บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ต่อต้านคอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย"


21 องค์กร จับมือจัดสัมมนา " ต่อต้านคอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย"  “ดุสิต นนทะนาคร”  เผยนับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่า คือ คนไทยส่วนใหญ่มอง คอร์รัปชั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา สามารถยอมรับได้
วันที่ 19 พฤษภาคม   ภาคีเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น 21 องค์กร ร่วมกันแถลงข่าวจัดสัมมนา " ต่อต้านคอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย" ใน วันที่ 1 มิถุนายนนี้ ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ โดยมุ่งกระตุ้นจิตสำนึกของคนไทย และระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นให้เกิดผล อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าว ว่า  ประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นสูงในอันดับต้นๆ ของโลก จากดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น ประจำปี 2553 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 78 จาก 178 ประเทศทั่วโลก ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นปัญหาที่หยั่งรากฝังลึกอย่างยาวนานในสังคมไทย ไม่ต่างกับโรคร้ายที่คอยกัดกร่อนและบ่อนทำลายประเทศ ซึ่งนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่เลวร้ายไปกว่านั้น ก็คือ คนไทยส่วนใหญ่กลับมองว่า เรื่องคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคมและสามารถยอมรับได้
นายดุสิต กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ทุจริตคอร์รัปชั่นเลวร้ายมาก มีการจ่ายใต้โต๊ะให้กับผู้มีอำนาจ เพื่อให้ได้งานหรือสิทธิประโยชน์มากถึง 50% เพิ่มจากในอดีตในช่วง 20-30 ปี ที่จ่ายใต้โต๊ะ 2-3% และเพิ่มมากเป็น 30-40%  ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นการปล้นชาติ
“ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันกระตุ้นและจุดประกายให้คนในสังคม ตระหนักว่า การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องร่วมมือร่วมใจ กันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง" นายดุสิต กล่าว และว่า ประเทศฮ่องกง ทำสำเร็จมาแล้ว จากเมื่อก่อนที่ใครๆ ต่างก็มองว่าฮ่องกงเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นสูง แต่ปัจจุบันฮ่องกงได้กลายเป็นประเทศที่มีภาพลักษณ์โปร่งใส และน่าลงทุนอันดับต้นๆ ของโลก ฮ่องกงยังทำได้สำเร็จ ประเทศไทยก็ต้องทำได้เช่นกัน หากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถหยุดการทุจริตคอร์รัปชั่นได้อย่างแน่นอน
ส่วน ดร. ธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงการเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชั่นว่า  ภาคธุรกิจมีส่วนสำคัญอย่างมากในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทย ให้เกิดผลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง สมาคมธนาคารไทยมีแนวทางที่ชัดเจนในการต่อต้านหรือไม่ร่วมมือกับการทุจริต คอร์รัปชั่นในทุกรูปแบบ โดยการเสริมสร้างจริยธรรมหรือจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจให้กับองค์กรสมาชิก ตลอดจนองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งหากทุกองค์กรยึดมั่นในอุดมการณ์เดียวกันนี้และร่วมมือกันปฏิบัติอย่าง จริงจัง เชื่อมั่นว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นจะหมดไปจากประเทศไทยในที่สุด
ด้านนายมังกร ธนสารศิลป์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า  ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นในแทบทุกสังคม มากบ้าง น้อยบ้าง ตามปัจจัยเอื้อและประสิทธิภาพในการป้องกันของภาคส่วนและสังคมนั้น ดังนั้น การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงควรเป็นบทบาทหน้าที่ของประชาชนไทยทุกคน ทุกภาคส่วนที่ต้องร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจในการต่อต้านการคอร์รัปชั่น เพื่อสร้างจุดเปลี่ยนให้กับประเทศ ให้พัฒนาไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และภาคภูมิในสังคมโลก
สำหรับ การสัมมนา  " ต่อต้านคอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย"  จะจัดขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2554 ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ โดยมีนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาและปาฐกถาพิเศษเรื่อง    " ต่อต้านคอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย" นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  กล่าวถึงบทบาทภาคีเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น การนำเสนอกรณีศึกษาและต้นแบบความสำเร็จของการปราบปรามคอร์รัปชั่น จากคณะกรรมการอิสระเพื่อการปราบปรามการคอร์รัปชั่น (Independent Commission Against Corruption หรือ ICAC) เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และการนำเสนอรายงานสถานการณ์คอร์รัปชั่นของประเทศไทย
ส่วนในภาคบ่ายจะเป็นการสัมมนากลุ่มย่อยในหัวข้อ " รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย" ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มพลังภาคเยาวชน การศึกษา และประชาชน  กลุ่มพลังภาคเอกชน กลุ่มพลังภาครัฐ และกลุ่มพลังภาคสื่อมวลชน สภาวิชาชีพ และองค์กรอิสระ  เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในการรวมพลังกันต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชั่นให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างจุดเปลี่ยน สู่การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม ของประเทศไทยอย่างยั่งยืน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง