บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แฉกลับ"สรรพากร" คลังโวย! เคยให้เก็บภาษี"แม้ว"

จากคุณ กนิษฐ์ นำมาจาก นสพ.แนวหน้าครับ ซึ่งผมตามลิงค์ไปที่แนวหน้า ถ้าไม่บกพร่องที่เครื่องผม ข่าวนี้น่าจะหายไปจาก แนวหน้า เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

แฉกลับ"สรรพากร"
คลังโวย!
เคยให้เก็บภาษี"แม้ว"
มีบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
งง!เบี้ยวกันหน้าตาเฉย
ย้ำทักษิณต้องรับผิดชอบ

นางสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมว่า ที่ผ่านมาได้ลงนามในหนังสือของกระทรวงว่าเห็นชอบตามที่กรมสรรพากร เสนอไม่อุทธรณ์เรียกเก็บภาษีหุ้นจาก นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท เพราะมีคำพิพากษาศาลฎีกา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุไว้ชัดเจนว่าเจ้าของหุ้นตัวจริงเป็นของอดีตนายกรัฐมนตรี

กระนั้นก็ตาม ในท้ายหนังสือของกระทรวง ยังได้ระบุไว้ว่า ให้กรมสรรพากรไปประเมินเรียกเก็บภาษีจากเจ้าของตัวจริง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเห็นควรว่าให้ดำเนินการให้ถึงที่สิ้นสุดโดยให้ศาลภาษีเป็น คนชี้ขาดไม่ใช่กรมสรรพากรรีบออกมาด่วนสรุปว่าอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ต้องเสียภาษี โดยใช้ดุลพินิจว่าอดีตนายกรัฐมนตรีขายหุ้นชินคอร์ปให้กับกองทุน เทมาเส็กในตลาดหลักทรัพย์ทำให้ไม่ต้องเสียภาษี

นางสุภากล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กรมสรรพากรประเมินภาษีจากนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ได้ซื้อหุ้นชินคอร์ปนอกตลาด หลักทรัพย์ในราคาถูกทำให้มีกำไร และมีภาระต้อง เสียภาษี ก่อนที่ทั้งสองคนจะขายหุ้ยชินคอร์ปให้กองทุน เทมาเส็กในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งไม่ต้องเสียภาษี

ดังนั้น เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ระบุว่า การดำเนินการ ของทั้งสองคนเป็นนิติกรรมอำพรางเป็นการทำแทน เจ้าของหุ้นตัวจริง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ซื้อชินคอร์ป จากบริษัท แอมเพิลริช ทำให้มีภาระต้องเสียภาษีเหมือนที่ลูกเคยถูกกรมสรรพากรประเมินต้องเสีย 1.2 หมื่นล้านบาท เช่นกัน

"การที่สรรพากรเหมาว่านิติกรรมอำพรางแล้วการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปในช่วงรอยต่อของบริษัทแอมเพิลริชเป็นโมฆะไม่มีเกิดขึ้นจริงและให้เหลือแค่ช่วงอดีตนายกฯทักษิณขายหุ้นชินคอร์ปให้ กับกองทุนเทมาเส็กเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลให้มีปัญหาทางการเมืองและข้อกฎหมายตามมาอีกมาก" น.ส.สุภา กล่าว

น.ส.สุภากล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีที่กรมสรรพากรตีความว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดทรัพย์ไปแล้วก็ไม่ควรไปเก็บภาษี เพราะจะเป็นการดำเนินการซ้ำซ้อนก็เป็นเรื่องที่ตีความไม่ถูกต้อง เช่นกัน เพราะการยึดทรัพย์เป็นการดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 101 ส่วนการ เก็บภาษีเป็นเรื่องของกฎหมายประมวลรัษฎากร ที่ต้องดำเนินการให้ถูกต้องก่อนที่จะหมดอายุความ

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ออกมายืนยันว่า ไม่ยื่นอุทธรณ์ เก็บภาษีหุ้นจากนายพานทองแท้ และน.ส.พิณทองทา และไม่เก็บภาษีหุ้นจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถือว่า เป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี
รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง