บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ลัทธิเพื่อไทย กางสูตรรัฐบาล + พล.อ.เปรม = การเมืองนิ่ง....


นิวัฒน์ธำรง-ลงธรรมาสน์ ธุดงค์ในทำเนียบ เผยแพร่ลัทธิเพื่อไทย กางสูตรรัฐบาล + พล.อ.เปรม = การเมืองนิ่ง....

;

เขาลงจากตึกชินวัตร หันหลังให้ธุรกิจมือถือ ครั้งแรกไปประจำการที่สถานีโทรทัศน์ไอทีวีเมื่อ 10 ปีก่อน

เมื่อไอทีวีโดนมรสุมการเมืองพัดถล่มจนล้มเลิก เขากลับขึ้นตึกชินวัตรอีกครั้ง

เมื่ออำนาจวาสนาของ "ทักษิณ

ชินวัตร" อัสดงอยู่ในพงหนามรัฐประหาร 2549 เขาหันหลังให้ "ชินคอร์ป" อีกหน ไปค้นหาทางธรรมที่วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จ.ลำพูน

ระหว่างบวชได้สนทนาธรรมกับพี่-น้องในตระกูล "ชินวัตร" สม่ำเสมอ

เมื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ลงสมัครเลือกตั้ง จีวรเคยเย็นร่ม ก็รุ่มร้อน

"นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล" กลับจากวัดป่ามาสู่เมือง ขึ้น-ลงตึกไทยคู่ฟ้าในฐานะมือขวา ที่ปรึกษาส่วนตัวนายกรัฐมนตรีอยู่หลายเดือน

เมื่อเขาลงจากธรรมาสน์ ขึ้นบัลลังก์รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กับประสบการณ์ 17 ปีที่ทำงานให้ครอบครัว "ชินวัตร"

จากบรรทัดนี้ไปจนถึงบรรทัดสุดท้าย คือประวัติศาสตร์ใหม่ของ "นิวัฒน์ธำรง"

- อยากให้ประชาชนรู้จัก "นิวัฒน์ธำรง" แบบไหน เป็นวอลเปเปอร์ นักจัดฉาก หรือคนของทักษิณ พี่เลี้ยงนายกฯ

เป็นนักทำงาน "เป็นลูกน้องนายกฯ งานของผมมี 3 ข้อคือ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ทำงานประชาสัมพันธ์ เรื่องสำนักพุทธ และเรื่องดูเรื่องสื่อ ก็เรียกว่านักทำงานมืออาชีพ ผมมีความรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ว่าเรามาทำงาน เหมือนที่เคยทำสมัยทำงานตั้งแต่หนุ่มจนแก่

- การจัดอีเวนต์ให้กับนายกฯในการปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ หรือพบกับบุคคลสำคัญ ถือเป็นภารกิจสำคัญ
มันอาจเป็นเพราะงานพาไป งานเรื่องน้ำก็ไปเจอคนเยอะ โครงการรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นจำนำข้าว, เอสเอ็มแอล หรือว่าแท็บเลตพีซี เราก็เป็นผู้ประสานงานให้ คอยสนับสนุนเขา เขามีปัญหาให้ช่วยแก้ไขก็เข้าไปช่วย

- นอกจากอีเวนต์นายกรัฐมนตรีพบประธานองคมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีพบผู้นำเหล่าทัพ พบนักธุรกิจ จะมีอีเวนต์อะไรอีก
อย่ามาให้เครดิตผมมากนัก การพบผู้นำเหล่าทัพเขาก็พบกันมานานแล้ว แสดงว่าผมบุญหล่นทับ ผมไม่ได้เป็นคนเขี่ยบอล แต่นายกรัฐมนตรีท่านเก่ง การที่ประสานกับผู้หลักผู้ใหญ่ ท่านเข้ากับคนง่าย เป็นผู้หญิงอ่อนหวาน นุ่มนวล ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ทุกคนก็เอ็นดู

- เบื้องหลังงานนายกฯพบกับประธานองคมนตรี ต้องการถ่ายทอดอะไรมากกว่าการให้ทีวีถ่ายทอดสด 2 ชั่วโมง
สิ่งที่เราอยากเห็นคือ ความเชื่อมั่นของทั้งคนไทยและต่างประเทศว่าเราผ่านวิกฤตอะไรมาเยอะ จะเป็นความแตกแยกหรืออะไรก็แล้วแต่ วันนี้เราพร้อมเพื่อเดินหน้าประเทศไทย ต้องคิดว่าวันนี้มาเลเซีย สิงคโปร์ วันนี้เขานำเรา เวียดนามเปิดประเทศมาวันนี้เขาก็เทียบเท่าเรา และพม่าจะเปิดประเทศอีก แล้วเราจะมานั่งอยู่อย่างนี้ได้อย่างไร

ดังนั้น ความเชื่อมั่นของคนไทยและต่างประเทศนั้นสำคัญ เราต้องแย่งนักลงทุน นักธุรกิจ นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ ถ้าเรายังไม่ไปด้วยกันทุกฝ่ายก็คงจะไม่ได้

- งานนายกรัฐมนตรีพบประธานองคมนตรี รัฐบาลกำลังบอกว่าการเมืองนิ่ง
การเมืองเป็นปัจจัยสำคัญของประเทศ ถ้าถามว่านิ่งแล้วหรือไม่ ผมว่ามันดีขึ้นกว่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ผมว่ารัฐบาลของนายกฯยิ่งลักษณ์จะช่วยการเมืองนิ่งขึ้น และมีความสามัคคี

ปรองดองได้ง่ายกว่ารัฐบาลอื่น ๆ

- แสดงว่าฝ่ายคุณทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ยอมรับแล้วว่าที่ผ่านมาฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาลคือ พล.อ.เปรม
ไม่ใช่...ท่านเป็นผู้ที่หลายฝ่ายเคารพนับถือ และมีหลายคนที่จะช่วยประเทศไทยผนึกกำลังกันได้ ซึ่งท่านก็เป็นผู้หนึ่ง ไม่ใช่ว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม ท่านเป็นผู้ที่คนยอมรับ รวมทั้งรัฐบาลก็ต้องยอมรับนับถือผู้หลักผู้ใหญ่

- จะเสียแนวร่วมหรือไม่ เพราะแนวร่วมรัฐบาลอย่างคนเสื้อแดงก็เผชิญหน้ากับ พล.อ.เปรม มาโดยตลอด
เรื่องมันมีหลายมิติ และรัฐบาลต้องมองประเทศชาติ ผมเชื่อว่าทุกสีทุกฝ่ายก็ต้องมองประเทศชาติ อะไรที่ทำแล้วประเทศชาติไปได้ดี ผมเชื่อว่าไม่มีปัญหา ทุกวันนี้ก็ไม่มีเสียงสะท้อนว่ารัฐบาลเขาจัดเอาใจใคร ก็ไม่เห็นมี ทุกคนทุกฝ่ายต้องการให้ประเทศดีขึ้น

- ประเมินว่ารัฐบาลจะได้แต้มต่ออะไรในงานรักเมืองไทยเดินหน้าประเทศไทย
ผมว่าเราไม่ได้มองว่ารัฐบาลจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อให้ได้คะแนนเสียงขึ้นมา มากกว่าพรรคฝ่ายค้านหรือคนอื่น แต่ผมมองว่านี่ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องผนึกกำลัง เราต้องแข่งกับคนอื่น ไม่ใช่แข่งกันเอง เราจะเข้าสมาคมอาเซียน ประเทศอื่นเขาไปกันแล้ว แต่เรายังไม่ไปไหน เราจะสู้เขาไหวได้อย่างไร

- หมายความว่าสูตรรัฐบาลบวก พล.อ.เปรม เท่ากับการเมืองนิ่ง ประเทศไปข้างหน้า
มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่ง แต่เราต้องทำหลายอย่าง เพื่อทำให้ประเทศเข้าสู่แนวทางที่จะช่วยกันพัฒนาประเทศให้ดี อย่าไปจับคู่ป๋าเปรมกับรัฐบาล ต้องมีขาอื่นที่เดินไปด้วย เราต้องทำหลาย ๆ อย่างไปพร้อมกันเพื่อให้ประเทศมันดี ทุกคนเข้ามาผูกกันเหมือนเดิม

- แม้ภาพในทำเนียบจะแสดงให้เห็นถึงความปรองดอง แต่ภาพข้างนอกยังถกเถียงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญยังเขย่ารัฐบาล
เรามีรัฐธรรมนูญมาเป็น 18 ฉบับ บางมาตราตั้งแต่ฉบับที่ 1 โครงรัฐธรรมนูญยังเหมือนเดิม แต่เนื้อหาอันไหนไม่ดีก็เปลี่ยนให้มันดีขึ้น มันไม่ใช่สิ่งเลวร้ายนะแต่เราเอาสิ่งที่ดีเข้าไปใส่ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างคล่องแคล่วเป็นประชาธิปไตย

- แต่เมื่อไรที่รัฐธรรมนูญถูกนำไปรวมกับเรื่องที่ว่าด้วยกฎหมายอาญา 112 ก็จะมีปัญหา
มันคนละเรื่อง มาตรา 291 เป็นรัฐธรรมนูญ มาตรา 112 เป็นกฎหมายอาญา เราไม่แตะตรงนั้น แม้จะมีบ้างก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัว เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่รัฐบาลแน่นอน

- ทำไมพรรคเพื่อไทยถึงมองว่ามาตรา 112 เป็นของต้องห้าม
สังคมไปมองและพยายามป้ายให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง ผมกำลังบอกว่ามาตรา 112 เป็นอะไรที่ไม่ใช่เวลานี้ เมื่อไรไม่รู้ เราไม่ได้เข้าไปเกี่ยว ไม่ได้ไปยุ่งด้วย

- บทบาทคุณนิวัฒน์ธำรงคือต้องไปทำความเข้าใจเรื่องนี้ด้วยหรือไม่
ผมก็เป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายประชาสัมพันธ์ ผมก็มาคุยกับสื่อเพื่อให้เห็นให้เข้าใจว่า นี่คือสิ่งที่รัฐบาลคิด รัฐบาลทำ เป้าหมายเป็นอย่างนี้ ต้องการทำให้ประเทศดีขึ้น เพราะเราหยุดการพัฒนามาหลายปีแล้ว

- ถ้าคนมองว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลเป็นแนวร่วมในการล้มสถาบันจะอธิบายอย่างไร
ก็บอกว่าไม่ใช่ เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับการล้มสถาบัน เพราะดูพฤติกรรมจากรัฐบาลก็ไม่มี มีแต่ถวายความจงรักภักดี

- แต่คนจำนวนหนึ่งก็ยังแคลงใจ คาใจ
ก็เป็นเรื่องของเขา เขาสามารถมองได้ คิดอย่างนั้นได้ด้วยใจบริสุทธิ์หรือไม่ผมไม่รู้ อาจจะมีใจไม่บริสุทธิ์ก็มีไม่น้อยนะ แต่เราไม่ว่าเขา เขาจะคิดไปก็ปล่อยเขา จะไปบังคับไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราต้องพิสูจน์

- รัฐบาลชุดนี้จำเป็นต้องมีคนประสานงานกับราชสำนักโดยตรงหรือไม่
เวลาทำงานเขาก็ต้องทำอยู่แล้ว เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกับสำนักราชเลขาธิการก็ประสานงานกันหลายเรื่อง

- เรื่องน้ำที่พระองค์ท่านพระราชทานคำแนะนำมาให้ หลักใหญ่ ๆ คืออะไร
ท่านปราโมทย์ (ไม้กลัด) ท่านสุเมธ (ตันติเวชกุล) ดร.สมิทธ (ธรรมสโรช) ท่านรอยล (จิตรดอน) ท่านอานนท์ (สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) คือทุกคนที่พระองค์ท่านใช้ทั้งนั้น คนพวกนี้แล้วคุณคิดว่าอย่างไร ก็ไม่ต้องตอบอย่างอื่น ถามว่าสิ่งที่พระองค์ท่านคิดถูกต้องหรือไม่ ก็ถูกต้องมาตั้งนานแล้ว พวกเราต่างหากที่ไม่ทำตั้งแต่ปี 2538 ทำอะไรก็ไม่ตรงกับที่พระองค์ท่านได้ออกแบบไว้ มัวแต่ไปสร้างบ้านจนทางน้ำหายหมด

- ในฐานะที่ดูเรื่องการประชาสัมพันธ์ ทำไมรัฐบาลถึงยังไม่มีโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เราจะหาดีที่สุด ต้องเป็นคนที่สามารถประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนได้ดี และต้องรู้จักวิธีการหลาย ๆ วิธีในการประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่พูดเพียงอย่างเดียว ซึ่งคนในพรรคก็พอมี แต่อาจจะคนข้างนอกก็ได้ คือเรื่องนี้มันต้องการคนมีไอเดีย มีความคิดสร้างสรรค์

- เป็นมืออาชีพสายธุรกิจ ทางธรรมก็ผ่านมาแล้ว ในทางการเมืองหวังจะบรรลุอะไรที่นี่
หวังจะช่วยประเทศชาติ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองเรา นี่คือสิ่งที่อยากได้ เราก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้งานที่ตั้งใจจะทำไปสู่ความสำเร็จ

- การเมืองมีเงื่อนไขที่ควบคุมไม่ได้เยอะ จะบริหารจัดการอย่างไร
ก็ต้องอธิบาย เชิญชวน ชักชวน

ลาก ๆ กันไป เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้สังคมรวมกันเป็นก้อนเดียว ยิ่งเป็นประชาธิปไตยด้วยแล้วการอธิบายอะไรก็เป็นเรื่องใหญ่ มันไม่ใช่ระบบทุบโต๊ะ

- คิดว่าตัวเองจะทนทานการเมือง จนอยู่ครบสมัยรัฐบาลหรือไม่
ถ้าถามใจก็อยากอยู่สิ (หัวเราะ) แต่เขาจะให้อยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้

- การลาออกจาก ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์หมายความว่าต้องอยู่ยาวในรัฐบาล
ถ้าไม่ได้อยู่ก็ตกงาน (หัวเราะ) แต่ต้องเข้าใจว่าเราเข้ามาก็ตั้งใจใช้เวลา 100% กับการทำงานที่นี่ จะให้ผมวิ่งไปรัฐสภาก็จะไม่ดี ผมยังมีงานตามที่ได้รับมอบหมายอีกเยอะ ก็อยากทุ่มเท

- ได้คุมงานด้านสื่อ ถูกมองว่าจะทำให้การจัดการกับสื่อแนบเนียนยิ่งขึ้นหรือไม่
เวลาส่วนใหญ่ผมไปอยู่ที่เรื่องน้ำ เรื่องโครงการ เรื่องการควบคุมสื่อ ผมก็มาช่วยเขามากกว่า ผมเชื่อว่าจากความเข้าใจกัน รู้งานกัน น่าจะช่วยเขาในมุมนั้น อย่างอื่นก็ปล่อยเขาทำไปเถอะ

- รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ 2" มีรัฐมนตรีและที่ปรึกษาส่วนใหญ่จากกลุ่มชินคอร์ป (อินทัช) เป็นการเข้ามาครอบครองอำนาจในรัฐบาลหรือครอบงำกันแน่
ที่พวกเรามาคือนักทำงาน ไม่ใช่นักการเมืองสักคน ก็เข้ามาทำงานให้สำเร็จตามนโยบายที่วางเอาไว้ เพราะคนนิยมถึงได้คะแนนเสียงมามาก ก็ไม่มีวัตถุประสงค์อื่น เราก็ต้องเอาคนทำงานเป็นเข้ามา อย่าคิดว่าเป็นรัฐบาลเอานักการเมือง อาจารย์ นักกฎหมายเข้ามาแล้วทำงานไม่เป็น ประเทศชาติก็เสียโอกาส วันนี้ต้องทำงานแข่งกับต่างประเทศ ก็ต้องเอาคนทำงานเป็นเข้ามา

- จากโลกไปทางธรรมครั้งหนึ่งแล้ว ทำไมถึงกลับมาทางโลกอีก
จริง ๆ ผมไปบวชเพราะผมเออร์ลี่งานไป เพราะไม่มีไอทีวีแล้ว ไปอยู่ตึกชินสักพักหนึ่ง และผมก็บวชที่ลำพูน ท่านก็ชวนบวชมาตั้งนานแล้ว ก็ไม่รู้จะบวชยาวหรือสั้น ผมก็เขียนใบลาออกว่า หลวงพ่อชวนไปบวชและไม่รู้ว่าจะนานหรือไม่ ถ้าบวชนานก็ขอให้เป็นเรื่องลาออก ถ้าบวชสั้นผมก็จะกลับมาทำงานใหม่

ทิ้งครอบครัวมา 2 ปีแล้ว เป็นห่วงครอบครัวก็เลยสึกออกมา ก็ไม่ได้ทำอะไรมาเกือบปี จนกระทั่งเลือกตั้ง เขาก็ชวนให้มาช่วย เราก็เลยมา ฉะนั้นไม่ใช่จีวรร้อนเพราะการเมือง เพราะผมสึกมาก่อนเลือกตั้งตั้ง 1 ปี

จริง ๆ แล้วคุณทักษิณก็ไม่ได้ขอให้เราสึกนะ ก็เคยเจอคุณยิ่งลักษณ์ เพราะมีสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่เชียงใหม่จัดงานประจำปีก็นิมนต์ให้ไปฉันอาหาร แต่สนทนาธรรมเรื่องการเมืองไม่ได้มันบาป (หัวเราะ) ผมสึกมาตอนพฤษภาคม 2553 พอดี ก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับเขาเลย จนกระทั่งเลือกตั้งนั่นล่ะ เพราะงานเยอะไม่มีใครช่วย เราก็ยินดี เพราะเราทำงานกับเขามาครึ่งชีวิตกับตระกูลนี้ อยู่ไอบีเอ็ม 17 ปี อยู่ที่นี่อีก 17 ปี ก็พอกันเลย

- คิดว่าตัวเองจะติดการเมืองหรือไม่
อายุปูนนี้ 64 ปีแล้ว จะติดไปได้อีกกี่น้ำ จะครบสมัยก็ 70 ปี แต่การเมืองจะอยู่อายุเกิน 70 ปีก็ได้ (หัวเราะ) ชีวิตเราก็มีครบหมดแล้ว ครอบครัว ลูกหลาน อะไรที่เราช่วยได้เราก็ช่วยแล้ว


ที่มา.ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง