ผลวิจัยผู้ตรวจฯ ตอกหน้าศธ. เรียนฟรีไม่จริง
"ศรีราชา"
ผู้ตรวจการแผ่นดินเผยผลวิจัยเพื่อประเมินผลงานชี้ชัด ศธ.จัดเรียนฟรี 15
ปีไม่จริง-ไม่มีคุณภาพ แถมขัดรัฐธรรมนูญ ม.49 เสนอปรับแก้เป็น 9
ปีเหมาะสมกว่า แถมค้านนโยบายเพื่อไทยขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท
หวั่นกระทบภาพส่งออก-ธุรกิจ...
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สผผ.) ได้มีการทำวิจัยเพื่อประเมินผลงานการดำเนินการในเรื่องนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ เนื่องจากพบว่าในการดำเนินงานตามโครงการนี้ ไม่มีคุณภาพ ทั้งยังเป็นการดำเนินงานที่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ที่ระบุว่าบุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการเข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อย กว่า 12 ปี ที่รัฐจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย แต่สิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการอยู่ต้องยอมรับว่าในความเป็นจริงก็ยัง มีการเก็บค่าใช้จ่ายกันอยู่ ตนจึงมีแนวคิดว่าหากจะมีการปรับแก้รัฐธรรมนูญในมาตราดังกล่าว เป็นไม่น้อยกว่า 9 ปี จะดีกว่าหรือไม่ เพราะมีโอกาสที่จะทำได้จริงมากกว่า และจะเป็นการจัดการศึกษาที่ฟรีจริงๆ
นายศรีราชา กล่าวต่อว่า โดยอำนาจหน้าที่ของตนสามารถยื่นเสนอต่อรัฐสภาให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ตนยืนยันว่าที่วิจัยในเรื่องนี้ไม่ได้มีอคติกับกระทรวงศึกษาธิการ แต่มีความเป็นห่วงประเทศ ที่การเมืองประชานิยมจะเข้ามาทำลายการศึกษาของชาติหรือไม่
ขณะที่นาง อุทุมพร จามรมาน ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า งานวิจัยดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.นี้ และจะสรุปเสนอต่อรัฐบาล โดยขณะนี้จะต้องมีการทำวิจัยต่อถึงนโยบายในลักษณะเดียวกันของแต่ละประเทศ รวมถึงการประเมินการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องนี้ และความเป็นไปได้ที่จะมีการเสนอแก้รัฐธรรมนูญในมาตรา 49 ด้วย
ผู้ สื่อข่าวรายงานต่อว่า นายศรีราชา ยังได้กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่ี่อไทยเตรียมเดินหน้าโครงการเพิ่มค่าแรงขั้น ต่ำเป็น 300 บาท ว่า ส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไป และที่สำคัญจะเกิดปัญหาต่อสินค้าที่จะส่งออกแน่นอน เพราะการส่งออกสินค้าบางชนิดจะต้องมีการทำสัญญากันล่วงหน้าหลายเดือน หากผู้ประกอบการบางรายมีการตกลงสัญญาราคาไว้แล้ว และมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำย่อมทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นไปด้วย อาจจะส่งผลให้ผู้ที่สั่งซื้อยกเลิกการสั่งซื้อไป
"ผมเห็นด้วยกับข้อ เสนอของทางภาคเอกชนที่ระบุว่าควรจะมีการหารืออย่างละเอียดก่อน ไม่ใช่อยู่ๆ ก็ขึ้นค่าแรงให้ แบบไม่มีที่มาที่ไป เพราะการขึ้นค่าแรงย่อมจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆสูงขึ้นด้วยแน่นอน นโยบายประชานิยมเมื่อประกาศไปแล้วควรเป็นเรื่องที่จะต้องทำได้ ไม่ใช่พอประกาศออกไปแล้วไม่สามารถทำได้ มีเงินไม่พอ แค่พูดนั้นง่าย แต่ทำยาก การจะชูนโยบายอะไรก็ควรมองถึงความเป็นไปได้ ไม่ใช่พูดออกไปเพราะความคะนอง" นายศรีราชากล่าว และว่า ในเรื่องเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างนั้นทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กำลังเตรียมที่จะทำวิจัยถึงอัตราค่าจ้างที่เหมาะสมของแต่ละอาชีพเพื่อเป็น ข้อมูลเสนอไปยังรัฐบาลต่อไป.
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สผผ.) ได้มีการทำวิจัยเพื่อประเมินผลงานการดำเนินการในเรื่องนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ เนื่องจากพบว่าในการดำเนินงานตามโครงการนี้ ไม่มีคุณภาพ ทั้งยังเป็นการดำเนินงานที่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ที่ระบุว่าบุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการเข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อย กว่า 12 ปี ที่รัฐจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย แต่สิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการอยู่ต้องยอมรับว่าในความเป็นจริงก็ยัง มีการเก็บค่าใช้จ่ายกันอยู่ ตนจึงมีแนวคิดว่าหากจะมีการปรับแก้รัฐธรรมนูญในมาตราดังกล่าว เป็นไม่น้อยกว่า 9 ปี จะดีกว่าหรือไม่ เพราะมีโอกาสที่จะทำได้จริงมากกว่า และจะเป็นการจัดการศึกษาที่ฟรีจริงๆ
นายศรีราชา กล่าวต่อว่า โดยอำนาจหน้าที่ของตนสามารถยื่นเสนอต่อรัฐสภาให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ตนยืนยันว่าที่วิจัยในเรื่องนี้ไม่ได้มีอคติกับกระทรวงศึกษาธิการ แต่มีความเป็นห่วงประเทศ ที่การเมืองประชานิยมจะเข้ามาทำลายการศึกษาของชาติหรือไม่
ขณะที่นาง อุทุมพร จามรมาน ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า งานวิจัยดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.นี้ และจะสรุปเสนอต่อรัฐบาล โดยขณะนี้จะต้องมีการทำวิจัยต่อถึงนโยบายในลักษณะเดียวกันของแต่ละประเทศ รวมถึงการประเมินการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องนี้ และความเป็นไปได้ที่จะมีการเสนอแก้รัฐธรรมนูญในมาตรา 49 ด้วย
ผู้ สื่อข่าวรายงานต่อว่า นายศรีราชา ยังได้กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่ี่อไทยเตรียมเดินหน้าโครงการเพิ่มค่าแรงขั้น ต่ำเป็น 300 บาท ว่า ส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไป และที่สำคัญจะเกิดปัญหาต่อสินค้าที่จะส่งออกแน่นอน เพราะการส่งออกสินค้าบางชนิดจะต้องมีการทำสัญญากันล่วงหน้าหลายเดือน หากผู้ประกอบการบางรายมีการตกลงสัญญาราคาไว้แล้ว และมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำย่อมทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นไปด้วย อาจจะส่งผลให้ผู้ที่สั่งซื้อยกเลิกการสั่งซื้อไป
"ผมเห็นด้วยกับข้อ เสนอของทางภาคเอกชนที่ระบุว่าควรจะมีการหารืออย่างละเอียดก่อน ไม่ใช่อยู่ๆ ก็ขึ้นค่าแรงให้ แบบไม่มีที่มาที่ไป เพราะการขึ้นค่าแรงย่อมจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆสูงขึ้นด้วยแน่นอน นโยบายประชานิยมเมื่อประกาศไปแล้วควรเป็นเรื่องที่จะต้องทำได้ ไม่ใช่พอประกาศออกไปแล้วไม่สามารถทำได้ มีเงินไม่พอ แค่พูดนั้นง่าย แต่ทำยาก การจะชูนโยบายอะไรก็ควรมองถึงความเป็นไปได้ ไม่ใช่พูดออกไปเพราะความคะนอง" นายศรีราชากล่าว และว่า ในเรื่องเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างนั้นทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กำลังเตรียมที่จะทำวิจัยถึงอัตราค่าจ้างที่เหมาะสมของแต่ละอาชีพเพื่อเป็น ข้อมูลเสนอไปยังรัฐบาลต่อไป.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น