธีระชัย ภูวนาทนรานุบาล” อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้ซึ่งแสดงตัวอย่างเปิดเผยในการ “ปกป้อง-โดดอุ้ม” เพื่อช่วยเหลือตระกูลชินวัตร ในคดีซุกหุ้นที่อื้อฉาว...หรือนี่คือ “รางวัลตอบแทน” ในการจงรักภักดี
ทั้งหลาย-ทั้งปวง...จะมีอะไรมากไปกว่านี้หรือไม่ “ไทยอินไซเดอร์” ขอนำไปสนทนากับ “ขั้วตรงข้าม” กับ “ระบอบทักษิณ” ที่อาจเรียกว่า เป็น “คนรู้ทันทักษิณ” ก็ได้
คนแรกคือ “แก้วสรร อติโพธิ” อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งเป็น 1 ในคนทำคดีที่ทำให้ “ทักษิณ” ต้องถูกศาลสั่งจำคุก
อีกคนคือ “สมชาย แสวงการ” ส.ว.สรรหา ที่เป็นสมาชิกของกลุ่มสยามสามัคคี ซึ่งมีพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา และอดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคมช. ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ “ทักษิณ” มาตลอด ถึงขนาดก่อนเลือกตั้ง ก็ออกโรงต้านโดยขึ้นป้าย “ไม่เลือกคนเผาบ้านเผาเมือง ไม่เลือกพวกเคืองแค้นสถาบัน” จนสร้างความฮือฮามาแล้ว
ความเห็นของทั้งคู่...กับการตั้งข้อสังเกตว่า “ผลประโยชน์มหาศาล” ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งอยู่ในมือของกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงการคลังนั้น...คือสาเหตุหลักที่ทำให้ต้องตั้ง “รัฐมนตรีที่สั่งได้” มานั่ง...โปรดค้นหาคำตอบ!!!
“แก้วสรร อติโพธิ” อดีตคตส.
Q : มองภาพ “ครม.ยิ่งลักษณ์1” อย่างไร
A : บางคนก็มีความสามารถ บางคนก็ไม่มี แต่รู้สึกว่าเกณฑ์ที่เขาใช้ คือสามารถสั่งได้ ฝีมือก็มีต่างกันไป วิจารณ์คงไม่ได้มาก ก็แล้วแต่มอง
Q : ที่บอกว่าสั่งได้ คือคุณทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) สั่งได้
A : อืมม...ก็มองอย่างนั้น เห็นอย่างนั้น !!!
Q : ส่วนหนึ่งเป็นการจัดสรรอำนาจภายในพรรคเพื่อไทยเองหรือไม่
A : ไม่หรอก ผมดูแค่นั้นเองว่า...ต้องเป็นคนที่เขาสั่งได้ทั้งนั้น
Q : หลายฝ่ายเพ่งเล็งไปที่กระทรวงการต่างประเทศ การแต่งตั้งนายสุรพงษ์ (โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ) มานั่งในตำแหน่งนี้เหมาะสมหรือไม่
A : ผมว่ากระทรวงนี้ เขาต้องการประสบการณ์เยอะมาก แต่นี่มัน...ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งผมยังไม่เห็นเหตุผล ถ้าดูตามความสามารถแล้วมันมีอยู่ตรงไหน จะไปพูดถึงความจงรักภักดี สั่งอะไรก็สั่งได้...คนนี้แหละ แต่ฝีมือไม่เห็นเลย แต่บางคนดูแล้วก็สั่งได้ แต่ฝีมือเขาก็มี แต่คนนี้ไม่เห็นฝีมือด้านนี้เลย


แก้วสรร
Q : มีข่าวว่าคุณสุรพงษ์จะเข้ามาจัดการเรื่องเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะการคืนพาสปอร์ตให้ อาจรวมถึงการนำกลับประเทศด้วย
A : งานรัฐมนตรีมันไม่ได้มีแค่เรื่องวีซ่านี่หว่า เรื่องความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน อันนี้สำคัญที่สุดว่ายังไง โดยเฉพาะกับเขมร แล้วการค้าระหว่างประเทศที่มันผันผวนไปหมด ตรงนี้จะว่ายังไงเพราะเศรษฐกิจมันหดตัว ตลาดส่งออกเราก็หดตาม เงินมันก็วิ่งมาที่เอเชีย คุณจะดีล (ติดต่อ) ยังไง จะจับยังไง จะใช้ทูต ใช้กระทรวงต่างประเทศยังไง อันนี้ต่างหากคืองานที่เป็นอยู่ ไม่น่ามั้ง...สั่งแค่เอา...ให้วีซ่ากลับประเทศ..ไม่น่านะ มีแค่นั้นเหรอ...ไม่น่า
“ผมไม่เห็นฝีมือ มันคงตั้งที่สั่งการได้ แต่จะสั่งแค่เรื่องเอาวีซ่าให้คุณทักษิณคงไม่ใช่มั้ง มันต้องมากกว่านั้น ผมว่ามันต้องมากกว่านั้น ถ้าเอาแค่...เพื่อจะเอาตัวเองกลับไปทำเอกสารการทูตมันไม่ไหวมั้ง มันน่าจะมากกว่านี้”
Q : จุดประสงค์ที่มากกว่านี้ จึงตั้งคนที่สั่งได้มาทำงานคืออะไร
A : ผมว่าเขาต้องการคนที่ไว้ใจมาทำอะไรกับต่างประเทศ คุณไปสืบเอาละกัน มันไม่น่ามีแค่เรื่องวีซ่าหรอก
Q : การแต่งตั้งคนที่สั่งได้ในกระทรวงอื่นมีลักษณะเดียวกันอย่างนี้หรือไม่
A : ก็ยังดีที่มีฝีมือ ถ้าอย่างนั้นก็ยังพอทำงานได้ พอทำตามคำสั่งได้ด้วย แต่คนนี้สั่งให้ทำอะไรโดยไม่ต้องใช้ฝีมือเลย...มันอะไรวะ(หัวเราะ)
Q : อย่างกระทรวงการคลัง ติดใจคุณธีระชัย ภูวนาทนรานุบาล ที่มานั่งเก้าอี้นี้หรือไม่
A : ก็น่าเพ่งเล็งอยู่ แต่ผมก็ไม่มีหลักฐาน ไม่มีอะไรจะว่าเขาตรงๆจังๆ แต่ มันมีงานตรวจสอบหลายอย่างที่ไม่เข้าตาเรา แต่เขาอาจจะเข้าตาคนอื่น...ผมก็ไม่รู้ ช่วงนี้มัน..เงินมันกำลังจะไหลเข้ามาในประเทศเยอะมาก ตลาดหุ้นน่าที่จะมีปัญหา มีโอกาสอะไรเยอะมาก ไม่รู้เขาตั้งคุณธีระชัยมาไม่รู้ดูเรื่องอะไร มาดูเรื่องนี้เหรอ เรื่องการเงิน เรื่องภาษี การเงินการคลัง คนนี้ไม่มีแบล็คกราวน์เลย ก็ต้องถามอีกแหล่ะว่าเลือกมาทำไม
Q : เป็นการได้รับตำแหน่งที่ฝ่ายการเมืองต่างตอบแทนให้ อย่างที่มีเสียงวิจารณ์หรือไม่
A : อันนี้ก็...ผมก็ไม่รู้จะไปพูดอย่างนั้น รู้แต่เพียงว่าเขาน่าจะสั่งกันได้ในการแต่งตั้งครั้งนี้ แต่เขาสั่งให้ทำอะไร ตรงนี้ต่างหากที่น่าตามันน่าดู
“คุณทักษิณไม่ได้ตั้งอะไรมาเพราะ ตอบแทนเท่านั้นหรอก เป็นไปไม่ได้ ต้องมีภารกิจทั้งนั้น จะเอามาทำอะไร ยังไง ไปตามให้ดีเรื่องตลาดหุ้น การหาประโยชน์จากตลาดหุ้น อันนี้สำคัญมากดูให้ดี”
Q : อาจารย์คิดว่าภารกิจสำคัญที่คุณทักษิณน่าจะสั่งให้ทำ น่าจะเกี่ยวข้องกับการหาผลประโยชน์จากตลาดหุ้น
A : ผมดูมันก็ต้องเรื่องนี้ คือเงินมันกำลังจะไหลเข้าประเทศ เศรษฐกิจหดตัว ทั้งยุโรป ทั้งอเมริกา ก็บินเข้ามาเป็นนกเลย ทีนี้จะทำอะไรยังไง ค่าเงินมันจะแข็ง-จะอ่อน จะเปิดตัวเต็มที่ยังไง คงเล่นหุ้นกันสนุกฉิบหายกันละงานนี้...คอยดู-ไปดูเอาละกัน
……………………………..
“สมชาย แสวงการ” ส.ว.สรรหา
Q : คิดเห็นอย่างไรกับตำแหน่งรมว.ต่างประเทศของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
A : ก็แปลกใจเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าวิธีจัดเป็นอย่างไร แต่หลักของประเทศที่มีปัญหาอยู่ก็คือกระทรวงการต่างประเทศ มีคนตั้งข้องสังเกต ผมก็ไม่ไปก้าวล่วงท่านรัฐมนตรีใหม่ ไม่ทราบว่าท่านมีประสบการณ์ด้านนี้อย่างไร เพราะเห็นท่านอภิปรายก็หลายเรื่อง เคยเห็นแต่ท่านพามวลชนไปหน้าสถานทูตอังกฤษ เห็นท่านทูตบางท่านบอกมา แต่ผมขอไม่เอ่ยว่าท่านทูตไหนนะ เป็นทูตประเทศมหาอำนาจ ท่านบอกท่านทราบแต่เพียงว่า เคยเห็นว่าพามวลชนมาหน้าสถานทูต แล้วมีข่าวว่าพบกับทูต ท่านก็ปฏิเสธว่าไม่ได้พบกัน
“ผมทราบว่ามีทูตประเทศหนึ่ง ท่านก็เปรยว่า...คือธรรมดาคนก็จะถามว่าท่านไหนมาจากไหน ท่านก็ถามว่าเป็นใคร ก็ทราบว่าท่านเปรยว่า...เอ๊ะ...ไม่เห็นรู้เรื่อง ไม่เคยรู้จัก ยกเว้นว่าครั้งหนึ่งเคยพามวลชนมาหน้าสถานทูต”
Q : มีข่าวว่าการเข้ามารับหน้าที่ในตำแหน่งนี้ เกี่ยวข้องกับการคืนพาสปอร์ตให้คุณทักษิณ จะเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
A : คงมีสิทธิ์ทำได้มั้งครับ นั่นหมายความว่าต้องฟังความเห็นจากข้าราชการด้วยนะ เพราะว่าข้าราชการกระทรวงต่างประเทศก็เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว เป็นข้าราชการของประชาชน ของรัฐบาล การใดที่จะทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง ถ้าเป็นเรื่องการดูแลความเป็นธรรมก็เป็นอีกเรื่อง แต่ถ้าทำเพราะเป็นเรื่องของเจ้าของพรรคการเมือง ผมคิดว่าไม่เหมาะ ไม่ถูกต้อง และถ้าการสั่งการใดผิดกฎหมาย นั่นก็หมายความว่า “ข้าราชการต้องรับผิดชอบ” ด้วย
Q : มีการแสดงความเห็นว่าฉากหน้าที่เข้ามาจัดการ อาจดูเหมือนว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพาสปอร์ต แต่จริงแล้วต้องเข้ามาทำภารกิจสำคัญอื่นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ระหว่าง ประเทศ
A : ก็ได้ข่าวมาเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ไม่ทราบว่าท่านจะยอมได้อย่างนั้นหรือเปล่า ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะว่าเดิมมีชื่อของอดีตทูตอังกฤษ และมีอดีตทูตไทยหลายท่าน รวมถึงท่านปลอดประสพ (สุรัสวดี รมว.วิทย์ฯ) หรือหลายท่าน ก็ยังพอมีความรู้ความสามารถในฐานะที่เคยเป็นปลัดกระทรวงอะไรต่างๆ พอเป็นท่านนี้...เลยเกิดคำถามเยอะพอสมควร ก็คาดเดากันไปได้ ว่าอาจจะสั่งได้ เลยสั่งให้มา
“ทีนี้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมันเป็นเรื่องสำคัญ อย่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ กระทรวงที่สำคัญที่สุดเขามอบหมายให้กับเบอร์สองก็คือ “ฮิลลารี คลินตัน” ซึ่งเป็นคู่แข่งชิงประธานาธิบดี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุด นอกจากการบริหารภายใน เพราะมันกระทบหมดเรื่องนโยบายที่อเมริกาจะทำอะไรกับใครในโลกนี้ แบบเดียวกันของไทยกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งมีปัญหาไทย-กัมพูชา เรื่องปราสาทพระวิหาร เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่ามีภารกิจที่มากมายกว่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม...ทำอย่างไรก็ทำนอกกฎหมายไม่ได้ ทำแล้วต้องมีความรับผิดชอบ ผมเชื่อว่าอาจจะมีอย่างนั้น แต่คงทำไม่ได้ถ้าข้าราชการไม่ร่วมมือ บางอย่างทำได้ แต่บางอย่างยังเชื่อว่าทำไม่ได้”


สมชาย
Q : การแต่งตั้งครั้งนี้จึงชัดเจนว่า เป็นการเอาคนที่สั่งใช้งานได้มานั่ง
A : ก็สั่งได้ทั้งหมดแหละครับ(หัวเราะ) ผมเชื่อว่าสั่งได้ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นมันไม่สามารถตั้งมาได้หรอก ผมก็เห็นว่าไม่มีใครสั่งไม่ได้ เท่าที่ทราบว่ารัฐมนตรีคลังคนนอกที่ไม่มา เพราะว่าเขามีข้อเสนอว่า “ห้ามมาสั่งเขา” ห้ามมาตั้งที่ปรึกษามาประจำมาประกบเขา ก็มีคนไม่รับ...ไม่รับเงื่อนไขนี้ เขาก็ไม่เป็น
Q : ครม.นี้มีจุดประสงค์เพื่อทำบางเรื่องตามคำสั่งคนๆหนึ่ง
A : ในเมื่อเขาเป็นเจ้าของพรรคนี่ครับ อันนี้ก็เป็นบริษัทอันหนึ่ง ผมไม่แปลกใจ ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติของความคิดแบบรวบยอดแบบบริษัท เขาก็ต้องทำแบบนั้น แต่ก็มีบางส่วนที่ต่างตอบแทนเป็นชั่วคราว แต่เดือนพ.ค.ก็จะเปลี่ยนแล้ว ก็คือ 6 เดือน เพราะว่าบ้านเลขที่ 111 จะออกมา อันนี้เขาเรียกว่า “มัดจำไว้ก่อน” บางส่วนส่งมาเป็นตัวแทน ไม่ได้หมายถึงว่ามาเป็นตัวจริง จองเก้าอี้ไว้ แล้วก็เป็น 6 เดือน แล้วก็จะเปลี่ยนให้บ้านเลขที่ 111 ลงเป็น “ว่าการ...อะไรต่างๆ”
มันแบ่งเป็นหลายส่วน ส่วนหนึ่งเรียกว่ามาอยู่ก่อนล่วงหน้า จะสังเกตว่าบุคคลที่ไม่ค่อยรู้จักกัน หมายถึงได้โควตานี้ กลุ่มที่สองคือกลุ่มที่มาทำงานให้ตามสั่ง กลุ่มที่สามก็แบ่งกันตามโควตาข้างใน เป็นโควตาภาคบ้าง โควตากลุ่มบ้าง เช่น...กลุ่มเจ๊ กลุ่มคุณหญิง กลุ่มตะวันออกกลาง...ก็แบ่งกันไป ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่าจะผิดอะไร หมายถึงว่าไม่ผิด คือ “ไม่ผิดคาด” (หัวเราะ) ไม่ได้ผิดคาด แต่ถามความเห็นผม จัดดีมั๊ย ผมว่าผิดหวังครับ ควรจะจัดได้ดีกว่านี้ เพราะว่าได้เสียงจากประชาชนไปตั้งเยอะแล้ว ประเทศชาติก็ยังให้ความหวังไว้ คือชนะเลือกตั้งไปแล้วเราก็ดีใจ แต่ว่าเศรษฐกิจโลกก็ยังมีปัญหากัน อย่างสหรัฐฯ เราไม่ได้คนที่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจเลย เราได้แต่คนที่มีความรู้ทางตลาดทุน ตลาดหุ้นมา ทั้งสองคน ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าประเทศจะไปได้ยังไงต่อ
Q : ส่วนตัวติดใจเก้าอี้ใดเป็นพิเศษ
A : ถ้ามองไม่แน่ใจ 2-3 เรื่อง รัฐมนตรีที่มาคุมสื่อ ทั้งสองท่านผมดูประวัติแล้ว ไม่พบเลยว่าท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับสื่อสารมวลชน ท่านหนึ่งเป็นคุณหมอ ท่านหนึ่งเป็นนักธุรกิจ ก็เลยคิดว่าถูกคุมโดยท่านรองนายกฯเฉลิม (อยู่บำรุง) ซึ่งเคยคุมสื่อ หรือไม่ก็อาจจะมาเป็นแค่ชั่วคราว รอบ้านเลขที่ 111 หรือเปล่า หรือจะรอให้เหตุการณ์คลี่คลายแล้วก็เปลี่ยนเอาแกนนำเสื้อแดงที่เขาตั้งใจจะ ให้มาคุมสื่อ มาคุมหรือเปล่าอันนี้ต้องรอ ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศผมก็คิดว่าเป็นประเด็นที่มีปัญหา
“ประเด็นที่สำคัญมาก คือกระทรวงเศรษฐกิจ เราไม่มีรองนายกฯเศรษฐกิจที่เชื่อมั่นในสายตาของประชาชน หมายถึงในนักธุรกิจ เท่าที่ผมทราบเขาตกใจมาก เพราะเดิมยังมีชื่อทั้งท่านโอฬาร ไชยประวัติ ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ดร.วีระพงษ์ รามางกูร เต็มไปหมด เอ๊ะ...ทำไมชื่อเหล่านี้หายไปหมด แล้วกลายเป็นทั้งสองท่านซึ่งผมก็เคารพท่านมาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนตัวก็พอรู้จักเห็นอยู่กับตลาดทุน ประเทศมันไม่ใช่เรื่องการปั่นหุ้น หรือการทำให้หุ้นดี มันทำให้เศรษฐกิจดีมันต้องทำโดนรากฐาน ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นครีมที่ปั่นขึ้นไปแล้วประเทศมันจะพังในระยะอันใกล้ คือมันไม่พังตอนนี้ มันจะปั่นขึ้นไปเหมือนหุ้น...ฟูเชียว แต่พอท้ายที่สุดข้างล่างมันโพรงมันก็จะล้ม”
Q : เป็นไปได้หรือไม่กับการเข้ามาช่วยในเรื่องเอาเงินคืน
A : ผมคิดว่าถ้าเขาจะทำเรื่องอะไรต่างๆมันต้องหลายอัน การทำเรื่องทีละส่วน...เป็นไปได้ ก็จะเห็นท่าของกระทรวงการคลังอันนี้ก็เปลี่ยนไป อย่างกระทรวง ยุติธรรมที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบางข้อมูล ที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้อย่างเดียว มันอยู่ที่...เท่าที่ทราบคือการเตรียมร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ที่จะมีการตั้งส.ส.ร.ขึ้น แล้วก็การออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรม หลังจากความเหมาะสม ซึ่งไม่ใช่พ.ร.บ. เป็นพ.ร.ก.เลย คงจะนิรโทษฯทั้งหมด
Q : ถ้าทำจริงอาจจะรอช่วงหลังทำงานไประยะหนึ่งแล้ว
A : 1 ปีครับ ก็คือ 6 เดือนแรกรัฐมนตรีก็จะเข้ามาแค่ส่วนหนึ่ง มาเป็นชั่วคราว เพื่อรอบ้านเลขที่ 111 จองเก้าอี้หลายอัน คงไม่ระบุอันไหน บางท่านเข้ามาเป็นโนเนม ดูเป็นนอมินีของกลุ่ม อันนั้นจะเข้ามาชั่วคราว 6 เดือน พอบ้านเลขที่ 111 ออกมา ก็อาจทำให้รู้สึกว่ามีมืออาชีพมากขึ้น พอตรงนั้นเขาเฟิร์มมากขึ้น ก็คงจะทำอะไรในห้วงนั้นหลัง 1 ปี ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ ทำประชามติ ออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรม หลัง 1 ปีคงเกิดขึ้นประมาณช่วงนั้น ผมคิดว่าประเด็นเหล่านี้จะเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองทันที


สมชาย-ทักษิณ
Q : จะมีผลให้คุณทักษิณได้กลับบ้านเร็วขึ้นในช่วงหลัง 1 ปีนั้นหรือไม่
A : ผมว่ากลับเร็วเมื่อไหร่ก็เกิดเรื่องได้ง่าย ประเทศไทยละเอียดอ่อน ถ้าใจเย็นสักนิดหนึ่งแล้วก็รอ คือคนไทยไม่ได้พูดอะไร แต่ไม่ได้หมายความว่าเขายอมรับนะ เหมือนบางคนที่รู้สึกว่าพรรคที่เป็นรัฐบาลคราวที่แล้วดูก้าวร้าว เขาก็เฉยๆ เขาก็ไปลงคะแนนให้อีกฝั่ง อันเดียวกันบางทีดูเหมือนประชาชนอาจจะยอมไม่พูดอะไรเรื่องนี้ แต่ถ้าเกิดทำอะไรที่ไม่เป็นธรรม ขัดต่อกฎหมาย ขัดต่อความรู้สึกเขา อาจเกิดแรงต้านรุนแรง ผมไม่คิดว่าเสียงข้างมากในสภา 300 เสียง จะทำให้เกิดความมั่นคงได้ ไม่ได้อยู่ที่มือที่ยก หลายครั้งที่รัฐบาลตั้ง 300-400 เสียงก็พังพาบได้ โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร มันเกิดเหตุได้เสมอเพราะว่า เวลาประชาชนรู้สึกไม่ถูกต้องมันก็จะเกิดกระแสต่อต้าน
“ผมไม่ได้ห้ามคุณทักษิณกลับบ้าน ความจริงกลับได้ทุกวัน วันนี้ก็กลับได้ เพราะเขายังเป็นพลเมืองไทยอยู่ เป็นคนไทย กลับมาได้เสมอ เพียงแต่ว่ามันติดค้างอยู่ในเรื่องกระบวนการยุติธรรมซึ่งผมเรียกร้องมาตลอด ว่าให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มันก็ไม่มีอะไร ก็กลับเข้ามารับโทษ แล้วขอพระราชทานอภัยโทษ คุมประพฤติไปภายในระยะเวลาอันใกล้ ที่เหลือสู้คดีต่อ ผมคิดว่าคนไทยรับได้ แต่ถ้าเข้ามาแล้วบอกว่าไม่ผิดอะไรเลย ไม่มีโทษ เหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น ผมว่ามันก็จะเกิดเรื่อง (หัวเราะ)”

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง