บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คุกตลอดชีวิต4แดงเผาศาลากลางอุบล



ศาลอุบลราชธานีตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 4 เสื้อแดงคดีเผาศาลากลางจังหวัด แต่ลดโทษเหลือ 33 ปี ยกฟ้อง 9 ราย

          เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 24 สิงหาคม ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ได้พิจารณาคดีกลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดอุบลราชธานีก่อเหตุเผาศาลาจังหวัดอุบลราชธานี  เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ถูกดำเนินคดี ที่ได้นำมาพิจารณาคดีในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ทั้งหมด 21 คน ได้แก่ จำเลยที่ 1 นายพิเซษฐ์  ทาบุดดา  2.นางอรอนงค์  บรรพชาติ  3.นางสุมาลี  ศรีจินดา  4.นายประสิทธิ์  บุญสุข  5.นางสาวปัทมา  มูลมิล  6.นายสีทน  ทองมา  7.นายลิขิต  สุทธิพันธ์  8.นายบุญเหรียญ  ลิลา  9.นายธีรวิฒน์  สัจสุวรรณ  10นายอุบล  แสนทวีสุข  11.นายชัชวาล  ศรีจันดา  12.นายสนอง  เกตุสุวรรณ์  13.นายถาวร  แสนทวีสุข  14.นายธนูศิลป์  ธนูทอง  15.นายสุพจน์  ดวงงาม  16.จ่าสิบเอกสมจิตร  สุทธิพันธ์  17.นายสมศักดิ์  ประสานทรัพย์  18.นายไชยยา  ดีแสง  19.นายพิสิทธิ์  บุตรอำคา  20.นายพงษ์ศักดิ์  อรอินทร์  และ 21. นายคำพลอย  นะมี  โดยศาลได้อ่านคำพิจารณาของผู้ต้องหาทั้ง 21 คน ไปจนถึงเวลา 16.15 น.


           นายสู่บุญ  วุฒิวงศ์  อธิบดีผู้พิพากษาภาค 3 ได้อ่านคำตัดสินคดีดังนี้  โดยจำเลยที่ 1 ศาลได้พิจารณาว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวให้ลงโทษตามกฏกหมายกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548 มาตราที่ 9 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดในกฎหมายมาตราที่ 90 โดยให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี
 จำเลยที่ 2,10,15 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 215 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 215 พระราชกำหนดการบริหารราชการฉุกเฉิน 2548 ให้จำคุก 1 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีมีเหตุให้ลดโทษ 1 ใน 3  เหลือโทษ จำคุก 8 เดือน
           จำเลยที่ 4,7,18,19  มีความผิดตามกฎหมาย เป็นการกระทำผิดกรรมเดียวให้ลงโทษฐานบุกรุกจำคุก จำเลยคนละ 3 ปี การนำสืบพิจารณาคดีของจำเลยที่ 4 ราย เป็นประโยชน์มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมาย ให้จำคุกคนละ 2 ปี
           จำเลยที่ 5,9,12,17  มีความผิดตามกฎหมายอาญา 215 และกฎหมายหลายบท ในลงโทษฐานชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ในเขตที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง การกระทำของจำเลยที่ 5,9,12,17  เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม ที่กระทำความผิดไปตามประมวลกฏหมายอาญามาตราที่ 91 ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กับฐานร่วมกันชุมนุมตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไปในเขตที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งมีความผิดร้ายแรงเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบท  ให้ลงโทษฐานชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป  ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ อันเป็นสมบัติสาธารณะของแผ่นดิน  ทำผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์อันเป็นสมบัติของแผ่นดิน ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหายไม่สามารถเยียวยาให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้  มูลค่าความเสียหาย 92, 261,155.90 บาท  ลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างสั่งจำคุกตลอดชีวิตตามความผิดของจำเลยที่ 5,9,12และ 17 คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณามีเหตุให้ลดโทษ 1 ใน 3  เหลือจำคุก 33 ปี 2 เดือน
ส่วนจำเลยที่ 3,6,8,11,13,14,16,20,และ 21 ยกฟ้อง
             รายงานข่าวแจ้งว่า  คดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสมาชิกกลุ่มเสื้อแดง ศาลจึงติดตั้งทีวีวงจรปิดถ่ายทอดการอ่านคำพิพากษา โดยตั้งเต้นท์ให้สมาชิกคนเสื้อแดงได้รับชม  โดยศาลใช้เวลาอ่านรายละเอียดการเบิกคำให้การของพยานแวดล้อมที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนมีคำพิพากษาตัดสินลงโทษและยกคำฟ้องจำเลยทั้ง 21 คน โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
            สำหรับคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิตมี 4 ราย คือ น.ส.ปัทมา มูลมิล นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ นายสนอง เกตุสุวรรณ นายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ แต่ทั้งทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์กับรูปคดี จึงลดโทษเหลือจำคุก 33 ปีกับ 4 เดือน ส่วนผู้ต้องหาให้จำคุก 3 ปี แต่ลดโทษเหลือ 2 ปี มี 4 รายประกอบด้วย นายประดิษฐ์ บุญสุข นายลิขิต สุทธิพันธ์ นายไชยา ดีแสง นายพิสิทธิ์ บุตรอำคา
            ส่วนให้ลงโทษจำคุก 1 ปี แต่ลดเหลือ 8 เดือนมี 3 ราย คือ นายอุบล แสนทวีสุข นายสุพจน์ ดวงงาม และนางอรอนงค์ บรรพชาติ
            สำหรับนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา ซึ่งเป็นแกนนำและถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรืออีเอสไอ ส่งฟ้องข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย ศาลมีคำพิพากษาว่า พฤติกรรมนายพิเชษฐ์ไม่เข้าข่าย แต่กระทำผิดฐานโฆษณาออกอากาศชักชวนให้มีการชุมนุมและการกระทำความผิด แต่ไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดการเผาทำลายอาคารศาลากลางจังหวัด จึงพิพากษายกฟ้องข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย และให้ลงโทษฐานฝ่าฝืน พรก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา
            ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 9 ราย ศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง เพราะหลักฐานของโจทก์มีเพียงภาพถ่ายของผู้ต้องหาขณะเข้าร่วมชุมนุม แต่ไม่มีหลักฐานอื่นที่แสดงว่าโจทก์ได้ร่วมกระทำความผิดอื่นตามฟ้อง
            หลังศาลอ่านคำพิพากษา เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดลงจากบัลลังก์ นำตัวกลับเข้าไปควบคุมไว้ที่เรือนจำกลาง โดยผู้ต้องหาที่จะถูกปล่อยตัวในค่ำวันนี้ มีทั้งสิ้น 12 ราย โดยเป็นผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวจนครบอัตราโทษจำนวน 3 คน และอีกส่วนเป็นผู้ต้องหาที่ศาลยกฟ้อง สำหรับนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา ที่ถูกจำคุก 1 ปีในคำพิพากษาครั้งนี้ พนักงานสอบสวนในคดีเผาเรือที่ราชธานีอโศก ได้ขออายัดตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป
            ด้านนายวัฒนา จันทสิงห์ ทนายความสมาชิกเสื้อแเดงกล่าวว่า ในวันที่ 25 สิงหาคม ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะมายื่นประกันตัวผู้ต้องหาที่เหลือในชั้นอุทธรณ์ที่เหลือทั้ง 9 คน ส่วนจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลอุทธรณ์ต่อไป 
            สำหรับนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดร ซึ่งร่วมฟังการอ่านคำพิพากษาด้วยกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในภาคอีสาน ตนจะเป็นตัวประสาน เพื่อหาแกนนำที่มีความชัดเจน และไม่ใช่กลุ่มที่เข้ามาหากินกับคนเสื้อแดง เพราะหลังคนเสื้อแดงประสบชัยชนะ มีกลุ่มคนแอบแฝงเข้ามาหาประโยชน์ แนวทางที่ชัดเจนคือ คนเสื้อแดงต้องร่วมกันสร้างกลุ่มให้เหนียวแน่น และนำเสนอความเดือดร้อนต่อ ส.ส. รัฐมนตรี หรือรัฐบาล


คมชัดลึก

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง