บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ชำแหละ'5ปี-รัฐประหาร' 'กองทัพ'กรรโชกทรัพย์!! ประเทศยังไม่เคยมีปชต . อำนาจจริงอยู่ที่อำมาตย์



ครบ 5 ปี...พอดิบ-พอดี กับเหตุการณ์ 19 ก.ย. 2549 ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ถูกโค่นอำนาจ กระเด็นตกจากบัลลังก์ “นายกรัฐมนตรี” ด้วยน้ำมือของ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” หรือที่เรียกว่า “คปค.” ก่อนจะมีการปรับมาเป็น “คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ” หรือ “คมช.” ในเวลาต่อมา...โดยมี “พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน” ผบ.ทบ.ในเวลานั้น เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ
ผ่านไปไวเหมือนโกหก...เพราะวันนี้...กลายเป็นว่า “น้องสาวทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก้าวเข้ามาเป็น “นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ” และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 มีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศ...ขณะที่ “พล.อ.สนธิ” ที่เคยยิ่งใหญ่ กลับเป็นเพียงส.ส.ธรรมดาคนหนึ่ง ในสภาผู้แทนราษฎรเดียวกัน
ณ นาทีนี้...ถ้าจะให้วิพากษ์วิจารณ์ อย่างตรงไปตรงมา ก็ต้องเป็นบุคคลที่พูดตรงๆ วิพากษ์ตามที่เห็น ก็คงหนีไม่พ้น “พล.อ.อำนวย ถิระชุณหะ” ตท.10 และที่ปรึกษาพิเศษพรรคเพื่อไทย และอดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งว่ากันว่า เป็นคนที่ออกความเห็นแรงที่สุดคนหนึ่งในรุ่น ที่รู้ๆ กันดีว่าเป็นรุ่นเดียวกับ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “เขา” เคยออกมาคัดค้านการแต่งตั้ง “พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา” ในการมาดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 มาแล้ว
ความจริงจากปาก...“พล.อ.อำนวย” อาจบาดใจ “คนในพรรคเพื่อไทย” และ “คนในเครือข่ายอำมาตย์” แต่นี่คือสิ่งที่ “เขาคิด” ที่ไม่อาจมองข้ามไปได้...โปรดติดตาม
Q : ประเทศไทยได้อะไรบ้าง หลังครบ 5 ปีรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549
A : ผมว่ามันเป็นที่รู้อยู่แก่ใจว่า อะไรมันก็แย่ลงหมด ไม่มีอะไรดีขึ้น การรัฐประหารเป็นเพียงเครื่องมือของการต่อสู้ให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ คือล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แล้วประเทศไทยก็เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด เพราะฉะนั้นประเทศชาติก็ไม่ไปถึงไหน เพราะฉะนั้นหลัง 2475 อำนาจมันตกไปอยู่กลุ่มขุนนาง ที่เขาเรียกว่า “อำมาตย์” มันไม่ได้ตกเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นถ้ายังดื้อดึงกันต่อไปประเทศชาติก็จะตกต่ำไปเรื่อยๆ ผู้คนก็จะลำบาก มันต้องยอมให้รัฐบาลประชาธิปไตยบริหารประเทศ
Q : มีคนบอกว่าการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 จุดประสงค์หลักคือต้องการล้มพ.ต.ท.ทักษิณ 5 ปีผ่านไป คุณยิ่งลักษณ์-น้องสาวคุณทักษิณได้เข้ามามีอำนาจ แปลว่าการรัฐประหารที่ผ่านมาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
A : แสดงว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วย ซึ่งขณะนี้ฝ่ายโน้นก็ยังใช้กลไกแห่งอำนาจที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน เช่น องค์กรอิสระ กองทัพ มาเป็นเครื่องมือลิดรอนอำนาจรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย ทุกวันนี้กระบวนการก็เริ่มขึ้น มีข่าวว่ายอมให้ได้แค่ 6 เดือน คือกลไกเหล่านั้นไม่ใช่กลไกประชาธิปไตย
Q : จากการที่ไทยเปลี่ยนมือจากระบบประชาธิปไตยมาสู่ “ระบบขุนนาง” หรือ “อำมาตย์” ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาระบบนี้ยังเข้มแข็งหรือโตขึ้นอยู่หรือไม่
A : ประเทศไทยไม่เคยมีประชาธิปไตย อำนาจ ก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจาก 2475 ในช่วงสั้นๆที่มีประชาธิปไตยก็คล้ายๆเผด็จการของกลุ่มทุน กลุ่มทุนก็ไปครอบงำพรรคการเมืองแล้วมีอำนาจผ่านพรรคการเมือง แสวงประโยชน์ แต่ช่วงประชาธิปไตยจำแลงผ่านไปสั้นๆ อำนาจจริงๆอยู่กับขุนนางหรืออำมาตย์เหมือนเดิม
Q : ตามข่าวที่บอกว่า กลุ่มอำมาตย์ให้เวลารัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำงานแค่ 6 เดือน โอกาสความเป็นไปได้ที่จะเกิดตามคำกล่าวอ้างดังกล่าวมีมาก-น้อยเพียงใด
A : ถ้าใจผมคิด โอกาสเป็นไปได้เกินครึ่ง เกิน 50% เพราะว่ารัฐบาลปูบริหารเต็มไปด้วย “กับดัก-กับระเบิด” อย่างเช่น...อย่างที่จะมีการผ่านกระทรวงกลาโหมขึ้นมา การซื้ออาวุธมูลค่านับแสนล้าน งบผูกพัน คือประเทศไม่มีเงินอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพูดง่ายๆ “กองทัพกรรโชกทรัพย์ประชาชน” ไม่ใช่กรรโชกทรัพย์ใคร คือถามว่าไปรบกับใคร คุณตอบได้มั๊ย? ภัยคุกคามคือใคร ตอบได้มั๊ย?...ตอบไม่ได้
คุณจะซื้อเพื่อเอาผลประโยชน์อย่างเดียว อย่างไปซื้ออาวุธที่มันไม่ทันสมัย เหมือนเขาใช้จรวดรบกันแล้ว นี่ยังไปซื้อดาบมาฟันกัน อย่างผมยกตัวอย่างเช่น เรือดำน้ำ ที่เหล็กมันหมดอายุแล้ว ซื้อมา 6 ลำ 2 ลำไม่มีอะไหล่ เพราะมันคงหาอะไหล่ไม่ได้แล้ว ในขณะที่ยานไร้คนขับ มันมีตั้งแต่บนฟ้า บนดิน ผิวน้ำ ใต้น้ำ แล้วสามารถรับภารกิจได้หมด ราคาก็ถูก ทำไมไม่เสาะแสวงหา ดันไปซื้อเทคโนโลยีโบราณ  ยิ่งกองทัพบกยิ่งแย่ใหญ่ อย่างอาวุธต่อสู้รถถัง ที่ทันสมัยเป็นอาวุธปล่อยจากยานไร้คนขับ เหมือนในสงครามอิรัก จะบอกว่าเราหาเทคโนโลยีไม่ได้ เราไม่เคยมีเทคโนโลยี อย่างกองกำลังที่แข็งที่สุดของอิรักในสมัยซัดดัม ที่เรียกว่า “กองกำลังพิทักษ์ซัดดัม” ไอ้กองพันรถถังโดนยานไร้คนขับปล่อยอาวุธ 2 ลูก กองพันรถถังทั้ง 2 กองพัน เป็นอัมพาต กองพันถูกทำลาย กองพันที่ตามมาตกใจรีบกระโดดลงจากรถถังยกมือยอมแพ้ นี่เพียงรถถัง แต่เรายังไปมัวมะงุมมะงาหรา ซื้ออาวุธโบราณเพียงเพื่อผลประโยชน์ มันกรรโชกทรัพย์ของประชาชน เพราะฉะนั้นจะเห็นว่ากองทัพไม่ได้รักษาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่
Q : กองทัพกรรโชกทรัพย์ประชาชน ส่วนหนึ่งนอกจากการที่อาวุธไม่มีประสิทธิภาพแล้ว เพราะไม่มีรายละเอียดของโครงการมากพอหรือไม่
A : คือผมคิดว่าเหมือนกับซื้อเพื่อผลประโยชน์ เพราะ ฉะนั้นรู้อยู่แล้วในระบบทุนนิยม ท่านซื้อท่านจะได้คอมมิชชั่น ข้อที่ 2 มันเป็นการดึงเงินที่มีอยู่อย่างจำกัดทำให้รัฐบาลเดินไม่ได้ รัฐบาลไม่สามารถทำตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชนได้ทั้งหมด แล้วผลจากการซื้อขายอาวุธส่วนหนึ่งก็ไปหนุนการเมืองบนถนน อย่างหน่วยข่าวเขาแจ้งเลยว่าการเมืองบนถนนรอบที่แล้ว ในรัฐบาลรอบที่แล้ว มันได้เงินส่วนหนึ่งมาจากเงินซื้ออาวุธ เพราะผลประโยชน์มันก็ไปแจกจ่ายในกลุ่มอำมาตย์ แล้วก็ลงมาสนับสนุนการเมืองบนท้องถนนเพื่อโค่นรัฐบาลประชาธิปไตย มันก็งูกินหาง เพราะฉะนั้นมันกระสุนนัดเดียว-นกสองตัว เป็นการช่วยล้มรัฐบาลได้ด้วย
Q : คือการเมืองบนถนนคือสีที่ไม่ใช่สีแดงใช่หรือไม่
A : อ๋อ...สีแดงมันจะมาได้ไงในเมื่อกลุ่มผลประโยชน์มัน....สีแดงมันหากันเอง มันก็ต้องคนละสี สีเหลือง สีน้ำเงิน สีอะไรพวกนั้น
Q : ส่วนตัวกลัวว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะซ้ำรอยรัฐบาลอภิสิทธิ์หรือไม่ เกี่ยวกับกรณีที่ยอมกองทัพทุกอย่าง อนุมัติงบประมาณจำนวนมากให้ เพื่อหวังให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเฉพาะรัฐบาลนี้ที่ยิ่งมีข่าวว่าขีดเส้นให้แค่ 6 เดือนเท่านั้น
A : ผมถึงบอกไง รัฐบาลตั้งด้วยความกลัว ไม่กล้ายุ่งกับนายทหารที่พัวพันกับการเข่นฆ่าประชาชน เพราะกลัวเขาไม่ให้ตั้ง (รัฐบาล) เมื่อตั้งรัฐบาลด้วยความกลัว มันก็แบบนี้แหละครับ กลัวเขาไม่ให้ตั้ง เขาก็ขี่คอ...ลองหักดิบสิ Q : รัฐบาลยิ่งลักษณ์น่าจะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งในกองทัพตำแหน่งใด
A : ตอนนี้มันคิดได้ 2 แง่ 1.รัฐบาลยังไม่แข็งแกร่งก็คิดได้ว่า จะไปหักหาญ-ก็คงไม่กล้า แต่โอกาสที่รัฐบาลจะแข็งแกร่งก็ต้องใช้เวลานานและต้องทำตามนโยบายได้ครบ ไอ้นี่ก็เตะตัดขา ดึงเงินซื้ออาวุธ เพราะฉะนั้นเงินก็ไม่มี เศรษฐกิจโลกก็ตกต่ำ ก็ไอ้ 6 เดือนผมว่าเป็นไปได้สูง ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว อะไรๆก็เริ่มแล้ว
“คนไทยเนี่ยความจำสั้น จำแป๊บนึงก็เออ...เออเปลี่ยนไปแล้ว ไปหลงหมด ลืมไปว่าอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลที่เข่นฆ่าประชาชน เป็นรัฐบาลที่ทุจริตกันมโหฬาร ไอ้โครงการไทยเข้มแข็ง...ลืมสนิท คนไทยลืมสนิท มันก็เป็นชะตากรรม ผมว่ามันเป็นเรื่องเศร้า แม้แต่คน ที่มาวางตัวเป็น “รมว.กลาโหม” ก็ยังวางตัวด้วยความกลัว ต้องเอาคนที่เข้าบ้านสี่เสาฯได้ ดูสิครับไอ้ที่โยกย้ายทหารเนี่ย รมว.กลาโหมสู้อยู่ตำแหน่งเดียว คือตำแหน่ง ‘ปลัดกระทรวง กลาโหม’ มันมีอะไรหรือเปล่า มันจะไปเชื่อมโยงผลประโยชน์จากการซื้ออาวุธที่กำลังจะเข้ามาในกระทรวงกลาโหม หรือเปล่า ผมว่าสังคมต้องจับตามมองในตรงนี้ ทำไมตำแหน่งอื่นกูไม่ยุ่ง ตำแหน่งนี้กูสู้ตายเลย ถึงให้กฤษฎีกาตีความ ผมอยากจะให้ช่วยไปสื่อถึงประชาชนหน่อย เพราะว่าเงินทองมันก็ของเรา แล้วก็...ถ้ามัวแต่รัฐประหาร ประเทศชาติไม่ไปไหน มันต้องฝึกให้คนซาบซึ้งในประชาธิปไตยที่มันกินได้
Q : การที่รมว.กลาโหมพยายามผลักดันคนที่ตนเองสนับสนุนมานั่งในตำแหน่งปลัดฯ เพื่อผลประโยชน์จากการจัดซื้ออาวุธในอนาคต
A : ก็พล.วิทวัส (รชตะนันทร์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม)  เป็นเตรียมทหารรุ่น 11 กับพล.อ.เสถียร (เพิ่มทองอินทร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย) เขารุ่นเดียวกัน แต่เสถียรเขาอาวุโสกว่า เสถียรเขาอันดับ 2 ส่วนไอ้เจี๊ยบ (หมายถึงพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เสนาธิการทหาร) นั่นอันดับ 1  เขาก็ให้เป็นผบ.สส. อันดับ 2 เหล่าทัพเขาก็ดันมาเป็นปลัดฯ แต่รัฐมนตรีจะเอาอาวุโสอันดับ 3 คือพล.อ.วิทวัส แล้วสู้หัวชนฝา ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็บอกว่า เออ...มันก็คงน่าจะเป็นไปตามครรลอง คือให้พล.อ.เสถียรเขา แล้วลักษณะนี้ดื้อ ถึงจะให้กฤษฎีกาตีความกันอุตลุด แล้วอย่างนี้มันจะมองว่ามันจะไม่เชื่อมโยงผลประโยชน์จากการจัดซื้ออาวุธหรือ เปล่า ให้คนจับตาดูหน่อย มูลค่านับแสนล้าน งบผูกพัน แล้วซื้ออาวุธโบราณ
“เหมือนกองทัพบกคราวที่แล้ว ซื้อบอลลูนที่มันไม่ขึ้น ขึ้นทีต้องเติมฮีเลี่ยม 2-3 แสน เพราะมันรั่ว รั่วจนไม่รู้จะปะยังไงแล้ว ซื้อมา 30 ล้าน มันรั่ว จีที 200 ซื้อแล้วใช้ไม่ได้ ยานเกราะยูเครนซื้อแล้วใช้ไม่ได้ แล้วเนี่ยกองทัพซื้ออาวุธเต็มเลย ทหารเรือนี่ทยอยซื้อ ทหารบก กองพลทหารม้าที่ 3 ตั้งแล้ว กำลังจะรอซื้อฮ. เป็นกองพลทหารม้าอากาศเคลื่อนที่ บินทั้งกองพล เพื่อสนองพล.อ.เปรม (ติณสูลานนนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ) อยากเห็นทหารม้าอีกกองพลก่อนตาย แล้วงบประมาณของชาติมันไม่รู้กี่หมื่นล้าน ไอ้ตรงนั้น อาวุธยิงรถถังที่เป็นข่าว อย่างที่บอกเขาใช้อาวุธปล่อยจากยานไร้คนขับ มันทำลายทั้งกองพันรถถัง แต่ไม่ซื้อ”
Q : ความพยายามในการบีบรัฐบาลจากการให้เวลาทำงานแค่ 6 เดือน กลุ่มอำมาตย์ที่อยู่เบื้องหลังตามการข่าวโยงไปถึงบ้านหลายเสาหรือไม่
A : “บ้านหลายเสา” เป็นเพียงศูนย์กลางของกลุ่มอำมาตย์ แต่ “อำมาตย์” มันเป็นเครือข่ายที่ใหญ่กว่านั้น ใหญ่จนพูดไม่ได้ พูดเดี๋ยวคุณกับผมก็ไปกินข้าวผัดโอเลี้ยงในคุก
Q : สิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อล้มรัฐบาลใน 6 เดือนได้ รูปแบบจะเป็นการปฏิวัติรัฐประหาร หรือรูปแบบอื่นอย่างตุลาการภิวัฒน์
A : ผมว่าการปฏิวัติเอารถถังมาวิ่งทำได้ลำบาก อย่างน้อยคลื่นมหาชนคนเสื้อแดงมันก็ออกมาต้าน แล้วอย่าลืมนะอย่างในยูโกสลาเวีย นายพลรัตโก มลาดิช แห่งเซอร์เบีย ที่ฆ่า 8 พันกว่าศพที่เมืองเซเบรนิกา ของบอสเนียเฮอร์เซโกวิน่า ตอนนี้ติกคุก ผ่านมา 10 ปีแล้ว คือโลกทั้งโลกมันไม่ได้บอกให้คุณทำอำนาจได้ตามอำเภอใจ เข่นฆ่าคนได้ตามอำเภอใจ เพราะฉะนั้นเวลา 10 ปี...แม้แต่เยอรมัน ฮิตเลอร์กว่า 100 ปี มันยังตามมาติดคุกเลย ที่หลบหนีไป 40-50 ปี คือมันยากที่จะทำแล้วหนีไป
“เพราะฉะนั้นไอ้ที่ง่าย คือใช้กลไกอำนาจของตัวเองที่ไม่ได้เชื่อมโยงรัฐธรรมนูญ เพราะกองทัพก็ไม่ใช่ ไม่ใช่กองทัพของประชาชน มันเป็นกองทัพของคนส่วนน้อย กองทัพของกลุ่มอำมาตย์ จะเรียกกองทัพ หรือกองกำลังติดอาวุธก็ได้ มันไม่ใช่กองทัพของประชาชน เพราะมันไม่เคยคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ แล้วองค์กรอิสระ ศาล ที่เรียก “ตุลาการภิวัฒน์” ก็ใช้ดุลยพินิจอย่างไร้มาตรฐาน ประชาธิปัตย์ทำผิดไม่ยุบพรรค ไอ้พรรคหนึ่งทำกับข้าวก็โดน คือไร้มาตรฐาน องค์กรอิสระเป็นเครื่องมือกลไกของอำนาจของอีกฝ่ายหนึ่ง ตรงนี้โอกาสที่จะใช้สูง แล้วตั้ง แท่นรออยู่แล้วนี่ จะยุบพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่เรื่อง “ทักษิณคิด-เพื่อไทยทำ” จ่ออยู่ในศาลแล้ว เพียงแต่ว่าจะกล้าหรือไม่กล้า คือเงื่อนไขมันรออยู่แล้ว
Q : รูปแบบที่น่าจะเกิดคือการยุบพรรคเพื่อนำไปสู่การล้มรัฐบาล
A : น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะถ้าออกมา (หมายถึงปฏิวัติรัฐประหาร) มันจะบาดเจ็บล้มตายกันเยอะ มันอาจจะคุมไม่อยู่ ผมว่าอำมาตย์เขากลัวนะ กลัวเป็นแบบในอาหรับ คือเหมือนเทวดาปกครองเมือง อย่างลิเบีย กัดดาฟีนอนเต้นท์ ไม่ขอเลื่อนเป็นพันเอก อยู่ลิเบียมา 50-60 ปี จากเทวดา กลายเป็นอสูร เป็นซาตานไป หรือบูมารักของอียิปต์ พวกนี้ทำอะไรทำเพื่อประชาชนนะ ไม่ได้กินกันอย่างมูมมามนะ ออกกฎหมายทำอะไรเพื่อประชาชน จะมีบ้างเผื่อวงศาคณาญาติก็แอบๆ ไม่โจ๋งครึ่มอย่างบ้านเรานะ Q : จะเตือนรัฐบาลให้ทำงานอย่างไรภายใต้สถานการณ์แรงบีบ 6 เดือน และเงื่อนไขยุบพรรคที่จ่อคออยู่ขณะนี้
A : ต้องทำตามนโยบายให้คนอยู่ดี ประชาชนจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก และอย่าให้มีเรื่อง เช่น คอรัปชั่น ซื้อขายตำแหน่งอะไรพวกนั้น เพราะมันไม่มีแบ็ค อีกฝ่ายหนึ่งทำได้ เฮ้ย...มึงทำได้ กูทำมั่ง...ไม่ได้ อีกฝ่ายมันมีแบ็ค มันทำอะไรก็ไม่ผิด เราบอกเราจะเอามั่ง เพราะฉะนั้นต้องควบคุมรัฐมนตรีให้ดี เห็นท่าไม่ดีต้องรีบปลดออก
“อย่างกรณีผมเป็นทหาร ผมอาจจะรู้เรื่องกระทรวงกลาโหม ถามว่ามีผลงานมั๊ย นอกจากเข้าบ้านหลายเสา แล้วเหตุการณ์ใต้ก็รุนแรงขึ้น แล้วใต้ก็บอกว่าของจริงน้อยกว่าครึ่งนะ เกินครึ่งของปลอมนะ อย่างระเบิดคาร์บอม 3 ลูกครั้งสุดท้าย ก็บอกเป็นกลุ่มผลประโยชน์เครือข่ายยาเสพติด เพราะฉะนั้นทำไมรมว.กลาโหมไม่ไปดูเลยว่า ไประดมสมองสิว่าไอ้ที่ทำมาทั้งหมดมันผิด มันไม่ดีขึ้น มีแต่เลวลง ตัวเองมาวุ่นอยู่กับการอยากได้ปลัดฯคนเดียว เพราะการซื้ออาวุธมันจะมาใช่มั๊ย มันน่าเศร้านะ ไอ้อย่างนี้มันต้องปลดทิ้งไวๆเลย มีแต่กะโหลก ไม่มีสมอง”
“ผมยังคิดเลยว่า ของฝ่ายตรงข้ามอะไรที่เขามีส่วนดี น่าจะเอาไว้มาผสมผสานกัน พอเป็นชาตินิยมตีตกหมดเลยไง ประชาชนก็ได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ อย่างยกตัวอย่างชัดๆ เรื่องการจำนำข้าว การจำนำก็เหมือนกับรัฐบาลไปกว้านซื้อ เพราะดีมานด์ข้าวของโลกมันคงที่ หรืออาจะเพิ่มขึ้น แต่เมื่อตัวซับพลาย รัฐบาลไปกักไว้ ซับพลายมันก็น้อยลง สินค้าราคามันก็เพิ่มขึ้น เหมือนรัฐบาลจำนำก็เอาข้าวมาเก็บไว้ ข้าวในตลาดมันเลยน้อยลง ราคามันก็เลยเพิ่มตามกฎดีมานด์-ซับพลาย แต่น้ำท่วมค่อนประเทศ ถามว่าชาวนามีข้าวมาจำนำมาอะไรมั๊ย...มันไม่มี เพราะฉะนั้นมันต้องทั้งจำนำและประกันรายได้ด้วย จำนำก็จำนำไป แต่คนที่ประสบภัยพิบัติประกันรายได้เขาได้มั๊ย นาเขาเคยทำได้ไร่ละกี่ถัง ก็ประกันเป็นเงิน”
Q : อย่างตอนนี้รัฐบาลยิ่งลักาณ์โดนข้อกล่าวหาทำเพื่อคนๆเดียว ทำเพื่อเครือญาติ จะมีผลต่อรัฐบาลอย่างไร และเป็นจริงอย่างที่มีการกล่าวหาหรือไม่
A : ไอ้จริงหรือไม่จริง มันไม่มีใครประกาศมันก็รู้ได้ยาก แต่ถ้าถามในความรู้สึกว่ายังมีบทบาทมั๊ย (หมายถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ผมว่าทั้งประเทศก็คงตอบได้ตรงกัน ปฏิเสธไม่ได้ แต่ถามว่าบทบาทของท่านมันทำความหายนะให้กับประเทศหรือเปล่า...เปล่า มันเป็นประโยชน์กับประเทศ คนทำไมไม่มองท่านทำโน่นทำนี่ ทำแล้วมันดี คนจะอยู่ดีมีสุข แต่ถ้าท่านยังมีบทบาทและทำให้ประเทศลงสู่หุบเหวหายนะอันนั้นค่อยมาว่ากัน แต่อันนี้มันก็เป็นข่าวลึกๆว่ามีการไปสุมหัวกัน โดยเฉพาะรุ่น 12 ที่ไปเลี้ยงรุ่นเลี้ยงอะไร ข่าวมันก็รอดออกมา ตัวที่จะเป็นตัวจักรเนี่ย ก็คือเสธ. ซึ่งเดิม “ดาว์พงษ์” (รัตนสุวรรณ) เป็น โดยที่มาทำหน้าที่เป็นเลขาฯกอ.รมน.ด้วย มันไม่ใช่กองทัพอย่างเดียว มันคืบไปทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ผ่านเครือข่ายกอ.รมน.ด้วย
“ความคิดมีแน่ (หมายถึงปฏิวัติรัฐประหาร) แต่ถามว่ากล้ามั๊ย ไม่เข็ดกันบ้างเหรอ แล้วตัวเองฆ่าคนเพื่อลาภยศ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ ในเมื่อเราเป็นชาวพุทธ ผมเชื่อในกฎแห่งกรรมนะ ผมก็จะเฝ้ามองว่าไอ้พวกนี้จะไม่ตายดี ไม่ว่า “ทรงกิตติ จักกาบาตร์” (ผบ.สส.) ในปี 2552  ที่ไปยิงที่ดินแดง ไม่มีศพเลย มีแต่คนหาย แล้วเขาคิดว่าศพไปโผล่ที่ระยอง แล้วก็เงียบไป แต่ปี 2553 มีทั้งศพ มีทั้งคนหาย แต่ครั้งหน้ามันไม่ง่าย เพราะไอ้คนที่ตาย...ส่วนใหญ่คนที่มาปราบกับคนที่ตายพูดง่ายๆเป็นไพร่เหมือน กัน ทหารที่เอามาปราบ ทหารตัวที่ปฏิบัติการคือทหารระดับล่าง ไอ้ตัวนายคุมบังเหียนอยู่ข้างบน ไอ้ระดับล่างก็ถูกหลอกว่าพวกนี้มันล้มในหลวง มันก็ยิงฉิบหายเลยสิ ไอ้ที่ตาย...ตายจากสไนเปอร์ทั้งนั้น บาดเจ็บ-ตายเกือบ 3 พันคน เท่ากับกระสุนที่จตุพร (พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำเสื้อแดง) บอก กระสุนที่ใช้ไปของสไนเปอร์”
Q : ถ้ายิ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่แตะตำแหน่งในกองทัพ จะการันตีได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
A : ถ้าเป็นผมนะ เอาคดี 91 ศพเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว ไอ้พวกนี้ตกจากอำนาจหมดแหละ เพราะมันเป็นจำเลย คือพ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เป็นพ.ร.ก.เถื่อน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง