บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เปิดนโยบายรัฐฉบับแอบทำ-เผยวาทกรรมปู




พท.ถกเครียด ร่างนโยบายรัฐกว่า 5 ชม. เสนอที่ประชุม ครม. เผย ใส่นโยบายหาเสียงเกือบครบ เว้นรถไฟฟ้า 20 บาท ไม่เร่งด่วน 'ปู' ยก "วิกฤติการเงินโลก" กล่อม ด้าน พท. ป่วน ลูกพรรคซัด ร่างนโยบาย 'ฉบับแอบทำ'

          น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมพิจารณาร่างนโยบายรัฐบาล ที่จะแถลงต่อสภาว่า กำลังดำเนินการร่างนโยบาย ซึ่งยังไม่เสร็จสิ้นดี แต่น่าจะเสร็จทันประชุมครม. ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ เมื่อถามว่า มีนโยบายที่หาเสียงไว้ครบถ้วนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า "เดี๋ยวรอของจริงเลยดีไหม"
เมื่อถามถึงนโยบายเรื่องปรองดอง เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า มีอยู่ ส่วนเรื่องค่าแรง 300 บาท เป็นนโยบายต้องคุยกับไตรภาคีอีก
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมยกร่างนโยบายกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุม ครม. ก่อนที่จะนำไปแถลงต่อรัฐสภานั้น ปรากฏว่า นโยบายที่อภิปรายกันมากที่สุด เป็นเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน โดยเฉพาะการพิจารณาถ้อยคำว่า จะเขียนอย่างไร ไม่ให้ผูกพันรัฐบาล เพราะเกรงว่า จะทำไม่ได้ แต่ต้องทำให้เห็นว่า รัฐบาลทำจริง
          ทั้งนี้ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน กล่าวในที่ประชุมว่า นโยบายเรื่องนี้มีความหนักใจ ถ้าหากรัฐบาลทำไม่ได้ และมีแรงต้านจากผู้ประกอบการจะมีปัญหาในทางปฏิบัติ ทำให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่มาร่วมงานยกร่างนโยบายของรัฐบาลทั้งหมด ได้พยายามบอกว่า เป็นเรื่องที่หาเสียงเอาไว้แล้ว ถือเป็นเรื่องสำคัญ และจริง ๆ แล้วแรงงานมีฝีมือหลายจังหวัด มีค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทอยู่แล้ว
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เป็นที่น่าสังเกตว่า มีนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ แต่ไม่ได้นำมาบรรจุในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยระบุไว้เพียงว่า เป็นนโยบายในแต่ละด้านแทน อาทิ โครงการก่อสร้างระบบรถไฟรางคู่ โครงการศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ- เชียงใหม่ สายกรุงเพทฯ- นครราชสีมา และสายกรุงเทพฯ- หัวหิน รวมทั้งเส้นทางที่เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน โครงการการขยายเส้นทางรถไฟแอร์พอร์ทลิงก์จากสุวรรณภูมิไปถึงพัทยา การเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า 10 สายทั้งในกทม.และปริมณฑล โดยให้ก่อสร้างได้ครบทั้งหมดภายใน 4 ปี และเก็บค่าบริการ 20 บาทตลอดสายทั้งระบบ

เผยวาทกรรม "ยิ่งลักษณ์" แถลงนโยบายต่อสภา ยก "วิกฤติการเงินโลก" กล่อม

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (ร่าง)คำแถลงนโยบายของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะแถลงต่อรัฐสภา ในวันจันทร์ที่ 22 ส.ค.54 มีเนื้อหาตามร่าง ดังนี้
          "ท่านประธานสภาที่เคารพ ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 5 สิงหาคม พุทธศักราช 2554 และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 9 สิงหาคม พุทธศักราช 2554 นั้น
          บัดนี้ คณะรัฐมนตรีได้กำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว โดยยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข และครอบคลุมถึงแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามบทบัญญัติในหมวด ๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
          คณะรัฐมนตรีจึงขอแถลงนโยบายดังกล่าวต่อที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อให้ ทราบถึงเจตนารมณ์ ยุทธศาสตร์ และนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งมั่นจะสร้างความสามัคคี ปรองดอง ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และการเมืองการปกครองของไทยให้ก้าวหน้า เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยทุกคน
          ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในทศวรรษการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจโลก และวิกฤติการณ์ศรัทธาต่อเงินสกุลที่โลกใช้เป็นทุนสำรองที่สำคัญ  ดังนั้นเราจะต้องพึ่งพาการปรับภูมิคุ้มกันอย่างเร่งด่วน สองประการ ประการที่หนึ่งคือ การเปลี่ยนผ่านขั้วอำนาจทางการเงิน และค่าของเงินจากกลุ่มประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจเดิมเข้าสู่ขั้วประเทศมหาอำนาจ เศรษฐกิจใหม่ที่มีอำนาจการซื้อสูงขึ้น อย่างเช่น ประเทศจีน อินเดีย
          ประการที่สองคือการขาดความเชื่อมั่นในบทบาทและค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโร อันสืบเนื่องจากปัญหาหนี้สาธารณะที่สูงมาก ซึ่งสะท้อนต่อภาวะเงินเฟ้อของเศรษฐกิจโลกโดยรวมอย่างรุนแรง และกระทบต่อความมั่นคงและมั่งคั่งในทรัพย์สินและฐานะเงินสำรองของทุกประเทศ อย่างมีนัยสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโลกในอนาคต ในขณะที่ศูนย์กลางการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตลอดพลังความคิดสร้าง สรรค์ยังดำรงอยู่กับกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเดิม
          รัฐบาลจึงมีภารกิจหลักเร่งด่วนในการสร้างความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพของ เศรษฐกิจภายในประเทศ โดยการปรับโครงสร้างการผลิตทุกด้านจากการส่งเสริมการลงทุนจากภาคเอกชนควบคู่ ไปกับการปรับทักษะการผลิตให้สามารถสร้างงานและรายได้จากการผลิตสินค้าและ บริการที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีมูลค่าสูง
          การสร้างระบบการขนส่งให้สามารถรองรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร ซึ่งจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมี ศักยภาพ ทั้งยังเป็นการกระจายผลประโยชน์ ยกระดับอาชีพและระดับรายได้สำหรับเกษตรกร แรงงาน และผู้ประกอบการขนาดเล็กและรายย่อยให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เพื่อนำไปสู่การสร้างความมั่งคั่งที่มาจากการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจใน ประเทศในระยะยาวอย่างมีคุณภาพ มั่นคงและยั่งยืนตามหลักปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง
          ในการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศดังกล่าวข้างต้น รัฐบาลจะดำเนินนโยบายการเงินและการคลังอย่างมีวินัย โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ ไม่สร้างภาระหนี้ให้แก่ชนรุ่นหลัง โดยการลงทุนใหม่ของรัฐบาลนั้นจะยึดกรอบการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มทุนและสามารถ ชำระหนี้คืนให้ตัวเองเป็นสำคัญ ในการนี้รัฐบาลจะดำเนินการใช้ทรัพยากรเงินทุนและสินทรัพย์ในประเทศ และการประสานการใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างชาญฉลาดและรอบคอบ
          การสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะวางรากฐานการพัฒนาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพ โดยการอนุรักษ์ส่งเสริมทุนทางสังคมและวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง การพัฒนาคุณภาพของคนส สร้างครอบครัวที่อบอุ่น การแก้ไขปัญหายาเสพติด และพฤติกรรมบั่นทอนคุณภาพของเยาวชนไทย
          การปรับปรุงระบบการศึกษาตั้งแต่วัยเด็กเป็นสำคัญเพื่อสร้างสังคมแห่งการ เรียนรู้และสามารถนำเทคโนโลยีใหม่มาปรับใช้อย่างเท่าทัน  รวมทั้งการเสริมสร้างระบบสวัสดิการสังคมที่มั่นคง มีมาตรฐานให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างกำลังการผลิตที่มีคุณภาพแต่ยังสร้างสังคมที่มีความ สุข
          ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมดังกล่าวข้างต้น จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทยมีความปรองดองสมานฉันท์ทาง การเมืองและทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรม มีการยึดหลักนิติธรรม ภายใต้กรอบกติกาของระบอบประชาธิปไตยซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน รัฐบาลจะมุ่งดำเนินการรักษากฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ประชาชนทุกคน ได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายและหลักนิติธรรมอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค"

เปิดเนื้อหานโยบายรัฐ 8 หัวข้อ 34 หน้า

          สำหรับนโยบายที่จะแถลงต่อสภาซึ่งทางพรรคเพื่อไทยได้จัดทำเป็นเอกสารจำนวน 34 หน้า โดยทุกหน้าประทับคำว่า “ร่างนโยบายรัฐบาล ยังไม่เปิดเผย” โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 8 หัวข้อคือ
          1.นโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มทำในปีแรก แบ่งเป็น
1.1 สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย
          1.1.1 สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย โดยการเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันของประชาชนในชาติให้เกิดความสมัครสมาน สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
          1.1.2 เยียวยาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องแก่บุคคลทุกฝ่าย เช่น ประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางความคิด ทางการเมืองและความรุนแรงที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายของการใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2540
          1.1.3 สนับสนุนให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่ง ชาติ(คอป.) ดำเนินการอย่างอิสระและได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ในการตรวจ สอบหาความจริงกรณีความรุนแรงทางการเมือง การละเมิดสิทธิมนุษยชน การสูญเสียชีวิต บาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ ความเสียหายทางทรัพย์สิน
1.2 กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ
1.3 ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง
1.4 เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบและนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว
1.5 เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ
1.6 แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
1.7 ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
          1.7.1 พักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาท อย่างน้อย 3 ปี และปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน 5 แสนบาท
          1.7.2 เพิ่มรายได้รายวันสำหรับแรงงานเป็นวันละ 300 บาท และรายเดือนของผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท
          1.7.3 จัดให้มีเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ
          1.7.4 ให้มีมาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งจำเป็นในชีวิตของประชาชนทั่วไป ได้แก่บ้านหลังแรก
1.8 ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เหลือร้อยละ 23 ในปี 2555 และลดลงร้อยละ 20 ในปี 2556 เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน ขยายฐานภาษีและรองรับเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558
1.9 ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนสินเชื่อรายย่อย
          1.9.1 เพิ่มกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 1 ล้านบาท
          1.9.2จัดตั้งกองทุนพัฒนาศักยภาพสตรีเฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาท
          1.9.3จัดตั้งกองทุนตั้งตัวได้วงเงินประมาณ 1 พันล้านต่อสถาบันอุดมศึกษา
1.10 ยกระดับสินค้าการเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยให้มีการประกันภัยพืชผลและนำระบบรับจำนำสินค้าการเกษตรมาใช้ รวมถึงการออกบัตรเครดิตสำหรับเกษตรกร
1.11 ส่งเสริมให้มีการจัดการน้ำอย่างบูรณาการด้วยการสร้างระบบชลประทานขนาดใหญ่-กลาง-เล็ก
1.12 เร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวโดยได้ปี 2554 - 2555 เป็นปีมหัศจรรย์ไทยแลนด์ (มิลาเคิลไทยแลนด์ เยียร์) และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองในพระราชพิธีมหามงคลในช่วงปี 2554-2555
1.13 สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมเพื่อสร้างเอกลักษณ์และผลิตสินค้าในท้องถิ่น
          1.13.1 สนับสนุนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
          1.13.2บริหารโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพ
1.14 พัฒนาระบบประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค
1.15จัด หาเครื่องคอมพิวเตอร์แทปเล็ตให้โรงเรียน โดยเริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่อง สำหรับระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2554 ควบคู่กับการพัฒนาเนื้อหาที่เหมาะสมตามหลักสูตรบรรจุลงในแทปเล็ต รวมถึงทำอินเตอร์เน็ตไร้สายในระดับการให้บริหารและในพื้นที่สาธารณะ รวมถึงสถานศึกษาที่กำหนดฟรี
1.16 เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมือง ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขว้าง โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยให้ประชาชนเห็นชอบโดยการออกเสียงประชามติ
          2. นโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ เช่น เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์, พัฒนาและเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศของกองทัพให้มีความมั่นคง
          3.นโยบายเศรษฐกิจ
          4.นโยบายคุณภาพชีวิต
          5.นโยบายที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
          6.นโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม
          7.นโยบายการต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
          8.นโยบายการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
          ทั้งนี้ ที่น่าสนใจคือ นโยบายของรัฐบาล ยังระบุด้วยว่า ในส่วนนโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ มีเรื่องการเทิดทูนและพิทักษ์รักษาซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำรงรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งมหากษัตริย์ โดยการเสริมสร้างจิตสำนึกประชาชนในชาติให้มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน โดยการเชิดชู ปกป้อง มิให้ผู้ใดล่วงละเมิดได้
          รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการนำเอาสถาบันมาใช้อ้างเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม หรือเพื่อแบ่งแยกความจงรักภักดีของประชาชน อีกทั้งส่งเสริม เผยแพร่โครงการพระราชดำริเพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้สามัคคี และดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง
          นอกจากนี้ต้องพัฒนาและเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศของกองทัพให้มีความมั่นคง รวมถึงเสริมสร้างความสามัคคีปรองดองของคนชาติ

ลูกพรรค พท. ป่วน ไม่มีส่วนร่วม ซัด นโยบายรัฐ "ฉบับแอบทำ"

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.54 .ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคน ได้รับข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอสจากพรรคว่า ขอให้มาร่วมประชุมเพื่อพิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ทำให้มีส.ส.ของพรรคเดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วยพอสมควร
          ทั้งนี้ เมื่อเริ่มการประชุม ได้มีการนำสไลด์เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในด้านต่างๆ มาฉายทีละหน้า รวมทั้งยังมีการระบุด้วยว่า นโยบายรัฐบาลฉบับจริง ขณะนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรค และนางฐิติมา ฉายแสง ผู้สมัครส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่บรรยายสรุปแต่ละหน้าให้กับส.ส.ฟังแต่ไม่มีรัฐมนตรีของพรรคเข้าร่วม รับฟังด้วยแต่อย่างใด
          ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทันทีที่ฉายสไลด์นโยบายของรัฐบาล ส.ส.ของพรรคส่วนใหญ่ ต่างรู้สึกไม่พอใจ โดยมองว่าส.ส.ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วม หรือรับรู้ขั้นตอนในการร่างนโยบายของรัฐบาลเลย ทั้ง ๆ ที่นโยบายของรัฐบาล ส.ส.มีหน้าที่ที่จะต้องนำไปชี้แจงกับประชาชนในพื้นที่
          นายประเสริฐ เด่นกิจนภาลัย ส.ส. สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมช่วงหนึ่งว่า เขาขอเรียกนโยบายดังกล่าวว่า “ฉบับแอบทำ” เพราะนโยบายดังกล่าว ไม่สามารถที่จะนำไปอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ เช่น การถมที่กลางทะเลเพื่อทำเมืองใหม่ มีการเขียนไว้อย่างกว้างๆ เท่านั้น ซึ่งหากเป็นแบบนี้ไม่ใช่แค่จะถูกพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายถล่มในสภาเท่านั้น แต่กลุ่มเอ็นจีโอหรือประชาชนในพื้นที่ก็จะสอบถามรายละเอียดต่างๆ ด้วย แต่เราก็ตอบไม่ได้
          ด้านนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นถามในเรื่องนโยบายการให้เงินกองทุนสตรีจังหวัดละ 100 ล้านบาท ที่ไม่มีรายละเอียดในนโยบายว่า จะนำเงินจำนวนดังกล่าวนั้นมาจากไหน และจะให้ใครเป็นผู้ดูแลเงินจำนวนดังกล่าว
          "อยากให้ระบุให้ชัดเจนว่า จะเป็นกระทรวงพัฒนาสังคมฯ อบต. หรือจังหวัด"
          รายงานระบุด้วยว่า ในที่ประชุมได้พูดถึงนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะแจกคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้กับเด็กนักเรียนด้วยว่า ไม่มีการระบุรายละเอียดให้ชัดเจนว่า เด็กที่จะได้รับแจกคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ต้องเรียนอยู่ชั้นไหนหรือต้องอายุเท่าไหร่ด้วย
          ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ร่างนโยบายของรัฐบาลฉบับที่นำมาฉายสไลด์ให้ดู ยังไม่ใช่ข้อสรุปที่เป็นที่สิ้นสุด ยังเป็นเพียงแค่ฉบับร่างเท่านั้น และยังจะเปิดโอกาสให้ส.ส.ได้พิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ในการประชุมส.ส.พรรคในวันที่ 16 ส.ค.นี้

พท.ถกเครียด ร่างนโยบายรัฐกว่า 5 ชม. เสนอที่ประชุม ครม. เผย ใส่นโยบายหาเสียงเกือบครบ เว้นรถไฟฟ้า 20 บาท ไม่เร่งด่วน 'ปู' ยก "วิกฤติการเงินโลก" กล่อม ด้าน พท. ป่วน ลูกพรรคซัด ร่างนโยบาย 'ฉบับแอบทำ'

          น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมพิจารณาร่างนโยบายรัฐบาล ที่จะแถลงต่อสภาว่า กำลังดำเนินการร่างนโยบาย ซึ่งยังไม่เสร็จสิ้นดี แต่น่าจะเสร็จทันประชุมครม. ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ เมื่อถามว่า มีนโยบายที่หาเสียงไว้ครบถ้วนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า "เดี๋ยวรอของจริงเลยดีไหม"
          เมื่อถามถึงนโยบายเรื่องปรองดอง เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า มีอยู่ ส่วนเรื่องค่าแรง 300 บาท เป็นนโยบายต้องคุยกับไตรภาคีอีก
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมยกร่างนโยบายกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุม ครม. ก่อนที่จะนำไปแถลงต่อรัฐสภานั้น ปรากฏว่า นโยบายที่อภิปรายกันมากที่สุด เป็นเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน โดยเฉพาะการพิจารณาถ้อยคำว่า จะเขียนอย่างไร ไม่ให้ผูกพันรัฐบาล เพราะเกรงว่า จะทำไม่ได้ แต่ต้องทำให้เห็นว่า รัฐบาลทำจริง
          ทั้งนี้ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน กล่าวในที่ประชุมว่า นโยบายเรื่องนี้มีความหนักใจ ถ้าหากรัฐบาลทำไม่ได้ และมีแรงต้านจากผู้ประกอบการจะมีปัญหาในทางปฏิบัติ ทำให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่มาร่วมงานยกร่างนโยบายของรัฐบาลทั้งหมด ได้พยายามบอกว่า เป็นเรื่องที่หาเสียงเอาไว้แล้ว ถือเป็นเรื่องสำคัญ และจริง ๆ แล้วแรงงานมีฝีมือหลายจังหวัด มีค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทอยู่แล้ว
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เป็นที่น่าสังเกตว่า มีนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ แต่ไม่ได้นำมาบรรจุในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยระบุไว้เพียงว่า เป็นนโยบายในแต่ละด้านแทน อาทิ โครงการก่อสร้างระบบรถไฟรางคู่ โครงการศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ- เชียงใหม่ สายกรุงเพทฯ- นครราชสีมา และสายกรุงเทพฯ- หัวหิน รวมทั้งเส้นทางที่เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน โครงการการขยายเส้นทางรถไฟแอร์พอร์ทลิงก์จากสุวรรณภูมิไปถึงพัทยา การเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า 10 สายทั้งในกทม.และปริมณฑล โดยให้ก่อสร้างได้ครบทั้งหมดภายใน 4 ปี และเก็บค่าบริการ 20 บาทตลอดสายทั้งระบบ

เผยวาทกรรม "ยิ่งลักษณ์" แถลงนโยบายต่อสภา ยก "วิกฤติการเงินโลก" กล่อม

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (ร่าง)คำแถลงนโยบายของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะแถลงต่อรัฐสภา ในวันจันทร์ที่ 22 ส.ค.54 มีเนื้อหาตามร่าง ดังนี้
          "ท่านประธานสภาที่เคารพ ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 5 สิงหาคม พุทธศักราช 2554 และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 9 สิงหาคม พุทธศักราช 2554 นั้น
          บัดนี้ คณะรัฐมนตรีได้กำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว โดยยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข และครอบคลุมถึงแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามบทบัญญัติในหมวด ๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
          คณะรัฐมนตรีจึงขอแถลงนโยบายดังกล่าวต่อที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อให้ ทราบถึงเจตนารมณ์ ยุทธศาสตร์ และนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งมั่นจะสร้างความสามัคคี ปรองดอง ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และการเมืองการปกครองของไทยให้ก้าวหน้า เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยทุกคน
          ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในทศวรรษการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจโลก และวิกฤติการณ์ศรัทธาต่อเงินสกุลที่โลกใช้เป็นทุนสำรองที่สำคัญ  ดังนั้นเราจะต้องพึ่งพาการปรับภูมิคุ้มกันอย่างเร่งด่วน สองประการ ประการที่หนึ่งคือ การเปลี่ยนผ่านขั้วอำนาจทางการเงิน และค่าของเงินจากกลุ่มประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจเดิมเข้าสู่ขั้วประเทศมหาอำนาจ เศรษฐกิจใหม่ที่มีอำนาจการซื้อสูงขึ้น อย่างเช่น ประเทศจีน อินเดีย
          ประการที่สองคือการขาดความเชื่อมั่นในบทบาทและค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโร อันสืบเนื่องจากปัญหาหนี้สาธารณะที่สูงมาก ซึ่งสะท้อนต่อภาวะเงินเฟ้อของเศรษฐกิจโลกโดยรวมอย่างรุนแรง และกระทบต่อความมั่นคงและมั่งคั่งในทรัพย์สินและฐานะเงินสำรองของทุกประเทศ อย่างมีนัยสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโลกในอนาคต ในขณะที่ศูนย์กลางการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตลอดพลังความคิดสร้าง สรรค์ยังดำรงอยู่กับกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเดิม
          รัฐบาลจึงมีภารกิจหลักเร่งด่วนในการสร้างความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพของ เศรษฐกิจภายในประเทศ โดยการปรับโครงสร้างการผลิตทุกด้านจากการส่งเสริมการลงทุนจากภาคเอกชนควบคู่ ไปกับการปรับทักษะการผลิตให้สามารถสร้างงานและรายได้จากการผลิตสินค้าและ บริการที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีมูลค่าสูง
          การสร้างระบบการขนส่งให้สามารถรองรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร ซึ่งจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมี ศักยภาพ ทั้งยังเป็นการกระจายผลประโยชน์ ยกระดับอาชีพและระดับรายได้สำหรับเกษตรกร แรงงาน และผู้ประกอบการขนาดเล็กและรายย่อยให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เพื่อนำไปสู่การสร้างความมั่งคั่งที่มาจากการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจใน ประเทศในระยะยาวอย่างมีคุณภาพ มั่นคงและยั่งยืนตามหลักปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง
          ในการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศดังกล่าวข้างต้น รัฐบาลจะดำเนินนโยบายการเงินและการคลังอย่างมีวินัย โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ ไม่สร้างภาระหนี้ให้แก่ชนรุ่นหลัง โดยการลงทุนใหม่ของรัฐบาลนั้นจะยึดกรอบการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มทุนและสามารถ ชำระหนี้คืนให้ตัวเองเป็นสำคัญ ในการนี้รัฐบาลจะดำเนินการใช้ทรัพยากรเงินทุนและสินทรัพย์ในประเทศ และการประสานการใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างชาญฉลาดและรอบคอบ
          การสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะวางรากฐานการพัฒนาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพ โดยการอนุรักษ์ส่งเสริมทุนทางสังคมและวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง การพัฒนาคุณภาพของคนส สร้างครอบครัวที่อบอุ่น การแก้ไขปัญหายาเสพติด และพฤติกรรมบั่นทอนคุณภาพของเยาวชนไทย
          การปรับปรุงระบบการศึกษาตั้งแต่วัยเด็กเป็นสำคัญเพื่อสร้างสังคมแห่งการ เรียนรู้และสามารถนำเทคโนโลยีใหม่มาปรับใช้อย่างเท่าทัน  รวมทั้งการเสริมสร้างระบบสวัสดิการสังคมที่มั่นคง มีมาตรฐานให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างกำลังการผลิตที่มีคุณภาพแต่ยังสร้างสังคมที่มีความ สุข
          ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมดังกล่าวข้างต้น จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทยมีความปรองดองสมานฉันท์ทาง การเมืองและทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรม มีการยึดหลักนิติธรรม ภายใต้กรอบกติกาของระบอบประชาธิปไตยซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน รัฐบาลจะมุ่งดำเนินการรักษากฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ประชาชนทุกคน ได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายและหลักนิติธรรมอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค"

เปิดเนื้อหานโยบายรัฐ 8 หัวข้อ 34 หน้า

          สำหรับนโยบายที่จะแถลงต่อสภาซึ่งทางพรรคเพื่อไทยได้จัดทำเป็นเอกสารจำนวน 34 หน้า โดยทุกหน้าประทับคำว่า “ร่างนโยบายรัฐบาล ยังไม่เปิดเผย” โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 8 หัวข้อคือ
          1.นโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มทำในปีแรก แบ่งเป็น
1.1 สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย
          1.1.1 สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย โดยการเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันของประชาชนในชาติให้เกิดความสมัครสมาน สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
          1.1.2 เยียวยาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องแก่บุคคลทุกฝ่าย เช่น ประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางความคิด ทางการเมืองและความรุนแรงที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายของการใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2540
          1.1.3 สนับสนุนให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่ง ชาติ(คอป.) ดำเนินการอย่างอิสระและได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ในการตรวจ สอบหาความจริงกรณีความรุนแรงทางการเมือง การละเมิดสิทธิมนุษยชน การสูญเสียชีวิต บาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ ความเสียหายทางทรัพย์สิน
1.2 กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ
1.3 ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง
1.4 เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบและนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว
1.5 เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ
1.6 แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
1.7 ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
          1.7.1 พักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาท อย่างน้อย 3 ปี และปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน 5 แสนบาท
          1.7.2 เพิ่มรายได้รายวันสำหรับแรงงานเป็นวันละ 300 บาท และรายเดือนของผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท
          1.7.3 จัดให้มีเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ
          1.7.4 ให้มีมาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งจำเป็นในชีวิตของประชาชนทั่วไป ได้แก่บ้านหลังแรก
1.8 ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เหลือร้อยละ 23 ในปี 2555 และลดลงร้อยละ 20 ในปี 2556 เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน ขยายฐานภาษีและรองรับเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558
1.9 ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนสินเชื่อรายย่อย
          1.9.1 เพิ่มกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 1 ล้านบาท
          1.9.2จัดตั้งกองทุนพัฒนาศักยภาพสตรีเฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาท
          1.9.3จัดตั้งกองทุนตั้งตัวได้วงเงินประมาณ 1 พันล้านต่อสถาบันอุดมศึกษา
1.10 ยกระดับสินค้าการเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยให้มีการประกันภัยพืชผลและนำระบบรับจำนำสินค้าการเกษตรมาใช้ รวมถึงการออกบัตรเครดิตสำหรับเกษตรกร
1.11 ส่งเสริมให้มีการจัดการน้ำอย่างบูรณาการด้วยการสร้างระบบชลประทานขนาดใหญ่-กลาง-เล็ก
1.12 เร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวโดยได้ปี 2554 - 2555 เป็นปีมหัศจรรย์ไทยแลนด์ (มิลาเคิลไทยแลนด์ เยียร์) และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองในพระราชพิธีมหามงคลในช่วงปี 2554-2555
1.13 สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมเพื่อสร้างเอกลักษณ์และผลิตสินค้าในท้องถิ่น
          1.13.1 สนับสนุนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
          1.13.2บริหารโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพ
1.14 พัฒนาระบบประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค
1.15จัด หาเครื่องคอมพิวเตอร์แทปเล็ตให้โรงเรียน โดยเริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่อง สำหรับระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2554 ควบคู่กับการพัฒนาเนื้อหาที่เหมาะสมตามหลักสูตรบรรจุลงในแทปเล็ต รวมถึงทำอินเตอร์เน็ตไร้สายในระดับการให้บริหารและในพื้นที่สาธารณะ รวมถึงสถานศึกษาที่กำหนดฟรี
1.16 เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมือง ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขว้าง โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยให้ประชาชนเห็นชอบโดยการออกเสียงประชามติ
          2. นโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ เช่น เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์, พัฒนาและเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศของกองทัพให้มีความมั่นคง
          3.นโยบายเศรษฐกิจ
          4.นโยบายคุณภาพชีวิต
          5.นโยบายที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
          6.นโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม
          7.นโยบายการต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
          8.นโยบายการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
          ทั้งนี้ ที่น่าสนใจคือ นโยบายของรัฐบาล ยังระบุด้วยว่า ในส่วนนโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ มีเรื่องการเทิดทูนและพิทักษ์รักษาซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำรงรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งมหากษัตริย์ โดยการเสริมสร้างจิตสำนึกประชาชนในชาติให้มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน โดยการเชิดชู ปกป้อง มิให้ผู้ใดล่วงละเมิดได้
          รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการนำเอาสถาบันมาใช้อ้างเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม หรือเพื่อแบ่งแยกความจงรักภักดีของประชาชน อีกทั้งส่งเสริม เผยแพร่โครงการพระราชดำริเพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้สามัคคี และดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง
          นอกจากนี้ต้องพัฒนาและเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศของกองทัพให้มีความมั่นคง รวมถึงเสริมสร้างความสามัคคีปรองดองของคนชาติ

ลูกพรรค พท. ป่วน ไม่มีส่วนร่วม ซัด นโยบายรัฐ "ฉบับแอบทำ"

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.54 .ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคน ได้รับข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอสจากพรรคว่า ขอให้มาร่วมประชุมเพื่อพิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ทำให้มีส.ส.ของพรรคเดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วยพอสมควร
          ทั้งนี้ เมื่อเริ่มการประชุม ได้มีการนำสไลด์เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในด้านต่างๆ มาฉายทีละหน้า รวมทั้งยังมีการระบุด้วยว่า นโยบายรัฐบาลฉบับจริง ขณะนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรค และนางฐิติมา ฉายแสง ผู้สมัครส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่บรรยายสรุปแต่ละหน้าให้กับส.ส.ฟังแต่ไม่มีรัฐมนตรีของพรรคเข้าร่วม รับฟังด้วยแต่อย่างใด
          ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทันทีที่ฉายสไลด์นโยบายของรัฐบาล ส.ส.ของพรรคส่วนใหญ่ ต่างรู้สึกไม่พอใจ โดยมองว่าส.ส.ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วม หรือรับรู้ขั้นตอนในการร่างนโยบายของรัฐบาลเลย ทั้ง ๆ ที่นโยบายของรัฐบาล ส.ส.มีหน้าที่ที่จะต้องนำไปชี้แจงกับประชาชนในพื้นที่
          นายประเสริฐ เด่นกิจนภาลัย ส.ส. สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมช่วงหนึ่งว่า เขาขอเรียกนโยบายดังกล่าวว่า “ฉบับแอบทำ” เพราะนโยบายดังกล่าว ไม่สามารถที่จะนำไปอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ เช่น การถมที่กลางทะเลเพื่อทำเมืองใหม่ มีการเขียนไว้อย่างกว้างๆ เท่านั้น ซึ่งหากเป็นแบบนี้ไม่ใช่แค่จะถูกพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายถล่มในสภาเท่านั้น แต่กลุ่มเอ็นจีโอหรือประชาชนในพื้นที่ก็จะสอบถามรายละเอียดต่างๆ ด้วย แต่เราก็ตอบไม่ได้
          ด้านนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นถามในเรื่องนโยบายการให้เงินกองทุนสตรีจังหวัดละ 100 ล้านบาท ที่ไม่มีรายละเอียดในนโยบายว่า จะนำเงินจำนวนดังกล่าวนั้นมาจากไหน และจะให้ใครเป็นผู้ดูแลเงินจำนวนดังกล่าว
          "อยากให้ระบุให้ชัดเจนว่า จะเป็นกระทรวงพัฒนาสังคมฯ อบต. หรือจังหวัด"
          รายงานระบุด้วยว่า ในที่ประชุมได้พูดถึงนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะแจกคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้กับเด็กนักเรียนด้วยว่า ไม่มีการระบุรายละเอียดให้ชัดเจนว่า เด็กที่จะได้รับแจกคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ต้องเรียนอยู่ชั้นไหนหรือต้องอายุเท่าไหร่ด้วย
          ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ร่างนโยบายของรัฐบาลฉบับที่นำมาฉายสไลด์ให้ดู ยังไม่ใช่ข้อสรุปที่เป็นที่สิ้นสุด ยังเป็นเพียงแค่ฉบับร่างเท่านั้น และยังจะเปิดโอกาสให้ส.ส.ได้พิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ในการประชุมส.ส.พรรคในวันที่ 16 ส.ค.นี้

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รัฐบาลยิ่งลักษณ์กับนโยบายค่าไฟฟรี

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะสานต่อนโยบายต่อเนื่อง ค่าไฟฟรี ค่าน้ำฟรี รถเมล์ฟรี เพื่อช่วยคนรายได้น้อยหรือไม่ เห็นเงียบจัง นโยบายต่อเนื่องที่ช่วยคนจน ถึงไม่ได้หาเสียงไว้ก็ควรจะทำ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะสานต่อนโยบายต่อเนื่อง ค่าไฟฟรี ค่าน้ำฟรี รถเมล์ฟรี เพื่อช่วยคนรายได้น้อยหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง