นายปกครอง
บล็อกหนึ่งของเว็บ บล็อกเจ้าพระยา
เยือนเขมรโชว์ออฟช่วย“วีระ-ราตรี”ระวังแฝงผลประโยชน์
นายปกครอง
ทันทีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ยังมีข่าวมาพร้อมๆ กับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
ผู้เป็นพี่ชายเตรียมเดินทางไปทัวร์ ประเทศนั้น ประเทศนี้ทันที
โดยลืมไปว่าอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ เป็นนักโทษต้องคดี 2 ปี
โดยข่าวใหญ่ตามสื่อต่างๆ นั้น คือการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น
สุดท้ายก็สามารถฟันฝ่ากระแสสื่อเพื่อเดินทางเข้าไปในดินแดนปลาดิบได้ตามที่
ใจต้องการนอกจากนี้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นางสาวยิ่งลักษณ์ ไปเยือนประเทศบรูไน อย่างเป็นทางการ ก็ยังมีข่าวออกมาอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคียงข้างไปด้วย ซึ่งข่าวนี้ ยังไม่ได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง
แต่ท่าทีของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยืนยันค่อนข้างชัดเจนนั้น คือการเดินทางไปเยือนเขมร ข่าวนี้ดูเหมือนว่าจะออกมาก่อน นายกรัฐมนตรีของไทยตัวจริงจะไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการเสียอีก
หลังจากนั้น จึงมีกำหนดการของนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ต้องเดินทางไปเขมรอย่างเป็นทางการ ในเบื้องต้นจะมีการเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี ด้วยการเตะฟุตบอลกระชับมิตรที่ประกอบด้วยนักการเมืองฝ่ายไทย และฝ่าย กัมพูชาที่มี “ฮุนเซน” เป็นแกนนำ ในวันที่ 24 กันยายน นี้
กระแสข่าวล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงไม่อยู่ร่วมสานสัมพันธ์ในครั้งนี้ เหตุผลนั้น คงเป็นเรื่องความพยายามที่จะอยู่เบื้องหลังและไม่ดำเนินการให้เป็นที่ชัดเจน เกินไป
ไม่บอกก็คงจะรู้ว่าหลายๆ ประเทศนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ มักจะอยู่เบื้องหลังนายกรัฐมนตรีไทยเสมอ จึงไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมโชว์ผลงานผ่านสื่อ แต่ก็สามารถทำให้ทุกคนเข้าใจได้ว่านี้คือผลงานของใคร
การไปเขมรครั้งนี้คงต้องจับตาในสองประเด็นด้วยกัน เริ่มจาก “ช่วยนักโทษ” คือ นายวีระ สมความคิด กับ นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกเขมรจับกุมตั้งแต่รัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” โดยคนของพรรคประชาธิปัตย์ นั้น ถูกจับกุมตัวพร้อมกัน แต่ได้รับการช่วยเหลือพ้นคุกเขมรออกมาได้ก่อน ยังเหลือแต่นักโทษ 2 คนนี้เท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเป็นโอกาสของรัฐบาล”ยิ่งลักษณ์”ได้”โชว์ออฟ”ช่วยเหลือ ให้ทั้งสองคนได้ออกจากคุกเขมร กลายเป็นผลงานที่หยามประชาธิปัตย์ได้ชัดเจน
ทั้งนี้ประเด็นที่ต้องจับตาต่อมาคงหนีไม่พ้นเรื่อง”ผลประโยชน์” ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน โดยเฉพาะแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น มีหลายจุดด้วยกันที่ยังมีปัญหาข้อ พิพาทโดยเฉพาะจุดที่เรียกว่าประสาทเขาพระวิหาร ยังมีเรื่องที่พร้อมจะรบกันได้ตลอดเวลา ใครจะได้ผลประโยชน์จุดนี้
นอกจากนี้ ยังมีผลประโยชน์ทางด้านอ่าวไทยซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศหรือส่วนตัวจำนวนมหาศาล ผลประโยชน์ในส่วนนี้ บางจุดนั้น ทั้ง 2 ประเทศยังยังตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นเจ้าของ
ผลประโยชน์ที่สำคันอันหนึ่ง ที่จะมองข้ามไปไม่ได้คือ”บ่อนคาสิโน” ซึ่งผลงานที่ชัดเจน จะเห็นได้จากการปราบปรามบ่อนการพนันในกรงเทพมหานคร ผลงานของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ตำรวจกวาดล้างบ่อนการพนันในประเทศไทยอย่างจริงๆ จังๆ
ในการปราบบ่อนการพนันนั้น ต้องยอมรับว่า เข้าทางเขมรทันที โดย “ผีพนัน”เมืองไทยจำนวนมากนั้น วิ่งเข้าไปเล่นในบ่อนของเขมรทันที ทำให้มีการโกยรายได้วันละหลายร้อยล้านบาท ผู้นำประเทศกัมพูชายิ้มอย่างสดใสอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นในสนามฟุตบอลนัดกระชับมิตร หรือ บนโต๊ะร่วมรับประทานอาหาร หรือ บนโต๊ะสนทนากันอย่างเป็นทางการนั้นระหว่างไทย-กัมพูชานั้น จึงต้องจับตาเรื่องดังกล่าว และ ลุ้นกันต่อไปว่าฝ่ายใดจะได้ผลประโยชน์มากกว่ากัน
แต่ที่แน่ๆ หากมีการช่วยเหลือ 2 นักโทษคนไทย ฝ่ายค้านที่นำโดย”อภิสิทธิ์”ก็ต้องหน้าแตกอีกเช่นกัน แต่ทั้งนี้คงต้องย้อนไปดูว่าบทบาทของนักโทษที่หลบหนีคดีจำคุก 2 ปี จนไม่มีแผ่นดินจะอยู่ แต่แสดงบทบาทเข้ามามีอิทธิพลต่อการทำงาน ของผู้นำประเทศ และอย่างนี้ ไม่รู้ว่าใครจะเสียหน้ามากกว่ากัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น