ส่ง
เสียง ส่งสัญญาณติดต่อกันมาหลายวันแล้ว จากฟากฝั่งของกลุ่มคนเสื้อแดง
ถึงความเป็นไปได้ว่าในราวต้นเดือนต.ค.นี้ อาจได้เห็น คนเสื้อแดงที่ชื่อ
"เจ๊ดา" ดารุณี กฤตบุญยาลัย และ จรัล ดิษฐาอภิชัย
แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
จะเดินทางกลับไทยเพื่อเข้ามอบตัว ในคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผ่านมา
ส่วนแกนนำนปช.คนสำคัญ ที่ชื่อ "กี้ร์" อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ยังไม่มีใครกล้ายืนยันได้ว่า เขาจะกลับมามอบตัวเมื่อใด
เพราะ ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจกับสื่อไทย ครั้งล่าสุดจากงานฟุตบอลนัดพิเศษ ที่กัมพูชาที่ผ่านมาว่า ขึ้นอยู่กับ "ความปลอดภัย" และจนกว่าจะแน่ใจต่อ "สถานการณ์" !
เพราะ ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจกับสื่อไทย ครั้งล่าสุดจากงานฟุตบอลนัดพิเศษ ที่กัมพูชาที่ผ่านมาว่า ขึ้นอยู่กับ "ความปลอดภัย" และจนกว่าจะแน่ใจต่อ "สถานการณ์" !
หากมองเพียงภาพรวมโดยทั่วไป การที่แกนนำนปช.บางส่วนที่ยังคงหลบหนีคดีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง อริสมันต์-ดารุณีและ จรัล หากพวกเขาต้องการ "กลับบ้าน" ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
หรือหากพวกเขาจะออกมาเคลื่อนไหวส่งสัญญาณ ที่เป็น "คุณ" แก่พวกเขาในยามที่
"เจ้านาย" กำลังเรืองอำนาจ พรรคเพื่อไทยอยู่ในฐานะรัฐบาล
ทว่าหากมองให้ลึกลงไปแล้ว
ย่อมจะเห็นได้ว่าแกนนนปช.ทั้งสามรายที่กำลังถูกระบุถึงในเวลานี้นั้น
กำลังทำหน้าที่เป็นเสมือน "หมาก" เพื่อ" หยั่งกระแส"
จากฝ่ายตรงข้ามถึงบรรยากาศและสถานการณ์ทางการเมืองที่แท้จริงว่าอยู่ในระดับ
ใดกันแน่
เพราะ "ปฏิกริยา"
ที่จะปรากฎออกมาตอบรับกระแสข่าวที่ว่าด้วยแกนนำนปช.สองราย คือจรัล
และดารุณี เตรียมตัวกลับมามอบตัวสู้คดีในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้นั้น
อาจเป็นเครื่องมือ "บ่งชี้"ให้พอมองเห็นเค้าลาง และ "ความเป็นจริง" ได้ว่า "ขั้วอำนาจ" ตรงข้าม กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก จะพึงพอใจหรือไม่สบอารมณ์ต่อการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงมากน้อยแค่ไหน
ในความเป็นจริงแล้วว่ากันว่า ที่มีข่าวว่า "นายใหญ่" ลงทุนใช้วิธีการ
"กล่อม"แกนนำนปช.บางราย ให้กลับเมืองไทยเพื่อมอบตัวสู้คดีนั้น
หากพวกเขาสามารถกลับมาได้จริง
โดยที่ไม่มีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น แน่นอนว่าสถานะของพวกเขายังคงเป็น "หมาก" ที่ยังอาจเดินต่อไปได้บนกระดานตลอดช่วงเดือนต.ค.นี้เป็นต้นไป
โดยที่ไม่มีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น แน่นอนว่าสถานะของพวกเขายังคงเป็น "หมาก" ที่ยังอาจเดินต่อไปได้บนกระดานตลอดช่วงเดือนต.ค.นี้เป็นต้นไป
ทว่าในทางกลับกัน หากกลับมาแล้ว ต้องเผชิญหน้ากับ "เหตุไม่คาดฝัน" สถานะของแกนนำเหล่านี้ จะกลายเป็นเพียง "หนูทดลอง" ไปทันที !
และต้องไม่ลืมว่า ชะตากรรมของ "หนูทดลอง" นั้นมักจบลงในบทสรุปที่ไม่ใคร่จะงดงามและสวยหรูเท่าใดนัก
แต่หากถามว่าในสถานการณ์ทางการเมืองที่ดูเหมือนพรรคเพื่อไทย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังยืนอยู่ในจุดที่เป็นฝ่าย "ได้เปรียบ" แทบทุกประตู
แต่หากถามว่าในสถานการณ์ทางการเมืองที่ดูเหมือนพรรคเพื่อไทย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังยืนอยู่ในจุดที่เป็นฝ่าย "ได้เปรียบ" แทบทุกประตู
แกนนำในรัฐบาลสามารถบริหารจัดการ "อำนาจ" ที่มีอยู่ในมือเพื่อ "สลายขั้ว" กลุ่มการเมืองเดิมที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ภายใต้การออกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญ ๆ
โดยระบุว่าเพื่อรองรับและให้สอดคล้องต่อการทำงานของรัฐบาลใหม่ซึ่งวาระเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการในหลายต่อหลายด้านด้วยกัน
ทว่า
"ความได้เปรียบ"ที่มองเห็นผ่านการเคลื่อนไหวของฝ่ายบริหารชุดใหม่ด้วยท่าที
อันคึกคึกเช่นนี้นั้น อาจยังไม่สามารถ สร้าง "หลักประกัน"
ให้กับอดีตผู้นำอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อย่างแท้จริง !
ยิ่งสำหรับคนที่เคยผ่านการเดินเกมทั้งใต้ดิน -บนดินมาแล้ว ย่อมรู้ดีว่า
บรรยากาศที่ "เงียบงัน" จนผิดปกตินั้น
อาจไม่ใช่เรื่องที่น่าวางใจอย่างแน่นอน
ฉะนั้นเมื่อท่ามกลาง " ความเงียบ" ที่ดูคล้าย "เป็นปกติ" เช่นนี้ หรือการยืนอยู่บนความได้เปรียบในฐานะผู้กุมอำนาจรัฐ
แต่ทั้งหลายทั้งปวง อาจยังไม่สามารถการันตีได้ว่า ตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ จะหาญกล้าตัดสินใจ "กลับบ้าน" ได้ในเร็ววัน ตามที่แกนนำในรัฐบาลและในพรรคเพื่อไทย บางคนมักประกาศผ่านสื่ออยู่บ่อยครั้งว่า "จะพาทักษิณ กลับบ้าน"
แต่ทั้งหลายทั้งปวง อาจยังไม่สามารถการันตีได้ว่า ตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ จะหาญกล้าตัดสินใจ "กลับบ้าน" ได้ในเร็ววัน ตามที่แกนนำในรัฐบาลและในพรรคเพื่อไทย บางคนมักประกาศผ่านสื่ออยู่บ่อยครั้งว่า "จะพาทักษิณ กลับบ้าน"
เพราะต้องไม่ลืมว่าในความเป็นจริงแล้ว
หลายสิ่งหลายอย่างอาจไม่ง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ
เมื่อเทียบกับการได้มาซึ่งชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด
เพราะวันนี้แม้อำนาจรัฐอยู่ในมือ "น้องสาว" นายกฯยิ่งลักษณ์ แล้วก็ตาม
แต่ในใจของพ.ต.ท.ทักษิณ เขาย่อมรู้ดีว่า
ก่อนที่ตนเองจะเหยียบย่าง กลับบ้านได้จริงนั้น ควรที่จะส่ง "หนูทดลอง"
ลงมาชิมลาง ประเมินอุณหภูมิทางการเมืองเพื่อป้องกันการผิดพลาด
และลดความสุ่มเสี่ยงที่จะลุกลามมาถึงตัว
ทั้งนี้สัญญาณที่จะต้องจับตากันจากนี้ต่อไป
คือความจงใจของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่อยู่ในประเทศ จะเริ่มเร่งเร้า
ปูดประเด็นเรื่อง "กลับบ้าน" ให้กับ
นปช.ที่ยังคงหลบหนีและร่อนเร่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงเดือนต.ค.เป็นต้นไป
เพื่อทดสอบ "แรงต้าน" และ "เสียงตอบรับ" จากรอบข้าง ทั้งฝ่ายที่เชียร์
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อ "หยั่งเสียง" ฝ่ายตรงข้ามที่ยัง "พรางตัว"
โดยผ่าน "หมาก" หรือ "หนูทดลอง" อย่างแกนนำนปช.ระดับเกรดซี
อย่างดารุณีและจรัล
หากปรากฎชัดเจนแล้วว่าแกนนำนปช.ในแถวแรก อย่างดารุณี-จรัล ยังไมได้รับ "ไฟเขียว" โอกาสที่จะโยน "หมาก"ในแถวต่อไป ระดับเกรดบี อย่าง จักรภพ เพ็ญแข -ใจ อึ้งภากรณ์ ก็ยังต้องถูก "ติดเบรค" กันไปก่อน
และ
นั่นย่อมหมายความว่า แกนนำนปช. "ตัวพ่อ" อย่าง "พ.ต.ท.ทักษิณ"
คงต้องฉุกคิดและกลับไปประเมินเกมอีกครั้งว่า โอกาสและความเป็นไปได้ที่จะได้
"กลับบ้าน" ก่อนช่วงเวลาสำคัญในเดือนธันวาคมนั้น ดูจะยังคงเป็น
"ฝัน"ที่เลือนลางกันต่อไป !
ทีมข่าวคิดลึก.สยามรัฐ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น