บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

The amulet, His Majesty, Father and Uncle – Arjin พระพระเจ้าอยู่หัว พ่อและลุง

เป็นเรื่องสั้น2ภาษาครับ เขียนโดยคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์



พ่อเล่าให้ฟังว่า เมื่อพ่ออายุได้ 25 ปี มีผ้าม่วงผืนเดียว เสื้อนอกตัวเดียว พระกำแพงห้อยคอหนึ่งองค์ ตะกรุดคาดเอวอีกเส้นหนึ่ง กับตำแหน่งปลัดอำเภอบางเลน

Father told me that when he was twenty-five, he wore only one silk hip wrapper, a single jacket, a Buddha amulet round his neck and a thin magic chain* fastened to his waist, and held the position of assistant district officer in Bang Len**.


พ่อได้กับแม่ที่นี่ พี่ชายของแม่เป็นนัก เลงใหญ่ ออกชื่อได้ทั่วตั้งแต่งิ้วรายไปจนถึงเดิมบางนางบวช ปลูกตลาดให้คนเช่าอยู่บางไทร ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอบางเลน พ่อเป็นข้าราชการ ทำไมได้แม่ซึ่งเป็นน้องของนักเลง ตอนนี้พ่อไม่ได้เล่า

Father had known Mother there. Her elder brother was a big gangster whose reputation stretched from Ngiu Rai to what used to be Bang Nang Buat. He had built a market with stalls to let at Bang Sai, which was in the Bang Len district. Father was a civil servant. How he came to marry the little sister of an underworld boss, this Father left unsaid.


พ่อกับลุง เป็นคนละชั้นกันเลย เทียบกันไม่ได้แน่ ลุงกิน จอนนี่ วอล์คเกอร์ทุกมื้อ มีไก่ตอนแกล้ม นอนกินบนเก้าอี้ผ้าใบ มีคนพัด 1 คน คนนวดอีก 1 คน มีเมียนับสิบประจำการอยู่ตลอดวันยังค่ำคืนยังรุ่ง พอลุงเบื่อไก่ตอนที่นั่น ลุงจะไปเที่ยวบางกอกเหมา
“เสียโป” ทั้งหาบกินกับบริวาร ซึ่งกางเกงแพรปังลิ้น ดูละครแม่บุนนาค แล้วยกพวกกลับบางไทร ทั้งขาไปขากลับนั่งเรือเมล์ฟรีหมดทุกคน
Father and Uncle were of different walks of life. They couldn’t be compared. Uncle drank Johnny Walker with every meal, along with capon titbits he ate reclining on a canvas seat. One man fanned him, another massaged him. He had a dozen wives in attendance round the clock. As soon as he got fed up with capon there, he would go for an outing in Bangkok, buy up basketfuls of red pork crack-lings* for him and his retinue to nibble, buy moiré dark trousers**, go to Mother Bunnag’s theatre*** and then return with his escort to Bang Len. Coming and going, they all sat in the boat free of charge.


เสียโป


ส่วนพ่อกินแต่ข้าว คร่ำเคร่งอยู่กับราชการ และแม่ต้องหาบน้ำใส่ตุ่มเอง

As for Father, he ate only rice, was absorbed in his duties, and it was Mother who carried water on shoulder poles to fill the jar.


ทำไมพ่อจึงจน ทำไมลุงจึงรวย?

Why was Father poor? Why was Uncle rich?


เพราะพ่อเป็นข้าราชการเล็กๆ ผู้ซื่อสัตย์ แต่ลุงเป็นนายบ่อนการพนันผู้มีอิทธิพล

Because Father was a lowly civil servant and an honest man, but Uncle was a gambling lord, a man of influence.


ไม่มีใครปราบลุงได้ เพราะลุงมียามคอยอยู่ฟากแม่น้ำตรงข้ามฝั่งอำเภอ พอมีคำสั่งจับบ่อนของลุง พรรคพวกก็จะโบกมือให้สัญญาณ เจ้าหน้าที่ผู้จับกุมก็ลงเรือจ้างแจวจากบางเลนมาบางไทร พอมาถึงก็พบว่าไม่มีแม้แต่ไพ่ตัวเดียวในบ้านของลุง ทั้งนี้เพราะคนของลุงมาถึงก่อนเจ้าหน้าที่ พวกเจ้าหน้าที่มาเรือจ้าง แต่คนของลุงขี่ม้ามา

No one could suppress Uncle, because he had sentries watch­ing on the side of the river opposite the district office. As soon as the order came to raid Uncle’s gambling den, they would signal with their hands. The officers in charge of suppression would take a hired boat and paddle from Bang Len to Bang Sai. By the time they got there, they would find not a single playing card in Uncle’s house, because his men had preceded them. The officers had come by boat; Uncle’s men had ridden horses.


เขาจึงพากันพูดว่า เพราะพ่อเป็นน้องเขยจึงไม่ถูกจับสักที เขาหาว่าพ่อนี่แหละเป็นสายให้ลุง แล้วเขาก็สั่งให้พ่อจับลุงดูบ้าง พ่อไปคนเดียว ไปเรือจ้าง ไม่มีปืน มีแต่พระกำแพงกับตะกรุดคาดเอวเส้นนั้น

So it was rumoured that it was because Father was his brother-in-law that Uncle was never arrest­ed, that Father himself was his accomplice. Thus one day Father was order­ed to arrest Uncle. Father went alone. He went in the hired boat. He had no gun. He had only his amulet, and his magic chain at the waist.


ยามของลุงขี่ม้ามาบอกลุงว่า พ่อกำลังลงเรือมาแล้ว มาคนเดียว ลุงจึงบอกว่าถ้างั้นเล่นกันต่อไปไม่ต้องหยุด มาคนเดียวจะทำอะไรกูได้

One horse-riding sentry arrived and told Uncle that Father was already in the boat, and was coming alone. Uncle thus said, ‘In that case let’s go on playing. No need to stop: coming on his own what can he do to me?’


พ่อขึ้นเรือจ้างหน้าตลาดของลุง เดินเข้าบ่อน ทางเข้าเป็นซอกแคบๆ และไกล ลุงทำไว้เพื่อบังคับให้คนที่จะเข้าบ่อนต้องเดินเรียงหนึ่ง และเมื่อจะจุกหัวจุกท้ายซอกนี้เพื่อปิดประตูตีแมว ก็จะทำได้โดยง่าย ปากซอกมียามคนหนึ่ง ยกมือไหว้พ่อ ปล่อยให้พ่อผ่านไปถึงก้นซอก ซึ่งมีประตูเปิดเข้าในบ่อน คนยามอีกคนหนึ่งก็ยกมือไหว้พ่อ และเปิดประตูให้เข้าไปโดยดี

Father got out of the boat in front of Uncle’s market and walked up to the gambling den. The entrance was a long and narrow corridor Uncle had built to force people to file in and to make it easy to handle officials by locking the doors at both ends. The entrance to the corridor had a guard. He raised his joined hands and bowed to Father, letting him go through. At the end of the corridor was a door opening onto the gambling den. Another guard there raised his joined hands and bowed to Father and then opened the door for him to enter.


ลุงนอนกินเหล้าบนเก้าอี้ผ้าใบ ไฮโลกำลังคลั่ง เผสองวงเสียงลั่น จั้บยีกีกำลังโกยเงิน ไพ่จีนก็ไม่เลว พอเสียงประตูเปิด ลุงเอี้ยวตัวมามองแล้วทักว่า อ้อ ปลัดมา

Uncle was reclining on his canvas seat, drinking whisky. Hi-lo was in full swing. Two circles of poker were clamour­ing. Jap Yee Kee* was scooping fistfuls of money. The Chinese card game wasn’t doing badly either. When he heard the door open, Uncle turned to look and then greeted, ‘Oh, there you are, officer!’


พ่อยกมือไหว้แล้วว่า สบายดีหรือพี่?

Father raised his hands and bowed and then said, ‘How are you, Big Brother?’


คนทั้งหมดแตกฮือเหมือนไฟพะเนียง ฝาเฝืองแทบพัง แต่คนเข้ามาอยู่ในนี้แล้วออกไปไหนไม่ได้เหมือนกัน กำแพงบ่อนของลุงทำด้วยสังกะสี หนาสองชั้น สูงท่วมหัวสองช่วงตัวคน คนทั้งหลายตะปบเงินยุ่งไปหมด

The room exploded like a Roman candle, the walls almost burst, but whoever came in there couldn’t get out. The walls of Uncle’s den were made of double-plated corrugated iron, high as twice a man’s height. Everyone grabbed their money in utter confusion.


ลุงตะโกนว่า อยู่เฉยๆ โว้ย ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร

Uncle shouted out, ‘Quiet, you fools! It’s all right, it’s all right.’


พ่อตะโกนซ้ำว่า อยู่เฉยๆ อย่าหนี

Father shouted out as well, ‘Quiet! Don’t flee!’


ทุกคนเงียบไม่กระดุกกระดิก เหมือนถูกสาปด้วยคำสั่งของข้าราชการเล็กๆ ผู้นี้

Everybody was silent and still, as if under the spell of this lowly civil servant.


ลุงถามพ่อว่า มาธุระอะไร

Uncle asked Father, ‘Why have you come?’

พ่อตอบสั้นๆ ว่า จับ

Father answered simply, ‘To arrest you.’

ลุงหัวเราะร่วน ยกเหล้าขึ้นกิน แล้วว่า จะไหวหรือวะ

Uncle burst out laughing, raised his glass, drank and then said, ‘You think you can?’

พ่อบอกว่า ไหวไม่ไหวก็ต้องทำ

Father told him, ‘Whether I can or not, I must.’

ลุงว่า จะทำอีท่าไหน

Uncle said, ‘How do you intend to go about it?’

พ่อตอบ ก็เอาตัวไปอำเภอทุกคน

Father answered, ‘Well, have everyone here go to the district office.’

ลุงว่า ข้าหากินมานานแล้ว ยังไม่เคยขึ้นอำเภอเลยแหละ ข้าจะไม่ยอมขึ้นเป็นอันขาด

Uncle said, ‘I’ve long been in this business and never once gone to the district office and there’s no way I ever will.’

พ่อว่า เดี๋ยวนี้อำเภอก็อุตส่าห์ลงมาหาพี่แล้ว มาเชิญ มามือเปล่า

Father said, ‘Well, now the district office has come to you, unarmed.’


ลุงว่า ยิ่งมือเปล่า ยิ่งไม่มีวันสำเร็จ ข้าจะยิงแกเสียก็ได้ ปลัด

Uncle said, ‘And unarmed to boot! You’ll never succeed. I’ll shoot you first, you know, officer.’

พ่อว่า ก็เชิญ

Father said, ‘Suit yourself.’

ลุงว่า กลัวน้องสาวข้าจะเป็นหม้ายเสียเท่านั้นแหละวะ

Uncle said, ‘I’m only afraid my sister will be widowed.’

พ่อว่า ตอนนี้อย่าเอาเรื่องวงศ์ญาติมาพูดกันเลย ฉันมาราชการ เร็วเข้า ทุกคนไปลงเรือ

Father said, ‘Leave family relations out of it. I’ve come on official business. Come on, everybody into the boat!’

ลุงว่า แกคนเดียวคุมเขาไหวหรือ พอปล่อยออกไปข้างนอกมันก็วิ่งเปิดตูดกันไปหมด

Uncle said, ‘Do you think you can control every­one on your own? As soon as you’re outside, they’ll show you their backside and scarper every which way.’


พ่อว่า นั่นต้องแล้วแต่พี่ พี่คุมไป ไม่ใช่ฉันคุม พี่คุมคนพวกนี้ ฉันคุมพี่อีกทีหนึ่ง

Father said, ‘That’s up to you. You control them, not me. You control these people and I control you.’

ลุงว่า พูดแปลกๆ อย่างนี้ เฮ้ย ใครหยิบปืนให้กูทีเถอะวะ

Uncle said, ‘What’s this nonsense? Someone pass me a gun.’

สมุนส่งปืนให้ลุง ลุงยังคงนอนอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบ รับปืนมาเดาะเล่นในมือ แล้วถามว่า ยังจะต้องจับอยู่อีกหรือ

An underling handed Uncle a gun. Uncle, still reclining on the canvas seat, took the gun and toss­ed and caught it playfully in his hand and then ask­ed, ‘Do you still want to arrest me?’

พ่อยืนยัน

Father confirmed.

ลุงส่ายหน้า แล้วว่า ทำไมคนที่มาจับข้าจะต้องเป็นแก ทำไมไม่ส่งคนอื่นมา ทำไมข้าจะต้องยิงน้องเขยของข้า

Uncle shook his head and then said, ‘Why does it have to be you arresting me? Why couldn’t they send someone else? Why do I have to shoot my own brother-in-law?’


พ่ออธิบายให้ฟังว่า เขาพูดกันว่า การที่พี่ปิดบ่อนได้ทันทุกทีนั้นเป็นเพราะมีน้องเขยเป็นปลัดอำเภอ ฉันต้องมาพิสูจน์ให้คนเห็น ยิงฉันเสียก็ดี จะได้รู้กันชัดๆ ว่าปลัดอำเภอคนนี้ มิได้เข้าข้างผู้ทุจริตเลย

Father explained, ‘People say that if you can close your gambling joint on time every time it’s because the assistant district officer is your brother-in-law. I have to show those people. If I die they’ll know for good that this assistant district officer doesn’t side with the crooked.’

ลุงตวาดว่า การเล่นการพนันนี้ทุจริตตรงไหนวะ

Uncle roared, ‘What the hell’s crooked about gamb­ling?’

พ่อว่า มันนอกกฎหมาย อะไรๆ นอกกฎหมายทุจริตทั้งนั้น

Father said, ‘It’s illegal. Everything that’s illegal is wrong.’


ลุงยกปืนขึ้นส่อง คนหลบกันเป็นแถวๆ แต่พ่อยืนนิ่งๆ ลุงบอกว่าตลอดชีวิต ข้าก็ดูเหมือนทำนอกกฎหมายทั้งนั้น การยิงคนก็นอกกฎหมาย ข้าทำมานานจนเคยมือ ทำอีกสักทีคงจะไม่กระไรนัก

Uncle raised the gun and pointed it. People scrambled out of the way. But Father stood still. Uncle told him, ‘Everything I’ve done all my life is illegal, you could say. Shooting someone is illegal too. I’ve done it so often I’m used to it. Doing it once more is nothing much.’


พ่อยืดอก สายตะกรุดที่เอวเสียดสีอยู่ที่เอว พระกำแพงเต้นอยู่ที่หน้าอก พ่อพูดว่า
ฉันมาราชการของพระเจ้าอยู่หัว ใครยิงฉันก็เท่ากับหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ!!
Father thrust out his chest. The magic chain rub­bed against his waist. The Buddha amulet jolted on his chest. Father said, ‘I’m here on His Majesty’s service. Shooting me is tantamount to committing lèse-majesté.’


ลุงลดปืน ราวกับว่ามันหนักอึ้งขึ้นมาจนคอนไว้ไม่ไหว สะบัดหัวงงๆ ลุงเคยเป็นมหาดเล็กในกรมพระองค์หนึ่งมาแล้ว พระบารมีนั่นเองที่ทำให้ลุงเป็นนักเลงใหญ่ได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ พูดกันง่ายๆ ลุงก็เป็นชีวิตหนึ่งใต้ร่มพระบารมีพระเจ้าอยู่หัวเหมือน กับพ่อ

Uncle lowered the gun as if it had grown so heavy he couldn’t hold it up. He shook his head, mystified. Uncle had once been a royal page. It was the prestige of royal service that had made him a big shot more easily than anyone else. To put it plainly, Uncle was yet another life under His Majesty’s benevolent protection just as Father was.

เลิกแล้วต่อกันสักทีไม่ได้หรือ ปลัด

‘Can’t we just give this up, officer?’

เลิกไม่ได้ มามือเปล่า กลับไปต้องมีของติดมือ

‘I can’t. I came empty-handed. When I return, I must have something in hand.’


ลุงโยนปืนทิ้งแล้วว่า ข้าจะต้องวิ่งเต้นให้แกย้ายไปอยู่อำเภออื่นเสียแล้วละ ปลัด

Uncle threw the gun away and then said, ‘I’ll have to pull strings and get you transferred to some other district, officer.’

พ่อว่า ดีซี พี่จะได้เปิดบ่อนได้สะดวก ฉันไม่อยากอยู่อำเภอนี้เหมือนกัน ถ้าอยู่ก็ต้องจับกันเรื่อยอย่างนี้แหละ

Father said, ‘That’s fine. That way you won’t have prob­lems keeping your den open. I don’t want to stay in this district anyway. If I stay I must keep arresting you.’

ลุงว่า ข้าพูดจริงๆ นา

Uncle said, ‘I’m telling the truth, you know.’

พ่อว่า ฉันก็พูดจริง อยู่อำเภอนี้ต้องจับคนด้วยมือเปล่า อยากให้ไปที่อื่น อยากถือปืนจับคนเสียบ้าง

Father said, ‘So am I. If I stay here, I have to make arrests with my bare hands. I’d like to go some­where else where I can make arrests at gunpoint.’


ถึงตอนนี้ลุงนิ่งอึ้ง พิจารณาใบหน้าอันซื่อเศร้าและวิงวอนของพ่ออยู่เป็นเวลานาน แล้วลุกขึ้นเอามือไพล่หลังเดินไปเดินมา ผลสุดท้ายมาหยุดตรงหน้าพ่อ แล้วว่า เอาวะ ข้ายอมแพ้ จับก็จับ คงไม่เท่าไหร่หรอก

By now, Uncle was stumped. He scrutinised Father’s honest, sad and worried face for a long time, then got up and paced up and down with his hands clasped behind his back. Finally he came to a stop in front of Father and said, ‘All right, I give up. So be it. It won’t amount to much anyway.’

พ่อว่า ถ้างั้นไปลงเรือทุกคน

Father said, ‘In that case, everybody to the boat!’

ลุงไม่ตกลง บอกว่า ไม่ได้แน่ แกจะคุมข้าไปไม่ได้หรอก มันไม่น่าเชื่อ และอีกประการหนึ่ง คนอย่างข้าถูกใครคุมไม่ได้ ขอทีเถอะวะ

Uncle didn’t agree and said, ‘No way! You can’t put me under arrest. It’s unheard of. And besides, no one can lord over someone like me. I won’t have it.’

พ่อว่า อ้าว ไหนว่ายอม

Father said, ‘What now? Didn’t you say you were giving up?’


ลุงว่า ก็ยอม แต่ไม่ต้องคุมไป ให้เกียรติแก่ข้าสักครั้งเถอะ แกกลับไปก่อน พรุ่งนี้ข้าจะเอาไอ้พวกนี้ทุกคนไปใส่ห้องขังคอยท่าแกก่อนตื่น

Uncle said, ‘I did. But you don’t have to arrest me. Show me some respect for once. You go back first. Tomorrow I’ll have everyone here waiting in the jail for you to wake up.’


พ่อยืนนิ่งตัดสินใจ แล้วว่า ถ้างั้นขอกระดาษดินสอจดชื่อคนพวกนี้ให้ครบหมดทุกคน ฉันจะยึดบัญชีชื่อไว้ พรุ่งนี้พี่พาไปถึงอำเภอเมื่อไหร่ ฉันจะได้ตรวจถูก

Father stood still, making up his mind, and then said, ‘In that case, let me have some paper and pencil to take down the names of all the people here. I’ll keep the list so that tomorrow when you take them to the district I can check correctly.’

ลุงว่า ข้อนั้น ไม่ขัดข้อง

Uncle said, ‘No objection to that.’


พ่อลงเรือจ้างกลับไปพร้อมด้วยบัญชีรายชื่อ คนทั้งอำเภอมองพ่ออย่างเหยียดๆ บางคนมองทะลุเข้าไปเห็นมัดเงินเป็นปึกๆ ในกระเป๋าพ่อ คงพากันคิดว่าพ่อเหลว กลับมาด้วยถูกเงินติดสินบน

Father took the hired boat back along with the list of names. The entire district looked at him with despise. Some people even saw wads of banknotes in Father’s pockets, convinced as they were that he was returning with a bribe.

พ่อเดินหงอยๆ กลับบ้าน บอกแม่ด้วยเสียงสั่นๆ ว่า ฉันไปจับพี่เขามาแล้ว

Father walked back home dejectedly, and told Mother with a shaky voice, ‘I’ve gone and arrested your brother.’

แม่ร้องลั่นบ้านว่า ตายแล้ว พ่อว่าเกือบไป แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง แม่นอนร้องไห้ทั้งคืนพ่อก็พลอยนอนตาไม่หลับไปด้วย

Mother’s shout shook the house: ‘We’re done for!’ Father said, ‘Not yet,’ then told her the whole story. Mother lay crying all night. Father didn’t sleep a wink either.


รุ่งขึ้น ลุงยกขบวนพวกเล่นการพนันมาจริงๆ เอาเรือแท็กซี่ของลุงเองขนมาแน่นยังกับคนจะไปทอดกฐิน ลุงแต่งดำทั้งชุด กางเกงแพร และเสื้อกุยเฮง เคี้ยวหมากหยับๆ นั่งพิงหมอนสามเหลี่ยมอยู่หัวเรือ มองเห็นเด่นกว่าใคร จอดเรือที่ท่าหน้าอำเภอ ต้อนคนทั้งหลายไปอำเภอ

The next morning, Uncle truly took the whole gang of gamblers into his own taxi boat, which was full as if on an outing to present monks with new robes. Uncle was dressed all in black, silk trousers and Chinese jacket, and chewed betel sloppily as he sat with his back on a triangular cushion at the prow, which offered the best view. He had the boat stop at the pier in front of the district office and herded the whole group inside.


ไต่สวนกันอย่างละเอียดลออ ซื่อเข้าหากันทั้งสองฝ่าย ตกลงเป็นการปรับ ลุงรับออกค่าปรับทั้งหมดแต่ผู้เดียวเป็นเงินหลายชั่ง ซึ่งพ่อได้รางวัลนำจับ ชักจากเงินนี้ถึงสองชั่ง เสร็จธุระ ลุงก็ยกพวกกลับ ไม่แวะไปเยี่ยมแม่เลย

A detailed inquiry was held, a straightforward confront­ation. Fines were agreed upon. Uncle paid all the fines himself. They amounted to quite a lot of chang*. Father received a reward for the arrest, taken from that money and amounting to two chang. Business concluded Uncle took his people back, without calling on his sister.


พ่อถือเงินสองชั่งกลับบ้าน เล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟังและปรึกษาว่า ฉันจะเอาเงินสองชั่งนี้ไปคืนพี่เขาเย็นนี้แหละ

Father took the two chang back home, told Mother the whole story and added, ‘This evening, I’ll go and give this money back to your brother.’

แม่พูดว่า คราวนี้เขายิงแน่ล่ะ แล้วแม่ก็เป็นลม

Mother said, ‘If you do that, this time he’ll shoot you for sure,’ and then she fainted.


ลอกมาจาก http://thaifiction.wordpress.com/

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

excellent post I'm a huge BB fan
Also see my page > big brother mad

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง