หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ฉบับวันศุกร์ที่ผ่านมา รายงานหัวข้อข่าวเรื่อง กองทัพล็อบบี้หนักบีบพท.ตั้ง‘ประวิตร’คุมกลาโหมอีกสมัย โดยรายงานข่าวว่า
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สร้างความอึดอัดใจให้กับพรรค เพื่อไทยเป็นอย่างมาก เพราะมีแรงกดดันจากกองทัพที่ต้องการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน ทำหน้าที่นี้ต่อไปเพื่อความสบายใจของกองทัพ
ซึ่งมีรายงานว่ามีการส่งนายทหารที่เรียกกันว่า “เสธ.เจี๊ยบ” บินไปคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยังสั่งอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีความใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อ ไทยเป็นคนกลางเข้าไปเจรจาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับคำยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะยอมทำตามข้อเสนอ
เสธ.เจี๊ยบ หรือ พลตรีอกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ เป็นทหารรุ่นเดียวกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเคยอกหักกับตำแหน่ง แม่ทัพภาค 4 เมื่อปีกลาย เพราะโดน พลโทอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ที่อดีตแม่ทัพ4คนก่อน พลโทพิเชษฐ์ วิสัยจร ขอกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหมไว้
ตอนนั้นทำให้พลเอกประยุทธ์เพื่อนของเสธ.เจี๊ยบไม่พอใจมาก แต่ถ้าถามถึงฝีมือของเสธ.เจี๊ยบถือว่าใช้ได้ในพื้นที่ภาคใต้ เพราะเคยอยู่ทางใต้มานานตั้งแต่สมัยมียศเป็นพันเอก ทำงานในการประสานกับกลุ่มโจรจีนคอมมิวนิสต์ให้กับบิ๊กจิ๋วมาก่อน และเคยไปซีเรียพบกับบรรดาแกนนำกลุ่มพูโลเพื่อยุติปัญหาไฟใต้ สมัยชวน 2 แต่รัฐบาลชวน 2 ไม่เล่นด้วย
"ส่วนความลึกซึ้งขนาดไหนที่จะไปพบแม้วที่ดูไบอันนี้ไม่ทราบ ทราบแต่เพียงว่าแม้วเคยใช้งานเสธ.เจี๊ยบบางอย่าง จนไว้ใจ แต่แวดวงทหารมันบอกว่า งานนี้ไอ้ตู่เหล่มันเครียดมากๆเมื่อรู้ข่าวว่า บิ๊กอ๊อด พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา จะมาเป็น รัฐมนตรีกลาโหม เพราะมันจะโดนเป็นคนแรก แม้ป๋าเปรมก็ช่วยไม่ได้ เพราะป๋าก็ยังเกรง บิ๊กอ๊อด อยู่ในหลายๆเรื่อง ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องเหี้ยมๆของป๋าทั้งนั้น ดังนั้นไอ้ตู่เหล่จึงพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะให้ พลเอกประวัตร มาเป็น รัฐมนตรีกลาโหมอีกครั้งหนึ่ง แต่ดูแล้วงานนี้หมดสิทธิแม้วไม่เล่นด้วย"เจ้าหน้าที่ในแวดวงทหารระดับสูง กล่าวให้ความเห็นกับไทยอีนิวส์
********
เรื่องเกี่ยวเนื่อง
ปูดข้อตกลงลับ3ฝ่าย พลังพิเศษยอมเพื่อไทยตั้งรัฐบาล แลกนิรโทษกรรมมาร์ค+ฆาตกร91ศพ-หยุดหมิ่น
"พล.อ.ยุทธศักดิ์"พร้อมนั่งรมว.กห.
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แคนดิเดตรัฐมนตรีว่าการกระทวงกลาโหม กล่าวว่า มีความพร้อมหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายภารกิจให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากเป็นอดีตนายทหารเก่า และอยู่ในไลน์สายกระทรวงกลาโหมมาตลอดชีวิต อีกทั้งเกษียนในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหม เคยเป็นที่ปรึกษาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม(สมชาย วงศ์สวัสดิ์)
หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคมอบหมายก็ไม่ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้งาน เข้าไปก็ทำงานได้เลย สามารถปฏิบัติภารกิจเรื่องความปรองดองระหว่างรัฐบาลและกองทัพ โดยยืนยันว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าใครจะเป็นรมว.กลาโหม ไม่มีการย้ายล้างบาง ไม่มีการแก้แค้น ไม่มีการปลดพล.อ.ประยุทธ จันโอชา ผบ.ทบ. หรือ พล.อ.ดาวพงศ์ รัตนสุบรรณ เสนาธิการทหารบก อย่างที่หลายคนหวั่นเกรง เพราะจะไม่เป็นผลดี หากกองทัพอ่อนแอกองทัพก็อยู่ไม่ได้ สถาบันก็อยู่ไม่ได้
“ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม คนในพรรคเพื่อไทย มีความเหมาะสมหลายคน เพราะมีทหารจำนวนมาก ทั้งที่เป็น ส.ส.และไม่เป็นส.ส. แต่ช่วยงานพรรค ในพรรคมีพล.อ.หลายคน ตำแหน่งนี้ ถ้าเป็นคนในพรรคจะดีกว่าที่จะเป็นคนนอกพรรค ในบรรดานายทหาร ถ้าดูไลน์อาวุโสแล้ว ผมก็อยู่อันดับ 1 ตามด้วย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ตอนนี้ก็กำลังรอสัญญาณ จากว่าที่นายกรัฐมนตรี ถ้าเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จ และท่านส่งสัญญาณมา ก็ให้ดูตอนนั้น ส่วนกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่ความสัมพันธ์นั้นแนบแน่น สำหรับรัฐมนตรีช่วยว่าการกลาโหม เห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เพราะว่าปลัดกระทรวงก็ทำหน้าที่แทนได้อยู่แล้ว ถ้าได้เป็น รมว.กห. จะสามารถดูแลคอนโทรน้องๆ ในกองทัพได้หมดทุกคน กับแกนนำ นปช. ก็ไม่มีปัญหา จะทำให้ทางทหารกับ นปช. เกิดความเข้ใจกันได้”พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ตนพร้อมที่จะไปเป็นผู้ประสาน เพราะเป็นคนที่เข้าออกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ตลอดเวลา ทั้งงานวันเกิด งานปีใหม่ งานสงกรานต์ แค่บอกว่าจะไปหาพล.อ.เปรม ก็ให้เข้าบ้าน ไม่มีครั้งไหนที่พล.อ.เปรม ไม่ให้เข้าพบทุกครั้ง รู้จักพล.อ.เปรม ตั้งแต่เป็นพันตรี
สำหรับนโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกับกองทัพ ถึงเวลาแล้วที่กองทัพจะต้องปรับยุทธศาสตร์ให้สอดรับสถานการณ์ให้ตรงกับความ เป็นจริง ไม่ใช่ใช้แผนรับเหมือนในอดีตในยุคสงครามเย็น มาวันนี้จะต้องมีการรีฟอร์ม ปฏิรูปกองทัพ เช่น การลดกำลังลง และเพิ่มงบประมานด้านเทคโนโลยี ที่สำคัญต้องเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่สร้างศัตรู
ส่วนเรื่องงบประมานในการจัดซื้ออาวุธ อะไรที่จำเป็นก็ควรที่จะผลักดัน เช่น การจัดซื้อแบล็คฮอร์ค ที่พล.อ.ประยุทธ บอกว่าต้องการ 30 ลำ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วในการจัดซื้อแบล็คฮอร์คนั้น ของสภาคองเกรซ ประเทศสหรัฐอเมริกา จำกัดให้ซื้อได้เพียงปีละ 3 ลำ ถ้าจะซื้อต้องใช้เวลา 30 ปี ถึงจะได้ 30 ลำ ถือเป็นเรื่องกล้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น