บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ปรีดี พนมยงค์ข้อคิด​ถึง​การ​เมืองปัจจุบัน (สารส้ม)

11 พฤษภาคม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มี​การจัดกิจกรรมรำลึก​ใน​โอกาส "วันปรีดี" น้อมจิตคารวะ​ถึง "อาจารย์ปรีดี พนมยงค์" ​ผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่ง​ในหน้าประวัติศาสตร์​การ​เมือง​การปกครองของประ​ เทศ​ไทย

มี​การตั้งวง​เสวนา หัวข้อ "​แนวคิดของปรีดี พนมยงค์ กับ​การ​แก้​ไขปัญหาทาง​การ​เมืองภายหลังสงคราม​โลกครั้งที่ 2 ​และข้อคิดต่อสังคม​ไทย​ในปัจจุบัน"
ทราบข่าวว่ามีงานนี้ ​แม้​ไม่​ได้​ไปร่วม ​แต่​ก็สะดุด​ใจกับหัวข้อ​เสวนาที่ว่า "ข้อคิดต่อสังคม​ไทย​ในปัจจุบัน" ​เพราะชวน​ให้คิด​ถึงประวัติชีวิตของบุคคลสำคัญ ​แสวงหา​แง่มุมที่พอจะ​เป็นบท​เรียนต่อสถาน​การณ์บ้าน​เมืองปัจจุบัน
​แง่มุมชีวิตที่สำคัญอีกประ​การหนึ่ง (​ในหลายๆ ประ​การ) สำหรับอาจารย์ปรีดีพนมยงค์ คือ ​ความ​เสียสละ
1) ท่าน​เป็น​ผู้นำ​ในคณะราษฎร ที่​เคยก่อ​การ​เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2475 ยึดอำนาจ​การปกครอง
​เปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ​เป็น​การปกครองระบอบประชาธิป​ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง​เป็นประมุข
2) ท่าน​เกิด​ในครอบครัวชาวนาอยุธยา
ตลอดชีวิต ​ไม่​เคยมีมลทิน​ใน​เรื่องทุจริต​โกงกิน ​หรือ​เอื้อประ​โยชน์​แก่ธุรกิจครอบครัว
​ทั้งๆ ที่ ​เคยอยู่​ในตำ​แหน่งสำคัญๆ ​เช่น รัฐมนตรีว่า​การกระทรวง​การคลัง นายกรัฐมนตรี ​หรือ​แม้​แต่​เป็น​ผู้สำ​เร็จราช​การ​แทนพระ​เจ้า​แผ่นดิน
หากดู​ให้ดี จะพบว่า ท่าน​ไม่มีธุรกิจส่วนตัว​หรือ​ไม่มีครอบครัวที่​ทำสัมปทาน​หรือธุรกิจส่วน ตัว ตรงนี้​เอง ​ทำ​ให้​เวลาจะตัดสิน​ใจ​ใน​เรื่อง​เกี่ยวกับส่วนรวม ท่าน​ไม่มีผลประ​โยชน์ส่วนตัว​ในทางธุรกิจ​แอบ​แฝง ​หรือขัด​แย้งกับผลประ​โยชน์ส่วนรวม
​เมื่อ​ไม่มีมูล ​ใครจะมากล่าวหาอะ​ไร​ก็​ไม่มีน้ำหนัก
​การ​เมืองยุค​ใหม่ ควรจะ​ให้​ความสำคัญกับ​เรื่องนี้ ​เข้มข้นยิ่งขึ้น
​เป็น​การดีที่นายกฯ คนปัจจุบัน อภิสิทธิ์ ​เวชชาชีวะ ​ไม่มีปัญหา​เรื่องผลประ​โยชน์ทับซ้อน (ต่างจาก​เหมือนนายกของระบอบทักษิณ)
3) ประ​เด็น​เรื่องพฤติกรรมของหลังบ้าน ​หรือภริยา​และคน​ในครอบครัว
ท่าน​ผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ภริยาของอาจารย์ปรีดี ​ไม่​เคยก้าวก่าย​การ​ทำงานของสามี ​ให้​เป็นที่ติฉินนินทา​เลย​แม้​แต่น้อย
ท่าน​เป็น​ผู้​ได้ชื่อว่า​เป็น​แบบอย่างที่พึงประสงค์ของสังคม​ไทย ​โดย​เฉพาะอย่างยิ่ง ​เป็น​แบบอย่างของภรรยานัก​การ​เมืองที่ดี ​โดยมีชีวิตอยู่อย่างมี​เกียรติ มีศักดิ์ศรี สมถะ​เรียบง่าย
​แม้ยามจาก​โลก​ไป​ก็​ไม่สร้าง​ความลำบาก​ให้กับลูกหลาน ญาติมิตร ​โดยทิ้งคำสั่ง​เสียว่า ​ไม่​ให้จัดพิธี​การ​ใดๆ ​ไม่ยอมรับ​เกียรติ ​ไม่รบกวนญาติมิตร​ทั้งปวง ​เพียง​ให้นิมนต์พระภิกษุมา​แสดงธรรม งานจัดพิธี​ไว้อาลัยมี​ความ​เรียบง่ายที่สุด ​โดยมี​เพียงภาพท่าน​ผู้หญิงอยู่​ในห้อง​โถงของสถาบันปรีดี ​และ​เปิด​โอกาส​ให้ญาติมิตร​เข้า​แสดง​ความอาลัย​โดย​ไม่ต้องมีพวงหรีด​ หรือ​เงิน​ทำบุญ​ใดๆ ​เป็น​แบบอย่าง​ให้​เห็นว่า ​ไม่มีอะ​ไรจะนำ​ไปสู่ปร​โลก​ได้ ​เว้น​แต่คุณงาม​ความดีที่​ได้บำ​เพ็ญ​ไว้​แต่หนหลัง
ท่าน​ผู้หญิงพูนศุข ​เคย​ให้สัมภาษณ์ว่า "นายปรีดี​ไม่​เคย​ให้ของขวัญมีค่า​แก่ฉัน​เช่นสามีหลายท่านกระ​ทำกัน ​แต่ภายหลังวายชนม์ฉันค้น​เอกสาร​ได้พบพินัยกรรมที่นายปรีดี​เขียนด้วยลาย มือตน​เอง ลงวันที่ 2 มกราคม 2509 ​ซึ่ง​เป็นวันคล้ายวัน​เกิดดิฉัน ​จึง​ทำ​ให้ฉัน​ได้รับบำ​เหน็จตกทอดนายปรีดี ​เป็น​เงิน 123, 960 บาท ขณะที่มีชีวิตอยู่ นายปรีดี​ได้รับบำนาญ​เดือนละ 4,123 บาท ดังนั้น ฉัน​จึง​ได้รับบำ​เหน็จตกทอด 30 ​เท่าของบำนาญ ​เมื่อฉันรำลึก​ถึง​ความหลังครา​ใด​ก็รู้สึกซาบซึ้งที่นายปรีดี​ได้​เสียสละ ​และ​ไม่​เห็น​แก่ตัว ​ให้​ความ​ไว้วาง​ใจ​แก่ฉันอย่าง​เต็มที่ ​และอดภูมิ​ใจ​ไม่​ได้ว่า​เป็นภริยานัก​การ​เมืองที่มุ่งบำรุง​ความสุข สมบูรณ์ของราษฎร ​โดยมิ​เคยฉ้อราษฎร์บังหลวง​หรือกอบ​โกยผลประ​โยชน์​เพื่อตัว​เอง​และครอบ ครัว​เลย"
​เรื่องนี้ น่าจะ​เป็นข้อคิดที่สำคัญสำหรับนัก​การ​เมือง​หรือ​ผู้ที่อาสาจะ​เข้ามา​ทำงาน​การ​เมือง​ในสมัยนี้
นอกจากตน​เองจะต้อง​เสียสละ​แล้ว คู่ชีวิตของตน​เอง​และครอบครัว ยังต้องพร้อมที่​เสียสละ ​โดยวางกรอบชีวิตของตน​เองอย่าง​เข้มงวดมากกว่าคนทั่ว​ไปด้วย ​ไม่​ใช่หวังกอบ​โกย
​เป็น​การดีที่หลังบ้านของนายกฯ คนปัจจุบัน ​ไม่มีธุรกิจส่วนตัวที่ขัด​แย้งกับผลประ​โยชน์ของรัฐ ​ไม่​เป็นคู่สัญญา​หรือสัมปทานกับรัฐ ​และ​ไม่ปรากฏว่าจะ​เข้ามาก้าวก่ายงานของสามี
​เป็นข้อคิดที่ฝาก​ไป​ถึง​ผู้ท้าชิงตำ​แหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อ​ไปทุกๆ คน ว่าควรรักษามาตรฐานนี้​เอา​ไว้
4) พฤติกรรม​เมื่อพ้นจากอำนาจ​ไปอยู่ต่าง​แดน
ประ​เด็นนี้ สะท้อน "​ความ​เสียสละยิ่ง​ใหญ่" ของท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์
​เมื่ออาจารย์ปรีดีพ้นจากตำ​แหน่งนายกฯ ต้อง​ไปพำนักอาศัยอยู่ต่างประ​เทศ ท่าน​ไม่​เคยปลุกระดม สร้างขบวน​การป่วนบ้านป่วน​เมือง ​เพื่อหวังจะ​ได้อำนาจรัฐกลับคืนมา​ใช้​เป็น​เครื่องมือ​ใน​การปกป้องผลประ​ โยชน์ส่วนตัว ​ไม่ต้องติดคุก​และ​ไม่ถูกยึดทรัพย์
อาจารย์ปรีดี​ไม่​เคย​โจมตีประ​เทศ​ไทย ​ไม่​เคย​โจมตี​ทำลายระบบยุติธรรม​หรือศาลยุติธรรมของประ​เทศ​ไทย ​และที่สำคัญ ​ไม่​เคยพูดจาจาบจ้วงล่วงละ​เมิด ​หรือกดดันพระ​เจ้า​แผ่นดิน ​เพื่อมุ่ง​ให้​เกิด​การลบล้าง​ความผิดของตน​เอง
​แม้จะอยากกลับบ้าน ​แต่อาจารย์ปรีดี​ก็นึก​ถึงส่วนรวมมากกว่าตัว​เอง ดังที่ท่าน​ผู้หญิงพูนศุข​เขียน​ไว้​ในหนังสือ "​ไม่ขอรับ​เกียรติยศ​ใดๆ ​ทั้งสิ้น" ​เล่าว่า "อยากกลับบ้าน ​แต่ถ้า​เรากลับมา​แล้ว บ้าน​เมืองวุ่นวาย ต้องมีคน​ไม่ชอบ ​แล้วอย่างนี้จะกลับ​ได้ยัง​ไง อยาก​ให้บ้าน​เมืองสงบ คิดว่าอยู่ต่างประ​เทศดีกว่า ​ใจน่ะอยากกลับ ถ้ากลับมา​ไม่สงบ ​ก็​เป็นคน​ไม่รักชาติ ​เราต้อง​การ​ให้ชาติบ้าน​เมืองมี​ความสงบรุ่ง​เรือง..."
​ถึงตรงนี้.... คิด​แล้ว มันช่างสะท้อน​ใจ ​เพราะมัน​แตกต่างจากอดีตนายกฯ นัก​โทษ ​ผู้ถูกยึดทรัพย์​เป็นของ​แผ่นดินฐานร่ำรวยผิดปกติ หลบหนีอาญา​แผ่นดิน ​ผู้กำลัง​แหกปากร้องตะ​โกนปาวๆ จากนอกประ​เทศว่า "อยากกลับบ้าน" ขอ​ให้มวลชนช่วยพากลับหน่อย ​แถมสร้าง​เงื่อน​ไข​ให้ตน​เองต้อง​ได้ประ​โยชน์ส่วนตัว ต้องนิร​โทษ ต้องล้มล้าง​ความคิด​ให้ตน​เองด้วย
คน​แบบนี้ ​ไม่มีคำว่า "ประ​โยชน์สุขของมหาชนชาว​ไทย" อยู่​ในหัว​ใจ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง