บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

โธ่! รัฐสภาไทย


ปีติชา ทุมเทียง
ประชาชน ที่เป็นเจ้าของประเทศไทยที่มีจิตสำนึก คงได้ฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาล ที่ถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 23-25 สิงหาคม 2554 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภาร่วมประชุมที่รัฐสภาแห่งชาติ ได้ฟังวาทะ ได้เห็นท่าทาง วางบทบาทของ “ผู้ทรงเกียรติ” ที่แสดงออก ตามบทบาทหน้าที่เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด…..
ผู้ เขียนตั้งความหวังไว้สูงที่จะได้เห็น ความจริง ความดี ความงาม ความสบายใจ ได้เห็นแบบอย่าง ความมีมาตรฐานความคิด จิตใจ การแสดงออกของ “ผู้ทรงเกียรติ” ในรัฐสภา สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมใจของคนในชาติ ที่ต่างก็ตั้งความหวังรอคอยอยู่ทั่วทั้งแผ่นดิน
แต่ก็ต้องผิดหวังอย่างรุนแรงที่สุด
รัฐสภา เป็นสถานที่ทรงเกียรติภูมิ มีศักดิ์ศรี ความศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาติบ้านเมืองหลอมรวมไว้ ให้มีความเป็นชาติที่แสดงถึงความเป็นอารยะ ที่ได้สั่งสมสืบทอดกันมายาวนาน ต้องเป็นศูนย์รวมของสัตบุรุษ (คนดี) ที่เข้ามาสร้างสรรค์ ความดี ความงาม ให้แก่บ้านเมือง….
แต่สองสามวันดังกล่าว รัฐสภาไทยได้ถูกย่ำยีให้ป่นปี้ยับย่อย ไปด้วยพฤติกรรมของทุรชนคนพาลส่วนหนึ่ง ที่ผ่านด่านการเลือกตั้งที่เป็น มายาประชาธิปไตย เรียบร้อยแล้ว…..!!!
ประการแรก รัฐสภาได้กลายเป็นแหล่งชำระ..ทดแทน..เอาคืน..แสดงวาทกรรม ที่มีแต่แฝงเร้นไปด้วยความสับปลับ ไม่จริงใจ ไม่คำนึงถึงสัจจะ ความจริง ความดี ความงาม ที่พึงมีตามหลักแห่งคุณธรรม มีการจัดตั้งกองกำลังคอยเฝ้าระวัง บดขยี้ ในมติที่ฝ่ายตนเพลี่ยงพล้ำ
ด้วย หลงไปว่าสิบหกล้านเสียงเป็นพลังสำคัญ ที่ยกมาขย่มฝ่ายตรงข้ามให้ยอมศิโรราบ มีการวางบทบาทตัวแทนที่ด้านพอ ออกปะทะคารมอย่างไม่ลดละ จนเป็นเวทีแห่งความเฉโก (ความเห็นแก่ตัว) อย่างไม่ละอายใจ ไม่ยำเกรงต่อสถานที่ ความศักดิ์สิทธิ์ และไม่เกรงใจประชาชนเจ้าของประเทศ ที่หย่อนบัตรลงคะแนนให้ถึงสิบหกล้านเสียงไปนั้น
ประการที่สอง วาจาท่าทางที่เหล่า “ผู้ทรงเกียรติ” แสดงออกในรัฐสภาในวันดังกล่าว มันห่างจากมาตรฐาน จริยธรรม หลักธรรมที่พึงมี มันต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะมีอยู่ในสังคมไทย วาจาที่ก้าวร้าว ข่มขู่ คุกคาม ท่วงท่าที่อหังการ การแสดงออกของการมุ่งชำระ..สะใจ ไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ผิด ถูก ชั่ว ดี…เมื่อห่างจากธรรมะ แสดงถึงจิตที่จำแนกได้ยาก
“ธรรมะนี้เพื่อความผิดแปลกแตกต่างจากสัตว์” รัฐสภาจะเสื่อมถอยด้วยการกระทำดังกล่าวอย่างน่าเป็นห่วง…เมื่อวาจาสุภาษิต ที่ยึดมั่นในความจริง ความดี วาจาที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมไม่มี รัฐสภาก็ตกอยู่กับผู้มีจิตใจเป็นพาล ปราชญ์กล่าวไว้ว่า “อันว่าผู้ใดมีความพาล เรามิเห็นผู้นั้นสมควรจะมีอำนาจอยู่ในมือ”……!!!
ประการที่สาม รัฐสภามิบังควรจะให้เป็นสถานที่ ระบายความแค้น ความอึดอัด คับข้องใจ เป็นที่ตอบแทนบุญคุณ…เป็นที่ฟอกตัว ยอยกคนผู้ใดผู้หนึ่ง…มิบังควรจะเป็นที่ประกาศปักธงแห่งชัยชนะของใคร…เป็นที่ ประลองกำลังของการช่วงชิงอำนาจ และผลประโยชน์ของกลุ่มใดๆ
รัฐสภา ต้องเป็นสถานที่มีเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี และคงความศักดิ์สิทธิ์ เป็นของประชาชนที่ใครเข้าไปจะต้องให้ความเคารพ ยำเกรง พิทักษ์รักษา ไม่ให้มีความหมองมัวด้วยประการใดๆ…หาไม่แล้วประชาชนก็มีสิทธิ์อันชอบธรรม ที่จะปกป้อง คุ้มครอง ให้คงคืนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี อย่างสุดจิตสุดใจ
ประการที่สี่ บทบาทพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในรัฐสภา จะส่งผลต่อพฤติกรรมของคนในชาติ โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน จะเลียนแบบ สั่งสมบ่มเพาะพฤติกรรมทั้งมวลไว้ กลายเป็นค่านิยม ความประพฤติ เป็นความเคยชิน เป็นวัฒนธรรมประจำชาติ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจการเมือง สังคม วัฒนธรรม จนฝังลึกอย่างน่าเป็นห่วงยิ่ง
หวนถึงเพลงยาวก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งกระโน้นที่เป็นวิกฤติของชาติที่กล่าวไว้ว่า…
“…..จึง เกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ/ คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพ/ อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน/ มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาฬ/ เกิดนิมิตพิสดาทุกบ้านเมือง/ พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก/ อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง/ ผีป่าจะวิ่งเข้าสิงเมือง/ ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร/ พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี/ พระกาฬกาลีจะเข้ามาเป็นไส้/ พระธรณีจะตีอกไห้ ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ/ นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย/ กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย/ น้ำเต้าเคยลอยจะถอยจม/ ผู้ดีจะเดินตรอก ขี้ครอกจะเดินถนน……”
……ฯลฯ……
บ้านเมืองกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคเข็ญนั้น ฤๅไฉน? จึง ขอเรียกร้องทวงคืนเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี ความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐสภาไทย เพื่อให้ชาติบ้านเมืองก้าวขึ้นสู่อารยะ จรรโลงความมั่นคง เจริญก้าวหน้า ตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไปชั่วนิจนิรันดร……….
ขอขอบคุณ ไทยโพสต์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง