บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กางระเบียบบัวแก้ว หาคำตอบคืน “พาสปอร์ต”ให้ทักษิณได้หรือไม่?


โดย ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์




ยังไม่ทันที่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ 1”จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็มีรายงานข่าวตามสื่อมวลชนว่ากรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ มีคำสั่งภายในให้มีการหยิบยกกรณีการคืนหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต คืนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาพิจารณาถึงความเป็นไปได้และศึกษาช่องทางทางกฎหมายในการดำเนินการดังกล่าวเนื่องจากมีแนวโน้มที่รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่(นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล) จะให้มีการดำเนินการเรื่องนี้
ในข่าวระบุด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้เพิกถอนพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีผลตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2552 โดยเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 การยกเลิกหนังสือเดินทาง ข้อ 23 (7) ซึ่งระบุว่า สามารถยกเลิกและเรียกคืนหนังสือเดินทางได้ โดยมีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศในขณะนั้นเป็นผู้ลงนาม
การยกเลิกพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อ้างเหตุผลที่ว่า รัฐบาลสามารถยกเลิก หรือถอนหนังสือเดินทางสำหรับบุคคลที่ทำความเสียหายให้กับประเทศได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยา จ.ชลบุรี (กลุ่มเสื้อแดงบุกเข้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช จนต้องยกเลิกการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา) เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลตัดสินใจถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ข่าวระบุด้วยว่า  การเพิกถอนพาสปอร์ตในครั้งนั้น ไม่ได้กระทบกับความเป็นสัญชาติไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะทำให้เดินทางไปประเทศที่สามด้วยหนังสือเดินทางไทยไม่ได้ เว้นแต่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้เท่านั้น ด้วยการไปขอให้สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยในประเทศนั้นๆ ออกเอกสารเดินทางชั่วคราวให้( ข่าวกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 11 สิงหาคม 2554)
แน่นอนว่า ถ้าข่าวดังกล่าว เป็นจริง ย่อมไม่เป็นผลดีกับรัฐบาลเพราะสวนทางกับคำแถลงของน.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งว่า จะไม่ทำงานเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
อย่างไรก็ตามเพื่อหาคำตอบว่า การคืนพาสปอร์ตให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณทำได้หรือไม่ ต้องมาดูว่า การยกเลิกพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยช่องทางหรือระเบียบกฎหมายใด
ในการออกหรือเพิกถอนหนังสือเดินทาง กระทรวงการต่างประเทศอาศัยฐานจากระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548โดยอาศัยอำนาจตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2545 เท่านั้น
มิได้เป็นการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติแต่อย่างใด
ทั้งนี้ตามระเบียบดังกล่าว ในฐานะนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณมีสิทธิที่จะได้หนังสือเดินทางทูต(ระเบียบข้อ 6 (5)) และในฐานะประชาชนก็มีสิทธิที่จะได้หนังสือเดินทางของบุคคลทั่วไป(พาสปอร์ตแดง-ระเบียบข้อ 13)
อย่างไรก็ตามระเบียบดังกล่าวให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถยกเลิกและเรียกคืนหนังสือเดินทางได้(ระเบียบข้อ 23) พนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อปรากฏภายหลังว่า
(1) ผู้ถือหนังสือเดินทางเป็นผู้ซึ่งขาดคุณสมบัติที่จะขอหนังสือเดินทางประเภทนั้น
(2) ผู้ถือหนังสือเดินทางเป็นบุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจออกหนังสือเดินทางให้ดังกรณีต่อไปนี้
หนึ่ง เมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรจะออกหนังสือเดินทางให้
สอง เมื่อผู้ร้องเป็นผู้ที่ศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายอื่นสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
สาม เมื่อผู้ร้องกระทำผิดกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติทางราชการ ซึ่งขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือปิดบังความจริงอันเป็นสาระสำคัญ หรือแสดงเอกสารหลักฐาน
(3) มีเหตุอันเชื่อได้ว่า ผู้ถือหนังสือเดินทางได้หนังสือเดินทางนั้นมาโดยมิชอบ
(4) หนังสือเดินทางนั้นได้มีการแจ้งว่าสูญหายต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุแล้ว หรือ
ผู้ถือได้ร้องขอให้ยกเลิกเพื่อขอหนังสือเดินทางชนิดเดียวกันเล่มใหม่
(5) หนังสือเดินทางนั้นอยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้ถือหนังสือเดินทาง
โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(6) ทางราชการได้ทดรองจ่ายเงินช่วยเหลือส่งตัวผู้ถือหนังสือเดินทางกลับประเทศไทยและ
ผู้ถือได้ทำสัญญากับทางราชการว่า จะชดใช้เงินจำนวนที่ทางราชการได้ทดรองจ่ายไปคืนให้ทางราชการ แต่ผู้ถือยังไม่ได้ชดใช้เงินคืนให้แก่ทางราชการจนครบตามเงื่อนไขในสัญญา
(7) พิจารณาเห็นว่า หากให้ผู้ถือหนังสือเดินทางยังคงอยู่ในต่างประเทศต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศได้
จากระเบียบดังกล่าวเห็นได้ว่า  เงื่อนไขในการเพิกถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณมีด้วยกันหลายประการ อาทิ
-เมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้วซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณมีหมายจับในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปีในคดีซื้อที่ดินที่ดินถนนรัชดาภิเษกจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และหมายจับอีกหลายคดี เช่น คดีการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าให้แก่รัฐบาลพม่า 4,000 ล้านบาท
-อยู่ในต่างประเทศต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศได้
แม้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อาจเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มิได้ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีหมายจับในคดีอาญาอีกหลายคดีและเป็นคดีที่ถึงที่สุดแล้ว
ดังนั้น ถ้าจะมีการคืนหนังสือเดินทางให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณจริง จะพตอบคำถามเรื่องนี้แก่สาธารณชนอย่างไร

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง