บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"นำทักษิณกลับประเทศ" เป็นบททดสอบหนักสุดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ รอยเตอร์วิเคราะห์มาอย่างนี้

 by ทนายเบิ้ม ,

รอยเตอร์วิเคราะห์ "ยิ่งลักษณ์" หมดเวลาฮันนีมูน ชี้ "นำทักษิณกลับ
ประเทศ" เป็นบททดสอบหนักสุด
มาร์ติน เพ็ตตี้ ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ได้เขียนบทวิเคราะห์การเมืองไทยชื่อ "ฮันนีมูนผ่านพ้นไป, ยิ่งลักษณ์กำลังก้าวเดินบนเส้นลวด" (Honeymoon over, Yingluck treads political tightrope) ซึ่งมีเนื้อหาโดยสังเขปดังนี้
โดยเพ็ตตี้เริ่มต้นบทวิเคราะห์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ท่ามกลางการบูมของธุรกิจดังกล่าว กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเธอต้องมารับบทบาทเป็นผู้บริหารประเทศที่ยุ่งเหยิงด้วยวิกฤตการเมืองและเหตุนองเลือด
ผู้สื่อข่าวต่างชาติรายนี้เห็นว่า ช่วงเวลาแห่งการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของนักการเมืองหน้าใหม่วัย 44 ปี อย่างยิ่งลักษณ์กำลังจะหมดไป  เมื่อเธอได้กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ซึ่งคนยากจนหลายล้านคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยหวังจะได้รับผลประโยชน์นานาประการจากเธอ ขณะที่ประเทศไทยก็ต้องการให้มีการยุติวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่รัฐประหาร 19 กันยาเป็นต้นมา
แม้จำนวน ส.ส. 265 จากทั้งหมด 500 คนในสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคเพื่อไทย  จะสามารถช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับโอกาสในการแทรกแซงการเมืองของกลุ่มคนที่ "อยู่หลังฉาก" ผ่านกระบวนการยุติธรรมและกองทัพลงได้บ้าง จนสะท้อนออกมาผ่านตัวเลขการลงทุนที่พุ่งสูงขึ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม การที่ยิ่งลักษณ์มีแนวโน้มจะก้าวเดินทางการเมืองตามรอยเท้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชาย และการที่ทักษิณถูกมองว่าจะมีอิทธิพลต่อรัฐบาลชุดใหม่มากกว่าว่าที่นายกฯ หญิง ที่ด้อยประสบการณ์ทางการเมือง ก็อาจนำไปสู่เส้นทางการเมืองอันขรุขระของรัฐบาลเพื่อไทยได้
"ระดับของความเป็นอิสระ (จากทักษิณ) จะส่งผลต่อระดับการยอมรับที่ผู้คนมีให้ยิ่งลักษณ์" เดวิด สเตร็คฟัสส์ นักวิชาการชาวอเมริกันประจำมหาวิทยาลัยขอนแก่นกล่าวกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์
นักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามทักษิณกำลังรอคอยให้รัฐบาลชุดใหม่ทำสิ่งผิดพลาด เพื่อนำไปสู่เงื่อนไขในการแทรกแซงการเมืองอีกครั้งหนึ่ง
"ชัยชนะของยิ่งลักษณ์ถือเป็นชัยชนะเด็ดขาดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งไทย ดังนั้น การกีดขวางเธอในทันทีทันใดจึงไม่น่าจะเป็นไปได้" สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าว
"การเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะเกิดขึ้นเพื่อต่อต้านรัฐบาล ต้องถูกคิดคำนวณอย่างถ้วนถี่ พวกเขาต้องรอคอยให้รัฐบาลชุดนี้ทำสิ่งที่ผิดพลาด และต้องมีเหตุผลอันชอบธรรมมารองรับการเคลื่อนไหว มิฉะนั้น ผลที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นภาวะจลาจลวุ่นวาย" อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าว
แม้จะมีภาระงานหลายงานที่ท้าทายว่าที่ผู้นำหญิงอย่างยิ่งลักษณ์ ทว่าบททดสอบสำคัญที่สุดสำหรับว่าที่นายกฯ หญิง ตามการวิเคราะห์ของเพ็ตตี้ก็คือ เธอจะจัดการอย่างไรกับประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย โดยไม่ต้องรับโทษจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา ทั้งๆ ที่การขออภัยโทษให้อดีตนายกฯ อาจกลายเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมืองของรัฐบาลเพื่อไทย
สมชายประเมินว่า รัฐบาลเพื่อไทยต้องพยายามทำงานเพื่อให้สภาพการเมืองและเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ จากนั้น จึงค่อยร่างแผนการขออภัยโทษให้แก่ผู้ต้องโทษทางการเมืองโดยทั่วไป และควรกำหนดให้แผนการขออภัยโทษดังกล่าวผ่านการลงประชามติในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้มีความชอบธรรมทางกฎหมายและได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน
"การนำทักษิณกลับประเทศ คือวาระหลักของเพื่อไทย ดังนั้น พวกเขาจึงต้องเดินหน้าเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง และควรทำให้สภาวะการเมืองมีความลงตัวเสียก่อนจะเสนอแผนขออภัยโทษ" นักวิชาการชาวไทยวิเคราะห์
ขณะที่หลายคนกลับมองว่ามีโอกาสน้อยมากที่ทักษิณจะได้เดินทางกลับประเทศไทย ด้วยทัศนะว่า อดีตนายกรัฐมนตรีถือเป็นบุคคลที่นำไปสู่การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายภายในประเทศ ดังนั้น การพยายามนำเขากลับบ้านเกิด จึงเท่ากลับเป็นการปลุกให้ขบวนการ "เสื้อเหลือง" ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง โดยกลุ่มเสื้อเหลืองก็เคยเคลื่อนไหวจนกระทั่งรัฐบาล 2 ชุดที่มีทักษิณอยู่เบื้องหลัง ต้องประสบกับภาวะ "อัมพาต" จนทำงานไม่ได้มาแล้ว
ดังที่โจชัว เคอร์แลนท์ซิค ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำคณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่า "การกลับมาของทักษิณ ไม่ว่าในช่วงเวลาใดก็ตาม จะนำไปสู่ความวุ่นวายอย่างหนัก"
--------------------------------------------------------
การ เอาทักษิณกลับบ้าน เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับเป็นการไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลที่ได้ตัดสินเอาไว้ ที่บอกว่า 2 มาตรฐาน เป็นเพียงข้ออ้าง ที่ขาดเหตุผลมารับรอง
หาก ยิ่งลักษณ์กับพรรคเพื่อไทย จะทำเพื่อสิ่งนี้ นี่จะเป็นบทพิสูจน์อีกบทหนึ่งของสังคมไทย ว่าจะยินยอมหรือไม่ กับการทำทุกอย่าง เพื่อคนๆเดียว ประเด็นนี้จะถูกจุดติดได้ง่ายแน่นอน เพระมีเหตุผลเพียงพอที่จะคัดค้านขัดขวาง ไม่ให้เกิดขึ้นได้
ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา เหมือนกับจะบ่งบอกว่าที่ไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์ แต่เอาพรรคเพื่อไทย เพื่อมาให้แก้ไขปัญหาปากท้องความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนคนไทย โดยเฉพาะภาคอีสาน กับ ภาคเหนือ แต่ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าต้องการจะให้ทักษิณกลับบ้าน ถ้ายอมให้กลับได้ นิติรัฐก็จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อคนๆเดียว อำนาจตุลาการก็จะไร้ความหมาย
ยิ่ง ลักษณ์ตั้งใจจะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ หรือ มารับตำแหน่งนี้ เพื่อพาพี่ชายตนเองกลับบ้าน ถ้าอย่างแรก เป็นความน่าชื่นชมอย่างยิ่ง แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง ก็เป็นความเห็นแก่ตัวที่สุด
ถ้า พวกคุณไม่ยอมรับกฎหมาย พวกคุณก็เป็นคนไม่มีกฎ มีเกณฑ์ ถ้าจะเอาทักษิณ ก็ให้ทักษิณไปซื้อเกาะสักๆหนึ่ง แ้ล้วตั้งสังคมขึ้นมาใหม่ เพื่อใหุ้พวกคุณที่ไม่เอากฎหมายประเทศไทย ไปอยู่รวมกันซะ
สังคมไทยจะได้สติ หรือ ไร้สติ กับการที่พยายามนำทักษิณกลับประเทศไทย ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ถ้า ทักษิณจะกลับบ้านให้ได้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็จะอยู่ไม่ได้ จะมีการคัดค้านต่อต้านอย่างหนัก เรื่องนิรโทษกรรม คือจุดมรณะของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถ้ารัฐบาลทำไม่สำเร็จ ทักษิณก็หมดหน้าตัก ไม่มีไพ่ให้เล่นแล้ว เพราะไพ่ใบสุดท้าย คือการเอายิ่งลักษณ์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ถูกทิ้งไปแล้ว เช่นนี้ ถือว่า เกมส์จบทันที
ทักษิณก็ต้องอยู่นอกประเทศไทยต่อไป อย่างถาวร

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง