หวังว่ากระแสข่าวว่าด้วยเรื่อง "ว. 5" ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่น ของตนเองจะเงียบงันลงไป เมื่อบนพื้นที่สื่อถูกยึดกุมด้วยข่าวคราวความเคลื่อนไหวของผู้นำรัฐบาลต่อ การแก้วิกฤติน้ำ ที่กำลังจ่อคิวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
แต่ แล้ว ประเด็นร้อนว่าด้วยเรื่อง "ว. 5" ของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้วนกลับมาถล่มเธออีกคำรบหนึ่ง และดูเหมือนว่าทั้งพลพรรคประชาธิปัตย์ และเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ที่ประสานเสียงออกมาเรียกร้อง ถามหา "คำตอบ" จากนายกฯยิ่งลักษณ์ ว่า ว.5 บนชั้น 7 ที่โรงแรมโฟร์ซีชั่น ที่ผ่านมานั้นคืออะไร
ได้กลายเป็น "ของร้อน" ที่สร้างความปั่นป่วนขึ้นทั้งตัวนายกฯยิ่งลักษณ์ และลูกทีมในพรรคเพื่อนกันถ้วนหน้า
จนล่าสุดเจ้าตัวถึงกับตัดพ้อ ครวญผ่านสื่อขอความเห็นใจไปยัง "ฝ่ายตรงข้าม" ที่ออกมาเปิดประเด็นในท่วงทำนองที่ว่า "อย่ารังแกผู้หญิง" ก็ตาม
อย่างไรก็ดี หากมองในภาพรวม จะเห็นได้ชัดเจนว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์และเอกยุทธ กำลังช่วยกัน "หาคำตอบ" เพื่อให้สาธารณชนได้รู้ความจริงว่า "ว.5" ของผู้นำรัฐบาลกับ ผู้บริหารแสนสิริ ที่ผ่านมานั้น
เป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ หรือมีเรื่อง "ผลประโยชน์" ส่วนรวมเข้าไปเกี่ยวข้องบนโต๊ะเจรจานั้น พรรคเพื่อไทยและหลายต่อหลายคนในรัฐบาลต่างพยายาม ทำหน้าที่ "ป้องกัน" และ "โต้กลับ" ในทุกทิศทุกทาง เท่าที่พวกเขาจะทำได้
ทั้งด้วยการเปิดศึก "วิวาทะ"ชนิดรายวัน ระหว่างทีมโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกับรองโฆษกรัฐบาลที่ต้องโดดลงมาเล่นเอง ไปจนถึงแกนนำในรัฐบาล เพื่อ "กัน" ไม่ให้นายกฯยิ่งลักษณ์ ต้องบอบช้ำและเผชิญหน้ากับแรงเสียดทานอย่างใช่เหตุ
ขณะที่นายกฯยิ่งลักษณ์ เองได้พยายามงดการตอบโต้ หรือหากมีก็ให้เป็นไปอย่างน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้ตนเองต้องตกเป็นฝ่าย "เสียรังวัด" เสียเอง
การตอบโต้และปกป้องตนเองจากเรื่อง "ส่วนตัว" นั้น ดูจะเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่า ที่สุดแล้วสิ่งที่จะได้รับกลับมานั้น จะคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน
และยิ่งเมื่อเทียบกับ "งานใหญ่" อย่างการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายรัฐบาล ดูจะยิ่งมีความชัดเจนว่า หากงานนี้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลทำสำเร็จ !!
นั่นหมายความว่าหน้าตาของ "สมาชิกร่างรัฐธรรมนูญ" หรือ "ส.ส.ร.3" ทั้ง 99 คน ประกอบด้วย "กลุ่มคน" ที่น่าพึงพอใจ สำหรับฝ่ายที่ต้องการให้มีการแก้หรือรื้อกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมากที่สุด
ไปจนถึงได้มีการปรับแก้ ในบางมาตราที่เป็นเสมือน "อุปสรรค" ต่อการเติบโตและการมุ่งสู่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทย ในวันข้างหน้า ที่ยากต่อการคาดเดาได้ว่า บรรยากาศและสถานการณ์ทางการเมืองจะบวกหรือลบต่อพรรคเพื่อไทย
ภารกิจหลักเหล่านี้ต่างหากคือ "งานหลัก" ซึ่งทั้งนายกฯยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยต้องหาทาง "ก้าวข้าม" กับดัก เรื่องราวส่วนตัว "ว.5" ที่พวกเขากำลังถูกฝ่ายตรงข้าม ดึงให้ต้องลงไป "เล่นเกม" ดังกล่าวไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
สถานการณ์สำหรับพรรคเพื่อไทยและฝ่ายรัฐบาล หลังจากที่ได้ออกมา "ปักธง" ประกาศแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 พร้อมทั้งได้กำหนด "ปฏิทิน" กระบวนการขั้นตอนเอาไว้เสร็จสรรพ นั้นด้านหนึ่งคือการป้องกัน "รัฐธรรมนูญฉบับเพื่อไทย"ไม่ให้ "ถูกฉีก" จากฝ่ายต่อต้าน
อีกด้านหนึ่งคือการกำหนด "วัน ว. เวลา น." กำหนดกรอบการทำงานสำหรับเครือข่ายฝ่ายรัฐบาลด้วยกันเองเพื่อป้องกันการผิดพลาด
เป้าหมายที่ว่ากันว่าถูกพูดถึงมากที่สุดในบรรดากลุ่มส.ส.พรรคเพื่อไทย เอง ในรัฐบาล หรือแม้แต่ "คนเสื้อแดง" ซึ่งต่างต้องร่วมกันประดิษฐ์รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จตามกรอบ หรือก่อนเวลาที่ตั้งเอาไว้นั้น
เพราะมีความเชื่อว่าที่ชัดเจนว่า หากพวกเขาได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นเครื่องมือแล้ว รัฐบาลพร้อมที่จะ "ยุบสภา" ให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อ "ทดสอบ" เครื่องมือใหม่
ทั้ง นี้หากพวกเขา "ลงสนาม" ด้วยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ "ชัยชนะ" ที่พรรคเพื่อไทยจะได้คือการกวาดส.ส.เอาไว้ในมือได้ไม่ต่ำกว่า 300 ที่นั่ง มากกว่า ณ เวลานี้ที่มีอยู่ 265 เสียง
และจำนวน ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 300 เสียงนี่เองที่จะทำให้พวกเขากลายเป็น "พยัคฆ์ติดปีก" ได้ในที่สุด !!
ทีมข่าวคิดลึกสยามรัฐ.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น